Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อารมณ์ดี กับ โรส ศิรินทิพย์ ^____^ ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตนำเรื่องราวดีดีของในเฟสบุคโรสมาเล่าสู่กันฟังขอรับ (",)

"Mornin! Feels like hugging2day :) dont get in my way or u'll b hugged!
อรุณสวัสดิ์วันสดใสค่า วันนี้อย่าให้โรสเจอนะ จะกอดให้แน่นเลย ^__^"


ไม่รู้จะมีใครจำได้อยู่หรือเปล่า แต่ว่ามีบางคนสงสัยกันว่าทำไมวันนั้นโรสถึงอารมณ์ดีจัง วันนี้จะมาเฉลยให้ฟังว่าทำไม :)

เมื่อ ประมาณช่วงสองสามเดือนที่แล้วก่อนเพื่อนโรสจะเสีย (กลับไปอ่านเรื่อง 'ลาก่อน' ได้ใน Note ก่อนๆหน้านี้นะคะ) ได้ดูรายการวีไอพีตอนพยาบาลใจเพชร กอดบำบัดมะเร็ง เรื่องของพี่แอ้ พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล (ลองหาดูย้อนหลังใน Youtube นะคะ) ทำให้ตอนนั้นโรสรู้สึกอยากไปร้องเพลงแล้วก็ไปกอดเพื่อนที่เป็นมะเร็งระยะสุด ท้ายก่อนที่เค้าจะเสียชีวิต พอได้ทำแล้วก็รู้สึกดีมาก วันพฤหัสนั้นมีเวลาเลยรู้สึกอยากทำอะไรที่ดีๆ แล้วก็เป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง เลยอยากจะเจอพี่แอ้เพราะตอนนั้นที่ดูในรายการจำได้คลับคล้ายคลับคลาเหมือน ว่าพี่แอ้จะชอบเดินเยี่ยมผู้ป่วยทั้งตึกแล้วก็ดูแลทุกคนเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ก็เลยลองหาข้อมูลตั้งแต่เมื่อคืนวันพุธ แล้วตื่นมาเช้านี้ก็ลองโทรไปคุยดูว่าจะเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะขอไปร้องเพลง แล้วก็ไปเยี่ยม ไปกอดผู้ป่วยที่วชิรพยาบาลกับพี่แอ้ แล้วก็เลยทิ้งเบอร์เอาไว้ที่โรงพยาบาล

สักพักพี่แอ้ก็ โทรกลับมา ถามว่าโรสชื่ออะไร ก็เลยบอกว่าชื่อโรสค่ะ เป็นนักร้อง (ซึ่งโรสก็มั่นใจว่าพี่เค้าคงไม่รู้จักหรอก เอิ๊กกก) พี่เค้าก็อืมอืมม จะมาเหรอคะ มากี่โมงถามข้อมูลเอาไว้แล้วก็บอกว่าจริงๆวันนี้พี่เค้ามีสัมมนาทั้งวันเลย ถึงห้าโมงเย็น โรสเลยแอบถามไปว่าแล้วถ้าอย่างนั้นโรสไปเยี่ยมแผนกเด็กได้ไหม เพราะว่ามีตุ๊กตาหลายตัวที่โรสคิดว่าอยากจะเอาไปให้น้องๆได้เล่นกัน พี่เค้าเลยถามว่าถ้างั้นไปโดยที่พี่เค้าไม่ไปได้หรือเปล่า โรสเลยบอกไปว่าสบายมาก :) พี่เค้าเลยบอกว่าถ้างั้นโอเคเค้าจะประสานงานให้ ถึงแล้วให้โทรหาเค้าได้เลย

