หนึ่งบทวิเคราะห์ของผมสำหรับรองชนะเลิศอันดับ 2 เดอะสตาร์ 7 แอมป์ สิริพงศ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล
|
|
บทวิเคราะห์สำหรับรองชนะเลิศอันดับ 2 ของเวทีเดอะสตาร์ 7 ขอบพระคุณอาจารย์ที่อุตส่าห์สละเวลาเขียนบทวิเคราะห์ดีๆนี้มาให้ได้อ่านกันค่ะ ผู้เขียน ล๊อกอิน buenos รับราชการและเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นรุ่นพี่ของแอมป์ที่มีอาจารย์สอนคนเดียวกัน ที่จุฬาฯ ค่ะhttp://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C10486171/C10486171.html *ไม่ต้องให้กีฟจขกท.นะคะ ขออนุญาตอาจารย์มาอีกทีค่ะ เชิญที่ลิงค์ข้างบนได้เลยค่ะ บทความดังกล่าวเขียนขึ้นเพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองของผู้เขียน โดยอาศัยข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิเท่าที่ผู้เขียนจะสามารถสืบค้นได้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ตลอดจนหากงานเขียนดังกล่าวก่อให้เกิดซึ่งความชอบ ไม่ชอบ หรือไม่ต้องจริตใดๆกับผู้อ่าน ผู้เขียนขอน้อมรับข้อคิดเห็นตลอดจนคำวิพากษ์วิจารณ์ไว้ในทุกกรณีครับ
บทนำ
ผู้เขียนติดตามรายการในลักษณะดังกล่าวหลายๆรายการ ทั้งรายการของไทย รายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ตลอดจนรายการของต่างประเทศ ค่อนข้างบ่อยครั้งตราบเท่าที่เวลาเอื้ออำนวย
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนพิจารณานอกเหนือจากความสามารถของผู้เข้าแข่งขันตามหัวข้อการแข่งขันหลักของรายการแล้ว ก็คือความน่าสนใจของผู้เข้าแข่งขัน ทั้งในเชิงบุคลิกลักษณะตลอดจนความสามารถ โดยในแต่ละฤดูกาลการแข่งขัน ผู้เขียนจะเลือกผู้แข่งขันขึ้นมาหนึ่งคน เพื่อพิจารณาและวิเคราะห์ในแง่มุมมต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดการแข่งขันตามแต่ลำดับที่ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นๆ ได้รับครับ
สำหรับในการแข่งขันเดอะสตาร์ 7 ในปีนี้ก็เช่นกัน ผมตัดสินใจที่จะลองพิจารณาผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คน โดยเลือก 1 คนเพื่อมาประกอบการวิเคราะห์
ซึ่งยอมรับว่าการเลือกครั้งนี้มีความยากพอสมควร หลังจากที่ไม่ได้ดูรายการนี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 2 ปี ตอนเดอะสตาร์ 5 ถ้าดูนี่สงสัยรัฐบาลเจ้าของทุนคงส่งตัวกลับ ส่วนเดอะสตาร์ 6 ก็ดูแบบผ่านๆ เพราะเป็นช่วงที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยใหม่ๆครับ
ในตอนแรกที่เริ่มดูจริงๆ ก็คือรอบ 20 คนสุดท้าย ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันที่ผมสนใจอยู่ 2 คน เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ระหว่างที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้น ผมก็เห็นข้อความของเพื่อนใน facebook ซึ่งเคยนำหน้าที่ในฐานะพิธีกรของวงดนตรีวงนี้ประชาสัมพันธ์ไว้สั้นๆว่า ขอให้ช่วยเชียร์รุ่นน้องในชมรมดนตรีสากลสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CU Band ซึ่งเข้ารอบสุดท้ายเป็น 1 ใน 8 คนด้วย
ถ้าเรียนตามตรงก็ต้องบอกว่าตอนนั้น การวิเคราะห์ของผมคงเป็นไปเพราะฉันทาคติ หรือไม่ก็เป็นเพราะความเป็น น้ำใจน้องพี่สีชมพู ก็เท่านั้นเองครับ
และนี่จึงเป็นที่มาของบทวิเคราะห์ผู้เข้าแข่งขันเดอะสตาร์ 7 หมายเลข 5 ที่ชื่อ แอมป์ สิริพงศ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล ผมเห็นแอมป์จากจอโทรทัศน์ของรายการเดอะสตาร์ 7 เป็นครั้งแรกก็จากการร้องเพลงในรอบคัดเลือก 20 คนสุดท้าย
