ความคิดเห็นที่ 1 พอช่วงที่เราต้องเริ่มเขียนหนังสือบ่อยขึ้น เขียนบทความบ่อยขึ้น เราก็ต้องทำหนังสือค่ะ เราเลยส่งเรื่อง "เกาหลีเป็นบ้า" ไปให้อาจารย์อ่าน ซึ่งทีแรกอาจารย์บอกว่า ไม่รับเรื่องทั่วไปนะ แบบวัฒนธรรมเกาหลี มีอะไรยังไงบ้างไม่เอา เราก็เลยลองเขียนเรื่องเหง้าและเหตุผลของการเข้ามาของวัฒนธรมเกาหลีดู ซึ่งอาจารย์เห็นว่าโอเค เลยปล่อยให้เขียน สรุปงานชิ้นนั้นเราได้ A ค่ะ (จากที่อาจารย์แอนตี้เกาหลีมาก) ทีนี้อาจารย์เลยมานั่งคุยกับเราแบบจริงๆจังๆไอ้เรื่องวัฒนธรรมเกาหลีกับเรา ที่จริงอาจารย์เขารู้จักกับนักเขียนท่านนหนึ่งที่ติดตามเรื่องสงครามเกาหลีและญี่ปุ่นมานานมาก (แปลหนังสือสงครามญี่ปุ่นเป็นเบสต์เซลเลอร์หลายๆเล่มในไทยค่ะ) เขาบอกว่าการที่เราบ้าเกาหลีก็มีเหตุผลอยู่ ถ้าเราเลือกจะบ้าแบบเข้าใจแก่น น่ะนะ .. เพราะอาจารย์เองก็อ่านเรื่องเกาหลีมาเยอะค่ะ แกเลยค่อนข้างแอนตี้ ก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมเด็กถึงชอบถึงติด แต่แค่พยายามชี้ให้เห็น "สิ่งที่แฝงมาด้วย" แค่นั้นเอง เราอาจคิดว่าไม่มีใครเดือดร้อน เพราะเราชอบของเรา มันจะผิดตรงไหน แต่เราเองก็พึ่งมาคิดได้ในช่วงหลังนี่เองว่ามันน่ากลัวมากจริงๆ เพราะเด็กเล็กๆ...ในยุคนี้โตมากับเพลงเกาหลีแล้ว แทบไม่รู้จักศิลปินไทยด้วยซ้ำ เครื่องสำอางค์ โฆษณา ละครทีวี รายการเพลง ของกิน รถมอเตอร์ไซต์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มีพรีเซนเตอร์เป็นศิลปินเกาหลี (ส่วนนี้อยากโทษผู้ประกอบการในไทยมานานแล้วค่ะ เพราะที่จริงไม่ควรคำนึงถึงยอดขายสินค้าและยอดโฆษณาเกินเหตุขนาดนี้) มีครั้งหนึ่งละคร"ไทย"ของช่อง 9 เราจำชื่อละครไมไ่ด้ค่ะ แต่จำได้ว่าเป็นละครวัยรุ่น แต่ดันชื่อละครเป็นภาษาเกาหลี ..แถมในเนื้อหาละครยังจะมีเกาหลีพ่วงไปอีก และเราไม่เคยเห็นด้วยกับการ "ซื้อสินค้าตามราคา/แพคเกจที่กำหนด เพื่อแลกสิทธิ์กับการได้เข้าร่วมแฟนมีตติ้งสุดพิเศษกับศิลปิน" กล่าวคือ เด็กยุคใหม่บางคนเริ่มคิดว่า "เกาหลีดีกว่าไทย" เพราะเขาโตมากับยุคที่สื่อประโคมสนับสนุนแต่เรื่องพวกนี้ ซึ่งเราคิดว่าปัจจุบันมันมากเกินพอดีไปแล้วจริงๆค่ะ และเป็นเพราะแบบนี้เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เพราะเราเป็น "หนึ่ง" ในแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการคิดว่า "เกาหลีขายได้" แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 02:26:22 จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:23:12

ความคิดเห็นที่ 2 รออ่านอยู่นะคะ :) จากคุณ : จันทราที่มองเหม่อ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:30:24

ความคิดเห็นที่ 3 ยาวไปครับ เพราะผมก็คิดแบบนี้แหละ ช่วงนี้เลยไม่ติดตาม วงการบันเทิงเกาหลีเลย เพราะ มันน่ากลัวมากจริงๆ ไปไหน ก็มีแต่เกาหลี ทุกอย่างมันจะกลายเป็นเกาหลีไปหมดและ จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:36:34

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างกระทู้ข้างล่างเนี่ย กระทู้เกาหลีนี่ แทบจะ ยึดไว้หมดแล้ว จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:37:59

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนแรกๆเราติดรายการ Family Outing ค่ะ เคยเอามาให้อาจารย์ดู อาจารย์ก็บ่นเรื่องเดิม บ้าเกาหลี แต่เราคิดว่า ไอเดียของรายการนี้ดีมากๆ และ สตอรี่ก็ตลกมาก ชอบตรงที่การไปยังบ้านในชนบทแล้วทำภารกิจต่างๆซึ่งเรามองว่า มันสร้างสรรค์ดีค่ะ ทำให้ตอนนั้นเราคิดแว้บนึงว่า "ทำไมรายการไทยไม่ทำแบบนี้?" ช่วงหนึ่งเคยมีข่าวว่า รายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่จีน ซื้อลิขสิทธิ์แฟมิลี่ เอ้าติ้งท์ไปทำรายการ ทันทีที่ออกอากาศ สถานีก็เจอสั่งปิดทันที ไม่แน่ใจในเนื้อข่าวนะคะ แต่เข้าใจว่าเป็นเพราะเป็นการครอบงำทางวัฒนธรรมอย่างรุนแรงในจีน รัฐบาลจึงสั่งแบนทันที (ทั้งนี้เพราะจีนเป็นรัฐบาลคอมมิวนิสต์นะคะ) ซึ่งข่าวนี้ อาจารย์ของเราก็ภูิิมิใจนำเสนอมากเช่นกัน ยุคหลังที่อาจารย์เราเริ่มรับได้กับความบ้าเกาหลีของเรา เราก็เอา Running man มาให้แกดูค่ะ แกก็ดูแบบเงียบๆนะ ไม่ติเตียนอะไร แต่เราขำจนปวดท้อง พอดูจบอาจารย์ก็บอกเราแบบจริงจังว่า เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงคิดว่ารายการนี้มันดี มันตลก ทั้งที่เขาดูแล้วก็เฉยๆ ธรรมดา แต่เป็นเพราะ เรารู้มาก่อนแล้วว่าคาแรคเตอร์ของคนคนนี้เป็นยังไง มันจึงตลก ทั้งที่จริงๆมันเป็นมุขที่ธรรมดาจนอาจารย์เราคิดว่า หม่ำ เท่ง โหน่ง ตลกกว่าไม่รู้กี่เท่า จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:38:46

ความคิดเห็นที่ 6 มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ ^^ จากคุณ : PL@new เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:44:07

ความคิดเห็นที่ 7 รออ่านอยู่นะครับ  ^^ จากคุณ : CyanSea เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:44:51

ความคิดเห็นที่ 8 มาลงชื่อติดไว้  เดี๋ยวตามมาอ่านนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ  ^ ^ จากคุณ : กินข้าวแล้วอิ่ม เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:47:52

ความคิดเห็นที่ 9 จนระยะหลังเราตามข่าวเกาหลีน้อยลงกว่าเดิมมากๆ เพราะกลัวเรื่องนี้ และส่วนหนึ่งเป็นเพราะถึงจุดอิ่มตัวค่ะ เลยตามบ้างไม่ตามบ้าง ตามแบบผ่านๆตานานๆจะเข้าไปอัพเดทอะไรแบบนั้น เมื่อก่อนเราก็เป็นอีกคนที่เคยพูดว่า "เกลียดเกาหลี เกลียดของนอก แล้วฟังเพลงอเมริกาทำไม ฟังเพลงญี่ปุ่นทำไม มันก็เหมือนกันนั่นแหละ" แต่... ลองคิดดูดีๆนะคะ .. X-Japan ไม่เคยมาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาในประเทศไทย (ที่เรายกตย. X เพราะว่าเราคิดว่ายุคนั้นเป็นยุคที่เพลงญี่ปุ่นบูมในไทยที่สุดแล้ว) ทั้งๆที่โด่งดังเกือบจะในระดับโลกในยุคนั้น (ยุโรป+เอเชีย) รวมทั้งประเทศไทยไม่ได้มีแฟนคลับเดนตายน้อยไปกว่าแฟนคลับเกาหลีในปัจจุบันเลย ทาคุยะ คิมูระ , เคตะ ทาจิบานะ , ฮิเดกิ ทาคิซาว่า ไม่เคยมาแสดงละครไทย .. (ยกตัวอย่างแคบๆในแบบของเรานะคะ เพราะเราตามพวกนี้ในยุค J-pop ครองเมืองในไทยเหมือนกัน) ทั้งที่ตอนนนั้นเราคิดว่า Johnny Juniors เป็นอะไรที่สุดยอดจะดังโคตรแล้วตอนนั้น แถมยังได้มางาน พัทยามิวสิคฯอีก และตอนนั้นเรายังแอบไม่ชอบ Super Junior ที่รู้สึกว่าพึ่งจะเดบิ้วต์ เพราะเราคิดว่า เลียนแบบกันชัดๆ (ปัจจุบันแม้ จขกท.ไม่ได้เป็น ELF แต่ยอมรับในพลังและความสามารถของ 13 ลิงนะคะ เวลาได้พิสูจน์แล้วค่ะ ที่สำคัญเราเป็นเมน ฮยอกกกก ) สำหรับเพลงสากลเราคิดว่า ประเืทศในเอเชียหลายๆประเทศได้รับอิทธิพลมามากพอสมควรนะคะ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยหรอก ยุคสมัยของวงการเพลงไทยเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศเหมือนกันค่ะ (เป็นเพราะว่า วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศในแถบยุโรปนำหน้ามาอยู่ก่อนแล้วค่ะ จึงไม่แปลกที่เราจะได้อิทธิพลนั้นมาบ้าง) แต่เราคิดว่าไม่เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่สุดยอดรวมศิลปิน ผู้ชมเรือนหมื่นสักครั้ง ต่อให้วงต่างประเทศที่ว่านั่นจะสุดยอดขนาดไหน จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 02:57:58

ความคิดเห็นที่ 10 จากที่อ่านดู เราไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นอาจารย์คุณ เรื่องเอารายการ Running Man หรือ Family Outing มาเทียบกับแก๊ง 3 ช่าเท่าไร มันน่าเอาไปเทียบรายการ Gag Show มากกว่า.... แล้วเรื่องมุขเราว่ามันเป็นมุขของแต่ละชาตินะบางอันเราก็เข้าใจ บางอันเราก็ไม่เข้าใจแม้ว่าจะแปลไทยก็ตาม มันก็เหมือนมุขฝรั่ง หรือมุขญี่ปุ่น คนไทยอ่านหรือฟังแล้วก็สงสัยมันขำตรงไหน ไงลงชื่อรออ่านด้วยคน... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 03:08:07 จากคุณ : nongatom เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:07:32

ความคิดเห็นที่ 11 #10 ผมเห็นด้วยกับอาจารย์เขานะ เพราะผมเคยดูรายการพวกนี้ ดาราที่ผมไม่รู้จักเลย มันไม่ฮาเลยนะ แต่พอดู ดาราที่เรารู้จักตัวตนของเขาแล้วนี่ ฮามากๆอะ เพราะไรหรอ เพราะเราไม่ค่อยได้เห็นด้านนี้ของเขาไงหละ อีกมุมนึงเราเห็นแต่ด้าน สุภาพบุรุษ นิสัยดี อะไรแบบนี้ พอมาเห็นด้านตลกเราก็เลยมีอารมณ์ร่วมมากกว่าดาราที่เราไม่รู้จักนะเพราะ ดาราที่เรายังไม่รู้จัก ความสนใจหรืออารมณ์ร่วมมันก็จะน้อยตามลงไปด้วย ก็เหมือนกับ เราได้ข่าวว่าไอดอลไปออกรายการนู้นรายการนี้ มันก็ทำให้ความน่าดูเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะ รายการนั้น มี ไอดอลที่เราชอบอยู่ในนั้น มันก็ทำให้ รายการนั้นมีความน่าดูขึ้นมาทันตาเห็น ทั้งๆที่ รายการบางรายการ แทบจะไม่ได้สนุกอะไรเลย แถมไอดอลที่เราชอบไปออกรายการบางรายการ รวมๆแล้ว ไม่เกิน3นาทีด้วยมั้ง แต่มันก็ทำให้เรานั่งดูจนจบได้ เพราะไรหรอ เพราะว่ารายการนั้น มีไอดอลที่เราชอบอยู่ไงหละ แล้วอีกอย่างเลย รายการไหนไม่สนุกแต่มีไอดอลที่เราชอบอยู่ ให้เลือกดู คนส่วนใหญ่เขาเลือกดูแบบคัทมากกว่าแบบเต็ม แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 03:21:28 จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:16:32

ความคิดเห็นที่ 12 หลายคนคงทราบที่มาและคงรู้อยู่แล้วเรื่อง อุตสาหกรรมบันเทิงในเกาหลีนะคะ ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องที่พัดมาพัดไปแบบที่หลายๆคนคิด (ในระยะแรกที่วัฒนธรรมเกาหลีเข้ามา ตอนนั้นกระแส J-pop เริ่มจางไปสักพักถ้าเราจำไม่ผิด) หลายคนบอกว่า กระแสบบนี้มาแล้วเดี๋ยวก็ไป .. แต่จนถึงวันนี้ ประโยคมที่ว่านั่นปาเข้าไป เกือบ 10 ปีแล้วนะคะ และนับวันมันยิ่งรุนแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจางด้วยค่ะ สิ่งที่ตอบคำถามนี้ได้คือ อุตสาหกรรมคอนเสิร์ตเกาหลีในไทยมูลค่าหลายพันล้าน จขกท.พึ่งอ่าน นิตยสารเศรษฐกิจเล่มหนึ่งค่ะ ISSUE นี้เป็นพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมเกาหลีในไทยโดยเฉพาะ ทั้ง โรงเรียนสอนเต้น , คอร์สทำอาหาร , ทัวร์ , สินค้าแบรนด์ต่างๆ และอุตสาหกรรมที่ทำเงินมากที่สุดในปัจจุบัน นั่นคือ คอนเิสิร์ต ค่ะ มีสัมภาษณ์ของเจ้าของบริษัทหนึ่งว่าทำไมถึงมาทำไมธุรกิจนี้ เขาบอกว่าเป็นเพราะว่าธุรกิจนี้มีแนวโน้มในการเติบโตในจำนวนที่สูงมาก สถิติที่เค้ามีอยู่ในมือคือ ประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ด้านความนิยมวัฒนธรรมเกาหลี ส่วนอันดับ 1 คือ ... เกาหลีค่ะ นั่นทำให้คอนเสิร์ตใหญ่เมื่อปลายปี และ ต้นปีที่ผ่านมา ทำรายได้มูลค่ามหาศาล(?) และยังประกาศความพร้อมในการจัดคอนเสิร์ตใหญ่(แบบรวมศิลปินกว่า 100 ชีวิต) อีกในเร็วๆนี้ เพราะกระแสตอบรับดีมาก "การที่เรายอมจ่ายเพื่อให้ได้ไปดูคอนเิสิร์ตนั้นมันผิดตรงไหน" เราเองก็รู้สึกว่าการที่คนมาบ่นว่า "ไม่สงสารพ่อแม่บ้างเหรอ ยังหาเงินใช้เองไม่ได้" แบบนี้มันค่อนข้างไม่ได้ผลหรอกค่ะ เราคิดว่าควรเคารพสิทธิ์ในการใช้เงินแต่ละคน ต่อให้เด็กๆจะเอาเงินพ่อแม่มา แต่นั่นก็เป็นเรื่องของ "สิทธิ์" สิ่งที่ จขกท.คิดจริงๆคือ การที่ผู้ใหญ่ที่วุฒิภาวะครบถ้วนแล้วต่างหากที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่ไปโทษเด็กว่า ปัญญาอ่อน ที่ยอมเสียเงินแพงๆไปดู เพราะลองคิดย้อนกลับดีๆนะคะ ถ้าผู้ใหญ่ไม่นำพาศิลปินเหล่านั้นมา จะมีคอนเิสิร์ตเกิดขึ้นได้ยังไง? ต่อให้บอกว่าต่อให้ไม่จัดในไทย เด็กก็ต้องตามไปดูที่มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีฯ อยู่ดี แต่ถามหน่อยเถอะค่ะว่า .. จะมีเด็กแบบนั้นสีกกี่คน? เราจึงคิดว่ากระแสที่มันแรงๆในปัจจุบันนี้เป็นเพราะ "ผู้ใหญ่ให้ท้าย" อย่างแท้จริง ปล.คอมเม้นท์นี้เราพยายามจะสื่อว่า เราคิดว่าจะการจ่ายเงินไปดูคอนเสิร์ตไม่ผิดค่ะ แต่เราคิดว่าการจ่ายค่าสินค้าราคาแพงๆเพื่อให้พบศิลปินเป็นความหน้าเลือดของผู้ประกอบการที่เรารับไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 05:06:16 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 05:05:19 จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:17:21

ความคิดเห็นที่ 13 ถูกครับ เพราะ ผู้ใหญ่ ดันกันสุดๆ ซีรีย์ ดารา นักร้อง พรีเซ็นเตอร์โฆษณา สารพัตรจนจะครอบคุมหมดทุกอย่างแล้ว และ ตัวศิลปินไทยอีก ดันนักร้องที่ชอบสุดๆ เดี๋ยวเต้นโคฟ ร้องโคฟ (อันนี้เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามได้) แล้วสื่อไทยนี่ สุดยอดมาก ข่าวนักร้องไทยไปดังประเทศนู้นประเทศนี้ ข่าวออกช้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆสุดๆอะ แต่พอศิลปินเกาหลีก้าวเท้าเหยียบลงสนามบินปุ๊บ ข่าวออกปั๊บเลย ไวชิหัยเลย จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:27:14

ความคิดเห็นที่ 14 ผู้ใหญ่ประเทศนี้เห็นแก่ได้มากเกินไป แถมเป็นพวกไม่ค่อยชอบลงทุน ชอบหาเงินแบบมาม่า ประเภทที่ชงน้ำร้อนสามนาทีแล้วก็กินได้เลย ซึ่งตรงนี้ทางเกาหลีเค้าทำแบรนด์มาตอบโจทย์นายทุนของบ้านเรา เพราะหากินง่าย สร้างความ ดึงดูดใจให้กับผู้บริโภคได้ง่าย และไม่ต้องลงทุนในระยะยาวมาก (ลดความเสี่ยงเรื่องไม่คุ้มทุน) แถมผู้บริโภคบ้านเราเองก็อ่อนไหวไปตามสื่อกระแสหลักได้ง่ายยิ่งง่ายต่อการ Hard Sell ยิ่งขึ้น หลังๆ มาเลยกลายเป็นอารยธรรมกิมจิครองเมืองประเภท อะไรๆ ก็สไตล์เกาหลีไปเสียหมดอย่าง ที่หลายๆ คนบ่นกันนั่นแหละค่ะ โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเราและผู้ใหญ่ในบ้านเราจริงๆ จากคุณ : waidhaya เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:36:46

