ความคิดเห็นที่ 1 SMAP เริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกหัดในค่ายเหมือนๆกับเด็กจอห์นนี่วงอื่นๆ แต่ละคนมาสมัครเข้าค่ายด้วยเหตุผลที่ต่างกัน ประมาณช่วงปี 1986-1987 ในช่วงแรก พวกเค้าถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Skateboys ที่มีหน้าที่เป็นแบ็คอัพ เต้นประกอบให้กับวงไอดอลรุ่นพี่ชื่อดังสุดๆในยุคนั้นอย่าง Hikaru Genji ซึ่งมี gimmick คือการร้องเล่นเต้นรำในขณะที่เล่น roller skates ไปด้วย (สำหรับแฟนๆจอห์นนี่ที่เกิดไม่ทัน Hikaru Genji ก็คล้ายๆ kisumai ล่ะค่ะ) แล้ววันหนึ่งของเดือนเมษายน ปี 1988 ในรถตู้ของบริษัท Johnny Kitagawa ก็หันมาบอกเด็ก Skateboys กลุ่มนึงในรถคันนั้น ว่า You-tachi นับจากนี้ พวกนายจะรวมกลุ่มกันในชื่อ SMAP วันนึงข้างหน้า คำว่า SMAP จะต้องเป็นคำติดปากที่คนญี่ปุ่นรู้จักดีแน่นอน (ลุงจอห์นนี่แอบเท่นะคะ ถึงเด็กพวกนี้จะยังงงๆว่าคำนี้มันแปลว่าอะไรวะก็เถอะ) ในช่วงแรกๆ สมาชิก skateboys ที่ได้รวมวงอยู่ใน SMAP นั้นยังไม่ลงตัวดีนัก แต่สุดท้ายสมาชิกอย่างเป็นทางการของ SMAP ก็มีอยู่หกคนด้วยกัน คือนาคาอิ มาซาฮิโร่ (15), คิมุระ ทาคุยะ (15), อินางาขิ โกโร่ (14) โมริ คัตสึยุกิ (14), คุซานางิ สึโยชิ (13), และคาโตริ ชินโง (11) อย่างเป็นทางการ ชื่อของ SMAP มาจากคำว่า Sports Music Assemble People ว่ากันว่าในตอนแรก ลุงจอห์นนี่คงจะวางแนวของวงนี้ให้ออกแนว sport หน่อยๆ จะเห็นได้จาก PV ตัวแรกเป็นเด็กๆ 6 คนนี้ใส่เสื้อสีชมพูแปร๋นเล่น skateboard ^^" ซึ่งไอ้ชุดสีชมพูแปร๋นนั่นก็กลายเป็นมุกให้เอามาล้อกันเองอยู่เรื่อยๆตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ก็มีบางกระแสอีกเหมือนกันที่ว่าตัวอักษรทั้งสี่ตัวของ SMAP นั้น จริงๆแล้วมีที่มาจากชื่อเล่นของสมาชิกในกลุ่ม Genji จากวง Hikaru Genji ต่างหาก ทฤษฎีนี้ คงมีที่มาจากชื่อเต็มภาษาอังกฤษที่แสนจะแปลกประหลาดของ SMAP เพราะจะว่าไปยังไงลุงจอห์นก็เกิดและโตในอเมริกา ภาษาอังกฤษไม่น่าจะพิสดารขนาดนั้น หมายเหตุ ในช่วงแรก โคคุบุน ไทอิจิ (TOKIO) กับซาคาโมโตะ มาซายูกิ (V6) ก็ไปๆมาๆเข้าๆออกๆในฐานะคนที่อาจจะเป็นสมาชิกของ SMAP ด้วย ลุงจอห์นมาบอกทีหลังว่า สมาชิกหกคนนี้คือคนที่ตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วแต่แรก แต่บางงานถ้าหนึ่งในหกไม่ว่าง (เช่นติดสอบ) ก็จะเอาคนอื่นมาแทนไปก่อน เพราะยังไงก็ยังหน้าใหม่กันอยู่ คนดูยังจำไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร....เอ่อ ลุงคะ ^^" แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 54 19:56:29 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:35:37

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากพยายามกันอยู่สามปีกับการเป็น backdancers ให้กับ Hikaru Genji ได้ลงสัมภาษณ์ ถ่ายแบบในบรรดานิตยสารไอดอลทั้งหลายจนพอจะมีชื่อเสียงขึ้นบ้าง และยังได้มีโอกาสไปเป็นตัวประกอบเล็กๆตามละครหรือตามรายการต่างๆ ในวันปีใหม่เมื่อปี 1991 SMAP ก็ได้มีคอนเสิร์ทครั้งแรกเป็นของตัวเองที่นิปปอนบุโดกัน โดยมีการแสดงคอนเสิร์ททั้งหมดสามรอบในหนึ่งวัน ซึ่งก็ได้เตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ แต่ระหว่างซ้อมก็ประสบปัญหานึงคือ จากสมาชิกหกคน มีถึงสามคนเลยที่ตีลังกากลับหลังไม่ได้ ถ้าเป็นวงทั่วไปนี่คงไม่ใช่ปัญหา แต่เพราะ SMAP เป็นวงจอห์นนี่ถึงต้องมีการฝึกพิเศษให้ทำให้ได้ (เป็นความเชื่อในยุคนั้นล่ะค่ะ ว่าเด็กจอห์นนี่ต้องเล่นกายกรรม ตีลังกากลับหลังกันได้สบายๆ) แล้วก็ได้เรื่องเลย เมื่อคิมุระกับสึโยชิจับชินโงพลิกตัวเผื่อช่วยฝึก แล้วก็เกิดพลาดชินโงตกลงมาขาหัก ทำให้ในคอนเสิร์ทของตัวเองครั้งแรกในชีวิต ชินโงอายุ 14 ปีต้องถือไม้ค้ำ เข้าเฝือกยืนร้องเพลงทั้งน้ำตา นับเป็นก้าวแรกของวงที่เปิดตัวได้ทุลักทุเลกันตั้งแต่เริ่ม แทนที่จะออกมาดูเท่ ดูดีอย่างชาวบ้านเค้า และคงเพราะวันนั้นเกิดเหตุชินโงขาหัก การฝึกพิเศษก็เลยต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย จนถึงทุกวันนี้ นาคาอิ โกโร่ และชินโงก็ยังตีลังกากลับหลังไม่ได้ แล้วก็คงไม่คิดจะหัดกันอีกแล้ว ^^" จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:40:47

ความคิดเห็นที่ 3 ขอปาดหน่อยครับ วันที่ 9 กันยา นี่ผมจำแม่นเลยว่าเป็นวันที่ SMAP วางขาย เพราะวันนี้มันเป้นวันเกิดผมเอง ^ ^ หมายความว่าตอนผมอายุ 3 ขวบ Can't Stop!! -LOVING- ก็วางจำหน่ายพอดี 555+ จากคุณ : y2thumb เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:41:08

ความคิดเห็นที่ 4 ได้เล่นละครเวที ซีรี่ส์ เป็นตัวประกอบตามรายการและมีแม้กระทั่งคอนเสิร์ทของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้ debut สักที ว่ากันว่าไม่มีค่ายเพลงไหนยอมเซ็นสัญญาให้ (สมัยนั้นค่ายจอห์นนี่ยังไม่มีค่ายเพลงเป็นของตัวเองอย่างทุกวันนี้ จะเป็นคล้ายๆโมเดลลิ่งซะมากกว่า) เคยอ่านเจอว่าไม่ค่อยมีค่ายไหนอยากได้เพราะเกี่ยงว่าหน้าตาไม่ผ่าน ร้องเพลงก็ไม่ดี เต้นก็ไม่ได้ -_-" แต่ในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย Victor Entertainment และได้ออกซิงเกิ้ลแรกในปี 1991 แล้วก็เหมือนจะเป็นลางบอกเหตุ วันเปิดตัวซิงเกิ้ลพายุกระหน่ำรุนแรงจนต้องร้องเพลงกันกลางฝน ต้องเอาถุงพลาสติกมาห่อไมค์ไว้ แต่ผมเผ้าหน้าตาเสื้อผ้าเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำไปตามๆกัน และเพราะพายุในวันนั้นทำให้งานล่าช้าไปมาก นักข่าวที่มาร่วมงานกลัวส่งข่าวปิดเล่มไม่ทัน หลังจากแนะนำตัวเสร็จ เปิดโอกาสให้ถาม เลยไม่มีนักข่าวถามอะไรเลยแม้แต่คนเดียว T_T เด็ก 6 คนที่เปียกโชกไปทั้งตัว ทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆและคงรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย สุดท้ายซิงเกิ้ล Can't Stop Loving ก็เปิดตัวได้....ไม่สวยเท่าไหร่ ขึ้นถึงแค่อันดับสองของโอริกอน ถ้าเป็นวงอื่นๆก็อาจจะปิดซอยเลี้ยงฉลอง แต่สำหรับวงจากจอห์นนี่แล้วนี่ถือเป็นความล้มเหลว นับเป็นวงแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายที่ซิงเกิ้ล debut ไม่สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่ง ยอดรวมของซิงเกิ้ลนี้ ทำได้แค่ 150,444 แผ่น ยอดเปิดตัวอาทิตย์แรกไม่ผ่านหลักแสน ถือเป็นความล้มเหลว เป็นที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุดของเด็กค่ายลุงจอห์น ^^" หมายเหตุ นักข่าวคนนึงที่ได้ร่วมในงานแถลงข่าววันนั้น พึ่งเขียนคอลัมน์ถึง SMAP เมื่อสองเดือนก่อน บอกว่าเค้าไม่มีวันลืมสีหน้าของเด็กทั้งหกคนในวันนั้นได้เลยจริงๆ วินาทีที่พิธีกรบนเวทีพูดว่ามีใครมีคำถามอะไรมั้ย แล้วไม่มีนักข่าวคนไหนยกมือเลย สีหน้าที่ตกใจและกังวลของเด็กหกคนแต่ยังพยายามจะยิ้ม ยังติดตาเค้าจนถึงวันนี้ เค้าบอกว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คงจะเดินเข้าไปปลอบเด็กพวกนั้นว่าไม่เป็นไรหรอก เพราะอีกไม่นานในอนาคตข้างหน้าพวกนายจะกลายเป็น top star ของประเทศญี่ปุ่น จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:46:11

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงจะทำยอดซิงเกิ้ลแรกได้ไม่ดีนัก หลังจากนั้นทางค่ายก็ยังป้อนงานให้โอกาสอยู่ แต่ยอดซิงเกิ้ลหลังจากนั้นแทนที่จะดีขึ้น กลับยิ่งตกต่ำลงกว่าเดิม ซิงเกิ้ลที่สองเปิดตัวที่อันดับ 10 และซิงเกิ้ลที่สามคือ Kokoro no kagami ทั้งๆที่โปรโมทกันเต็มที่ ก็ยังขึ้นที่หนึ่งโอริกอนไม่ได้ หลังจากซิงเกิ้ลนี้ มาเล่ากันทีหลังว่าเจ้าของค่ายคือลุงจอห์นนี่ คิตะงาว่าเรียกเด็ก 6 คนนี้ไปตำหนิ ว่า "ทำไมพวกนายถึงขายไม่ได้" (แล้วเด็กมันจะรู้มั้ยอะ)​ แล้วถามขึ้นมาว่า "ยุบวงซะดีมั้ย" ชินโงบอกว่าตอนนั้นยังเด็กก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จำได้ว่าพี่ใหญ่สุดของวงคือนาคาอิโดนดุหนักที่สุด ทั้งๆที่ตอนนั้นน่ะ หัวหน้าวงอย่างนาคาอิเองก็ยังอายุไม่ถึง 20 ซะด้วยซ้ำ แล้วเด็กอายุ 15-19 หกคนนี้ก็ได้เรียนรู้ความโหดร้ายของโลกบันเทิงอีกครั้งที่นาโกย่าเมื่อปี 1992 เมื่อคอนเสิร์ทที่นาโกย่า Rainbow Hall มีคนดูแค่ประมาณ 30% และบน stand มีคนดูอยู่แค่สองคนเท่านั้น สิ่งที่เด็กพวกนี้ทำ คือยังร้อง ยังเต้นกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อถึงช่วงที่ต้องพูดคุยกับคนดูในวันนั้น SMAP ก้มหัวขอโทษคนดูว่าเป็นความผิดของพวกเค้าเองที่ยังดังไม่พอ ทำให้คนที่มาดูวันนั้นเสียบรรยากาศ และสัญญากับคนดูในวันนั้นว่า จะพยายามกันให้มากกว่านี้ จะต้องดัง ต้องได้รับความนิยมกว่านี้ให้ได้ เพื่อที่ครั้งต่อไปที่กลับมาแสดงคอนเสิร์ทที่นาโกย่าอีกครั้ง จะมีคนดูเต็มและคนดูจะได้สนุกกันให้เต็มที่ วันนั้นมีการแสดงสองรอบ คนมาดูรอบสองส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มเดิมกับที่มาดูรอบแรกนั่นแหละ เด็กสองคนบน stand กลับมาดูรอบสองพร้อมกับป้าย "พวกเราจะติดตาม(SMAP)ไปตลอดชีวิต" 18 ปีผ่านไป คอนเสิร์ท We are SMAP เมื่อปีที่แล้วที่นาโกย่าโดมความจุ 40,500 คน มีคนดูเต็มทั้งสี่รอบ แถมร้านค้าท้องถิ่นหลายร้านก็แต่งร้าน และมีสินค้าพิเศษขายต้อนรับคอนเสิร์ทของ SMAP อย่างเช่นร้านขนมปังร้านนี้ ที่อบขนมปังพิเศษสี่ไส้ S M A P วางขายช่วงวันที่มีคอนเสิร์ท (S-ไส้งามั้ง M-ไส้เมลอน ส่วน A กับ P จำไม่ได้แล้วแฮะว่าไส้อะไร) ถึงสถานการณ์ตอนนี้จะต่างกับเมื่อ 18 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง แต่เชื่อว่า SMAP ไม่เคยลืมวันนั้นเลย เพราะทุกครั้งที่ต้องพูดถึงเหตุการณ์นี้ออกสื่อ จะเล่ากันได้ละเอียดยิบเหมือนว่าภาพยังติดตาอยู่ เผลอๆจะยังจำหน้าแฟนสองคนบน stand ในวันนั้นได้ด้วย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:49:40

