ความคิดเห็นที่ 1 กระแสเกิดจากผู้บริโภค ต่อให้ ลับลมคมในแค่ไหน ถ้าผู้บริโภคไม่ยอมรับกระแสมันจะเป็นกระแสไปได้นานเท่าไหร่เชียว? ที่ว่าตกวูบคือ? รู้ยังไงว่าตกวูบ แล้วที่ว่าแรงพรวดพราดนี่รู้ได้ยังไงอ่าครับ แล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่น้ำซึมบ่อทราย ผมว่าที่กระแสเกาหลีแรงขึ้นเพราะเกาหลีเปิดกว้างทางสื่อบันเทิง ซึ่งเคยคิดไว้นะว่า โซเชียลมีเดียนี่แหละสร้างกระแสได้ดี เขาใช้สื่ออินเทอร์เน็ตได้ดีมีประโยชน์ ผมรู้แค่นี้ ตามความเข้าใจของผมนะ ส่วนเจ้าของกระทู้คิดยังไง และหมายความว่ายังไง คนละประเด็นกับที่ผมออกความเห็นหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบได้คร้าบ ^_^ คนอื่นน่าจะมีความเห็นดีกว่าผมและตรงประเด็นกว่าผมเยอะ จากคุณ : apilak เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 23:52:58

ความคิดเห็นที่ 2 "เกาหลีสมคบคิดก้ับนักลงทุนในไทยทั้งขายถูกทั้งหว่านเงินซื้อ เพื่อสร้างกระแสเกาหลี" ยังไงคะ ไม่เข้าใจ   มันอยู่ที่คนเลือกบริโภค ต่อให้แถมฟรี แต่ผู้บริโภคไม่รับ มันจะอยู่ได้เหรอคะ อย่างที่รู้ วงบางวงมีแฟนคลับในไทยและ ดังตั้งแต่ยังไม่มีการโปรโมทในไทยด้วยซ้ำค่ะ จากคุณ : skrnotp_1975 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:01:04

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็น คคห 1 2 ก็คงผิดที่ จขกท เอง ล่ะค่ะ ต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ การโพสต์ครั้งนี้ ในฐานะคนไม่ได้ติดตามงานเกาหลีเอาเลย มองผ่านๆ ได้ยินแว่วๆ เห็นบ้าง รู้สึกเลาๆประมาณไหน ก็พิมพ์ตามความรู้สึกไปเช่นนั้นค่ะ เพียงแต่อยากรู้เพราะเห็น" เขาว่า" ไม่ได้มีข้อมูลจริงจังซัพพอร์ทค่ะ จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:15:01

ความคิดเห็นที่ 4 มันคงไม่ถึงกับสมคมคิดหรอกมั้งครับ (ไม่ทราบ) สำหรับนักลงทุน (นักธุรกิจ) อะไรที่ขายได้เขาก็เอามาขายทั้งนั้นละครับ เกาหลีฮิต เขาก็เอาเข้ามาขาย แค่นั้น ซักวันนึง เมื่อ Demand กับ Supply มันไม่ตรงกัน เดี๊ยวมันก็ลดลงไปเอง  พอมีกระแสต่อต้านที่ญี่ปุ่น คนไทยเองก็เอามั่ง(เหมือนฉวยโอกาสย่อย) ...... เรื่องอื่นไม่ทราบ พอจะทราบแต่เรื่องฟูจิ TV รายการ Heyx3!! ซึ่งเป็นรายการเพลงของ ช่องนั้น เอาศิลปินเกาหลีไปออก เกือบทุกเทปอยู่พักนึง ซึ่งบางวงก็ถือว่า "ใครเนี้ย?" สำหรับคนญี่ปุ่นครับ ซึ่งมองมุมนึงก็คงเป็นการให้โอกาสนะครับ แต่พอมาบ่อยๆทุกเทปๆมันก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมา แค่นั้น ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่า มันมากเกินไปนะครับ เทปละ 1 วง และก็ไม่ใช้ว่าเขาไม่เอาศิลปินถิ่นไปออกเลยซะหน่อย แต่ถ้าเทียบกับช่องอื่นมันคือ "เยอะที่สุด" เลยก็ว่าได้ -*- ซึ่งคนญี่ปุ่นก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา มีรัก โลภ โกรธ หลง หลายๆคนเขาก็ไม่ชอบ ไม่พอใจ Ban และพอโซสึเกะ ทวิตแล้วเกิดกระแส ขึ้นมา ก็อาศัยเวลาันั้นออกมาแสดงจุดยืนกันแค่ันั้น อีกอย่างนะอีกอย่าง จริงในญี่ปุ่นเกาหลี มันก็ไม่ได้ พรวดพราดอย่างที่ึคิดนะครับ รุ่นพี่ที่พึ่งกลับมาจากญี่ปุ่น พูดเลยว่า KARA นี้่ละ เปรี๊ยงปร๊างอยู่วงเดียว ที่เหลือ ก็มีดังพอไหวก็ตัวอย่าง SNSD และ ที่อยู่มานานแล้วอย่าง Tohoshinki ที่เหลือ ที่อาจจะมีข่าวในไทยว่า ขึ้นที่ "1" รายวัน    ที่2รายสัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นการปั่นข่าวให้ตื่นเต้นของสื่อ แต่จริงๆมันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย ธรรมดามาก แต่ที่เขาขนกันไปญี่ปุ่น เพราะ ญี่ปุ่นเป็นตลาด CD ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอเมริกา แค่ไปแบบไม่ดังก็สามารถโกยเงินได้โขแล้ว ขอยกตัวอย่างนักร้องไทย อย่าง พี่ไอซ์ ศรันยู หรือ เนย แจม Neko Jump นะครับ คนไทยทราบว่าไปญี่ปุ่น และ พอมีชื่อเสียง แต่จริงๆแล้ว เรียกได้ว่าพอมีแฟนคลับเท่านั้นละครับ ไม่เคยปรากฏตัวบนออริก้อนกันเลยด้วยซ้ำ แต่ก็โกยเงินมาประเทศเราได้เยอะแยะเลยนะ!! ถ้าถามว่า "แค่ไหน คือดังสำหรับญี่ปุ่น" ผมเอ่ยชื่อไปแล้วเขา "อ๋อ" นั้นละ ผมจะคิดว่ามันดังจริง ผมมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากญี่ปุ่นหลายคนอยู่  ส่วนใหญ่วงที่เขา อ๋อ เราก็จะรู้ๆกันอยู่ว่าวงไหนบ้าง เรื่องมันเป็นกระแสก็เลยมีคนอยากรู้เยอะ บางคนคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ อาจจะเพราะรับข่าวมา แต่จริงมันคือ "เรื่องจิ๊บจ๊อย" มาก ในสายตาผม (และมั่นใจว่าอีกหลายๆคนก็คิดอย่างนั้น ) ไม่ใช้เรื่องน่าตื่นเต้นหรอกครับ อย่าใส่ใจมันเลย!! ปล. Mainstream เพลงญี่ปุ่น  กรี๊ดเกาหลีเป็นบางวง จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:18:23

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะใช้คำว่า สื่อไทยมากกว่านะคะ นายทุนนี่รวมวงการไหนบ้างเอ่ย? เรื่องพวกนี้เราไม่ค่อยรู้ตื้นลึกหนาบางเท่าไหร่ คอยฟังข่าวอย่างเดียว ขออธิบายหน่อยเรื่องที่ว่า กระแส/ค่านิยมเกิดจากผู้บริโภค ...ไม่จริงเสมอไปนะคะ ธุรกิจสามารถสร้างกระสใหม่ๆ ขึ้นได้ ถ้ามีกลุยทธ์เจ๋งจริง (สินค้าเจ๋ง/ราคาเจ๋ง/โปรโมทเจ๋ง? ฯลฯ) ในทางการตลาดเราเรียกว่า Trend Setter เป็นกลยุทธ์การสร้างพฤติกรรมการบริโภคอย่างหนึ่งค่ะ ปล. เรามานอกเรื่องซะงั้น 55 ไม่ได้มาโจมตีเกาหลีน้าา.. ใครจะสมคบคิดอะไรกันยังไงเราไม่สน ไม่อยากดราม่า จากคุณ : moonshine19 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:33:31

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ จขกท. อย่าเครียดและคิดว่าผิดเลยนะคะ  ทางเราเองก็อยากอธิบายค่ะ ^ ^ แชร์กันได้ค่ะ จากคุณ : skrnotp_1975 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:36:36

ความคิดเห็นที่ 7 นายทุน ที่เราว่า ก็คงเป็นพวกเจ้าของสื่อนั่นแหละค่ะ ที่เราแปลกใจ มากคือ หนังจีนกับหนังเกาหลี เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่บอกว่า หนังเกาหลีขายถูก ทำให้นิยมซื้อ หนังจันฮ่องกงแพง แต่ทำไม เอาหนังแพงไว้ตอนตีสาม เอาหนังถูกไว้ตอนหกโมง เวลาดีมากๆ ตรรกะมันดูแปลกๆอยู่นะคะ """"""""" เพิ่มเติม คคห 4 คุณ St.yawn เราระลึกชาติเลาๆได้แล้วค่ะว่า ของ เกาหลีกับญี่ปุ่นนี่ เริ่มซึมมานานแล้ว ราวๆสัก 15-20ปีก่อน เราจำได้ว่า ราวยี่สิบกว่าปีก่อน ญี่ปุ่นยังเหยียดเกาหลีอยู่มากๆ ไทยเองก็นำหน้าเกาหลี ( T T ) ไม่มีคนเห็นเกาหลีในสายตา พี่สาวเราไปเที่ยวเกาหลี คนอึ้งว่าไปทำไม ตอนนั้นเอง ที่ได้ข่าวว่า เคป๊อปเริ่มดังในญี่ปุ่น แต่บ้านเรา ในความทรงจำของเรา เกาหลีมาแรงพรวดเดียวจริงๆนะคะ มากับแดจังกึม และ วันเดอร์เกิรล . แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 01:03:42 จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:43:45

ความคิดเห็นที่ 8 คคห 6 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:44:06

ความคิดเห็นที่ 9 ทฤษฎีทั้งหลายแหล่ ที่เค้าจะพยายามหาสาเหตุทำไม เกาหลี ถึงดังในไทย  ทั้งการซื้อสื่อ ยัดเยียด ขายในราคาถูก จะตกไปหมด เมื่อเจอห้องเฉลิมกรุง ครับ จากคุณ : white love เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:52:18

ความคิดเห็นที่ 10 1.อาจไม่ถึงขั้นทฤษฎีสมคบคิด น่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ และผลประโยชน์ (แต่ก็มีมูล) 2.Marketing เป็นกลยุทธ์ที่สื่อหรือนายทุนใช้ (เนื่องจากเหตุและจุดประสงค์จากข้อ 1) 3.ความนิยมของผู้บริโภคเกิดขึ้นตามที่ คห.5 บอก (เนื่องจากกลวิธีของข้อ 2 แต่ก็ไม่ได้เป็น 100% แต่ก็น่าเกิน 50%) ผมก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไรเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่ากระแสมันไม่ได้เกิดขึ้นมา Boom! เฉยๆแน่ แต่ที่แน่ๆ สื่อ(Media) เป็นตัวโคตรอิทธิพลหลักๆ ที่เป็นตัวสร้างและผลักดันกระแสความเร็วแสงในโลกนี้ แถมยังเป็นตัวล้างสมองอย่างดีอีกด้วย เราๆโดนกันไปถ้วนหน้า ปล. เรามานอกเรื่องซะงั้น 55 ไม่ได้มาโจมตีเกาหลีน้าา.. ใครจะสมคบคิดอะไรกันยังไงเราไม่สน ไม่อยากดราม่า ปล2.ขอก็อปคห.5มา แหะๆ ^^ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 00:59:56

