ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยทุกประการ และส่วนตัวไม่เคยอุดหนุนของผิดกฎหมายพวกนี้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : greeneyed เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 19:18:16

ความคิดเห็นที่ 2 "กระบวนการดูถูกกัน" ชอบครับประโยคนี้ จากคุณ : gOlf :-) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 19:37:50

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยครับ ต่างฝ่ายต่างปรับเข้าหากัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ...แต่ก็ยอมรับว่า ในทางปฏิบัติคงเป็นไปได้ยากมากที่สุด เพราะผมว่ามันก็มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ที่มันหน่วงตรงนี้อยู่น่ะครับ จากคุณ : นายแบบเขมร เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 21:48:57

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวของผมเอง ผมชอบการดาวน์โหลดฟรีครับ และไม่คิดว่าการดาวน์โหลดเป็นเรื่องไม่ดี ผมสนับสนุนให้ดาวน์โหลด!! แต่ผมซื้อนะ ถ้าผมฟังแล้วชอบ และคิดว่างานเพลงในอัลบัมนี้ตอบแทนเม็ดเงินที่ผมต้องแลกด้วยการอดข้าวอดนั่นอดนี่เพื่อได้มันมา ยิ่งถ้าฟังแล้วชอบเพลงส่วนใหญ่ หรือเป็นอัลบัมของศิลปินที่ติดตามมาโดยตลอดอยู่แล้วก็ซื้อแน่นอน แต่ถ้าเป็นศิลปินที่ผมไม่คุ้นเคยโหลดมาฟังแล้วชอบเพลงเดียวหรือสองเพลง คิดว่าไม่คุ้ม 300 กว่าบาท หรือหลายร้อยบาทถ้าเป็นวงที่ไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย ผมก็ไม่ซื้อ เอาเงินไปซื้อวงที่ชอบดีกว่า ลองนึกภาพ ถ้าลองซื้อมั่วๆ เพราะเคยฟังแต่เพลงโปรโมท 1-2 เพลง ปรากฏอีก 8-9 เพลงที่เหลือไม่ชอบ ก็เซ็งสิครับ เสียดายเงิน คือบางทีไม่ใช่ว่าเพลงไม่ดี แต่มันไม่ถูกจริตเราเอง สรุปแล้วโหลดมาลองฟังก่อนดีที่สุด เป็นแนวทางในการเลือกซื้อ การดาวน์โหลดช่วยเปิดโลกทัศน์ในการฟังเพลงทำให้รู้จักศิลปินดีๆหน้าใหม่มากมาย จริงๆมันเป็นสิ่งมีประโยชน์ถ้าเราใช้ให้ถูกวิธีครับ โดยเฉพาะการทำให้วงหน้าใหม่มีหน้ามีตาในวงการเพลงขึ้นมา แต่ถ้าโหลดมาฟังแล้ว"ชอบ" แต่ "ไม่ซื้อ" ก็อย่าได้พูดว่าชอบวงนั้นวงนี้จริงๆเลยครับ เพราะถ้าชอบจริงก็ต้องอุดหนุนไปแล้ว ว่ามั๊ย? จากคุณ : ANuBiS_GaTE เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 23:04:01

ความคิดเห็นที่ 5 4 แชร์ด์ มันเปิดโลกทัศน์ของผม ในโลก "ศิลปะ" มากมากมาก แต่อย่างว่าในโลกจริง "ทุนนิยม" มันเอื้อกับการใช้ชีวิตของ "คน" มากกว่ามาก ๆเลย อะเน้อ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 00:37:08

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้ว่ากันยาวนะครับ แต่ก็จะพูดเตือนความจำอีกครั้งว่า ท่าที่ของฝ่ายต่อต้านการโหลดเดี๋ยวนี้ดูนิ่มขึ้นเยอะถ้าเทียบกับสัก 5-6 ปีก่อน ที่จะโจมตีฝ่ายโหลดอย่างหัวชนฝาด้วยท่าทีที่เหนือกว่าทางศีลธรรมมาก เดี๋ยวนี้ไม่อยากอ่อนข้อก็ต้องอ่อนข้อแล้ว เพราะทัดทานไม่ไหว นี่สะท้อนมาที่กฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่สอดคล้องกับการกระจายทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพที่สุด พูดง่ายๆ คือระบบทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดต้องการการปฏิรูป ไม่ใช่คงกฏหมายเก่าๆ ที่สร้างการขนาดแคลนเทียมๆ ไปพร้อมกับสร้างผู้ละเมิดกฏหมายจำนวนมาก ผมคงไม่ต้องบรรยายนะครับว่ากฏหมายลิขสิทธิ์ในโลกมันเปลี่ยนแปลงมาตลอดเวลาสองสามร้อยปีของมัน และผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเปลี่ยนไม่ได้อีกถ้ามันไม่สอดคล้องกับความต้องการสาธารณะ ลิขสิทธิ์มันไม่ใช่ิสิทธิธรรมชาติครับ ไปศึกษาประวัติศาสตร์ดูได้ อย่ามาพูดราวกับว่าทุกสิ่งที่ตนสร้างเป็นเจ้าของตัวเองทั้งหมดเลยครับ ในทางหลักการณ์มันมีไปเพื่อสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรม มันก็เลยต้องให้สิทธิเหนือต่องานสร้างสรรค์กับผู้สร้างสรรค์ในระยะเวลาที่จำกัด (ไม่มีลิขสิทธิใดๆ ในโลกที่จะไม่มีหมดอายุ) ในแง่นี้ผู้สร้างสรรค์ทุกคนก็เหมือนผู้ที่หยิบยืมภูมิปัญญาสาธารณะมาสร้างงานสร้างสรรค์ ถึงเวลาก็ต้องคืน ผมว่าเราควรจะมีสำนึกตรงนี้กันมากขึ้นนะ ไม่ใช่มองว่าสิ่งที่เราสร้างมาเป็นของเราหมด เราสร้างงานบนจารีตมา และคนอื่นๆ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน ก็สร้างงานก่อขึ้นมาเป็นจารีต เราเป็นหนี้สิ่งเหล่านี้ และควรสำนึกเสมอว่างานเรามันไม่ใช่ของเราคนเดียว มันเป็นของคนอื่นด้วยตลอดเวลา จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 00:54:45

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านค.ห.6 แล้วตลกร้ายดี (ชอบ ๆ) ลิขสิทธิ์ มันมาพร้อม อำนาจ อะเน้ออออออออออออออ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 12:29:39 จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 02:30:06

ความคิดเห็นที่ 8 โอ้ววววว เดี๋ยวนี้ต้องย้อนไปสมัยโบราณเพื่อให้การดาวโหลดเถื่อนเป็นเรื่องถูกลิขสิทธิ์แล้วเรอะเนี่ย!! เดี๋ยวอีกหน่อย ผมว่าต้องมีคนดักตีหัวหญิงแล้วลากไปข่มขืนข้างทางเพราะอ้างว่า ประวัติศาสตร์โบราณเขาก็ทำงี้กันแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ ถ้าเกิดว่าประวัติศาสตร์สมัยก่อนเป็นเรื่องที่ดีหมด แล้วจะเสียเวลามามีระบบสังคม จารีต กฏหมายมาเพื่ออะไรล่ะครับ ผมว่าช่องทางการโหลดแบบถูกเหมือนได้เปล่าจากค่ายเพลงสมัยนี้ก็มีเยอะมากแล้วนะครับ อย่าง Maors ก็เดือนละแค่ 29 บาทเอง เดือนนึงได้เพลงใหม่ๆก็ตั้ง 7-8 เพลง เฉลี่ยก็ไม่ถึงเพลงละ 3-4บาทเองมั้ง ใครจะโหลดก็ไม่ว่านะ มันก็สะดวกจริงๆ แต่โหลดฟรีแล้วยังมาวิจารณ์นั่นนี่เนี่ย มันน่ารำคาญครับ ค่ายเพลงทำงานแล้วไม่ได้เงิน แล้วเขาจะเอาเวลาที่ไหนมาทำงานดีๆให้คุณฟัง ไม่ใช่งานการกุศลนะ จากคุณ : Berserk Rabbit เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 03:16:14

ความคิดเห็นที่ 9 ผม โหลด และ วิจารณ์ มาตลอดอะครับ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 03:27:51

ความคิดเห็นที่ 10 - จำฝังใจ กับ เอมพ์ที่รูม - เงียบ ๆคนเดียว กับ ซำไทม์เวนวีทัช - โง่งมงาย กับ อีเทอนัล เฟลม - ฯลฯ ป.ล. แต่ผมชอบเพลงที่ลอกมามากกว่านะ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 03:48:22

ความคิดเห็นที่ 11 การวิจารณ์มันเป็นสิทธิ์น่ะครับ จะโหลดฟรีโหลดเสียตังค์ก็วิจารณ์ได้ ถ้าเป็นไปอย่างสร้างสรรค์มิใช่อคติส่วนตัว เพราะในฐานะศิลปิน ก็คือการยกตัวเองมาเป็นคนของประชาชนแล้ว ต้องรับฟังเสียงวิจารณ์ด้วยใจเป็นกลาง งานเพลงดีๆ ทำออกมาจะขายได้ไม่ได้ก็ได้กับตัวศิลปินแหละครับ อย่างน้อยถ้าเพลงคุณดี มันก็ทำให้คนรู้จักคุณ ชอบเพลงของคุณมากขึ้น เผลอๆอาจจะไปเข้าตาสังกัดที่พอมีทุนทรัพย์ที่จะสนับสนุนก็โชคดีไป ได้ออกทีวี ได้ทัวร์คอนเสิร์ต รายได้จากคอนเสิร์ตนี่แหละเป็นรายได้หลักของนักดนตรีสมัยนี้เลย แต่ถ้าไม่คิดจะทำเพลงดีๆอ้างเหตุผลว่าทำดีไปก็ขายไม่ได้ แบบนั้นเลิกเป็นศิลปินดีกว่าครับ การมาทำงานนี้หลักๆคือต้องทำด้วยใจอยู่แล้ว มันไม่ใช่อาชีพที่ยั่งยืน นักดนตรีอินดี้หลายๆคนก็มีงานประจำของตัวเอง เพราะเขารู้ว่าทำตามความชอบอย่างเดียวมันอยู่ไม่รอดหรอก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำเพลงแจกฟรีๆไปตลอด บอกแล้วว่าถ้าเพลงคุณดีซะอย่าง ยังไงคุณก็ดัง รู้จักศิลปินญี่ปุ่นที่ชื่อวง GreeeeN มั๊ยครับ (e กี่ตัววะ) วงนี้ขายเพลงล้วนๆไม่เคยเผยหน้าเผยตาอย่างเป็นทางการ ได้ยินว่าไม่เคยมีคอนเสิร์ตด้วย แต่พวกเขาก็ดังได้เพราะเพลงเค้าดีจริงๆ วงนี้ดังในญี่ปุ่นและเอเชียมากๆครับไม่ใช่วงไก่กาที่ไหน แน่นอนว่าทุกคนเป็นแบบวงนี้ไม่ได้หรอก แต่ผมจะสื่อว่าที่ศิลปินควรยึดถือคืออย่างแรก ทำเพลงให้สุดความสามารถ แล้วสิ่งที่ตามมาก็จะเป็นผลตอบแทนที่ดีเอง การดาวน์โหลดจะไม่มีวันหายไปจากวงการเพลงครับ ดังนั้นศิลปินที่เกิดขึ้นมาในยุคออนไลน์แบบนี้ย่อมต้องรู้ตรงนี้ดี และต้องพยายามสร้างคุณค่าให้กับผลงานของตัวเอง ยังไงๆถ้าของดีจริงมันก็มีผู้สนับสนุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเอาเพลงไปแชร์ต่อ ให้คนอื่นๆได้ฟัง นั่นก็คือการสนับสนุนอย่างนึงแล้วครับ อย่ามองแค่ว่าการสนับสนุนคือการซื้อซีดีอย่างเดียว เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ต เชื่อได้เลยว่าจะมีวงที่เกิดมาแล้วล้มตายไปในระยะเวลาสั้นๆมากกว่านี้อีกหลายเปอร์เซนต์แน่นอน จากคุณ : ANuBiS_GaTE เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 04:46:02

ความคิดเห็นที่ 12 ... จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 05:14:15

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าอีกฝั่งมัวแต่ลอกเพลงอยู่ มัวแต่ทำเพลงอะไรไม่รู้ออกมา (ทั้งลอกและไม่ลอก) อีกฝั่งมัวแต่อ้างการลอกเพลงเก่าๆ อยู่ บอกว่า นี่ไง พวกแกลอกมา ทั้งที่เพลงมันผ่านมาตั้งเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้เริ่มกันสักที ถึงแม้อีกฝั่งจะตั้งใจทำ แต่อีกฝั่งตั้งแง่ มันก็อยู่ในวังวนเดิมๆ หรือแม้อีกฝั่งจะมีคนที่ไม่ตั้งใจทำเพลง ใช้เท้าทำ แต่อีกฝั่งตั้งใจอุดหนุน แต่มันก็หายากจริงๆ เพลงที่ใช้มือใช้หัวทำดีๆ เจอแต่เพลงที่ใช้เท้าทำ อันนี้ก็ลำบาก ถึงบอกว่ามาช่วยกันเริ่มต้นกันเถอะ ไม่ใช่มาตั้งแง่กันไปๆ มาๆ ไงครับ คนทำเพลงที่ดีๆ ก็มี ไม่ใช่ทุกคนเอาแต่ลอกเพลง หรือมัวแต่ทำเพลงแย่ๆ ออกมานะครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 07:32:34

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องการโหลดฟรี ผมว่าพี่เค้าก็ไม่ได้พูดว่าผิดอะไรนะครับ แต่พี่เค้าบอกว่า "ชอบก็ซื้อ" ไงครับ โหลดฟรีน่ะ โหลดมาเหอะ ฟังเพลงเยอะๆ เสพศิลปะเยอะๆ อันไหนถูกใจก็ซื้อมา ทั้งซื้อซีดีหรือโหลดแบบเสียเงินก็ได้ครับ ไม่เห็นจะยากอะไร ยกเว้นแต่มักง่ายนั่นล่ะครับ ข้ออ้างจะดีเลิศเลอแค่ไหนที่ให้เหตุผลว่าไม่ซื้อ แค่พูดว่า มักง่าย คำเดียวก็ครอบคลุมแล้วล่ะครับ ผมว่าพี่เค้าพูดครอบคลุมกันหมดแล้วนะครับ ถ้าตีความออกมา มันครอบคลุมทุกสิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้เลย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 12:03:05 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 07:37:41