ความคิดเห็นที่ 6 Happy Birthday ค่ะ คุณ y2thumb แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 00:51:38 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:51:24

ความคิดเห็นที่ 7 ล้มเหลวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ออกมากี่ซิงเกิ้ลต่อกี่ซิงเกิ้ลก็ขึ้นที่หนึ่งโอริกอนไม่ได้ซะที ในตอนนั้น ใครต่อใครต่างก็มองว่า SMAP คงจะเข็นไม่ขึ้น รอวันแยกวงไปเหมือนวงอื่นๆที่ผ่านมา ประกอบกับความเป็นเด็กหัวดื้อของหกคนนี้ ทีมงานเลยเหมือนจะทอดทิ้งไม่ใส่ใจนัก บางคนเคยพูดใส่หน้าเลยด้วยซ้ำว่า อย่างพวกนายน่ะจะหามาคนมาแทนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ยังมี staff คนนึงในค่าย ที่ยังยืนอยู่ข้างเด็กพวกนี้ และพยายามผลักดันโดยไม่ย่อท้อ นั่นก็คือผู้หญิงที่ชื่ออิอิจิม่า มิจจิ ผู้จัดการของ SMAP ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มตัว อุปสรรคสำคัญนึงที่ทำให้ SMAP เริ่มต้นได้ไม่สวยนัก นั่นก็เพราะเปิดตัวและ debut ผิดเวลา ในตอนนั้น เริ่มเข้าสู่ยุคซบเซาของวงการไอดอลและวงการเพลง รายการเพลงต้องปิดตัวไปตามๆกัน เมื่อไม่มีเวทีให้คนได้รู้จัก ได้ร้อง ได้เต้น ก็ไม่สามารถเข้าถึงหรือหาแฟนกลุ่มใหม่ๆได้ นอกจากที่ตามกันมาอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็น skateboys และบรรดาแฟนพันธ์แท้จอห์นนี่ ทางเลือกที่เหลืออยู่ ที่จะทำให้ได้มีหน้า มีชื่อออกสื่อให้คนรู้จัก ก็คือรายการวาไรตี้ หลังจากลุงเรียกเด็กหกคนนี้ไปถามว่า "เลิกวงซะดีมั้ย" คนในค่ายก็เหมือนรอวันที่ลุงจะยุบวงจริงๆ ลือกันว่านาคาอิเข้าไปขอโอกาสลุงอีกครั้ง ให้ SMAP ได้เน้นความสามารถในด้านวาไรตี้ เพราะโชว์เฮฮาคั่นเวลาของ SMAP ในคอนเสิร์ทของ Hikaru Genji ได้รับคำชมจากคนทั่วไป เมื่อคุณมิจจิมาดูแล SMAP อย่างเต็มตัว ก็หันมาเน้นเจาะงานวาไรตี้อย่างจริงจัง เอาจุดแข็งที่สุดของ SMAP มาปรับใช้ คือให้เน้นฝึกทางนี้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย จะว่าไป นั่นอาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของ SMAP ก่อนที่ลุงจะตัดสินใจยุบวงก็ได้ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไอดอลญี่ปุ่นจะไม่เคยไปออกไปร่วมรายการวาไรตี้ แต่รูปแบบของการไปร่วมรายการนั้น จะยังคงภาพความเป็นดาราไอดอลอยู่มาก ไม่ได้ทุ่มกันเต็มๆ เล่นตลก ทรมานกาย ทรมานใจกันอย่างไอดอลยุคปัจจุบันนี้ SMAP เป็นวงแรกที่ฉีกธรรมเนียมไอดอลในยุคนั้นด้วยการแต่งคอสเพลย์เป็นผู้หญิง นับเป็นไอดอลชายวงแรกของญี่ปุ่น(ของเอเชียด้วยมั้ง)ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเล่นตลกออกสื่อ จากรายการก่อนหน้านั้นที่การร่วมรายการของ SMAP ยังคงรูปแบบไอดอลแบบเดิมๆ ก็เกิดรายการ Yume ga Morimori ขึ้นกลางปี 1992 ที่เริ่มเบนเข็มไปทางตลกสายตรง มีข่าวว่าป้าแมรี่ คิตะงาว่ายอมเป็นคนไปขอร้องให้ทางสถานีรับ SMAP เข้าทำรายการนี้ เป็นการให้โอกาสคุณมิจจิและ SMAP ได้พิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้ายว่าจะอยู่หรือจะไป สุดท้ายการดันให้ SMAP ไปในสายวาไรตี้อย่างจริงจังของคุณมิจจิก็ได้ผล รายการพวกนี้กลายเป็นช่องทางให้คนดูรู้จักและผูกพันกับตัวตนของสมาชิกแต่ละคนมากขึ้น สร้าง brand loyalty และเสริมสร้างฐานแฟนคลับของ SMAP ให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆในเวลาต่อมา หมายเหตุ จริงๆแล้วคุณมิจจิเป็นแค่พนักงานธรรมดาในออฟฟิศเท่านั้น ไม่เคยทำงานผู้จัดการ แต่คิดว่าพอทางค่ายจะปล่อยเกาะ SMAP แล้ว ก็เลยส่งใครก็ได้ที่ว่างอยู่มาทำ ลือกันว่าบางทีคุณมิจจิต้องมานั่งเย็บคอสตูมให้เองด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครทำให้ นี่ล่ะค่ะ สาเหตุว่าทำไมแฟน SMAP ถึงให้เครดิตคุณมิจจิมากกว่าลุงจอห์นและป้าแมรี่ เผลอๆบางคนออกจะไม่ชอบหน้าลุงกับป้าเอาซะเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 00:56:49

ความคิดเห็นที่ 8 และก่อนหน้านี้จากที่ไอดอลที่ผ่านมาจะไปร่วมแสดงหนังละครกันบ้าง แต่ยังเน้นงานเพลงเป็นหลัก คุณมิจจิกลับผลักดันให้เด็กหกคนฝึกฝนด้านการแสดงอย่างจริงจัง เป็นนักแสดงไม่ใช่ดาราไอดอล (คงเพราะจะให้ไปแข่งกับชาวบ้านเค้าด้านการร้องเพลงก็ไม่น่าจะไหว แพ้ตั้งแต่ยังไม่อ้าปาก ^^") บุคลิกที่แตกต่างกันอยู่แล้วของทุกคนในวง ถูกเน้นให้ยิ่งเห็นได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้สามารถรับงานได้หลายแนว หลายบทโดยไม่ทับเส้น แย่งงานกันเองในวง ไม่ใช่แค่นั้น ยังส่งเสริมให้สมาชิกมองงานอื่นๆในวงการที่นอกจากการร้องเพลงและการแสดง เลยทำให้สมาชิกทุกคนได้ฝึกงานมาทุกอย่างทั้งการเป็นพิธีกรหรือแม้แต่การเป็นตลก ที่แหวกธรรมเนียมไอดอลเดิมๆด้วยการเอาเด็กพวกนี้ไปฝึก owarai แบบจริงจัง จนตลกรุ่นใหญ่หลายคนยอมรับว่า SMAP สามารถเป็นตลกอาชีพได้เลยด้วย จริงๆ SMAP ไม่ใช่วงแรกที่เดินมาทางสายวาไรตี้ไอดอล ผู้ริเริ่มจริงๆน่าจะเป็น CHA-CHA ซึ่งทั้งคิมุระ ทาคุยะและคุซานางิ สึโยชิต่างก็เคยเป็นเด็กฝึกที่นั่นก่อนที่จะมาเป็น SMAP (ไม่ค่อยรู้จัก CHA-CHA แต่ที่ตามอ่านดู น่าจะเหมือนวงจาก Hexagon ซะมากกว่า คือเป็นกลุ่มในรายการวาไรตี้ที่มาออกเพลง แต่ของ SMAP จะเป็นไอดอลมาทำวาไรตี้) ด้วยการวางแผนจัดการของคุณมิจจิ และความสามารถของตัวสมาชิกเอง ทำให้ SMAP สามารถต่อยอดเอาแนวทางของ CHA-CHA มาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง เส้นทางสายนี้ ภายหลังได้กลายมาเป็นต้นแบบให้กับวงในค่ายจอห์นนี่ในเวลาต่อมา และยังถูกวงไอดอลต่างค่ายและต่างชาตินำไปปรับใช้เป็นแบบอย่างอีกด้วย ถ้าจะบอกว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งนึงของวงการไอดอลเอเชียก็คงจะไม่ผิดนักนะคะ หมายเหตุ แม้กระทั่งปัจจุบัน SMAP น่าจะยังเป็นวงไอดอลวงเดียวที่ฝึกจากตลกสายตรงจริงๆ บรรดาวงรุ่นน้องหลังจากนั้นคงจะเป็นการฝึกที่ทางค่ายพัฒนากันขึ้นมาเอง เพราะตอนนั้นในค่ายยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ เลยต้องอาศัยตลกสายตรงนอกค่าย นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่มุกในแบบของ SMAP จะใกล้เคียงกับมุกแบบตลกมากกว่าไอดอลอื่นๆ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:02:05

ความคิดเห็นที่ 9 ในปลายปี 1993 หลังจากชื่อเสียงของ SMAP ทั้งในฐานะส่วนรวมและส่วนตัวลุ่มๆดอนๆกันมาสักพัก คิมุระ ทาคุยะ ก็ได้แสดงเป็นตัวรองในซีรี่ส์เรื่อง Asunaro Hakucho แล้วก็เกิดฮิตติดใจคนดูขึ้นมา จุดกระแสที่เรียกว่า KimuTaku Boom ขึ้น (KimuTaku เป็นชื่อเล่นที่สื่อใช้เรียก Kimura Takuya) คนจึงเริ่มหันมาสนใจว่าคิมุทาคุเป็นคนยังไง วงที่คิมุทาคุอยู่นี่มันเป็นวงยังไง แบบไหน ทำให้รายการวาไรตี้ของวงมีเรตติ้งที่ดึขึ้นและ SMAP เป็นวงที่มีคนรู้จักและชื่นชอบมากขึ้น จนในที่สุดในปี 1994 ก็มีเพลงที่ขึ้นอันดับหนึ่งในโอริกอนได้สำเร็จคือเพลง Hey Hey Okinimaidoari กว่าจะได้ที่หนึ่งโอริกอนอย่างรุ่นพี่คนอื่นๆในค่าย ก็ปาเข้าไปซิงเกิ้ลที่ 12 Asunaro Hakusho เลยนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญจุดนึงของ SMAP และคิมุระ ทาคุยะ แม้ถึงวันนี้ เวลามีการพูดถึงผลงานด้านการแสดงที่ผ่านมาของคิมุระ บทโทริเดะ โอซามุก็ยังเป็นบทที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ มากกว่าละครอีกหลายเรื่อง และประโยคเด็ด "ore ja dame ka" ก็ยังเป็นประโยคที่คนเอามาใช้ล้อคิมุระอยู่เรื่อยๆ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:08:56

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากกระแสคิมุทาคุจุดติด ก็ทำให้ SMAP เป็นที่รู้จักมากขึ้น ความนิยมก็พุ่งขึ้นตามไปด้วย ซิงเกิ้ลที่ออกมาหลังจากนั้น ก็พลอยขายดิบขายดีไปด้วย ทะลุสี่แสนแผ่นได้ติดๆกันมาตลอด เข้าสู่ช่วงกลางปี 1994 ในที่สุด SMAP ก็มีเพลงที่ฮิตในระดับประเทศกับเค้าได้ซะที (เพลงฮิตระดับประเทศในที่นี้้้เราหมายถึงเพลงที่รู้จักกันดีในหมู่คนทั่วไป ไม่ใช่แค่แฟนคลับค่ะ) Ganbarimashou ที่วางขายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1994 ครบสามปีหลัง debut ซิงเกิ้ลแรกพอดีเป๊ะ ทำยอดขายไปได้ 720,320 แผ่น มากกว่า Can't Stop! Loving ถึงเกือบ 5 เท่า เพลงนี้ได้รับเลือกเป็นเพลงที่ใช้บรรเลงในการเดินเข้าสนามของการแข่งขันเบสบอลไฮสกูลระดับประเทศ หรือที่คนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นทั้งหลาย โดยเฉพาะแฟนการ์ตูนเบสบอลจะรู้จักกันดีในชื่อของ "โคชิเอ็ง" ตั้งแต่ปี 1924 เป็นต้นมา เพลงที่ได้รับเลือกเป็นเพลงเปิดนั้น จะเป็นเพลงที่ถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูงในปีก่อนหน้า บางที่ก็ให้คำจำกัดความว่าเป็นเพลงที่เป็นคำนิยามของปีนั้นๆ หรือเรียกง่ายๆว่าเพลงประจำปีนั่นเอง เพลงอื่นๆนอกจาก Ganbarimashou ที่เคยได้รับเลือกนั้น ก็เช่น First Love ของอุทาดะ ฮิคารุ Tsunami (Southern All Stars), Kiseki (GReeeeN), Tsubomi (Kobukuro) Sekai ni Hitotsu Dake no Hana (2003) และปีล่าสุดก็คือ Arigatou ของ Ikimonogakari จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:14:55