ความคิดเห็นที่ 15 แต่สิ่งที่ทำให้เราอยากตั้งกระทู้นี้จริงๆ นั่นคือ RUNNING MAN ตอนที่มาไทยค่ะ เราก็ได้ข่าวเหมือนกันว่าแก๊งรันนิ่งแมนมาไทย ยังอยากไปรับที่สนามบินอยู่เลย (อยากเจอ ยูแจวอก และ อีกวางซูมากกกกก) เราเห็นแฟนแคมบ้างเล็กน้อยค่ะ แต่รู้สึกตกใจมากตอนมาดูตัวออนแอร์ ... มีคนไปรับรันนิ่งแมนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากๆๆๆ เลยล่ะค่ะ (ใช้คำว่าสุวรรณภูมิแตกพอๆกับตอนที่คอนเสิร์ตรวมศิลปินมาไทยได้เลย) เราก็รู้สึกดีนะ ขนาดดาราในรันนิ่งแมนยังดีใจเลย ไม่คิดว่าจะมีคนไทยรู้จักรินนิ่งแมนเยอะขนาดนี้ ..แต่ตอนดูไปเราก็คิดนะ .. แล้วแบบนี้พอคนเกาหลีดูเค้าจะรู้สึกไง? โอเคค่ะ เมืองไทยสวยมาก ผู้คนใจดี ... แต่เรากลับคิดในไง่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นได้แบบจริงจังว่า "เราคลั่งเกาหลีมาก" มากขนาดทุกที่ที่รันนิ่งแมนไป จะมีแฟนๆตามถ่ายวิดิโอตามถ่ายรูป ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนไปพัทยาแล้ว ยังมีแฟนๆตามไปด้วยตลอด แต่ตรงนี้เรายังพอเข้าใจค่ะ เพราะเป็นรายการนอกสถานที่ ทำให้แฟนๆสามารถตามถ่ายดาราได้อย่างเต็มที่ เพราะตอนนักร้องเกาหลีคนนึงมาไทย เราก็เคยตามไปเฝ้าที่โรงแรมแบบข้ามวันข้ามคืนเหมือนกันค่ะ แต่เรามาจี๊ดดดดดดดดดดดด ตรงที่ ตอนที่อีกวางซู ได้ของประจำตัวเป็นหนังสือบทสนทนา เขาเลยพยายามพูดภาษาไทย ด้วยสำเนียงผิดๆถูกๆ (น่ารักนะ) ทีนี้เขาก็เดินไปเจอแฟนคลับชาวไทย เขาเลยลองพูดภาษาไทยคำว่า "พูดภาษาเกาหลีได้มั้ย" รู้สึกว่าแฟนไทยจะตอบว่า ได้ทีนี้เขาเลยลองถามต่อว่า "ทำอย่างไรดีล่ะ" แฟนไทยตอบกลับทันที "โอโตะเค๊~" (คำแปลของ ทำอย่างไรดี) เท่านั้นหละ ความภูมิใจในความเป็นไทยเราถดถอยเลยจริงๆนะ คนเกาหลีถามมาเป็นภาษาไทย เราตอบเกาหลีใส่เขาได้ทันทีเลย.. เราเลยรู้สึกว่า ถ้่าคนเกาหลีมาดูเขาคงภูิมิใจในความเป็นชาติของเขานะ แต่เรามาดูกลับรู้สึกคนละแบบเลย ทำให้เรามานั่งคิดเลยว่า เราเองก็พูดเกาหลีเป็นคำๆแบบนี้ได้เหมือนกัน เพราะดูซีรีย์เกาหลีเยอะ "โอโตเค๊~" "โบ๊~" "ชิจา~" "อันยอง~" "ดงเซง" คัมซัมฮัมนีดา" ฯลฯ  เพราะฉะนั้นเราไม่้ได้จะโทษแฟนๆที่ตอบกวางซูเป็นภาษาเกาหลีว่าผิด หรือ ไม่ดีอะไรนะคะ เราเข้าใจว่าโมเม้นท์นั้น เขาอยากให้เราตอบเกาหลี เราก็ตอบแค่นั้นเอง แต่เรามารู้สึกตรงที่ เราเองก็พูดแบบนั้นได้ทั้งที่ไม่ได้เรียน เรารู้จักราชวงศ์เกาหลีทั้งเหล่าทั้งกอทั้งที่ไม่ได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ เรารู้จักคำเีรียกขานญาติพี่น้องของคนเกาหลีทั้งที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนเกาหลีจริงๆ เป็นเพราะทุกอย่างที่เราดู เราเห็นในชีวิตประจำวัน ทำให้เราซึมซับเรื่องเหล่านี้ไปโดยไม่รู้ตัว เชื่อเถอะ เรามั่นใจเดี๋ยวนี้คนไทย ที่ต่อให้เกลียดเกาหลียังไง แต่ก็เข้าใจว่าคำว่า "อปป้า" แปลว่าพี่ชาย จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:45:18

ความคิดเห็นที่ 16 อีกอย่างหนึ่งที่เราเห็นได้ชัด และรู้สึกว่าเกินไปแม้จะเป็นคนบ้าเกาหลีันั่นคือ "การใส่ฮันบก" ค่ะ ตัวอย่างแบบที่เราเห็นชัดเจนนะคะ ตอนเราไปที่ อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ที่ควรนำเสนออะไรที่มันเป็นวัฒนธรรมชาวเหนือ ต่อให้ปายจะถูกปรุงแต่งด้วยวัฒนธรรมเมืองกรุงแค่ไหน แต่สิ่งที่เรารับไม่ได้ และ รู้สึกว่า "ไม่ใช่" เลยจริงๆ คือบริการ "ใส่ชุดฮันบก" ถ่ายรูปที่ระลึกค่ะ .......................................... ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวว่า "เห้ย ถ้ากรุงเทพฯจะไม่รู้สึกว่าแปลกเลย แต่มันปายนะ มันต่างจังหวัด แหล่งท่องเที่ยวของไทย จะมาใส่ฮันบกเป็นที่ระลึกทำพระแสงอะไร?" และยิ่งงงไปใหญ่เมื่อเห็นคนต่อคิวเยอะเหมือนกัน หนำซ้ำรู้สึกว่าที่อัมพวาก็มีบริการแบบนี้แล้วเช่นกันค่ะ บางอย่างมันมีได้ แต่ไม่สมควรมีมากขนาดนี้จริงๆ เราเชื่อเลยว่าแฟนคลับบางคนไม่เคยใส่ชุดไทยด้วยซ้ำ แต่อยากลองใส่ฮันบกชุดประจำชาติของเกาหลีดูสักครั้ง จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:54:40

ความคิดเห็นที่ 17 มาอยู่เป็นเพื่อน จขกท ผมก็เริ่มเบื่อๆเกาหลีแล้วหละ ตั้งแต่เห็น รายการมาถ่ายที่ไทย บ่อยแล้วได้เห็นนู้นเห็นนี่ ทำให้ รู้แจ้งเห็นจริงมากขึ้นเลยหละ จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 03:56:17

ความคิดเห็นที่ 18 เราฟังแต่เพลง ดูคอนบ้าง ดูLiveบ้าง แต่ไม่เคยไปรับที่สนามบินอ่ะ เกลียดโฆษณาที่มีคำพูดว่า Style เกาหลี แบบเกาหลี มากๆ เกลียดแบบจริงจังด้วย เจอปุ๊บเปลี่ยนทันทีอ่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 07:11:14 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 04:11:08 จากคุณ : เจ้าชายจอมพลัง เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 04:10:36

ความคิดเห็นที่ 19 ตามอ่านเงียบๆ เป็นเพื่อนจขกท.ด้วยคนนะคะ ^^ จากคุณ : PulottO เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 04:11:36

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านถึงตรงนี้ รู้สึกว่าโดนจขกท ยัดเหยียดให้เห็นถึงเหตุผลที่เราไม่ควรเสพบันเทิงเกาหลี (แค่ความรู้สึกตอนนี้นะครับ) รอกระทู้จบ ผมจะมาอ่านอีกทีว่าจุดประสงค์หลักของคุณคืออะไร ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าบทความนี้จะสื่ออะไร แต่จั่วเรื่องมีคำว่า "บ่น" แสดงว่าคุณกำลังพูดถึงด้านลบอยู่ ทั้งๆที่คุณก็ชอบบันเทิงเกาหลี ผมเข้าใจถูกมั้ย เอาไว้จบแล้ว จะมาตอบ(ยาวๆ) อีกรอบครับ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 04:28:07 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 04:26:22

ความคิดเห็นที่ 21 ทีนี้มาถามถึง "ทางแก้" กันนะคะ บอกตรงๆ จขกท.ก็ไม่ทราบค่ะ ขนาดผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจในการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงประเทศยังไม่ทราบ แล้วกับแค่คนธรรมดาอย่างเราจะทำอะไรได้ค่ะ แต่ที่เราคิดว่าเราสามารถทำได้จริงๆคือ การเสพย์วัฒนธรรมเกาหลีให้น้อยลงค่ะ ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่ก็สมควรพัฒนาศักยภาพในการนำเสนอข้อมูลกับสังคมด้วย (เลิกเอาเรื่องเงินเป็นตัวตั้งสักที) ไม่ใช่จขกท.ไม่เข้าใจความรักที่แฟนคลับมีต่อศิลปินนะ เราเข้าใจอย่างดีเลยล่ะ (เรายังเคยอยากไปสักชื่อควอนจียงที่ตัวเลย) แต่เราว่าเรื่องพวกนี้ มันมีขอบเขตที่เหมาะสมอยู่ และไอ้เรื่องความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นเนี่ย เราคิดว่า มันไม่ส่งผลกระทบกับสภาพสังคมปัจจุบันนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะเราเชื่อว่าเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ "รับได้" แ้ล้ว แต่เราว่าส่งผลกับอนาคตเต็มๆอย่างที่เคยเกริ่นไว้ นั่นคือ เด็กไทยแทบจะไม่รู้ประวัติศาสตร์ไทยด้วยซ้ำ ... เราเคยมานั่งคิดกับพี่ที่ติดซีรี่ย์ด้วยกันทุกวันว่า "ทำไมละครไทยไม่ทำละครย้อนยุคแบบเกาหลีบ้าง ทั้งที่วรรณกรรมดีๆมีเป็นร้อยๆ" (ย้อนยุคในที่นี้คือ การนำเอาประวัติศาสตร์จริงๆมาทำละครนะคะ ไม่ใช่แบบละครตอนเช้า กุมาร อะไีรทำนองนั้น) จุดเด่นของละครย้อนยุคเกาหลีคือ "ทุกคนเป็นฮีโร่" หลายท่านอาจยังไม่รู้ว่าซีรี่ย์เกาหลีแต่ละเรื่องที่โ้ด่งดังไปทั่วเอเชียหลายๆเรื่อง เกิดจากบันทึกในประวัติศาสตร์ไม่กี่บรรทัด (อย่างแดจังกึม เกิดจากบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าด้วยเรื่องหมอหญิงคนแรกของเกาหลีที่ได้บรรดาศักดิ์แด เนื้อหาประมาณ 3 บรรทัด แต่แต่งออกมาเป็นละคร 60 ตอนได้) ขณะเดียวกันเรากลับรู้จักกษัตริย์/ประวัติศาสตร์ไทยจากภาพยนต์เท่านั้น ทั้งที่สื่อทีวีน่าจะเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุด กลับมีละครย้อนยุคที่ทำให้เรา "เข้าใจประวัติศาสตร์" อย่างง่ายๆ น้อยมาก แทบจะไม่มีก็ว่าได้ (แต่สำหรับสี่แผ่นดินเป็นวรรณกรรมขึ้นหิ้ง ที่เรายอมรับว่าทำมากี่รอบก็ดีทุกรอบ) เราจำได้ว่า "สายโลหิต" เป็นละครย้อนยุคที่ "โคตรดี" แต่กลับไม่มีใครหยิบนำมาทำใหม่ ขณะที่ละครพลอตเดิมๆ ตบจูบ รังแกผู้หญิง ถูกหยิบกลับมาทำใหม่ไม่รู้กี่รอบ และละครประเภทที่ตัวร้ายกรี๊ดบ้านแตก ยังคงมีอยู่ในละครทุกเรื่อง ทำให้เรา "งง" และ "ไม่เข้าใจ" ว่าทำไมทำไมตัวละครแบบนี้ ผู้จัดถึงยังอยากให้มีในละครของตัวเอง ทั้งที่ตามบทประพันธ์ของบางเรื่อง ไม่มีตัวละครแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่พอกลายเป็นละครทีวี กลับมีตัวร้ายกรี๊ดวี้ดว้าย เจ้าแค้น ซึ่งในละครเกาหลีไม่มีตัวละครซ้ำซากจำเจแบบที่ว่า เป็นข้อแตกต่างง่ายๆที่ทำให้แฟนคลับเกาหลีส่วนใหญ่คิดว่า "ละครเกาหลีดีกว่าละคร"ไทย จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 04:30:41

ความคิดเห็นที่ 22 ขึ้นชื่อว่ากระทู้บ่น ก็ขออภัยที่ด้วยค่ะ ที่เราอาจเขียนอะไรแบบไม่ได้เรียบเรียง เพราะนึกได้แล้วก็เขียน เราก็เขียนอะำไรสั้นๆไม่ค่อยเป็น พอเขียนยาวก็กลายเป็นมั่วอีก แต่น่าจะสรุปประมาณว่า 1. ตอนนี้ผู้ใหญ่ และ เด็ก ควรพัฒนาไปพร้อมๆกัน ไม่ควรโทษเด็กที่บ้าเกาหลีฝ่ายเดียว 2. ตามที่เขียนมา คือ การชี้ให้เห็นว่า เด็กไทยชอบเกาหลีไปถึงไหน และ มุมมองจากคนที่ไม่ไ่ด้ชอบเกาหลีเขามองแฟนคลับเกาหลีอย่างไร (เราว่าอาจารย์เราเป็นภาพที่มองเห็นชัดพอสมควร) 3. "บ่น" ของเราไม่ได้หมายถึง "รำคาณเกาหลี" แต่เราแค่ "ตระหนัก" แล้วว่าเดี๋ยวนี้เด็กไทยชอบเกาหลีกันมากไปถึงขั้นนี้ๆ แล้วจริงๆ (ประมาณว่า พึมพำในใจก็ได้ค่ะ) เข้าใจว่าต้องมีคนไม่ชอบแน่นอน แม้เราจะชอบเกาหลีมาก แต่เราก็รู้สึกไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง และ ไม่พอใจสื่อฯในบ้านเราในบางครั้งจริงๆค่ะ เราไม่ได้คิดว่าตัวเองคิดถูกที่สุดนะคะ นี่เป็นแค่ความเห็นเรา และเราก็แค่มา "บ่น" ดังๆเท่าั้นั้น เอาเป็นว่าใครมีความคิดเห็นยังไง เชิญได้นะคะ เราก็คิดว่าเราอาจมองข้ามอะไรไปบางอย่าง หรือ เราคิดอะไรผิดตรงไหน เชิญแนะนำได้เลยค่ะ /ลาไปนอนเดี๋ยวตื่นมาอ่านนะคะ ปล.ปัจจุบันเราก็ยังชอบรันนิ่งแมนมากๆอยู่ดีนะคะ :) จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 04:56:50

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็ขอจัดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยนะครับ ตัวผมเองเป็นพวกชอบอะไรหลายอย่างอะครับ อยู่มาหลายวงการ พอจะเห็นอะไรคร่าวๆ ในแต่ละวงการครับ ซึ่งการที่มีกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันเลยครับ เช่น การทุ่มเงินซื้อของไร้สาระในสายตาของคนที่ไม่ได้สนใจ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งการตามศิลปิน .... ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตามนักฟุตบอลเลยครับ พฤติกรรมเหมือนกันแหละครับ ไปรับที่สนามบิน ขอลายเซนต์ ไปเฝ้าที่โรงแรม แล้วทำไมการติดตามศิลปินเกาหลีถึงดูเป็นแง่ลบไปซะได้ ??? คำตอบคือคำว่่า "อคติ" ส่วนคำว่า "บ้า" จริงๆก็ใช้ได้กับหลายวงการ บ้าเกมส์ บ้าบอล บ้าการ์ตูน บ้าละคร บ้าดารา บ้ากล้อง บ้ารถ บ้าเครื่องรางของขลัง ... เยอะแยะครับ ขอเข้าเรื่องที่คุณพูดในกระทู้  ..... คุณอาจจะเห็นว่า ทำไมตอนนี้มีแต่กระแสเกาหลีรอบๆตัวคุณ .... ก็เพราะคุณสนใจเรื่องนั้นไงครับ ถึงดูเหมือนว่าอะไรก็เกาหลีๆไปซะหมด สมมติ คุณเดินมาเจอกับผมที่ห้าง ผมยืนเลือกการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ แล้วจังหวะนั้นเอง ห้างเปิดเพลง bo peep ละคุณเห็นผมเต้นตามร้องตาม ก่อนที่ผมจะไปเลือกซื้อเลนส์กล้อง เพื่อเอาไปถ่ายนักฟุตบอลที่โรงแรม ตามสายตาของคุณ(ที่สนใจเกาหลี) ก็จะเห็นว่า ผมบ้าเกาหลีและสนใจเกาหลี มากกว่าที่คุณจะคิดว่าผมชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ฟุตบอล และกล้อง (ผมชอบทุกอย่าง) พูดถึงญี่ปุ่น คุณนึกอะไรบางอย่างออกมั้ยครับ ... วัฒนธรรมญี่ปุ่น กลืนกินประเทศไทยมาตั้งแต่ก่อนเกาหลีบูมอีกครับ ... ง่ายๆ ธุรกิจการ์ตูนญี่ปุ่นนี่ก็เงินมหาศาลเลยนะครับ ...ทั้งหนังสือ อนิเมะ คอสเพลย์ โมเดล ฟิกเกอร์ ฯลฯ โดราเอม่อน ดราก้อนบอล -------------- Super junior Bigbang ยูคาตะ, ซูซิ (เห็นในการ์ตูน) ---------- ฮันบก,กิมจิ (เห็นในบันเทิงเกาหลี) สึโก้ยยย ------ อปป้า อะไรคนไทยรู้จักมากว่ากันเอ่ย ??? แล้วคุณลองนึกดูดีๆ ว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แทรกซึมเข้ามาตั้งนานแล้ว มันทำอะไรประเทศไทยได้บ้าง ? คนไทยก็ยังอยู่กันสบายดี และยอมรับในใจว่าวัฒธรรมญี่ปุ่นคืออะไรที่อยู่คู่คนไทย เช่น การ์ตูนญี่ปุ่น .... แม้กระทั่งหนัง AV ที่ผมพูดถึงญี่ปุ่น ก็เพราะ จะบอกคุณว่า การแทรกซึมวัฒนธรรม มันเป็นไปตามกลไกของโลก สื่อและสินค้าไทยที่เข้ามาเกาะกระแสเกาหลี ก็เพราะคำว่า "เม็ดเงินและผลประโยชน์" จึงทำให้ทุกวันนี้คนไทยต้องโดนยัดเหยียดกระแสเกาหลี เพราะเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ต้องการขายสินค้าตัวเองโดยใช้คำว่า เกาหลี .... !! เหมือนกับตอนที่คำว่า "ชาเขียว" มันขายได้นั่นแหละครับ ตรงนี้ไม่โทษสื่อที่ยัดเหยียดเกาหลีนะครับ ทำธรุกิจก็ต้องมองผลประโยชน์อยู่แล้ว ในเมื่อมันขายได้ เขาก็ต้องจับจุดนี้มาขายผู้บริโภค ....เรื่องธรรมดา.... บันเทิงเกาหลี ต้องยอมรับว่าของเค้าดีจริงคับ ใครเผลอเมื่อไรก็ติดลมครับ แต่คุณอย่ามองด้านเดียว มีเกิดก็ต้องมีดับ ... มีคนเลิกชอบไปก็ตั้งเยอะ .... ทุกสิ่งยอมไม่จีรัง โลกเราย่อมมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมครับ ตอนนี้บันเทิงไทยก็กำลังก่อตัวที่จีน มวยไทยก็ดังไปทั่วโลก แน่นอนคนต่างชาติก็มีที่แอนตี้ แต่คนไทยก็ภูมิใจกับมันใช่มั้ย ? เราอยากเผยแพร่วัฒนธรรมเราไม่ใช่หรอ ? แล้วทำไมไม่เปิดใจรับวัฒนธรรมประเทศอื่นในโลกละครับ ^^ เก่าไป ใหม่มา .... ถ้าคุณยึดติด หรือตั้งแง่ ก็จะทุกข์ในใจตัวเองนะครับ อย่างอาจารย์คุณก็แลดูอคติเกินไปนะ ผมถามหน่อย ใส่สูทผูกไท มันวัฒนธรรมของฝรั่งใช่มั้ยครับ ? มันฝังรากลึกไปในคนไทยแล้ว .... ตอนมันเข้ามาใหม่ๆอาจมีคนต่อต้าน.... แต่"เวลา" ก็ทำให้เรายอมรับในวัฒนธรรมนั้นได้เอง .... จริงมั้ยครับ สรุปนะครับ อยากให้คุณและทุกคนปล่อยวางอะครับ ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง คนเรามันต้องปรับตัวกับโลกที่เปลี่ยนไป แก้เขาไม่ได้ ให้แก้ที่ตัวเราก่อน ปรับมุมมองตัวเองก่อน เราชอบอะไร เราอยากทำอะไรทำไปครับ ถ้ามันไม่ผิดกฏหมาย หรือ ไม่ผิดกาลเทศะ เราจะแคร์กับสายตาของคนรอบข้าง ที่มองว่าเราบ้าทำไมครับ ถ้าทำไปแล้วไม่เดือดร้อนใคร ก็ทำตามที่ใจอยากเถอะครับ ถ้ามีคนที่ชอบเกาหลีแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็ให้ให้เจาะจงตัวบุคคล เพราะวงการไหนๆ มันก็มีคนนิสัยไม่ดีอยู่แล้ว เราตักเตือนเขาได้ก็ตักเตือนไปครับ คนที่เหมารวม คนที่มองคนอื่นในแง่ลบ ก็คือ คนอคติ อะครับ ไม่มีค่าพอจะใส่ใจหรอกครับ มันอยู่ที่ตัวเรา ว่าจะหาความสุขกับชีวิตยังไง อย่าไปเครียดกับเรื่องการแทรกซึมวัฒธรรมเลยครับ ปล.จขกท ก็ลองฟังเพลงไทยเดิมดูครับ ถ้าอยากรักษาวัฒนธรรมชาติ (ไม่ได้ประชดนะครับ หมายความตามที่พูดเลย) แต่สำหรับผม ยังไงผมก็ชอบฟังเพลงเกาหลีมากกว่าเพลงไทยเดิมนะ แต่ผมก็รักประเทศไทยที่สุด อิอิ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 06:03:09 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 05:58:34 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 05:54:30 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 05:50:53