ได้ความดังนั้นจึงรวบรวมเพื่อนๆ พี่ๆที่ว่าง นัดแนะกันเรียบร้อยแล้วก็ไปเจอกันที่โรงพยาบาล ไปถึงเกือบจะบ่ายสามอยู่แล้วเพราะหลงนิดหน่อย เอิ๊กๆ พี่แอ้ก็โทรประสานงานว่าให้ขึ้นไปที่ชั้นเก้าได้เลยแล้วจะมีพี่เจี๊ยบรอ ประสานงานต่อ พวกเราก็เดินกันงงๆแบกกีต้าร์และถุงตุ๊กตาหนึ่งถุงใหญ่ขึ้นลิฟท์ไป พอไปถึงปรากฏว่าพี่เค้าก็บอกเด็กๆให้ออกมานั่งกันที่ลานเล็กๆเพื่อมาฟังเพลง จากโรส! โอ! ตกใจไปไม่เป็นเลยทีนี้! คิดว่าจะเดินเข้าไปเยี่ยมตามเตียงน่ะสิ พอเด็กๆมานั่งตั้งใจฟังก็มองหน้าเหวอกันเล็กน้อย ผู้ปกครองและพยาบาลก็มาดูกันด้วย เอาไงกันดีล่ะทีนี้...

ก็ เลยเริ่มด้วยเพลงชาติก่อนละกัน น้องๆหน้าเหวองงกลัวกันมากกก เราจึงต่อกันด้วยเพลงละลายพฤติกรรมเล็กน้อยเช่นเพลงช้าง โอ้ทะเลแสนงาม (จุดนั้นทำไมนึกเพลงเด็กๆไม่ออกเลยน้า) ก็เริ่มเห็นการสนใจตบมือโยกร้องตามกันบ้าง เมื่อหมดมุขเลยบอกน้องว่าใครช่วยร้องช่วยเต้นมาหยิบตุ๊กตากลับไปเลย ก็เริ่มมีทำตามกันบ้างแต่ปลุกไม่ค่อยขึ้นเพราะน้องบางคนเหนื่อยง่าย หลายคนที่ออกมาพร้อมน้ำเกลือ หรือพร้อมอุปกรณ์อะไรที่เราก็ไม่รู้จัก ทุกคนมีเข็มน้ำเกลือคาอยู่ที่มือ ต่างกันแค่บางคนออกมากับแค่เข็มในมือ กับบางคนที่ออกมาพร้อมกับสายและถุงน้ำเกลือเลย พวกเราสงสารมากแต่ต้องทำเฮฮาร่าเริงกันไป

สักพักนึงน้องๆก็ เริ่มโยเยเพราะเด็กๆสมาธิสั้นอยู่แล้ว เราก็เลยให้หยิบตุ๊กตากันไปได้เลย น่าดีใจมากที่ตุ๊กตาพอดีกับจำนวนน้องๆเลย :) พอน้องๆทยอยกลับห้องเราเลยขอเดินตามไปเพราะได้ยินว่ามีน้องบางคนที่ลุกออกมา ไม่ได้ ก็ไปจนเจอน้องๆทุกคน มีคนนึงตอนที่เราเดินไปที่ห้องกำลังร้องไห้เพราะว่าอยากกลับบ้าน คุณย่าบอกว่าสมองน้องเค้าผิดปกติ ต้องใส่สายยางไว้ในหัวตลอดเวลา ไม่สามารถเอาออกได้เลย! โอ! น่าสงสารมาก เพราะน้องเค้าต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลเพื่อคอยเอาน้ำส่วนเกินออกจากสมองของ เค้า ตอนแรกเค้าดูไม่อยากยุ่งกับพวกเราเลยแต่ด้วยความไฮเปอร์ของพวกเราในตอนนั้น ก็เลยปรี่เข้าไปหาน้องเค้าพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง จริงๆแล้วโรสไม่คิดว่าน้องเค้าจะชอบเท่าไหร่เพราะเค้าเป็นเด็กผู้ชาย แต่ไม่น่าเชื่อตอนที่เราถามเค้าว่าอยากได้ไหม เค้ามองแล้วก็พยักหน้า พร้อมกับหยุดร้องไห้เลยล่ะ! แล้วตอนที่เค้ารับตุ๊กตาไป หน้าตาของเค้ามันทำให้โรสอิ่มใจแล้วก็ลืมไม่ลงจริงๆ