ความคิดเห็นที่ 11 ในปี 1995 กระแสคิมุทาคุะและ SMAP ก็ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง คิมุระได้รับงานโฆษณาลิปสติกของคาเนโบซึ่งก็เป็นที่ฮือฮามากทีเดียว เพราะเป็นครั้งแรกของวงการที่ใช้พรีเซนเตอร์ผู้ชายมาโฆษณาเครื่องสำอาง โปสเตอร์โฆษณาที่ติดตามที่ต่างๆถูกแฟนๆที่คลั่งไคล้ขโมยเป็นจำนวนมากจนพิมพ์มาปิดใหม่ไม่ทัน ไม่จำกัดเฉพาะโฆษณาตัวนี้ แต่โฆษณาตัวอื่นๆก็เกิดปัญหาโปสเตอร์หายเพราะโดนขโมย บางบริษัทต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างคนมายืนเฝ้าตามจุดสำคัญๆที่มีคนผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเสียค่าจ้างเพิ่มคนมายืนเฝ้า คุ้มกว่าและสะดวกกว่ามาคอยไล่พิมพ์ไล่ปิดโปสเตอร์กันใหม่ ทรงผมและการแต่งตัวของคิมุระถูกบรรดาวัยรุ่นญี่ปุ่นลอกเลียนเอาเป็นต้นแบบ มีการทำวิจัยว่า กระแสคิมุทาคุต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนั้นมีมูลค่าสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านเยน ชื่อ "ทาคุยะ" (ที่เขียนด้วยคันจิแบบเดียวกัน)กลายเป็นชื่อยอดฮิตที่คนญี่ปุ่นนิยมนำมาตั้งชื่อลูกชาย จากอันดับที่ 962 ในปี 1972 ที่คิมุระเกิด ก็พุ่งขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 9 ในปี 1995 ส่วนชื่อทาคุยะที่เขียนด้วยคันจิแบบปกติ ก็กลายเป็นชื่อยอดนิยมอันดับหนึ่งในปีนั้น ด้วยแรงส่งของกระแสคิมุทาคุที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น งานโคฮาขุในปี 1995 เรทติ้งของ SMAP ก็พุ่งติดอันดับ TOP 10 เป็นครั้งแรก หมายเหตุ ถึงใครต่อใครทั่วญี่ปุ่นจะเรียกคิมุทาคุจนติดปาก แต่คำนี้ถือเป็นคำต้องห้ามในหมู่แฟน SMAP ค่ะ เพราะตัวคิมุระเองพูดบ่อยๆว่าเกลียดชื่อเล่นชื่อนี้มาก เค้าชื่อคิมุระ ทาคุยะมีอักษรคันจิสี่ตัว ไม่ใช่คิมุทาคุ ถ้าใครเผลอพูดชื่อนี้ต่อหน้าคิมุระหรือสมาชิก SMAP คนอื่น จะถูกมองด้วยสายตาประหลาดทันที โกโร่เคยไปออกรายการเดี่ยวๆแล้วมีผู้ร่วมรายการเล่าเรื่องไปเรื่อยแล้วดันเผลอพูดว่าคิมุทาคุ โกโร่ที่ปกติจะนิ่งๆใจเย็น ยังขัดจังหวะทันทีแล้วบอกว่าไม่ใช่คิมุทาคุนะ ต้องเป็นคิมุระ ทาคุยะสิ พึ่งมาไม่กี่ปีมานี้เองที่เหมือนจะยอมรับชื่อเล่นนี้ ไม่โกรธแล้ว แต่ก็ยังอยากให้เรียกชื่อเต็มๆมากกว่า ถ้าไม่เรียกชื่อไปเลย ชื่อเล่นที่แฟนๆ SMAP จะใช้เรียกคิมุระกันคือ Captain ค่ะ มีที่มาจากรายการวิทยุ What's Up SMAP ที่คิมุระจัดประจำทุกคืนวันศุกร์ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นชื่อเล่นที่เหมาะสมมากในสายตาแฟน SMAP เพราะสถานะภาพและบทบาทของ 2TOP (นาคาอิและคิมุระ)เป็นแบบนั้นจริงๆ คือ SMAP มีนาคาอิเป็น Leader และมีคิมุระเป็น Captain รูปใหญ่เกิน เอาออกดีกว่า ^^" แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 07:18:07 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 01:22:57 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:22:30

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนอะไรต่ออะไรจะดีขึ้น กลยุทธและแนวทางที่คุณมิจจินำมาใช้เริ่มส่งผล ไม่ใช่แค่คิมุระ แต่คนอื่นๆในวงก็มีงานละคร งานพิธีกรเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ทำให้วงดังตามไปด้วย แม้รายการวาไรตี้สองรายการของวงคือ Ai Love SMAP กับ Yume ga Morimori จะปิดตัวลง แต่วันที่ 16 เมษายน 1996 ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจุดนึงที่ส่งผลมาถึงสถานะของ SMAP ในปัจจุบัน วันนั้นเป็นวันออกอากาศวันแรกของสองรายการสำคัญในประวัติศาสตร์ของ SMAP และวงการทีวีญี่ปุ่น โดยหลังจากเกิดกระแสคิมุทาคุฟีเวอร์ขึ้น วันนี้เป็นวันออกอากาศวันแรกของ Long Vacation ละครเรื่องแรกที่มีคิมุระ ทาคุยะเป็นดารานำในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของช่องฟูจิทีวีที่เรียกกันว่า Getsu9 หลังจาก Long Vacation ฉายตอนแรกจบปุ๊ป ช่องฟูจิทีวีก็ฉายรายการวาไรตี้ใหม่เอี่ยมต่อทันที เป็นรายการวาไรตี้ที่มี SMAP ทั้งวงเป็นพิธีกรอย่างแท้จริงคือรายการ SMAPxSMAP หรือในชื่อที่คนทั่วญี่ปุ่นเรียกกันติดปากในเวลาต่อมาว่าสมาสมา (スマスマ) นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการไอดอลญี่ปุ่น(และเอเชีย)ที่เอาไอดอลมาทำรายการวาไรตี้แบบนี้ ตอนเปิดตัวรายการก็เป็นที่ฮือฮาอยู่มาก เพราะเป็นวาไรตี้ที่เอาสมาชิกในวงมาแสดง skit ล้อเลียนต่างๆ เป็นที่จับตามองเพราะการเอาไอดอลมาเล่นตลกเต็มๆรายการในช่วง prime time เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน แล้วการเสี่ยงร่วมกันครั้งนี้ของฟูจิทีวีกับ SMAP ก็ส่งผลอย่างงาม เรียกว่าเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะ Long Vacation ทำเรทติ้งไปถล่มทลาย แค่ตอนแรกก็ได้ไป 30% สร้างกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมือง ส่งผลให้คิมุทาคุฟีเวอร์ขึ้นสู่จุดสูงสุด คิมุระ ทาคุยะกลายเป็นดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ไปทันที ส่วน SMAPxSMAP รายการ primetime รายการแรกและรายการเดียวที่มี SMAP ทั้งวงเป็นพิธีกร ก็กลายเป็นรายการวาไรตี้ที่มีเรทติ้งสูงสุดติดต่อกันกว่าสิบปี และยังออกอากาศอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ล่าสุดปีที่แล้ว ก็ยังเป็นรายการวาไรตี้ของไอดอลรายการเดียวที่ติด top10 อยู่ที่อันดับ 6 เรทติ้งเฉลี่ย ณ​ ปัจจุบันของปีนี้ ก็ยังเป็นรายการวาไรตี้ของไอดอลที่เรทติ้งสูงที่สุด เป็นรายการที่แขกไปใครมา ดารานักร้องต่างประเทศเวลาไปญี่ปุ่นก็ต้องไปออกรายการนี้ และแขกที่ออกรายการก็มาจากทุกวงการไม่ว่าจะเป็น Michael Jackson, Lady Gaga Steven Spielberg, Harrison Ford, Brad Pitt, David Beckham จนถึง Mikhail Gorbachev (หลังๆหยิ่งซะด้วย ถ้าเวลาไม่ตรง ถึงดาราระดับโลกอยากจะมาออกก็ปฏิเสธ ไม่เปลี่ยนเวลาให้ ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว Tom Cruise กับ Cameron Diaz มาญี่ปุ่นขอมาออกรายการก็โดนปฏิเสธไป เพราะบังเอิญว่าอาทิตย์ที่สองคนนี้มาญี่ปุ่นนั้นดันเป็นช่วงพักการถ่ายทำของ SMAPxSMAP พอดี) หลังจาก SMAPxSMAP ประสบความสำเร็จมากในช่วง prime time สถานีทีวีต่างๆถึงเริ่มหันมาใช้บริการไอดอลแทนที่จะเป็นตลกในการทำรายการวาไรตี้ เลยมีรายการวาไรตี้ต่างๆของบรรดาไอดอลเกิดขึ้นมากมายนับตั้งแต่นั้น นี่เป็นเทปแรกสุดของ SMAPxSMAP ค่ะ เป็นช่วงเกมที่เอาสมาชิก 6 คนมาแข่งกันว่าใครจะน้ำตาไหลได้ก่อนกัน จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:32:53

ความคิดเห็นที่ 13 ในส่วนของงานเพลง ก็เริ่มมีการพัฒนา sound ตั้งแต่ชุด Gold Singer ที่ผสมแนวแจ๊สและฟังค์เข้ามา เปลี่ยนจากป๊อปลูกกวาดบอยแบนด์จ๋าในชุดก่อนหน้า และมาลงตัวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในอัลบั้ม TACOMAX ที่เป็นแบบนี้ เพราะคุณมิจจิและสมาชิกเองถึงจะร้องได้ไม่ดี แต่ก็พยายามเน้นภาคดนตรีให้แน่น จริงๆแล้วเราว่า SMAP มี sense และรสนิยมทางดนตรีที่น่าสนใจมากเลยนะคะ แล้วไม่ใช่แค่แต่ละคนมีบุคลิกไปคนละทาง แต่รสนิยมทางดนตรีของแต่ละคนก็แตกต่าง งานเพลงของ SMAP เลยจะมี range ที่กว้างมาก ทั้ง pop rock jazz classic เมื่อ SMAP เริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้าง และในวงการเองก็เป็นที่รู้จักกันถึงวินัยในการทำงานที่สูงมาก ทำให้โปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลงระดับฝีมือดังๆหลายคนสนใจอยากจะร่วมงานด้วย งานเพลงของ SMAP ตั้งแต่นั้นมาจึงฉีกออกมาจากแนวเพลงป๊อปลูกกวาดในยุคก่อนหน้านั้น เพราะเพลงของ SMAP ไม่ได้เจาะจงตายตัวว่าเป็นแนวใดแนวหนึ่ง จึงไม่มีข้อจำกัดในการทำเพลง นักแต่งเพลงหลายคนเคยบอกว่าทำเพลงให้ SMAP สนุก เพราะไม่ต้องกดดันอะไร อยากใส่อะไรก็ใส่ อยากลองอะไรใหม่ๆก็ลองได้ ให้อิสระในการทำงานและสนับสนุนให้ลองของใหม่ได้เต็มที่ ถ้าลองแกะเพลง SMAP มาเล่นนี่จะรู้เลยว่าไม่ง่าย หลายๆเพลงนี่ซับซ้อนพอตัว ลองฟังเพลงนี้ดูค่ะ เลือกแบบคลิปเสียงอย่างเดียวมาให้ฟังเลย เพลง Shiyouyo ซิงเกิ้ลลำดับที่ ...... วางขายเมื่อ 6 มิถุนา 1995 เพลงของวงไอดอลเมื่อ 16 ปีก่อน.....ดนตรีไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะ (ถ้ามองข้ามไอ้เรื่องเสียงร้องไปได้อะนะ ^^") จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:39:40

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากการออกอากาศครั้งแรกของ SMAPxSMAP ได้ไม่ทันไร ก็เกิดเหตุให้ได้ลงข่าวหน้าหนึ่งกัน เมื่อสมาชิกที่ถือเป็นนักร้องนำของวงอย่างโมริ คัตสึยุกิขอถอนตัวจากวงทั้งน้ำตา เรื่องของเรื่องคือการเป็นนักแข่ง autorace เป็นความฝันของโมริคุงมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ การสอบ license เพื่อเป็นนักแข่งนั้น มีกฎว่าต้องทำก่อนอายุ 23 ปี นี่เลยเป็นโอกาสสุดท้ายของโมริคุง เมื่อข่าวหลุดออกมาว่าโมริคุงแอบทางค่ายไปสอบ license เลยจำเป็นต้องเลือกและต้องลาออกจากวง ลุงจอห์นนี่และป้าแมรี่เจ้าของค่ายโกรธโมริคุงเอามากๆ สั่งห้ามสมาชิกคนอื่นให้สัมภาษณ์เด็ดขาด แต่ว่า....นาคาอิกลับไปโผล่หน้าในงานแถลงข่าวลาออกของโมริคุง โดยใส่ชุดเบสบอลไปเต็มยศ ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าการเล่นเบสบอลก็เป็นความฝันในวัยเด็กของตนที่ต้องเลิกไปเพราะอาการบาดเจ็บ ที่มาวันนี้คือมาให้กำลังใจเพื่อนที่ตัดสินใจทำตามความฝันในวัยเด็กของตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้นรู้สึกว่านาคาอิจะโดนตำหนิไปพอสมควรและทั้งวงก็มีปัญหากับทางค่ายไปพักใหญ่ เพราะยังดื้อที่จะจัด SMAPxSMAP เทปพิเศษเพื่ออำลาโมริคุง โดยไม่สนใจลุงกับป้า หลายๆคนนับตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแยกตัวเป็นอิสระออกจากทางค่ายอย่างไม่เป็นทางการ คือยังมีชื่ออยู่ในค่าย แต่ก็เริ่มห่างจากงานรวมของค่ายจอห์นนี่และมีอิสระในการทำงานมากขึ้น การแข่งครั้งแรกของโมริคุง สมาชิกทุกคนไปดูกันครบ และถึงวันนี้ก็ยังไปมาหาสู่ติดต่อกันอยู่ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งหกคนจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ทางค่ายก็ยัง blacklist โมริคุงอยู่จนทุกวันนี้ แม้อาชึพปัจจุบันของโมริคุงจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวงการบันเทิงเลย ทางค่ายก็ยังเข้าไปแทรกแซงสื่อ ทำให้ข่าวการแข่งของโมริคุงออกได้เฉพาะแค่ในสื่อบางสำนักเท่านั้น เท่าที่อิทธิพลของลุงจะไปถึง รายการต่างๆถ้าเอาคลิปเก่าๆของ SMAP มาออก ก็ต้องเบลอหรือตัดโมริคุงออกจากคลิป เรียกว่าทางค่ายทำเหมือนไม่เคยมีคนชื่อโมริ คัตสึยุกิอยู่ในวงนี้ หรือแม้กระทั่งอยู่ในค่าย แต่สมาชิกก็มักจะฉวยโอกาสเวลาออกรายการสดพูดถึงโมริคุงอยู่เสมอแม้จะโดนสั่งห้าม มาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่เลิกเบลอหน้าโมริคุงในคลิป แต่ก็ยังพยายามเลือกมุมกล้องที่ไม่เห็นชัดอยู่ดี คลิปนี้เป็น live สุดท้ายในฐานะสมาชิก SMAP ของโมริคุงค่ะ เป็นเทปพิเศษอำลาโมริคุงของ SMAPxSMAP ตอนท้ายคลิปนาคาอิร้องไห้เป็นเด็กๆเลย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:48:19

