คลิปนี้ ผมพึ่งตัดเสร็จ ครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ คนสงสัยกันมาก ว่า ไมร่า เก่งจริงหรือ มี ใช่ talent รึเปล่า ร้องดีแค่ไหน ก็ เลยเอามาเทียบกันครับ ก็ตัดสินกันเอาเองว่าไกล้เคียงต้นฉบับ ระดับโลกหรือไม่ มีสอง แบบนะครับ แบบ เทียบ ช๊อต ต่อ ช๊อต เชื่อมกัน กับแบบ ท่อนยาว ๆ เพลงนี้ น้องใช้ร้องตอน คัดครั้งแรกเกือบเต็มเพลง แต่ไม่ค่อยดีเท่าที่ ควร รอบไฟนอล ร้องดีกว่าเยอะเลย รอบสองเพลงอาไรไม่รู้จักแหะ กับเพลงดาว รอบไฟนอล ร้องเพลงนี้ครึ่งเพลง กับอีก think of me
--------------------------
คุณนักเดินทาง เอากระทู้ผมไปแปะใน เฉลิมไทย โอ๊ว คนที่เฉลิมไทย เขาอยากได้ คิดบวกสิป ป์ เหมือนผมที่เดาว่าคิดบวกสิบได้แน่ ๆ ในตอนแรก เพราะไม่คิดว่า จะมีใคร โหวตกันเยอะ จนขนาดได้แชมป์ แต่ มันก็เกิดขึ้นแล้ว จริง ๆ ผมเองก็แปลกใจมาก ๆ
ไปได้ ความเห็นนี้มา ขอยกมาไว้ในกระทู้นี้ให้ทุกท่านได้ พิจรณาด้วยวิจารณญานครับ
----------------------------------------------
งานนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เวิคร์พ้อทและยูนิลิเวอร์ตั้งใจ คนจัดไม่ได้อยากให้ไมร่าชนะ 3 ทีมสุดท้ายที่ถูกวางไว้ คือ เบลล์ คิด+สิปป์ และ สมศักดิ์ และอะไรที่ทำให้ไมร่าเข้ามา? เพราะไมร่าคะแนนโหวตจาก sms สูงมากจริงๆ มีคนที่เชียร์ไมร่า (เราคงพอทราบๆ ว่าใคร) เป็นคนทุ่มโหวต งานนี้ TGT น้ำท่วมปาก จะตัดไมร่าก็ไม่ได้ เพราะคนที่โหวตมั่นใจว่าโหวตเยอะ ซึ่งก็เยอะจริงๆ คนโหวตเตรียมโวยแน่นอนถ้าไมร่าไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่ไมร่าได้
ไมร่าไม่ใช่หมากที่ถูกวางไว้ แต่เพราะช่องโหว่ของการโหวตต่างหาก ที่ทำให้ไมร่าได้
ไมร่าได้รางวัลจากการโหวตตามกติกา แต่ค้านสายตาคนทั้งประเทศ แน่นอน เพราะ TGT ไม่ได้กรุยทาง หรือสร้างกระแสไว้ เพราะไม่ได้ตั้งใจเอาเข้ามาอยู่แล้ว
ถ้าจะเลือกพรีเซนต์เตอร์ คงเลือกคนในกระแส อย่างเบลล์ สมศักดิ์ หรือ คิดบวกสิปป์ และคงไม่ใช่แค่ซันซิล อย่าลืมว่ารายการนี้สปอนเซอร์หลักคือ Uniliver ที่มีสินค้ามากมาย ไม่ได้มีแค่แชมพูที่ต้องหาคนผมยาวเท่านั้น
ดิฉันขอเขียนไว้เท่าที่พูดได้แค่นี้ค่ะ
จากคุณ : หมอกสีรุ้ง
------------------------------------------------
อันแรก แบบ ช๊อต ต่อเชื่อมกันนะครับ แบบ มิกซ์