ความคิดเห็นที่ 15 คห 8 ที่กล่าวว่า "โอ้ววววว เดี๋ยวนี้ต้องย้อนไปสมัยโบราณเพื่อให้การดาวโหลดเถื่อนเป็นเรื่องถูกลิขสิทธิ์แล้วเรอะเนี่ย!! เดี๋ยวอีกหน่อย ผมว่าต้องมีคนดักตีหัวหญิงแล้วลากไปข่มขืนข้างทางเพราะอ้างว่า ประวัติศาสตร์โบราณเขาก็ทำงี้กันแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ ถ้าเกิดว่าประวัติศาสตร์สมัยก่อนเป็นเรื่องที่ดีหมด แล้วจะเสียเวลามามีระบบสังคม จารีต กฏหมายมาเพื่ออะไรล่ะครับ" คุณไม่เจ้าใจประเด็นผมเลยนะครับ มีตรงไหนที่ผมบอกให้เอาตามแบบสมัยก่อนครับ ประเด็นผมอยู่ที่ระบบลิขสิทธิ์ทีเรามีทุกวันนี้มันก็เป็นแค่ขั้นหนึ่งของประวัติศาสตร์ มันไม่นิ่งหรอก ผมบอกให้เราก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ถอยหลัง อ่านดีๆ นะครับ แล้วที่คุณว่า "จะเสียเวลามามีระบบสังคม จารีต กฏหมายมาเพื่ออะไรล่ะครับ" คุณเข้าใจสิ่งที่คุณพูดแค่ไหนครับสังคมมันมีทุกยุคตั้งแต่มนุษย์อยู่ร่วมกันนี่แหละครับ จารีตคือสิ่งที่ปฏิบัติต่อกันมาซึ่งมันก็มีมาทุกยุค กฏหมายมันก็มีมาตั้งนานแล้วและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเงื่อนไขของสังคม พูดแบบนี้ว่างเปล่าและไม่มีความหมายอะไรเลยครับ กฏหมายลิขสิทธิ์มันเป็นกฏหมายที่ทำมาเพื่อจัดสรรค์ทรัพยากรในสังคมให้มีประสิทธิ์ภาพครับ เวลาเราพูดถึงการจัดสรรค์ทรัพยากรเรากำบังพูดถึงการกระจายรายได้ด้วย และมันชัดเจนสำหรับหลายๆ ครับว่ากฏหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบันว่ามันเป็นอุปสรรค์ต่อการสร้างสรรค์ของคนจำนวนมาก และเป็นกฏหมายที่เข้าข้างกับผู้กำลิขสิทธิ์ไว้ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย และผมก็เน้นอีกรอบนะครับว่าที่ผมเสนอในที่นี้คือให้ "ปฏิรูป" กฏหมายลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ให้ "ล้มล้าง" จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:11:35

ความคิดเห็นที่ 16 ผมอยากให้ทำซิงเกิ้ลออกมาขายเยอะๆ ผมเป็นพวกชอบเพลงไหนก็จะฟังซ้ำๆไปมาทั้งวัน ทีนีส่วนใหญ่ซิงเกิ้ลที่มีแค่ 2-3 เพลงนี่เหมาะมากเพราะเพลงที่แต่งมันคือเพลงโปรโมทที่บังคับเพราะอยู่แล้ว น่าจะขายง่ายด้วย สองเดือนออกสักครั้งปีนึงก็รวมอัลบั้ม ตอบแล้วไม่รู้จะเกี่ยวกับกระทู้ไหม จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:12:38

ความคิดเห็นที่ 17 จริงๆ อยากชวนคุยเรื่อง Impact ของการเปลี่ยนแปลงตรงนี้มากกว่า เอาจริงๆ ถึงทางค่ายใหญ่จะเสียรายได้ไปมาก แต่ก็ยังได้เปรียบพวกนักดนตรีอิสระอยู่หลายขุมนะครับ อย่างน้อยก็ยังมีสื่อในมืออยู่ ผมได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่คิดๆ ประเด็นนี้ ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่า อุตสาหกรรมดนตรีในศตวรรษที่ 21 จะรอดได้มันก็ต้องผนวกไปกับอุตสาหกรรมบังเทิงประเภทอื่น และก็ไม่ต้องห่วงเลยครับ ดนตรีที่จะมาจากระบบการผลิตนี้จะยิ่งเน้นปั้นแต่งมาขายมากกว่าศตวรรษที่ 20 อีก เพราะจะผลิตไรออกมาทีให้คุ้มต้องขายได้ครบวงจร อย่างไรก็ดีกระบวนการทั้งหมดมันก็ทำให้ Gap ระหว่างการผลิตดนตรีกับค่ายใหญ่กับการผลิตดนตรีเองแบบอิสระแคบลงกว่าเมื่อก่อนมาก จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:16:38

ความคิดเห็นที่ 18 เราเริ่มแล้ว...ซักพักแล้วล่ะ แต่ไอ้ที่มีอยู่ในเครื่อง ก็เยอะอยู่ ไม่อยากลบเพราะหาซื้อไม่ได้แล้ว // T-T จากคุณ : จะงอนฯ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:18:45

ความคิดเห็นที่ 19 อีกประเด็นที่ผมตระหนักได้ตอนนี้ว่าแปลกมาก คือ เด็กสมัยนี้มีทางเข้าถึงดนตรีที่กว้างมากได้ แต่เอาจริงๆ ก็กลับฟังเพลงไม่ค่อยหลากหลายเลย ซึ่งแปลกมาก คนรุ่นผมนี่ดิ้นรนหาอะไรแปลกๆ ฟังกันอย่างยากลำบากมานาน ทั้ง Import แผ่นอะไรสารพัดเพียงเพื่อจะแค่งานงานแปลกๆ มาลองฟัง พอโหลดได้นี่ยิ้มกันถ้วนหน้าเลย นักเก็บมีอะไรลองมากขึ้นและชอบไรก็ซื้อก็เก็บไป อย่างผมไม่ชอบซื้อเก็บก็พยายามจะสนับสนุนวัฒนธรรมดนตรีทางอื่นๆ เช่นพวก Merchandise และไปร่วมดูโชว์หรือคอนเสิร์ตกันไป จริงๆ เด็กฟังน้อยนี่ ผมไม่โทษเด็กนะ แต่ผมเริ่มสงสัยว่ามันเกิดไรขึ้นกับกระบวนการเรียนรู้ดนตรี ตอนนี้สิ่งพิมพ์ที่ให้ข้อมูลแปลกๆ มันแทบไม่มีแล้ว มีอะไรก็ต้องดิ้นรนหากันเอง และในกระบวนการแบบนี้ ผมเริ่มสงสังว่าข้อมูลที่หาๆ ได้มันไม่พอจะทำให้คนฟังเพลงหลากหลายแฮะ สุดท้าย คุณูปการของการโหลดเพลงสำหรับผมคือทำให้ผมหัดฟังแนวเพลงใหม่ๆ ได้ คือมันประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร ถ้าไม่มี Internet ผมคงหัดฟัง "World Music" กับ Jazz ไม่ได้ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:25:19

ความคิดเห็นที่ 20 ยากมากถึงมากที่สุดครับพี่ดี้ -..- จากคุณ : RadiorA เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:19:14

ความคิดเห็นที่ 21 พูดถึงว่าในคอมฯมีอัสนี-วสันต์ 100 เพลง ผมก็อยากจะบอกว่า สมัยโน้นใึครจะบ้าพอที่จะซื้อ cd ครับ ถ้าไม่รวย ส่วนใหญ่ก็มีเป็นเทปทั้งนั้นแหละ และยอดขาย(เทป)ยุคนั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ จะเอาจุดนี้มาพูดถึงทำไมหว่า คนมีเทปอยู่แล้วเขาก็โหลดอัสนี-วสันต์ฟัง มันก็ถูกแล้วนี่ นอกเสียจากว่า ทางแกรมมี่จะทำ boxset ของอัสนี-วสันต์มาขาย ถ้าทำมาขายผมก็ซื้อ เอาดิ การโหลดไม่ใช่สิ่งที่ผิด ถ้างานคุณดีจริงทั้งอัลบั้ม ผมก็ซื้อ บ้านผมมีแผ่นแท้หลักพันแผ่น ทั้งไทยและเทศ ของไทยส่วนมากจะเป็นพวกวงอินดี้ วงนอกกระแส วงในกระแสก็มีพวกบอดี้สแลม ถ้างานดีจริง ผมเชื่อว่าต้องมีคนซื้ออยู่แล้ว พวกคุณมีหน้าที่ทำเพลงก็ทำมาให้ดีก่อน ส่วนเรื่องจะซื้อหรือจะโหลด มันเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค อย่ามาอ้างเลย ถ้าอ้างแบบนี้เพื่อจะทำเพลงห่วยๆออกมา ก็เตรียมตัวตายได้เลย คนฟังไม่โง่นะเฟ้ย จากคุณ : fff เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:23:55 A:110.169.214.141 X: TicketID:307598

ความคิดเห็นที่ 22 #21 ถ้าอ่านดูดีๆ จะหมายความว่า คนที่หาเพลงอัสนีวสันต์ 100 เพลง (จริงๆ คือ ทุกเพลงนั่นแหละ) รวมถึงคนอื่นๆ โดยการไม่ได้ซื้อของถูกต้องมา เป็นการโหลดฟรีมา หรือไปซื้อผีมา แต่หากคุณซื้อของแท้มาก่อนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเทปหรืออะไรสมัยก่อนโน้น ก็ไม่ต้องเดือดร้อนอะไรนี่ครับ เพราะบริบทของบทความนี้ ไม่ได้หมายถึงบุคคลเหล่านั้นอยู่แล้วนี่ครับ ลองอ่านดูดีๆ ก่อนจะหงุดหงิดและโวยวายนะครับ และเพลงดีๆ นั่นเค้าทำกันมาก็แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ได้เริ่มทำครับ อยู่ที่คนดูจะหาดูหรือเปล่าว่ามีเพลงดีๆ ที่ตั้งใจทำกันอยู่ หรือจะมัวแต่มีอคติว่าเพลงห่วย เพลงลอก ไม่ฟังหรอกโว้ยเพลงไทย อะไรแบบนี้ก็แย่นะครับ คนทำเพลงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำให้วงการมันเสีย เพลงส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:15:12

ความคิดเห็นที่ 23 ฟังฟรี ฟัังจากวิทยุ ฟังวิทยุแล้วอัดลงเทปมาฟังอีก ฯลฯ อืมม์ น่าคิดเลยเนอะ ป.ล. สมัยก่อนผมชอบคลื่น ๆนึงช่วงค่ำ ๆมาก ๆ(จำไม่ได้และว่าคลื่อนอะไร) ที่ดีเจแกจะจัดแบบ จดหมายฉบับนี้มาจากน้อง ....... คือ แกจัดเต็มทุกเพลง อัดได้แบบไม่ต้องมีเสียงแทรก อะเน้อ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:26:16

ความคิดเห็นที่ 24 เสริมความคิดเห็นที่ 22 พี่กึ่งครับ "ผมเคยซื้อ VDO ลิขสิทธิ์หนังเรื่องหนึ่งเอาไว้ แต่เครื่องเล่นผมเจ๊งไปแล้ว ตอนนี้ผมเลยไปซื้อแผ่น DVD ผีมา แล้วอนาคตผมไปซื้อแผ่น Blu-ray ผีอีก โดยใช้สิทธิ์คนเคยซื้อ VDO ลิขสิทธิ์ไปแล้ว ผมไม่ใช่ขโมยใช่ป่าวครับ แล้วถ้าบริษัทที่ผลิต DVD กับ Blu-ray เจ๊งขึ้นมา เขาก็ไม่มีสิทธิ์โกรธผมใช่ป่าวครับ ก็ผมเคยซื้อ VDO ลิขสิทธิ์มาแล้วนะเฟร้ย" 555 จากคุณ : ผมเคยซื้อ VDO ลิขสิทธิ์นะเฟร้ย (ainaction) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:50:14

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้ ผมไม่ฟังเพลงไทยแล้ว ฟังแต่เพลงสากล เพลงเกาหลี เพลงแปลกๆ เก่าๆ ในยูทูป มียูทูปเป็นโฟลเดอร์เพลง ------------- ผมมองว่า สุดท้าย ค่ายเพลงต้องดิ้นไปหาเงินทางอื่นเอาเอง ซื้อแผ่นลิขสิทธิ์ ได้แค่ไม่กี่เพลง ซื้อผี 50บาทได้หลายร้อยเพลง ตอนนี้กระแส มันเปลี่ยนไปแล้ว พ่อค้า ถ้าอยากอยู่รอด ต้องตามกระแส ไม่ใช่ต่อต้านกระแส จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:03:00

ความคิดเห็นที่ 26 เพลง มันเกิดมายังไง ใคร เอาการตลาดใส่ไป จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:30:05

ความคิดเห็นที่ 27 จริงๆแล้ว ตลาดเพลงเมืองไทยก็ใหญ่พอสมควรนะ เพลงที่ออกมามีหลากหลายแนวมากมาย เพียงแต่ว่าบางทีกลุ่มเป้าหมายไหนที่ดูใหญ่ เหมือนกับพยายามจะยัดเยียดอะไรให้เค้าฟังมากเกินไป เมื่อคนฟังแนวนี้เยอะ ก็แห่กรูกันออกมาเหมือนๆกันหมด ส่วนเรื่องโหลด ลองไปดูคนฟังลูกทุ่งต่างจังหวัดจริงๆซิ ทำไมเค้าถึงซื้อกันได้หล่ะ เพราะว่าเค้าไม่มีแนวทางให้โหลด และยอมรับในสิ่งที่เค้าชอบแหละ จากคุณ : ยักคิ้วข้างเดียว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:43:13

ความคิดเห็นที่ 28 อย่ามาอ้างว่า Download เป็นสิ่งดีเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ คุณจะฟังเพลงก็เข้าไปฟังใน Youtube สิครับ ถ้าอยากได้ file เพลงก็ต้องจ่าย แค่นี้เองครับ จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 16:08:03

ความคิดเห็นที่ 29 คห.28 บางคนเนตไม่แรงจนนั่งฟัง youtube ได้เป็นสิบเป็นร้อยครั้งหรอกครับ และอีกอย่างยูทูปมันยัดใส่เครื่องเล่นพกพาไม่ได้ จากคุณ : ต้อมติ้ว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 16:38:41

ความคิดเห็นที่ 30 ทั้งชีวิตผมซื้อแต่แผ่นแท้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีแผ่น MP3 แต่มาหลังๆนี่ ไม่ได้ซื้อเลย ไม่ได้โหลดด้วย ฟังใน youtube อย่างเดียว ซีดีแท้เซ็ตสุดท้ายที่ผมซื้อ ถ้าจำไม่ผิด เป็น ลูลา อัลบัมแรก , เมลโล่ โมทีฟ, หนึ่ง จักวาล หลังจากนานก็ไม่ได้ซื้อเลย ปัจจัยแรกที่ทำให้ผมซื้อ คือ เป็นนักดนตรีที่ผมชอบ สองคือถ้าไม่ใช่นักดนตรีที่ผมชอบแต่เพลงน่าฟัง จะดูที่คุณภาพและความสวยงามของอัลบัม   บางอัลบัมผมชอบนะ พอไปดูที่ร้าน แล้วเซง ออกแบบแพคเกจซีดีมาแบบนี้ ตูโหลดเอาก็ได้มั้ง แล้วบางทีเพลงดี แต่ไม่ออกอัลบัม ให้โหลดเอา โธ่... ผมเลยเลิกอุดหนุนแผ่นแท้เพราะเหตุนี้ แต่ปีนี้คงซื้อสักสองชุด ปาล์มมี่ กับ ETC จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 16:53:20