ความคิดเห็นที่ 15 การลาออกของโมริกลายเป็นจุดเริ่มของข่าวลือรายปีของ SMAP ที่ลือกันทุกปีมาจนถึงทุกวันนี้ คือข่าวดังแล้วแยกวง คิมุระ ทาคุยะจะออกโซโล่และ SMAP ทั้งวงจะออกจากค่าย ลือบ่อยซะจนจากที่แรกๆก็ตกใจ ถึงตอนนี้แฟนๆเบื่อกันหมดแล้วว่ายังเล่นข่าวนี้ไม่เลิกอีกเรอะ ขนาดว่าคิมุระเคยประกาศกลางคอนเสิร์ทด่าคนเขียนข่าวไล่ให้ไปตายซะ ก็ยังมีข่าวมาอยู่เรื่อยๆ (ไอดอลตัวอย่างจริงๆ ด่านักข่าวว่าไปตายซะต่อหน้าคนดูหลายหมื่น -_-") กลับเข้าเรื่องมาที่จุดหักเหนึงของ SMAP ที่เราว่ารุนแรงที่สุดแต่มีข่าวออกมาคลุมเครือที่สุด คือตอนที่โมริคุงออกจากวงใหม่ๆ หลายๆเสียงวิจารณ์กันว่า แล้ว SMAP จะร้องเพลงยังไงล่ะทีนี้ ^^" ไอ้ก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ 6 คนก็ใช่ว่าจะร้องได้ดีนักหนา นี่คนที่ร้องดีที่สุดออกจากวงไปซะ แล้วจะเอายังไง ประกอบกับการที่คิมุระกระแสแรงมาก พูดตรงๆคือในตอนนั้นดังโดดเด่นจากคนอื่นออกมาเห็นชัด และเพราะก่อนหน้านี้ วงไอดอลชายที่ผ่านๆมาก็มีอายุใช้งานกันประมาณ 5-6 ปีทั้งนั้น ซึ่งก็ได้เวลาพอดี ถึง SMAPxSMAP จะเปิดตัวได้อย่างงดงาม แต่สื่อก็เริ่มกระพือข่าวให้นับถอยหลังรอวันแยกวงได้ล่ะ มีสำนักพิมพ์นึง พิมพ์หนังสือทำเป็น scoop พิเศษเรื่องแยกวงวางขายเป็นเรื่องเป็นราวเลย -_-" จากตรงนี้เราปะติดปะต่อเรื่องเอาเองจากหลายๆแหล่งนะคะ เรื่องจริงๆเป็นยังไง สื่อที่ญี่ปุ่นก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำ คนที่รู้ดีน่าจะมีไม่เกิน 10 คนล่ะมั้ง แต่แฟนในญี่ปุ่นหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อโดนสั่งให้ตัดบัวไม่เหลือใยจากกรณีโมริคุง จนนาคาอิเองต้องประท้วงคำสั่งที่ว่าด้วยการไปโผล่หน้าอยู่ที่งานแถลงข่าวนั้น นั่นก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้ในวงเริ่มหันมาทบทวนความสัมพันธ์ของตัวเองกับค่าย (ส่วนตัวเราเชื่อว่าโมริคุง"โดนบีบให้ออก" ดูจากคำพูดของนาคาอิหลายๆคำในช่วงนั้น) ประกอบกับชื่อเสียงของวงเริ่มติดลมบน อายุที่มากขึ้นก็ต้องการอิสระที่มากขึ้นไปด้วย คนที่น่าจะรู้สึกตรงนี้แรงที่สุดก็คงเป็นคิมุระ เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะยอมใครอยู่แล้ว เมื่อคิมุระออก photobook ของตัวเองโดยไม่ผ่านค่ายจอห์นนี่ แต่ให้พ่อเป็นคนจัดการตอนปลายปี 1996 เลยยิ่งเป็นที่จับตามองและวิพากษ์วิจารณ์หนาหูเข้าไปใหญ่ว่าจะแยกวงและย้ายค่าย ก่อนหน้านั้นไม่นาน มีนักร้องคนหนึ่งเล่าในรายการวิทยุว่าได้คุยกับ SMAP ตอนไปออก Music Station คิมุระ ทาคุยะถามความเห็นเค้าถึงเรื่องการออกจากค่าย มีสังกัดอิสระเป็นของตัวเอง แต่นาคาอิหันมาดุคิมุระว่าอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้น เราไม่รู้อนาคตหรอกว่าจะเป็นยังไง เมื่อนักข่าวไปถามลุงจอห์นนี่ คิตะงาว่าถึงเรื่องการแยกวงและการออกจากค่ายของ SMAP ลุงตอบนักข่าวแค่ว่าตราบใดที่ SMAP ยังมีนาคาอิ ก็หมดห่วงเรื่องแยกวงได้เลย (แต่ลุงแกไม่ยักตอบเรื่องออกจากค่ายแฮะ ตอบแค่เรื่องแยกวงเฉยๆ) จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:55:09

ความคิดเห็นที่ 16 รู้จักSmap ครั้งแรกจากหนังสือวัยรุ่นพวกMyojo ในสมัยก่อน และมาเริ่มต้นฟังเพลงของ Smap จริงๆก็จากเพลง Ganbarimashou แต่เพลงของ Smap ที่ชอบที่สุดก็คงจะเป็น Lion Heart แหละครับ.. ว่าแต่ 1.คุณNAJ ชอบSmap ตั้งแต่ตอนไหนเหรอครับ 2.แล้วใครที่ชอบก่อนเป็นคนแรก 3.ถ้าให้เลือกเพลงโปรดมา1เพลงคือเพลงอะไรครับ จะตีสองแล้ว ชวนคุยแก้ง่วงครับ จากคุณ : มิ๊กกี้เมา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 01:56:31

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้คุณ NAJ อยู่ดึกนะครับ จากคุณ : หน่วยอาชาเหล็ก เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:07:13

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนั้น ถ้าจะมีการเจรจาต่อรองอะไรกันระหว่าง SMAP และลุงจอห์นนี่ อย่างที่บอกไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า photobook เล่มนั้น เป็นงานเพียงชิ้นแรกและชิ้นเดียวของบริษัทที่พ่อของคิมุระตั้งขึ้น แล้วหลังจากปลายปี 1996 เป็นต้นมา SMAP เหมือนจะมีอิสระในการรับงานของตัวเองมากขึ้น อำนาจการตัดสินใจในเรื่องงานเพลงและคอนเสิร์ทก็เปลี่ยนมาอยู่ที่คุณมิจจิและ SMAP เป็นหลัก มีข่าวลือว่ามีการปรับสัญญาและการจ่ายเงินเดือนหักเปอร์เซนต์ให้กับ SMAP ซึ่งว่ากันว่าสัญญาดังกล่าวก็เป็นต้นแบบของสัญญาของวงในค่ายจอห์นนี่รุ่นต่อๆมา และที่เปลี่ยนไปเห็นได้ชัดที่สุด คือตั้งแต่นั้นมา SMAP ก็เหมือนจะแยกตัวเป็นเอกเทศจากทางค่าย เลิกไปงานรวมของค่ายเช่นงานกีฬา และเมื่อเริ่มมีงาน countdown ในปี 1997 ก็ไม่เคยไปร่วม จ้างแดนเซอร์มืออาชีพมาใช้ในคอนเสิร์ทและไม่เอาเด็กจอห์นนี่จูเนียร์มาเป็น back ให้ตั้งแต่นั้น ถึงตรงนี้ ขาเมาท์ทั้งหลายก็เลยยิ่งฟันธงว่าแน่ๆล่ะ ทะเลาะกันแน่ๆ อยากแยกตัวชัวร์ แต่เราว่าส่วนนึงคงเพราะลุงแกเห็นว่าติดลมแล้ว คุณมิจจิก็ไว้ใจได้ เอาเวลาไปดูคนอื่นดีกว่า แล้วพวกนี้มันก็ดื้อมากด้วย คุมกันแบบหลวมๆ ปล่อยให้เป็นอิสระน่าจะ win-win กันทั้งคู่ อีกอย่างเราคิดว่า SMAP ตอนนั้นเริ่มก้าวข้ามคำว่า"ไอดอลจอห์นนี่"แบบเดิมๆไปแล้ว การแยกออกมาจาก image ของจอห์นนี่น่าจะดีกว่า จะเข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่า ถึงจะไม่มีข่าว ไม่มีการฟ้องร้องทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราวออกสื่อ แต่เรามั่นใจว่ามีการเจรจาต่อรองงัดข้อกันข้างหลังแน่นอน ดูจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็พอจะรู้ ถ้าเข้าใจไม่ผิด คลิปนี้น่าจะเป็นงานรวมจอห์นนี่ครั้งสุดท้ายที่ SMAP ไปร่วม คืองาน Johnny Sportsday เมื่อปี 1996 ค่ะ มี SMAP,TOKIO,V6,และคินคิ ชอบช็อตนำปฏิญาณตนของ 2top สุดแล้ว ฮามาก ยังอุตส่าห์เล่น mansai (8:54) จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:08:08

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงเราจะนั่งอ่านไปง่วงนอนไป แต่คาดว่าคุณ NAJ ไม่ง่วง ^^ ที่ๆ อยู่ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ พูดถึง SMAP... อันที่จริงรู้จักเพราะคิมูระ ทาคุยะค่ะ 555 ดูละครแกแล้วชอบมาก ทำไมมนุษย์คนนึงถึงเท่ห์ได้ขนาดนี้!!! ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นไอดอล นึกว่าเป็นนักแสดงอย่างเดียวซะอีก = =" จากคุณ : SK_TL เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:09:39

ความคิดเห็นที่ 20 #16 1. ชอบแบบเรื่อยๆมาเรียงๆช่วงปลายๆยุค 90 น่ะค่ะ ไม่ได้ตามมาก แต่ก็ดูก็ฟังก็อ่านอยู่ ไม่เรียกตัวเองเป็นแฟนคลับ มามีช่วงที่อยู่ไกลบ้าน ไปหาอนิเมญี่ปุ่นมาดูแล้วที่ร้านมีคอน SMAP ให้เช่า ก็เลยหาคอนดูมาตลอดค่ะ แต่ก็ยังไม่ยอมเรียกตัวเองเป็นแฟนคลับอยู่ดี ปฏิเสธตัวเอง รับไม่ได้ว่าเป็นแฟนคลับบอยแบนด์ ^^" มาช่วงหลังๆที่แก่ขึ้นและเบื่อๆกับ American Idol และ AF (ซึ่งก็ยังตามอยู่นะ) เลยรู้สึกว่า จริงๆก็ชอบ SMAP ที่สุดนี่หว่า จะมามัวทำซึนอยู่ทำไม ตอนมีเหตุเมื่อปี 2000 กับ 2001 ก็ยังกลุ้มใจนอนไม่หลับไปตั้งหลายวัน 2. คนแรกที่ชอบคือโกโร่จังค่ะ 3. Original Smile ค่ะ #17 & #19 ตอนนี้ที่ๆเราอยู่ กลางวันแสกๆแดดจ้าเลยล่ะค่ะ บ่ายสองกว่าๆ ^^" แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 02:23:46 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 02:16:35 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:16:00

ความคิดเห็นที่ 21 ตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา ก็เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น พุ่งสุดๆ SMAPxSMAP เรทติ้งดีอย่างต่อเนื่อง ได้ขึ้นคอนเสิร์ทที่โตเกียวโดมเป็นครั้งแรก และมาในปี 1997 ก็ตอกย้ำความสำเร็จทั้งส่วนตัวและส่วนรวมเข้าไปอีก เมื่อละครเรื่องใหม่ของคิมุระ ทาคุยะคือ Love Generation ทำเรทติ้งเฉลี่ยได้ 30.6% ถือเป็นเรทติ้งละครในช่วง getsu9 และช่องพาณิชย์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ณ เวลานั้น) นาคาอิ มาซาฮิโร่ก็ไปได้รุ่งในงานพิธีกร ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมงานขาวแดง(โคฮาขุ) นับเป็นหัวหน้าทีมชายที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์(25) และยังเป็นครั้งแรกที่เป็นไอดอลอีกด้วย (ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นหัวหน้าทีมอีกรวม 6 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาพิธีกรนอกสังกัด NHK ทั้งหมด) ปีนี้ยังเป็นปีที่คุซานางิ สึโยชิได้แสดงละครในบทนำเป็นครั้งแรกในชีวิตกับเรื่อง Ii Hito ทำให้สมาชิกทั้ง 5 คนขึ้นแท่นเป็นพระเอกละครครบทั้งวงเป็นครั้งแรก ด้านงานเพลงนับแต่โมริคุงออกจากวงไปก็ยังไปได้สวย เพลงแรกที่ร้องกัน 5 คนคือ Aoi Inazuma กวาดยอดขายไปได้ถึง 814,220 แผ่น ซิงเกิ้ลหลังจากนั้นก็ยังไปได้ดี ยอดขายยืนระยะอยู่ที่ระดับ 6-7 แสนแผ่น มี SHAKE ที่ดังมาก ยอด shipment ขึ้นไปถึงล้านแผ่น แต่สุดท้ายยอดขายก็ไปได้ไม่ถึง จนมาในเดือนมกรา 1998 ถึงจะมีซิงเกิ้ลที่ทะลุหลักล้านได้เป็นครั้งแรก คือเพลง yozora no mukou เพลงนี้อาจจะไม่ได้เป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ SMAP แต่ส่วนตัวเราคิดว่าเป็นเพลงที่สำคัญที่สุดค่ะ เพราะในช่วงนั้น ถึง SMAP จะไปได้ดีในงานด้านการแสดงและอื่นๆ แต่ก็ยังโดนสื่อวิพากษ์วิจารณ์อยู่ เพราะมีไอ้เรื่อง debut ด้วยยอดต่ำเตี้ยเรี่ยดินเป็นประวัติการณ์ของค่ายที่ยังเป็นชนักปักหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวงรุ่นน้องที่เคยเป็น back ให้ SMAP มาก่อนอย่างคินคิ คิดส์ได้ debut และสามารถทำยอดขายทะลุล้านได้เป็นวงแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายจอห์นนี่​ (นับเฉพาะวงนะคะ) แรงกดดันและเสียงวิจารณ์ก็กลับมาอยู่ที่ SMAP ในส่วนงานเพลง ว่ายังไปได้ไม่ถึงฝั่ง (โห...จะเอาอะไรกันนักหนา) เมื่อสามารถทำยอดขายทะลุล้านได้ในที่สุด ก็เท่ากับหมดเรื่องที่เป็นจุดอ่อนที่คาใจในวงกันมาตลอด นาคาอิและคิมุระต่างก็เคยพูดถึงเพลงของ SMAP ว่าโชคดีที่มีเพลงดีๆมาช่วยในจังหวะที่เหมาะสม แล้วก็พูดถึง Yozora no mukou ขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆตอนนั้นคงเป็นช่วงที่ท้อ ที่กดดันกันอยู่ล่ะมั้ง จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:22:50