เพิ่มเติมเนื้อเพลง ครับ จะได้เห็นกันว่า น้องไมร่า ร้องถูกต้องไหม ภาษาอิตตาลี่นะครับ น้องไมร่า ร้อง คีย์เดียวกับซาร่าห์ ครับ ไม่ได้ลดต่ำ เพื่อป้องกันเสียงสูงไม่ถึง ผมไม่ได้จะเอาไปตีเสอม เทียบเท่าเจ้าของเพลงนะครับ ที่จริงมันมีที่มาที่ว่า มีคลิป ๆ หนึ่ง ที่ ญาติผู้ใหญ่ของน้องคนนี้ เอาคลิปของซาร่ากับเสียงของ ไมร่ามาเชื่อมกันแล้ว มันกลืนกันจนเกือบแยกไม่ออกถ้าไม่บอก ว่า คนร้องเป็นใครต่างกันยังไง ผมเลยจับมาทำเองใหม่ ใช้อันที่น้องขึ้นเวทีนี้ แล้วทำไมทำไม มันก็ได้ผลอย่างที่เห็นครับ ผมเองยังอดประหลาดใจไม่ได้หว่า ทำไมมัน กลมกลืน ขนาดนี้เลย หลังจากทำคลิปเสร็จ
---
สำหรับ คห ที่ 100
ผมเพียงแต่จะเทียบให้คนเห็นว่า น้องร้องเพลงของใคร ต้นฉบับเป็นยังไง
ตัวน้องทำได้ดีแค่ไหน ส่วนตัวผมคิดว่า ดีไกล้เคียงในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ถึงขั้น
ถ้าผมไม่เทียบกับเจ้าของเพลงให้ดู แล้ว คนส่วนใหญ่จะรู้ไหมครับ ว่า น้องร้องเพลงอะไร ของใคร ต้นฉบับเป็นยังไง ร้องดีแค่ไหน เพราะ ผมเองก็ไม่เคยรู้จัก เพลงนี้มาก่อนเลยเช่นกัน มีกีีคนที่จะรู้ แม้แต่ภาษาในเพลง มันก็เป็น ภาษาอิตาลี่ ไม่ใช่ การโหยหวนเรื่อยเปื่อย ไม่มีที่มาที่ไป
-----------------------
ตอบ คห 176 คุณ Lazarn
มีหลายประเด็นนะคะ อาจจะยาวหน่อย เดี๋ยวจะพูดเป็นประเด็นๆไปค่ะ ส่วนคลิปต่างๆที่จะนำมาอ้างอิงข้อมูลนั้นขออนุญาตโพสต์เป็นลิ้งค์นะคะ จะได้ไม่เปลืองเนื่อที่กระทู้ค่ะ
ประเด็นแรก ความสำคัญของอายุกับการร้องแนวคลาสสิคโอเปร่า
คุณบอกว่า "เด็กนักเรียนไทย สาขาขับร้องสากลประเภทนี้ หลายๆคน ทำได้ดีกว่าเธอเยอะ (แต่ไม่มีโอกาส) แม้จะอายุมากกว่าไมร่า สี่ห้าปี เช่นอายุสิบเจ็ดสิบแปด"
ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่าการร้องเพลงโดยเฉพาัะแนวคลาสสิคไม่เหมือนกับการเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น เครื่องดนตรีอย่างเปียโนหรือไวโอลินสามารถให้เด็กเล็กๆฝึกตั้งแต่ 2-3 ขวบได้ จะเล่นผิดวิธีจนเปียโนพังไวโอลินหักก็ซื้อใหม่ได้ ดังนั้นการจะขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กอัจฉริยะทางเปียโนไวโอลินหรือเครื่องดนตรีอีกหลายๆอย่าง เด็กคนนั้นต้องทำให้ได้มาตรฐานผู้ใหญ่ แต่สำหรับการร้องเพลงไม่ใช่ค่ะ เสียงคนเราเกิดจากกล่องเสียงและเส้นเสียงซึ่งเป็นกล้ามเนื้อชนิดนึง ก็เหมือนกับกล้ามเนื้ออื่นๆในร่างกายคนเราที่กล้ามเนื้อเด็กไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ ธรรมชาติกล่องเสียงเด็กจะยังไม่แข็งแรงทำให้เสียงเด็กจะมีข้อจำกัดมากกว่าผู้ใหญ่เช่นเร้นจ์เสียงไม่กว้างเท่า พลังเสียงไม่มากเท่า วิธีเดียวที่จะทำให้เด็กร้องออกมาให้เสียงเหมือนและมีพลังแบบเดียวกับผู้ใหญ่คือต้องตะเบ็งหรือไม่ก็ดัดเสียงเวลาร้อง ซึ่งอันตรายมาก คนเราถ้าเส้นเสียงหรือกล่องเสียงเสียไปแล้วไม่สามารถซื้อใหม่ได้อย่างเครื่องดนตรีอื่นๆ นี่คือสาเหตุว่าทำไมถึงไม่มีการให้เด็กร้องเพลงโอเปร่า ลองสังเกตุดู มีโอเปร่าเรื่องไหนบ้างที่มีบทเด็กร้อง อย่างมากก็มีแค่ให้เป็นตัวประกอบร้องสองสามประโยคหรือร้องเป็นคอรัสหรือหมู่คณะ และเพลงส่วนในท่อนที่ให้เด็กร้องผู้แต่งก็มักจะแต่งออกมาให้เอื้ออำนวยต่อเสียงเด็ก เช่นไม่สูงไม่ต่ำเกินไป ดนตรีประกอบไม่ดังเกินไป (จะได้ไม่ต้องตะเบ็ง) โดยธรรมชาติกว่าเส้นเสียงของคนเราจะโตพอเริ่มเรียนร้องโอเปร่าได้ก็ต้องอายุ 17-18 ขึ้นไป นี่คือสาเหตุว่าทำไมเด็กไทยเยอะที่คุณยกมาอ้างว่าร้องโอเปร่าได้นั้นถึงมีอายุมากกว่าไมร่าสี่ห้าปีกันหมด เพราะอายุเด็กพวกนั้นถึงจุดที่ธรรมชาติเสียงโตพอจะเริ่มร้องได้แล้วนั่นเอง แต่ไมร่าสามารถร้องแนวนี้ได้ตั้งแต่อายุ 10 ปี ไปเปิดดูได้จากคลิปเก่าๆของเธอในยูทูป มันจึงเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์หรือจะเรียกว่าผิดธรรมชาติก็ยังได้
ประเด็นทีสอง ไมร่ามีทาเลนท์หรือไม่ ผู้รู้จริงๆคิดว่าไมร่ได้มาตรฐานหรือไม่
คุณบอกว่า "เธอไม่ทาเลนท์ เธอยังไม่ได้มาตรฐานจริงๆ ต้องฝึก รื้อลักษณะการร้องอยู่ออก อย่างสุดๆ คนอืนๆ เช่นคุณธีรนัย ณ หนองคาย ทำได้ดี โกอินเตอร์ได้"
ประโยคนี้ของคุณมันจะขัดแย้งกันเองอยู่มากนะคะ คุณบอกว่าไมร่าร้องผิดวิธี ต้องรื้อเทคนิคใหม่ อย่างสุดๆด้วย ในขณะเดียวกันคุณบอกว่าคุณ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย ร้องดี โกอินเตอร์ได้ คุณรู้มั๊ยคะว่าน้องไมร่าเธอเป็นลูกศิษย์ของคุณธีรนัยน์ ข้อมูลจากแฟนเพจและคนใกล้ชิดของน้องไมร่ายืนยันว่าตลอดการแข่งขันนี้คุณธีรนัยน์เป็นคนติวเพลงให้น้องทุกรอบค่ะ เทคนิคที่ไมร่าใช้ก็คือเทคนิคเดียวกับคุณธีรนัยน์นั่นเอง และไมร่าก็ใช้เทคนิคนั้นได้ดีถึงขนาดคุณธีรนัยน์ชมว่าไม่ร่า "มีทาเลนท์มาก" (หลักฐานดูได้จากภาพอ้างอิงด้านล่างค่ะ) ดังนั้นถ้าคุณเห็นว่าเทคนิคไมร่าผิดจนถึงขั้นต้องรื้อใหม่หมด แล้วทำไมคุณถึงว่าคุณธีรนัยน์ร้องดี ในเมื่อมันเป็นเทคนิคเดียวกัน ???