ความคิดเห็นที่ 31 ในเมื่อความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดการ copy และ download ได้ ทำไมไม่มีใครคิดค้นเทคโนโลยีที่ป้องกันการ copy และ download ได้ ประมาณว่าต่้อให้มีไฟล์ต้นฉบับที่ถูกลิขสิทธิ์ก็ไม่สามารถแชร์ให้คนอื่น หรือให้คนอื่น copy ไฟล์นั้นได้ ยกเว้นคนที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว จากคุณ : ขอให้มีความสุขตลอดไปนะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 17:54:14

ความคิดเห็นที่ 32 >คห.23 >ฟังฟรี ฟัังจากวิทยุ ฟังวิทยุแล้วอัดลงเทปมาฟังอีก ฯลฯ > > > >อืมม์ น่าคิดเลยเนอะ > > > > >ป.ล. สมัยก่อนผมชอบคลื่น ๆนึงช่วงค่ำ ๆมาก ๆ(จำไม่ได้และว่าคลื่อนอะไร) ที่>ดีเจแกจะจัดแบบ จดหมายฉบับนี้มาจากน้อง ....... คือ แกจัดเต็มทุกเพลง อัดได้แบบไม่ต้องมีเสียงแทรก อะเน้อ >จากคุณ : Ethan_Ko [FriendFlock] [Bloggang] >เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:26:16 [แก้ไข] ผมว่าจะเป็นรายการเพลงไทยคุณขอมานะครับ คลื่น 93.0 MHz สถานีตรงบางนา พี่ศิริชัย เลิศวิริยะชัย (ป่านนี้คงแก่มากแล้ว) แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 18:26:13 จากคุณ : DKR เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:25:20

ความคิดเห็นที่ 33 #31 มีการทำ DRM (Digital Rights Management) ออกมาแล้วครับ เป็นการป้องกันการ Rip เพลง ป้องกันการ copy ซึ่งทำมาเมื่อราวๆ 3-4 ปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากทำออกมาก็โดนต่อต้านอย่างหนัก เพราะคนที่ซื้อแผ่นไป มีปัญหากับการฟังเพลง ทำได้สักพักก็เลิกไปในที่สุดครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:36:13

ความคิดเห็นที่ 34 ค.ห. 32 คุณ DKR ขอบคุณมาก ๆเลยนะครับ (พอดีกิฟท์ผมหมด) ฉุดความทรงจำขึ้นผมมาเลยอะครับ "พี่ ศิริชัย" นี่เอง เป็นดีเจที่เจ๋งคนนึงของผมเลยอะเน้อ :) เพิ่มนิด (นอกเรื่องนะ) - ถ้าไม่มี กูเกิ้ล   http://www.google.co.th/search?q=%22%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88+%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%22+%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B2&hl=th&client=firefox-a&rls=org.mozilla:en-US:official&channel=s&prmd=ivns&ei=nXwlTuHDEILirAf1p7SvCQ&start=0&sa=N&biw=1024&bih=578 - ผมก็คงไม่ได้แชร์ความรู้สึกดี ๆแบบนี้ http://topicstock-tech.pantip.com/tech/gadget/topicstock/2010/07/TE2928671/TE2928671.html - มันเจ๋งนะ (เดี๋ยวตามอ่านต่อก่อน :) แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 19:49:25 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 19:16:56 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 18:55:44 จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:52:40

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาชูจั๊กกะแร้ เห็นด้วยกับพี่ดี้ครับ Producer and consumer should pay respect to each other แล้วถ้าผมเป็นทั้ง ผู้สร้างงาน ผู้ฟัง  ผู้ซื้อของแท้ และผู้โหลด ผมควรจะทำยังไงกับชีวิตดีครับ จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 20:44:10

ความคิดเห็นที่ 36 สนับสนุนการโหลดอย่างถูกกฎหมายค่ะ แต่อยากได้ที่โหลดที่รวมทุกค่ายไว้ด้วยกัน แล้วจ่ายราคาเดียวแบบที่rs grammyทำ 29บาทต่อเดือน เราว่าราคานี้โอเคนะ ไม่แพง แต่จะให้เราสมัครครบทุกค่ายเพลงก็ไม่ไหวเหมือนกัน แล้วเราสมัครค่ายเพลงเดียว ถึงมันจะบอกว่าให้เหมา แต่ปริมาณเพลง(ที่ถูกใจ) ก็ไม่ได้มีเยอะ คือ ปกติ ไม่ชอบมากจริงๆ ก็ไม่คิดจะโหลดเข้าเครื่อง ฟังวิทยุเอาก็พออะนะ มันมีที่ไหนมีแพ็คเกจให้โหลดของหลายๆค่ายในราคาถูกๆบ้างมั้ยคะ จากคุณ : ToMO Chan เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 21:17:21

ความคิดเห็นที่ 37 ไอ้เห็นน่ะมันก็เห็นด้วย แต่บอกตรงๆว่าผมกำจะเงินไปซื้อแผ่นซีดีไม่เจออันไหนน่า ซื้อซักแผ่น ใครจะหาทางออกให้ผมได้ไหม หา ไอ้กระผมวิจารณ์เพลงอยู่บ่อยๆแต่พี่ท่านบอกว่าไม่ได้ซื้ออย่าวิจารณ์ อ้าว เซ็งเลย งั้นไม่ซื้อแล้ว (ตอนวัยรุ่นอั๊วก็ซื้อเทปวงยูเรเนียมนะ) แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 21:21:47 จากคุณ : beeboyguitarpop เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 21:20:43

ความคิดเห็นที่ 38 ความเห็นที่ 28 ครับ เพลงที่อัพๆกันในยูทูปก้ใช่ว่าถูกกฏหมายทั้งหมดนะ อีกอย่างถึงผมจะโหลดมา หรือจะกดเข้าไปฟังในยูทูป มันก็ไม่เห้นต่างกันเลย สุดท้ายคือผมได้ฟังเพลงฟรีๆแบบผิดกฏหมายโดยไม่เสียเงิน สรุปคือจะฟังก็โหลดมาเถอะ ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน ถ้าจะไม่ซื้อจริงๆก็ทนฟังแต่บนยูทูปก็ได้ บางเพลงที่ไม่ดังเลย แถมหาโหลดก็ไม่ได้ ทุกวันนี้ผมยังฟังอยู่บนยูทูปเลย คนมันจะซื้อจะซัพพอร์ทยังไงมันก็ซื้อครับ คนไม่ซื้อก็ไม่ซื้อวันยันค่ำ ทุกวันนี้คนสนับสนุนซีดีลิขสิทธิ์ก็มีไม่น้อย ทำเพลงดีๆให้คนที่ซื้อเขาคิดจะซื้อยังจะดีกว่านะครับ เราบังคับให้คนไม่ซื้อมาซื้อไม่ได้ แต่เราโน้มน้าวให้คนที่ซื้อหันมาสนใจผลงานของเราได้ด้วยเพลงดีๆมีคุณภาพครับ อีกอย่างคือการเพิ่มคุณค่าให้กับแพกเกจซีดีให้มันดูน่าสะสม อย่างที่ความเห็นบนๆบอก บางทีเพลงดีนะ แต่แพกเกจห่วยๆไม่น่าเก็บ มันก็ซื้อไม่ลงเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 22:55:42 จากคุณ : ANuBiS_GaTE เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 22:53:08

ความคิดเห็นที่ 39 แล้วถ้าแบบ เ่ช่น ผมซื้อตั๋ว 500 ไปดู มร.บิ๊ก (ที่เอ็มบีเคฮอลล์) แต่เพราะว่าผมซื้อเทปก็อป มาฟังก่อนและชอบมาก ๆอะ หรือ ผมซื้อตั๋ว 800 ไปดู บองฯ (ที่สนามทัพบก) แต่มันมาจากการที่ผมตบเทปเพื่อนผมมาฟังและชอบมาก ๆเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็โหลดมาเก็บไว้ฟังอะ อยากได้ความเห็นจากเพื่อน ๆอะครับ :) จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 23:22:18

ความคิดเห็นที่ 40 DRM (Digital Rights Management) เป็นหายนะืทางกลยุทธ์เลยครับ นอกจากจะป้องกันการ Download นอกระบบไม่ได้ ยังทำให้คนยิ่งเกลียดอุตสาหกรรมดนตรีกันไปใหญ่เลยครับ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 12:12:10

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วพวกที่โหลดเพลงมาเพราะหาซื้อไม่ได้จริงๆ เฉพาะอัลบั้มที่ออกขายจำนวนน้อยๆ และอัลบั้มเก่าๆ ละว่าไง ผิดไหม - -" ผมพึ่งโหลดเพลงของ ริค วชิลปิลันธ์ มาฟังเมื่อต้นปี ก็อยากได้แผ่นอะ แต่หาได้ยากสุดๆ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 12:46:12 จากคุณ : Chiuchanlover เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 12:42:53

ความคิดเห็นที่ 42 ดิ้นกันใหญ่ ไม่เห็นมันจะเข้าใจยากตรงไหน เค้าผลิตของมา เค้าตีราคาไว้ ชอบก็ซื้อมาฟัง ไม่ชอบก็ไม่ซื้อไม่ต้องฟัง จบข่าว เท่านี้เอง ถ้าเค้าผลิตของมา บอกว่าให้ฟรี(ก่อน) อย่างนั้นจะทำอะไรก็เอาไปสิ ทำไมต้องมี ถ้าโน่น ถ้านี่ แปลกจริง จากคุณ : ลูกลิง กลิ้งไปกลิ้งมา เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:38:12

ความคิดเห็นที่ 43 คนสร้างเพลงควรตายถ้าลอกทำนองคนอื่นมา คนฟังเพลงควรตายถ้าไรทืเพลงเเจกคนอื่น จากคุณ : ร้องเพลงเอง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 14:06:35

ความคิดเห็นที่ 44 นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ใครอ่านแล้วไม่พอใจขอโทษด้วย อาจเป็น ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป สำหรับเรา ถ้าจะซื้อก็ซื้อเพื่อเก็บเป็นที่ระรึก สะสม ที่เหลือก็โหลดมาฟัง เพลงมีเป็นพันๆหมื่นๆเพลง หรือเป็นแสน จะให้ซื้อหมดทุกเพลงคงไม่ใช่ นักร้องร้องเพลง ถ้าเพลงดี เพลงดัง คนร้องโดดเด่นเก่ง ก็ดัง พอดัง ก็มีคอนเสิร์ต ถ่ายรายการ โฆษณา รายได้ไม่ได้มาจากเพลงอย่างเดียว สุดท้ายแล้วยังไง รายได้ ก็มาจากประชาชนนี่แหละ อย่างเรา ยกตัวอย่างยอมรับเลยว่าเช่น ไม่ได้ซื้อ cd เพลงของนักร้อง ฒ. แต่เราชอบก็ไปดูคอนเสิร์ต ซื้อบัตร 2000-3000 เรื่องของเรื่องมันก็หนีไม่พ้น เงินๆทองๆ แล้วปีนี้ แกรมมี่ก็ได้กำไรไปเท่าไหร่ ไปบ่นกับนายคุณดีกว่าไม๊ อย่ามาลงที่ประชาชนเลย ที่ผ่านมาก็ดูมีปัญหาบ่อยกับ บ.ตัวเอง มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว !!! คนระดับอย่างพวกคุณ ฉลาดมากพอที่จะหาทางทำเงินกับธุรกิจนี้อยู่แล้ว จากคุณ : RW. เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 14:16:40 A:125.24.11.67 X: TicketID:322054

ความคิดเห็นที่ 45 มันเป็นความเปลี่ยนแปลงครับ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลงแม้แต่ช่องทางทำมาหากิน เหมือนการ เปลี่ยนการแลกของ แบบยุคหิน มาเป็นใช้เงินเป็นสื่อกลาง เปลี่ยนจาก กล้อง ฟิมส์เป็น กล้อง ดิจิตอล ช่องทางทำเงินของนักร้องมีมากมายครับ ถ้าคุณใช้ตีนทำ ก้อทำไป คนตั้งใจ มีอีกเยอะ แล้วเค้าก้อ จะอยู่ได้ครับ ไม่งั้น ดีเจ หรือ นักดนตรีกลางคืน ตายห่านไปแล้ว เพราะเค้าไม่มี CD ให้ขาย ถ้าไม่มี youtube คนจะรู้จัก วง รุม 39 ไหม บอดี้แสลม คอนเสิรท์ ก้ออาจจะคนไม่เยอะขนาดนี้ก้อได้ ที่ออกมาดิ้นพลานๆๆ เนี้ย กลัว เงินเดือนตัวเองหดหาย ไง แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 15:32:02 จากคุณ : เป็นเมียเราต้องอดทน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 15:31:22

ความคิดเห็นที่ 46 ที่ผมไม่ซื้อ เพราะ บางที อยากฟังแค่ 2 เพลง  ที่เหลือ อะไรก็ไม่รู้ ทำซิงเกิ้ลมา เพลง 2 เพลง  น่าจะขายได้มากกว่านะ กล่องก็เล็กกว่า ปกก็ไม่ต้องมีอะไรมาก นี่โปรโมทซะเพลงเดียว ที่เหลือ9เพลง เคยซื้อแผ่นนึง ขยะมากๆ (ขอใช้คำนี้) ผิดหวังแบบ นี่เหรอวะ อุตส่าห์หวังใว้ว่าเพลงต้องประมาณนึง สรุปว่า ความคิดเรื่องคุณค่าทางจิตใจกับสิ่งของมันต่างกัน ไอคนที่โหลดฟรีอย่างเดียว เขาอาจจะบ้า ของบางอย่าง ชนิดที่พวกหูเทพ (ที่ต้องไฟล์ audio เท่านั้น) หรือพวกสนับสนุนลิขสิทธิ์ คิดว่าไร้สาระก็ได้ ให้ตายยังไงก็ไม่ซื้อหรอกแผ่นแท้ คุณต้องหมุนรอบโลกให้ได้ ไม่ใช่ให้โลกหมุนรอบตัวคุณ จากคุณ : Alice_Nine เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:04:39