ความคิดเห็นที่ 11 คิดว่าน่าจะใช้คำประมาณว่า "สมประโยชน์" มากว่า "สมคบคิด" นะ เพราะถ้าใช้สมคบคิดแสดงว่า "คนไทยก็กล้าำกับคนไทยได้เนอะ" ส่วนที่ว่ากระแสเกาหลีใต้ Kpop ดูลดลง คิดว่าน่าเป็นเพราะช่วงปีนี้ปีที่แล้ว ที่เกาหลีใต้เองไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาแบบสุด ๆ เหมือนช่วง 2008-2009 มากนักนะ ประมาณว่ามีแค่ดังแต่ไม่มาก กระแสมันเลยไม่ได้แรงมาถึงเมืองไทยเท่าไร ส่วนเรื่องญี่ปุ่น เรามองว่าก็เป็นการตลาดเหมือนกันนะ ออกช่องนี้ไม่ได้ ก็ต้องไปออกช่องอื่นเพื่อสร้างโอกาสการโปรโมต ก็เหมือนรายการดี ๆ เมืองไทย ออก 3 5 7 9 ไม่ได้ บางทีก็ต้องไปออก ไทยพีบีเอส เป็นต้น ปล. แม้ว่า kpop ไปญี่ปุ่น แต่คนที่จัดจำหน่ายขายและวางแผนโปรโมต ก็ค่ายเพลงดังของญี่ปุ่นที่นำไปนั้นแหละ จากคุณ : nongatom เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 01:00:15

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนตัวผมมองตามกลไกทางเศรษฐ์ศาสตร์ว่า "ถ้าไม่มี Demand เยอะ Supply ก็จะไม่เยอะตามไปด้วย” ผมคิดว่าเกาหลีไม่ได้เพิ่งเข้ามาแทรกตลาดเพลงญี่ปุ่นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านนี้หรอกครับ ผมว่าทางเกาหลีเองก็พยายามเข้ามาตลาดญี่ปุ่นนี้ได้สักพักแล้ว แต่อาจจะไม่ได้เน้นไปที่ธุรกิจเพลงโดยตรง แต่จะเป็นไปในลักษณะของละคร และอาหาร หรืออะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกี่ยวกับเพลงโดยตรง  (ธุรกิจยากินิขุเองก็ฟื้นขึ้นมาได้ ก็เพราะอิทธิพลมาจากบูลโกกิของเกาหลีที่บูมมากในช่วงโอลิมปิคปี 1988) เพราะด้วยเหตุนี้เองกระมังที่ทำให้ผู้บริโภค (ขอใช้คำนี้นะครับ) เริ่มคุ้นเคยกับสิ่งแปลกใหม่มากขึ้น จากละคร/ภาพยนตร์ ก็เริ่มจะไปสนใจทางด้านเพลงมากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าพวกที่เข้าไปยุคแรกๆ นี่ต้องต่อสู้กับกำแพงทางวัฒนธรรมกันอย่างมากพอสมควร แต่พอกำแพงมันเริ่มที่จะลดลงบ้างแล้วก็ทำให้ฐานของผู้บริโภคขยายมากขึ้น เลยทำให้มีคนรุ่นถัดมาอยากเข้าไปเพิ่มมากขึ้นเพราะรุ่นพี่ที่ได้เข้าไปสร้างทางให้แล้ว แต่ลักษณะการเข้าไปนี่ดูจะเป็นแบบ Bandwagon มากเกินไปหน่อย เลยทำให้ไม่ค่อยมีตัวเลือกที่หลากหลายมากนัก ผมมองว่าเรื่องแรงต้านนี่เป็นเรื่องปกตินะครับ  แต่ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยนี้ที่มันแพร่หลายได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น มันเลยดูชัดเจนมากกว่าสมัยก่อน (คงคล้ายๆ กับสมัยก่อนที่บ้านเราก็มีกระแสต่อต้านเพลงญี่ปุ่นบ้าง แต่ไม่ได้แพร่หลายเป็นวงกว้างมากนักเพราะการสื่อสารสมัยนั้นไม่ได้รวดเร็วฉับไวเหมือนสมัยนี้) ดังนั้นเรื่องที่สถานีฟูจิTV นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะต้องทำกันเมื่อมีกระแสใหม่ๆ เข้ามา ก็แค่นั้นเอง ดังนั้น ผมจึงไม่แปลกใจถ้าเกิดจะมีการรวมตัวกันกระทำลักษณะนี้ขึ้นมา เพราะนั่นคือสิทธิที่แต่ละบุคคลสามารถแสดงออกได้ แต่ถ้าหากมันลุกลามไปถึงขั้นขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวทีระหว่างการแสดง หรือว่ามีการทำร้ายศิลปินหรือแฟนคลับของศิลปินนั้นๆ นั่นแหละ ถึงจะถือว่าผิดปกติ ช่วงนี้ถ้าไม่นับรุ่นเก่าๆ ที่ดังๆ อย่างโบอา หรือ TVXQ แล้ว จากปากคำน้องสาวผมที่อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองของโตเกียว และไม่ได้ให้ความสนใจเพลงหรือศิลปินเกาหลีเลย ก็บอกว่า KARA และ Girls’ Generation เป็นสองกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วไป (เท่าที่เธอเห็นสินค้าต่างๆ ที่มีรูปของ GG ใน7/11 และตามสถานีรถไฟบางแห่ง และร้านขายของต่างๆ ในย่านใจกลางเมือง ส่วน KARA ก็เห็นออกในละครของ KARA และรายการโทรทัศน์หลายรายการ) แต่จะดังมากน้อยไปกว่ากันแค่ไหนนี่ไม่ทราบจริงๆ ผมจึงขอถือเอาตามความคิดของผมก็แล้วกันว่าสองวงนี้ได้รับความสนใจจากคนทั่วไปและสื่อมากที่สุดในบรรดาศิลปินเกาหลีหน้าใหม่ที่เข้ามาสู่ตลาดเพลงในญี่ปุ่น ส่วนเรื่องทฤษฎีสมคบคิดอะไรนั่นผมว่ามันคงไม่ได้เป็นไปได้ถึงขนาดนั้นหรอกครับ (ผมว่ามันดูเหมือนนิยายมากไปหน่อยสำหรับแนวคิดเรื่องนี้)  ถ้าหากของมันขายไม่ได้ ต่อให้ยัดเงินมากแค่ไหนคนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายก็ไม่อยากจะขายหรอก เพราะผลตอบแทนมันไม่คุ้มทุน สู้เอาเวลาไปขายของที่มันขายได้อยู่แล้วในตลาดไม่ดีกว่าหรือ? แล้วอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าช่วงหลังๆ ที่กำแพงทางวัฒนธรรมได้ลดลง คนเปิดใจฟังมากขึ้นเลยทำให้บรรดาศิลปินที่รอโอกาสนี้อยู่แล้วต่างดาหน้าเข้ามาหาช่องทางในการทำธุรกิจ แต่พอดีว่าพวกเขาเข้ามาพร้อมกันเยอะมากจนคนท้องถิ่นที่หัวอนุรักษ์นิยมเริ่มรู้สึกไม่พอใจ ก็แค่นั้นเอง ซี่งถ้าเป็นไปตามกลไกทางเศรษฐศาสตร์ อีกสักพักก็คงมี Invisible Hand เข้ามาทำให้ตลาดสมดุลกันเอง นั่นก็คือ ผู้บริโภคเริ่มเบื่อและหันไปบริโภคอย่างอื่นแทน ทำให้ไม่สามารขายของต่อไปได้ และก็จะลดจำนวนลงในที่สุดนั่นเอง ผมว่าผมมองเรื่องพวกนี้เป็นแบบนี้ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดราม่าไปทำไม (หลังๆ ผมเห็นดราม่าเรื่องนี้ในห้องเฉลิมกรุงนี่เหมือนสงครามอัตตาของแต่ละฝั่งทั้งนั้นเลย ฮ่าๆๆ ) จากคุณ : Equator เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 01:56:12

ความคิดเห็นที่ 13 quote: แต่ทำไม เอาหนังแพงไว้ตอนตีสาม เอาหนังถูกไว้ตอนหกโมง เวลาดีมากๆ ตรรกะมันดูแปลกๆอยู่นะคะ --------------------------------------------- ตบมือให้ครับ ต้องแบบนี้ครับ อ่านไรมาต้องคิด โดยเฉพาะในเน็ต ถ้าหนังกู้ชาติทั้งหลาย พวกนี้ซื้อมาแพงมากๆ ครับ ถ้าจัดดันดับหนังแพง หนังเกาหลี ก็อยู๋ในต้นๆ เยอะครับ  แต่บางเรื่องก็อาจอยู่ ท้ายๆตารางด้วย (พูดถึงหนังกู้ชาติ ผมรับไม่ได้ที่สุดคือ ที่หลายๆคนบอกว่า เด็กไทยไม่รู้ประวัติศาสตร์ไทย จำได้แต่ประวัติเกาหลีเพราะทีวีฉาย ผมอ่านแล้ว เหมือนโดนทีวีหล่นใส่หัวเลย  ถ้าเป็นคนแถวบ้านจะเอา ไม้มะยมจับฝาดซะให้เข็ดครับ คนไทยควรรู้ประวัติศาสตร์ไทย จากตำรา พงศาวดาร  พ่อแม่ เล่าสอนให้ฟังมากกว่า จะนั่งดูทีวีนะครับ  ยังไงหนังก็คือหนัง นำเสนอบันเทิงเป็นหลัก ผมคิดถึงคำพูด ทีเค้าว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่กี่บรรทัด สงสัยจะจริง) ถ้าคิดตาม ไม่มีอคติไปด้วย แบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อยครับ ส่วนเรื่อง kpop ในไทย ผมว่ามันถึงจุดที่คนไทยไปต่อยอดเองแล้วครับ ความดังก็คงในระดับนี้ต่อไปแล้ว  คือเหมือนเพลงสากล อาจจะไม่บูม แต่ก็ไม่เลือนหาย  เว้นแต่มีเพลงอะไรทีบูมๆขึ้นมาอีก ศิลปินที่คนไทยฟัง ที่ดู ไม่จำเป็นต้องเป็นวงดังแล้ว เดี่ยวนี้ผมเห็นคงฟังเกาหลี ฟังกระจายมากๆแล้วครับ ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่ แค่ไม่กี่วง  ฟังตามรสนิยมความชอบ มากกว่า ส่วนกระแส kpop  เมื่อก่อน ผมว่าคือปากต่อปาก แล้วหาดูมากกว่า ตอนแรกเพลงจากพวกซีรีย์ดัง กับกระแสของเรน แต่ก็แค่ในระดับนึง แต่ดันมี บิ๊กแบง ที่มาแนวฮิปฮอป ซึ่งเป็นทางเลือกให้คนฟังเพลงสากลฮิปฮอปครับ อย่าง lie , haru haru แล้วก็ต่อมาทาง wonder girls กับ tell me  nobody ตอนนั้นมีแต่คนบอก(ผมด้วยแหละ)  เดียวกระแสเกาหลีก็จะตกไปแล้ว  snsd ก็ดันแจ้งเกิดเป็นพลุแตกจาก gee อีก super junior ก็ปล่อย sorry sorry มา ดันความดังของเพลงเกาหลีขึ้นอีก  อีกทั้งนิชคุณก็ได้เป็นสมาชิกของ 2pm ทำให้คนไทยหันไปติดตามมากขึ้น หลังจากนั้น เกาหลี ก็มีวงฮิต เพลงฮิตตามมากอีกมายมาย อย่างที่เห็นๆครับ ที่ดังได้ ปากต่อปาก แล้วถูกรสนิยมคนฟังเยอะแหละครับ แต่ผมก็ชอบนะครับ ที่เพลงเกาหลี เป็นอีกกระแสที่จะอยู่เคียงข้างเพลงสากล มันจะได้เป็นอะไรที่หลากหลายดี  ถึงจะโดนค่อนขอดตลอดว่าลอกเลียนแบบ ก๊อปไม่ก๊อป  แต่สังเกตุดิครับ บอร์ดเพลง บอร์ดแฟนคลับสากลหลายแห่ง ต้องมีห้องเพลงเกาหลี แยกให้อีก ฮ๋าๆๆ ส่วนเรื่องโฆษณา ที่เอะอะก็ดึงคำว่าเกาหลี ก็ต้องแยกคิดอีกทีครับ ว่าสื่อควร ไม่ควร จะทำอะไรให้มันมากไป หรือเกินความเป็นจริง แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 02:26:31 จากคุณ : white love เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 02:09:42