คุณบอกอีกว่า "ถามนักดนตรีมืออาชีพ สาขาคนตรีคลาสสิคซี่ จะมีใครยอมรับ กล้าเอาผลงานเธอไปเปิดโชว์ต่างชาติไหม คนดูที่เค้าฟังเพลงพวกนี้มากๆ เค้าเลยรู้ว่าความสามารถเธอยังไม่ถึง" คุณรู้จักอาจารย์สมเถา สุจริตกุลมั๊ยคะ ถ้าไม่ก็ลองเปิดลิ้งค์ด้านล่างไปอ่านประวัติดู แต่คร่าวๆก็คือคุณสมเถานักแต่งเพลงคลาสสิคและโอเปร่า วาทยากร ชื่อดังและเป็นผู้ก่อตั้งและอำนวยการคณะ Bangkok Opera คุณสมเถานี่ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโอเปร่ามากที่สุดในเมืองไทยแล้ว ได้ผ่านการฟังและกำกับนักร้องโอเปร่าทั้งไทยและเทศมานักต่อนัก ลำพังคุณสมเถาคงเคยฟังโอเปร่ามามากว่าคนไทยทั้งประเทศรวมกันเสียอีก เพราะฉะนั้นคุณสมเถาก็น่าจะเข้าข่าย "นักดนตรีมืออาชีพสาขาดนตรีคลาสสิคและเคยฟังเพลงพวกนี้มามากๆๆๆๆๆ" คุณสมเถาได้เอาคลิปของน้องไปแปะไว้ที่หน้าเฟซบุคตัวเอง ซึ่งมีฝรั่งเข้ามาดูเยอะมาก และคุณสมเถาเรียกน้องไมร่าว่าอะไรรู้มั๊ยคะ เรียกว่า "Opera Siam's youngest prodigy" แปลได้ว่า อัจฉริยะอายุน้อยที่สุดของโอเปร่าประเทศไทย (หลักฐานดูได้จากภาพอ้างอิงด้านล่าง)
เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องสงสัยกันแล้วนะคะว่านักดนตรีคลาสสิคมืออาชีพจริงๆเค้าคิดยังไงกับฝีมือของไมร่า
ประเด็นที่สาม การก๊อบปี้
ขอบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะที่เด็กๆจะก๊อบปี้ในสิ่งที่พวกเค้าเห็น ไม่ใช่เฉพาะไม่ร่านะคะที่ก๊อบปี้ เพราะแจ๊คกี้เองก็ยังก๊อบปี้ Sarah Brightman มาเยอะ เริ่มจากการเลือกเพลง แจ๊คกี้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าไอดอลของเธอคือ Sarah Brightman และ Andrea Bocelli เพลงที่เธอนำมาประกวดนั้นเป็นของคนใดคนนึงในนักร้องสองคนนี้เกือบหมดเลยค่ะ ส่วนวิธีการร้องก็ก๊อปมาจาก Sarah เต็มๆ ลองเปรียบเทียบการร้องของแจ๊คกี้และ Sarah ในคลิปสองอันด้านล่างนี้ สังเกตุตั้งแต่วิธีจัดฉากการร้องคือเอาไมค์ใส่ขาไมค์มาตั้งไว้ด้นาหน้า รูปปากเวลาร้องสังเกตุดูว่าไม่ว่าร้องคำว่าอะไรปากก็จะเป็นรูปเหมือนออกเสียงสระโอและสระอูอยู่ทั้งเพลง แถมด้วยท่าทางการร้องที่ต้องยกมือสองมือขึ้นทำท่าทางตลอดเวลา ท่าทางแบบนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว Sarah Brightman เลยค่ะ ซึ่งแจ๊คกี้ก็ก๊อบปี้มาใช้อย่างเห็นได้ชัด
คลิป Sarah http://www.youtube.com/watch?v=6qrIQtGsreM
คลิป Jackie http://www.youtube.com/watch?v=SKhmFSV-XB0
ประเด็นสุดท้าย แจ๊คกี้ร้องถูกวิที เทคนิคดีกว่าไมร่า จริงหรือ
ถ้าให้คนร้องโอเปร่าเป็นจริงๆมาดู จะสามารถบอกได้แทบจะทันทีว่าแจ๊คกี้ร้องเพลงผิดวิธีอย่างมาก และสิ่งที่เป็นตัวชี้ให้เห็นชัดๆว่าผิดก็มีสองอย่างดังต่อไปนี้