ความคิดเห็นที่ 47 อุดมคติ มันใช้ไม่ได้ในชีวิตจริงครับ อย่างในบทสัมภาษณ์เค้าก็เขียนไว้อยู่...วงการเพลง"ในฝัน" เอาแต่พอดีดีกว่าครับ ไม่ตึงไป ไม่หย่อนเกิน...แล้วการฟังเพลงของพวกเราจะมีความสุข เราใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มันพัฒนาขึ้น...พร้อมไปกับความเคารพในตัวงานที่เราชื่นชอบจริงๆ...ผมคิดแบบนี้ฮะ ส่วน CD ผมยังมองเห็นความสำคัญของมันอยู่มากนะ อย่างน้อยมันก็คืออะไรที่จับต้องได้ มีคุณค่าทางใจมากกว่าการใช้งาน(ในยุคปัจจุบันนี้) แต่กับประเทศที่เปิดรับศิลปะแบบแง้มๆอย่างไทยเรา ถ้ารอซีดีลิขสิทธิ์อย่างเดียว ผมได้บ้าตายแน่ๆ ...ยกตัวอย่างผมจะซื้อ CD เพลงเกาหลีของศิลปินอย่าง Navi, Yozoh, Hwayobi หรือศิลปิน Non-idol อีกหลายๆคน แต่ประเทศเรา ศิลปินเกาหลีกลับถูกตีกรอบอยู่แค่ศิลปินไอดอลเท่านั้น(ผมคงไม่ต้องบอกว่าวงอะไร ใครบ้างหรอกนะ) วิธีการของผมก็คือโฟร์วีลแชร์น่นแหละ ส่วนตัวซีดีถ้า Want ก็ YesAsia เอา แล้วก็พยายามหลบศุลกากรด้วย ...เดี๋ยวมันตีภาษีมาเป็นซอฟต์แวร์สร้างตึก แทนที่จะเป็นสื่อบันเทิง -*- เขียนมาซะยาว แต่แก่นจริงๆของผมก็บรรทัด 4 นั่นแหละ จากคุณ : นายแบบเขมร เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:13:13

ความคิดเห็นที่ 48 เท่าที่อ่านมา หลายคนไม่เข้าใจ และไม่พยายามเข้าใจเลยแฮะ โกรธมาก่อนเลยก็หลายคน ทั้งๆ ที่บางกรณีหรือบางอย่างมันก็ไม่ได้ต้องเป๊ะๆ อะไรขนาดนั้น การพูดของพี่เค้าก็เป็นการพูดกว้างๆ อยู่แล้ว บางอย่าง ของมันหายากจริงๆ ไม่มีขายแล้ว มันก็ต้องเป็นการโหลดอยู่แล้ว บางอย่างเก็บสะสม มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เป็นเรื่อง common sense ที่ไม่ต้องเป็นดี้ นิติพงษ์ พูดก็ได้ ถามใครเรื่องพวกนี้ให้ตรงๆ ตามสิ่งที่ควรจะเป็น มันก็ต้องเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น จะมาศรีธนนชัยยิบๆ ย่อยๆ เอาเป๊ะๆ ทุกรูขุมขนกันทำไมเนี่ย ในเมื่อมันก็เป็นสิ่งที่เป็นครรลองที่มันน่าจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้วนี่นา แล้วจะโกรธ จะหงุดหงิดกันไปทำไมเนี่ย... เรื่องธรรมดาๆ แท้ๆ เลยนะ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 17:51:43

ความคิดเห็นที่ 49 จริงอย่างที่ #47 ว่ามาครับ มันเป็นอุดมคติที่น่าจะต้องเป็นอย่างที่สัมภาษณ์ ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เข้าใจได้ง่ายๆ เรื่องของการปรับตัวเข้ากับยุคสมัย ก็เห็นกันอยู่ว่าเค้าก็ปรับกันตามการกระทำผิดกฎหมายกันเรื่อยมา เอ้า มีซีดีผี มีการ copy ไฟล์เพลงกันเหรอ ก็ทำ drm ออกมา ซึ่งไม่เวิร์ค เอ้า ยกเลิกกันไป เอ้า งั้นเอางี้ละกัน โหลดถูกกฎหมาย มีให้แล้วนะ เอ้า บ่นว่าแพงไปเหรอ เอ้างั้นละราคา ทั้งค่ายเลย ราคาถูกกว่าข้าวแกงจานนึงอีก ... ก็ไม่ซื้อกันอีก เห็นไหมครับ เค้ามีการปรับตัวตามเทคโนโลยีและการทำผิดกันตลอดอยู่แล้ว พอจี้โดนใจดำหน่อย ก็บอกว่าไม่ปรับตัวเอง เอ๋า เป็นงั้นไปซะอีก ชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็ไม่ต้องไปหามาฟัง ถ้ามีคอนเสิร์ตด้วยเสียเงินไปดูอีกเพราะชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปดูคอนเสิร์ต ก็ง่ายๆ แค่นี้เอง ... ทำไมข้ออ้างเยอะกันจังนะ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 17:58:24

ความคิดเห็นที่ 50 ซื้อฮะ ไม่ค่อยดาวน์โหลดหลอก ส่วนมากก็ฟังตามวิทยุอะไรอยู่แล้ว เพลงไหนที่ชอบเป็นพิเศษก็ดาวโหลดจากค่ายเพลงมาโดยตลอด ยิ่งชอบหลายๆเพลงก็ซื้อทั้งอัลบั้มเลย จากคุณ : PIZINE เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:05:55

ความคิดเห็นที่ 51 เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดี ไม่มีใครปฎิเสธ แต่ถ้าใช้ผิดทาง มันก็จะเป็น "เทคโนโลยีเป็นพิษ" จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:06:27

ความคิดเห็นที่ 52 นึกถึงตอนเด็กๆที่อัดเพลงจากวิทยุจัง .......................................... จากคุณ : อะแฮ่ม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:09:08

ความคิดเห็นที่ 53 การโหลดเพลงจาก 4shared หรือโหลดบิตมา ไม่มีใครว่ามันผิดหรอกนะครับ แต่ถ้าโหลดมาแล้วชอบเพราะเพลงมันดี ไม่ได้ใช้เท้าทำ แล้วก็ไม่ได้พยายามไปหาซื้อ CD หรือซื้อออนไลน์ทางวิธีไหน อันนี้นั่นแหละ เป็นประเด็นที่เค้าพูดถึง ไม่รู้จะเข้าใจกันไหม เห็นโกรธนำกันมาก่อนหลายคนเลย จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:11:19

ความคิดเห็นที่ 54 Boxset อัสน วสันต์ทำออกมาขายนานแล้ว Mp3 แบบลิขสิทธิ์ ทุกค่ายก็ทำขายแล้ว อยู่ที่ว่าจะหากันไหม จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:36:23

ความคิดเห็นที่ 55 เพลง....ผมก็หาฟังได้จาก youtube และ จากเพลงประกอบอนิเม ที่ชาวญี่ปุ่นเขาอัดจากทีวีแล้วมาแจกจ่ายให้ดูกันนั่นแหละ แต่เพลงไหนผมชอบ ผมซื้อเก็บทุกชุด ไม่เคยบ่นเรื่องราคาอะไร ถือว่าอุดหนุนศิลปินที่รัก ที่ชอบ อยากให้เขาออกผลงานดีๆมาให้ฟังอีกครั้ง เพราะเมื่อถึงเวลาที่เขาออกมาบอกว่า ตอนนี้ได้ยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดแล้ว...กำลังใจทำเพลงมันมอดไปแล้ว เราอาจจะรู้สึกผิดในใจก็ได้.... ปล. ตอนนี้กำลังเศร้าครับ เพราะศิลปินที่ผมรัก อย่าง Hirano Aya ไม่ได้ทำงานเพลง ได้ออกจากค่ายเพลงไปแล้ว กำลังรอว่าสักวัน...เธอจะกลับมาทำงานเพลงต่ออีก จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 19:32:06

ความคิดเห็นที่ 56 #54 ไม่เอาแผ่นเจาะรูสิครับ เอาแบบทำใหม่ แพคเกจใหม่ รีมาสเตอร์ใหม่สิครับ แผ่นเจาะรู มันไม่น่าสะสมเอาเสียเลย จากคุณ : fff เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 21:56:17 A:124.120.200.112 X: TicketID:307598

ความคิดเห็นที่ 57 สำหรับคนสูงวัย จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 21:59:52

ความคิดเห็นที่ 58 นกนอกกรงตัวนี้พูดมากจัง ... ลัลล้ามากเลย ทำเพลงถึงไหนแล้วล่ะพี่ ... รีบหน่อย จะได้รีบซื้อ ... รีบเคารพ พักนี้ผมชอบฟังซีดีอยู่ 2 อัน บ่อยมาก - บีเอสโอบรรเลงสุนทราภรณ์ - The Merry Angel Opus 5 - พญาลำพอง ฟังแล้วรู้สึกได้เลยว่า คนทำเค้าไม่สนใจว่าคนฟังจะเคารพเค้าหรือไม่ ... ผมชอบครับ ... จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:25:17

ความคิดเห็นที่ 59 #58 แรงดีนะครับ ปล.เพลงที่ยกตัวอย่างมาเป็นตัวอย่างที่ดีครับ แต่ผมคิดว่าเป็นอีกกรณีนึง มันเฉพาะทางมากๆ เลยนะ ไม่เหมือนเพลงที่ฟังกันตามคลื่นวิทยุ เพลงทั่วๆ ไปที่คนเสพเยอะมาก แต่ขายได้น้อยมาก ต่างกับดนตรีเฉพาะทางที่คนฟังเค้าภักดีอยู่แล้วเช่นคุณไงครับ ที่ทำดนตรีออกมาในแนวทางเฉพาะทางมากๆ แต่ยังไงเสียก็มีคนฟังที่เป็นกลุ่มก้อนที่คอยอุดหนุนอยู่แล้ว ก่อนเอามาเปรียบเทียบ กะจะให้เจ็บแสบก็ยกตัวอย่างใกล้เคียงกันหน่อยก็ดีครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:03:16

ความคิดเห็นที่ 60 ประเทศเราสอนว่า การกระทำเยี่ยงศรีธนนชัย เป็นการกระทำที่เรียกได้ว่า ฉลาด เป็นการกระทำของคนเจ้าปัญญา เป็นการกระทำที่ต้องปลูกฝัง เด็ก หรือคนที่คิดแบบนี้ ทำแบบนี้ได้ คือคนฉลาด น่านับถือ น่านิยม ยกย่อง และเชิดชู มันก็เลยมีศรีธนนชัยเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าผมมีลูก ผมจะบอกว่า ศรีธนนชัยเนี่ย เลวซะยิ่งกว่าเลว เอาเปรียบคนอื่น ขี้เกียจ แต่อยากสบาย เจ้าเล่ห์ ปากก็เรียกร้องเอาแต่สิทธิ์ และเสรีภาพ แต่ไม่สนใจหน้าที่ แม้กระทั่งน้องของตัวเองก็ฆ่าได้เพียงเพราะ แม่สั่งให้เลี้ยงน้อง แต่ตัวเองขี้เกียจ ไม่อยากเลี้ยง คนแบบนี้ ไม่ควรเอาทั้งเยี่ยง และเอาอย่าง มีอยู่แถวๆนี้ เต็มไปหมด จากคุณ : ก๊าบเป็ด เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:36:02

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าทั้งคนทำเพลงและคนฟังเคารพซึ่งกันและกัน เราคงไปถึงจุดที่ Radiohead เคยทดลองทำไว้กับอัลบัม In Rainbows คือเปิดให้ทุกคน download ทั้งอัลบั้มได้จาก official website โดยสามารถเลือกได้ว่า เลือกเองว่าจะโหลดฟรีๆ หรือจะจ่ายเงินซื้อ ซึ่งจะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ตามความสมัครใจ ซึ่งผลก็คือ Radiohead ทำเงินจากอัลบั้มชุดนี้เฉพาะจากการให้ download นี้ได้มากกว่าอัลบั้มชุดก่อนหน้า ถึงแม้ว่าคนประมาณ 1 ใน 3 (ข้อมูลจากการ survey ไม่ใช่ official) จะไม่จ่ายเงินก็ตาม จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 04:25:24

ความคิดเห็นที่ 62 เคยอ่านข่าวนี้กันมั้ยครับ ว่าด้วยอุตสาหกรรมเพลงในจีน http://www.economist.com/node/17627557 จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 09:17:18

ความคิดเห็นที่ 63 ทำแล้วมีความสุขจัง ^ ^ ฝากผลงานเพลงด้วยครับแนว Post-rock, จากคุณ : gido Bairbella (blackdomon) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 09:18:29

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่าหลายๆ ท่านที่ว่ามา พาประเด็นเข้าไปประเด็นทางศีลธรรมมากกันเกินไปนะครับ ถ้าจะวิเคราะห์กันจริงๆ นี่เป็นประเด็นทางการเมือง มันมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ที่ค่อนข้างจะซับซ้อนเลย มันไม่ใช่ง่ายๆ แบบว่าคนทำเพลงเสียประโยชน์ คนฟังเพลงได้ประโยชน์ เจ้าของลิขสิทธิ์ (พวกค่ายใหญ่ๆ) เสียปละโยชน์แน่ แต่การเซลงเพราะเทคโนโลยีตรงนี้ก็ทำให้รายเล็กๆ ได้ประโยชน์ถ้ารู้จักเล่นดีๆ นักฟังเพลงที่ชอบสะสมก็เสียประโยชน์แน่ในภาพรวม แต่นักฟังเพลงที่ไม่ได้ชอบสะสมแต่ชอบฟังให้เยอะๆ ก็จะได้ประโยชน์ และมันก็มีอื่นๆ อีกมากมาย ต่างกันไปในแต่บริบทด้วย อุตสาหกรรมดนตรีในไทยที่วางบนกฏหมายลิขสิทธิ์อายุไม่เยอะเลยนะครับ เกิดมาแค่ช่วง 1980's เอง หลังจากอเมริกาตั้งศึ่งศตวรรษ และการเกิดของมันก็ทำลายวัฒนธรรมดนตรีที่เคยมีไปหลายอย่างเลยนะครับ (และแน่่นอนว่านั่นก็ไม่ได้ทำให้คน Happy) และขอโทษเถอะเวลาไทยรับเอากฏหมายลิขสิทธิมา นี่มันก็ไม่ได้รับเอาสปิริตของกฏหมายมาหมด เอามาสวมเอาดื้อๆ ไม่มีหลักการณ์ที่จะมาดุลอำนาจที่ชัดเจน Copyright มันต้องมากับ Fair Use ครับ มันเป็นตัวถ่วงดุลกัน ในอเมริกามันระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเลย กฏหมายไทยก็เอามาจากอเมริกา แต่สปิริตตรงนี้มันไม่มี ฝ่ายหนึ่งเลยอ้างสิทธิ์กันไป อีกฝ่ายก็ไม่รู้จักข้ออ้างที่ชอบธรรมใดๆ แต่ก็โหลดไป โหลดมันไม่เคยเท่ากับการขโมยครับจนมันมีคำตัดสินแรกของศาลอเมริกาว่าการโหลดมันละเมิดลิขสิทธิ (คร่าวๆ คือตอน Napster แพ้คดี) คดีก้ำกึ่งที่กฏหมายระบุไม่ชัดแบบนี้มันขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล ดุลพินิจศาลในแต่ละยุคก็ไม่เหมือนกันครับ ถ้าคดีแบบนี้ไปโผล่ในบรรยากาศทางสังคมช่วง 1960's-1970's ผลการตัดสินอาจเป็นอีกแบบก็ได้ ผมยังยืนยันอยู่ว่าเวลาคุณพูดถึงลิขสิทธิแต่คุณมองแต่เรื่องสิทธิแต่ด้านเดียว ไม่มองตัวสปิริตของกฏหมายซึ่งต้องมองผลประโยชน์สาธารณะผ่านหลัก Fair Use ด้วย มันคุยกันไม่ได้หรอกครับถ้าคุณไม่ยอมรับความชอบธรรมแม้แต่การอ้างสิทธิของอีกฝ่ายแล้วอ้างแต่สิทธิของคุณฝ่ายเดียว ทั้งนี้ผมไม่ได้จะบอกว่าการละเิมิดทุกอย่างมันเป็น Fair Use นะครับ มันต้องมีหลักบางอย่างอยู่ จะปั๊มแผ่นผีขายงี้ผมว่ามันก็คงไม่มีใครในโลกยอมรับว่าเป็น Fair Use แต่ไอ้เรื่องโหลดบิตหรืออะไรพวกนี้มันเถียงกันได้เยอะมากและก็ยังเถียงกันอยู่ในระดับโลกเลยว่ามันเป็น Fair Use จริงๆ คุณอยู่กับ Fair Use มาตลอดแหละครับ ไม่งั้นคุณเอารูปที่คุณเจอในเน็ตมาโพสต์ เอาคลิป Youtube มาโพสต์ มันก็ละเมิดทั้งนั้นแหละครับถ้าไม่มีหลักนี้อยู่ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 09:42:59