เค้า เอื้อมมือมารับ พร้อมกับมองตุ๊กตา แล้วก็กอดเอาไว้เหมือนกับว่าเค้ารักตุ๊กตาตัวนี้แล้วอะ โรสไม่ได้เล่าให้มันเว่อร์เกินจริงเลยนะ อยากจะถ่ายวีดีโอมาให้ดูกันจริงๆ มันทำให้โรสรู้สึกว่า เออแฮะ ของบางอย่างมันไม่มีความหมายกับบางคน แต่มันทำให้คนอีกคนมีความสุขขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ก่อน จะจากแผนกเด็กไปก็มีน้องคนนึงเพิ่งตื่น คุณแม่เค้าเลยเรียกให้ดูพวกเรา บอกโรสว่า เนี่ย น้องเค้าชอบพี่เบิร์ด โรสก็กำลังนึกเพลงพี่เบิร์ด ว่าจะร้องเพลงอะไรให้ฟังดี แล้วแม่เค้าก็บอกว่า เค้าได้ดูคอนเสิร์ตแฟนซีแฟนซนด้วยนะคะ (อะจ๊ากกกก) เค้าจำได้ด้วย ช่วงห้าสาวน่ะ เอิ๊กๆๆๆๆ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เลยจัด Too Much ไปให้เค้าฟังหนึ่งท่อน ดีใจมีเด็กรู้จักด้วย คิๆๆๆ

แล้วพี่ พยาบาลที่ประสานงานอีกคนนึงก็เดินมาหาเราบอกว่า ได้คุยกับพี่แอ้แล้ว พี่แอ้บอกว่าถ้ามีเวลาอยากให้ไปเยี่ยมแผนกผู้ป่วยคีโมได้ไหม เพราะว่าแผนกนี้ก็จะหงอยๆเหงาๆเหมือนกัน ผู้ป่วยส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ พวกเราก็รีบตกลงเลย เพราะว่าอย่างน้อยแผนกผู้ใหญ่เราก็น่าจะมีเพลงให้ร้องได้มากกว่าเด็ก (ซึ่งจำได้แต่เพลงช้าง กับโอ้ทะเลแสนงาม)

พอขึ้นไปถึงก็จะ เป็นห้องผู้ป่วยรวม แบ่งออกเป็นสี่ห้อง ห้องละประมาณแปดเตียง แต่คนก็ไม่ได้เต็มทุกเตียงนะคะ เกือบๆอยู่ พี่ๆพยาบาลก็แนะนำพวกเราว่าเป็นอาสาสมัครอยากจะมาร้องเพลงให้ฟัง เราก็ถามผู้ป่วยว่าอยากจะฟังเพลงอะไรกันบ้างคะ พอบอกมาแต่ละเพลงศิรินทิพย์ก็สวัสดีค่ะ แงแง เพลงเก่าเกินก็ไม่ค่อยรู้จัก ยังดีที่พี่ๆที่ไปด้วยพอจะร้องได้บ้าง เราก็เลยเริ่มบรรเลงดนตรีกัน แล้วพี่แอ้ก็เข้ามาพอดี ร่วมร้องเพลงไปกับพวกเราด้วยจนจบ

ตอน ที่เห็นพี่แอ้เดินเข้ามาออร่าเปล่งประกายมาก โรสเคยเห็นพี่เค้าในทีวีอยู่ในชุดพยาบาล แต่วันนี้พี่เค้าแต่งหน้าแต่งตัวสวยเลยเพราะเข้าใจว่าไปสัมมนา อาจจะต้องขึ้นบรรยายด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะว่าเห็นว่าช่วงนี้พี่แอ้งาน ชุมมาก (พี่แอ้ได้รับรางวัล "ผู้หญิงคิดบวกแห่งปี 2554 และเมื่อโอลิมปิกปักกิ่งที่ผ่านมาพี่แอ้ก็เป็นตัวแทนคนไทย 1 ใน 10 คนที่ได้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิกด้วย) พอร้องเพลงแรกด้วยกันจบ เราก็กล่าวทักทายกัน แล้วพี่แอ้ก็ตรงเข้าไปกอดผู้ป่วยทุกคนอย่างไม่เคอะเขิน ปกติแล้วโรสก็ชอบกอดคนนะ แต่โรสยังมีความเขินอยู่มากเลยทีเดียวเมื่อต้องกอดคนที่ยังไม่รู้จักกัน (ยกเว้นถ้าเป็นแฟนคลับมาขอกอดกันนะ) สิ่งที่โรสชอบมากในตัวพี่แอ้คือหน้าตาเวลาที่พี่แอ้มองคน เวลาที่พี่แอ้จะเดินไปกอดคน พี่แอ้จะดูธรรมชาติมาก ไม่มีการเสแสร้งใดๆทั้งสิ้น แล้วผู้ป่วยทุกคนก็ดูจะคุ้นเคยกับพี่แอ้ดี กอดกันกลมเลย นอกจากจะกอดผู้ป่วยแล้วพี่แอ้ก็ยังไปกอดญาติของผู้ป่วยด้วย ซึ่งโรสคิดว่าสำคัญมากเท่าๆกับการกอดผู้ป่วยเลย เพราะว่าญาติจะเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้จิตใจของผู้ป่วยเข้มแข็ง ถ้าญาติท้อเมื่อไหร่ ผู้ป่วยจะรู้ แล้วจะทรุดเร็วกว่าเดิมหลายเท่าทีเดียว