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วพอจะเข้าใจในความชอบ รสนิยมของแต่ละคน ก็ประเทศเรา เสรี และเปิดกว้างให้กับคนต่างชาติ แต่สิ่งที่เกาหลีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเด็กๆ เยาวชนไทย เลยทำให้น่ากังวลใจว่าอนาคตประเทศไทยคงต้องตกเป็นทาสทาง วัฒนธรรมเกาหลีเป็นแน่ เพราะเริ่มกระจายแทรกซึมไปถึงต่างจังหวัดแล้ว ความเห็นส่วนตัวของเรา เกาหลีไม่ได้ให้เกียรติประเทศไทยเรา เข้ามา ก็เพียงกอบโกยเงินกลับไปเท่านั้น   เอาแต่ได้ ไม่เคยให้ นี่คือความไม่น่ารัก ของประเทศนี้ อยากให้ดูVDO นี้ ประมาณนาทีที่ 10.07 แล้วช่วยพิจารณา ว่าสิ่งที่ พวกเค้าทำ เหมาะสมหรือไม่ จากคุณ : sarirat เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 06:12:38

ความคิดเห็นที่ 25 คิดแทนคนอื่น จากคุณ : gagamoo เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 06:32:26

ความคิดเห็นที่ 26 คนไทยรับวัฒนธรรมง่ายคะ แต่เชื่อเหอะเดี๋ยวเราก็ปรับให้เข้ากะเราได้ เพราะเสน่ห์ของคนไทยคือความใจกว้างที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ และรู้จักปรับเปลี่ยน ความหลากหลายของเราเนี่ยแหละที่โดดเด่นมาก แต่ค่านิยมอันนึงที่เด็กไทยอย่ารับมาเลย คือบูชายกย่องความสวยความงามมากจนเกินไป จากคุณ : dot_face เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 06:42:28

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเจอความเห็นประเภทแอนตี้ ๆๆๆเกาหลี มันเข้ามาเยะเกินไปแล้ว ผมว่าคนพวกนี้น่าจะมองอีกด้านนึง ว่าทำไมเกาหลีถึงเข้ามาได้เยอะขนาดนี้ แล้วไม่ใช่แค่ที่ไทยที่เดียว แต่มันแผ่อาณาเขตครอบคลุมแทบจะทั่วเอเซียอยู่แล้ว เผลอ ๆ ไปถึงฝังตะวันตกนิด ๆ แล้วด้วย กับการมองว่า ทำไม ๆ ต้องเสพเกาหลีเยอะแยะขนาดนี้ จนเด็กคิดว่าเกาหลีดีกว่าไทย นั่นเลยคือประเด็นว่า ทำไม ? เพราะของเขามีดีกว่าเราไง เขารู้ว่าทำอย่างไรคนจะชอบ ตรงนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ตั้งเยอะแยะแล้ว ว่า เราควรจะพัฒนาเมืองไทย อุตสาหกรรมเราไปทางไหน เพิ่มอะไร เก็บอะไรไว้ อะไรเน่าที่ควรตัดทิ้ง แต่ไม่เลย ดันไปทำแบบนี้ 1. ป๊อปเกาหลีมาอีกทอดนึง 2. ใส่อะไรที่เป็นเกาหลีลงในละครไทย ของกิน โฆษณา เอาใส่มามันทื่อ ๆ อย่างนั้นเลย ทำไมถึงหัวทึบกันไปหมดกับทีมสร้างสรรค์บันเทิงบ้านเรา ดัดแปลงมาสิครับ ไม่ใช่ลากมาใส่ทั้งดุ้นแบบนั้น ใส่อะไรที่มันเป็นไทย ๆ โดดเด่น มองปุ๊บรู้ และยิ่งมีเสน่ห์กว่า เพลียมาก ณ จุดนี้ มองให้ตรงจุด แก้ให้ตรงจุด อย่าไปแอนตี้เพราะเขาดีกว่า มันเหมือนเด็กขี้อิจฉา จากคุณ : Koraja เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 06:55:30

ความคิดเห็นที่ 28 ขอไปอ่านให้จบเดี๋ยวกลับมาตอบ หลายประเด็นมาก ป.ล คลิปข้างบนนี่บันเทิงกันเกินไปไหม... อย่างงั้นที่ใส่ริสแบนด์สีเหลืองกันโครมๆ แล้วบอกกันว่ารู้ว่ามันสื่อถึงอะไรก็สร้างภาพงั้นสิ (อย่าบอกอีกนะว่าไม่รู้ว่ารูปบนแบงค์เป็นรูปใคร) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 13:15:10 จากคุณ : เขียนบน iPhone (~ตาดู หูฟัง ใจสัมผัส~) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 06:56:58

ความคิดเห็นที่ 29 (คลิป คห24 หมายถึงนาทีที่ 9.57 ป่ะ ที่ยัดไว้ในรองเท้าน่ะ) เราก็เคยสนใจเกาหลีอยู่พักนึง แต่ไม่ได้มากขนาดยอมเสียตังให้ จะเสียตังให้ก็แค่ซื้อผลงานเพลงที่ชอบเท่านั้น ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ศิลปินหรอก (จิปาถะอื่นๆ อย่าหวังจะกอบโกยจากชั้นได้) เราจัดว่าเราบ้าแบบคนปกติ แต่เพื่อนเราบ้าแบบเกือบเสียสติ เสียดายตังแทนมันจริงๆ แต่ช่วงปีที่ผ่านมานี้ เลิกตามไปเยอะเลย ตามแต่ศิลปินที่ชอบอยู่ เกาหลีมันก็จะออกจากชีวิตไปเรื่อยๆเอง จากคุณ : Heather (nbeat) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 07:15:04

ความคิดเห็นที่ 30 เราเสียเงินให้เกาหลีเหมือนกัน ค่าไฟเพิ่มหลายร้อยเลยโหลดทิ้งไว้ จากคุณ : แห้วกับใบบัวบก เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 07:47:53

ความคิดเห็นที่ 31 ผมอ่านแบบไม่ครบถ้วนนะครับ เอาความคิดผมละกัน อันนี้แล้วแต่จะคิดนะครับ แต่ส่วนลึกแล้ว ผมว่ากรณีเค้าน่าศึกษาครับ (ทั้งการสร้างความก้าวหน้า และเบื้องหลังที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่) แต่ผมไม่ชอบวิธีการเข้าครอบงำแทรกซึมของวัฒนธรรมที่มาก"เกินไป" สำหรับผม เกาหลีช่วงนี้เหมือนช่วงกอบโกยยังไงไม่รู่นะครับ ทำเหมือนกับรู้ว่าอีกปีสองปีโลกจะแตกอยู่แล้ว กรุไม่สน กรูขอรับอย่างเดียว แอบเห็นด้วยกับ sarirat ครับ เท่าที่เคยฟังเคยอ่านมาพอสมควร หลังๆพอเริ่มรู้ว่าควรจะทำอย่างไร พี่แกมากันใหญ่เลย (ดูกรณีง่ายๆจากที่ไปเปิดตัวที่ญี่ปุ่น พอมาก็มากันตรึม หัดดูอย่าง โบอา บ้างนะ) จะโทษไอดอลก็ไม่ได้นะครับ ต้องโทษที่ระบบความคิดเค้ามากกว่า มาเร็วแรง ดังดี ได้เงินเยอะ แต่อยู่นานมั้ย ผมว่าคงไม่ แต่ก่อนผมก็ตามเกาหลีนะครับ แต่พอรู้อะไรมากขึ้น บางครั้งก็ต้องปรับตัวตามความเป็นจริง (จำได้ว่าชอบ family outing มากเหมือนกัน) ผมคงจะแก่ตัวแล้วด้วยแหละนะ 55 เรื่องการแทรกซึมทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องร้ายแรงนะครับสำหรับผม ถ้าไม่มากผมไม่ว่า แต่จะให้ถึงกับปล่อยตามมีตามเกิดนี่ ผมว่าคงไม่เหมาะ ด้วยความที่เราเป็นพวกที่มีวัฒนธรรมแบบยาวนานแบบ พวกจีน ยุโรป ญี่ปุ่น ความคิดความอ่าน มันจะแตกต่างกับพวกที่วัฒนธรรมสั้นอย่าง อเมริกา เกาหลีครับ ถ้าส่วนนี้หายไปหมด แล้วเกิดเป็นวัฒนธรรมเอาแต่กินอย่างอเมริกานี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 07:55:42 จากคุณ : คนไทยลืมง่าย (kreatermetal) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 07:52:33

ความคิดเห็นที่ 32 เราเห็นด้วยกับ คุณ Kyo3 ค่ะ^^ ส่วนเรื่องคลิปในคห24 ก็อยากให้ลองคิดสักนิดว่าที่เขาทำไปน่ะ เพราะเขา 'ไม่รู้' วัฒนธรรมเขาต่างกับเรา สถาบันเบื้องสูงถูกล้มล้างไปนานแล้ว.. จากคุณ : เขียนบน iPad (ranchitaak) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 08:51:23

ความคิดเห็นที่ 33 คลิปควมเห็นที่24เราว่านะ อารมณ์มันก้อเหมือนเด็กๆเอาเหรียญมาทอยเล่นนะแหละ ตอนเราเด็กๆเราก้อเอาเหรียญมาทอยเล่นบ่อยๆ บางครั้งเหรียญกลิ้งยังเผลอเอาเท้าไปดักเหรียญให้หยุดเลย เด็กๆไม่รู้เรื่องหลอกว่ายังไง มันเป็นเรื่องของต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม อย่าเอาตรงนี้มาแอนตี้เลยค่ะ เกาหลีเค๊าไม่มีราชวงศ์เหมือนเรา เค๊าจะรู้ไม๊อารมณ์จงรักภักดีแบบคนไทย พูดแค่นี้ก็น่าจะรู้นะ ตอนนี้คนไทยทำร้ายราชวงศ์ มากกว่านี้เย๊อะ จากคุณ : naomi เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:13:03

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับ คห. 27 ค่ะ จริงๆ แล้วเพลงไทย ละครไทย ดีๆ ก็เลือกที่จะฟัง แล้วก็ถ้าชอบก็แบบชอบฝังใจด้วย เป็นคนที่ถ้าเพลงไหนโดน ก็จะฟังซ้ำๆ อยู่แบบนั้นทั้งวัน และเรื่อยๆ แต่ที่ชอบเพลง ละคร หรือรายการเกาหลี เพราะว่าเค้าทำแล้วมันให้ความบันเทิงจริงๆ แล้วเค้ามีความมุ่งมั่นที่จะทำมันจริงๆ ทำให้งานออกมาดี ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็ชอบ ยกตัวอย่างอย่างนักร้องเกาหลี GG หรือ BB  กว่าจะเดบิวต์กันแต่ละวง ใช้เวลาฝีกหัดนานโข ผ่านการขัดเกลา ทำให้เค้ามีความพร้อมมากๆ  ออกมาก็เป๊ะ กันเกือบทุกวง (อันนี้น่าเอาอย่าง) รายการบันเทิงของเกาหลี กว่าจะออกมาให้ชม รู้สึกเค้าลงทุนมากๆ กล้องนี่ไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว Plan งานกันมาเป็นอย่างดี สังเกตุง่ายๆ รายการ Running man ดูก็รู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรๆ ก่อนมาถ่ายทำมากมาย ตอนดูยังรู้สึกทึ่ง ว่าเค้าทำแบบนี้ได้ยังไง (น่าศึกษา) ส่วนวัฒนธรรมเกาหลีนั้น ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นเรื่องของบุคคลมากกว่า บางอย่างวัฒนธรรมก็คล้ายกับบ้านเรา คือเคารพผู้ที่อายุมากกว่า กตัญญูพ่อแม่ อะไรแบบนี้เหมือนกัน ทำไมไม่คิดในมุมดีๆ บ้างล่ะ มองอีกมุมนึง เราก็รับวัฒนธรรมตะวันตกมาเยอะกว่านี้อีก ทำไมไม่เห็นมีใครตั้งกระทู้ว่าอะไร ??? หรือมันเป็นเพราะว่า "ความอิจฉา" จริงๆ  - -* จากคุณ : sonsine เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:14:55

ความคิดเห็นที่ 35 จากคลิปคห.24 เราเป็นแฟนคลับโซนยอชิแดคะ (แต่ไม่ถึงกับเป็นโซวอน) พฤติกรรมในคลิปเรารับไม่ได้จริงๆ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเขาไม่ทราบวัฒนธรรมของเรา พูดแบบนี้ก็เหมือนการแก้ตัวอีก แต่มันคือเรื่องจริง ไทยเรายังปกครองด้วยระบอบนี้อยู่ แต่ของเขาไม่มีแล้ว ฉะนั้นก็อยากให้มองในจุดนี้ด้วย เปิดใจให้กว้างคะ เรื่องกระแสเกาหลี เราว่ามันก็มากไปจริงๆแหละ เราที่ตามเกาหลีมา 5-6 ปี ก็ใช่ว่าจะคลุกแต่กับเกาหลีซะเมื่อไหร่ ถึงแม้จะไม่ได้อัพเดทข่าวบันเทิงไทยอีกเลย นอกเสียจากมันเข้ามาหาเอง แต่ก็ใช่ว่าจะบ้าจนขึ้นสมอง เห็นสินค้าของเรามีเค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็ดีใจ แต่มองอีกแง่ วุ่ย! มันมากเกินไปจริงๆแหละ เราเคยตั้งกระทู้รวม CF ของไทยที่มีเกาหลีเป็นพรีฯ เยอะมากกคะ ย้ำว่ามากกก สินค้าแทบทุกอย่างเป็นเกาหลีไปหมดแล้ว ไม่แปลกที่จะมีคนไม่เห็นด้วยมากขึ้น มีคนแอนตี้เกาหลีมากขึ้น ไปไหนก็เจอแต่เกาหลีๆ เราก็เอียนคะ เอียนเพราะมันมากเกินไปจริงๆ ตอนนี้คือได้แต่ปลงคะ ก็อยู่ของเราไปเรื่อยๆ ใครอยากหยุดความเป็นเกาหลีก็ลองหยุดดู (เพราะเราเคยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน ช่วงนั้นเล่นเอาไม่รู้จักบอยแบนด์เกิลกรุ๊ปที่เดบิวต์ช่วงนั้นเลย -*-) ปลงเถิดคะปลง จากคุณ : rainnykimki เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:22:38

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่าคนที่ชอบก็ดูไป  คนไม่ชอบก็ไม่ต้องดู   มีคนชอบเยอะ  ก็มีคนนำมาฉาย นำมาขาย  เป็นการตลาดง่าย ๆ จากคุณ : ball mill เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:27:43

ความคิดเห็นที่ 37 เราว่าเกาหลีช่วงหลัง โหมกระหน่ำมากไป จนคนจะเบื่อและเอียนเอาง่าย ซึ่งเราว่าคนไทยก็เริ่มเป็นแล้วค่ะ ไม่ใช่แต่ญี่ปุ่นหรอก แต่ว่าสื่อไทยก็ยังยัดเยียดอยู่เพราะมันก็ยังไม่ตกกระแสซะทีเดียว หวังว่ามันคงจะเหมือนกับกระแสชาเขียวละกัน แต่ตอนนี้อยากดูหนังจีนบ้างอะไรบ้าง เบื่อละครเกาหลีย้อนยุคแล้วนะคะช่อง 3 T_T จากคุณ : น้ำชายามเย็น เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:51:02

ความคิดเห็นที่ 38 ตราบใดที่เรายังตระหนักได้ว่าผืนแผ่นดินที่เราเกิดเรายืนอยู่นี้คือผืนแผ่นดินไทย ยังไงเราก็คือไทยครับ ผมคิดแค่นั้น จากคุณ : ป้าข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 09:59:56

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงผมจะเลือกเสพสิ่งที่ดีที่สุด แต่ผมก็ไม่ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดเหมือนกัน จากคุณ : สบู่ครึ่งก้อน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:03:16

ความคิดเห็นที่ 40 ว่ากันจริงๆ  เราว่าการอคติกับวัฒนธรรมใด  วัฒนธรรมหนึ่ง  มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเสรีเลย   ส่วนตัว  มีความคิดฝังหัวเกลียดคนเกาหลีตั้งแต่เด็ก   โดยมโนภาพของเราคือ  คนเกาหลีขี้โกง  ตีผู้หญิง ชอบใช้ความรุงแรง ไม่สุภาพ และกินหมา   ถึงแม้ปัจจุบันที่เราฟังเพลงเกาหลี  ติดตามดูบันเทิงต่างๆ ของเกาหลี   แต่เราก็ยังคิดยังเชื่อแบบเดิมอยู่     คือมันต้องแยกให้ออกว่า  เรากำลังเสพสื่ออยู่  มันเหมือนกับการเปิดหูเปิดตานัันแหละ     อันไหนเหมาะกับเรา  เราก็ชอบอันนั้น    ซึ่งจริงๆ แล้ว  มันไม่เกี่ยวกับชนชาติเลย หากแยกประเด็นเชื้อชาติออกไป   เราก็จะมองเห็นว่า  ไอ้อะไรที่เราชอบๆ น่ะ  มันขึ้นกับรสนิยมส่วนตัวของเราล้วนๆ เลย    คือไม่ใช่ว่าอะไรที่เป็นเกาหลีทำเราก็ชอบไปหมด  แต่ในทางกลับกันคือ  สิ่งที่บันเทิงเกาหลีนำเสนอเรามา  มันโดนใจเราต่างหาก ดังนั้นปัญหาที่ถกเถียงกัน  เรื่องโดนกลืนวัฒนธรรมเนี้ย  ต้นเหตุจริงๆ คือคนไทยเราเองนั้นแหละ    เรายอมรับมาเอง  จะไปโทษใครได้    แต่การอคติกับวัฒนธรรมต่างชาติ  เราว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไร    สิ่งที่ควรจะมองคือ  เราจะเอาวัฒนธรรมของประเทศไทยเรา  ไปแทรกซึมย้อนกลับไปสู่คนต่างชาติได้อย่างไรต่างหาก เห็นตอนนี้กระแสศิลปินไทยในจีนก็เริ่มได้รับการตอบรับบ้างแล้ว  บางทีนี้อาจเป็นโอกาสให้ประเทศไทยเรา ได้ส่งสินค้าทางวัฒนธรรมไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆ  มากขึ้นก็เป็นได้   ปล.  ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดเห็น จขกท ซักเท่าไหร่   เรื่องของคนไทยพูดเกาหลีได้   เพราะตอนคนไทยเห็นฝรั่ง หรือคนต่างชาติ  พูดไทยได้  เรายังดีใจ คนชาติอื่นก็คงคิดไม่ต่างกันนักหรอก    อีกอย่างคือ  มันจะทำเป็นเกลียดตัวกินไข่ ไปหน่อยหรือเปล่า    ที่บอกไม่ชอบเกาหลีๆ   แต่พอเทควันโดได้เหรียญทอง  โดยการคุมทีมของโค้ชเช (คนเกาหลีแท้ๆ)   ก็เห็นดีใจกันซะมากมาย    แถมเป็นปลื้มซะยกใหญ่  ที่โค้ชแกบอกว่ารักเมืองไทย    อย่างนี้มันตลกร้ายชัดๆ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 10:18:13 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 10:15:28 จากคุณ : numtyu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:04:09

ความคิดเห็นที่ 41 คห.37 ส่วนตัวไม่ชอบดูทั้งหนังจีน หรือละครย้อนยุคเกาหลี เท่าไร่หรอกครับออกจะติดละครไทยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้จะหา ละครไทยดีๆดูซักเรื่องหายากจริงๆ จากคุณ : สบู่ครึ่งก้อน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:05:49