ความคิดเห็นที่ 65 บทความ 'ขี่' กระแสดิจิตัลฟังเพลง ของ อนันต์ ลือประดิษฐ์ ครับ ผมชอบมุมมองเขานะครับ คือผมว่าคนในสื่อเขาเป็นคนพูดประเด็นนี้กลางๆ สุดนะ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20110715/400329/%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87.html จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 10:01:44

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นบทความที่ดีมากครับ คุณ FxxkNoEvil จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 12:06:13

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 14:42:34

ความคิดเห็นที่ 68 คห 65 บทความที่โควตมานั้น เราก็เห็นด้วยอยู่หลายประการ ทว่า ไม่เห็นจะมีทัศนะจากคนรุ่นใหม่ที่คลั่งใคล้เกาะติดกับการดาวน์โหลดเพลงมาฟังเลย มีแต่คนยุคค่อนๆกับติดกับ Physical products (คือต้องมีซีดีอยู่กับมือ ถึงจะฟังเพลง) เลยรู้สึกว่าเป็นบทความที่ไม่ค่อยจะสมดุลสักเท่าไร อันนี้ ทัศนะส่วนตัวนะ จะมีใครค้านก็ไม่ว่ากัน จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:44:44 A:49.49.111.83 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 69 พี่ดี้ครับ ผมว่ายากแล้วครับ ผมว่าการต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์ ควรคิดว่าจะทำยังไงกับมันมากกว่า ถ้าคุณมีิเงิน หนึ่งร้อยบาท เก็บไว้เลี้ยงข้าวลูก กะซื้อแผ่นฟังเพลง ผมว่า คนส่วนใหญ่เลือกข้อแรก เช่น สติฟ จ๊อบ ที่เอาข้อดีของไฟล์ดิจิตอล ที่ทรานเฟอร์ไปมาง่าย และเร็ว มาเป็นข้อดีของไอพอด ไอโฟน ในปัจจุบัน เราน่าจะมาช่วยกันคิดว่าเราจะทำอย่างไรกับไฟล์ดีิจิตอล จะหาเิิงินกับมันอย่างไร เช่นโหลดลงโทรศัพท์ หรือพัฒนาระบบการซื้อขายเพลงดิจิตอล ขายเพลงผ่านไอทูน รายละเอียดศิลปิน ก็ทำในรุปแบบ อิแมกกาซีน ขายไปเลย ทำให้มันมีคุณค่าจริง ๆ ในรุปแบบดิจิตอล ดีกว่าการย้อนกลับไปพิมพ์ปกเทปเหมือนสมัยก่อน ของเก่าเป็นสิ่งที่ดี ควรรักษา แต่เมือมันยากเกินเยียวยา ควรจะอยู่กับปัจจุบันมากกว่าครับ ยังไง คนเราก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพ การตอบสนองความต้องการของตลาดน่าจะสำคัญพอๆ  กับ คุณค่าทางศิลปะ หรือบ้างทีก็มากกว่า  คหสต จากคุณ : ไม่ชอบโหลด แต่ก็ไม่อยากเสียตัง (t_more_t) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 20:56:25

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบ คตที่ 69 สตีฟ จ็อบ แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงอย่างไร เข้าทฤษฎีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดการคัดสรรค์โดยธรรมชาติของดาวิน โลก เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ ใครปรับตัวไม่ได้ก็ตายสถานเดียว คนทำมักจะออกมาวอนคนฟัง มากกว่าคนฟังที่ออกมาวอนคนทำเพลง เมื่อเพลงไม่เพราะก็เปลี่ยนไปฟังเจ้าใหม่ซะ ดังนั้นถ้าปรับตัวไม่ได้คนทำตายก่อนแน่นอนครับ ที่ต้องปรับเปลี่ยนหนักกว่าก็คือคนทำต่างหาก ในเมื่อคนโหลดฟรีมากแบบนี้ คุณ ดี้มาประนามเรื่องศักดิ์ศรีอยู่ได้ ก็รู้อยู่ว่ามันไม่สน เอาอย่างนี้คุณจัดฮอลลแสดง สดขึ้นมาให้คนดูเสียเงินเข้าไปดูการแสดงสดทุกสัปห์ดา เหมือนรายการ HBD สมัยก่อน อรรถรสแบบนี้มันซื้อกลับบ้านไม่ได้หรอก ปล่อยคนมันโหลดฟังจนอิ่ม ไปเลย ไม่ต้องมาวอนชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ซื้อ มันไม่ซื้อหรอก จากคุณ : beeboyguitarpop เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 22:10:48

ความคิดเห็นที่ 71 ศิลปิน มันค่อนข้างห่างจากผู้ฟังมากหละมั้งครับ มันเลยทำให้ไม่มี  Brand Loyalty ความภักดีในตราสิน ค้า (Brand Loyalty) คือ การที่ผู้บริโภคมีทัศนคติที่ดีต่อตราสินค้าหนึ่งไม่ว่าจะเกิดจากความเชื่อมั่น การนึกถึง และหรือตรงใจผู้บริโภค และเกิดการซื้อซ้ำต่อเนื่องตลอดมา จากคุณ : Nabi_oppa เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 01:23:48

ความคิดเห็นที่ 72 ยี่ห้อ นายดี๊ เนี่ยนะ ถ้าตอนแรก ยังผลงานชุด หาดทราย สายลม สองเรา ของป้าเบิร์ด อุ้ย ป๋าเบิร์ด เราฟังนะ ชอบดี ครั้งอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่ผลงานแต่งช่วงหลังๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ้ยอย่าให้เซด ไม่ต้องพูดว่าจะโหลดหรอก แค่ฟังก็ไม่อยากคิดแล้ว คงเหมือน Roland Barthes ว่าอ่ะนะ The author is dead ในกรณี นายดี้ เนี่ยต้องเปลี่ยนเป็น The composer is (totally) dead น่าจะเหมาะกว่า อันนี้ คหสต ใครไม่ถูกหู ต้องขออภัย จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 01:57:47 A:49.49.111.83 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 73 อันนี้ผมลองเสนอความคิดดูนะครับ ถ้าค่ายเพลงลองทำแบบนี้ดูคิดว่าเป็นไงครับ ผมว่าก็ไม่เลวนะ ก็ทางค่ายเพลงลองปล่อยเพลง mp3 ให้ download ฟรี แต่เป็นไฟล์ Bit Rate ต่ำๆซัก 64 Kb/s หรือจะปล่อยโหลดเป็น mp3 เป็นเพลงตัด แบบไม่เต็มเพลงให้โหลดฟรีไป ถ้าใครอยากได้ mp3 คุณภาพเสียงดี หรือแบบเต็มเพลง ก็เสียตังค์โหลด หรือไปอุดหนุน CD เพลงลิขสิทธิ์เอา จากคุณ : TR.Evolution (Tomorrow Research) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 05:34:24

ความคิดเห็นที่ 74 คนบางจำพวกเนี่ย ต้องโดนเองถึงจะเข้าใจ แหม คนเขากว่าจะสร้างอะไรมาอย่างนึงได้มันไม่ใช่แค่ 2-3 วินาที เค้าใช้แรงกาย แรงใจ สมอง แล้วเค้าก็มาถูกคนอื่นเอาผลงานเค้าไปฟรีๆเนี่ยนะ คิดได้ไงอะเรื่องดาวน์โหลดฟรี คนที่บอกว่าให้ดาวน์โหลดมาฟังก่อน ถ้าดีแล้วจะซื้อซีดีเนี่ย สมัยนี้คนส่วนใหญ่เค้าฟังเพลงโดยการเอาซีดีไปใส่วิทยุหรอ สมัยนี้คนซื้อซีดีน้อยจะตาย นอกจากจะเป็นวีซีดี คาราโอเกะ เค้าถึงขายโดยการดาวน์โหลด ไม่ใช่หรอ แล้วอีกอย่าง ถ้าอยากจะลองฟังเนี่ย เข้าไปฟังที่เว็บโดยตรงเลยดีกว่าไหม มีให้ฟังเต็มเพลงเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดของเถื่อนมาฟัง ถ้าฟังแล้วเพราะก็ซื้อเพลงนั้นมาฟัง ไม่ต้องไปซื้อทั้งอัลบั้มแล้วฟังอยู่ 2-3 เพลง แบบนี้ดีกว่ามั้ย ?? ปล. อีกเรื่องนะ ที่บอกว่า "เอาตังไปซื้อข้าวกินดีกว่ามาซื้อแผ่นเพลงฟัง" เนี่ย คนที่พูดแบบนี้ ต้องไม่ใช่พวกที่โหลดของเถื่อนมาฟังด้วยนะ เพราะถ้าคุณไม่คิดจะซื้อของแท้ คุณก็ไม่สมควรขโมยผลงานคนอื่น ของมีไว้ขาย ไม่ได้มีไว้ขโมย อ่านคอมเม้นส่วนหนึ่งแล้ว สรุปได้ว่า เป็นข้ออ้างเพื่อโหลดของฟรี โดนขโมยผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเองเมื่อไร จะรู้สึก จากคุณ : Disciple de Alexandra Cabot เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 07:05:36

ความคิดเห็นที่ 75 เคยเห็นห้องน้ำที่ต้องจ่ายตังค์ค่าเข้าโดยที่ไม่มีคนเก็บตังค์ไหมครับ สำหรับสังคมที่มีวัฒนธรรมที่ดี เคารพในหน้าที่ของตนเองที่เป็นผู้ใช้บริการ เขาก็จะหยอดเงินลงตู้ที่หน้าห้องน้ำตามที่เขียนไว้ที่ป้าย การฟังเพลง ณ ปัจจุบันก็เหมือนกัน จะฟังก็ต้องรู้สึกสำนึกที่จะจ่ายเงินครับ เข้าใจว่าสังคมไทยมันยังไปไมุ่ึถึงขนาดนั้น แต่สิ่งนี้เป็นอนาคตที่พวกเราควรจะร่วมมือร่วมใจมีสำนึกที่ดีร่วมกัน จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 08:35:43

ความคิดเห็นที่ 76 ยังไงดีอะครับผมก็ซื้อนะที่ชอบมากๆอะ แต่บางครั้งนะ ชอบมากเลยเพลงเนี่ย แต่ทั้งอัลบัม มีแค่เพลงนี้เพลงเดียวที่เข้าท่าที่เหลือกากมาก เลยโหลดเอาละกัน จากคุณ : Dector เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 10:46:03

ความคิดเห็นที่ 77 มันอยู่ที่จิตสำนึกแค่นั้นเอง ถ้าคนที่โหลด ทำไฟล์โหลดเหมือนวิทยุคือฟังแล้วชอบก็หาซื้อมา ศิลปินก็อยู่ได้ จะไม่ให้ไม่โหลดเลย มันก็ไม่ได้ แต่จะให้ซื้ออย่างเดียว ไม่ให้ลองฟังกัน มันก็ไม่ใช่ (อย่างตามร้านซีดี ยุครุ่งเรื่อง เค้าก็จะมีแผ่นตัวอย่างให้ฟังก่อน) คนไทยเรา ที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้ทำอะไรเอง เลยไม่ใส่ใจเรื่องลิขสิทธ์ แต่พอมาโดนเอง ถึงได้สำนึก อย่างเช่นเสื้อสโมสรบอลไทย จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 11:19:42