ความคิดเห็นที่ 14 ตอน จขกทเรียนประถมปลายๆ หนังสือวงการเพลงญี่ปุ่น ทีวีรีวิวดังมาก ตอนนั้นแปลกใจว่า ประเทศเล็กๆ ทำไมนักร้องโคตรเยอะเลย เป็นวัยรุ่นประมาณ สิบสามสิบสี่ ถึงสิบเจ็ดได้  ดูเหมือนจะเรียกว่า แนวโลลิป๊อป และเด็กผู้หญิงต้องใส่บิกินี่ถ่ายรูปทุกรายไป ซึ่งหลังจากนั้นมาสัก ราวสิบถึงสิบห้าปีที่ผ่านนี้เอง วัฎจักรเพลงไทยก็ถึงยุคโลลิป๊อบเหมือนกัน มีแต่เด็กวัยรุ่นทั้งนั้น ว่าด้วยเรื่องของการต่อต้าน  หรือ กระแส ก่อนเกาหลีจะเริ่มเจอในช่วงนี้ จริงๆยุคหนึ่ง จำได้เลาๆว่า( จำได้อีกแล้ว!  ไม่มีข้อมูลซัพพอร์ทง่ะ) ญี่ปุ่นในบ้านเราก้ถูกต่อต้านนะคะ เป็นยุคต่อต้านญี่ปุ่น ห้า้งไทยไดมารูก้อโดนขว้างปาทำลายของ  แต่ก็ไม่แน่ใจว่าช่วงปี 16 19 แถวนั้นหรือเปล่า จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 02:24:11

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องทฤษฎีสมคบคิดเราไม่รู้นะคะ แต่เรื่องที่บูมในไทยขนาดนี้ ส่วนนึงเราคิดว่าเป็นเพราะ ประเทศไทยเปิดรับวัฒนธรรมจากประเทศอื่นง่ายค่ะ คือ บูมของประเทศอื่นอาจจะพูดขึ้นมาแล้ว อ๋อ เห็นหน้าแล้ว อือ รู้ๆ แต่ประเทศไทย แรกๆอาจจะเปิดบ้าง แต่พอมีกระแสปุ๊บ จับมาเปิด ผลักดัน กันรายวันค่ะ อย่างตอนนี้ไปเดินตลาดสด บางร้านยังเปิดเพลงเกาหลีเลย - -" แถมยังมีโฆษณาขาวเหมือนเกาหลี ใสแบบเกาหลี จนล่าสุดเราไปเจอป้ายสอนเรียนคณิตแบบเกาหลี - -"(เห็นแล้วอยากกระโดดขึ้นไปสกัดลงมา ) เข้าเรื่อง...เราว่าประเทศไทย จริงๆกระแสเกาหลีก็ไม่ได้ถึงกับใช้คำว่าพรวดพราดนะคะ มันจะมีรอยต่อระหว่าง ช่วง J-POP กับ K-POP ซึ่งช่วงนึงฝั่งเจ จะเริ่มซาๆ(แต่ก็ไม่หายนะ) แล้วก็มีเคป๊อบเข้ามาบ้านเรา (รุ่น se7en , Rain , Baby B.O.X งี้) ช่วงนั้นน่าจะเรียกได้ว่าเริ่มๆนะ นับมาถึงตอนนี้กว่าจะบูมระเบิดระเบ้อ เปิดเพลงในห้างในผับ ในตลาดฯลฯ ก็หลายปีอยู่ อีกส่วนนึงเราว่ามาจากเทคโนโลยีค่ะ ช่วงที่เกาหลีเข้ามาเทคโนโลยีบ้านเราพัฒนาขึ้นมามาก ข่าวสารเร็วขึ้น เนตเร็วขึ้น ประกอบกับทางเกาหลี เค้าดันส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงจริงๆอ่ะคะ ทุกสิ่งอย่างหาง่าย ส่วนเรื่องฟูจิทีวี เทียบให้เห็นง่ายๆ ก็คือ ช่องสามนั่นแหละค่ะ ไปดูในห้องเฉลิมไทย ขนาดตอนนี้บ้านเราเกาหลีฟีเวอร์ ดูซีรีย์กันทั้งนั้น แต่พอมาเช็คกันอีกที คนก็ด่าเพียบว่า เธอจะเอามาลงอะไรกันนักหนา ปกติมันต้องเป็นรายการนู้นนี้ ละครนั่นนี่ แล้วไอ้เดิมๆเก่าๆที่เคยมีหายไปไหน หรือถ้าเป็นรายการเพลง ก็เหมือนเราเปิดไปดูพวกเคเบิ้ล ทั้งๆที่บอกว่าเป็นเอเชี่ยน ก็จะพบว่าเป็นเกาหลีซะ 70-100%(ณ ประเทศไทย) ของญี่ปุ่น เค้าก็คงรู้สึกแบบที่คุณ St.yawn คห4 บอกนั่นแหละค่ะ เฮ่ย...ฉันมาดูรายการเพลงญี่ปุ่น ทำไมเจอเกาหลี ศิลปินเกาหลีอีกแล้ว อาทิตย์ก่อนก็อย่างงี้ ไม่ได้จะรู้จักเลย อะไรเนี่ย เยอะไปมั๊ย ซึ่งตอนนี้ แม้แต่คุณจะดูรายการข่าวบันเทิงที่ญี่ปุ่น ยังมีศิลปินเกาหลีสอดแทรกมาอ่ะ - -" คนที่ไม่ได้สนใจ ก็ต้องรู้สึกใช่มั๊ยล่ะคะ? มันเหมือนคุณโดนยัดเยียดให้ดู มันเป็นเรื่องธรรมดา เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะบ่น แต่ที่มันเป็นประเด็นทั้งสองฝ่ายขนาดนี้ ส่วนนึงเราว่า พื้นฐานทั้ง2ประเทศ เป็นประเทศที่ชาตินิยมทั้งคู่ค่ะ ลักษณะการเขียนข่าว (โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)จะเห็นได้ชัดเลยว่าค่อนข้างจะชมฝั่งตัวเองเกินความจริงอยู่(พูดถึงมันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่คนนอกอ่านก็ต้องหมั่นไส้มั่งล่ะ - -) (ยกตัวอย่าง อย่างเรื่องที่อันดับหนึ่ง /ท๊อปไฟว์ รายวัน หรือรายอาทิตย์มันไม่ได้เป็นประเด็นแบบ เฮ่ยย ดังอะ เทพ อะไรขนาดนั้นอะคะ แต่ฝั่งเกาหลีก็จะเขียนแบบ สุดยอดอ่ะ ได้รับความนิยมสูงอะไรแบบนี้) แล้วพอมาเป็นเรื่องนี้ ซึ่งพอข่าวมันผ่านหลายๆมือ ผ่านสื่ออินเตอร์เนตด้วยแล้ว ก็ต้องถูกคอมเม้นต์ นู่นนี่มา พอฝ่ายนึงแรงมาขนาดนี้ อีกฝ่ายก็คงไม่ได้เย็นได้ตลอดหรอกค่ะ ยิ่งทางเนต นักเลงคีย์บอร์ดมีทุกที่อยู่แล้ว ฝ่ายนึงก็ไม่พอใจ อีกฝ่ายก็ เธอมาแตะฝั่งชั้นได้ยังไง มันก็เลยแรงอย่างที่เห็น ปล. เค้าเสพทั้งสองฝ่ายจริงๆนะเออ... แต่ถ้าอ่านแล้วแลดูมาม่า อาจจะมีอารมณ์ร่วมในบางส่วนมากไปหน่อย แต่ยืนยันและสาบาน ว่ามีคนในครอบครองจากทุกๆฝ่าย ><~ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 02:58:41 จากคุณ : twinkle~mii เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 02:56:20