ทั้งนี้ เนื่องจากแอร์ไทม์ที่แสนสั้นในรอบคัดเลือกระดับภาคเพียง 45 วินาที จนต้องกลับไปนั่งดูย้อนหลัง ทั้งในเพลง Im in love และเพลงขอจันทร์ซึ่งผมว่าแอมป์เลือกเพลงมาได้ค่อนข้างดี เพราะเป็นเพลงที่สามารถแสดงถึงศักยภาพและอัตลักษณ์ของแอมป์ได้อย่างชัดเจน
แต่ที่ผมชอบมากกว่าก็คือเพลงคำตอบของหัวใจซึ่งถูกนำมาให้รับชมกันอีกครั้งในช่วงรายการพิเศษ 3 คนสุดท้าย ซึ่งทั้ง 3 เพลงข้างต้น ทำให้ยิ่งเห็นเสน่ห์และความเป็นตัวตนของผู้เข้าแข่งขันคนนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ผมตัดสินใจเลือกแอมป์เป็น 1 ใน 2 คนที่อยู่ในข่ายการวิเคราะห์ก็เพราะการร้องเพลงในรอบ 20 คนสุดท้าย ในเพลงตอบได้ไหมว่า.. ได้ไหม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแอมป์ในเดอะสตาร์ 7
น่าแปลกใจที่ผมจะจำได้ว่าแอมป์เคยเข้ารอบ semi-final จากการเห็นเขาครั้งแรกในปีนี้ แล้วก็จำได้ว่า ปีที่แล้วเขาร้องเพลงแลกทั้งใจแค่ได้รักเธอซึ่งร้องได้เพราะมาก แต่ก็เห็นด้วยกับกรรมการทั้งสามท่านว่า ร้องดีแต่จืด หรือจะบอกว่าองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งมิใช่การร้องยังดูไม่ลงตัวหรือเข้าที่เข้าทางเท่าไรนัก
เหตุการณ์ดังกล่าวดูจะต่างจากรอบคัดเลือกในปีนี้พอสมควร มาปีนี้ ผมวว่าเสียงร้องของแอมป์ยังดีเหมือนเดิม และดูเหมือนจะเพิ่มลูกเล่นในการร้องให้สอดคล้องกับเพลงที่ต้องทำให้มีสีสันอย่างตอบได้ไหมว่า..ได้ไหม ทำให้องค์ประกอบของโชว์และเสน่ห์ของแอมป์ดูไม่จืดชืดเหมือนในปีที่ผ่านมา
สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันขึ้นไปอีกว่าผมเลือกคนในการวิเคราะห์ไม่น่าจะผิดพลาดก็คือในช่วงวิดีทัศน์แนะนำตัวราว 2 นาทีเศษ ซึ่งเป็นสองนาทีที่มีคุณค่าเหมือนกับเพลงแสนล้านนทีที่แอมป์เลือกขึ้นมาร้องเป็นเพลงเปิดตัว
2 นาทีสั้นๆ แต่ทำให้ผมรวมทั้งใครหลายๆคนเลือกที่จะเชียร์แอมป์ก็เพราะวิธีการตอบโจทย์ว่าทำไมถึงเลือกมาประกวดเดอะสตาร์ ด้วยประโยคสั้นๆ แต่กินใจว่า ถ้าชีวิตของเกิดมา มันเกิดเพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ตัวเองอยากทำ ก็ไม่รู้จะเกิดมาทำไม ............ ผมตั้งใจมาก ที่จะเป็นนักร้อง
เพียงแค่คำพูดสั้นๆ ประโยคนั้นทำให้ผมต้องละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่มานั่งชมโทรทัศน์ เหมิอนกับตอนที่ผมเองละสายตาจากหนังสือสอบมานั่งดูป้าซูซาน บอยล์คนบ้านเดียวกันกับผม ร้องเพลง I dreamed a dream ในรายการ Britains Got Talent
สาเหตุหลักๆ คงเป็นเพราะผมชอบวิธีการตอบคำถามเช่นนี้ แอมป์อาจจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ตะกุกตะกัก พร้อมกับเว้นจังหวะวรรคตอนและช่องไฟแปลกๆ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือแววตาและท่าทางแห่งความมุ่งมั่นของเขา
ผมเองเคยผ่านการเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์งาน สัมภาษณ์เข้าเรียน หรือสัมภาษณ์ทุน ตลอดจนเป็นผู้สัมภาษณ์เองมาก็หลายครั้ง นี่คือคำถามที่ผมมักจะถามเสมอๆ กับผู้ถูกสัมภาษณ์ และคำตอบที่ผมคาดหวังก็คือคำตอบแบบแอมป์
คำตอบที่สะท้อนทักษะและความสามารถ ตลอดจนจุดเด่นในตัวผู้ถูกสัมภาษณ์ ควบคู่ไปกับทัศนคติเชิงบวกที่พร้อมเปิดรับ ผมต้องการคำตอบที่ว่าผู้เข้าแข่งขัน ดีพอ หรือ คู่ควร อย่างไรกับการแข่งขันในตำแหน่งดังกล่าว มากกว่าคำตอบในเชิงเห็นอกเห็นใจ ซึ่งมิได้สะท้อนอะไรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโจทย์ที่ผมกำลังถามอยู่ครับ