ความคิดเห็นที่ 42 หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้เราคิดถึงเรื่องที่เพิ่งขึ้นกับเราเมื่อวานนี้เอง เราเป็นแฟนคลับเกาหลีค่ะ เพิ่งมาตามดารานักร้องแบบจริงจังได้ปีกว่าๆ แต่ดูซีรี่ย์มานานแล้ว ตอนนี้ก็เรียกว่าอยู่ในคลับแบบเต็มตัว มีกลุ่มมีแก๊งค์ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ทำเราอึ้งๆปนงงๆก็เกิดจากพี่ๆในกลุ่มเรานี่เองค่ะ ขอบอกว่าคนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว อายุเลยเลขสามไปแล้ว คือเราแชทกันในกลุ่ม แล้วบอกว่าวันนี้เราดูละครทีวีเรื่องนี้ คือละครหลังข่าวทั่วๆไปนี่แหละค่ะ ก็มีมีคนถามมาบ้างว่าเป็นไงบ้าง สนุกไหม แล้วพี่คนนี้เค้าตอบขึ้นมาเลยว่า "อะไร ดูละครไทยกันด้วยหรอ" เราแอบเหว่อไปนิดหน่อย เราดูละครไทยนี่ผิดปกติตรงไหน จากคุณ : PaB_KaP เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:05:55

ความคิดเห็นที่ 43 คุณสบู่ครึ่งเดียว เราติดมันทุกชาติเลยค่ะ ฮ่าๆ เป็นคนติดละครง่ายมาก ละครไทยก็ดู เมียแต่ง นี่ทำท่าจะติดทวิภพอีกละ มาดูด้วยกันมั้ยคะคุณคงไคย แหะๆ ที่อยากบอกก็คือ เกาหลีมันเยอะไปแล้วนะช่วงนี้ แค่นั้นล่ะคะ แต่ก็ติดละครเกาหลีอยู่ดี ^^" อ่าน 42 แล้ว สงสัยเราคงจะผิดปกติหนักกว่า รักชอบชาติอื่นได้ แต่อย่าดูถูกชาติไทยก็พอ จากคุณ : น้ำชายามเย็น เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:16:50

ความคิดเห็นที่ 44 พยายามหลีกเลี่ยงจะเข้ากระทู้อะไรที่น่าจะนำไปสู่มาม่าเกาหลี เพราะมีชนักปักหลังเป็นคนโลกแคบ อคติและกีดกันเชื้อชาติเกาหลีด้วยตัวเอง (ยอมรับค่ะ) แต่วันนี้ว่าง ขอหาเรื่องสักหน่อย (เวร --") แต่เรายอมรับว่าเกาหลีทำตลาดดีจริง ๆ นะ โดยเฉพาะในไทย เพื่อนสิงค์กับมาเลย์ที่เคยเป็นแฟนคลับดาราจีนด้วยกันกับเรา พูดกับเราบ่อย ๆ ว่าอิจฉาคนไทยจังเลย ดาราเกาหลีไปบ่อยมาก ดี๊ดีเนอะ (กรูควรดีใจ?) เพื่อนเรานี่มาไทยบ่อยมากนะคะ มาตามดาราเกาหลีในไทย พอถึงเวลาเก็บเงินครบที ก็ไปเกาหลีที แต่ส่วนใหญ่จะไทยล่ะ เราควรภูมิใจที่ดาราเกาหลีช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย? นอกเรื่องล่ะ --" สิ่งที่อยากจะบอกคือ เกาหลีทำการตลาดดีมากค่ะ แต่ทำดีจนเกิดกระแสตีกลับมาเป็นของแถม ถึงจะไม่ใช่กระแสหลัก แต่ทุกประเทศที่เกาหลีทำการตลาด จะต้องได้รับพฤติกรรมแอนตี้แฟนตามมาแทบทุกประเทศ ตรงนี้เราว่าเค้าควรไปปรับหน่อยนะ มันดูเป็นแผนการตลาดที่มีจุดด้อยมาก ๆ สำหรับเรา (สร้างคนรัก ๗๐ เฉย ๆ ดูได้ไม่ดูก็ได้ ๒๐ เกลียดชังแช่งชักหักกระดูกอีก ๑๐ เป็นเปอร์เซนต์ที่ไม่สวยเท่าไหร่นะ -- อันนี้มั่วเอง ไม่ได้มีหลักฐานรับรอง --") ส่วนตัวแล้ว แอบรู้สึกว่ากระแสเกาหลีแอบละม้ายคล้ายอุปทานหมู่ ... เหมือนถูกสะกดจิตหมู่สติมูเลชั่นแทรกผ่านรายการหรือละครตัวเองมาก เพราะเท่าที่สัมผัสแฟนเกาหลี ทั้งแฟนเกาหลีในไทย ในสิงค์ ในไต้หวัน ในมาเลย์ อาการเดียวกันหมด คล้าย ๆ ถูกสะกดจิตหมู่ยังไงบอกไม่ถูกอ่ะค่ะ --" (หาเรื่องถูกตบ --") --- มาแก้คำผิด บวกเสริมประโยคให้จบ (เป็นอะไรเขียนประโยคไม่จบ ) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 10:39:48 จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:20:22

ความคิดเห็นที่ 45 คลิป คห. 24  รับไม่ได้จริงๆ   คนอื่นจะว่าเขารู้ไม่เท่าทัน หรืออะไรก็ตาม แต่การมาถ่ายทำรายการที่เมืองไทย ก็ควรศึกษาบ้าง ว่าวัฒนธรรมบ้านเราเป็นแบบไหน อะไรที่เราเคารพนับถือ ไม่สมควรกระืทำ เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจคิดว่า แค่เอาเงินใส่ในถุงเท้า มันจะหนักหนาอะไร แต่ขอโทษ ในเงินนั้น มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่นะคะ แม้แต่เหรียญบาท เหรียญสตางค์ เราก็ไม่เคยใช้เท้าเหยียบ  จะว่าเราหัวโบราณก็ได้ แต่เห็นแล้วทำให้เรารู้สึกไม่ชอบเกาหลีเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าเลย ปล. ที่จริงเราก็คงเริ่มดูเกาหลีพร้อมๆ กับจขกท. เมื่อก่อนชอบหนักมากๆ ตอนฟังเพลงเกา เพื่อนมันหาว่าเราบ้า ฟังเพลงไร ไม่เห็นรู้เรื่อง แต่ตอนหลังเรามาเริ่มเบื่อเกาหลี เมื่อสองปีก่อน หลังจากเกาหลีเริ่มรุกหนัก ทำให้รู้สึกว่า ชักโดนยัดเยียดวัฒนธรรมเกาหลีจนเกินไป ตอนนี้ เพื่อนที่หาว่าเราเคยบ้าอิพวกนี้ มันกลายเป็นคอเกาหลีไปแร๊ะ แล้วพอเราไม่บ้าเกาหลีตามมัน ก็หาว่าเราบ้าซะงั้น -*- (แก้ไขคำผิดคะ) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 10:39:06 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 10:36:28 จากคุณ : modmint_tyboy เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:36:02

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยว่าเกาหลีรุกหนักแล้วก็ได้ผลมากในไทยค่ะ แต่กลไกปกป้องตัวเองของคนไทยมันไม่มีมานานแล้ว คนไทยแม้จะเห็นว่ามันมากเกินไป ก็ได้แต่บ่น แต่ไม่เห็นมีใครจะประท้วงสถานีหรือผู้ประกอบการจริงจังเหมือนทางญี่ปุ่น ที่จริง ตั้งแต่ ตะวันตก จีน ญี่ปุ่น เรารับมาผสมผสานไปหมดจนไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งต่างวัฒธรรม การแต่งกาย ถือเป็นการครอบงำของตะวันตกโดยสิ้นเชิงที่รัฐบาลจอมพล ป. สนับสนุนเพื่อความอยู่รอด การผสานทางชาติพันธุ์เพื่อผูกสัมพันธ์การค้าขายระหว่างไทยจีน การเสพวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กผ่านช่อง 9 ตอนเช้า เพราะบ้านเราไม่มี การดูภาพยนตร์ Hollywood ที่มีเทคนิคพิศดาร ฯลฯ ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน เรามองว่าการเข้ามาของเกาหลีมันก็สะท้อนถึงความพร่องในตลาดบันเทิงของเราเช่นกัน กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นวัยมีความต้องการเสพ pop culture สูง เป็นกลุ่มที่ถูกมองข้าม ตอนนี้ถือว่า pop culture ที่เอาใจวัยรุ่นในทีวีก็แทบไม่มีให้ดู ละครก็เอาใจแม่บ้าน รายการเพลงก็ต้องดูตอนละครจบ ประกอบกับสื่อที่เป็นแหล่งให้เสพ pop culture เปลี่ยนไป จากทีวีมาเป็นอินเตอร์เน็ตซึ่งมีทางเลือกเป็นร้อยพัน มันก็เลยไหลไปเรื่อย อันไหนเพื่อนชอบก็ตามๆ กันไป สุดท้ายก็ลงที่เกาหลีที่ทำมาเอาใจธรรมชาติของวัยรุ่นทุกอย่าง เป็นแหล่งที่วัยรุ่นสามารถหา role model ได้ และระบายอารมณ์สุดโต่งแบบวัยรุ่นได้ ถ้าเป็นการรับเข้ามาเพราะเราขาดทางเลือกนั้นๆ เราไม่ถือว่ามันเป็นปัญหา แต่ปัญหาก็คือ ธุรกิจบันเทิงตระหนักถึงความพร่องนี้หรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้เงินไหลออกนอกประเทศ ส่วนการตามศิลปินก็ใช่ว่าจะเป็นกันทุกคน บางกรณีก็มากเกินไปจริงๆ แต่เราว่า การพูดภาษาอื่น หรือแสดงออกว่าพูดได้มันไม่น่าอายนะ ในทางกลับกัน ถ้าเราดูรายการไทยที่ไปต่างประเทศ แล้วไปเจอฝรั่งพูดว่าสวัสดีค่ะ ได้ เราก็ชอบและไม่รู้สึกว่าฝรั่งคนนั้นคลั่งประเทศเราตรงไหน ปล 1. เทป running man ทางฝั่งเกาเค้าน่าจะคิดว่าที่มากันเยอะๆ เนี่ย มาตาม นิชคุณ มากกว่า ปล 2. เราไม่ใช่วัยรุ่น แต่เราก็ชอบนะ เพราะมีเกาหลี เราจึงมีทางเลือกมากกว่า ไทย ญี่ปุ่น จีน เมกา หลากหลายดี (แต่ช่อง 3 เกาหลีมากไปจริงๆ) มันเป็นแบบนี้~ ชอบดูซี่รี่เมกา ฟังเพลงเกาหลี อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น ดูหนังจีนกำลังภายใน สุดท้ายก็ต้องกล้บมากินข้าวแกงบ้านเราอยู่ดี ^^ จากคุณ : noneasy2go เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 10:53:17

ความคิดเห็นที่ 47 มาม่าเกาหลีอีกแล้วเหรอ? รสอื่นบ้างได้มั้ย หรือรสนี้กำลังเป็นที่นิยม?? จากคุณ : charmaine เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 11:08:09

ความคิดเห็นที่ 48 จะว่าไปกระแสเกาหลีที่พัดผ่านไปทั่วเอเชียตอนนี้ต้องยอมรับในการบริหารจัดการและการส่งเสริมของรัฐบาลเกาหลีเค้าล่ะครับ ไม่ใช่ประเทศไทยที่รับมาเต็ม ๆ ประเทศเดียว แถบนี้ทั้งหมดทั้งจีน ญี่ปุ่น(ที่ว่าแข็ง ๆ) ไต้หวัน ฯลฯ ต่างก็โดนกันหมด เพราะเค้ามากันเป็นแพ็คเก็ตใช้จิตวิทยาสูงมากในการโปรโมท ให้คนค่อย ๆ รับ ค่อย ๆ เปิดใจจากนั้นก็จะเริ่มติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะติดในที่สุด แต่ละประเทศก็มีวิธีรับมือที่ต่างกันไป อย่างจีนตอนนี้ก็เริ่มกำหนดเรื่องโควต้าสิ่งบันเทิงจากเกาหลีแล้วไม่ให้มากเกินไป ของญี่ปุ่นถ้านักร้องเกาหลีจะไปที่ญี่ปุ่นต้องร้องเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งเกาหลีเองก็ต้องเสียสละเรื่องภาษา ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ญี่ปุ่นฉลาดมาก คล้ายกับว่าเมื่อคุณจะมาเผยแพร่เพลงของคุณ ๆ ก็ต้องรับเอาวัฒนธรรม(ภาษา)ของเราไปด้วย(เจ็บเหมือนกันนะ เพราะภาษานับเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติเลยทีเดียว) เราเห็นการเริ่มตระหนัก และรู้ตัวของจีนและญี่ปุ่นแล้วเค้ามีวิธีรับมือที่ไม่หนักไม่เบาเกินไป กลับมามองที่ไทยบ้างว่าเราควรจะรับมือเรื่องนี้อย่างไร สำหรับผม แล้วถ้าสิ่งที่ดี ๆ วัฒนธรรมดี ๆ ของเกาหลีอย่างเช่นการไม่รังเกียจที่จะทำงานหนัก ความตั้งใจจริง การเป็นนักกีฬาที่มุ่งมั่นเหล่านี้เรารับได้นะ และเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย แต่บางอย่างเช่นเรื่องภาษา อาหาร การแต่งกายนั้นเป็นเอกลักษณะของชาติ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานจริง ๆก็ไม่ควรรับเข้ามาเต็ม ๆ หรือรับแบบทางอ้อมจนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมหลักของเราอันนี้ผมเห็นว่าไม่ควร จากคุณ : ไทนาวี เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 11:17:59

ความคิดเห็นที่ 49 กลับมาอีกที.... #37 รอดูเปาวุ่นจิ้นภาคใหม่นักแสดงเก่าแล้วกัน ช่อง 3 จะเอามาฉายไหมหนอ ไม่รู้นะ... เห็นด้วยกับ คุณ Kyo3 เราว่าอย่ามองอัคติมากเกิน ถามว่าตอนนี้คำว่าเกาหลีเยอะไปไหม =ตอบ= เยอะจริง และเยอะไร้สาระแบบนาโนทั้งที่ไม่ได้เป็นนาโนตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือ ชาเขียว มันจะชาเขียวถึงผ้าอนามัยหรือเปล่า หลาย ๆ คนชอบเอานู่นนี้จับมาเทียบ ที่เอามาเทียบกันเคยคิดจำกัดวงให้ใกล้กันไหม เอาตูนไปเทียบเกาหลี เอา ETC ไปเทียบ แต่ยังไม่เคยเห็น คนที่ให้ความเห็นทางลบเกาหลี เอา RS เอา the star เอา AF มาเทียบ สายโลหิต ดี ทำไมไม่ทำใหม่ ในความรู้สึกเรา ใช่ ดี แต่ยังไม่ควรทำใหม่ ทำมากี่รอบแล้ว หาเนื้อเรื่องใหม่ที่มันดี ๆ หรืองานเขียนดี ๆ ไม่ได้เหรอไง ปล. Britney spears, Lady gaga, The amazing race, ANTM, Bule, Joe brooks WaT, Greeeen, One piece, Bakuman, Nodame, Jay chou, 2PM show, RM, DT, Kpop(GGBB), The star, สี่หัวใจแห่งขุนเขา ท่าทางจะหลายชนชาตินะเนี่ย..... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 11:32:18 จากคุณ : nongatom เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 11:23:10

ความคิดเห็นที่ 50 อย่าคิดมาก รัฐครึ่งหนึ่ง ประชาชนครึ่งหนึ่ง ค่อยๆช่วยกันคนล่ะครึ่ง เราก็เสพเกาหลีแต่พอควร ซื้ออัลบั้มเพลงไทยบ้าง ดูเมียแต่งบ้าง ช่วยๆกัน อยากให้ประเทศเราเป็นประเทศที่น่ารักแบบนี้ตลอดไปครับ จากคุณ : MooPrew '' (puku_potter) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 11:52:41

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ แต่จริงๆแล้วเราก็เป็นแบบคุณ Kyo3 นะ เพราะโตมาในยุค อนิเมะ+เพลย์สเตชั่นเหมือนกัน ชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นบ้าฟิเกอร์ โอตาคุ (เมื่อก่อนก็บ้าซื้อ Hobby Model เหมือนกัน) เพลงเราก็ฟังทุกแนว (ถ้าเห็นกระทู้อัพเดทเราบ่อยๆ) แต่ที่พูดเรื่องเกาหลีนี่บอกตรงๆว่า ไม่ใช่เพราะเราบ้าเกาหลีอย่างเดียว เลยมองเห็นแต่เรื่องนั้น และรู้สึกว่ามันแย่ แต่เป็นเพราะว่า เราค่อนข้างรับได้เวลา่คนพูดว่าไม่ชอบเกาหลีน่ะ... ต่อให้เราจะชอบมาก แต่ก็เข้าใจว่าเวลาคนมองจากมุมนอก เค้าคิดยังไง เท่านั้นเอง แต่ไอ้เรื่องบอกว่าให้เราไปฟังเพลงไทยเดิมนี่มัน..................ตอนนี้ก็ฟังอยู่นะคะ เพราะเคยฟังไปฟังคลาสสิคช่วงนึงแ้ล้วชอบ เลยกลับมาฟังเพลงไทยดู คิดเผื่อๆไว้น่ะค่ะ ว่าเพลงไทยสากลอาจจะนำพวกไลน์ระนาดไลน์ขิมมาใส่ในเพลงได้ กำลังลองมิกซ์เพลงอยู่เหมือนกัน (เหมือนเพลงฮิปฮอปญี่ปุ่นบางเพลงที่เอากลองไทโกะมาใส่แล้วเจ๋งมาก! หรือการเอาคายากึุมมาใช้ในเพลง k-pop) ปล.ไม่ได้ประชดเหมือนกันค่ะ แต่เราฟังจริงๆ -*- ขอบคุณนะคะที่ไม่ดราม่ากัน จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 12:06:34

ความคิดเห็นที่ 52 เราว่ากระทู้จะออกทะเลไปกินมาม่าแล้ว เราว่าตอนนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่เกาหลี โทรทัศน์ วิทยุ รถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ทุกที่อ่ะเจอหมด เราว่ามันเยอะเกิน ความแรงของกระแสเกาหลีเราก็ยอมรับว่ามันแรงจริง แต่แรงกับยัดเข้ามาไม่ เหมือนกันนะ เราว่าช่วงหลังนี้ยัดเข้ามามากกว่า เพราะตอนนี้ศิลปินจะดัง ไม่ดังก็สามารถเข้ามาถ่ายโฆษณาในไทยได้="=( จะเยอะไปไหน) ส่วนคลิปที่เอามา หลายคนบอกว่าเพราะเค้าไม่รู้จักวัฒนธรรม บ้านเราเลยทำลงไป แล้วถ้ากลับกันถ้าเป็นชาติอื่นทำคุณจะตอบแบบ นั้นไหม ตัวอย่างนะ นิชคุณจะไปทำงานที่นั้นยังต้องศึกษาทั้งภาษาและ วัฒนธรรมชาติเค้าเลย นี้ก็เหมือนกันคุณเข้ามาหากินประเทศเค้า แต่กลับไม่ศึกษาอะไรมาเลย แล้วก็มีแฟนคลับออกมารับแทนเพราะ เค้าไม่รู้วัฒนธรรมเลยทำลงไป เราอ่านแล้วรับไม่ได้จริงๆ #63 เราว่าคุณลองอ่านใหม่นะ เท่าที่เราอ่านมาแม้แต่คหของเรา เราก็ไม่ได้ว่าหรือแตะต้องสาวๆของคุณเลย เค้าเหมาโดยรวมว่าถ้าจะเข้ามาทำงานในไทยก็ให้ศึกษาวัฒนธรรมของประเทศเค้า ก่อนที่จะเข้ามาหากินในประเทศเค้า(เป็นเอามาก) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 20:47:11 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 20:38:56 จากคุณ : จำนำ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 12:11:25

ความคิดเห็นที่ 53 เราเป็นคนนึงที่ติดตามดูรายการเกาหลี ซีรีย์เกาหลี เพลงเกาหลีและนักร้องบางกลุ่ม แต่เราคิดว่าเราไม่มีปัญหาทางด้านวัฒนธรรมนะ เพราะเราไม่ได้ดูแบบลุ่มหลงอะไรมาก เราดูเพียงเพื่อ "ความบันเทิง" เท่านั้น  ดูแบบไม่ได้คิดอะไรมาก ดูขำขำไปเพื่อความสนุก จากคุณ : จันทราที่มองเหม่อ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 12:18:54