ความคิดเห็นที่ 78 ประเด็นมันอยู่ที่ เหตุผล มากกว่าครับ ว่าทำไมคุณต้องซื้ออัลบั้มมาฟัง อย่างสมัยก่อนที่มันไม่ีมีการโหลด โอกาสที่จะได้ฟังเพลงก็จากวิทยุ บางทีมันไม่จุใจ ต้องรอดีเจเปิด เลยต้องไปหาซื้อเทปหรือซีดีมาฟัง ส่วนแผ่นแวมไพรซ์มันก็ตอบโจทย์ได้หน่อยนึงสำหรับคนที่คิดว่าราคา 150 บาท เพือ่เพลง 10 เพลงมันไม่คุ้ม แต่ก็แลกมาด้วยโปรดักชั่นห่วยๆของแผ่นไรท์กับปกอัดรูป มันทดแทนในส่วนซีดีไม่ได้ ภาพสวยหรือเนื้อร้องก็ไม่มี พอมายุคที่มันดาวโหลดได้ ผมว่า คนต้องการแค่ฟังเพลงน่ะครับ ในเมื่อความต้องการถูกตอบสนองแล้ว ทำไมต้องซื้อซีดีมาฟังอีก ในเมื่อเพลงเหมือนกันเลย เนื้อเพลงหรือภาพศิลปินก็สามารถหาดูได้ตามเว็บ จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ส่วนคนที่ซื้อก็คือพวกที่อยากสะสมสิ่งที่จับต้องได้ และที่สำคัญคือต้องมีกำลังทรัพย์ เพราะของพวกนี้จัดว่าฟุ่มเฟือยนะครับ แล้วทกวันีน้พฤติกรรมการฟังเพลงเปลี่ยนไปด้วย หลายคนไม่มีสเตอริโอ ส่วนมากฟังเพลงผ่านคอมกับลำโพงที่แถมมาเท่านั้น ดังนั้นเรื่องคุณภาพเสียงจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย (สำหรับคนส่วนใหญ่นะครับ ไม่ใช่นักฟังเพลง) ดังนั้น mp3 เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุดครับ ส่วนที่มองว่า ถ้าชอบ = ต้องซื้อหรือ Support ผมมองว่ามันออกจะเป้นแนวคิดประเภท "เอื้ออาทรณ์" ไปหน่อย คือถ้าไม่ช่วยกันซื้อก็เจ๊ง เจ๊งเสร็จก็ออกมาบ่น ด่าว่าไม่มีจิตสำนึกบ้างล่ะ อะไรบ้างล่ะ ทำแบบนี้มันไม่ได้อะไรครับ คนที่ไม่ซื้อเขาก็ยิ่งต่อต้านไปใหญ่ นักดนตรีหรือคนที่ทำงานในธุรกิจดนตรีต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมของคนฟังเพลงในปัจจุบันนี้ และหาทางเอาตัวรอดไปตามสภาพครับ จะมามองว่าคนพวกนี้ไม่มีจิตสำนึกไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าคุณมองว่า คนฟังเพลงทุกคนต้องมาเอาอกเอาใจด้วยการเทเม็ดเงินให้คุณเพื่อแลกกับเพลงที่ฟังเหมือนสมัยก่อน มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ต่างประเทศเขาก้แก้ปัญหาด้วยการออกซีดีแบบจำนวนจำกัด มีของแถมอะไรก็ว่าไป หรือในกล่องซีดีอาจจะมีให้รหัส access เข้าไปเพื่อเล่มเกมส์ชิงบัตรคอนเสิร์ต Meet and Greet หลังเวทีสำหรับศิลปินคนโปรด มันมีลุกเล่นมากมากที่เขาเอามาเพื่อเอาตัวรอด ศิลปินก็หารายได้จากการขาย Merch หรือออกทัวร์ จะมาหวังยอดขายซีดีคงไม่ได้แล้ว จากคุณ : ์Nekro เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 12:58:45 A:124.120.176.186 X: TicketID:324721

ความคิดเห็นที่ 79 Haman Lee มือกีตาร์วง Dragonforce พูดเกี่ยวกับการดาวน์โหลดเพลงว่า ดนตรี มันกำลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้น คือนักดนตรีเล่นดนตรีเพื่อให้ทุกคนฟัง เพลงเป็นของ ทุกคนทุกชนชั้น สมัยก่อนคงไม่มีนักดนตรีคนไหนบอกคนฟังว่าถ้าไม่ให้เงินแน่จริง อย่าฟัง .....อุตสาหกรรมและการพานิชย์ที่ค้าขายกับงานศิลปะก็รู้กันอยู่ ชวนปวด หัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จากคุณ : beeboyguitarpop เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 13:51:39

ความคิดเห็นที่ 80 #78 ผมว่าคนทำเพลงเข้าใจนะครับ รู้เลยแหละว่าคนฟังเพลงเป็นแบบไหนบ้าง แต่ทางออกมันหาลำบากเหลือเกิน จะให้ทำอย่างที่แนะนำมาว่า ออกอัลบั้มนิดเดียว แต่พิเศษหน่อย ก็ทำกันมาแล้ว ยอดขายก็ตก จะให้มีอะไรพิเศษๆ เพื่อชิงรางวัลนั่นๆ นี่ๆ ก็ทำกันมาหมดแล้ว หรือแม้กระทั่ง meet & greet ก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะศิลปินก็ต้องปรับตัว เอาตัวรอดโดยการหางานจ้างกันมากขึ้น ผู้คนก็พบเจอกับศิลปินกันบ่อยอยู่แล้วตามงานจ้าง ทำไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา มีแต่เพิ่มต้นทุนทั้งนั้น เดี๋ยวผมว่าทางออกว่าควรปรับตัวอย่างไร มาลองคุยกันอีกกระทู้กันดีกว่า จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 14:21:04

ความคิดเห็นที่ 81 มาออกไอเดียกันครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 15:53:14

ความคิดเห็นที่ 82 เทคโนโลยี หรือ กระแส ไม่ผิดครับ ผู้บริโภคก็ไม่ผิด แต่วิธีคิดบางอย่างมันผิด หลายคนเลือกที่จะนึกถึงสิทธิหรือผลประโยชน์ของตัวเองมาก่อน เพราะคิดว่า ทุกสิ่งในโลกต้องเป็นไปตามที่ใจเราอยาก หรือ ทุกสิ่งในโลกต้องตอบสนองในแง่ของความสะดวกสบายของเรา ไม่เฉพาะวงการเพลงครับ ทุกวงการเลย หากมองกันในภาพรวม มองถึงจุดใหญ่ๆ จะเห็นว่า ที่กำลังปรับตัว ไม่ใช่ผู้บริโภคนะครับ แต่เป็นผู้สร้างสรรค์ทั้งสิ้น จากคุณ : Norma Jump เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 16:55:27

ความคิดเห็นที่ 83 และจริงอย่างที่มีคนกล่าวว่า ลิขสิทธิ์ มันเป็นธงที่คนบางคนตั้งขึ้นมาเองแท้ๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว ธงผืนนี้มันไม่มีอยู่บนโลก ถ้าคิดแบบนี้ก็ใช่เลยครับ มันคือแนวคิดที่ถูกต้องจริงๆ คนเราตั้งบรรทัดฐานต่างๆนานากันเองทั้งนั้น แต่ถ้าคิดในอีกแง่นึง บนโลกของความเป็นจริง ในชีวิตจริงของมนุษย์โลก มีใครสร้างสรรค์งานออกมาเพื่อให้คนหยิบเอาไปใช้ได้ฟรีๆบ้างครับ ถ้าไม่ใช่ศิลปินที่ทำงานเพื่อการแชร์จริงๆ ศิลปินอินดี้ทำงานเพื่อความสนุก ไม่เน้นขาย แต่ตัวเองก็ต้องไปทำงานอย่างอื่นเพื่อหาเงิน ถ้าเป็นความตั้งใจของผู้สร้างสรรค์ที่จะเผยแพร่งานตัวเอง ก็ไม่เป็นไรอันนั้นเข้าใจได้ แต่ผมคิดเอาจากสิ่งที่ได้รู้มา จากประสบการณ์ต่างๆ จากการสั่งสอน ผมคิดว่าการที่เราจะครอบครองสิ่งของของผู้อื่น ถ้าเจ้าของไม่ได้เป็นคนหยิบมาใส่มือให้เราเอง เราก็ควรจะมีอะไรแลกเปลี่ยนให้เขาคืนไปบ้างครับ ถ้าให้เห็นชัดๆง่ายๆก็คือ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเอาของเขาครับ อยากได้ก็อดทนไปก่อน มีเงินค่อยซื้อ เพลงไหนที่ชอบ ที่อยากได้ แต่ไม่มีตัง ก็อาศัยฟังฟรีไปก่อน มีเงินก็ค่อยเสียเงินซื้อ อย่าเอามาครอบครอง ไอโฟน บีบี คุณอยากได้แต่ยังไม่มีเงิน คุณจะไปที่ช็อปแล้วบอกคนขายว่า ขอเอาไปใช้ก่อนนะ มีเงินเดี๋ยวจะกลับมาจ่าย มันได้หรือเปล่า เทคโนโลยี มันช่วยเราได้เยอะครับปัจจุบัน มันทำให้ชีวิตเราสบายขึ้นเยอะ อยากได้อะไรก็ได้ คุณเอ๋ นรินทร ณ บางช้าง เคยพูดว่า คนสมัยนี้ยังรู้สึก “หิว” กันอยู่หรือเปล่า รู้ไหมว่าความรู้สึกหิวเป็นยังไง เพราะสมัยนี้อยากกินอะไรก็กิน ถึงเวลาก็กิน ทุกอย่้างมีให้กิน จนไม่รู้ว่า “ความหิว” จริงๆมันเป็นยังไง ไม่เคยปฏิเสธเทคโนโลยีนะครับ ผมเองก็ใช้มันอยู่ ผมเองก็ยังโหลดอยู่ แต่ผมไม่เคยแชร์ ไม่เคยแบ่งใครเลย ผมสำนึกตัวอยู่ตลอดว่า ที่ตัวเองทำมันกำลังละเมิดสิทธิที่เจ้าของตัวจริงพึงได้อยู่่ ผมเลยเลือกที่จะโหลดเองคนเดียว ไม่บอกใคร แม้แต่เพื่อนหรือใครก็ตาม ผมพยายามจะไม่บอกใครว่าผมโหลดอะไรจากไหน ผมถือว่าถ้าตัวเองไม่ช่วยสร้าง และกำลังทำลาย ก็ไม่ควรจะบอกให้คนอื่นมาช่วยทำลายด้วยกัน วงไหนเพลงไหนน่าสนใจ จะบอกแค่ชื่อวงชื่อเพลงให้เพื่อนไป ให้มันไปหาเอาเอง ผมจะไม่ให้ลิงค์มัน ถ้าวงที่ฟังมีแผ่นขายก็จะซื้อ ไม่มีในไทยก็สั่งอิมพอร์ตเอา ทั้งโหลดทั้งซื้อ แต่ก็ไม่เคยบอกว่าที่ตัวเองทำมันถูก หรืออ้างว่าเป็นสิทธิของเราที่เราสามารถทำได้ ยอมรับเสมอ ถ้าจะมีใครด่าว่าเอ็งมันเลว ก็จริงครับ เลวจริงๆ แต่เกือบทุกครั้งที่โหลด ก็จะไปตามซื้อแผ่นในเวลาต่อมา ผิดกับบางคนที่โหลดกระจาย ชอบหรือไม่ชอบก็โหลด ไอ้ที่ไม่ชอบก็ยังเก็บไว้อีกนะ ประดับฮาร์ดดิสเล่นๆ แม้จะไม่ชอบ ไอ้พวกนี้ทุเรศยิ่งกว่าอีกครับ ปากบอกไม่ชอบแต่ไปเก็บของเขาเอาไว้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 17:18:48 จากคุณ : Norma Jump เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 17:17:13

ความคิดเห็นที่ 84 "มีใครสร้างสรรค์งานออกมาเพื่อให้คนหยิบเอาไปใช้ได้ฟรีๆบ้างครับ ถ้าไม่ใช่ศิลปินที่ทำงานเพื่อการแชร์จริงๆ ศิลปินอินดี้ทำงานเพื่อความสนุก ไม่เน้นขาย แต่ตัวเองก็ต้องไปทำงานอย่างอื่นเพื่อหาเงิน" ปัจจุบันคนพวกนี้มีเยอะ แล้วน่าจะเป็นประชากรส่วนใหญ่ของคนผลิตศิลปวัฒนธรรมในโลกนะครับ ที่ผมเรียกร้องให้ปฏิรูปลิขสิทธิ์ก็เพราะมันน่าจะเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่มากกว่านี่แหละครับ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 17:52:50

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านจากคนไทยหลายคน พิมพืในนี้ว่า การโหลดไม่ใช่สิ่งผิด......... แค่นี้ก็สะท้อนสันดารคนไทยในปัจจุบันแล้วละครับ ส่วนตัวล้วนๆ คนจะโหลดอย่าอ้างอะไรให้มันดุดีครับ คุณโหลดก็ยอมรับว่าโหลด มีปัญญา(ซึ่งเชื่อว่ามี) ก็ซื้อเขาบ้าง เดือนละแผ่น คนละ 125 บ้าง 200 บ้าง มันก็อยู่ด้วยกันได้ เมื่อคนไทยคิดแต่จะเอาของเขา(ในแง่นี้คือการโหลด) มันก็ได้มา ซึ่งเพลงง่อยๆ อย่างที่หลายๆคนในห้องนี้ด่ากัน(แต่ก็โหลดมาฟัง) พวกโหลดบิต ก็ยอมรับนิดว่ามันผิด ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลยโหลดบิตเนี้ย แต่ช่วยกันซื้อมันทำได้นี้ครับ เออหนังเรื่องนี้ โหลดุสนุกดีวะ ลดราคาเหลือ 199-99 บาท ก้ช่วยกันซื้อหน่อย ยิ่งหนังไทย ผมอยากให้ช่วยกันนะ เอากันตรงๆนะ เป้นเคสที่ผมคิดได้แล้วก็แปลกในใจวะ มีแต่คนด่าหนัง พจน์  อานนท์ว่าห่วย งั้นงี้  แต่เชือ่ไหมว่า วีซีดีมาวันแรก ผมเล่นเว็บบิตอยู่ 4-5 เว้บ ยอมโหลดรวมกัน เป็นหมื่น ผมว่าคุณพจน์กับบ. ที่ผลิตออกมา เขาก็น่าจะได้ อย่างน้อยเช่าดู 30 บาท(ร้านเช่าก็มีเงินจ่ายค่าสิทธิ์ให้บ.หนัง)  ซื้อแ่ผ่นดูสนองนีดส์ตัวเอง เขาก็ได้ คุณ 100บาท เขาควรจะมีสิทธิ์ได้ไหม  หรือว่า คิดแต่จะเอากรูจะเอา เอาฟรีด้วยใครจะทำไม ด่ากันทั้งนั้นแต่โหลดฟรีดูไหม ดู....นี้หรือเปล่า คือสันดารคนไทย ถ้าใช่ เปลี่ยนเถอะครับ ผมคงบังคับใครไม่ได้ บิตผมก็โหลดแผ่น เพลงหนังผมก็ซื้อ  ผมเชื่อว่าการอุดหนุนเขาแม้แต่เพียงแผ่นเดียว มันก็สามารถทำให้ ทุกคนขยับได้ เดินได้ คลานได้(ก็ยังดี) ไม่ชอบนิสัยคนไทย ตรงที่  กรูจะเอาฝ่ายเดียว กรูต้องได้ ฟรีด้วยยิ่งดี ไม่คิดจะ"ให้" ดีแต่จะ"เอา" จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 18:48:04

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้าเราเป็นบริิษัทเพลง สิ่งที่เราจะทำคือ เว็บไซด์ที่เป็นhubเพลงขนาดใหญ่ มีเพลงให้โหลดอย่างง่ายดาย ไม่ใช่หาในgoogle แล้วเจอแต่4แชร์ หรือ เวลาจะโหลด ต้องกด* # ทั้งหลายผ่านมือถือ เราอ่ะคนนึงที่โหลดเพลงผ่านคอม จากนั้นผลิตmusic card ขายใน7-11 เหมือนบัตรเติมเงินมือถือเอาไว้โหลดเพลง เวลาโหลดเพลง ให้เอาเรตติ้งจากการโหลดเพลงมาเป็นชาร์ตเพลง เพลงละ5บาท-15-20 ไรก็แล้วแต่ สร้างaccount สำหรับโหลดเพลง โดยเจ้าของคนเดิม เคยเสียเงินไปแล้ว โหลดเพลงเดิมซ้ำได้อีกฟรี ที่เหลือ เป็นจิตสำนึกของผู้บริโภคล้วนๆ ปล. ไม่รู้เราว่าเป็นเราคนเดียวเปล่า ที่รู้สึกว่า จะโหลดเพลงไทยที่ชอบแบบมีลิขสิทธิ์ ผ่านคอมแล้วไม่รู้จะไปโหลดที่ไหน แต่ปกติแล้วเราก็ไม่ค่อยฟังเพลงไทยอ่ะ จากคุณ : sheeporange เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:49:41

