 |
วังน้ำเขียวระส่ำทัวร์ยกเลิก-ผักเน่า เสียหาย100ล.
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวโคราชระบุหลังข่าวป่าไม้เข้ารื้อถอนรีสอร์ตในวังน้ำเขียวสะพัด เผยแจ้งยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยว ผักเน่ารวม100ล้าน
นครราชสีมา-นายเสมอ จินดาพงษ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยว อำเภอวังน้ำเขียว หลังจาก ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปิดป้ายประกาศให้ที่พัก รีสอร์ตบางแห่งในอำเภอวังน้ำเขียวรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่อุทยานฯว่า เดิมอำเภอวังน้ำเขียวเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และเชิงเกษตรที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก
โดยมีที่พัก รีสอร์ตและโฮมสเตย์ รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 5,000 กว่ายูนิต หรือประมาณวันละกว่า 25,000 คน นอกจากนี้ยังมีสินค้าการเกษตรที่ผลิตโดยชาวบ้านนำออกมาขายโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง อาทิเช่น ผักปลอดสารพิษ เห็ดนานาชนิด ผลไม้ ประกอบด้วย องุ่น พุดทราน้ำนม ลำใย มะไฟ ข้าวโพดหวาน ตลอดจนดอกไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งในวันหนึ่งๆชาวบ้านที่ยึดอาชีพการเกษตรมีรายได้ไม่ต่ำกว่ารายละ 1,000-3,000 บาท และทางราชการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, จังหวัดนครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียวจนเป็นรู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นงานเบญจมาศบานในม่านหมอก รวมถึงงานท่องเที่ยวฤดูหนาว เช่น ฟอร์ล่าแฟนตาเซีย เป็นต้น
ในขณะเดียวกันทางจังหวัดนครราชสีมาได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาจัดการอบรมผู้ประกอบการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น,มัคคุเทศก์อาสา และผู้นำท้องถิ่น จำนวน 620 คน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวอ.วังน้ำเขียวในช่วงวันหยุดโดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้ แต่ ณ ปัจจุบัน หลังมีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนว่าทางกรมป่าไม้และอุทยานแห่งชาติ ได้เข้าไปจัดระเบียบและเตรียมรื้อถอนที่พักและรีสอร์ตในอำเภอวังน้ำเขียวส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่มั่นใจและแจ้งยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวและการจองที่พักที่อ.วังน้ำเขียวไปแล้วเกือบ 100 %
ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพปลูกพืชผลทางการเกษตรและมีตลาดจำหน่ายสินค้าสำคัญคือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ อ.วังน้ำเขียว แต่ ณ วันนี้นักท่องเที่ยวหาย ส่งผลให้สินค้าการเกษตรผักและผลไม้เน่าเสียหายทั้งหมด ในขณะที่รีสอร์ต ที่พัก และโฮมสเตย์ ก็ได้รับผลกระทบเดือดร้อนเป็นอย่างมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายตั้งแต่มีข่าวเรื่องการรื้อถอนที่พัก รีสอร์ต ใน อ.วังน้ำเขียวไปแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท
"ขณะนี้คนวังน้ำเขียวระส่ำระสายและกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก สิ่งที่เกิดขึ้นผมอยากถามว่าใครจะรับผิดชอบทำไมหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็น กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ใช้หลักนิติศาสตร์และหลักรัฐศาสตร์ในการแก้ปัญหาเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ด้วยกันได้ คนวังน้ำเขียวใช้ความเป็นธรรมชาติเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เป็นผู้ทำลายธรรมชาติ ทำลายป่าไม้ตามที่มีข่าวปรากฏออกมา ในทางกลับกันพวกเราได้ช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่าและเติมโอโซนให้ธรรมชาติของวังน้ำเขียวทุกวัน ฉะนั้นผมอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงไปดูในพื้นที่และร่วมกันหาทางออกให้กับวังน้ำเขียว อย่าปล่อยให้ปัญหาของวังน้ำเขียวบานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้ วันนี้ชาวบ้านและผู้ประกอบการที่พัก รีสอร์ต โฮมสเตย์ ได้รับความเดือดร้อนจริงๆและพวกเราจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งในเร็ววันนี้เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนการร้องต่อศาลปกครองนั้นฝ่ายกฏหมายก็กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมยื่นฟ้องให้ศาลคุ้มครองด้วยเช่นกัน"นายเสมอ กล่าว
ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 1 ว่า ที่ผ่านมาปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าในเขต อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำมีส่วนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่จังหวัดนครราชสีมา ฉะนั้นแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนคือทุกภาคส่วนโดยเฉพาะชาวจ.นครราชสีมาจะต้องรวมใจกันเป็นเจ้าภาพปลูกป่าบนหลังคาโคราชเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำลำธารในท้องที่จังหวัดนครราชสีมาให้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งซับน้ำและป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ช่วยลดปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งและสภาวะโลกร้อน
| จากคุณ |
:
กาลครั้งหนึ่งความรัก
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ค. 54 05:46:05
|
|
|
|
 |