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อทะลุหลักล้านได้กับ Yozora no mukou เสียงเมาท์ว่าขาลงก็เลยเงียบไปด้วย รายการสารพัดที่มีสมาชิก SMAP เป็นพิธีกรหรือผู้ร่วมรายการผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ละคร Furuhata Ninsaburo ตอนพิเศษต้นปีของฟูจิทีวีที่มีสมาชิกทั้งวงแสดงเป็นตัวร้าย ทำเรทติ้งไปได้สูงถึง 32.3% ในปี 1999 (ตอนเอากลับมารีรันอีกทีในปี 2006 ทำไปได้ 22.7%) เป็นเรทติ้งที่สูงที่สุดในบรรดาตอนพิเศษทั้งหมดของละครคลาสสิคเรื่องนี้ ละครเรื่อง Beautiful Life (2000) ที่คิมุระนำแสดงทางช่อง TBS ทำเรทติ้งเฉลี่ยได้ 32.3% โดยตอนจบของละครเรื่องนี้ ทำเรทต้ิงได้สูงถึง 41.3% เรียกว่าพอๆกับเรทติ้งในโคฮาขุกันเลย คนอื่นๆก็มีละครที่ทำเรทติ้งได้สูงเกิน 20% กันทั้งนั้น เรียกว่าทุกคนไปได้ดีทั้งงานรวมและงานส่วนตัว ซิงเกิ้ล Lion Heart ที่ออกมาในเดือนสิงหา 2000 ก็ทำยอดขายทะลุล้านไปได้อีกเพลง งานเดี่ยวของคาโตริ ชินโงที่ออกมาในนามของชินโงมาม่า(คาแรกเตอร์หนึ่งในรายการของ SMAP) ก็ทำยอดขายได้เกินล้านแผ่นเหมือนกัน ถือเป็นงานโซโล่ที่ขายได้ดีที่สุดของค่ายจอห์นนี่ และเป็นยอดขายที่สูงที่สุดในบรรดานักร้องไอดอลชายเดี่ยวทั้งหมดที่มีมาของญี่ปุ่น เป็นที่ฮือฮาเพราะเป็นครั้งแรกที่ไอดอลชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาออกซิงเกิ้ลเป็นเรื่องเป็นราว ดังมากๆขนาดที่รัฐบาลญี่ปุ่นแต่งตั้งชินโงมาม่าเป็นทูตพิเศษเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวญี่ปุ่น ถึงตรงนี้ การแยกตัวจากงานรวมของค่ายจอห์นนี่เริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ (คือหายไปเลยจริงๆ) ข่าวลือการแยกวงและแยกตัวออกจากค่ายเลยยิ่งหนาหูขึ้นทุกที ถูกตีพิมพ์กันเป็นรายอาทิตย์ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 02:29:15 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:25:48

ความคิดเห็นที่ 23 อ๊าาาา กดส่งเร็วเกิน ลืมคลิป ^^" จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:27:48

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนนี้อยู่คุณ NAJ อยู่อีกซีกโลกหนึ่งหรือเปล่าครับเนี่ย จากคุณ : หน่วยอาชาเหล็ก เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:32:36

ความคิดเห็นที่ 25 ทัวร์คอนเสิร์ทของ SMAP ในปี 2000 จึงเป็นที่จับตามองของสื่อเพราะข่าวลือหนาหูเรื่องแยกตัวนี้ และแล้วสื่อญี่ปุ่นก็กลับได้ข่าวอื่นที่เรียกได้ว่าเป็นข่าวช็อควงการแห่งทศวรรษเลยก็คงจะได้ เมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่าอดีตไอดอลชื่อดังอย่างคุโด ชิสึกะตั้งท้องและกำลังจะแต่งงานกับคิมุระ ทาคุยะ ถึงตรงนี้ข่าวแพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่งในชั่วข้ามคืน หยุดไม่อยู่จนคิมุระต้องเปิดแถลงข่าว ถึงจะมีข่าวว่าสองคนนี้คบหากันอยู่มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การตกลงปลงใจถึงขั้นแต่งงานนับเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยเฉพาะในวงการไอดอลญี่ปุ่น และยิ่งกับไอดอลจอห์นนี่ที่ดังที่สุดในขณะที่อยู่จุดพีคของอาชีพด้วยแล้ว (ที่ช็อคแฟนๆเข้าไปอีก ก็คือก่อนหน้านี้ไม่ถึงปี คิมุระเพิ่งเลิกกับแฟนคนแรกที่คบกันมาถึง 9 ปีไปหมาดๆ) งานแถลงข่าวเป็นไปอย่างฉุกละหุกและโกลาหล เพราะข่าวว่าลุงจอห์นนี่กับป้าแมรี่โกรธมากๆ ทางค่ายเลยไม่ส่งการ์ดหรือส่งทีมงานมาจัดการอะไรให้เลย คุณมิจจิต้องมาวิ่งหาให้เอาในนาทีสุดท้าย ก่อนหน้างานแถลงข่าว คิมุระเปิดคอนเสิร์ท SMAP ด้วยการยืนก้มหัวให้คนดูและยืนยันข่าวนี้ด้วยตัวเอง หลังจากนั้น แฟนๆบางส่วนที่ซื้อตั๋วคอนเสิร์ทไปแล้ว ตัดสินใจไม่มาดู ปล่อยที่นั่งให้ว่างไว้อย่างงั้น ใครๆก็บอกว่าคงจบกันแล้วกับชีวิตไอดอลของคิมุระ และ SMAP คงมาถึงทางตันแล้วเหมือนกัน สองคนจดทะเบียนกันเงียบๆและไม่ได้มีพิธีแต่งงานอะไรใหญ่โต เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2000 มีเบื้องหลังการแถลงข่าวของคิมุระ คือนาคาอิสั่งสมาชิกและ staff ทุกคนให้นั่งดูอยู่ด้วยกัน จากปากของ staff นาคาอิพูดสั้นๆแค่ว่า "木村は俺達が守る" ~ "พวกเราจะปกป้องคิมุระเอง" เพลง Lion Heart ที่ดันออกมาก่อนหน้าข่าวได้ไม่นานนัก กลายเป็นหัวข้อสนทนาใหม่ของสื่อบันเทิง ว่าเนื้อร้องของเพลงนี้นั้น จริงๆแล้วแต่งขึ้นมาถึงคุโด ชิสึกะและลูกในท้องบ้างล่ะ เป็นเพลงที่คิมุระใช้ขอแต่งงานกับคุโด ชึสึกะบ้างล่ะ (ไปรู้เค้าได้ยังไงเนี่ย) ช่วงนั้นข่าวของคิมุระและคุโดที่เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ เลยมีเพลงนี้ประกอบคลออยู่ตลอดเวลา ซ้ำร้ายไปกว่านั้น จนถึงวันนี้ เพลง Orange ที่เป็น b-side ของ Lion Heart ก็ยังมีแฟนๆเอามาตีความกันว่าจริงๆเป็นเพลงบอกลาคาโอริน แฟนเก่าของคิมุระ คงเพราะคิมุระยืนยันขอเปลี่ยนเนื้อเพลงคำสุดท้ายให้ใช้ arigatou แทน sayonara แล้วเพราะมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คิมุระแสดงให้เห็นว่าฝังใจกับเพลงนี้พอสมควร (จริงๆอาจจะไม่มีอะไรเลย แค่ชอบเพลงนี้เอามากๆก็ได้นะ แฟนๆคิดมากกันไปเอง ^^") จนถึงวันนี้ Lion Heart ยังถือเป็นเพลงแห่งความหลังนึงของแฟนๆ SMAP ในช่วงเวลานั้น เพราะเพลงนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงานของคิมุระ ทาคุยะไปแล้วนั่นเอง คลิปนี้เป็น Lion Heart เวอร์ชั่นที่ร้องในคอนเสิร์ทเมื่อปี 2000 ค่ะ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:37:37

ความคิดเห็นที่ 26 อยู่เมืองเล็กๆในรัฐเล็กๆในอเมริกาที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักน่ะค่ะ ^^" จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:39:22

ความคิดเห็นที่ 27 ถึงนักวิเคราะห์ทั้งหลายจะฟันธงคอนเฟิร์มว่าถึงทางตันของ SMAP แล้ว แต่ด้วยแรงส่งของ Lion Heart เรทติ้งของ SMAP ในโคฮาขุก็ทำไปได้ถึง 51.8% เป็นเรทติ้งสูงสุดอันดับหนึ่งของบรรดานักร้องทั้งหมดในโคฮาขุปีนั้น ต้นปี 2001 ละครเรื่องใหม่ของคิมุระคือ HERO ก็เริ่มออกอากาศ และก็เป็นเรื่องเดียวที่ทำเรทติ้งได้เกิน 30% ทุกตอน กลายเป็นสถิติใหม่ของ getsu9 ทุบสถิติเดิมของตัวเองจาก Love Generation ที่ทำไว้เมื่อปี 1997 บทพระเอกของเรื่องคือคุริว โคเฮย์ อัยการที่มีแนวคิดและวิธีทำงานที่แหวกแนว สร้างกระแสซะจนมีคนแห่ไปสมัครเป็นอัยการ ไปเรียนกฏหมายมากเป็นประวัติการณ์ จนถึงทุกวันนี้ HERO ยังเป็นละครในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาที่เรทติ้งดีที่สุดของญี่ปุ่น เรียกว่าหักปากกาเซียนทั้งหลายที่ทำนายจุดจบในวงการของคิมุระไว้โดยสิ้นเชิง และเนื่องจากในปี 2001 เป็นปีครบรอบสิบปีที่ debut กันมา SMAP ก็เลยออกอัลบั้ม Vest ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมซิงเกิ้ลที่ผ่านๆมาแต่นำมาอัดเสียงกันใหม่ แล้วก็ทำยอดขายไปได้เกินล้าน มีทัวร์คอนเสิร์ทฉลอง 10 ปีทั่วญี่ปุ่นอย่างยิ่งใหญ่.....จากที่ทำท่าว่าจะร่วงก็ยังกลับมารุ่งได้อีกครั้ง และมีเพลงพิเศษฉลองครบ 10 คือ SMAC (SMAP Music Anniversary CD) ซึ่งเป็นเพลงที่เอาเนื้อร้อง ชื่อเพลงและดนตรีของซิงเกิ้ลเก่าๆมาเรียบเรียงเป็นเพลงเดียวกัน (ฟังเพลงนี้แล้วสนุกดีตรงมานั่งแกะว่าตรงไหนมาจากเพลงอะไรนี่แหละค่ะ) หมายเหตุ เรตติ้ง renzoku dorama ในช่องพาณิชย์ที่ออกอากาศตั้งแต่กลางปี 1977 เป็นต้นมา มีละครแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่ทำเรทติ้งเฉลี่ยได้สูงกว่า HERO คือ Tsumiki Kuzushi (1983) นอกนั้นตั้งแต่อันดับ 2-6 ล้วนแต่เป็นละครที่นำแสดงโดยคิมุระ ทาคุยะทั้งสิ้น เพราะเหตุนี้ถึงได้รับสมญาที่รู้จักกันดีในหมู่คนดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นว่าเป็น King of J-Drama (ละครเรื่องไหน ตอนไหนทำไม่ถึง 20% ถึงจะชนะเรื่องอื่นหมด เลยจะเป็นข่าวฮือฮามาก) คลิปนี้เป็นการรวบรวมสรุปความสำเร็จของกระแสคิมุทาคุที่ยาวนานเป็นสิบๆปี มีทั้งเรื่องโปสเตอร์โดนขโมย เรทติ้งละครและผลโหวตจากนิตยสาร An-An ที่คิมุระ ทาคุยะได้อันดับหนึ่งติดต่อกัน 15 ปีจนตอนหลังเค้าต้องเลิกโหวตไปเลย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:45:16

ความคิดเห็นที่ 28 มาให้กำลังใจคุณ NAJ ครับ อ่านมาได้ถึงตรงที่คุณ NAJ โพสต์ไว้แล้ว อือ... อยากอยู่ต่อให้จบ แต่นี้ น่าจะยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ 555+  คำเดียวที่ได้จากกระทู้นี้คือ ประทับใจ ใน SMAP ครับ ปล. ประโยคที่ชอบที่สุดในเพลง Lion Heart ก็คือ  君はいつも僕の 薬箱さ  どんな風に僕を 癒してくれる  "คุณคือกล่องยาของ ไม่ว่าผมจะเป็นอะไรคุณก็เยียวยาผมเสมอ"  Shot แรกคือ ทำไมต้องกล่องยา !! Shot 2 คือ มันหวานมากๆ >~< (นี่ท่อนแรกเฉยนะ ทั้งเพลงขึ้นชื่อว่าเลี่ยน 55+) จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:53:34