ความคิดเห็นที่ 87 ขอเข้ามาเคลียร์หน่อยนะครับ กับ คห 59 .... ขอบรรยากาศแบบสบายๆ ... แบบนั่งจิบอะไรกึ่มๆ   แบบคนไม่รู้จักกัน แต่ก็คุยกันได้ ... ขัดแย้งกันได้ แต่ก็ไม่ต้องใส่อารมณ์หรือท้าตีท้าต่อยกัน ... ขึ้นต้นยาวก็เพราะจะบอกว่า ผมให้เกียรติคุณกึ่งครับ ... ในฐานะที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมแบกกล้องไปถ่ายรูปคอนเสิร์ตครับ ... และในฐานะที่แสดงให้เห็นความพยายามอะไรหลายๆอย่างในสังคมเฉลิมกรุงนี้ .... ซึ่งผมชื่นชม แม้จะไม่เห็นด้วยทั้งหมด ... ถ้าเป็นคนอื่นผมเข้ามาสั้นแน่ ... แต่นี่ให้เกียรติกัน เลยขอเขียนยาวครับ ถ้าคุณกึ่งหรือใครคิดว่า คห 58 ของผม ‘แรง’ … ทำให้หงุดหงิด เคือง  ... ผมขออภัยครับ ผมเขียนไปโดยอ่านกระทู้แบบหยาบมาก ... และมาอ่านในท้าย คห 57 ... ตอนที่พี่ดี้เปรียบตัวเองเป็นนก ... ปรกติถ้าผมไม่อ่านอะไรละเอียดจะไม่เขียนอะไรแรง บวกกับอารมณ์ผมที่เพิ่งทราบตอนเข้ากระทู้นี่แหล่ะว่า พี่ไก่ Kai-Jo Brothers เสียชีวิต  เศร้าครับ แม้จะไม่รู้จักกัน .... เป็นวงที่ผมชอบมาก แล้วถ่ายคอนแรกๆเลย ก็วงนี้ครับ  ... ถ้าคลิกไปที่ my blog ของผม จะเจอรูปพี่แก๊ป-ทีโบน ... เป็นคอนที่ปาย ผมเจอและถ่าย Kai-Jo ครั้งแรกก็ที่นี่ ... เสียงกีต้าร์พี่ไก่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมประทับใจครับ ผมก็ขอถ่ายโทษความผิดเล็กๆของผม โดยการอ่านกระทู้ให้ละเอียด และออกความเห็นเพิ่ม 2-3 อันนะครับ .... อันแรกเลย ..... ผมหมั่นไส้พี่ดี้ครับ ..... จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:57:38

ความคิดเห็นที่ 88 ก่อนพูดเรื่องหมั่นไส้ ขอเคลียร์ข้อความใน คห 59 ต่อนิดนึงครับ ... คือคุณกึ่งคิดว่าผมเป็นอย่างนั้น ซึ่งผมไม่ใช่ ผมก็ขอแก้ครับ ‘คนฟังเค้าภักดีอยู่แล้วเช่นคุณไงครับ’ ผมไม่แน่ใจว่าคำว่าภักดี ของคุณกึ่งกับผมจะตรงกันหรือเปล่า ... แต่มาใช้กับผม หรือใครมาใช้กับผม ผมไม่รับครับ ... ผมเสียวครับ .... ภักดีนี่มันคือถึงขั้นไหนครับ ... ถ้าต้องมีเยอะ มีครบ แตะต้องไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้ ... ต้องค่ายนั้น ค่ายนี้ ต้องเป็นแฟนคลับ ...ต้องไทยเท่านั้น ต้องชาตินี้เท่านั้น .... etc….. สมัยผมแบกกล้องถ่ายเอเอฟ อยู่ท่ามกลางเหล่าผู้ภักดีระดับสาวกตัวแม่ ... โอ้ ... ไม่รู้จะบรรยายยังไง ... ผมฟังเพลงเยอะ ซื้อซีดีเยอะ  ได้ทุกแนวครับ ... แต่ผมไม่ได้ภักดีศิลปินคนไหนเลยครับ บีเอสโอบรรเลงสุนทราภรณ์ – ผมรู้จัก Bangkok Symphony Orchestra แต่ไม่ได้เกาะติดอะไร ... ซิมโฟนี่ เพิ่งหัดๆฟัง ... สุนทราภรณ์ ??? ผมมีซีดีไม่น่าจะเกิน 2 แผ่น อยู่หลืบไหนก็ไม่รู้ ไม่ค่อยได้ฟัง ซีดีอันนี้ ผมซื้อเพราะเห็นชื่อ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย กับ สุภัทรา โกราษฎร์ ที่ปกหลัง ... เธอร้องคนละ 3 เพลง ... 2 ชื่อนี้บนแผ่นซีดีเดียวกัน ไม่เคยเจอ ... สำหรับผมเหตุผลพอแล้วครับ The Merry Angel Opus 5 – แก๊งส์นี้เล่นเครื่องดนตรีไทย มีทั้งใส่กันไฟแลบ ทั้งสีซออ้อยอิ่ง งดงามครับ ... แต่ผมไม่มีชุด 4 ... เค้าเอาเพลงคลาสิกจีนมาเล่น ผมขอผ่านครับ .... Kai-Jo Brothers ที่ชอบมากมาก มีเกือบทุกชุด ยกเว้นอันที่เล่นแบบ dub …. ผ่าน ถ้าผมจะภักดี ขอภักดีกับเสียงเพลงครับ .... ผมชอบเสียงเพลง ... น่าจะระดับเข้าเส้น ผมฟังง่าย ซื้อง่าย ฟังอะไรก็มักจะเพราะ เคยลาพักร้อนอยู่บ้านเพื่อจะฟังเพลง เคยชอบตอนฝนตกรถติด ... ดีจะได้ฟังเพลง ... ถึงบ้านแล้วยังไม่ลงรถ ฟังเพลงนี้ให้จบก่อน …. แฟนลงจากรถ บอกเดี๋ยวตามไป ให้จบเพลงนี้ก่อน ... ไม่ใช่ทุกครั้งนะครับ แค่เกือบบ่อย ... ‘ก่อนเอามาเปรียบเทียบ กะจะให้เจ็บแสบก็ยกตัวอย่างใกล้เคียงกันหน่อยก็ดีครับ’ อือมมม .... คุณกึ่งคิดว่า ผมกะจะให้ใครเจ็บแสบครับ ... พี่ดี้ ??? คุณกึ่งเอง ??? สำหรับพีดี้ ... ไม่ได้กะถึงขนาดนั้น แค่กระแซะกระตุก แบบหมั่นไส้นิดหน่อย ผมไม่ได้รู้จักอะไรกับพี่ดี้นะครับ .... ถ้าแกได้อ่านข้อความผม ผมว่าทำอะไรแกไม่ได้หรอกครับ ระดับผ่านอากู๋มาได้ แค่นี้เด็กๆครับ .... (เดาล้วนๆ) หรือคุณกึ่งคิดว่าผมกะจะให้คุณกึ่งเจ็บแสบ .... ยิ่งไปกันใหญ่ครับ ผมอ่านข้อความผมซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ไม่คิดว่ามีข้อความอะไรสื่อถึงคุณกึ่งโดยตรงนะครับ แล้วผมก็คิดว่าเราไม่เคยโต้อะไรกันในกระทู้ไหนด้วยครับ หรือคุณกึ่งรู้สึกเคืองแทนพี่ดี้ .... คุณกึ่งรู้จักส่วนตัวกับพี่เค้าหรือเปล่าครับ ถ้าคุณกึ่งเคืองแทนแล้วตอบโต้ ปกป้อง ... ผมเข้าใจได้ครับ เพราะผมก็มีบุคคลบางคนที่ผมต้องปกป้อง ถ้าใครมาแตะแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ เราก็ต้องออกอาการบ้าง ผมไม่มีเจตนาให้ใครถึงขั้นเจ็บแสบกับข้อความของผมครับ ... ถ้าใครรู้สึกไปแบบนั้น ก็ขออภัย ผมไม่ไปหาตัวอย่างนะครับ เดี๋ยวหาเจอแล้วดันมีคนเจ็บแสบ ผมไม่ทำครับ แล้วมันก็หายากมากมากด้วย ยิ่งมาตีกรอบว่า เป็น ‘เพลงที่ฟังกันตามคลื่นวิทยุ เพลงทั่วๆ ไปที่คนเสพเยอะมาก แต่ขายได้น้อยมาก’ … ผมไม่ฟังเพลงจากวิทยุมาสัก 3 ปีแล้วครับ จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:01:58

ความคิดเห็นที่ 89 ไปประเด็นหัวข้อกระทู้เลย ... คุณกึ่งตัดแมกกาซีนมาให้อ่านหนึ่งหน้า แล้วให้คนอ่านวิพากษ์วิจารณ์ .... เสี่ยงที่จะเข้าใจกันผิดอยู่พอสมควรครับ ... คุณกึ่งคงอ่านบทสัมภาษณ์ไปเต็มๆ ได้รับรู้ ได้เข้าใจพี่ดี้ไปเต็มๆ ... ผมและคนอ่านอื่นๆ ก็แค่หนึ่งหน้านั่นล่ะครับ ....เราเริ่มไม่เท่ากันแล้วครับ ... แต่ไม่เป็นไร มันถูไถกันได้ เพราะเรื่องราวของพี่ดี้ มันก็เยอะมาก หาอ่านกันได้ สั้นๆเลยก็คือต่างคนต่างเคารพตัวเองดีกว่า ง่ายที่สุด ใช่ที่สุด ไปคิดกันเองแล้วกัน เคารพตัวเอง มันเป็นยังไง ... ต้องทำยังไง การเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำโน่นทำนี่ ... ยาก อย่าลืมนะครับ ... คนทำเพลงทุกคนมาจากคนฟังเพลง น่าจะรู้ว่าคนฟังต้องการอะไร แต่พอคนทำเพลงมีคำว่า อาชีพ เงิน ... เข้ามาเกี่ยวข้อง ... เอาแล้วครับ เครียด โดยเฉพาะยุคนี้ ... มหาเครียด ... จะสุดยอดของเครียดคือ ปรับตัวไม่ได้ และทุนน้อย ผมถึงหมั่นไส้พี่ดี้ไง นึกน่าอิจฉาด้วย เป็นอาการเล็กๆครับ ไม่มาก เหมือนนั่งคุย แหย่ผู้ใหญ่เล่นน่ะครับ และข้อความในหัวกระทู้ก็มีให้แหย่อยู่ก็เยอะ ถ้าแกนั่งแถวนี้ ก็จะแกล้งถามแกเล่น ... พี่ครับ งานที่ดีที่สุด เป็นไงครับ ... ดีที่สุด เป๊ปซี่ทำไปแล้วครับ ... พี่ทำได้เหรอครับ ดีที่สุด .... พี่ดี้ครับ อัลบั้มแกรมมี่ที่ดีที่สุด อันไหนครับ บอกหน่อยครับ ผมจะไปรื้อดูว่าผมมีหรือเปล่า  ... ถ้าผมไม่มี และอยากได้ทำไงครับ ถ้าพี่ตอบไม่มี ก็ช่วยไม่ได้ ก็ดันไม่ซื้อเอง .... อ้าว ... นั้นผมหาทาง ผี ผี ของผมน่ะ ห้ามว่าผมไม่เคารพนะ .... พี่ดี้คงไม่แคร์มั้งครับ เพราะ ไม่อยู่แกรมมี่แล้ว เออ พี่ดี้ .... งานที่ดีที่สุด การันตีว่าเพราะมั้ยครับ ... แล้วผมควรจะชอบมั้ยครับ พี่พี่ .... พี่ต้องเก็บตัวเลขไว้ในหัวบ้างแน่ๆ เลย .... งานแกรมมี่ที่ต้นทุนต่ำที่สุด อันไหนครับ ... พี่อาจจะจำไม่ได้ งั้นบอกมาประมาณ 5 อันที่ต่ำๆก็ได้ .... เหมือนเดิมครับ ถ้าผมไม่มี พี่ไม่ให้ หาซื้อไม่ได้ .... ผมก็ผีผีนะครับ ... เคารพกันเหมือนเดิมครับ .... พี่ครับ ... ผมไม่อยากให้พี่เครียด ผมไม่อยากได้หรอกครับ งานที่ดีที่สุด .... ผมอยากได้งานที่ตั้งใจ ไม่ต้องที่สุดก็ได้ ... ต้นทุนต่ำที่สุด ผมก็ไม่มีปัญหา ... แค่ขอให้พี่เคารพตัวพี่ ว่าพี่ได้สร้างสรรค์งานที่คิดว่า สมบูรณ์ในเงื่อนไข ณ ขนาดนั้นแล้ว ... พี่ทำเสร็จแล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ได้ทำ  ทำเสร็จแล้วยิ้ม ผมก็ซื้อแล้วครับ .... ผมไม่สนใจหรอกครับ ว่าพี่จะใช้เวลาเขียนเพลง 10 นาที หรือ 5 เดือน .... 1 ปี พี่แต่งได้ 2 เพลง ก็เรื่องของพี่ .... ผมไม่มีปัญหา ... (งานที่ต้นทุนต่ำที่สุด คนทำภูมิใจ แล้วออกมาเพราะ .......... งานในฝันเลยครับ ก่อนตายอยากเจอ ... ) ยังไม่หมดพี่ ... ขอกระซิปถามหน่อยครับ ... ตอนพี่อยู่แกรมมี่ พี่เคยใช้เท้าทำงานมั้ยครับ ... แล้วพี่เคยสั่งใครให้ใช้เท้าทำงานหรือเปล่า ... หรือนายใหญ่บอกให้พี่ทำหรือเปล่า ... ชุดไหนพี่ ชุดไหนที่เค้าใช้เท้าทำ ผมจะไปรื้อฟังดูว่าเพราะหรือเปล่า ... ใช้เท้าทำมันก็อาจเพราะนะพี่ จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:36:42

ความคิดเห็นที่ 90 ลงรูปขั้นเวลา ... โชว์หลักฐานหนุกๆ ว่าเรื่องผีผี มีมานานแล้ว คนทำเพลงโอดครวญมานานแล้ว แต่โอดไม่หนักเหมือนยุคนี้ ยุคที่ขู่กันได้กลางอากาศ .... ใครทราบมั่งครับ รูปนี้เป็นส่วนหนึ่งของปกเทปของใคร … คนนี้ยังทำเพลงอยู่ครับ แต่ทำอย่างอื่นด้วย ... จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:38:29