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องการสร้างกระแส ถ้ามันไม่ถูกใจคนจริงๆ หว่านยังไงก็ไม่ขึ้นค่ะ ดูอย่างห้องเฉลิมไทยเป็นตัวอย่างก็ได้ เดี๋ยวนี้มีหน้าม้าเพียบบบบบบบ ตอนโหมโรงน่ะ เป็นกระแสธรรมชาติของคนเล่นจริงๆ เลยช่วยหนังให้ดังขึ้นมาได้ หลังๆบางค่ายหนังก็ส่งคนมาสร้างกระแสให้หนังเรื่องนู้นเรื่องนี้ อ่านดีๆก็ดูออก แต่ถ้าหนังเรื่องนั้นมันไม่ตรงกับความชอบของคนส่วนใหญ่จริงๆ กระแสก็จุดไม่ติดค่ะ กระแสเกาหลีก็เหมือนกัน เราว่าทางเกาหลีเค้าอยากสร้างกระแสเค้า ซึ่งมันก็ไม่ผิด รัฐบาลเค้าก็มีนโยบายช่วยอุดหนุนส่งเสริมอะไรไป ซึ่งดีออกนะ เราว่า พอมาประเทศไทยหรือที่ญี่ปุ่น เค้าก็อาจจะลดแลกแจกแถมอะไรบ้าง หรือมีการต่อรองที่สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่นถ้าเอาเรื่องนี้มาฉายจะลดเรื่องนี้ให้ครึ่งนึง เอานักร้องวงนี้มาออก เดี๋ยวจะส่งอีกวงมาออกด้วย หรือมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ ฯลฯ ของแบบนี้ ถ้าเจ้าของสื่อในไทยและประเทศอื่นๆไม่มองเห็นว่าได้กำไรเค้าก็ไม่ทำหรอก นี่คือเค้ามองแล้วว่ามันคุ้มกับการซื้อเข้ามา มีคนดูมีโฆษณาเข้า แล้วทำไมจะไม่เอา เราก็เป็นคนนึงนะคะ ที่อยากให้ช่องสามเอาหนังจีนมาฉายมากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจว่า เฮ้ย ถ้ามันทำกำไรให้ช่องได้มากกว่าจริงๆ เค้าทำไปแล้วล่ะ อย่างซีรี่ส์ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน อยากให้สถานีที่เมืองไทยเอาเข้ามาฉายเยอะๆ แต่ก็เข้าใจอีก ว่า"แนว"มันไม่ใช่แนวที่ตลาดเมืองไทยชอบ เอาเข้ามาก็ขาดทุน เค้าทำธุรกิจนี่คะ ไม่ใช่องค์การการกุศล น้ำไฟต้องจ่าย เงินเดือนพนักงานก็มี กระแสเกาหลี ถ้าให้เรามองว่าพลาดตรงไหนที่เกิดกระแสต้าน ก็เพราะสื่อเกาหลีเป็นพวกจัดหนัก hard sell เกินไปนี่แหละค่ะ ก็เป็นลักษณะแบบคนเกาหลีเลยล่ะ จะสไตล์แรงๆแบบนี้แต่ไม่ใช่ว่านิสัยไม่ดีนะ บางทีการที่สื่อเค้า hard sell เกินไป ข่าวมันก็ออกมาเวอร์ไป(ไม่)นิด วงส่วนใหญ่ก็เป็นไอดอลด้วย ธรรมชาติของแฟนไอดอลก็จะแรงเป็นพิเศษอยู่แล้ว มีข่าวเวอร์ๆออกมา ที่หลายๆทีก็เหมือนมีกัดแหนบแกมทับถมวงอื่นชาติอื่นไปด้วย บวกด้วยความคลั่งไคล้รุนแรงของแฟนๆเข้าไป ก็เลยเกิดกระแสตีกลับ อย่างเราเคยฉุนมากเลยนะ ที่มีข่าวอวยวงเกาหลีแล้วมาเหน็บ SMAP อะค่ะ ประมาณว่าวงนี้เริ่ดมาก ทำนู่นนี่ได้ ขนาด SMAP ยังไม่มีปัญญาทำได้เลย --" ที่เด็ดสุดคือบอกว่าเกาหลีฝึกมาหนัก หน้าตาดี สูง...ไม่เหมือนคิมุระ ทาคุยะหรอก "เตี้ย" ไอ้เราก็อึ้งไป "เตี้ย"แล้วดังนี่ผิดด้วยเว้ย (จริงๆไม่เตี้ยนะ กะจากที่เจอตัวเป็นๆก็น่าจะ 174 ได้) คือสื่อฝั่งเกาหลีบางทีมีสไตล์การเขียนแบบนี้น่ะค่ะ เลยสร้างศัตรูให้นักร้องชาติตัวเองซะงั้น แต่ก่อนเคยฉุนขาด หลังๆเริ่มชิน กลายเป็นอ่านแล้วขำไปเลยก็มี เราว่าเรื่องต่อต้านฟูจิทีวีน่ะ คนไทยเราเองฮือฮากันมากกว่าคนญี่ปุ่นซะอีก เรื่องของเรื่องมันไม่ได้มีอะไรขนาดเป็นกระแสขนาดนั้นเลยจริงๆ คือถูกล่ะ ใน 2ch และตามเนทมีบ่นเรื่องออกอากาศกระแสเกาหลีมากไป เค้าก็ออกมาโวยวาย ซึ่งพูดตรงๆก็ไม่ใช่กลุ่มคนที่ใหญ่อะไรนัก แล้วไอ้เรื่อง Hey!x3 ทำน่าเกลียดน่ะมันก็ใช่ เพราะเอาวงโนเนมมาออก (ในสายตาญี่ปุ่น) แต่ถ้าติดตามข่าวเรทติ้งของญี่ปุ่น จะรู้ว่าสถานการณ์ Hey!x3 ก่อนนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ค่าตัวพิธีกรแพง สปอนเซอร์หดหาย เรทติ้งไม่ดี รายการก็ต้องดิ้นหาทางรอด พอดีเอา K-POP มาออกแล้วเวิร์ค เพราะต้นทุนต่ำ และมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ก็คงเอาไอ้กลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่เจาะได้ไปโชว์สปอนเซอร์ก็แค่นั้นแหละ ถูกล่ะ คนดูทั่วไปเห็นแล้วหงุดหงิด เราก็เป็น วงอะไรเนี่ย พูดก็ไม่รู้เรื่อง แต่มันเป็นทางที่ทำแล้วรายการเค้าไปต่อได้ แถมฟื้นตัวได้ซะอีก แล้วทำไมจะไม่ทำ แต่ข่าวและปฏิกิริยาคนบ้านเรานี่สิ อินซะยิ่งกว่าที่ญี่ปุ่นซะอีก ยกย่องโซสึเกะเป็นฮีโร่ เป็นผู้นำกระแสต้าน ฯลฯ ซึ่งภาพมันผิดความเป็นจริงไปมาก เค้าก็แค่ tweet บ่นไปตามเรื่อง ซึ่งดันพลาดที่ไปพาดพิงสถานีทีวี เลยต้องออกจากสังกัด เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่ของวงการที่นู่น แต่ชาวเนทไทยอินไปด้วยเป็นจริงเป็นจัง เอากระแสในไทยไปผสมกับกรณีฟูจิทีวี กระแสต้านในบ้านเราเอง ที่หนักๆคือเราว่าคนเอียนน่ะค่ะ อันนี้นอกจากความ hard sell ของสื่อต้นทางฝั่งเกาหลีแล้ว เราว่าอาการ"เล่นง่าย"ของสื่อบ้านเราเองก็มีส่วนไม่น้อย สังเกตมาหลายกรณีแล้ว บ้านเราเวลาฮิตอะไรกัน สื่อก็แห่ไปทางนั้นหมด และก็จะเน้นแต่ไอ้ที่"ฮิตๆ"กันตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ เกิดการ over kill เช่นตอนบ้าชาเขียว ก็มีชาเขียวผสมกับสินค้าทุกประเภท แม้แต่ผ้าอนามัย พอมีกระแสไอดอลเกาหลีเข้ามา เน้นความสวยหล่อแบบ perfect ก็เลยแห่กันมาออกโฆษณา ทำอย่างงู้นอย่างงี้แล้วจะมีลุคแบบเกาหลี เจออย่างงี้มากๆเข้า จะให้คนไม่เอียนยังไงไหวล่ะคะ ยิ่งขี้เบื่อกันง่ายๆด้วย เราสนใจวงเกาหลีบางวงนะคะ แต่รวมๆแล้วไม่ถูกจริต คือเราฟังภาษาเค้าแล้วมันไม่คลิ๊กน่ะค่ะ มันไม่เข้าหูเรา แต่พอบางวงไปออกเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วเราก็ชอบนะ ถึงจะรู้สึกว่า เออ เล่นง่ายไปหน่อยมั้ย     ที่ีรำคาญก็คือสื่อเกาหลีที่อวยเวอร์และบางทีก็ให้ข้อมูลผิดๆ แล้วบางทีก็เลยพาลไปรำคาญถึงแฟนคลับ hardcore บางราย ที่เชื่อข้อมูลมั่วๆพวกนั้น แล้วมายืนยันเอาเป็นเอาตายในหน้ากระทู้ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 03:26:00 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 03:23:50

ความคิดเห็นที่ 17 รู้จักเกาหลีมา จะ เจ็ดปีได้แล้ว อยากบอกว่า พวกของซีดีอะไรแบบนี้ก็ไม่ได้ถูกนะคะ เคยซื้อซีดีเกาหลี แล้วไปซื้อซีดีไทย ยังรู้สึกเลย ว่า :-)ถูกกว่าเยอะมาก หว่านเงินซื้อ อันนนี้ไม่รู้หมายถึงอะไร แต่ว่า  ทุกคนที่ชอบ รวมทั้งไปตามทุกคนเสียตังค่ะ 7 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้ยินว่า ใครตามแล้วได้เงินเลย จขกท  เอามาจากไหนก็ไม่รู้นะ แต่จากประสบการณ์เราเป็นแบบนี้ จากคุณ : joinen เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 09:16:08

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท  ดีใจจังที่กระทู้นี้ มีการอภิปรายให้ความเห็นที่หลากหลายมากเลย คคห 17 คะ คำว่าหว่านเงินซื้อ หมายถึง การที่ทางเกาหลีใช้เงินซื้อสื่อของประเทศอื่นๆ เพื่อผลักดัน ให้กระแสเกาหลีดังน่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าไปจ้างแฟนคลับให้มาชอบ จริงๆแล้ว จขกท ก็คิดอยู่ว่า คำว่า ทฤษฎีสมคบคิด มันเหมาะสมกับกรณีนี้หรือเปล่า เหมือนที่คคห ข้างบนๆ หลายคนติงว่า มันอาจคือการสมประโยชน์  หรือแค่สมรู้ร่วมคิดกันหรือเปล่า หรืออย่างที่ว่า ในแง่ของธุรกิจ กลยุทธ์การขายสามารถทำได้ หรือ อย่างที่ว่า เป็นเรื่องของดีมานด์ซัพพลาย จขกท คิดว่า มันมีข้อที่จะต้องคิดอยู่สองประเด็น ประเด็นแรก  มันย้อนกลับไปที่จุดตรงที่ว่า ถ้า........ เน้น  ถ้า.... ถ้าทางนี่เป็นนโยบายลับๆของทางรัฐ ในการสนับสนุนให้เกิดลักษณะของการซื้อสื่อ ไม่ใช่แค่การที่ค่ายเพลง ค่ายหนัง หรือค่ายบันเทิงทางโน้น คิดทำกันเอง ประเด็นที่สอง  การซื้อสื่อในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าถูกต้องหรือไม่ ในเมืองไทยเอง  เมื่อก่อนกลยุทธ เพลงละพันวันละเพลง ก็เป็นเรื่องที่เคยพูดกันเยอะไป นั่นคือการใช้เงินซื้อโอกาสในการเผยแพร่ผลงาน พฤติกรรมการซื้อสื่อ ถ้ายอมรับได้ ทำไมไม่เห็นมีคนยอมรับว่าโดนซื้อ จขกทว่า ในฐานะผู้บริโภค เรา อยากให้สื่อเป็นสินค้าที่แข่งขันกันเสรี เราไม่อยากให้มีการผูกขาด ถ้าประเด็นแรก คือ ระดับรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง  และ ประเด็นสอง การซื้อสื่อถือว่าไม่ถูกต้อง ทั้งสองประเด็นนี้เป็นจริง  จขกท ก้ว่า น่าจะเรียกว่า กระแสเกาหลีในบ้านเรา ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และเข้าข่ายทฤษฎีสมคบคิดนะคะ จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:11:36