ความคิดเห็นที่ 29 แต่แล้วในวันที่ 24 สิงหาคม 2001 ก็เกิดเรื่องให้ SMAP ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วประเทศอีกจนได้ เมื่อในช่วงพักระหว่างคอนเสิร์ท อินางาขิ โกโร่เกิดมักง่ายไปจอดรถในที่ห้ามจอดเข้า เมือวิ่งกลับมาที่รถก็เห็นคุณตำรวจสาวกำลังเขียนใบสั่งอยู่ พร้อมกับนักข่าวที่มารุมเพื่อถ่ายรูป ด้วยความที่คิดสั้นๆ อยากจะหนีใบสั่งและอยากจะหนีนักข่าว (บ้างก็ว่ามีสาวนั่งอยู่ในรถด้วย^^") ก็เลยขับออกมาทั้งอย่างงั้นเลย แต่คุณตำรวจสาวก็ฟิตจัดกระโดดเข้าขวางรถจนโดนเฉี่ยว จากคดีจอดรถในที่ห้ามจอดธรรมดา เลยกลายเป็นคดีขับรถชนและขัดขวางการปฏิบัติงานของตำรวจ โดนตำรวจคุมตัวไว้อยู่เป็นวัน ต้องจัดแถลงข่าวกันอย่างฉุกละหุกกันอีกรอบ (แต่คราวนี้ลุงยอมจัดให้) แถมกำลังอยู่ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ท ซึ่งตอนที่ถูกตำรวจคุมตัวอยู่นั่น อีกสี่คนกำลังแสดงอยู่ที่นาโกย่า ในงานแถลงข่าว ก้มหัวขอโทษแฟนๆและประชาชนทั่วไปทั้งน้ำตา ตามประสาไอดอลญี่ปุ่นที่ความผิดนี้ร้ายแรงนัก อีกสี่คนที่เหลือรู้เรื่องของโกโร่ในตอนกลางดึกของคืนที่เกิดเรื่อง สิ่งที่นาคาอิทำทันทีคือเปลี่ยนแผนงานคอนเสิร์ทใหม่ทั้งหมดให้เล่นกันแค่สี่คนให้ได้ staff คอนเสิร์ทเล่าว่าตอนนั้นทั้งสี่คน ไม่มีใครพูดอะไรถึงเรื่องนี้หรือมีปฏิกิริยาอะไร มีแต่ปรึกษาและซ้อมตามแผนคอนเสิร์ทที่ปรับใหม่กันในคืนนั้นจนถึงรุ่งเช้าโดยไม่ได้นอน ไม่ยอมที่จะยกเลิกคอนเสิร์ท เพราะไม่อยากทำให้แฟนๆผิดหวังซ้ำเข้าไปอีก นาคาอิมาพูดทีหลังว่า สิ่งแรกที่คิดคือจะทำให้ทุกคนดูว่าถึงจะมีแค่ 4 คน SMAP ก็ยังยอดเยี่ยม แต่ลึกๆในใจก็รู้ว่าให้พยายามยังไง ถึง SMAP 4 คนจะดีแค่ไหน ก็สู้ SMAP ที่มี 5 คนไม่ได้อยู่ดี สี่คนจบทัวร์ฉลองครบ 10 ปีโดยไม่มีโกโร่......แต่ทุกคนใส่เสื้อยืดที่สกรีนหน้าโกโร่เอาไว้ และประกาศกับแฟนๆว่านี่คือเวทีของ SMAP เวทีที่ไม่ว่ายังไงก็ยังมีกันอยู่ 5 คน คลิปนี้เป็นคลิปคอน urasmap (pamS) ที่มีกันแค่ 4 คนค่ะ ป้าแมรี่โหดได้ใจ หลังโกโร่โดนจับ เก็บของที่มีรูปโกโร่หน้างานหมดเกลี้ยง ไม่เหลือสักชิ้น vdo คอนที่ออกขายปีนั้น ก็ใช้เวอร์ชั่นที่มีแค่ 4 คนมาวางขาย เป็นคอน SMAP ที่เราดูแค่รอบเดียวพอ ทนดูไม่ได้อะ เห็นชัดๆว่าฝืนยิ้มกว่าปกติ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 02:57:52

ความคิดเห็นที่ 30 ผลจากเรื่องนี้ โกโร่จังโดนพักงานไม่มีกำหนด หนังละครโฆษณาโดนยกเลิก บริษัทเสียหายเป็นพันล้าน ระหว่างนี้ SMAP อีกสี่คนไม่ยอมออกซิงเกิ้ลใหม่ และยังปฏิเสธการไปออกรายการสิ้นปีทั้งหลายอีกด้วย แม้แต่งานใหญ่อย่างโคฮาขุ ที่ประธานของ NHK ออกปากเองว่าไม่ติดใจอะไรเลยถ้าโกโร่จังจะมาขึ้นเวที แต่เพราะลุงกับป้ายังไม่ถอนคำสั่งพักงานของโกโร่ ทุกคนเลยปฏิเสธการขึ้นเวทีที่มีไม่ครบ 5 คน มีอยู่แค่เวทีเดียวที่ยอมไปออกคือเวที FNS ของฟูจิทีวีที่เหมือนกับเป็นบ้านของ SMAP สี่คนขึ้นเวที FNS เพื่อขอโทษประชาชนทั่วไปหน้าทีวี หลังจากที่ก้มหัวขอโทษแฟนๆในคอนเสิร์ทไปแล้ว พร้อมกับประกาศว่า SMAP "5 คน" จะพยายามทุกอย่างเพื่อกลับมาขึ้นเวทีร้องเพลงกันอีกครั้ง SMAPxSMAP ถูกงดออกอากาศไปเกือบสองเดือน และกลับมาอีกครั้งโดยปรับรูปแบบนิดหน่อย ทั้งสี่คนบอกว่า ต้องรักษา SMAPxSMAP เอาไว้ เพื่อจะได้เป็นบ้านให้โกโร่จังกลับมาได้ SMAPxSMAP จึงเป็นงานเดียวที่ทั้ง 4 คนยังทำงานรวมอยู่ในฐานะของ SMAP ระหว่างที่โดนพักงาน สมาชิกทุกคนจะฉวยโอกาสพูดถึงโกโร่ในทุกรายการสดที่ไปร่วม และย้ำในทุกสัมภาษณ์และทุกสื่อที่ไปออก ว่า"SMAP 5 คน" จนกลายเป็นคำติดปากของแฟนๆไปด้วย หลังจากดื้อและงัดข้อกันอยู่นาน ในที่สุดโทษแบนของโกโร่ก็ถูกยกเลิก รวมเป็นเวลา 143 วัน การกลับมาของโกโร่จังครั้งแรกคือการออกอากาศสดของ SMAPxSMAP ในวันที่ 14 มกรา 2002 มาขอโทษแฟนๆทั่วประเทศกันอีกครั้ง พร้อมกับร้องเพลงด้วยกัน 5 คนครั้งแรกในรอบครึ่งปีทั้งน้ำตา เรทติ้งของ SxS วันนั้นได้ไป 34.2% ถือเป็นรายการวาไรตี้ของไอดอลที่มีเรทติ้งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นเทปที่มีเรทติ้งสูงที่สุดเป็นอันดับแปดในประวัติศาสตร์รายการวาไรตี้ตั้งแต่มีการวัดเรทติ้งในปี 1977 ทัวร์คอนเสิร์ทแรกของ SMAP หลังการกลับมาของโกโร่คือ Drink! SMAP ในปลายปี 2002 เป็นทัวร์ที่ทำยอดผู้ชมรวมทั้งหมด 1.15 ล้านคน ยังครองสถิติสูงสุดในวงการเพลงญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้ คลิปนี้เป็น final encore ของทัวร์ Drink! SMAP ค่ะ จากคลิปเบื้องหลังจะเห็นแดนเซอร์และบรรดา staff ที่นั่งดูอยู่หลังเวทีร้องไห้กันหมดเลย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 03:13:16

ความคิดเห็นที่ 31 ในอัลบั้ม Drink! SMAP ที่ออกในปี 2002 นั้น มีเพลงที่คุณมากิฮาร่า โนริยูกิแต่งให้ SMAP เพลงนึง เป็นเพลงที่คุณมากิฮาร่าใช้ image ของ SMAP มาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง จากการผลักดันของคุณมิจจิ สมาชิก SMAP แต่ละคนมีแนวทางของตัวเอง มีจุดเด่นในแต่ละด้านต่างกันไป ไม่มีใครเด่นไปกว่าใคร เพราะต่างก็มีดีอยู่ในทางของตัวด้วยกันทั้งนั้น ด้วย image ตรงนี้ จึงได้เกิดเพลงประวัติศาสตร์ที่ชื่อ Sekai ni Hitotsu Dake no Hana ขึ้น เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาจาก SMAP และเพื่อ SMAP อย่างแท้จริง คุณมากิฮาร่าเคยบอกว่าเพราะเป็นเสียงของ SMAP ถึงได้สื่อเพลงนี้ออกมาได้ดีที่สุด สำหรับเรา ถึงบางเวทีจะร้องเพี้ยน ถึงบางครั้งนาคาอิจะเสียงหายไปดื้อๆ แต่ทุกครั้งที่ SMAP ร้องเพลงนี้ มันมีอะไรสักอย่างที่มากกว่าเนื้อเพลงและเสียงร้อง และยิ่งถ้าอยู่ในคอนเสิร์ทที่คนดูห้าหมื่นกว่าคนทำท่ามือร้องเพลงนี้ตามไปพร้อมๆกันแล้ว จะเข้าใจเลยล่ะค่ะ ว่าทำไมคุณมากิฮาร่าถึงพูดแบบนั้นทั้งๆที่เป็นเพลงที่ตัวเองแต่งเอง Sekai ni Hitotsu Dake no hana ถูกใช้เป็นเพลงประกอบซีรี่ส์ Boku no ikiru michi ซึ่งนำแสดงโดยคุซานางิ สึโยชิและออกอากาศเมื่อต้นปี 2003 เมื่อซิงเกิ้ลนี้ออกวางขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2003 ก็ทำยอดขายถล่มทลาย ทะลุหนึ่งล้านแผ่นได้ภายในสองอาทิตย์ และยังขายดีอย่างต่อเนื่องจนยอดรวมอยู่ที่ 2.58 ล้านแผ่น กลายเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดอันดับที่ 9 ในประวัติศาสตร์ชาร์ทโอริกอน ดังมากจนหลายคนล้อว่าเป็นเพลงชาติ SMAP และเพลงประจำชาติญี่ปุ่นที่ร้องกันในทุกเทศกาล ที่ยังได้ยินหลายๆงานร้องกันแล้วร้องกันอีกแม้กระทั่งถึงวันนี้ก็ตาม ล่าสุด เมื่อสนามบินฮาเนดะปรับปรุงใหม่ ก็ยังเลือกเพลงเก่าอายุเกือบสิบปีนี้เป็นเพลงธีม ถ้าไปลงเครื่องที่ฮาเนดะและนั่งรถไฟจากที่นู่น จะได้ยินเพลงนี้ทุกครั้งที่รถไฟมาถึงสถานีค่ะ และเพราะความดังถล่มทลายของ sekai ni hitotsu dake no hana นี่เอง ทำให้ SMAP สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการได้รับเกียรติให้ได้ร้องปิดงานโคฮาขุในปีนั้น นับเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่นักร้องเพลงป๊อปได้ร้องปิดงานโคฮาขุ แทนที่จะเป็น kayo หรือ enka สำหรับเรา วินาทีที่ร้อง SekaiHana ในโคฮาขุวันนั้นคือจุดสูงสุดในวงการเพลงของ SMAP จากที่เคยดู live ของ SMAP มาทั้งหมด สีหน้าทุกคนตอนร้องจบเพลงวันนั้นติดตาลืมไม่ลงจริงๆ จากการเริ่มต้นในวงการเพลงอย่างทุลักทุเล ดิ้นรนอยู่นานกว่าจะขึ้นที่หนึ่งโอริกอน ร่ำๆว่าจะถูกยุบวง สิบสองปีผ่านไป ผ่านอะไรกันมามากมาย ในที่สุดก็ได้รับเกียรติสูงสุดในอาชีพนักร้อง จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 03:23:51

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจาก Sekai ni Hitotsu Dake no Hana สถานภาพในวงการของ SMAP ก็เหมือนเป็นดาวค้างฟ้า ถ้าให้เปรียบกับบ้านเราก็คงเหมือนกับพี่เบิร์ดล่ะมั้งคะ เป็นที่รู้จักของทุกคนทุกเพศทุกวัย เป็นดาราในหมู่ดารา ที่พวกดาราด้วยกันเองเวลาเจอ SMAP ก็จะตื่นเต้นและเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ออกเพลงออกอัลบั้มมา ยอดขายถึงจะสู้ดาวรุ่งในปีนั้นๆไม่ได้ แต่คนก็ยังยกย่องให้เกียรติเป็นซุปเปอร์สตาร์ ในปี 2003 กับทัวร์ MIJ เป็นครั้งแรกที่ SMAP ได้ไปแสดงที่ International Stadium Yokohama หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nissan Stadium สนามที่ใช้จัดการแข่งขันรอบชิงฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 ซึ่งเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นักร้องญี่ปุ่นที่สามารถจัดคอนเสิร์ทที่นี่ได้ ล้วนแต่เป็นสายร็อครุ่นใหญ่ทั้งนั้น จนถึงทุกวันนี้ SMAP เป็นวงไอดอลเพียงวงเดียวที่เคยไปจัดคอนเสิร์ทที่ Nissan Stadium ลุงจอห์นนี่ตบรางวัลคุณมิจจิด้วยการตั้งบริษัทใหม่ให้คุณมิจจิเป็นผู้ดูแล ชื่อว่า J-Dream หน้าที่ของ J-Dream คือดูแลเรื่องการผลิตงานต่างๆที่เกี่ยวกับ SMAP ล้วนๆ ไม่ยุ่งกับใครและไม่มีใครยุ่ง แม้ว่า agency อย่างเป็นทางการของ SMAP ยังคงเป็น Johnny Jimusho อยู่ก็ตาม แต่งานทุกอย่างก็ต้องส่งต่อไปที่ทีมผู้จัดการของ SMAP ที่นำโดยคุณมิจจิให้เป็นคนวางแผนตัดสินใจ ถึง J-Dream จะมีชื่อเป็นแค่ทีมผลิต แต่ในทางปฏิบัติทีมนี้ก็คือทีม agency ที่แท้จริงของ SMAP นั่นเอง ว่ากันว่า การก่อตั้ง J-Dream ของลุงจอห์นนี่นั้น ลึกๆแล้วคือการดึงคุณมิจจิและ SMAP ให้ยังอยู่กับค่าย เพราะคนที่อยู่กับ SMAP มาตลอด ใกล้ชิดด้วยที่สุด และมีอำนาจตัดสินใจใน SMAP ที่สุดคือคุณมิจจิ ถ้าคุณมิจจิจะไป หลายคนเชื่อว่า SMAP ทั้ง 5 คนก็จะไม่ลังเลที่จะตามคุณมิจจิออกไปด้วยกัน ว่ากันถึงสัญญาของ SMAP กับจอห์นนี่ ไม่มีใครรู้ว่ารายละเอียดเป็นยังไง แต่หลายสื่อรายงานตรงกันว่าถึงตรงนี้ น่าจะเป็นสัญญาระยะสั้น 1-2 ปี คาดกันว่า ช่วงคาบเกี่ยวของสัญญาจะอยู่ในช่วงราวๆเดือนพฤศจิกา - มกรา ทำให้ข่าวลือแยกวง แยกค่ายมันมักจะกลับมาในช่วงเวลานี้เป็นประจำ ส่วนตัวเชื่อว่าตราบใดที่ลุงจอห์นยังมีชีวิตอยู่ ยังไง SMAP ก็ไม่ไปไหน เหมือนที่ SMAP ไม่ยอมทิ้ง Victor ทั้งๆที่มีหลายค่ายยักษ์จีบแล้วจีบอีกให้ย้าย เพราะในเวลาที่ SMAP เป็นแค่มดตัวเล็กๆในวงการที่ไม่มีใครสนใจ ไม่อยากได้ แต่ Victor คือค่ายที่ให้โอกาสและอยู่ข้างๆ SMAP มาตลอด ฉะนั้นกับลุงก็คงเหมือนกัน ถึงจะเคยถูกดุ ถูกด่า ถึงลุงจะเคยพูดจาและทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่คิดว่าทุกคนไม่เคยลืมว่าถ้าไม่มีลุงจอห์นนี่ ก็คงไม่ได้มาเจอกัน และมาจนถึงตรงนี้ แฟน SMAP เองถึงจะยกย่องคุณมิจจิมากกว่า ก็ยังยอมรับและให้เครดิตลุงจอห์นนี่ แม้แต่ป้าแมรี่ที่หลายคนเคืองว่าเข้มงวดและโดนกระแสข่าวลือว่าไม่ถูกกับคุณมิจจิก็ตาม แฟนๆหลายคนก็ยังไม่ลืมว่าป้าแมรี่ก็มีส่วนปลุกปั้นดูแล SMAP มาตั้งแต่สมัยยังไม่ดัง แม้ทุกวันนี้ ในหลายๆงานของ SMAP ก็ยังมีคนเห็นป้าแมรี่ไปยืนดูช่วยจัดแจงงานต่างๆด้วย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 03:29:49