ความคิดเห็นที่ 54 โอย ตาลาย ข้อความดีดีน่าสนใจ แต่จะไม่ถูกอ่านเพราะไม่รู้จักเว้นบรรทัด แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 12:24:15 จากคุณ : beeboyguitarpop เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 12:23:50

ความคิดเห็นที่ 55 *52 ไม่ได้ออกรับแทนค่ะ แต่เราคิดแบบนี้จริงๆ ^^ ถึงเป็นคนอื่นเราก็ให้อภัยเค้าได้ค่ะ ให้อภัยเพราะความไ่ม่รู้ ^^ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 12:28:58 จากคุณ : ranchitaak เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 12:28:33

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นด้วยกับ #23 นะคะ ว่ามันไม่จีรัง เป็นแค่กระแสมาแล้วก็ไป แต่ที่ประเด็น บ้าเกาหลี vs รักชาติที่มีอยู่ตอนนี้ ก็เพราะมันเป็นยุคของคนรุ่นเราค่ะ (วัยรุ่น-ผู้ใหญ่ ที่ยังเสพสื่อบันเทิง) แน่นอนว่ามีคนบ้า ก็ต้องมีคนเตือน ถ้าไม่ใช่รุ่นเราที่ออกมาเห็นต่างบ้างคงจะแปลก เพราะยุคนี้มันเป็นยุคแ่ห่งเสรีทางความคิด เราไม่เชื่อหรอกว่าสมัย JPOP จะไม่มีคนที่ไม่เห็นด้วยเลย มันต้องมีบ้างแหละ สมัยนี้ KPOP ก็เหมือนกัน แต่ที่มัน 'ดูเหมือน' มีคนออกมามีอคติมากกว่าญี่ปุ่น ก็เพราะสังคมมันสื่อสารกันไว ชัดเจน แพร่ขยายได้เร็วมากขึ้นกว่าสมัย JPOP อีกอย่าง ที่เห็นได้ชัดมากๆ คือการตลาดมันต่างกันเยอะ JPOP ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจส่งออกอย่างเต็มกำลัง คนไทยต่างหากที่บ้าคลั่งเอง ในขณะที่เกาหลีทำทุกวิถีทางเพื่อส่งออกวัฒนธรรม และตอนนี้ก็เหมือนจะประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ คนบางกลุ่มจึงรู้สึกว่ามันเหมือน Threat ในสังคม เราจะรู้ได้ยังไงว่าความบ้าคลั่งมันจะไม่เพิ่มขึ้น เราจะกลายเป็นทาสวัฒนธรรมอย่างเต็มตัว? เราว่าคำว่า ทาสวัฒนธรรม เป็นคำที่อันตราย แล้วแต่คนมอง บางคนก็ตระหนัก บางคนก็อคติ มีคนเคยบอกว่า 'คำว่าไทยตกเป็นเมืองขึ้นเกาหลีมันแรงไป มันเป็นไปไม่ได้ สมัยนี้มันไม่มีอาณานิคมแล้ว' ก็จริง แต่การตกเป็นทาสทางวัฒนธรรมนี้นับรึป่าว? แล้วแต่คนมองอีกนั่นแหละ แต่เรื่องคลั่งเกาหลีเฉพาะในส่วนของประเทศไทย เราก็โทษคนคลั่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะสื่อและธุรกิจปัจจุบันโกยเอาๆ อย่างเดียวเลย มากไป ปล. เราฟังเพลงเกาหลีนะคะ แต่ไม่ได้ฟังแบบแฟนคลับ ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็ไม่ฟัง ใจเราเองก็ nationalism พอสมควร(และ Anti-racism ไม่ว่าจะเชื้อชาติใดๆ ในโลก) เลยคิดห่วงเด็กรุ่นใหม่ ไม่ได้ห่วงว่าวัฒนธรรมไทยจะหายไป แต่ห่วงว่าพวกเขาจะ stereotype ทุกอย่างที่เป็นเกาหลีว่าดีว่าเด่น ทั้งๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น อยากให้มองที่ความเป็นจริง เสพสื่อบันเทิงอย่างแฟร์ๆ มากกว่า แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 17:17:03 จากคุณ : moonshine19 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 13:04:33

ความคิดเห็นที่ 57 เราก็ชอบนะเพลงเกาหลี โดยเฉพาะ sj/2ne1 รายการเกาหลี ชอบสตาร์คิงมาก ซีรีย์เกาหลี เคยติดมาก หลังๆ เปลี่ยนแนวค่ะมาดูหนังญี่ปุ่นแทน แต่สมัยที่เคยชอบ ซีรีย์เขาก็สนุกจริง ดูแล้วติดมาก หลังๆเราว่ากระแสเริ่มซาลงแล้วนะ เหลือแต่คนที่ชอบจริงๆ แต่พวกผู้ผลิตพ่อค้าแม่ค้า เนี่ยก็ชอบโฆษณาโดยพ่วงคำว่าเกาหลีๆๆมาด้วย มันเลยทำให้คนเอียน จากคุณ : Juneau เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 13:09:59

ความคิดเห็นที่ 58 #55 แต่คุณรู้เปล่าอะว่าคนเกาหลีเขารับไม่ได้นะ เคยได้ข่าวไหมที่ คนญี่ปุ่นชอบเบยองจุนมากๆเลยเอาไปทำเป็นเกมยิง เบยองจุน ทีนี้เป็นเรื่องครับ เกาหลีเขาไม่ชอบ เลยเกิด สงครามไซเบอร์  ความเสียหายก็หลายร้อยล้านครับ ทีนี้ผมอยากถามว่า เขาน่าจะเข้าใจนะว่า ทำแบบนี้คนไทยก็ไม่ชอบเหมือนกัน อันนี้แสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้สนใจวัฒนธรรมไทยเลยแม้แต่น้อยถ้าเขาสนใจซักนิด มีหรือจะไม่รู้ เพราะ ข่าวหรือข้อมูลพวกนี้หาได้ง่ายๆตามInternet และเขามาโปรโมตไทยตั้งกี่ปีแล้ว ยังพูดได้แต่ สวัสดีครับ/ค่ะ (ส่วนคนไทยพูดภาษาเกาหลีได้มากกว่าศิลปินเกาหลีพูดไทยซะอีก)แต่คนไทยนี่ ออกรับให้หมด (ลองเราเอารูป เบยองจุนหรือคนที่เขานับถือ ไปเสียบไว้ในรองเท้าแบบนั้น เชื่อว่า คนเกาหลีไม่ปลื้มแน่นอนซึ่งมันไม่มีคนไทยคนไหนทำแบบนั้นแน่ๆ) ซึ่งเกาหลีเขาเห็นประเทศเราเป็นแค่ ทางผ่านมากอบโกยมาโปรโมตเช็คกระแส ลองเขาเห็นประเทศเราสำคัญจริง เรื่องแค่นี้กับไม่รู้เชียวหรือ นั่นก็คือจุดอ่อนของเราที่ รับได้หมด ขอแค่ชอบเป็นพอ ซึ่งเกาหลีเขารู้จุดนี้ดีเลยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ทำให้คนไทยชอบพูดเอาใจนิดหน่อยก็พอที่จะมากอบโกยได้เรื่อยๆแล้ว ผมก็เคยชอบนะเกาหลีอะ แต่พอเริ่มเห็นอะไรมากขึ้น เริ่มไม่ชอบและ จะว่าผมอคติก็ได้นะ แต่ที่เป็นแบบนี้ มันก็ย่อมมีเหตุผลใช่ไหมหละ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 13:40:13 จากคุณ : คนเคยชอบ (Namtaothong) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 13:32:39

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นคลิปแล้วรับไม่ได้ บอกตรงๆ อย่างคุณ จำนำ #52 บอก ขนาดนิชคุณไปประเทศเค้ายังต้องศึกษาวัฒนธรรม การปฏิบัติตัวต่างๆของเค้าเลย แต่นี่เค้ามาบ้านเราไม่ศึกษาอะไรเลยหรือไง อย่างน้อยก็น่าจะเอะใจได้บ้างเพราะคนไทยมีสถาบันกษัตริย์ (ไม่โทษนักร้องหรอกนะ วงนี้เราชอบทิฟ) ทีมงานน่าจะต้องศึกษาและเข้าใจวัฒนธรรมเราบ้างนะ   โอเคว่าอาจจะไม่รู้แต่ที่ไม่รู้เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาใช่มั้ย ควรจะให้เกียรติกันหน่อยสิ เราก็ชอบฟังเพลงเกาหลี เป็นแฟนคลับบอยแบนด์วงนึง แต่เราก็ตระหนักว่าบางสิ่งเกาหลีก็เกินไปจริงๆ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 13:38:44 จากคุณ : คานทองเป็นของต้องห้าม เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 13:34:00

ความคิดเห็นที่ 60 คห. 58 เรื่องเบยองจุน เราก็จำไ้้ด้ว่าคนไทยในพันทิปด่าคนเกาหลีที่ไปหาเรื่องคนญี่ปุ่น จากคุณ : สตีวี่ จีจี้ เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 13:54:15

ความคิดเห็นที่ 61 มันเป็นเรื่องที่พูดยากค่ะ เราเลยวางตัวเฉยๆ ไปซะ   เปลี่ยนทัศนคติคนมันยากเกินไป ปล.ตอนเราชอบญี่ปุ่นก็โดนว่านะ  พอมาตอนนี้กลายเป็นดีไปซะงั้น จากคุณ : Crazed เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 14:01:10

ความคิดเห็นที่ 62 สำหรับเรา เราเป็นเเฟนคลับรันนิ่งแมน เหมือน จขกท เลยค่ะ ก่อนหน้านี้เราก็ติด แฟมิลี่เอ้าติ้ง เหมือนกัน แล้วก็ตามดูซีรีย์เกาหลี เพลงเกาหลี ด้วย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าความเป็นไทยของเราน้อยลงนะ เรายังฟังเพลงไทยด้วยนะ จากความคิดเรานะ เราเคยมีเพื่อนถามเหมือนกัน ว่าทำไมต้องเกาหลี ตรงๆ เลยนะ อย่างรายการตลกทุกวันนี้อ่ะ มันเป็นมุขเดิมๆ อย่างระเบิดเถิดเทิง เราก็ดู ชิงร้อยเราก็ดู แต่อย่างรันนิ่งแมน มันมีความสดใหม่ มีหลายชั้นเชิง มีอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่เคยเห็ยด้วยอ่ะ เราว่ามันเลยน่าสนใจกว่า เหมือนพวกละคร เพราะเราขี้เบื่อหรืออะไรก็ตาม เราคิดว่าละครไทย พระเอก นางเอก มันเดิมๆ อ่ะ เพื่อนนางเอก ไม่ได้มาเป็นนางเอกบ้างเลย เช่นเดียวกับเพื่อนพระเอก ที่เป็นเพื่อนอยู่นั่นแหละ เราต้องการการเปลี่ยนแปลงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แต่เราไม่ได้บ้าพลัง ทุ่มมมมมมมมมมมมทุกอย่าง ทั้งเงินทั้งเวลานะ -*- ปัญหาคือ ต้องรู้จักแยกแยะน่ะมั้ง ต้องรู้จักความพอดี สื่อโฆษณา เค้าต้องทำมาหากิน มันก็ส่วนของเค้า จะห้ามเค้าไม่ได้หรอก เหมือนสื่อในส่วนไทยของเรา อยากให้สนับสนุนคนไทย ศิลปิน ละครไทยเยอะๆ เหรอ ได้ ก็ทำให้ออกมาดีๆ สิ ประโคมกับเข้าไปเยอะๆ เหมือนเกาหลีเลย ไม่มีใครว่า แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 16:29:32 จากคุณ : buaroll เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 16:19:20

ความคิดเห็นที่ 63 คลิปนั้นเกี่ยวอะไรกับสาวๆเหรอค่ะ คนทำนั้นผู้จัดการ สาวๆไม่ได้ทำ ถ้าจะด่า ด่าผู้จัดการสิค่ะ ส่วนประเด็นในกระทู้ อยากจะบอกว่าถึงเราชอบนักร้องเกาหลีมากๆอยู่วงหนึ่ง  แต่ความชอบที่มีให้นักร้อง ไม่ได้ทำให้เราชอบความเป็นเกาหลีได้เลย ยิ่งติดตามยิ่งเห็นอะไรหลายอย่าง ถ้าอยากไปเที่ยวเกาหลีก็คืออยากไปตามนักร้อง ไปดูคอนเสิร์ตแค่นั้นแหละ ถ้าให้ไปอยู่คงไม่เอา ปล. เห็นด้วยกับ คห. 27 มากๆ   แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 17:07:50 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 17:00:46 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 16:32:20 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 16:30:54 จากคุณ : paint_my_love เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 16:20:52

ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อก่อนเราก็ตามๆเกาหลีเหมือนกันเหมือนโดนสะกดจิตจริงๆอะคะ เข้าเว๊บแฟนคลับทุกๆชั่วโมง ตามร้องไห้กับเค้าอัพเดตสุดๆดูคลิปถึงเช้าเอาหนังมาดูถือว่าอินเกาหลีสุดๆละช่วงนั้น พอตอนหลังมาตกหลุมรักนักร้องไทยเข้าไป ของไทยก็ไม่แพ้ใครนะ ก็เลยเลิกตาม ตอนแรกก็มีเข้าไปดูทุกๆชั่วโมงค่อยๆเปลี่ยลดลงเหลือวันละครั้งสองครั้ง ผ่านไปอีกทีก็นานๆเข้าทีผ่านมาหนึ่งปีตอนนี้แทบไม่แลวงการเกาหลีเลย ซีรี่ยาว หนังเมื่อก่อนก็ดูแต่หลังๆ เดาถูกแถมมันนิบนาบหน้าเบื่อก็เลิกดูไป มีขัดตาอยู่นิดหน่อยก็ตรงโฆษณาต่างๆกับแม่ค้าขายของแหมๆป้ายก็บอกว่ามาจากจีนยังมาบอกของเกาหลี ตอนนี้ไม่รู้เป็นไรจะกลายเป็นแอนตี้เกาหลีไปแล้ว ตัวเองก็งงกับตัวเองเหมือนกันสงสัยจะโดนยัดเยียดมากเกินไปเลยเกิดอาการตีกลับ คิดว่าตอนนี้คนที่ชอบเกาหลีก็จำกัดเป็นกลุ่มแล้วนะคะ เพื่อนๆเราเมื่อสองปีก่อนก็คลั่งเกาหลีกันทีเดียวตอนนี้ก็ซาๆไปละ วงการเพลงไทยกับละครของเราก็เริ่มจะมาละดูในยูทูปสิคะเมื่อสองสามปีก่อนยอดวิวอยู่แค่สองสามแสนก็เยอะแล้ว ตอนนี้เป็นสิบล้านอัพไปแล้วดูคนที่เข้ามาดูก็เกือบทั่วโลก เราว่ามันเป็นรสนิยมคนด้วยละ แต่ตอนนี้ขอบอกว่าเบื่อเกาหลีสุดๆ จากคุณ : นาเรเซรัน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 16:25:50

ความคิดเห็นที่ 65 #3 ถึงว่าหายไปจากเชาท์เลย #44 อ่านแล้วฮาดี  เห็นด้วยในหลายๆเรื่อง555 แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้น่ะเรื่องแอนตี้เกาหลีอ่ะ เค้ารู้ตัวซะด้วย ข่าวที่เกาหลีลงข่าวพาดหัวเลยว่า "ทำไมใครๆก็เกลียดเรา" เนื้อหา V V สื่อกิมจิวิเคราะห์ “ทำไมใคร ๆ ก็เกลียดพวกเรา”       ในขณะที่สินค้าออกจากวงการบันเทิงเกาหลีใต้กลายเป็นสินค้าขายดีเทน้ำเทท่า ในเวลาเดียวกันกระแสความเกลียดชัง และต่อต้านวัฒนธรรม ก็ถูกจุดขึ้นมาด้วย ซึ่งสื่อสารมวลชนรุ่นใหญ่ในเกาหลี ได้วิเคราะห์ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นผลสืบเนื่องจากทั้งเรื่องของ วัฒนธรรม, การเมือง และประวัติศาสตร์             ความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดของสื่อบันเทิงจากเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ภาพยนตร์, ซีรีส์ และเหล่านักร้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งไอดอลวัยใสทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เติบโตควบคู่ไปกับกระแสความเกลียดชังวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกาหลี โดยประชาชนในประเทศต่าง ๆ ของแทบเอเซีย             ซึ่งในช่วงที่กระแสแอนตี้เกาหลี เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหลาย ๆ ประเทศ ชาวเกาหลีใต้เองก็รู้สึกสนใจในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน             ซองวอนซบ ผู้อำนวยการของสื่อดังอย่าง JoongAng Entertainment and Sports เชื่อว่าส่วนหนึ่งของกระแสดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากท่าทีของชาวเกาหลีใต้เอง ที่ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมของตัวเอง แต่ในทางกลับกันส่วนใหญ่สังคมเกาหลีมักจะปิดรับวัฒนธรรมจากต่างชาติที่พยายามแทรกเข้าไปที่นั่น             “อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้กระตือรือร้นอย่างมาก ที่จะขายผลงานของตัวเอง แต่กลับปฏิเสธที่จะยอมรับผลงานของผู้อื่นบ้าง” ซองกล่าว กระแสต่าง ๆ แสดงออกถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจของประเทศอื่น ๆ ในเรื่องนี้             นอกจากนั้นภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังมีผลต่อเรื่องนี้ด้วย ซอง แจกแจงถึงประเด็นเป็นรายประเทศว่า “สำหรับชาวจีน พวกเขามักจะมีความรู้สึกว่าชาวเกาหลีใต้ควรจะสำนักบุญคุณวัฒนธรรมของจีนมากกว่า”             “เช่นเดียวกับในกรณีของชาวญี่ปุ่น ที่ไม่พอใจในกระแสของเกาหลีใต้ เพราะก่อนหน้านี้วัฒนธรรมของเกาหลีเคยตามหลังแนวทางของญี่ปุ่นมาก่อน ในสายตาของพวกอนุรักษ์นิยมบางส่วนในญี่ปุ่น ยังมองเกาหลีใต้เป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังเคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นอยู่เลย ในมุมมองนี้ เกาหลีใต้เริ่มท้าทายญี่ปุ่นทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ และการเมือง”             “สำหรับไต้หวัน ความเกลียดชังเกาหลีใต้มันมีสาเหตุมาจากเรื่องของประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ครั้งหนึ่งทั้งสองประเทศเคยเป็นพันธมิตรต่อกันทั้งในแง่ของการเมือง และเศรษฐกิจ แต่เมื่อเกาหลีใต้เริ่มหันไปเป็นพันธมิตรกับจีนแทน ไต้หวันจึงรู้สึกเหมือนถูกทรยศ”             นักข่าวจากเกาหลีใต้ท่านนี้ได้สรุปว่า การลดทอนความตึงเครียดและความเกลียดชังที่ดีที่สุดก็คือ “เราควรพยายามพิจารณาอย่างถ่องแท้ถึงมุมมองของชาวต่างชาติ ที่มีต่อชาวเกาหลี และพยายามให้ความสนใจในวัฒนธรรมของผู้อื่นด้วยเช่นเดียวกัน” เครดิตจาก manager.co.th จากคุณ : yui1march เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 17:06:45