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าให้ดีลองตรอจสอบข้อมูลการถือหุ้น กรรมการบริหาร ในบริษัท ที่ประกอบธุรกิจบันเทิงทั้งของเกาหลีทั้งของไทยดูซิ แล้วจะรู้ของจริง เราว่าจุดเริ่มต้นเกาหลีฟีเวอร์ในประเทศไทย น่ามาจากข่าวนี้นะ ประมาณปี 2550 หลังจากนั้นเป็นต้นมาประเทศไทยก็เกาหลีเต็มเมือง หมายเหตุ เอามาจากมาจาก สยามโซน และสยามโซนก็เอามาจาก เวปวิกิพีเดียอีกที "เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ ประเทศญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2001 ซึ่งทางบริษัทยังได้วางแผนจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเพื่อขยายการตลาดเป็นแห่งที่ 3 นอกจากนี้ ยังมีแผนจะตั้งศูนย์กลางเอเชียที่ฮ่องกง เพื่อทำธุรกิจในตลาดจีนอีกด้วย ปี ค.ศ. 2007 กลุ่ม จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประเทศไทย ได้มีแผนจะเข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำนวน 30% ซึ่งทำให้จะมีผลทำไห้จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากนายอีซูมาน นี้คือหลักฐาน และเห็นเค้าบอกว่าถ้าGMM จะเอาเพลงของSM ไปโคฟก็ได้ และ SM สามารถใช้ทำนองเพลง ของ GMM ก็ได้" ใครสนใจลองค้นคว้าต่อดู จะเห็นเส้นทางเกาหลีฟีเวอร์ในไทยได้ชัดเจนขึ้น จากคุณ : sarirat เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:21:25

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาอ่านด้วยคนค่ะ ^^ คหสต คิดว่านายทุนไทยชอบหาเงินง่ายๆ ค่ะ นำเข้าแล้วถูกกว่า อยู่ในกระแส และได้กำไรเยอะกว่าผลิตเอง พอนำเข้าแล้วอยากได้ยอดเยอะๆ ก็ต้องกระหน่ำโปรโมต สมคบคิดหรือไม่... ไม่แน่ใจ แต่รู้ว่าเป็นไปตามกลไกตลาดค่ะ จากคุณ : noneasy2go เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:22:14

ความคิดเห็นที่ 21 http://www.happytokorea.com/index.php?option=com_content&view=article&id=1059:-jk-pop-&catid=40:korea-news และข่าวนี้เอามาเวป แฮปปี้โกเรีย เป็นข่าวคราวล่าสุดของกลุ่มทุน จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ของไทย เมื่อปี นี้เอง จากคุณ : sarirat เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:32:14

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องทฤษฎีสมคบคิด, การตลาด หรืออะไรต่างๆ ทางธุรกิจพวกนี้เราไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก แต่จากการที่เคยตามกระแสญี่ปุ่นพักหนึ่ง (ประมาณ 10 ปีที่แล้ว- -" ยุคที่สมัยรายการ J-zone ยังมีเฉพาะ Japan จริงๆ) ตอนนั้นรู้สึกว่านักร้องญี่ปุ่นมาไทยเป็นเรื่องที่ยากมากมาย เหมือนเค้าไม่ค่อยสนใจขยายตลาดมายังประเทศอื่น(?) หรือผู้บริโภคบ้านเรายังไม่มากพอ ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ- -".. (รอ w-inds มาไทยจะสิบปีแล้ว...) ซีดีแต่ละแผ่นหายากมาก จำได้แค่ว่ามี Tackey&Tsubasa, Utada Hikaru, Lucifer ที่มีลิขสิทธิ์ในไทยวางขายในแมงป่อง เมื่อกระแส F4 มา (ไม่ได้ตามแต่มันโผล่มาในรายการและหนังสือ J ต่างๆ) จำได้ว่าค่าตัวของทั้งสี่แพงมาก แพงเว่อร์เลยค่ะ (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่จำได้ว่าแพงสุดๆ) สังเกตได้ว่าทั้งสองกระแสนั้นมาแรง แต่ปริมาณ supply ถือว่าไม่ได้สูงมากมายอะไร (สินค้าส่วนใหญ่จากสองฝั่งส่วนใหญ่มาจากแฟนๆ ผลิตเองขายเอง 55) มาแต่กระแส แต่ supply ไม่ได้ตามมา จนกระทั่งกระแสเกาหลีมา ทำไมรู้สึกว่า.. กระแสมา นักร้องมา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของนักร้องมา ละครมา หนังมา วาไรตี้โชว์มา แฟชั่นมา ของกินมา เครื่องสำอางมา ทริปท่องเที่ยวมา ฯลฯ สารพัดสิ่ง มองไปทางไหนก็เกาหลี อาจมองได้ว่า รัฐบาลเกาหลีเน้นการขายสื่อบันเทิง แล้วอะไรอื่นๆ ก็จะตามมา (ส่งเสริมธุรกิจระหว่างประเทศและกระจายวัฒนธรรมโดยใช้วงการบันเทิงเป็นสื่อ?) ส่วนสื่อบ้านเราก็สนองรับ ตาม demand ที่สูงอยู่แล้ว มันก็เลยสนองกันพอดิบพอดี พูดไปก็งงเอง- -".. ขอโทษด้วยนะคะถ้าอ่านแล้วงง แต่ว่า ถ้ามีของขาย แต่ไม่มีคนซื้อ มันก็ขายไม่ได้(เนอะ) แล้วก็ ศิลปินเกาหลีอาจมีโฆษณาเยอะจริง แต่รายได้ก็แตกต่างกับศิลปินชาติอื่นอยู่นะ (ไม่ทราบเหมือนกันว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ขนาดศิลปินบางคนซื้อบ้าน ซื้อรถ ยังต้องผ่อน ทั้งๆที่ทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตาเป็นหมีแพนด้า หรือไม่ก็มีกรณีฟ้องร้อง มีการปกปิดบัญชี+ปลอมแปลงรายได้ศิลปิน) ก็อยากทราบเหมือนกันว่า เวลาศิลปินมาไทย(เพื่อถ่ายโฆษณา 1 ครั้ง) จะได้เงินกลับไปเท่าไหร่ แล้วบริษัทได้เท่าไหร่ ศิลปินได้เท่าไหร่กันแน่ สุดท้าย .. ถึงตัวจะฟังเพลงเกาหลี แต่ก็ไม่เคยซื้อสินค้าจากการที่ศิลปินเป็นพรีเซนเตอร์นะคะ ถึงจะฟังเพลงเกาหลี แต่อะไรหลายๆอย่างมันก็ดูเยอะไป จนบางทีก็รู้สึกว่าอืม มันเยอะไปนะ .. จนมันก็น่าคิดเหมือนกันนะคะว่าเบื้องหลังมันมีอะไรหรือป่าว หรือว่ามันไม่มีอะไรเลย แค่ supply มันตอบสนองต่อ demand.. - -".. อะไรๆ ที่มันเยอะไปก็ไม่ดีนะ >> ถ้า supply มากกว่า demand.. มันก็เกิดอาการ"เฟ้อ"ได้น้า kwave.. จากคุณ : MEAO_AE เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 10:50:47

ความคิดเห็นที่ 23 จากข้อมูลของ คุณsarirat จขกท ว่า การร่วมทุนลักษณะนี้ เป็นแนวทาธุกิจที่น่าสนใจลงทุนนะคะ แต่จขกทคิดว่า ลำพังแกรมมี่ ไม่น่าใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระแสบูมเกาหลีระดับประเทศ เพราะก็แปลกอีกแหละ ก่อนเกาหลี  แกรมมี่เอง ร่วมทุนกับญี่ปุ่นและไต้หวันมากมายและเนิ่นนาน แต่ไม่ได้มีกระแสญี่ปุ่นไต้หวัน อย่างที่เกิดกระแสเกาหลีเลย คุณ MEAO_AE  นั่นสิคะ เราลองคิดตามที่คุณว่า ทำไมกระแสมันมาเป็นจัดทัพ   ยุคเอฟโฟร์ดังระเบิดระเบ้อ ไม่มีอะไรตามมาแบบนี้ แต่พอเกาหลีมา มาเต็ม ทุกทาง ทุกสินค้า จัดเต็มมาหมด เพิ่มเติม จขกท เอง ตอนแดจังกึมก็ติดมากเลยค่ะ สนุกมาก แต่ละครและเพลง รวมถึงหนัง ไม่ถูกจริต ก็เลยไม่ได้ติดตาม ละครประวัติศาสตร์เ้ค้า ก็ไม่มีความรู้สึกร่วม รู้สึกว่าไกลตัวมาก เพลงฟังก็เพราะดีบางเพลง แต่จขกท รู้สึกว่ามันเหมือนๆกันหมด ไม่ได้ชอบ  แต่ก็ไม่ได้เกลียด เฉยๆค่ะ ที่เกลียดคือ ก็อปปี้ไรท์เตอร์คนไทย ที่ยัดเยียดให้เราขาวเหมือนสาวเกาหลี อ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 11:08:49 จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 11:05:09