เรา ก็ร้องเพลง กอดผู้ป่วย(ส่วนใหญ่จะเป็นพี่แอ้ค่ะ เรายังไม่หายเขินเลยง่ะ) ก่อนจะออกจากแผนกคีโมมีน้องผู้ป่วยวัยรุ่นคนนึงขอฟังเพลงก้อนหินก้อนนั้น โรสก็เลยเดินไปใกล้ๆแล้วก็ร้องให้ฟัง พอร้องจบพี่แอ้ก็ตบมือฉาด บอกว่า อ๋ออออ น้องร้องเพลงนี้เองเหรอคะ ฮาเอิ๊กกกก แล้วพี่แอ้ก็บอกว่าตอนที่บอกว่าชื่อโรสก็ไม่รู้จัก แต่หันไปถามใคร ใครเค้าก็รู้จัก โรสเลยบอกพี่แอ้ไปว่าไม่ต้องห่วงค่ะ เป็นเรื่องธรรมดามาก ถ้าคนจำได้โรสจะแปลกใจมากกว่า เอิ๊กๆๆ

แล้วพี่แอ้ก็ถามว่าเรา จะไปเยี่ยมเคสพิเศษกับพี่แอ้สักสองสามห้องได้ไหม มีหรือจะไม่ได้ วันนี้ตั้งใจจะทำตัวเป็นประโยชน์แล้ว ก็ให้มันเต็มที่เลย บอกพี่แอ้ว่าพี่แอ้ไปไหนเราก็ขอตามไปด้วยค่ะ พี่แอ้เลยพาไปเยี่ยมผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งเป็นหมอ เป็นมะเร็ง คิดว่าหายดีแล้ว แต่ปรากฏว่ามันแอบไปกระจายที่ไขสันหลัง ทำให้ตอนนี้เป็นอัมพาตครึ่งตัวแล้ว แต่ท่านยังไม่รู้ แต่ญาติรู้แล้ว พี่แอ้บอกว่าจริงๆแล้วท่านน่าจะเริ่มเดาได้แล้ว แต่ยังไม่มีใครบอกความจริง พวกเราก็เข้าไปเยี่ยม เป็นห้องเดี่ยว นอกจากจะมีโรสและพี่ๆ ก็ยังมีพี่แอ้และพยาบาลอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปด้วย เต็มห้องกันเลยทีเดียว แล้วพี่แอ้ก็บอกว่าเราจะมาร้องเพลงให้ฟัง แล้วเราก็ร้องเพลง หยาดเพชร เราร้องๆไป ท่านก็ร้องด้วย (พี่แอ้บอกว่าท่านชอบร้องเพลง) แล้วท่านก็ร้องไห้ เราถึงกับไม่กล้ามองเลยเพราะกลัวว่าจะร้องตาม ไม่น่าเชื่อเลยว่าการที่เรามาร้องเพลงไม่กี่เพลงจะทำให้ใครมีความสุขจน ร้องไห้ได้

แล้วเราก็ไปเยี่ยมกันต่ออีกสามสี่ห้อง พี่แอ้เล่าให้เราฟังถึงผู้ป่วยครอบครัวหนึ่ง ลูกอายุประมาณยี่สิบ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แล้วคืนนั้นก็เป็นคืนที่หมอฟันธงว่าไม่รอดแล้ว พี่แอ้เลยพยายามขอให้เค้าได้ออกมาอยู่ห้องเดี่ยวกับพ่อแม่เป็นคืนสุดท้าย ซึ่งปกติตามกฏแล้วทางโรงพยาบาลจะไม่อนุญาต แต่ในที่สุดก็ยอมแพ้เพราะว่าพี่แอ้พยายามขอว่าไหนๆก็จะไปแล้ว ขอให้น้องเค้าไปในอ้อมกอดแม่แทนที่จะไปอย่างโดดเดี่ยวในห้องไอซ๊ยูเถอะ

พี่แอ้เล่าว่าคืนนั้นคุณแม่ก็ให้น้องนอนเอาหัวพิงตัก แล้วคุณแม่ก็ร้องเพลงให้น้องฟัง

"จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า...."