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ ^ แวะกลับมาอ่านพอดี ขอตอบ //๖๕ (มาร์คไว้ก่อนกันจิ้มพลาด เพราะพิมพ์เวิ่น ฯ) อยากบอกว่า ไต้หวัน (บ้านเอ็งหร๋าาาาา ออกหน้าอยู่ได้ ๕๕๕) กระแสเกลียดเกาหลีเพิ่งมีหลังจากจบโอลิมปิค (เอ้ะหรือเอเชียนเกมส์ แอบงง) ค่ะ คือก่อนหน้านี้อยากบอกว่าไต้หวันอาการหนักกว่าบ้านเราพอตัว ไม่สิ น่าจะหนักกว่ามาก เพราะมีดาราเกาหลีไปเล่นละครกับเค้าเป็นเรื่องเป็นราวด้วย ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร กิ๊บเก๋ยูเรก้ากันดี จนพอไอ้โอลิมปิคหรือเอเชี่ยนเกมส์รอบที่ผ่านมา มีกรณีนักเทควันโด้ไต้หวัน กำลังลุ้นสักเหรียญล่ะ แต่ไม่ใช่กับนักกีฬาชาวเกาหลีหรอกนะ แต่เป็นกรรมการชาวเกาหลี คือถ้าจำไม่ผิด กรรมการจะหาเรื่องเกี่ยวกับชุดป้องกัน หรืออะไรสักอย่างว่าไม่ถูกระเบียบ ซึ่งถ้าฮีท้วงเอาตอนจะเริ่มแข่งจะไม่เป็นไรเลย นี่ฮีจับนักกีฬาไต้หวันแพ้เอาตอนที่คะแนนกำลังนำแบบค่อนข้างเยอะ ด้วยเรื่องการแต่งกายที่ควรจะแจ้งกันก่อน เรื่องนี้เรื่องเดียว กระแสเกาหลีในไต้หวันตีกลับเลยค่ะ (และยังเป๋ ๆ อยู่ถึงตอนนี้) เราจำได้ว่า ช่วงนั้นข่าวในไต้หวันจะออกแนวคล้าย ๆ ญี่ปุ่นตอนนี้เลย คือมากไปมั้ย กรูอยู่ประเทศไหน เกาหลืหรือไต้หวัน แล้วทำไม ดารงดาราเกาหลีที่มาถ่ายละครที่ไต้หวันมันได้ค่าตัวเยอะขนาดน้าน ตอนละหลายแสน ระดับเดียวกับพวกแม่เหล็กใหญ่ ๆ ของช่อง ตอนมันอยู่เกาหลี ค่าตัวมันน้อยกว่านี้ไม่ใช่หร๋าาาาาาาาา บลา ๆๆ ชะทิงนองนอยด์กันเวบข่าวแทบแตก ดิสคัสกันเมามัวเมามันมาก จำได้ว่าคอนฯ ของวงเกาหลีหลาย ๆ วงที่แผลนจะมาไต้หวันช่วงนั้น ต้องเลื่อนหนีกันเลยทีเดียว เหมือนแบบก็มีกรุ่น ๆ ล่ะนะ แต่หาช่องจุดชนวนแค่นั้นล่ะแล้วไอ้เรื่องนี้ก็กลายเป็นชนวนไป แต่ปัจจุบันก็กลับเข้าคล้าย ๆ จะอีรอบเดิมอ่ะนะ ก็เกาหลีเยอะอยู่ แต่เหมือนแว่นตาสีกุหลาบจะตกแตกไป ออกแนวหมดช่วงเวลาฮันนีมูนระหว่างกันแล้วอะไรงี้ ไม่ได้แลดูเลิศเลอเพอเฟคไร้ที่ติดแบบเต็มร้อยแบบก่อนหน้านี้ ประเด็นประวัติศาสตร์น่ะ เราว่ามันถูกยกมาช่วงที่ว่ามากกว่า (ระยะเกลียดกัน ยกทุกอย่างมาด่า ขุดโคตรมาเล่นไรงี้) เรื่องที่ใครเป็นมิตรกับจีนมากกว่าไต้หวันน่ะ ไต้หวันไม่เคืองหรอก ถ้าลองเคืองสิ ชาตินี้จะมีคบกันกี่ประเทศเอ๊ง ทั่งโลกให้การรับรองสถานะอีเกาะน้อยนี่เป็นประเทศถึง ๒๐ หรือปล่าวก็ไม่รู้ (ความรู้รอบเอว ในเวทีการเมืองโลก ไต้หวันถูกมองเป็นเขตอธิปไตยของจีนนะคะ ถ้าใครจะคบกับจีน ต้องรับเรื่องนี้ให้ได้ก่อน แต่อย่างที่รู้กัน มันก็ปกครองตัวเองนั่นล่ะ) (อันนี้ คห ส่วนตัว เราว่ากระแสไอดอลในไต้หวันเป็นช่องว่างให้เกาหลี //และเดิมญี่ปุ่น // มาตีได้ เพราะเค้าชอบเสพไอดอล แต่ไม่มีบริษัทที่ลงทุนไอดอลจริงจังมายอมรับ เด็กไต้หวันกับเด็กไทยก็พอ ๆ กันล่ะ เรื่องเรียนเรื่องใหญ่ ไม่ค่อยมีใครมาเข้าสังกัดทิ้งอนาคตกับความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะเป็นไอดอลชื่อดังหรอก อีกอย่าง กระแสหลักของดนตรีไต้หวันคือพวกอาร์ตติสแบบเจย์ โจว หวังหลี่หง อะไรงี้มากกว่า พวกไอดอลจะมีอายุการใช้งานน้อยนิด //เทียบกับเอฟโฟว์แล้ว ค่าเฉลี่ยอยู่ที่สี่ห้าปีอย่างสูง มากกว่านั้นไม่เคยปรากฏ// พอมีช่องว่างตรงนี้ เกาหลีและญี่ปุ่นเลยยกพลมาเสียบ) แต่ที่ญี่ปุ่นไม่ถูกด่ามากในไต้หวัน เพราะคนไต้หวันมีทัศนคติทีดีกับญี่ปุ่นค่ะ เป็นอาณานิคมเก่าที่แปลกมาก ไม่ด่าญี่ปุ่นสักคำ มีแต่จะอยากอพยพไปอยู่กันซะงั้น แต่เจียงไคเช็คนี่ จะขุดศพพ่อมาเผาซ้ำอีกรอบเระ (--") บวกกับคนไต้หวันเสพย์อาร์ตติสญี่ปุ่นด้วย ไม่ใช่แค่ไอดอลอย่างเดียว และอย่างที่บอกกันด้านบนน่ะค่ะ ญี่ปุ่นไม่ได้ตั้งใจฮาร์ดเซลล์แบบเกาหลี เลยไม่เจอกระแสตีกลับอ้ะ (กรณีแบบเอฟโฟว์ตอนมาไทย ก็ไม่ได้ตั้งใจขาย กว่าจะอัญเชิญพ่อคุณเข้าไทยได้ แทบจะจุดธูปกราบ ถ้าลงมันตั้งใจมาไทยแบบดาราเกาหลีสมัยนี้ทำ คาดว่าคงถูกด่าสิ้นชาติไม่ต่างกัน --") จบการเวิ่น --" (มาชี้แจงในฐานะตัวแทนการท่องเที่ยวไต้หวันอย่างไม่เป็นทางการ -- อันนี้เพื่อนแต่งตั้งให้ ไม่ได้ได้รับการแต่งตั้งเองแน่ประการใด --") หมายเหตุ ที่มาเวิ่นนี่คืออยากยกกรณีเปรียบเทียบให้ดูในกรณีแอนตี้เกาหลีจากไต้หวันนะคะ ว่ามาจากสาเหตไหน หมายเหตสอง กระแสเกาหลีเข้าไต้หวันช้ากว่าที่อื่นค่ะ ช้ากว่าไทยสักสามสี่ปีได้ แต่พอบุกแล้ว ดาหน้ากันไปเป็นพายุไม่แพ้กระแสที่เกาหลีบุกญี่ปุ่นตอนนี้เลย เราว่าเกาหลีตีตลาดตอนแรกผิดอยู่นิดหน่อย คือบุกแผ่นดินใหญ่ก่อนไต้หวัน กว่าจะรู้ว่าอีหมวยแถวนั้นปริมาณเยอะ แต่เน้นด้านโหลดมากกว่าซื้อ ก็เสียเวลาไปกว่าค่อน กว่าจะตั้งลำมากบุกไต้หวัน ที่เป็นตัวนำเทรนแฟชั่นการบันเทิงของฝั่งจีน(ซึ่งก็โหลดเยอะไม่ค่อยต่างกันหรอก แต่ได้กระแสเยอะกว่าขายแถว ๆ จีนไม่กี่มณฑล // ข้างนั้นก็ใหญ่เกิ๊น โปรโมทไม่ทั่วถึงทุกมณฑล ถ้าจะเอาจริง คงต้องทิ้งตลาดเกาหลีนานมาก เพราะเวลาดาราไต้หวันทัวร์จีน ก็แทบจะลืมหน้าไปเลยเหมือนกัน หายไปเป็นปี --") ((แก้คำผิดและเพิ่มเติมคับ)) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 17:41:07 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 17:34:12 จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 17:30:24

ความคิดเห็นที่ 67 #66 ตัวแทนการท่องเที่ยวไต้หวันจริงเหรอ555 อ่ะล้อเล่น เคยไปอ่านรีวิิวไต้หวันในห้องบลูพลาเนต ไม่เคยรู้เลยว่าไต้หวันก็สวยมากก พอๆกับเกาหลีเลย แต่ว่าทุกคนก็อยากไปแต่เกาหลี เหตุผลนั้นคงมาจากการสร้างภาพลักษณ์ให้อยากไปจากกระแสวงการบังเทิงของเกาหลีนั้นเอง ใช้วงการบันเทิงในการสร้างภาพลักษณ์ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและผลิตภณฑ์ของประเทศ แถมยังปลุกกระแสรักชาติของเกาหลีได้อีกด้วย ลองดูตัวอย่างเบสิกจาก ค.ห ที่63กับ65 ในกระทู้นี้ดูhttp://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10819988/A10819988.html ไหนๆกระทู้ก็เริ่มออกทะเลล่ะ ออกไปให้ไกลเลยล่ะกัน55555 ส่วนตัวแล้วที่สนใจกระทู้นี้เพราะ 1.เป็นแฟนคลับเกาหลีอยู่2วง วงที่มีคนไทยอยู่นั้นแหละ 2.แล้วก็เป็นแฟนคลับกระแส T-pop ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นในหลายๆประเทศ ก็เลยอยากติดตามกระแส แอนตี้เกาหลีสักหน่อย เพราะเท่าที่รู้มาเริ่มแพร่กระจายอย่างล้วนเร็ว แต่คนที่ชอบกระแสk-popก็แพร่กระจายได้ล้วนเร็วเช่นกัน555 แต่ความจริงเห็นด้วย ที่บอกว่าอย่าไปแสดงออกแอนตี้เค้าเลย เพราะอาจทำให้เหมือนเด็กขี้อิจฉาซะเปล่า แต่ความจริงเชื่อว่าหลายๆคนในนี้ไม่ได้อิจฉา แต่กำลังสำลักกระแสมากกว่า และกำลังเริ่มเอียน จากที่แรกๆก็เก็บไว้ จนเก็บไม่ไหวต้องระบายออกมาเป็น 1กระทู้555 สำหรับเราไม่ได้ปฎิเสธกระแส k-pop น่ะ ยังรับอยู่แต่สนใจไอดอลเป็นบ้างวง แล้วก็อะไรก็ตามที่น่าสนใจ แต่ก็สนับสนุนกระแส t-pop ในห้องเฉลิมกรุงเช่นกัน ค่อยติดตามหาดูข่าวดาราไทยที่กำลังเป็นกระแสในต่างชาติในตอนนี้อยู่ตลอด เพราะหลังมานี้ได้เห็นคลิปที่ดาราไทยไปต่างประเทศแล้วรู้สึกดีมาก รู้แล้วว่าคนเกาหลีเค้ารู้ยังไง ลองดูคลิปดาราไทยได้จากกระทู้นี้http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10830574/A10830574.html แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 18:23:37 จากคุณ : yui1march เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 18:10:51

ความคิดเห็นที่ 68 มันเริ่มออกไปคนละประเด็นกันแล้วนะคะ ^__^ เราว่าต่างคนต่างใจ ต่างความคิดความเห็นน่ะ เอามาเถียงกันให้ตายก็ไม่ได้ข้อสรุป ..... จากคุณ : Jobby*Jubby เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 20:35:09

ความคิดเห็นที่ 69 เกาหลีมาตีตลาดในไทย อันนี้เข้าใจ ยอมรับว่ามันเป็นวัฐจักร  เราเองก็ชอบฟัง แต่ไม่ได้คลั่งจนเป็นบ้า แต่ที่รับไม่ได้อย่างแรงคือ สื่อไทยบางพวก ที่ยกย่องเกาหลีจนเกินงาม แต่พอวงการบ้านตัวเอง กลับมีแต่อยากจะแฉเรื่องคาวๆ เป็นเกย์บ้างหล่ะ  ทำแท้งบ้างหล่ะ  คนนั้นกิ๊กกันบ้างหล่ะ แทนที่จะยกย่องและผลักดันศินปินบ้านตัวเองให้ก้าวไกล  กลับอย่างจะเยียบให้จมดิน  แต่พอเกาหลีย่างก้าวเข้ามาในประเทศ กลับยกย่องเชิดชู ช่วยเค้าโปรโมทซะเต็มที่  เฮ้อออออ  มันจี๊ดๆๆ อย่างกระทู้แนะนำข้างบน บัญญัติ 10 ประการของสื่อไทย อันนี้โดนใจอย่งแรงงงงงงงงง จากคุณ : น้ำแข็งใสใบบัวบก เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 20:41:15

ความคิดเห็นที่ 70 สิ่งนึงที่ทำให้เราชื่นชอบไอดอลเกาหลี คือวินัยในการทำงานของเขา พวกนี้ทำแต่งาน ถ้าใครตามตารางงานคงพอรู้กันอยู่แล้ว เรานับถือเลย เวลาจะพักยังต้องมาถ่ายวีดีโอโปรโมตนั่นนี่อีกสารพัด ชีวิตอยู่กับกล้องตลอด เป็นเราคงถอดใจไปแล้ว จุดเริ่มต้นของเราเหมือนเจ้าของกระทู้เลย เราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีจากละครเรื่อง Autumn in my heart ที่เข้ามาฉายทางช่องห้าบ้านเราช่วงหลังข่าว ราวๆปี 2544 ตอนนั้นเราอยู่ ม.2 ชอบมาก บ้ามากกกก เป็นหัวข้อคุยกับเพื่อนๆทุกวันที่โรงเรียน เฮ้ยพรีวิวมายัง ตอนต่อไปเป็นไง หลังจากนั้นก็มารู้จักหนังเกาหลี หนังที่เราได้ดูก็เช่น My sassy girl, The Classic แล้วก็เริ่มฟังเพลงเกาหลี (ฟังจากสถานีวิทยุคลื่นนึงในเมืองไทย) เริ่มรู้จักไอดอลเกาหลีก็เพราะเด็กไทยคนนึงที่อยู่เกาหลี (เพราะอยากรู้ว่าคนไทยไปอยู่โน่นแล้วได้รับการต้อนรับยังไง) ทุกวันนี้เราก็ดูรายการวาไรตี้เกาหลีด้วย นึกย้อนกลับไปแล้ว เราจำได้ว่ามีโฆษณาแพ็คเกจทัวร์ตามรอยละครอยู่แทบทุกเรื่องเลย สปอนเซอร์หลักของละครเกาหลียุคแรกๆในเมืองไทย ก็คือการท่องเที่ยวเกาหลี ตอนเด็กเรายังคิดตามไม่ทัน แต่ตอนนี้เรากลับคิดว่า มันเป็นการตลาดที่เขาวางเอาไว้นี่เอง ส่งออกละคร/เพลงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเขา ความสำเร็จของการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีอย่างในทุกวันนี้ ถูกวางเป้าหมายไว้มานานแล้ว เป็นสิบปีเลยนะคะ น่ากลัวนิดๆแฮะ ตอนนี้เรานึกถึงประโยคนึงที่เคยอ่านเจอ ผู้พันเบิร์ดที่เล่นบทพระนเรศวรพูดเอาไว้ (เครดิต : http://www.dailynews.co.th/web/index.cfm?page=content&categoryID=69&contentID=148948) "ทุกวันนี้โลกเราไม่ได้รบกันในสนามรบแล้ว เรารบในสนามที่แตกต่างกันออกไป เราทุกคนต่างก็เป็นนักรบของประเทศ เช่น นักกีฬาก็รบในการแข่งขันกีฬา นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง หรือแม้แต่ ดารา นักร้อง ทุกคนคือนักรบที่ต้องช่วยกันรบให้กับประเทศ" เกาหลีเขาเปิดฉากรบแล้วนะคะ แล้วเราจะรุกหรือจะตั้งรับ เราขอไปดูทวิภพต่อละ จากคุณ : imevan เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 20:56:08

ความคิดเห็นที่ 72 ถามทุกท่านที่แอนตี้เกาหลีครับ รู้สึกยังงัยที่พี่บี้ไปดังที่เมืองจีนครับ ที่ถามเพราะส่วนตัวนั้นโครตภูมิใจกะพี่บี้เลยครับ ดีใจที่ชาวต่างชาติยอมรับคนไทยครับ ปล.ไม่ได้คิดเปรียบเทียบครับ ใจเขาใจเรา ,.....บอกอีกครั้งไม่ได้เปรียบเทียบ ต่างคนก็ต่างภูมิใจกับคนของตัวเองครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 09:30:45 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 00:39:54 จากคุณ : The Man from the moon เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 22:49:30

ความคิดเห็นที่ 73 ^ ^ ^ ส่วนตัวรู้สึกว่า เป็นกระแสคล้าย ๆ กระแสละครเกาหลี ละครญี่ปุ่นในไทยค่ะ คือเพื่อนเราก็รู้จักนะ แต่นั่นล่ะ แวดวงแฟนคลับด้วยกันเองรู้จักอ่ะนะ (คือเป็นพวกมีแนวโน้มชอบผช ไม่จำกัดผ่านทางอินเตอเนทอยู่แล้วเลยไม่ค่อยแปลใจเท่าไหร่ ไว้วันไหนมันมาตามที่ไทย ค่อยว่ากันนะ) เราเคยได้ยินจากเพื่อนเรื่องคนจีนที่มาเรียนที่ไทยเพื่อจะเจอดาราไทย รับพรีฯ ซีดี เอาซีดีไปให้ดาราเซนต์แล้วส่งกลับจีน (ทำตัวเหมือนกรูเลย --") แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนทั้งจีนจะมาเรียนที่ไทยหมดใช่มั้ยคะ อย่างที่บอกอ้ะ มันเป็นกระแส เกาหลีก็กระแส ไต้หวันสมัยก่อนกับญี่ปุ่นสมัยก่อนก็กระแส มันมาแล้วก็จากไป เพียงแต่กระแสก่อนหน้านี้มันไม่ฮาร์ดเซลล์ขายเท่ากระแสเกาหลีตอนนี้แค่นั้นเอง (นั่นล่ะคือปัญหาที่เราว่า ทุกคนรู้ล่ะว่ามันเป็นกระแส แต่มันแรงจนคนอื่นมันจุก มันเบื่อ มันรำคาญ) (เข้ามาอีกครั้งเพราะจะมาตอบ คห ๖๗ ว่าเกือบแล้วค่ะ เหลือแค่ออกวีซ่าได้ ก็จะได้เป็นจทท การท่องเที่ยวไต้หวันเระ ไต้หวันสวยนะคะ แต่เวลาไปเที่ยวต้องทำใจกับความไถ (แปลเป็นไทยว่าเชย) ของประเทศนี้นิด ๆ คือมันเหมือนจะเจริญ แต่ก็ไม่เจริญ สุดๆ เหมือนเมืองไทยอีกสิบปีข้างหน้าแต่เป็นญี่ปุ่นเมื่อสิบปีก่อน .. พอจะมองภาพออกมั้ยคะ --" จริง ๆ ตะกี้มาตอบแล้วแต่ถูกลบไป สงสัยเพราะพาดพิงสายการบินราคาถูกเรื่องสีแดง ๆ อ่ะ --" จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 23:20:38