ความคิดเห็นที่ 33 ในปี 2005 กับทัวร์ SAMPLE นอกจากจะกลับไปเล่นที่ Nissan Stadium อีกครั้งแล้ว ก็ยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นวงแรกที่ไปแสดงคอนเสิร์ทที่ Kokuritsu Stadium สนามที่จัดการแข่งโอลิมปิกเมื่อปี 1964 ถือเป็นสนามที่มีประวัติและมีเกียรติมากที่ได้ไปแสดงที่นี่ ปีนี้สึโยชิกับชินโงยังได้รับเลือกเป็น main personality ของ 24hrs TV ของสถานี NTV และเป็นปีที่ทำเรทติ้งได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมาคือ 19% ต่อมาในปี 2006 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 15 ปี ทัวร์ Pop Up! SMAP ก็ยังไปจัดที่ Kokuritsu อีกเช่นเคย ถึงจะทำสถิติเป็นมียอดคนดูเกิน 1 ล้านคนติดต่อกันสี่ทัวร์ติด แต่ก็เกิดปัญหาหนักอยู่อย่างนึง คือการบาดเจ็บของหัวหน้าวงคือนาคาอิ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในคอนเสิร์ททุกครั้ง ระหว่างทัวร์ครั้งนี้ นาคาอิมีอาการบาดเจ็บหนักสองอย่างคือซี่โครงร้าว และกล้ามเนื้อข้อเท้าฉีก วันที่เจ็บหนักที่สุด staff และฝ่ายพยาบาลถึงกับบอกให้พักเถอะไม่ต้องขึ้นเวที ให้ขึ้นแสดงแค่สี่คนเท่านั้น แต่ยังไงเจ้าตัวก็ยังดื้อ บอกว่าคนดูเค้าตั้งใจจะมาดู SMAP 5 คนนะ ไม่ใช่โชว์ที่มีไม่ครบคน (เมื่อก่อนก็เคยถอดสายน้ำเกลือหนีออกจากโรงพยาบาล เพราะไม่ยอมให้ SMAP ขึ้นโชว์ไม่ครบวงมาแล้ว) จากที่เป็นคนวางแผนเพื่อสมาชิกที่เหลือมาตลอด คราวนี้อีกสี่คนเลยบอกให้ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพวกเราสี่คนเปลี่ยนท่าเต้น เปลี่ยนตำแหน่งยืนกันเอาเอง ให้ยืนร้องอยู่ด้วยกันบนเวทีก็พอ ถ้าดู DVD เบื้องหลังจะเห็นว่าหลังเวทีนาคาอิต้องนั่งรถเข็น และเอาขาจุ่มน้ำแข็งเพื่อบำบัด ปวดจนน้ำตาไหล แต่พออยู่หน้าเวที ถึงจะเต้นไม่ถนัดนัก แต่หน้าตายังยิ้มแย้มได้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วระหว่างที่คุยเฮฮาในช่วง MC กับคนดูบนเวที ก็เลยมีการตั้งข้อสังเกตกันขึ้น ว่าพวกเรา SMAP นี่มีเหตุกันทุกๆ 5 ปีเลยนะ เริ่มจากคอนเสิร์ทแรกชินโงก็ขาหัก มาปีที่ครบ 5 ปีได้ขึ้นโตเกียวโดมครั้งแรก โมริคุงก็ต้องออกจากวง มาครบปีที่ 10 โกโร่ก็โดนตำรวจจับ พอมาปีที่ 15 นาคาอิก็มาเจ็บหนักซะอีก แล้วก็เลยพูดกันเล่นๆว่า......อีก 5 ปีหลังจากนี้ สึโยชิระวังจะนิ้วหัก (อืมนะ....พูดเป็นลาง) ไอ้เรื่องคำสาปห้าปีที่พูดกันเล่นๆนี่ ทำเอาแฟนๆหลายคนคิดจริงจังอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะมันช่างเป็นวงที่ผ่านอะไรกันมาเยอะเหลือเกิน จะมีอะไรให้เครียดกันอีกเหรอ แล้วปีนี้ก็ออกซิงเกิ้ลพิเศษครบรอบ 15 ปีคือเพลง Arigatou จริงๆเพลงนี้ทีแรกไม่ได้คิดจะทำขายหรอกค่ะ แค่จะเอามาร้องเฉพาะในคอนเสิร์ทเฉยๆ แต่ปรากฏว่าแฟนๆเรียกร้อง ก็เลยตัดสินใจตัดเป็นซิงเกิ้ลออกมาขายซะ ดูจากคลิปจะเห็นแว๊บๆว่านาคาอิค่อยๆตะกายขึ้นบันไดโดยมีชินโงคอยช่วยอยู่ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 03:40:29

ความคิดเห็นที่ 34 ช่วงหลังมานี้ SMAP เริ่มออกงานเพลงน้อยลง ปี 2007 ออกแค่หนึ่งซิงเกิ้ล ซึ่งซิงเกิ้ลปี 2007 คือ Dangan Fighter นี้ ก็เป็นซิงเกิ้ลที่แฟนๆเมาท์กันว่าสักแต่ว่าออก เพราะมาออกเอาตอนเดือนธันวานู่นเลย เกือบจะไม่ไปออกสารพัดรายการสิ้นปีแล้วเพราะไม่มีเพลงใหม่ ถึงแฟนๆจะกัดซิงเกิ้ลนี้เล็กๆ แต่ก็ยังดีที่มีเพลงใหม่ เลยไม่ปฏิเสธรายการต่างๆเหมือนตอนปี 2004 ซิงเก้ิลที่ออกมาหลังจากนั้นในปี 2008 ก็แทบไม่มีการไปโปรโมทตามรายการเพลงต่างๆเลยค่ะ เน้นร้องกันอยู่แค่ใน SMAPxSMAP เท่านั้นเอง มีซิงเกิ้ลนึง Music Station ก็ไม่ไป จากที่เคยทัวร์คอนเสิร์ทติดต่อกันทุกปี ก็เริ่มกลายเป็นว่ามีบ้างไม่มีบ้าง จัดทัวร์ปีเว้นปี แต่งานส่วนตัว อัดกันแน่นเต็มตาราง มีไปเทศกาลหนังที่คานส์บ้าง ที่มอสโคว์บ้าง เมื่องานรวมน้อยลง ไปเน้นงานส่วนตัวกันซะมาก ข่าวลืออมตะเรื่องแยกวงก็กลับมาอีกรอบ (ทั้งๆที่จริงๆก็ทำ SMAPxSMAP กันอยู่ทุกอาทิตย์ เจอกันอย่างน้อยอาทิตย์ละสองวันอะนะ) จนมาวันที่ 23 เมษายน 2009 ก็เกิดข่าวให้แฟนๆ SMAP ได้ช็อคกันอีกครั้ง เมื่อคุซานางิ สึโยชิถูกตำรวจจับข้อหาเมาแก้ผ้าอาละวาดในสวนสาธารณะในกรุงโตเกียวกลางดึก ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ระดับโลก สื่อสากลอย่าง BBC, Reuter, AP, AFP, Al Jazeera เล่นข่าวนี้กันหมด เพราะการโดนจับของสึโยชิครั้งนี้ เล่นเอาหุ้นของ JVC (ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Victor) ตกไปด้วย แล้วบรรดาสารพัดสินค้าและรายการทีวี หนัง ละครที่ใช้สึโยชิอยู่ก็พลอยได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า มีนักวิเคราะห์บอกว่า มูลค่าความเสียหายจากการโดนจับครั้งนี้ของสีโยชิสูงถึง 5 พันล้านเยนกันเลย ในชั่วเวลาสองวันนั้นมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ข่าวออกในตอนเช้าซึ่งเล่นเอาช็อคกันทั้งประเทศ พอตอนบ่ายตำรวจถึงขนาดไปค้นบ้าน หลังจากตำรวจยืนยันว่าไม่พบสารเสพย์ติดอะไรเลย แค่เมาเฉยๆ ตำรวจก็ซวยล่ะทีนี้ ^^" ตำรวจโดนกระแสสังคมวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าทำเกินกว่าเหตุ แค่เพราะเห็นว่าเป็นดารา วันนั้นและวันรุ่งขึ้นสถานีตำรวจที่ควบคุมตัวสึโยชิไว้ไม่เป็นอันทำอะไร มีแต่คนโทรศัพท์เข้ามาด่า มีบางรายถึงกับโทรไปขู่ว่าเป็นยากุซ่า ถ้าไม่ปล่อยตัวสึโยชิภายในวันนี้จะเอาระเบิดไปปา (เอ่อ...แรงไปมั้ย) ยิ่งมีข่าวว่าสึโยชิเครียดจัด ร่างกายอ่อนเพลียถึงขนาดต้องส่งโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ตำรวจก็ยิ่งโดนหนัก ค่ำวันต่อมา สึโยชิปรากฏตัวครั้งแรกในงานแถลงข่าว ก้มหัวขอโทษประชาชนที่ทำให้ผิดหวัง แล้วก็ประกาศพักงานอย่างไม่มีกำหนดเพื่อจัดการเรื่องคดีและเป็นการลงโทษตัวเอง วันที่สึโยชิโดนจับ เป็นเช้ามืดของวันอัดรายการ SMAPxSMAP พอดีค่ะ และเพราะแขกรับเชิญวันนี้เป็นวีไอพีจากต่างประเทศ​ ทั้งวงเลยตัดสินใจไม่ยกเลิก แขกคนนั้นคือ Richard Carpenter มาร้องเพลง Yesterday Once More กันค่ะ (ชื่อเพลงอะไรมันจะพอเหมาะพอดี แทงใจกันได้เข้ากับสถานการณ์ขนาดนั้น >_<) จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 03:49:44

ความคิดเห็นที่ 35 ระหว่างนี้ แฟนๆก็มีแคมเปญกันสารพัด ส่งจดหมายไปตามสถานีต่างๆที่มีรายการของ SMAP ขอร้องให้สถานีและสปอนเซอร์ให้โอกาสสึโยชิ และยังส่งข้อความให้กำลังใจฝากไปด้วย ทั้งหมดรวมแล้วมากกว่า 3 หมื่นฉบับ ซึ่งผู้จัดการของสึโยชิรับหน้าที่ส่งต่อไปถึงบ้านทุกฉบับ สมาชิกที่เหลืออีกสี่คน ก็ใช้ช่องทางของตัวเองในรายการทีวีและรายการวิทยุขอโทษคนดูแทนสึโยชิ และปฏิเสธที่จะอัดรายการ SMAPxSMAP แบบปกติโดยที่ไม่มีสึโยชิ เลยเป็น SxS เทปพิเศษมาแทน คุณมิจจิ ซึ่งสถานะในตอนนี้ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการทีวีอย่างมากเป็นอันดับต้นๆ เธอตระเวณไปตามสถานีและบริษัทต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ SMAP ไปโค้งขอโทษแทนสึโยชิด้วยตัวเอง คนที่น่าสงสารคือคนที่สนิทกับสึโยชิที่สุดอย่างชินโง ที่มีรายการสดสองวันหลังจากเกิดเรื่องพอดี น้องเล็กสุดของวง ต้องเป็นคนแรกที่ออกมาพูดแทนทุกคนในวง เพราะเป็นรายการที่มีแบรนด์สมาติดอยู่ ชินโงเปิดรายการด้วยการก้มหัวขอโทษคนดูแทนสึโยชิ น้ำตาคลอตลอดเวลา พูดแทบจะไม่ได้ จนสึโยชิบอกนักข่าวในภายหลังว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันทำให้ใครต้องมาก้มหัวขอโทษคนอื่นเพื่อเค้าแบบนี้อีกแล้ว เพราะกระแสสังคมเข้าข้างและเพราะสปอนเซอร์กับโปรดิวเซอร์รายการต่างๆช่วยกดดัน บรรดาโปรดิวเซอร์ของงานที่ค้างไว้ ยืนยันไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอาคนอื่นมาแทน ยอมรอ การพักงานครั้งนี้ของสึโยชิเลยจบลงอย่างรวดเร็วในชั่วเวลาแค่ 35 วันเท่านั้น แต่ก็เป็น 35 วันที่สึโยชิคงจำไปจนวันตาย เพราะตั้งแต่วันนั้นมา 2 ปีกว่าเข้าไปแล้ว คุซานางิ สึโยชิยังไม่ยอมแตะเหล้าเบียร์อีกเลยแม้แต่หยดเดียว ทั้งๆที่เมื่อก่อนเป็นที่ขึ้นชื่อว่าดื่มจัดมาก แฟนๆหลายคนพยายามมองโลกในแง่ดีว่า นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์"นิ้วหัก"ที่พูดกันเล่นๆไว้ก็ได้ ให้มันมีเรื่องซะตอนนี้ พอถึงวันที่ครบ 20 ปีจริงๆ ไอ้คำสาป 5 ปีที่ว่าจะได้ไม่ต้องมีอะไรเกิดขึ้น พูดตรงๆนะคะ ปีนี้เป็นปีที่เรากังวลนิดๆมาตลอดจริงๆ เพราะไอ้คำสาป 5 ปีนี่แหละ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังกังวลอยู่ด้วยซ้ำ ก็ได้แต่หวังว่าไม่ต้องมีอะไรเกิดขึ้นให้เครียดอีกแล้วนะ อย่าให้ต้องเห็นใครคนไหนยืนน้ำตาคลอ ท่ามกลางแสงแฟลชนับร้อยจากนักข่าวอีกเลย คลิปนี้เป็นตอนเริ่มรายการของวันที่สึโยชิกลับมาทำงานวันแรกค่ะ ทำเรทติ้งไปได้สูงถึง 22%....ในยุคที่ละครดังๆยังยากที่จะทำได้เกิน 17% จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:01:50