ความคิดเห็นที่ 91 โอ ผมสนใจมากครับว่ามาจากเทปม้วนไหน? ถ้าบอกหน้าไมค์ไม่ได้ บอกหลังไมค์ก็ได้ครับ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:00:20

ความคิดเห็นที่ 92 ‘เป็นกระบวนการดูถูกกันเป็นวัฎจักร คงต้องวอนให้ทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน’ เออ ... ประโยคนี้ นั่งคุยตัวต่อตัวนี่ ได้เป็นวันเลยครับ .... ใครบอกได้มั้ยครับ ใครดูถูกใครก่อน ... เถียงกันข้ามเดือนแน่ แต่ผมรู้สึกว่ามันเกิดพร้อมๆกันมาตั้งนานแล้วครับ ไทยก๊อปกันเอง เช่นเพลงแก้ ก๊อปทั้งดุ้น แค่เปลี่ยนเนื้อร้อง ... ผมไม่รู้เค้าจ่ายตังกันหรือเปล่า เค้าค่ายเดียวกันหรือเปล่า แต่เดาว่าไม่ (เสี่ยงมากเลยแฮะ กับตัวอย่างนี้ ... ผิดยังไงแก้ได้ครับ) ไทยก๊อปต่างชาติ ... ไม่ต้องเล่ายาวนะครับ ... รุ่นพ่อ รุ่นปู่ แล้วครับ ฝั่งคนฟัง ... โน่น ... dub เทปให้เพื่อน ... ซื้อ เทป Peacock Eagle … โฆษณาใน magazine เลย … เดือนนี้มีชุดนี้ ถ้าอยากได้ ส่งธนาณัติมา เดี๋ยวอัดส่งไปให้ ขออัดเพลงกันได้ กลางอากาศ ... นัดกันเลย จะเปิดเพลงนี้ เพลงนี้ ... ดีเจ นับถอยหลังเลย คนฟังเตรียมกดปุ่มอัด .... ยุคนี้ก็ดูถูกกันชัดมาก เทคโนโลยี่ทำให้เกิดขึ้น และจับผิดกันชัดขึ้น   แต่ประเด็นน่าคิดคือ ยุคโน้นไม่มีใครโวย ... ไม่ว่าในด้านเงินทอง หรือศีลธรรม คำว่ายุคโน้น จริงๆ ไม่ไกลเลยนะ แค่ไม่กี่สิบปีเอง ... ยุคนี้มาโวยกัน เพราะ เงินทอง หากินกันฝืดครับ แสวงหาอำนาจกันด้วย สังคมซับซ้อน ความคิดมันแตกกันมาก และเทคโนโลยี่มาเร็ว แถมไปเร็วกว่ามา … ฟันธงก่อนเลย ชักขี้เกียจพิมพ์ ... คนทำเพลง (นายทุน) โวยก่อน เพราะขายไม่คล่อง ยอดตก คิดไม่ตกซะที ว่าคนฟังเพลงกันเยอะ ฟังเป็นบ้าเป็นบอ ... แต่ทำไมจ่ายกันน้อยจัง คนฟังเพลงโวยตาม ให้ช่วยกันทำ อย่างโน้น อย่างนี้  … ทั้งคู่โวย แต่ต่างกันที่ว่า คนทำเพลงโวยคิดเรื่องตัง ในขณะที่คนฟังเพลงโวยคิดเรื่องศีลธรรม ซึ่งน่าสรรเสริญฝั่งคนฟังมากครับ คนฟังเพลงมีจิตสำนึกเรื่องอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ซอฟแวร์ผี เสื้อผ้าก๊อป ศิลปะอื่นๆ ... คือผมรู้สึกว่าพวกเราร่วมกันกระตุ้นความคิดเรื่องทรัพย์สินทางปัญญากันมากขึ้น ต่อต้านการละเมิดกันมากขึ้น อยากอารยธรรมกับเค้ามากขึ้น .... มันก็ดีครับ เอ ... ชักพาเลอะเทอะ เขียนมั่วแล้วมั่งเนี่ย ... ขออภัยครับ พีดี้ครับ ... พี่เรียกร้องแบบนั้น ไม่มีปัญหาครับ ก็ค่อยเป็นค่อยไปครับ .... แต่ที่พี่เรียกร้องให้ คน ‘ที่มีเพลง "อัสนี-วสันต์" 100 เพลง มี "อาร์เอส" กับ "บอย โกสิยพงษ์" ครบทุกชุด เหมือนอยากฟังเมื่อไรก็ได้’  … จ่าย ....  มาผิดทางครับ จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:00:58

ความคิดเห็นที่ 93 คุณ FxxkNoEvil .... ขอบคุณที่เข้ามาครับ ผมโชว์ภูมิทื่อๆ ก็ขออภัยนะครับ ... คิดซะว่า ไอ้บ้าคนนึง น้ำลายแตกฟอง เดี๋ยวผมเฉลยครับ ในกระทู้นี่แหล่ะ .... ขอแซวพี่ดี้ต่อ ... มันคัน จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:10:39

ความคิดเห็นที่ 94 ผมไม่ได้มีอะไรส่วนตัวกับพี่ดี้นะครับ ใครอย่าเข้าใจผิด ... นับถือด้วยซ้ำ ทำเพลงก็เพราะมากมาย ... แค่อ่านแล้วมันนึกคันๆครับ … ยิ่งอ่านข่าวจากเวปผู้จัดการ  ‘“ดี้” เปิด “สหภาพดนตรี” ท้าชนแกรมมี่ ลั่น เปิดกว้างไม่มีแบ่งแยกค่าย’ … งง และ คัน มาก ถ้าผมถ่ายทอดผิด ไปโทษผู้จัดการนะครับ พี่ดี้เกาะทุนใหญ่ตลอดเลย ออกจากแกรมมี่ ก็มีสิงห์อุ้ม .... อุ๊บ ... ขอถอน เอาเป็นว่า พี่ดี้ได้หุ้นส่วนที่คนทำเพลงทั้งประเทศอิจฉามากกกก มีใครเคยฟังอัลบั้มที่เพราะมาก ประทับใจมาก แล้วรู้สึกว่า ... วงนี้ทำไมมันไม่ดัง (ว่ะ) ดูบางวงเล่นในผับ ... อื้อหือออ .... ทำไมน้องไม่ทำเพลงล่ะ ... ไม่ไหวพี่ ไม่มีตัง ถึงทำไปก็ขายไม่ได้ @$#! แล้วมีใครเคยฟังอัลบั้มที่ห่วย แล้วนั่งคิดว่า ... ค่ายใหญ่ๆแบบนี้มันปล่อยแผ่นนี้ มาได้ยังไง (ว่ะ) คนทำเพลงที่ขี่สื่อ มีหุ้นใหญ่ร่วม น่าอิจฉา น่าหมั่นไส้มั้ยละครับ  ... แล้ววันเปิดตัวค่ายวันแรก ประกาศประมาณว่า พร้อมแข่ง ... โปรเจ็คแรก นักร้อง 36 ชีวิต ... ทุกอย่างถวายหมด .... โอ้โหววว .... ไอ้ค่ายใหม่ ทุนใหญ่ นี่อู้ฟู้จริงๆ ... อิจฉาแทนคนทำเพลงตัวเล็กๆ จริงๆครับ .... ใครเปิดค่ายใหม่ คุณต้องบ้าแน่ๆ ชั่วโมงนี้   งานแรกหานักร้อง 36 ชีวิต .... ตังเท่าไหร่ แค่คิดก็บ้าแล้ว ... ถ้าอยากได้พี่เบิร์ดมาร่วม จะเท่าไหร่ ... พี่ดี้อาจจะขอพี่เบิร์ดฟรีได้ด้วยซ้ำมั้ง ...ใครจ่ายได้มั่งครับงานแบบนี้ แล้วแถมงานนี้บริจาคหมด ผมขำ พี่เรียกร้องให้จ่าย พอผมจ่าย แต่พี่เอาเงินผมไปบริจาคทั้งหมด ... ชีวิตการทำเพลงของพี่ หรูหรามากครับ ... บางคนดิ้นหาทุน บางคนทุนมาเกย ... ครับ โลกนี้ไม่แฟร์ พี่ดี้บอก พร้อมแข่ง .... คุณจุตินันท์บอก ไม่ได้ตั้งใจจะแข่งกับค่ายไหน และยอมรับว่าธุรกิจนี้ยังหวังเรื่องผลกำไรที่ดี .... อ้าว .... ผมว่าผมอ่านเจอนะครับ ว่าพี่ดี้ เอ่ยทำนองว่า ‘กำไร 0 เปอร์เซ็นต์’ …. เฮ้อ ... ขาใหญ่ ทุนใหญ่ อนุญาตให้สับสน ... ผมไม่แน่ใจว่า พี่ดี้ พี่ป้อม พี่โต๊ะ พี่โอห์ม หุ้นกับสิงห์ในระดับไหน ... แต่ผมดันทะลึ่งนึกต่อ ... เอ๊ะ ... เคยได้ยินพวกพี่ๆ เค้าถือหุ้นในแกรมมี่ .... ยังถืออยู่มั้ยครับ ... ถ้าไม่ ก็แล้วไป ถ้ายังถืออยู่ ... งงสิครับ ... พี่ตั้งบริษัทใหม่มาแข่งกับบริษัทที่พี่ถือหุ้นอยู่ ... อืมมม หรือผมนั่งคิดงงๆอยู่คนเดียว .... อากู๋ถือหุ้นอาร์เอส ผิดมั้ยครับ .... ถึงตรงนี้ก็ขอกระทบไหล่แรงนิดนึงเลย ..... คนทำเพลงที่มีตัง มาโอดครวญเรื่องตัง ... มัน จุด จุด จุด ...ครับ ... คนทำที่ไม่มีตัง ก็โอดครวญไม่น้อยไปกว่ากัน .... แต่เค้าไม่สามารถเรียกสื่อกระแสหลักมาครวญให้ฟังได้ครับ ... และจริงๆแล้ว ... คนทำเพลงเงินมากหรือน้อย ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าเพลงจะเพราะครับ และผม ... เคารพคนทำเพลงทุกคนครับ ... แต่ผมไม่สามารถซื้องานของพวกคุณได้หมดทุกคนครับ ... มันอยาก แต่ทำไม่ได้ครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณครับ .... คุณกึ่ง .... ไม่น่าติดใจอะไรนะครับ ... ..... ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการฟังเพลงครับ .... จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 00:23:51

ความคิดเห็นที่ 95 ซื้อแต่ ETC ครับ จากคุณ : KINKIMONO เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 13:37:37

ความคิดเห็นที่ 96 เข้าไปอ่านข่าวที่แนะนำใน คห 62 แล้วครับ Won’t pay a penny …. มันขนาดนั้นเลยหรือ ...  อีตา Chen จะรอดมั้ยน่ะ .... คนทำเพลงเมืองไทย มี worst case ให้ดูแล้วครับ ... ไปก๊อป เอ้ย ... ไปปรับใช้กันเลยครับ น่าสงสัยว่าที่นั่น จะมีคนฟังคนไหนโผล่มาเรียกร้องประเด็นศีลธรรมกันมั่งมั้ย ... . เฉลยครับ .... ศิลปิน ... นุภาพ สวันตรัจฉ์ อัลบั้ม ... แป๊ะเจี๊ยะ ปี ... 2527 ค่าย ... ไนท์สปอต พี่เค้าออกมาอีก 2 ชุด เป็น world music ทั้งคู่ .... ผมชอบมากกกก ชุดที่ 2 ของพี่เค้า เป็นชุดที่ผมยอมจ่ายแพงที่สุดในบรรดาซีดีของผม ทั้งๆที่มีเทปอยู่แล้ว... อดไปหลายมื้อเหมือนกันครับ เผื่อจะสนใจ http://www.myspace.com/nupachino http://www.reverbnation.com/nupachino ถามอะไรหน่อยครับ .... ลิขสิทธิ์เพลง มันมาเริ่มปีไหนครับ ผมรื้อเทปที่อยู่ใกล้ๆมือ ... เทปของพี่โต๊ะ ชุดกีต้าร์โต๊ะ ปี 2531... ไม่มีข้อความใดๆเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์เลยครับ แต่ของน้าหงา ชุดลุงไม้ไทย ปี 2533 ... มีข้อความว่า สงวนลิขสิทธิ์ แล้วครับ .... ถ้าอย่างนั้น ก่อนปี 31 หรือ ก่อนหน้ามีลิขสิทธิ์ ... ใครอยากจะก๊อปฟัง ก็อปขาย ... ก็เชิญ ใช่มั้ยครับ .... ถ้าตอบว่าใช่ .... อูย ... ผมปล่อยไปหมดเล้า หมดคอก เลยครับ .... ชี้เป้าให้ผมไปหาอ่านก็ดีครับ ... ขอบคุณครับ ... จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 16:22:39

ความคิดเห็นที่ 97 การคุ้มครองดนตรีมีมาตั้งแต่ พรบ. คุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ. 2474 แล้วครับ แต่โทษมันต้องมาก (ปรับไม่กี่บาท) พอมา พรบ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มันเริ่มปรับมากขึ้นมากๆ และมีโทษอาญาด้วย ลิขสิทธิ์เริ่มมีปี 2521 ครับ หลังจากตัวนั้นก็มา พรบ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เลยครับที่ใช้ถึงปัจจุบัน จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 19:37:44

ความคิดเห็นที่ 98 ขออนุญาตถามคุณ มันซ่าน ครับ สังกัดเพลง หรือ คนทำเพลง ควรทำเพลงออกมาให้คนฟังฟรี หรือ ไม่ฟรี คนฟังเพลง ควรฟังเพลงต่างๆโดยมีไว้ในครอบครองแบบฟรี หรือ ไม่ฟรี เอาแค่นี้ครับ นี่ไม่ได้ตั้งจะกวนนะครับ คืออยากรู้จริงๆ ผมชอบสิ่งที่คุณเขียนมาก เลยอยากรู้ว่าคุณจะเห็นว่ามันควรจะเป็นแบบไหน จากคุณ : Norma Jump เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 22:14:25

ความคิดเห็นที่ 99 มันอยู่ที่จิตสำนึกครับ :D จากคุณ : RcduoZ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 05:23:08

ความคิดเห็นที่ 100 ตอบคุณมันซ่านครับ ไม่ได้ติดใจอะไรครับ พอได้ฟังคำอธิบายอย่างละเอียดก็ออกแนวฟังสนุกๆ ด้วยซ้ำครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:03:35

ความคิดเห็นที่ 101 ถ้ามองแบบคนทำเพลง ก็จะคิดอีกแบบ ถ้ามองแบบผู้บริโภคก็จะคิดไปอีกแบบ ไม่มีใครอยากถูกเอาเปรียบ เพราะฉนั้นต้องเดินถอยกันมาคนละครึ่งทาง จากคุณ : VST เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:53:42 A:101.108.11.140 X: TicketID:325746