ความคิดเห็นที่ 74 #72 คงจะมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะ เอาบี้ไปเทียบกับกระแสเกาหลี เหมือนเอาช้างมาเทียบกับมดอ่ะ...เทียบเวอร์ไปเปล่่า555 กระแส t-pop ในจีนนี้มันเพิ่งเริ่มเลยน่ะ ถึงจะบอกว่าเราก็มีกระแสในจีนมานานเป็น10ปีแล้วแต่ก็มีเพียงประปรายเมือเทียบกับกระแสเกาหลีที่ดังในจีนมานานมากแล้ว แล้วก็เริ่มมากเกินไปจนรัฐบาลจีนเริ่มมีอาการ และหาแนวหาป้องกันกระแสนี้แล้วด้วย ปากบอกว่าไม่ได้กีดกั้นเกาหลีแต่อยู่ๆก็สนับสนุนบันเทิงไทยแบบออกนอกหน้าเลย ปูพรมแดงก่ะเอาละครไทยไปแทนที่เลยด้วยซ้ำ  และที่เห็นชัดและเป็นรูปธรรมที่สุดสำหรับกระแสt-popในจีนก็เพิ่งมีช่วง 1-2 ปีนี้เอง สังเกตดูได้จากคลิปที่แฟนๆจีนไปรอศิลปินไทยที่สนามบิน t-pop กำลังเริ่มได้โปรดอย่าเอาไปเปรียบ อย่าได้เอาไปยุ่งกับกระแสใดๆเลย... แล้วคุณลองสังเกตดูบ้านเราในช่วง1-2ปีที่ผ่านมาสิ MBC 50th Bangkok in Thailand ราคาบัตร 6000 และ 4500 เฉพาะงานนี้มีไอดอลเกาหลีมาประมาณ40-50วงได้อ่ะ ส่วนงานโฆษณาไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้คงประมาณเกือบ20ตัวแล้วล่ะ สำหรับโฆษณาไทย ที่ใช้ไอดอลเกาหลี ขนาดไอดอลที่เดบิวส์ใหม่ยังไม่ค่อยดังยังได้โฆษณาในไทยเลย555 งานคอนเสิรต์แบบเดียวของไอดอลเกาที่มีในไทยแทบจะทุกเดือน ไหนจะซี่รี่ย การท่องเที่ยว เครื่องสำอาง  เพลงเกาหลี อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้มันมากไปจนเอียน อย่าไปมองว่าเขาแอนตี้สิ แค่เอียนเฉยๆ เดียวก็ดีเอง555 ไม่ต้องหวงไม่ใช่ไม่ชอบหรอก แต่แค่ห่างกันสักพักฮ่าาา เข้ามาแก้ไข เพิ่มเติมเรื่องโฆษณาสักหน่อยดีกว่า รวบรวมมาให้แล้ว (1) TVXQ - Yamaha  Nouvo Elegance (2) Super Junior - Yamaha FINO วงนี้เฉพาะถ่ายโฆษณากับฟีโน่มี 7 ตัวด้วยกัน (3) Super Junior - 12PLUS และ12ตัว กับทเวลพลัส 4) 4Minute - Scott Pure (5) CNBLUE : - Scott Pure (6) 2NE1 - Yamaha Fiore (7) BigBang - Eversense (8) ZE:A - YOYO (9) T-MAX - Wuttisak วุฒิศักดิ์ (10) T-ara - Mentholatum Lips (11) 2PM - Hanami (12) 2PM - OPPO (13) Kara - Mistine (14) Beast - เถ้าแก่น้อย (15) B1A4 - BigCola 16) 2PM  -  Eversense (17) Super Junior Siwon - Acer (18) TVXQ - LG (19) Rain Feat.นิชคุณ - ดัชมิลค์ (20) Rain - Clinic Clear Shampoo (21) Super Junior-M - Pepsi (22) Shinhwa - Coca Cola (23) Super Junior Donghae - Maxim Contact Lens (24) Super Junior Kyuhyun - Masita เครดิตจาก siamzone.com/board/view.php?sid=2427130&viewall=1 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 23:45:09 จากคุณ : yui1march เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 23:26:04

ความคิดเห็นที่ 75 ^ อะถูก ผมไม่ได้แอนตี้ แต่เบื่ออะ มันเยอะอะ นั่งอ่านข่าวนี่ เกาหลีมาไทยแทบจะทุกอาทิตย์ จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 23:35:11

ความคิดเห็นที่ 76 โหวตให้นะ...จขกท. จากคุณ : เต้าเจี้ยวหลน เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 23:55:40

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นด้วย อย่างแรงๆ กับ คห 75 น่ะ อารมณ์เราว่าที่บ่นๆ กันอยู่นี่ คือไม่ใช่แอนตี้เกาหลี หรือแอนตี้ใครๆ นะ แต่ประมาณว่าเบื่ออออออมากกกกก หันไปทางไหน ก๊อ เกาหลีไปซะทุกที่ แม้แต่ในพันทิป คุณเกาหลีก็สามารถ เข้าไปเสียบได้ทุกห้อง  ทั้งๆ ที่มีห้องของตัวเองก็มีอยู่ ตอนนี้ในพันทิป น่าจะมีเหลืออยู่ห้องราชดำเนินที่เดียวมั๊งที่ยังปลอดเกาหลี   เพลาๆ กันมั่งเหอะ ทียังงี้ คุณปลาวาฬฯ กะ คุณนู๋เอง ไม่เห็นออกมาเตือนกันบ้างเลย จากคุณ : sarirat เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 02:03:31

ความคิดเห็นที่ 78 เราเคยบ้าเกาหลีไปประมาณ 2 - 3 ปีช่วงละคร ฟุลเฮ้าส์กำลังดัง ว่างๆก็สิงแต่บ้่านข้าวโพด  สูปรูปดารา  เสพข่าวบันเทิงเกาหลี วุ่นวายกับการสั่งซื้อแผ่น dvd ละครเกาหลีทางเน็ต น้องเราแนะนำให้ดูละครไทยหลายๆเรื่อง เราบอกมันว่าไม่ดู   แหวะๆๆ  ไม่สนุกเท่าของเกาหลีหรอก ทีนี้พอดูๆไป  เบื่อบันเทิงเกาหลี  ละครพล็อตเรื่องก็ซ้ำซาก  เพลงก็แนวเดิมๆ เราก็กลับเสพบันเทิงไทย  ฟังเพลงไทยนี่แหละ  แซ่บถูกใจที่สุด จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 02:05:53

ความคิดเห็นที่ 79 เกาหลีเขาจัดการอย่างเป็นระบบ ธุรกิจบันเทิงก็คือสินค้าส่งออกของเขา และมีการจัดการกับระบบกันมานานนับสิบปี ดังนั้นไม่แปลกที่หากมีลู่ทาง เขาก็จะผลักดันสินค้าเข้าสู่ตลาด แต่จริงๆ มันอยู่ที่ตัวบุคคลที่จะเลือกเสพ หรือ ไม่เสพ อะไรด้วยนะคะ อย่างเจ้าของสินค้าเรามองว่า ถ้าเขาขายได้ เขาก็ทำ เห็นด้วยกับคุณ Kyo3  มากๆ ยกตัวอย่างตัวเอง เราเป็นแฟนคลับ 2PM พอใครรู้ว่าชอบ 2PM ก็เหมาว่าเราเป็นแฟนคลับและกูรูนักร้องเกาหลี ทั้งๆ ที่ ไม่ดูละคร ไม่ดูวาไรตี้ (ถ้าไม่มี 2PM) เพลงก็รู้จักเฉพาะวงที่โปรโมทพร้อม 2PM เพราะนอกเหนือจากเวลานั้น เราก็ไม่ฟังเพลงเกาหลี คือ พอแค่รับรู้ว่าชอบอะไรอย่างใด อย่างหนึ่งที่เป็นของเกาหลี ก็ถูกเหมารวมไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่นอกจากกระแส เกาหลีมันจะดำเนินไป กระแสอื่นๆ ก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการรับรู้ พอเราชอบศิลปินวงใดวงหนึ่ง เวลาตามข่าวเราก็จะเห็นข่าวของ คนอื่นไปโดนปริยาย เลยมองว่ามันเยอะหรือเปล่า อีกอย่างตอนนี้อะไรๆ มันเข้าถึงได้ง่าย สมัยก่อนเราชอบ jpop ต้องไปซื้อของที่ร้านอิชิมารุ เช่น เทป หรือ CD หรือ VDO ที่เขาอัดรายการไว้ มันดูยากกว่าจะเข้าถึงได้ แต่สมัยนี้ ในยุคดิจิตอล อะไรๆ เข้าถึงได้ง่ายกว่า ดังนั้นมันก็เลยมีคนที่พร้อมรับมากกว่า และสื่อถึงคนที่มากกว่า และกระแสเกาหลีก็มาได้ถูกเวลาเสียด้วย อีกอย่างกระแสเกาหลีมันก็น่าจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้วงการบันเทิงในไทยได้ตระหนัก และพัฒนาอย่างจริงจังได้นะ สำหรับเรื่องเด็กที่โตมาพร้อมกระแสเกาหลี..ห่วงผู้ใหญ่มากกว่าเด็กค่ะ ว่าจะสอนยังไง ให้เด็กเข้าใจ เลือกรับสิ่งที่เหมาะสม และพอดี ++++ ขอเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม ^^ คือเรามองว่าอะไรที่มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี อยู่กลางๆ ดีที่สุด อาจจะมากบ้างแต่ก็อยากเกินเลยจนเสียสมดุล บางทีพอรับอะไรมากๆ เข้าไปมันก็เป็นโทษกับตัวเอง คือเวลาจะรับอะไรเข้ามาก็ต้องดูให้ดีด้วย ไม่ใช่รับแบบ ไม่ลืมหูลืมตา เราไม่ดูละครเกาหลี ไม่ดูวาไรตี้เพราะไม่ชอบนิสัยบางอย่าง และการแสดง ออกของคนเกาหลี ไม่ใช้เครื่องสำอางค์เพราะไม่ได้เชื่อว่าสินค้าเกาหลีดีไปหมด เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้บางอย่างเพราะคุณภาพไปได้กับราคา ชอบอีกอย่างคืออาหารเกาหลี เพราะว่ามีข้าว อาหารชาติไหนมีข้าวชอบหมด เพราะมันใกล้เคียงอาหารไทยดี ^^ ซื้อเอเวอร์เซ็นส์เพราะ 2pm เป็น พรีเซนเตอร์ ไม่ใช้ยามาฮ่า ไม่กินสก็อตเพียวเร่ แบรนด์ก็ไม่กิน ไม่ใช้มิสทีน ชอบกินสาหร่าย ที่เขียนมาซะยืดยาวขนาดนี้ อยากจะแสดงให้เห็นว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวคุณจะเลือก เลือกให้พอเหมาะ พอควร จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์กับการ แอนตี้ อะไรสักอย่าง เราว่า มันไม่มีความสุข ถ้าคุณมีจุดยืนของคุณ รู้และเลือกใช้ ไม่ว่ากระแสอะไรก็พัดคุณไปไม่ได้หรอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 03:39:17 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 03:56:06 จากคุณ : มินทิรา เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 03:54:26

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านจบค่า เราว่าทางแก้มีนะ  ต้องพัฒนาวงการไทยให้ดีขึ้น เป็นระบบขึ้น เราเคยอ่านมติชน คนเขียนคนนึงบอกว่าเคยได้ไปดูงานที่เกาหลีตอนเกาหลียังไม่ดัง เห็นโรงเรียนสอนเต้น โรงเรียนสอนการแสดง มีการทำวิจัยต่างๆนานา  ยังคิดในใจว่าแบบนี้บ้านเราก็มี แต่จริงๆมันไม่ใช่  บ้านเค้าคือทำเป็นอาชีพจริงๆจังๆ  เพราะวงการบันเทิงเค้าแข็งแรง นักร้องเพลงเกิร์ลกรุ๊ปบอยแบนด์บ้านเรา มีซักกี่คนที่ตั้งใจจะยึดอาชีพนี้ บ้านเราคิดว่ามันไม่คงทนไง  ทำซักพักก็เลิกกลับไปเรียนกันหมด อัตราการกลับไปเรียนสูงอะ ซึ่งเราก็คิดแบบนั้นนะ  ใครก็ต้องคิดเผื่ออนาคตตัวเอง จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 07:12:03

ความคิดเห็นที่ 81 เราว่าบ้างคห พยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องนะ อ่านให้ดีแล้วค่อยเข้ามาเม้นดีกว่านะ ส่วนตัวเราว่าอย่าเอาบี้ไปเปรียบเทียบเลย เพราะบี้ดังเองโดยที่เราไม่ได้ ทำการส่งออกหรือทำเป็นอุตสาหกรรมส่งออก แต่บี้(:-)ไปดังเองเพราะจีน เค้ามาซื้อละครบี้ไปฉาย)เค้าดังด้วยตัวเอง เพราะอย่างนั้นเอามาเปรียบเทียบ เราว่าไม่แฟร์ ส่วนถามว่าภูมิใจไหมเราก็ตอบว่าภูมิใจ ไม่ว่าจะบี้หรือมาริโอ้ที่ กำลังดังที่จีน เรายินดีด้วย เราว่าพวกคุณกำลังทำให้กระทู้เปลี่ยนไปนะ จขกทเค้าตั้งอีกอย่างแต่พวกคุณ เข้ามาค่อยเปลี่ยนเรื่องจากเรื่องโน้นมาโย้งเรื่องนี้ เอาคนนี้มาเปรียบเทียบกับคนโน้น แล้วจะเอาเรื่องไหนมาเปลี่ยนได้อีกนี้="= จากคุณ : จำนำ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 07:16:34

ความคิดเห็นที่ 82 อย่าเปรียบเทียบกระแสไทยในจีนกับกระแสเกาหลีในไทยสิคะ มันต่างกันเยอะนะ มากกกกกกด้วย แค่ตัวสินค้า(ดารา-นักร้องนั่นหละ)ก็ต่างแนวกันอยู่แล้ว การทำธุรกิจ การตลาดก็ต่างกัน มันจะเทียบกันได้ยังไง การมีกระทู้นี้ ไม่ได้เพื่อแอนตี้เกาหลีนะ แต่เพื่อมาวิเคราะห์กันว่าทุกวันนี้น่ะเด็กไทยเราคลั่งเกาหลีมากๆ เพราะอะไร ของเขาดีจริง? การตลาดเขาดี? หรือว่าเราถูกยัดเยียดว่าเขาดี? เพราะฉะนั้นมันคงเอาไปเปรียบเทียบกับการที่เราภูมิใจ TPOP ในจีนไม่ได้หรอก เพราะเราว่าการเซลล์ของไทยยังไม่ยัดเยียดอะไรขนาดนั้น มันต้องเล่นตัวกันหน่อยก็ดี อิอิ (เราก็อยากให้ TPOP ดังเร็วๆ นะ แต่ก็อย่างที่เห็นภาพตัวอย่างของเกาหลีในไทยมาแล้ว ถ้ายัดเยียดมากไป ก็จะเกิดแอนตี้นี่แหละ) (เพิ่มเติม) เราก็ห่วงทั้งประเทศไทยแหละค่ะ แต่ห่วงเด็กรุ่นใหม่มากกว่าผู้ใหญ่จริงๆ เพราะด้วยพื้นเพคนไทยแล้ว ผู้ใหญ่คงยากที่จะตระหนักได้เองว่าเราต้องพัฒนาแล้ว+เราต้องสอนเด็กด้วยแนวคิดใหม่ๆ (เราไม่ได้ดูถูกคนไทยนะคะ เฉพาะผู้ใหญ่บางกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อสังคมเท่านั้น -*-) ที่ห่วงเด็กก็เพราะว่า เดี๋ยวนี้เด็กมันคิดเองซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยฟังผู้ใหญ่แล้ว เสพสื่อซะเยอะ คุยกันเองซะเยอะ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 10:56:18 จากคุณ : moonshine19 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 10:50:11

ความคิดเห็นที่ 83 เราเอียนโฆษณาแฝงเกาหลีแบบนี้ คือ พรีเซนเตอร์ก็คนไทยเนี่ยแหละ ไม่ได้จ้างนักร้องจากเกาหลีมาหรอก แต่สินค้าต้องนำเข้าจากเกาหลี ส่วนผสมจากเกาหลี สวยแบบเกาหลี ขาวแบบเกาหลี แหวะั เอียนน่ะค่ะ คือมันต้องขนาดนั้นเลย อะไรที่มันมากไปก็แหวะจริง ๆ นะ อันนี้ไม่โทษเกาหลี แต่โทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้า คนชาติเราทำเรากันเองเนี่ยแหละ มากไปจนเกินพอดี ล่าสุดก็โฆษณาตัวนี้ แหวะจริง ๆ นะเนี่ย จากคุณ : เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 11:43:59

ความคิดเห็นที่ 84 โฆษณามิสทีน บีบี Missteen BB ลิงก์ไม่ติดแฮะ http://youtu.be/2x9OXTA6qQw แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 11:45:55 จากคุณ : เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 11:45:18

ความคิดเห็นที่ 85 เราว่า กระแสเกาหลี ทำให้คนไทยมองคนแต่ "เปลือก" มากขึ้นค่ะ เพราะดารา นักร้องเกาหลี ต้องสวย หล่อ หุ่นดี ขาว หน้าก็ศัลยกรรมมาเหมือนๆ กันหมด แทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร เหมือนมาขายฝันให้ผู้บริโภคสื่อ อยากจะมี อยากจะเป็น คนไทย(โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น) ก็เลยฝันและคิดที่อยากจะเหมือนไอดอลของตัวเอง โดยที่ลืมดูว่าบรรพบุรุษ เราเป็นใคร มีลักษณะแบบไหน เรามีดีของเราเองยังไงบ้าง สำหรับกระแสจากประเทศอื่นมันไม่ขนาดนี้ ทุกคนยังหลงเหลือความเป็นธรรมชาติในตัวเอง ถึงผู้หญิงญี่ปุ่นจะแต่งหน้าเข้ม แต่สุดท้ายมันก็ยังมีความเป็นตัวตนของเค้าเองอยู่บ้าง หน้าตาเค้าก็ไม่ได้ก๊อบกันมาพิมพ์เดียวกันหมด ยิ่งกระแสฝรั่งนี่ยิ่งช่วยสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัตนาอย่างเรา มีความมั่นใจในตัวเอง และกล้ายืนหยัดขึ้นเทียบเท่าเค้า ที่เจริญไปไกลแล้ว ส่วนตัวเราไม่ได้แอนตี้ เพราะเพื่อนสนิทเราก็ชอบเกาหลี แต่ชอบแบบมีสติ บริโภคเพื่อความบันเทิง แต่ยังงามแบบไทยๆอยุ่ ที่รับไม่ได้สุดๆกับสื่อของไทย ที่นำความเป็นเกาหลีมายัดเยียด ก็คือโฆษณาตัวนึง ที่พูดประมาณว่า "หน้าขาวใสแบบเกาหลี แต่หน้ามันแบบไทย"  = = จากคุณ : big_little เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 15:14:43

ความคิดเห็นที่ 86 ตามความเห็นส่วนตัว เรามองว่าวัฒนธรรมเกาหลีที่เข้ามาบ้านเราตอนนี้มันเป็นกระแสค่ะ และเวลาเค้าเลือกทำโฆษณา ไม่จับกระแสที่ดังอยู่ตอนนี้มาขาย ก็กระแสที่คาดว่าจะดังในอนาคตมาขาย ส่วนใหญ่มันเป็นอย่างนั้น อันนี้เราโทษคนทำธุรกิจคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นในเมื่อตอนนี้มันยังไม่มีกระแสอื่นที่มาแรงกว่ากระแสเกาหลี  คนที่ไม่ได้ชอบก็อาจต้องทนหน่อยที่จะเห็นนู่นก็เกาหลีนี่ก็เกาหลี มันเป็นไปตามวิธีทำการตลาดแค่นั้นเอง และถ้าจะมองข้อดี ก็จะพบเรื่องให้น่าศึกษาเยอะเลยจากวงการบันเทิงเกาหลีนะคะ ได้ศึกษาตั้งแต่ระดับองค์กรไปจนถึงบุคคลคือตัวเยาวชนหรือคนที่เป็นแฟนเกาหลีเองเลย ลองดูว่าหน่วยงานรัฐสนับสนุนยังไง ตัวสถาบันบันเทิงเองพัฒนาบุคลากรยังไง รวมทั้งตัวศิลปินเองมีทัศนคติและวินัยในการทำงานยังไง (อันนี้เราว่าดีมากถ้าเด็กไทยจะดูและเอาตัวอย่างเรื่องความจริงจังและวินัยจากบ้านเขา) ถึงทำให้มันประสบความสำเร็จไปตีตลาดต่างประเทศได้ "และที่สำคัญทำให้คนในชาตินิยมเสพสื่อชาติตัวเองได้" ส่วนคนที่ไม่ชอบจริงจัง ลองใช้วิธีท่องไว้ในใจว่าในเมื่อมันเป็นกระแส วันนึงมันก็จะถูกแทนที่และหายไป เหลือไว้แต่คนที่ชอบมันจริงๆเท่านั้น เหมือนญี่ปุ่นตอนนี้ค่ะ   แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 17:35:11 จากคุณ : mel_girl เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:33:44

ความคิดเห็นที่ 87 เราเป็นคนที่เสพหลายวัฒนธรรมค่ะ (เลือกเสพเอาเฉพาะที่ถูกจริต) เกาหลีเราก็เลือกเฉพาะที่ชอบๆ แต่เราก็มีที่ไม่เห็นด้วยกับเกาหลี 2 เรื่องคือ 1. เรื่องที่เค้าพยายามยัดเยียดวัฒนธรรมชาติตัวเองให้ชาติอื่น เพื่อ? (จนบัดนี้เราก็ยังสงสัยนะ 55+) เพราะส่วนตัวเราไม่ชอบดูละครเกาหลีอยู่แล้ว ไม่ถูกจริต และเราไม่เข้าใจเหตุผลการกระทำของตัวละคร (ไม่กล้าบอกว่าดูไม่รู้เรื่อง 555+) อาจเป็นโชคดีของเราที่เป็นคนไม่ติดอะไรง่ายๆ และสามารถคิดได้เองว่าควรจะ "หยุด" หรือ "พอ" ในระดับไหน 2. เรื่องการตลาดที่รุก เร็ว และแรงเกินไปของเค้า นี่เราไม่ชอบอย่างแรงค่ะ เรานับถือเรื่องที่เค้าพยายามพัฒนาปรับปรุง "สินค้า" เพื่อขายของเค้านะ แต่เราไม่ชอบวิธีการแบบเป็น "แพคเกจ" ของเค้า คนบางคนอาจจะชอบ "ของแถม" เพราะได้ฟรีๆไม่ต้องเสียอะไร แต่สำหรับเรา เราไม่ชอบของแถมที่เราไม่ต้องการอ่ะ เพราะได้มาก็ต้องทิ้ง ไม่รู้จะทำขึ้นมาทำไม เสียดายวัตถุดิบที่สามารถเอาไปทำอย่างอื่นได้ดีมากกว่า จากคุณ : ช้อนชาสีชมพู เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:46:03