ความคิดเห็นที่ 24 ขอตอบประเด็นหนังจีนและหนังเกาหลีนะคะ หนังจีนจริง ๆ ช่องสามซื้อมาได้ราคาไม่แพงนะคะ เพราะเค้ามีหุ้นกับทางทีวีบีอยู่ (แต่ตอนนี้ทีวีบียังคบกับเค้าอยู่มั้ย อันนี้เราไม่ชัวร์ แต่คงมั้ง เห็นคุณประวิทย์ยังไปฮ่องกงอยู่หมาด ๆ เลยนิ ) ที่เราสงสัยมากกว่า คือไอ้หนังเกาหลีกู้ชาติทั้งหลาย มันดันมาจากทางจีน ไม่ใช่เกาหลี แปลกมั้ย (มันมีซับจีนขึ้นทุกเรื่องอ้ะ แถมบางเรื่อง ยังใช้เพลงประกอบของจีนไม่ใช่ของเกาหลีเลย) อันนี้เรางงมาก ๆ ค่ะ เราเลยคิดว่า หนังเกาหลีกู้ชาติที่ฉายช่องสาม มันน่าจะถูกลงมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นการซื้อต่อที่สองหรือปล่าว? ส่วนหนังจีนที่ไปฉายตอนตีสามดึก ๆ ถ้าจะมองมีสองประเด็นค่ะ หนึ่งคือหนังจีนเก่าที่ซื้อมาชาติเศษเอาไประบบสต๊อกก่อนหมดอายุ (ส่วนใหญ่เก่าชนิดฟิลม์สีซีดกันเลยทีเดียว --") สอง คือหนังจีนใหม่ ที่ซื้อมาได้ในราคา "คนกันเอง" เพราะว่าเป็นญาติมิตรกัน (แต่ที่ฉาย ๆ นี่ ได้บอกทางทีวีบีบ้างหรือปล่าวไม่รู้นะคะ ว่าฉายตอนไหน --") ส่วนหลัง ๆ ที่แฟนหนังจีนคนไทยร่ำร้องอยากจะดูกันนั้น ไม่มีมาฉายแล้วล่ะ ออกแนวไม่ซื้อ เพราะหลัง ๆ หนังมักจะไม่ค่อยมาจากทางทีวีบี มักจะมาจากฝั่งแผ่นดินใหญ่มากกว่า (พวกอลังการดาวล้านดวงทั้งหลายอ่ะนะ แบบทุ่มเททุ่มทุน อันนี้คาดว่าเส้นสายไม่มี ไม่ได้ราคาคนกันเอง เอาไปฉายตีสามขาดทุน กรูไม่ซื้อดีกว่า - คหสต เช่นกันค่ะ) แต่จริง ๆ มันก็ไม่น่าจะแพงมากอะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันแพงที่ กำไรที่ได้ส่วนต่างในการฉายและขายดีวีดีภายหลังมันน้อยกว่าเกาหลีแค่นั้นล่ะ (อย่างช่องเก้าเอาซูสีไทเฮามาฉายนั่นเราก็ว่าควรจะแพงในระดับนึงนะ ทุนมันสูง ก็ยังกล้าเอามา ปัญหามันคือ มายาคติว่าเอามาแล้วขายไม่ได้ น่าจะมากกว่าแพงจนไม่อยากซื้อมา) ส่วนหนังญี่ปุ่น ข้ามไป เพราะมันน่าจะแพงจริงจัง พูดถึงเรื่องหนังเรื่องรายการ มีอีกอย่างที่เราสงสัย คือแต่ก่อน ก่อนรายการสเป๊าซ์ฟองน้ำอะไรนั่น ช่องเก้าเคยฉายรายการของเยอรมัน ฉลาดสุด ๆ อะไรนั่น สุดท้ายก็ไม่ได้มาฉายต่อ เปลี่ยนเป็นสเป๊าซ์แทน และมีคนให้เหตผลว่า รายการเยอรมันมันแพง เกาหลีเลยเสียบซะ .. เราสงสัยจริง ๆ เพราะรายการสาระของเยอรมันยังออกช่องไทยทีบีเอสเยอะมาก ทำไมช่องเก้าที่ทุนหนากว่าถึงซื้อไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่โดยส่วนตัวแล้วเราว่ามันเน้นวิทยาศาสตร์มากกว่าสเป๊าซ์ที่ออกแนววาไรตี้มากกว่านะ (คหสต) มาถึงเรื่องดนตรีบ้าง (จะได้เข้ากับห้องเฉลิมกรุง) เรามองว่าเป็นการสบคมทางผลประโยชน์ค่ะ จำได้ว่าช่วงก่อนเกาหลีจะเข้ามา พี่้แกรมเค้าเริ่มบุกตลาดทางญี่ปุ่น โดยการแจมกับจอห์นนี่ เป็นไทยจูเนียร์ เอากอลฟ์ไมค์ไปเปิดตัวกับยามะพี ทำเอาคนไทยตื่นเต้นกันไป ทางอาร์เอสเลยเริ่มตลาดใหม่เปิดทางเกาหลีบ้าง (เซเว่นอัลบั้มแรกออกฝั่งอาร์เอสนะ) แล้วก็เลยเริ่มมีตลาดทางเลือก มีเบบี้วอกซ์ มีอะไรตาม ๆ เข้ามา) (จริง ๆ มันก็หลังช่วงเอฟโฟว์ด้วย ช่วงนั้นวงการเพลงเอเชียคึกคักมาก อาราชิก็ยังมาเจทสตรอมเมืองไทย // แต่สุดท้ายก็ไม่มา เศร้าแดรก -"-) เราว่ากระแสมันมาแรงจริง ๆ เอาช่วงเรน ช่วงนั้นแบบประโคมกันสุด ๆ เรายังชอบเลยนะ ฟุลเฮ้าส์น่ะ เรนด้วย (แต่พอดูไลฟ์แล้วถอยหนี หนูกลัว --") คือจะว่ายังไงดี กระแสเกาหลีมันไม่เหมือนญี่ปุน หรือจีนที่ซึบซับมาทีละนิด ๆ (ตามความเร็วอินเตอร์เนต 56k ยุคนั้น --") กระแสเกาหลีมาพร้อมกับโลกาภิวัฒน์จัดหนัก ทุนย้ายไปย้ายมาข้ามไปข้ามมาได้ (เช่นการร่วมทุนของแกรมมี่กับเอสเอ็ม หรืออะไรก็ตาม นายทุนย่อมเลือกสิ่งที่เอื้อประโยชน์และสะดวกสบายแก่ตัวเองได้มากกว่าเสมอ) เหมือนกับที่มีคนบางจำพวกเกลียดกระแสโลกาภิวัฒน์แน่นอนว่ากระแสที่เข้ามากับโลกาภิวัฒน์แบบเกาหลีจะถูกสะเทือนบ้างก็ไม่แปลก และแน่นอนว่ากระแสโลกาภิวัฒน์กับการขายแบบ "จัดหนัก" ของเกาหลีรวมกัน มันเลยเด้งไปสู่กระแสแอนตี้ในบางกลุ่มในที่สุดค่ะ มีคนพูดกันว่า ทำการตลาดกับเกาหลีมันง่ายกว่าทำกับญี่ปุ่นและจีน เพราะทางจีนและญี่ปุ่นมักจะมีเงื่อนไข จะมีนั่นนี่เสมอ (เช่นจ้างมาเปิดตัว หรืออื่น ๆ ) แต่ดาราเกาหลีจะง่ายกว่า เพราะพร้อมจะฮาร์ดเซลล์อยู่แล้ว นั่นคือความหมายของคำว่าถูกกว่าหรือปล่าว? เราไม่รู้นะ แต่ดาราจีน ถ้าจะจ้างให้รวมตัวกันทีละ ๑๐ - ๒๐ ชีวิตในคอนฯ ตปท นี่ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ ทั้งในเชิงค่าตัวและการตอบรับ (ขนาดคอนเสิร์ตปีใหม่ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับไต้หวันที่เอาไว้ใช้วัดกันว่าใครดังที่สุดในรอบปีนี่ล่ะ // คือไต้หวันจะมีเวทีปีใหม่ใหญ่ ๆ สามเวทีรอบเกาะ ถ้าดังจริง มันจะวิ่งรถตู้วนกันขึ้นเวทีรอบเกาะกันทั้งคืนเลย ถ้าดังไม่จริงก็ขึ้นเวทีเล็ก ๆ เมืองเล็กๆ ไม่ได้ขึ้นเมืองใหญ่ที่ถ่ายทอดไปทั่วเอเชีย// จะเอาวงร๊อคดัง ๆ วงนึงของจีนไปเล่นแบบไม่ให้เปลี่ยนเวทีไปเล่นเวทีไหนหลังจากนั้น ยังจ้างกันตั้งสิบกว่าล้านเพื่อการเล่นแค่ครึ่งชม. จะเหลือเงินไปจ้างวงไหนมากกว่านี้อีกมั้ยล่ะ -- คอนฟรีด้วยนะ ไม่ได้เก็บตังค์เข้าชม) แชร์ความรู้ค่ะ ถกเถียงกันต่อได้เลย จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 11:11:37

ความคิดเห็นที่ 25 กลัวจะพิมพ์ช้าแล้วมีคนมาปาด เลยมาขอตอบอีกคห ตรงนี้ดีกว่านะคะ คุณ  มายาทาส แกรมมี่เคยร่วมตลาดกับญี่ปุ่นค่ะ ทางจอห์นนี่ ส่วนไต้หวันนั้น เพิ่งมาร่วมตอนหลังค่ะ (เอฟโฟว์กับเจยโจว นี่มาสายโซนี่ไทยค่ะ เฟยหลุนไห่ตามมาทีหลังค่ะ ก่อนหน้านี้ออกกับเรทบีทไทย) สายเกาหลีอันแรกที่แกรมมี่เอามาคือเบบี้ว้อกซ์ค่ะ) ส่วนอาร์เอสนอกจากจะร่วมตลาดกับทางเกาหลีเอาเซเว่นมาแล้ว ก่อนหน้านั้นถ้าจำไม่ผิด เป็นตัวแทนขายเกลย์ในไทยด้วยระยะหนึ่ง (ช่วงนั้นอาร์เอสจัดวงร๊อคออกมาเยอะมาก) ถ้าจำไม่ผิด พี่โดมได้ไปเป็นเกสต์ในงานเกลย์เอกซซิบิชั่นด้วยค่ะ เรื่องสินค้าและอย่างอื่น เราคิดว่ามันมาตามกระแสโลกาภิวัตน์น่ะค่ะ บวกกับเทรนที่เกาหลีพยายามสร้าง มันเลยจัดเต็ม พอกระแสมันหลอนได้ที จนคนท่องจำไปว่าเกาหลีดีที่สุด เจ๋งที่สุดแล้ว ผลที่ได้ก็คือก๊อปปี้ไรเตอร์คนไทยคนนั้นล่ะค่ะ ^^" แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 11:24:58 จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 11:21:17

ความคิดเห็นที่ 26 คห.19 GMM ไม่ได้ลิขสิทธิ์ของศิลปิน SM แล้วค่ะ True ได้ไปแทน จากคุณ : ranchitaak เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 12:00:59

ความคิดเห็นที่ 27 อ๊ะ  คุณแมว อย่า่งนั้นแปลว่าเรื่องหนังเกาหลีถูกทำให้คนซื้อเยอะ ก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่ทำให้นักลงทุนกว้านซื้อคอนเท้นท์พวกนี้สิคะ จริงๆแนวทางของเกาหลีในบ้านเรานี่จับกลุ่มแตกต่างกันอยู่นะ นึกไปนึุกมาก็ เพลงนี่ วัยรุ่นอย่างเดียว   เพลงที่ขายมีแต่เพลงทีม บอยแบนด์ เกิรลกรุ๊ป  เต้น ศิลปินเดี่ยว หรือแนวดนตรีอื่นๆไม่ค่อยเห็นเลย หนัง ละคร มีจับกลุ่มวัยรุ่น  กับแนวประวัติศาสตร์สร้างชาติพวกผู้ใหญ่ดู ตอนแรกๆยังมีหนังแนวกำลังภายในแบบจีน หลังๆไม่ค่อยมีเลย การท่องเที่ยวนี่ ตามมากับหนังชัดเจน ที่สุด หนังทำให้เป็นตัวสร้างการท่องเที่ยวเลย พวกเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ เน้นผู้หญิง อันที่เราว่า ไม่เข้าร่วมกับกระแสเลย คือพวก เครื่องใช้ไฟฟ้า กับรถ ซัมซุง แอลจี ฮันเด้ แดวู ดูเหมือนไม่ไปตามกระแส  แต่ไปเรื่อยๆพัฒนาตามแนวทางตัวเอง คุณแมวจรจัด ว่าเรื่องช่อง กับรายการฉลาดสุดๆ ก็น่าคิดตามนะ ทำไมช่องนึงทำได้ อีกช่องทำไม่ได้ ...... ปล   จขกท ขออนุญาตลากระทู้ไปข้างนอกก่อนนะคะ ค่ำๆถึงจะได้เข้าบอร์ดอีกทีค่ะ . แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 12:05:22 จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 12:03:45