1. แจ๊คกี้ร้องแล้วฟังดูเสียงกลม หนา มีพลังก็จริง แต่เสียงที่ได้ออกมานี้เกิดจากการดัดเสียงล้วนๆซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายต่อเสียงเด็กอย่างมากแบบที่กล่าวถึงไปแล้วในประเด็นที่หนึ่ง วิธีการดัดเสียงที่แจ๊คกี้ใช้ก็คือการร้องโดยทำรูปปากให้ร้องเป็นสระโอและสระอูอยู่ตลอดเวลาเหมือนที่เห็นในคลิปประเด็นที่สามนั่นเอง การทำรูปปากแบบนี้จะทำให้คนที่ร้องเพลงอยู่จะมีเสียงผู้ใหญ่ขึ้นและมีพลังขึ้นมาทันที ลองดูคลิปด้านล่างนี้ Sarah Brightman ร้องเพลง Time to say Goodbye
http://www.youtube.com/watch?v=Lp7rZEKClk4
สังเกตุได้ว่าช่วงแรกๆรูปปากของ Sarah มีหลากหลายทั้งอ้าเหมือนสระ อา อู อี โอ คละกันไป การร้องในช่วงนี้เสียงจะออกมาแนวใสและหวานซึ่งเป็นเสียงธรรมชาติของ Sarah แต่พอถึงท่อนเสียงสูงขึ้นมาทีไร Sarah จะทำปากเป็นสระโอและอูทันที ทำให้เสียงที่ออกมาก็เปลี่ยนด้วย จากหวานใสกลายเป็นเสียงหนาและดังขึ้นทันที แจ๊คกี้ใช้วิธีนี้ร้องอยู่ตลอดเวลา ถ้าไปดูนักร้องโอเปร่าของแท้เค้าจะไม่ทำแบบนี้ ลองดูคลิปอันนี้ของหนึ่งในนักร้องโอเปร่าแท้ที่ดังที่สุดในโลก Renee Fleming เสียงเธอหนาและมีพลังโดยออกมาแบบธรรมชาติ (ซึ่งตามธรรมชาติมนุษย์กว่าเสียงจะเติบโตจนมีพลังขนาดนี้ได้โดยไม่ดัดนั้นนักร้องต้องมีอายุ 30 กว่าๆขึ้นไปเป็นอย่างน้อย) ดูที่รูปปากของเธอ จะเป็นไปตามสระของเนื้อร้องคำที่ร้องอยู่ ไม่มีการพยายามจีบปากให้เป็นสระโอสระอูแบบที่แจ๊คกี้ทำเลย
http://www.youtube.com/watch?v=NU3bJ5JJhlw
ถ้าอยากเปรียบเทียบชัดๆก็ย้อนกลับไปดูคลิปของแจ๊คกี้ในประเด็นที่สามใหม่อีกทีได้ค่ะ แลัวคอยสังเกตุที่รูปปากเวลาร้อง
2. การร้องเพลงโอเปร่าที่ถูกต้องนั้น ปากจะต้องอ้าแบบสบายๆ ไม่เกร็งคางและคอ เสียงสั่นแบบ vibrato หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าลูกคอนั้นต้องออกมาจากแรงการซัพพอร์ทเสียงโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องและหลัง ห้ามใช้คอหรือปากบังคับเด็ดขาด ถ้าไปดูคลิปแจ๊คกี้อีกที เวลามีโน๊ตยาวที่ต้องลากเสียงทีไร ปากล่างและคางของแจ๊คกี้จะสั่นๆทุกที ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่าเธอบังคับเสียงและลูกคอด้วยการเกร็งปาก คอ และคาง คุณที่กำลังอ่านโพสต์นี้อยู่จะลองพิสูจน์ด้วยตัวเองก็ได้นะคะ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้องก็ลองได้ ลองอ้าปากความกว้างพอประมาณเหมือนคุณกำลังจะทานข้าวนะคะ หลังจากนั้นลองบังคับปากล่างและคอให้สั่นเหมือนที่เห็นแจ๊คกี้ทำ คุณน่าจะรู้สึกได้ว่าจะทำอย่างปากสั่นคุณต้องเกร็งปาก คางและคอเป็นอย่างมาก ถ้าคุณอ้าปากแบบปล่อยสบายๆไม่เกร็งเลยปากคุณก็ไม่มีทางจะสั่นได้ค่ะ และอย่างที่บอก วิธีการร้องโอเปร่าที่ถูก อวัยวะทั้งสามอย่างนี้ห้ามเกร็งเด็ดขาด ถ้าร้องแล้วปากสั่นแสดงว่าผิดวิธีแน่ๆอย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ ลองกลับไปดูคลิป Renee Fleming นักร้องโอเปร่าแท้ด้านบนนะคะ ไม่ว่าเธอจะร้องเสียงสั้นยาวสูงต่ำขนาดไหนจะไม่มีอาการปากสั่นเหมือนที่แจ๊คกี้ทำเลยค่ะ