ความคิดเห็นที่ 88 อืมมมม...ส่วนตัวเราก็ยังคิดว่ามันเป็นกระแสอยู่ดีนะ เราก็บริโภคเกาหลีเหมือนกัน พวกซีรีย์อะไรแบบนี้ เรื่องไหนที่ชอบๆจะติดแบบหลังออนแอร์ไม่กี่ชม.เราก็ดูแล้ว พูดเกาหลีเป็นคำๆได้เหมือนกันค่ะ เกมส์โชว์เราก็ติดพวก WGM หรือ Running Man(ตอนออกอากาศใหม่ๆเราชอบมากเลย เราว่ามันเจ๋งมาก สนุกดี จริงๆเราไม่รู้จักใครเลยสักคนในรันนิ่งแมน แม้กระทั่งยูแจซอก รู้จักจุงกิคนเดียว ปกติเราไม่ดูรายการเกมส์โชว์แบบนี้ แต่เวลาดูตั้งแต่เริ่มต้น ค่อยๆทำความรู้จักไปเรื่อยๆมันจะฮามาก) จริงๆแล้วเราก็ชอบทุกชาติอ่ะค่ะ ซีรีย์ญี่ปุ่นเราก็ดูสลับๆักันไปกับเกาหลีนี่แหละ พวกนักร้องก็ยังฟังอยู่ แต่ว่าเกาหลีมันเหมือนมีให้เห็นเยอะ มีให้ดูให้เสพเยอะ ในฟรีทีวีก็ยังมี ไม่เหมือนพวกญี่ปุ่นที่ส่วนมากถ้าอยากดูก็ต้องหาเอง จากคุณ : marina_rain เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:59:42

ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อก่อนเราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เฉยๆ กับกระแสเกาหลี  ทั้งหนัง เกาหลี  ซีรีส์  ดารา  แฟชั่น หรือ เพลงเกาหลี  แต่ช่วง 3-4 ปีนี้ ได้ติดตามผลงานของน้องนิชคุณ และวง 2PM  เลยพลอยได้ รู้จักนักร้องวงอื่นๆ รวมทั้งรายการเกมส์โชว์ ที่ 2PM ไปออกด้วย ยอมรับเลยรายการเกมส์โชว์เค้าดีแล้วก็สนุกจริงๆ มีรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเลย ตอนนี้ดูจากกระแสเกาหลีในไทยแล้วต้องยอมรับจริงๆ ว่าเกาหลีเค้าวางเกมส์มาดีค่ะ  รัฐบาลก็ส่งเสริมด้วย เห็นแล้วอิจฉาเลยค่ะ อยาก ให้ไทยเราเป็นแบบนี้บ้าง     วัฒนธรรมไหนๆ ก็ดีเหมือนกันหมดค่ะ เพียงแต่รับมาให้พอดี มีขอบ เขตไม่เยอะเหมือนทุกวันนี้ ปล.  ถามว่าเบื่อเกาหลีไหม๊ อยากบอกว่าตอนนี้เริ่มเบื่อเหมือนกันค่ะ  ( ไอ้ประเภท ขาวใสแบบเกาหลี,สวยแบบเกาหลี,นำเข้าจาก   เกาหลี) จากคุณ : เคหาสน์รัตติกาล เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:46:10

ความคิดเห็นที่ 90 ยังอ่านไม่จบ แต่อยากคอมเม้นก่อน .. จากความคิดเห็นส่วนตัว คนที่ไม่ชอบและเริ่มจะแอนตี้เกาหลี มาจากกลุ่มที่คล้ายๆกัน ยกตัวอย่างจากตัวเราเองเป็นต้น จะว่าอิจฉาก็ว่าได้นะ ไม่เถียง ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยชอบความเป็นเกาหลี เริ่มจากที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลี เริ่มจากเสพซีรีย์ก่อน แล้วก็ติดมาเรื่อยๆ เคยแม้กระทั่งด่าละครไทยว่า ทำแต่หนัง ตบตีกัน จะไปพัฒนาสู้เกาหลีได้ไง  ... จากละครเพิ่มพัฒนามาเป็นเสพไอดอล ทุกๆวันจะต้องนั่งตามข่าวเกาหลี ตามข่าวไอดอล .. มากมาย ทำแบบนี้มาเป็นปี เพื่อนรอบๆข้าง ยังมองออกว่าเราเริ่มบ้าเกาหลีแล้วมั้ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกตัวอะไรเลย จนถึงทุกวันนี้ ความรู้สึกมันค่อยๆเปลี่ยนไปเอง เดี๋ยวนี้อะไรที่เป็นเกาหลี แทบจะไม่เสพ สินค้าเกาหลี ไม่ซื้อ .... ทั้งๆที่เมื่อก่อนเคยเลือกซื้อสินค้า แบบชิลๆ อะไรถูกและคิดว่าดีก็จะซื้อ แต่เดี๋ยวนี้ สิ่งที่พิจารณาสิ่งแลกก็คือ "ต้องไม่ใช่ของเกาหลี" อ่านแล้วอ่านอีก ถ้ามีส่วนผสมของเกาหลีจะวางและไม่สนใจอีกเลย ซัมซุง แอลจี ต่อให้ดีและ ราคาถูกกว่ากันเป็นร้อย ก็ไม่ซื้อ จะว่าอิจฉาหรือแอนตี้ อะไรก็ได้ หรือจะว่าผม มีอัคติ ก็ได้นะแต่มันเป็นไปเอง และจะรู้สึกไม่มีความสุขเลยถ้าเราต้องใช้ของ เกาหลี ... แต่ ( ทำไมต้องแต่ ) ก็ยัง ตามศิลปินเกาหลีวงหนึ่งอยู่ เลยทำไห้ตัดไม่ขาด จากความเป็นเกาหลีซะทีเดียว เพราะศิลปินวงดันดันมีเด็กไทยอยู่ .. ผมคิดว่า เกาหลีเองก็ประสมความสำเร็จเรื่องตีตลาด ของประเทศไทย แต่ในอีกแง่หนึ่งผมก็มองว่าเกาหลีเองก็ลมเหลว ในการที่จะรักษาคนที่รักชอบ อยู่แล้ว ให้อยู่ยั้งยืนยง .. เพราะผมเองก็ดูจากตัวเองเป็นตัวอย่าง คนที่ชอบ มากมายอย่างผมถึงวันหนึ่ง ยังดีดตัวออกห่าง และรู้สึกแอนตี้เลยด้วยซ้ำ จะด้วย อิจฉาหรืออัคติอะไรก็แล้วแต่  .. แต่คิดว่ายังมีอีกหลายๆคนที่เป็นเหมือนกัน เคยรักชอบเกาหลีมากมายอยู่   .. แต่ตอนนี้บอกตรงๆว่าแอนตี้จริงๆ จากคุณ : zypern เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 10:42:52

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาบอกว่าเห็นด้วยในหลายๆ ความคิดเห็นค่ะ บางทีเกาหลีก็พยายามรุกมากจนเกินไป   จากที่ค่อยๆ ป้อนทีละคำ  ตอนนี้เหมือนกำลังถูกบังคับให้กินจนหมด อะไรๆ ก็เกาหลี  พรีเซ็นเตอร์โฆษณาก็เป็นคนเกาหลี ศิลปินเกาหลีเจอหน้าคนไทยมากกว่าพ่อแม่ตัวเองแล้วมั้งค่ะ - -* มาบ่อยมาก  เดี๋ยวคอนเสริต เดี๋ยวมาถ่ายโฆษณา  เดี๋ยวมามีทติ้ง เรายอมรับนะคะว่าเป็นคนหนึ่งที่ตามกระแสเกาหลี ชอบศิลปินเกาหลี  และก็เคยคิดเหมือน จขกท. ว่าทั้งหมดก็แค่กระแส แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะใช่อย่างที่คิดรึเปล่า เมื่อตอนนี้ศิลปินเกาหลีหลายๆ คนแทบจะมาปูเสื่อนอนกันที่สุวรรณภูมิ กวาดเงินกวาดรายได้จากไทยไปไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้าน ถ้าบอกว่าญี่ปุ่นก็เคยทำ  จริงค่ะ  แต่ก็ไม่หนักขนาดนี้ เขามาแล้วเขาก็ไปในเวลาไม่นาน  แต่เกาหลีนี่ไม่ใช่ ตรงกันข้ามชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน พยายามขยายฐานแฟนคลับออกไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องผิด  แต่บางครั้งก็เกินไปนะ ไม่ได้มองอย่างอคติ  เพราะทุกวันนี้ก็ยังเสพเกาหลีอยู่ตลอดเวลา   ยังตามไลฟ์นักร้องที่ชอบ  ยังเซพรูปไอดอลที่ปลื้ม ของแบบนี้ชอบแล้วรักแล้วใช่ว่าจะแก้กันง่ายๆ ทางเดียวตอนนี้คือเสพเกาหลีอย่างสงบ ไม่พยายามไปดราม่ากับใคร  ไม่พูดว่าคนไทยหรือดูถูกคนไทยด้วยกันเอง ไม่โหวตกระทู้เคป็อบพร่ำเพรื่อเพราะไม่อยากให้เกิดกระแสแอนตี้ขึ้นมา เฮ้อ~  พิมพ์ยาวแล้วเหนื่อยจบดีกว่า ปล. เพิ่งได้ดูเทปที่รันนิ่งแมนมาไทย   ยอมรับว่าอายยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นคนไทยคลั่งศิลปินมากถึงขนาดวิ่งตามถ่ายรูปแบบนั้น  พวกศิลปินนอกจากจะภูมิใจที่คนไทยรัก  เขาจะคิดอะไรมากกว่านั้นรึเปล่านะ - -* **ทั้งหมดล้วนเป็นความคิดเห็นส่วนตัว  กรุณาอย่าดราม่าใส่เราเลยนะคะ ^^" จากคุณ : คุณเชย (s4415547) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 02:16:47

ความคิดเห็นที่ 92 ที่คลั่งเกาหลีกันเพราะไรน่ะรึ ฮึๆๆๆ ดู mv นี้แล้วจะรู้...... http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=rK1i4KOC7AA อย่าซีเรียส   อิอิๆๆ จากคุณ : บ้าจังกึม (บ้าจังกึม) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 10:44:20

ความคิดเห็นที่ 93 อ่านมาหมดทุก คห. อยากแสดงความคิดเห็นบ้าง ส่วนตัวเริ่มรู้จักเกาหลีจากหนังเรื่อง ศึกป่วนฟ้าโรงเรียนมหาเวท และต่อด้วย ซี่รีี่ย์ เรื่อง autumn in my heart ชอบดูมาก น้ำตาไหล แต่เฉพาะพระเอก นางเอกตอนเด็กๆเท่่านั้นนะ พอช่วงพระเอกนางเอกโต มันเน่ามาก และยืด มาก สรุป เลิกดู ดูไม่จบ ตอนนั้นเราน่าจะ ม.ต้น มั้ง จากนั้นก็ดู แดจังกึม หมอโฮจุน และซีรีย์กู้ชาติบางเรื่อง(เพราะเป็นคนเบื่อง่ายด้วยจึงไม่สามารถดู ทุกเรื่องได้จริงบวกกับไม่ถูกจริตเท่าไหร่ยิ่งเรื่องโรแมนติกน้ำตาท่วมจอที่คน ร้องไห้กันเรากลับรำคาญอ่ะ เพราะเราคอแนวฮีโร่และแฟนตาซีบเลยยิ่งไป กันใหญ่)  และ princress hour เท่านั้นที่ดูข้ามวันข้ามคืน ส่วนวาไรตี้ก็สนุก ดีดูใน ทรู เอ็กไซด์ เสียไม่ชอบเกมจับคู่เพราะมีความรู้สึกว่าเรื่องความรักไม่ ควรเอามาเล่นเป็นเกมเล่นกับความรู้สึก คือ ค่อนข้างจริงจังอ่ะเราน่ะกับเรื่อง แบบนี้มันเรื่องส่วนตัวและเฉพาะบุคคลสำหรับเรามากๆ เอาล่ะพร่ำเพ้อ มานอกเรื่องเยอะแยะแหละ แค่อยากบอกว่าเมื่อก่อนที่เราเคยพาลแอนตี้ เกาหลีพักหนึ่งก็เพราะแฟนคลับเกาหลีบางกลุ่มอวยศิลปินเกาแต่ด่าไทย เลยพาลเกลียดก็เท่านั้น จากคุณ : สุรางคนางค์ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 12:23:49

ความคิดเห็นที่ 94 อ่านแล้วก็เข้าใจนะ เพราะเราเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันซะด้วยซ้ำ เราเนี่ยแหละเมื่อก่อนบ้าเกาหลีขนาดแท้ ปลาบปลื้มนักร้องวงหนึ่งมากๆ ชนิดที่ว่าตามไปถึงโรงแรมที่ศิลปินพักเพื่อรอเจอ ตามไปรับไปส่ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิเลยแหละ สมัยยังเรียนอยู่เราบ้ามากๆเลย กรี๊ดกันชนิดว่าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นึกแล้วก็เอือมปนสมเพชตัวเอง -*- บ้าเพลงเกาหลีมากจนแทบไม่ฟังเพลงไทยเลยด้วยซ่ำ ช่วงที่เกาหลีบูมมากๆ เมื่อสองสามปีก่อนเราติดตามผลงานนักร้องเกาหลีแทบทุกวงในสมัยนั้น เรารู้สึกว่านักร้องเค้ามีคุณภาพจริงๆ เสียงดี และหน้าตาดีจัง ^0^ จนเริ่มมาติดละครเกาหลี หลงซะจนหัวปักหัวปำเหมือนคุณเลยค่ะ แต่หลังมาเรารู้สึกแย่มากที่ไม่รู้จักเพลงไทยเลย แม้กระทั่งเพลงที่เบิร์ดออกมาใหม่ๆเรายังไม่รู้เลย จนเพื่อนตกใจว่าไปอยู่ไหนมาเนี่ย ประเทศไรอ่ะเธอ เพื่อนเหมือนเอือมเพราะเวลาไปเรียนเราก็พูดแต่เกาหลี จนเพื่อนเหมือนเริ่มปลงว่าปล่อยมันไป ไม่รู้นะพอผ่านมาซักสองสามปีเราว่าเกาหลีเริ่มซาแล้วนะ นักร้องเกาหลีแห่กันเดบิ้วออกมามหาศาลมากเกินจนไม่รู้จะจำยังไง วงการเกาหลีมันบูมไงคนมันก็เริ่มลงทุนไง ต่างกับเมื่อก่อนที่วงการเพลงมันซบเซา นักร้องมีไม่มาก เท่าทุกวันนี้ นักร้องเกาหลีที่ทำให้บูมได้ตอนนั้นก็ถือเป็นศิลปินคุณภาพจริง แต่ทุกวันนี้นักร้องเกาหลีมีเยอะ หน้าตาก็เหมือนกันไปหมด ไม่มีจุดเด่นเลยว่าเอกลักษณ์ใครเป็นยังไง จำไม่ได้อ่ะ เกาหลีสมัยก่อนยังมีเอกลักษณ์บ้างหน้าไม่เหมือนกันหมดแบบทุกวันนี้ เมื่อก่อนที่เราชื่นชมนักร้องเกาหลีเพราะเค้าร้องสดกันนะ สดจริงๆ แต่มาตอนนี้โอ้แม่เจ้า ลิปซิงค์กันกระจายจ้า ปากก็บอกว่าร้องสด แต่พอเจอโปรแกรมตัดเสียงดนตรีเข้าไปก็เถียงไม่ออก หลักฐานมันชัด ร้องสดผสมเสียงแบรคกิ้งแทรคที่ดังกว่าเสียงร้องแบบนี้เรียกว่าร้องสดได้หรอ คือสวยๆหล่อๆกันเท่านั้นหรอเอ๋? เราก็เริ่มคิดและแบบเฮ้ย นักร้องไทยยังร้องดีกว่า หน้าตาก็ไม่ได้ศัลยกรรมยกเซต จนหล่อเหลาเหมือนเค้า แต่ยังไงเราก็มีดีนะ แล้วเราเป็นคนไทยด้วยกัน มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปดูถูกนักร้องไทยด้วยกันเอง คือเราเห็นคนไทยชอบด่านักร้องไทยดูถูกกันเอง เด็กบางคนเขียนด่าคน ที่เรียกนักร้องหรือดาราเกาหลีเพียงเพราะเค้าเรียกเกาหลีว่ามัน ปกป้องดารานักร้องเกาหลีจนด่าคนไทยด้วยกันเองซะย่อยยับ คือว่าง่ายๆว่าแตะไม่ได้อ่ะ เราก็แบบเฮ้ย ขนาดนั้นหรอวะ แถมยังด่าดาราไทย ละครไทยว่าลอกเลียนเค้าอีก ทั้งๆที่แบบเนื้อหาออก แนวไท๊ยไทย เหมือนตรงไหนลูก เราคิดว่ามันมีนะที่เลียนอบบเค้า แต่ก็แค่บางเรื่องนะ และเราไม่ดูอ่ะเรื่องนั้น ส่วนมากละครไทยเค้ามีเอกลักษณ์ของเค้า เดี๋ยวนี้ละครไทยเจ๋งสุดๆ ไปเลยต่ะ เราเลิกดูละครเกาหลีไปเลย เพระว่าเบื่อมาก เนื้อเรื่องก็เดิมๆไม่ต่างจากละครน่ำเน่าของไทยสมัยก่อนเลย แต่เดี๋ยวนี้ละครบ้านเราเค้าพัฒนาไปไกลมากแล้ว ไม่ค่อยมีแล้วนางเอก ร้องไห้คล้าน้ำตาเหมือนสมัยก่อน แถมพระเอกนางเอกบ้านเราก็สวยใส หลากกลายแบบ หล่อหลายแบบ ประเทศอื่นเค้าจ้องจะเอาละครไทย ไปฉายกันกระจาย แต่คนไทยด้วยกันเองนี่แหละที่ ด่ากันเองไม่ดูละครเราเองทั้งๆที่สนุกจะตาย ยอมรับนะว่ามีค่ายบางค่ายที่พยายาม เอากิมจีเมืองไทยไปขายเกาหลี หรือพยายามทำกิมจิขายในเมืองไทย ซึ่งมันไม่อร่อยเท่าซื้อกินจากเกาหลีหรอกค่ะ คุณภาพมันไม่ดีเท่าเค้าหรอก เป็นคนไทยทำไมไม่กินปลาร้า ทานส้มตำค่ะ แซ่บกว่าเยอะ เป็นคนไทยแต่ร้องเพลงให้คนไทยฟังไม่ออกแบบนี้เพลีย เราเห็นแล้วแบบ เอ้อเด็กสมัยนี้มันร้องอะไร - -* หรือเราแก่ ที่ฟังได้ก็มีแกรมมี่ แหละค่ะ บางประเทศเค้าเริ่มเบื่อเกาหลีแล้วค่ะ ละครเกาหลี ในประเทศบางประเทศเรตติ่งต่ำกว่าละครไทยอีกค่ะ เดี๋ยวนี้เกาหลีเค้าเลยเริ่มไปบุกยุโรปไง ก็ได้เห็นคนฝั่งนู้นเค้า กรี๊ดกร๊าดไม่ต่างไปกับตอนที่เกาหลีมาไทยใหม่ๆ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เราแค่รู้สึกไม่ต่างจากที่เจ้าของกระทู้นี้รู้สึก คนเรามีสิทออกความคิดเห็นแสดงความรู้สึกตราบใดที่ไม่ได้ไปพาดพิงใคร ปี2011แล้วค่ะ ถ้าใครไม่พอใจอยากด่าก็ไม่ว่ากัน เพระเราคิดว่าเรา ไม่ได้แอนตี้เกาหลีนะ แต่เรารักของไทยมากกว่าเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 14:35:42 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 14:34:34 จากคุณ : สะใภ้ตระกูลชอง เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:19:22