ความคิดเห็นที่ 28 มิได้มีเจตนาอย่างอื่น   เพียงอยากบอกว่าจุดเริ่มต้นของเกาหลีฟีเวอร์ในไทยเท่านั้น ส่วนการต่อยอดกระแสหลังจากนั้น น่าจะมาจากขบวนการบริหารการขาย สินค้าอย่างเป็นระบบของเกาหลีเอง  คือ - การได้รับกำลังสนับสนุนทุกรูปแบบจากรัฐบาลเกาหลี - เกาหลีเค้าจัดมาเต็มๆ  เช่น การสร้างภาพให้เห็นว่ากว่าจะเป็นศิลปิน   ของเค้านี้ยากมากมากๆๆ -  จะเข้าถึงดารานักร้องของเค้านี่ยากมากๆๆๆๆ -  ดารานักร้องของเค้าไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่มีเรื่องคาวๆ มาให้กวนใจ   การบริหารข่าวบันเทิงของบริษัทบันเทิงเกาหลี เนี่ยอย่างเนี้ยบๆ -  การสร้างฐานแฟนคลับ เพื่อเป็นฐานกำลังซื้อ เป็นกำลังซื้อที่เข้มแข็ง    ถึงอย่างไรก็ซื้อหมด ซื้อกระทั่งสินค้าที่ดารานักร้องที่ตัวเองชอบไป    โฆษณา และท้ายที่สุด -  การรับกระแสนอกอย่างง่ายๆ ง่อยๆ ของคนไทย แบบ 2 มาตรฐานสุดๆ   กันไปเลย   คือถ้าของต่างชาติ   จะอย่างไรก็รับได้ ให้อภัยได้เสมอ ถ้าดีถูกใจก็อวยกันสุดๆ ถ้าไม่ชอบ   ไม่ถูกใจ ก็จะเงียบๆ เรียบๆ เนียนๆ เฉยๆ ไว้เลย   แต่ถ้าเป็นดารานักร้องไทย อย่าเชียวนะ อย่าให้พลาด เพราะหากพลาด   อย่าหวังว่าจะได้เกิด ตาย มีแต่ตายลูกเดียวเท่านั้น     ที่พูดอย่างนี้ เพราะล่าสุดเราเห็น MV เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงนึงท่าเต้นของเธอ ช่างเป็น ท่าเต้นประจำตัวของพี่ชูศรี เชิญยิ้ม ของเรามากๆ แต่เราก็ไม่เห็นว่า จะมีใครพูดถึง แต่เห็นมีอวยนะ แต่ถ้าเป็นนักร้องหญิงไทยเราเต้นท่ายังงี้ มีหวัง...โดนวิจารณ์เละ ปล1 แฟนคลับอย่ามาถล่มเราน้า เราเห็นอย่างนี้ จริ๊งจริ๊ง ปล2 ยืนยันว่าเราไม่ใช่แอนตี้นะ และจะไม่ยอมเป็นแอนตี้เด็ดขาด   ปล3 ความดีของเกาหลีสำหรับเราคือ ทำให้เรารู้ว่าดารานักร้องไทยก็มีดี       ทำให้เรารักความเป็นไทยมากขึ้นๆๆๆๆ ทุกวัน และ....       รัฐบาลไทยทุกรัฐบาล การตลาดการบันเทิงของไทย หากจะเดินทาง       เข้าสู่ตลาดโลกแบบเกาหลี จะต้องสร้างคนให้เป็นสินค้าให้ได้       เพราะงั้น ยังต้องปรับปรุงอีกมากๆ จากคุณ : sarirat เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 12:38:26

ความคิดเห็นที่ 29 ไปหาหนังสือ เกี่ยวกับการค้าเสรีและทุนนิยมอ่านกันสิ ทุกอย่างมีทั้งข้อดีข้อเสีย จากคุณ : lamuss เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 13:18:32

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้ SM + TRUE จับมือกันเรียบร้อย กลายเป็น SMTrue ได้ยินมาว่า Trueถือหุ้นอยู่ 51% ส่วน SM 49% มันจริงเท็จแค่ไหนเหรอคะ จากคุณ : ผู้หญิงของโซวอน เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 14:27:23

ความคิดเห็นที่ 31 จากกระแสเกาหลี ที่อยู่ๆ ก็แรงพรวดพราดขึ้นมา ไม่ใช่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างน้ำซึมบ่อทราย *เค้าก็คงเหมือนยุคญี่ปุ่นรุ่งเรือง อยู่ได้ประมาณ 5 ปีเหมือนกัน ตอนนี้กระแสเกาหลีก็น่าจะประมาณนี้แล้วละ  ส่วนตัวเค้าก็คงยึดนโยบายคลื่นเคป็อป ทำตัวให้เหมือนคลื่น เวลาลมแรงก็โหมกระหน่ำเ้ข้าฝั่งลูกแล้วลูกเล่า  แต่พอลมหายไปก็นิ่งสงบเป็นคลื่นเบาๆแต่มีตลอด และจู่ๆ กระแสเกาหลีก็ตกวูบ เคยเห็นข่าวแวบๆว่า คนเกาหลีก็บ่นว่า ทำไมใครๆก็เกลียดเรา *อันนี้มันอยู่ที่สื่อบ้านเค้าจะเล่นข่าว และสื่อบ้านเราก็พร้อมจะเสี่ยมด้วยเช่นกัน ^^ และจากข่าวฟูจิทีวี ที่มีการประท้วงในญี่ปุ่น พร้อมที่มีคำกล่าวอ้างว่า ในไทยเอง เกาหลีสมคบคิดก้ับนักลงทุนในไทย ทั้งขายถูกทั้งหว่านเงินซื้อ เพื่อสร้างกระแสเกาหลี *ทั้งสองประเทศล้วนเป็นพวกชาตินิยมเหมือนกัน คงไม่พ้นกับกระแสแอนตี้ เราเลยอยากรู้ว่า ตอนนี้ความจริงเป็นยังไงบ้าง มีความคืบหน้าไหม จริงดังที่เราผ่านตาหรือเปล่า *ถึงจะมีกระแสต่างๆมากมาย แต่สุดท้าย เหล่าไอดอลพวกนั้นก็ยังทำหน้าที่ออกสื่อญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิมคะ ^^ ตัวเราเองก็รู้สึกตะหงิดๆ ค่อนไปทางเชื่อนะ เพราะเกาหลีดูจะถนัดเรื่องไม่ตรงไปตรงมา  มีนอกใน และมีข่าวอื้่อฉาวเรื่องความรุนแรงฉ้อฉลในวงการบันเืทิงสูงมาก *ส่วนตัวคิดว่าวงการบันเทิง หรือวงการไหนๆ อำนาจ เงิน คือสิ่งที่ต้องมีอยู่แล้วคนที่ี่ฉลาดและเก่งเท่านั้นที่สามารถเอาตัวรอดได้ในวงการพวกนี้ แต่ก็นั้นแหระคะ หากไม่มีศีลธรรมหรือทำตัวไม่ดีจริงๆ ดาวที่ส่องแสงมันก็มืดลงไปเองโดยที่คนบริโภคบันเทิงอย่างเราๆ ก็คงไม่ได้โดนผลกระทบอะไรแน่นอน  คิคิ ส่วนล่าสุด  sment  ได้ขายหุ้นให้ true และร่วมกันตั้งบริษัทใหม่ SM-TRUE เราว่าคนที่ใช้ทรูคนจะได้เห็นอะไรที่เกาหลีเพิ่มมากขึ้น ฮ่าๆ ส่วนตัวที่บ้านไม่มีทรู ดูฟรีทีวี จะอัพเดทวงการเกาหลีก็แค่ตามเว็บบรอดต่างๆก็เลยไม่ได้คิดว่า เกาหลีจะเข้ามาในชีวิตเยอะแยะมหาศาลอะไรตามที่พวกแอนตี้บอกนะคะ จากคุณ : Doku Tofu เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 14:32:40

ความคิดเห็นที่ 32 quote: การรับกระแสนอกอย่างง่ายๆ ง่อยๆ ของคนไทย แบบ 2 มาตรฐานสุดๆ  กันไปเลย  คือถ้าของต่างชาติ  จะอย่างไรก็รับได้ ให้อภัยได้เสมอ ถ้าดีถูกใจก็อวยกันสุดๆ ถ้าไม่ชอบ  ไม่ถูกใจ ก็จะเงียบๆ เรียบๆ เนียนๆ เฉยๆ ไว้เลย  แต่ถ้าเป็นดารานักร้องไทย อย่าเชียวนะ อย่าให้พลาด เพราะหากพลาด  อย่าหวังว่าจะได้เกิด ตาย มีแต่ตายลูกเดียวเท่านั้น   ที่พูดอย่างนี้ เพราะล่าสุดเราเห็น MV เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงนึงท่าเต้นของเธอ ช่างเป็น ท่าเต้นประจำตัวของพี่ชูศรี เชิญยิ้ม ของเรามากๆ แต่เราก็ไม่เห็นว่า จะมีใครพูดถึง แต่เห็นมีอวยนะ แต่ถ้าเป็นนักร้องหญิงไทยเราเต้นท่ายังงี้ มีหวัง...โดนวิจารณ์เละ ----------------------------------- เออ เฉลิมกรุงนี้ เป็นแค่กระแสที่เล็กมากนะครับ   วัดอะไรแทบไม่ได้ เลย ส่วนเรื่อง เกาหลี แตะไม่ได้นี่ ผมว่า เป็นอะไรที่เข้าใจผิดอย่างแรง เมื่อก่อนนะครับ ตั้งกระทู้เพลงเกาหลีหนึ่งกระทู้ ไม่เกินชั่วโมง กระทู้ด่าเพลงนั้น ตามมาสาม สี่กระทู้หละ  ดราม่ากันไป ดราม่ากันมา จนแฟนคลับเกาหลี ต้องขอความร่วมมืออย่าไปยุ่ง    พอแฟนคลับเกาหลีเมินเฉย อยากด่า ก็ด่าไป คนด่าก็หยุดตั้งครับครับ  เป็นวิธี ที่ได้ผลจริงๆ  แต่ก็กลายเป็นดาบสองคมกลายเป็นเกาหลี ครองเมือง แตะไม่ได้  ด่าไม่ได้ พูดถึงไม่ได้เลย ก็อย่างที่เค้าว่าครับ เกาหลีแค่กระดิกนิ้วก็ผิดแล้ว จากคุณ : white love เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 14:52:07

ความคิดเห็นที่ 33 #28 ในฐานะคนตาม Kpop และคนไทย เห็นด้วยนะกับเรื่องที่บอก -1- รัฐหนุน เห็นด้วย ว่ามีการร่วมมือช่วยเหลือกันจริง -2- สร้างภาพว่าเกิดยาก เห็นด้วย แล้วเท่าที่ดูก็เกิดยากจริง ๆ โดยเฉพาะค่ายใหญ่ เรื่องเกิดค่ายเล็กอาจไม่เท่าไร -3- เข้าถึงดารายาก เห็นด้วย แต่เราดูว่าเป็นมาตรการป้องกันดารามากกว่า เพราะเกิดปล่อยแฟนคลับมารุมคงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นไง ออ.. อยากบอกว่าดาราญี่ปุ่นยากกว่าอีก ถ่ายรูปยังไม่ได้เลย -4- ดาราขาวสะอาด เห็นด้วย และก็คิดย้อนกลับมามองไทย ทำไมฉาวกันจัง ดาราไทยบางคนฉาวขนาดนั้นยังจะดันกันอยู่...เพลีย!!! -5- แฟนคลับ เห็นด้วย และนี่แหละคือกลยุทธ์ขายในปัจจุบัน ที่จะยังขายอยู่ได้ ในโลกโหลดฟรี... -6- เรื่องรับกระแสง่าย เห็นด้วย แต่ดาราไทยอย่าลืมว่าคนไทยชอบมีคำว่าดี เลิศ ชนะ ค้ำคออยู่ ดังนั้นออกมาง่อย ๆ ฉาว ๆ นี่เหรอที่ทำมาให้คนไทยด้วยกันยอมรับ +++ส่วนเรื่อง MV ตัวนั้น แม้ว่าเป็นแฟน Kpop แต่ขอยกมือว่าเป็นคนหนึ่งที่ "ไม่ได้อวย" แถมว่าอีกตั้งหาก เพราะช่วงนี้ออกจะเอือม ๆ เพลีย ๆ กับเพลง และ MV แต่ละตัว ของหลายศิลปินในค่ายนั้นที่ทำออกมาดูลดระดับคุณภาพยังไงไม่รู้+++ จากคุณ : nongatom เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 14:52:23