นักร้องอีกคนนึงที่มีอาการปากสั่นแบบเดียวกับแจ๊คกี้ก็คือ Charlotte Church อดีตนักร้องเด็กเสียงโอเปร่านั่นเองค่ะ ลองดูคลิปนะคะ ร้องแล้วปากสั่นเหมือนแจ๊คกี้เลย
http://www.youtube.com/watch?v=aPAzTGPkde8
สมัยที่ Charlotte Church มีชื่อเสียงใหม่ๆนั้นได้มีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโอเปร่าในอังกฤษออกมาเตือนว่าเธอกำลังร้องเพลงผิดวิธี แต่ก็ไม่มีใครเชื่อและหัวเราะเยาะคณาจารย์เหล่านั้น หลายคนบอกว่าเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะร้องผิดวิธีในเมื่อเสียงเธอออกมาดีขนาดนั้น
มาถึงตอนนี้เสียงโอเปร่าของ Charlotte Church นั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอไม่สามารถร้องโอเปร่าได้แล้วเนื่องจากเสียงเสีย ร้องได้ก็แต่เพลงป๊อบ ทั้งๆที่เธอก็เพิ่งอายุ 20 กว่าๆเอง
กลับกัน ถ้าดูนักร้องอีกคนที่ร้องออกอัลบั้มมาตั้งแต่ยังเด็กพอๆกับ Charlotte Church ที่ชื่อ Hayley Westenra ในคลิปอันนี้
http://www.youtube.com/watch?v=kQQSW35PrEY
จะเห็นได้ว่า Hayley ไม่มีการจีบปากดัดเสียงให้หนาขึ้นหรือร้องแล้วปากสั่นเลย เธอร้องอย่างถูกวิธีแล้วปล่อยให้เสียงของเธอค่อยโตขึ้นตามวัย ถึงแม้ว่าจะมีคนนำเธอไปเปรียบเทียบกับ Charlotte Church ว่าเสียงไม่ใหญ่ ไม่หนาเท่า แต่เธอก็ไม่สนใจ ผลก็คือตอนนี้เธออายุ 20 กว่าๆและยังร้องเพลงคลาสสิคได้สบายๆอยู่ และนับวันเสียงเธอก็ค่อยๆมีพลังมากขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับสมัยเด็กๆ
สำหรับไมร่านั้น เทคนิคการร้องเธอจะถูกหรือผิด ที่เห็นๆก็คือเธอเหมือน Hayley คือไม่มีทั้งอาการจีบปากดัดเสียงหรืออาการปากสั่นเวลาร้องค่ะ
จากคุณ : Foxy Little Angel [Bloggang]
เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:29:35 [แก้ไข]
แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 10:17:59
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 18:31:52
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 14:31:05
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 06:27:21
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 23:41:58
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 22:05:46
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 20:33:11
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 13:26:43
2คลิปเทียบ ไมร่า TGT กับ Sarah Brightman ดูกันให้ชัด วัดกันให้หายงง
เชียร์และโหวตให้คิดบวกสิปป์ครับ