นอกหนือจากบทเพลงแสนล้านาทีในวีดิทัศน์แนะนำตัวแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนจะเห็นก็คือความพยายามที่มีมาอย่างตลอดต่อเนื่องตลอด 3 ปีของแอมป์ ความพยายามที่จะไปให้ถึงและรับผิดชอบกับความฝันนั้น เหมือนกับที่เพื่อนของเขาในวงซึ่งเป็นนักง่าฝันเคยพูดถึงไว้ในอีกรายการหนึ่ง
ซึ่งถ้าเป็นใครหลายๆคนคงถอดใจตั้งแต่ครั้งแรกๆ แล้ว แต่ 3 ปีกับ 6 เวที และบางเวทีความฝันก็อยู่แค่เอื้อม แต่แอมป์ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จแม้เพียงครั้งเดียว แต่แทนที่แอมป์จะถอย แอมป์ก็กลับเลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง
เวลาพูดถึงแอมป์ในเรื่องนี้ทีไรผมมักจะถึงกลอน Grook ของกวีและนักคิดชื่อดังชาวเดนมาร์กที่ชื่อ Piet Hein ที่ว่า
When you feel how depressingly slowly you climb, it's well to remember that Things Take Time
เพราะแอมป์เนคนที่ใช้เวลายาวนานจริง กว่าจะได้ทำตามสิ่งที่ตนฝัน และนี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญอีกประการที่ผมเลือกที่อยากจะเห็นส้นทางการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันคนนี้เพราะมีอะไรที่น่าสนใจเกินกว่าที่ผมคาดไว้พอสมควรครับ
เมื่อเริ่มต้นที่จะเลือกวิเคราะห์ผู้เข้าแข่งขันรายนี้ ผมเองก็เริ่มจะหวั่นใจว่า ผมคงจะได้นั่งดูพฤติกรรมและพัฒนาการในเพียงไม่กี่สัปดาห์แรก เพราะด้วยกระแสที่แผ่วเบา เวลาแอร์ไทม์ต่างๆ ที่น้อยกว่าคนอื่นๆมาก แต่ผมก็ยังคิดว่าผมเลือกคนไม่ผิด
สิ่งที่ตอกย้ำความเชื่อสำคัญของผมนี้ก็คือ วันที่ผมกลับไปทำธุระที่มหาวิทยาลัย แล้วได้ไปพบกับอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก เราทักทายสารทุกข์สุขดิบกันพอสมควร ก่อนที่อาจารย์จะวกเข้ามาที่ประโยคสุดท้ายก่อนการจบการสนทนาว่า อาจารย์ฝากโหวตแอมป์ เดอะสตาร์ปีนี้ด้วย
ผมเองออกจะอยู่ในอาการงงมากกว่า เพราะอาจารย์คงไม่คิดว่าผมจะชมรายการประเภทนี้ และผมเองก็ไม่คิดว่าอาจารย์จะชมรายการประเภทนี้เช่นกัน อาจารย์ท่านนั้นทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า อาจารย์เชื่อว่าแอมป์มีความเหมาะสมกับการเป็นเดอะสตาร์ เพราะแอมป์เป็นคนที่ เก่งและดีมากๆคนหนึ่งในสายตาอาจารย์ครับ
จำได้ว่าเวลานั้น หลักกาลามสูตรอะไรๆ ก็พับเก็บเอาไว้ก่อน เพราะผมเชื่อมั่นในอาจารย์ของผม และเชื่อว่าทั้งผมและอาจารย์ต่างก็มองผู้เข้าแข่งขันคนนี้ไม่ผิดเช่นกัน จากคุณ | : buenos | เขียนเมื่อ | : 25 เม.ย. 54 16:30:36 | ถูกใจ | : ด.ญ.ปราง, rammessist, ซีอิ้วเห็ดหอม, coolcat, baboa_tu, papa_2712, rereal, athun, one-vote, ordi_BIZIO, Kacho, I'am_Dizzy, SEC-TWO, b39kew, จิ้มเปรี้ยว, pen จุ๊บ จุ๊บ, AuntiAmp, สีรุ้งทอแสงสดใส, do not cross the line, stories of MOD, Purposesz, KopGirly, Musiclism, ตัวกินขนม, billabuzz, หมอดาริน, P.TOY, ไอศรีมรสรัมเรซิ่น, MOMREMOTE, card_card, นางในฮาเร็ม, TnIM ~ YOB, kazuya_kik, บิ๊กพี, อโหสิกรรม, กระดาษสีรุ้ง16, LaserWand, UiiJung, ladonna, เป็นที่ยินดีดุจพระอาทิตย์, numay_chonsa, ปิงปอง@CM, Startust'53, madelene, sannming, ขอเอี่ยวด้วยคนน่ะ, นู๋ลูกหมีผิวขาวตัวอ้วน, ส้มชมพู, หัวใจห้องบนขวา, Aggregate Demand, thernantan, ok_1401_AF, Porphyrin, ลูกปัดคลุกแป้งฝุ่น, มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า, MisterBaow, SirPumpkin, ข้าวเหนียวตัด, Cho2Cho, ซาลาเปาไส้เป็ด, BuBeeBa, aor_tm |
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 20:43:18
จากคุณ |
:
Kacho
|
เขียนเมื่อ |
:
28 เม.ย. 54 20:31:28
|
|
|
|