ความคิดเห็นที่ 34 พูดถึงเรื่อง การให้ข้อมูลผิดของสื่อ ผมก็พึ่งเุุถียงกับรุ่นน้องมาหมาด เรื่องนี้ครับ ขออ้างอินคลิป PV ของ SNSD เพลง Bad Girl ที่พึ่งออกไปเมื่อไม่กี่วันที่ แล้ว http://www.youtube.com/watch?v=LPOma0R3des&ob=av2n ซึ่งผู้อัพคลิปเป็น Chanel ของ SM. Entertainment ตงคำอธิบาย ได้จั่วหัวไว้ดังนี้ "BAD GIRL" MV is the latest music video of Girls' Generation's first Japanese original album which has been sold over 800,000 copies. Girls' Generation has performed their first Japan tour with this album. Through this concert, Girls' Generation performed 14 performances and gathered over 140,000 fans. The quality of their performance and songs were highly acclaimed in Japan. ซึ่งถ้าภาษาอังกฤษของผมไม่ได้อ่อนแอเกินไป เขาเขียนไวว่า อัลบั้ม ของ SNSD นั้นขายไปได้มากกว่า 8 แสนชุดแล้ว ผมก็งง เพราะว่า ทาง Oricon ยังขายไปไม่ถึง 5.5 แสนเลยด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังไม่เถียงเค้า ผมเลยไปค้นที่หน้าเว็ปของ RIAJ และอย่างที่ทราบๆ กันว่าปีนี้  ในญี่ปุ่น ยังไม่มีอัลบั้มไหน ที่ขายได้เกิน 8 แสนเลยซักอัลบั้ม   อย่างที่รู้กันว่า ยอดของ Oricon นั้นเป็นยอดเฉพาะร้านในสาขา ผลเลยไปค้นที่หน้าเว็ป RIAJ เกี่ยวกับ ข้อมูลยอด Shipment ของปีนี้ ล่าสุดออกถึงเดือน 7 http://www.riaj.or.jp/data/others/gold/201107.html เข้าไปก็พอข้อมูล ของเดือน ล่าสุด ออกถึงเดือน กรกฎาคม ซึ่งถ้ามันจะขายได้เกิน 8 แสน อย่างต่อ มันต้่องผ่าน Triple Platinum แต่นั้นยังไม่ถึง เข้าไปแล้ว จะเห็นว่า อัลบั้มที่ผ่าน Triple Platinum ตอนนี้จะมี แค่ อัลบั้มของอาราชิเท่าันั้น แม้แต่ค่ายต้นสังกัดยังให้ข้อมูลผิดเลยนะ - - จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 20:11:50

ความคิดเห็นที่ 35 ย้อนกลับไปอ่าน คคห 16 คุณ naj มีหลายประเด็นที่น่าคิด  และ ทำให้คิดถึง Murphy's Law ขึ้นมา บางทีถ้านี่ไม่ใช่การสมรู้ร่วมคิด   แต่มันคือความบังเอิญประจวบเหมาะหลายๆอย่าง ที่ช่วยกันทำให้เกิดอุบัติการณ์เกาหลีขึ้น  ก็อาจจะเป็นได้ ไม่ว่าจะขายของถูก วางแผนดี จับทางผุ้บริโภคได้ ้hard sell สื่อไทยมีนิสัยแห่ตามก้นกัน คนไทยรักวาไรตี้ ไทยเปิดรับทุกวัฒนธรรม มีเดียและไอทีก้าวกระโดดพอดี ถึงตอนนี้ จขกท ว่า ผู้บริโภคอย่าง จขกท ก็ยังหาข้อมูลยืนยันไม่ได้ว่า ภาพกระแสเกาหลีที่เห็น เกิดจากการร่วมสมคบคิดกันในระดับนโยบายหรือเปล่า จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 20:47:11

ความคิดเห็นที่ 36 #34นี่แหละค่ะ ข้อเสียของค่ายเพลงเกาหลี(สื่อด้วย) มันมักจะอวยเวอร์ให้คนอื่นเค้าตามเช็กตามว่าไล่หลังตลอด ส่วนขายได้แปดแสนนั่นอาจจะเป็นยอดสั่งซื้อมั้งคะ ไม่แน่ใจนะ จากคุณ : SpanishFlu เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 21:08:11

ความคิดเห็นที่ 37 #36 ยอดสั่งซื้อก็ไม่ใช่ค่ะ เพราะยอดสั่งซื้อ(preorder) ตามความหมายที่ค่ายเกาหลีใช้ จริงๆก็คือยอด shipment ที่ญี่ปุ่นและใครๆประเทศอื่นเค้าใช้กันทั่วโลก ซึ่งในที่นี้ ทางญี่ปุ่นเค้ามีองค์กรที่รายงานอยู่ก็คือ RIAJ ที่คุณ St.Yawn เค้าไปเช็คซ้ำ ถ้า SNSD มียอด Shipment ถึง 8 แสนจริง เท่ากับว่าต้องได้ certified ว่าเป็น Triple Platinum เป็นอย่างต่ำค่ะ (Triple Platinum = shipment 7.5 แสน) แต่นี่เมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมา http://www.riaj.or.jp/data/others/gold/201106.html ทาง RIAJ พึ่งให้ certified ว่าเป็น Double Platinum (5 แสนเท่านั้น) แล้วไปเอาอีกสามแสนมาจากไหนล่ะคะ จะบอกว่า ship เพิ่มหลังจากนั้นเหรอคะ ถ้า ship เพิ่มจริง และผ่าน 7.5 แสนจริง ต้องมี update ไปเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ นอกประเด็นนิด คุณ St. Yawn คะ ถ้าเลื่อนขึ้นมาดูข้างบน มีสองอัลบั้มที่ได้ million ไปแล้วนี่นา คือ Koko ni ita koto ของ AKB กับ Negai no Tou ของ EXILE แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 22:23:41 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 22:19:17

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่แอนตี้อะไรกับใครเขาเลย ทั้งดูละครฟังเพลงมันทุกชาติ แต่เพลงเกาหลีที่ไม่ใช่เพลงประกอบละครนี่ ฟังยังไงก็ไม่ถูกใจ(อาจเพราะพื้นฐานไม่ชอบเพลงฝรั่ง) ไม่เหมือนเพลงแมนดารินกับกวางตุ้ง ไก่กาอะไรมาไม่รู้ใครร้องก็ฟังได้ไปหมด เพลงญี่ปุ่นสำหรับเราก็ประมาณเพลงเกาหลี ฟังได้แต่เพลงอนิเม แถมยังสักแค่ครึ่งเดียว สมัยญี่ปุ่นบูม ยังค่อนข้างเด็ก จำได้แค่ละครที่มีโยโย่  โชเน็นไตนี่ก็แค่รุ่นพี่ในโรงเรียนกรี๊ดให้ฟัง  ช่วงประถมมัธยมนี่ฟังแต่เพลงไทย(หนักอาเอส)  และดูหนังจีนกำลังภายใน  ละครญี่ปุ่น(ส่วนใหญ่)น่ารำคาญ ผู้หญิงเสียงบีบๆแถมก้มหัวกันอยู่นั่น  แต่ละครทาคูยะที่ฉายยุคนี้โอเคนะ ช่วงอุดมศึกษา ละครจีนเริ่มหายไป ตอนนั้นไจ่ไจ๋ยังไม่มาหน้าจอ(ขนาดมาแล้วก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก)  คลื่นเพลงจีนมีคลื่นเดียว ดีเจก็เชยๆ ไม่ได้ฟิ้วฟ้าวแบบเกาหลีตอนนี้   เห็นเด็กยุคนี้ที่ชอบเพลงเกาหลีแล้วอิจฉาอยู่นะ  เปิดไปช่องไหนก็มีโชว์ให้ดูกันจุใจ  เทปซีดีก็หาง่าย   เพลงจีน(เน้นไต้หวัน)ตั้งแต่เมื่อก่อนจนเดี๋ยวนี้  ก็ไม่ได้ออกทีวีวิทยุอย่างเต็มที่เลย   มีเกาหลีมาแบ่งไปจากฝรั่งก็ชอบใจ  แต่ก็ไม่อยากให้จีนกับญี่ปุ่นจางหาย อยากให้สมดุล สำหรับสินค้าที่มีพรีเซนเตอร์เป็นดารา   เช่นเอสเจ  บีส  กึนซุก  เจอาร์   ไม่อุดหนุนเลย   รวมถึงพรีเซนเตอร์ไทยด้วยซ้ำบางที   โฆษณาทำเนื้อหาดีๆก็พอแล้ว  เอาค่าตัวพรีเซนเตอร์มาลดราคาหรือเพิ่มคุณภาพเหอะ จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 01:24:42

ความคิดเห็นที่ 39 คิดไปถึงการนำศิลปินเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆในประเทศไทยค่ะ จนไปถึง การจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ที่มุ่งขายสินค้า มากกว่าขายบัตรคอนเสิร์ตค่ะ จากคุณ : หน้าตาดีแต่ไม่ค่อยจะมีฐานะ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 16:15:29

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนนี้พวกเกาหลีมันบอกว่า มวยไทยมีต้นกำเนิดจากอียิปต์ และมันเป็นคนเริ่มต้น จากที่เอียนธรรมดาก็กลายเป็น ขยะแขยง ค่ะ จากคุณ : รันนี่นา เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 03:24:47

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาตอบคุนนาจตอนตลาดวาย จริงๆ ผมก็เห็นครับ แต่เห็นหลังจากที่โำพสต์ความเห็นไปแล้ว เพราะตาไปจดจ่ออยู่กับ Triple Platimun มากกว่า 555+ จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 01:28:46

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจทั่วไป เวลาจะทำอะไรสักอย่างเค้าก็คงคิดดีแล้วล่ะ เค้าคิดปรึกษากันทั้งบริษัท มันเป็นเรื่องเงินๆทองๆ ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับบริษัทตนเอง แต่เรื่องนี้ ถึงเค้าจะทำอะไร ยังไงผู้บริโภคก็มีสิทธิ์ตัดสินใจเลือกบริโภคกันตามใจชอบอยู่ดี เอาเถอะ รักใครชอบใครก็เลือกฟังกันตามสบายไม่เดือดร้อนใครละกัน จากคุณ : yugi1234 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 01:11:11