ร้องไปจนจบ แล้วน้องเค้าก็ไปอย่างสงบ

พี่แอ้ถามคุณแม่ว่าทำไมถึงร้องเพลงนี้ คุณแม่ตอบว่า

วัน ที่ลูกเกิด เค้าร้องเพลงนี้ต้อนรับลูกเข้ามาสู่โลกใบนี้ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ลูกจะไป เค้าก็เลยร้องเพลงนี้ให้ลูกฟังเพื่อส่งลูกกลับ

โรสฟังไปน้ำตาไหลไปไม่รู้ตัว

พี่ แอ้บอกว่าเป็นการเสียชีวิตที่สมบูรณ์และประทับใจที่สุด เพราะน้องเค้ารู้ตัวตลอดเวลา จะว่าเป็นเรื่องเศร้าก็เศร้า แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็เป็นการจากลาที่สมบูรณ์แบบมากๆเหมือนกัน ได้มีเวลาเตรียมใจ ได้มีเวลาได้ร่ำลากัน ฟังๆดูบางทีก็โชคดีกว่าหลายๆคนนะ

ได้ ฟังเรื่องผู้ป่วยหลายๆคน รู้สึกว่าเราโชคดีมากนะ อย่างน้องๆเนี่ย บางคนเกิดมาพร้อมกับสิ่งผิดปกติเลย โรคร้ายมาตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่องอะไร แล้วก็ต้องทนอยู่กับมันไปตลอดชีวิต หรือผู้ใหญ่บางคนที่ชีวิตกำลังไปได้สวยแต่อยู่ๆก็มากลายเป็นมะเร็งแบบไม่มี ปี่มีขลุ่ย

วันนี้โรสอาจจะยังแข็งแรงอยู่ แต่โรสก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆอาจจะเป็นโรคอะไรประหลาดๆที่รักษาไม่หาย หรืออาจจะมีเรื่องร้ายๆอะไรเกิดขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นในวันนี้ที่โรสยังมีกำลังอยู่ โรสอยากทำอะไรดีๆเพื่อคนอื่นเยอะๆ โรสอยากชวนทุกๆคนให้ทำดีเพื่อคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าชีวิตมันเหลือเท่าไร วันนี้เราช่วยใคร วันพรุ่งนี้เราอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเขาก็ได้ โรสว่าชีวิตทุกคนมีค่ามากเลยนะ ไม่ว่าเราจะมีครบหรือพิการ ถ้าเรามีลมหายใจอยู่ โรสว่าชีวิตเรามีประโยชน์กับโลกนี้ อยู่ที่เราคนเดียวเท่านั้นที่จะเลือกทำประโยชน์นั้นหรือเปล่า

แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมรักตัวเองด้วยนะคะ ไม่ต้องช่วยคนอื่นเสียจนลืมหายใจ เอาแค่เราไม่เห็นแก่ตัวจนเกินงามโลกนี้ก็น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะแล้วเนอะ

โอ้ วันนี้เขียนยาวมาก เมื่อคืนก็รู้สึกนอนน้อยๆเบลอๆยังไงชอบกล เมื่อวานมีงานที่ซีคอนแล้วก็สวนสันติด้วย อยากจะขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่มาให้กำลังใจกันทั้งสองที่เลยนะค้า สนุกมากเลย ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอชนกลุ่มน้อยชาว RFC ใครที่ไม่ได้มาเจอกันไม่เป็นไรน้า โอกาสหน้ายังมี

มีความสุขกันมากๆ แล้วก็ยิ้มกันเยอะๆทุกคนเลยน้าาาาาาาา ^____^

แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 54 23:29:01

จากคุณ : ikam
เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 23:27:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com