ความคิดเห็นที่ 36 อ๊ากก ขอโทษค่ะลืมกดชิดขวา ขอโทษจริงๆนะคะ _______________ แวะมาปาดค่ะ ง่วงแล้วอ่ะ ส่วนตัวถึงจะไม่ได้เป็นแฟนคลับสแมป รู้จักสแมปเพราะอยู่ค่ายเดียวกับไอดอลที่เราชอบ แต่เรานับถือพวกเค้ามากเลยค่ะ กว่าจะผ่านอะไรมามากมาย แล้วเป็นได้ทุกวันนี้มันยาก และต้องพยายามแค่ไหน เราอยากให้วงที่เรารักเป็นได้แบบนี้บ้าง แต่ตอนนี้ขอแค่ให้วงที่เรารักมีงาน ไม่เป็นลุกเมียน้อยก็พอ พูดไปก็น้อยใจลุงแหะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะวงที่เรารักก็กระแสติดลบมาตั้งแต่เดบิวต์ แต่เราก็รักนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามาอ่านเนอะ พี่นาจอยู่เมืองนอกจริงๆ ด้วยย เพราะตั้งกระทู้ใกล้เช้าของอีกวันตลอดเลย ฮี่ๆ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 04:11:40 จากคุณ : namu.neko เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:10:53

ความคิดเห็นที่ 37 หลังการพักงานหนึ่งเดือน สึโยชิก็กลับมาทำงานตามปกติ และยังได้รับรางวัลจากละครเรื่องแรกหลังการพักงานคือ Ninkyo Helper รวมถึงจากละครพิเศษครบรอบ 60 ปีของสถานี TBS คือ Japanese Americans แถมหนังเรื่องล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ของสึโยชิคือ boku to tsuma no 1776 monogatari ได้รับเกียรติสูงสุดเพราะสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นเสด็จเข้าชมเป็นการส่วนพระองค์ และยังมีพระราชปฏิสันถารกับสึโยชิซึ่งนั่งดูอยู่ข้างๆคุยถึงเรื่องงานทั้งของสึโยชิเองและของ SMAP เรียกได้ว่า สึโยชิฟื้นตัวกลับมายืนในวงการบันเทิงญี่ปุ่นได้อีกครั้งอย่างงดงามสุดๆ หลังการกลับมาของสึโยชิ ทุกอย่างก็เหมือนจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่กลายเป็นว่าข่าวลือแยกวงกลับเป็นกระแสขึ้นมาใหม่ (สื่อญี่ปุ่นไม่เบื่อบ้างเหรอ) แถมยังผสมด้วยข่าวลือเจ้าประจำอื่นๆประดังกันเข้ามา พอให้ได้อ่านกันแบบปลงๆ มีทั้งข่าวว่า SMAPxSMAP จะเลิกทำ ซึ่งก็เป็นอีกข่าวที่ลือมาเกือบสิบปี มีทั้งข่าวว่าจะไม่ขึ้นโคฮาขุอีกแล้ว ซึ่งคิมุระก็ถามงงๆว่าอ้าว เหรอ ไม่เห็นรู้เลย และข่าวลือสุดคลาสสิค นาคาอิกับคิมุระทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นไม่พูดไม่มองหน้า ข่าวนี้ทากามินะกับโทโมะจินจาก AKB48 เอามาถามสดๆกลางรายการ SanmaSMAP ว่าที่เค้าลือว่าไม่ถูกกันเนี่ย ดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะพอมารู้จักจริงๆก็เห็นคุยเล่นกันดีนี่นา ถึงจะมีข่าวลือออกมาขนาดไหน แต่ก็ยังเจอกันอยู่ทุกอาทิตย์ ทำงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ปี 2010 ออกนิตยสารพิเศษชื่อ SMAP Magazine ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ SMAP ล้วนๆ ขายดิบขายดีเป็นแสนๆเล่มจนขาดตลาดภายในสามวัน ต้องพิมพ์ซ้ำออกมาขายเพิ่ม เป็นหนังสือของคนในวงการบันเทิงที่ขายดีที่สุดในปีที่แล้ว นับรวมโฟโต้บุคของดาราทั้งหมด เป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่สอง เพราะเมื่อปีที่แล้วคือปี 2009 หนังสือของคนวงการบันเทิงที่ขายดีอันดับหนึ่งคือโฟโต้บุคของนาคาอิ ออกอัลบั้ม We are SMAP ขนนักแต่งเพลง คนดนตรีทั้งในและนอกญี่ปุ่นมาอย่างคับคั่ง พร้อมทั้งจัดทัวร์คอนเสิร์ท 5 โดมใหญ่ 19 รอบ รวมคนดูทั้งหมด 915,000 คน เป็นทัวร์คอนเสิร์ทที่มียอดคนดูเยอะที่สุดเป็นอันดับสองของปีที่แล้ว รองจาก EXILE และทำให้ยอดรวมคนดูของ SMAP ทั้งหมดตั้งแต่คอนเสิร์ทแรกเมื่อปี 1991 ผ่านสิบล้านคน เป็นยอดรวมที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลงญี่ปุ่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไอดอล ป๊อป ร็อค ฯลฯ เป็นวงเดียวในขณะนี้ที่ทำยอดได้เกิน 10 ล้านคน (B'z ถ้ารวมจบทัวร์ปลายปีนี้ด้วยก็จะเป็นวงที่สอง) แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 06:30:15 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:13:13

ความคิดเห็นที่ 38 #36 ไม่เป็นไรค่ะ ^_^ หลังๆทางค่ายจัดงานไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่เนอะ พอให้ก็ให้ซะจนแทบไม่ได้หลับได้นอน บทจะไม่ให้ก็หายเงียบซะจนคนลืม รู้สึกยุคปลาย 90 ต่อต้น 00 จะเฉลี่ยงานกันได้ดีกว่านี้ หรือเพราะช่วงหลังวงมันเยอะขึ้นด้วยรึเปล่า ^^" จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:18:39

ความคิดเห็นที่ 39 ไอดอลแห่งชาติ 国民的アイドル และ 国民的スーパースター ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สื่อญี่ปุ่นเริ่มเรียก SMAP ว่าเป็นไอดอลแห่งชาติ มารู้ตัวอีกที เวลาสื่อต่างๆพูดถึง SMAP ก็มีคำว่าไอดอลแห่งชาติปะหน้ามาด้วยซะแล้ว คิดว่าที่มาคงเพราะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีแฟนๆครอบคลุมหมดทุกเพศทุกวัย แม้แต่คุณตาคุณยายที่ไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงก็ยังรู้จักเพลง ละคร รู้จักหน้ารู้จักชื่อทั้ง 5 คน มาช่วง 5-6 ปีหลัง พอชินโงเป็นคนสุดท้ายที่อายุเข้าเลข 3 เลยชักจะยังไงๆอยู่ หลายๆสื่อเลยเปลี่ยนมาเรียกเป็นสตาร์แห่งชาติหรือไม่ก็ซุปเปอร์กรุ๊ปแห่งชาติแทน (จะให้ลุงๆไปแข่งทำตัวเป็นไอดอลกับไอดอลแห่งชาติรุ่นปัจจุบันอย่างอาราชิกับ AKB ก็คงไม่ไหว ^^") และเพราะอยู่มายาวนาน แทบจะเป็นหน้าเป็นตาของวงการบันเทิงญี่ปุ่นในสายตาภายนอก ล่าสุดเมื่อนายกรัฐมนตรีจีนไปประชุมพิเศษกับรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่กรุงโตเกียว ก็ยังจัดคิวให้ SMAP เข้าพบ และเอ่ยปากเชิญชวนให้ไปจัดคอนเสิร์ทที่กรุงปักกิ่ง เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งคอนเสิร์ทก็จะจัดในวันที่ 16 กันยานี้ล่ะค่ะ เป็นครั้งแรกที่ SMAP แสดงโชว์นอกญี่ปุ่น ก็เลยต้องอลังการนิดนึง จัดที่ Workers Stadium ความจุ 66,000 ที่นั่ง นักร้องญี่ปุ่นที่เคยไปจัดที่นี่ก็มีแค่ L'arc อายุมิและทานิมุระ ชินอิจิ งานนี้น่าจะเป็นการ"ขอมา"เพราะผลทางการเมืองระหว่างประเทศ เพราะเบื้องหลังงานแถลงข่าวมีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนและทูตจากญี่ปุ่น ท่านนายกเหวินที่ออกปากเชิญเอง ก็มีข่าวลือว่าจะไปดูคอนเสิร์ทนี้ด้วย แฟนที่ญี่ปุ่นเอง ส่วนนึงไม่ค่อยพอใจนัก เพราะไม่อยากให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมือง คลิปนี้เป็นคลิปข่าวการเข้าพบนายกเหวิน และร้อง SekaiHana เวอร์ชั่นภาษาจีนให้ฟัง ที่มีแค่สี่คนเพราะวันนั้นโกโร่จังติดงาน มีแสดงละครเวทีค่ะ เลยไม่ได้ไป ที่เอาคลิปนี้มาลงทั้งๆที่ไม่มีโกโร่ เพราะเป็นคลิปพิเศษมีคนหาดูได้ยากสองคนเลย คนนึงคือผู้หญิงกระโปรงม่วงซึ่งก็คือคุณมิจจิที่หาดูได้ยากซะยิ่งกว่าลุงจอห์นนี่ และถ้าจำไม่ผิด ป้าผมสั้นชุดขาวใส่แว่นข้างๆนั่นน่าจะเป็นป้าแมรี่ คิตะงาว่าค่ะ เคยเห็นแต่รูปป้าตอนสาวๆเลยไม่ค่อยแน่ใจ แต่คิดว่าไม่ผิดนะเพราะคล้ายตอนสาวๆมาก จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:26:12

ความคิดเห็นที่ 40 เรามาเข้าใจความหมายของคำนี้จริงๆก็ตอนเหตุเมื่อเดือนมีนานี่ล่ะค่ะ คำๆนี้ SMAP ไม่ได้ได้มาเพราะอยู่นาน ไม่ใช่เพราะเรทติ้งหรือยอดคนดูคอนเสิร์ท แต่เพราะว่า SMAP มีพลังที่จะขับเคลื่อนสังคมญี่ปุ่นที่ไม่ใช่แค่แฟนคลับตัวเองได้ต่างหาก นักแต่งเพลงชื่อดังหลายคนอย่างคุณมากิฮาร่า หรือคุโบตะ โทชิโนบุ ฯลฯ เคยพูดไว้ ว่าสารที่เค้าอยากจะบอกกับสังคมด้วยเพลงน่ะ ถ้าเค้าร้องเองมันไปไม่ถึงคนญี่ปุ่นทั่วไปหรอก เพราะเป็นเสียงของ SMAP เพราะคนร้องคือผู้ชายห้าคนนี้ต่างหาก คนถึงได้ฟัง นักเศรษฐศาสตร์คนนึงเคยบอกว่าต่อให้เค้าอธิบายให้ตายยังไง คนทั่วไปก็ไม่ฟัง แต่ขอแค่คิมุระ ทาคุยะบอกว่าทฤษฎีของเค้าน่าสนใจนะ แค่นั้นคนญี่ปุ่นก็จะหันมาฟัง ตอนคิมุระแสดงละครเป็นนักบิน เป็นอัยการ คนก็แห่กันไปสมัครเป็นสองอาชีพนี้กันจนล้น ตอนแสดงเป็นกัปตันทีมฮ็อกกี้ คนญี่ปุ่นก็หันมาสนใจไปดูฮ็อกกี้เพิ่มขึ้นถึง 300% เล่นเอาสมาคมฮ็อกกี้ของญี่ปุ่นต้องประกาศยกย่องให้เป็นสมาชิกกิติมศักดิ์ของสมาคม ปีที่แล้วนาคาอิทำรายการพิเศษเรื่องประวัติศาสตร์ผู้นำโลกทีนึง อีกทีนึงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไปคุยกับอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ละคนก็ตื่นเต้นดีใจ ว่าถ้านาคาอิเอาไปพูด ถึงแม้จะเป็นคนญี่ปุ่นทั่วไปที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน ก็จะหันมาดูมาฟังแน่ๆ และคงเพราะโดนเรียกว่าเป็นไอดอลแห่งชาติมาเป็นสิบปี ก็เลยแบกรับคำนี้ไว้โดยไม่รู้ตัว รับเป็นภาระหน้าที่ของตัวเองไปด้วยเต็มๆ ตอนเกิดเหตุใหม่ๆ เลยจัด SMAPxSMAP เทปพิเศษเป็นรายการสด วางแผนกันแค่ห้าวัน ฉากหลังรายการวันนั้นเป็น fax จากทั่วประเทศที่คนส่งเข้ามาหลังจากประกาศเรื่องรายการสด ตลอดหนึ่งชั่วโมงสิบเก้านาที 5 คนมานั่งคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอ่านข้อความจากทางบ้าน มี VTR ไปสัมภาษณ์คนทุกเพศ ทุกวัยในแต่ละที่ว่าคิดอะไร ทำอะไร รู้สึกยังไง ใน 79 นาทีนั้น มี email และ fax ส่งเข้ามารวมกันมากกว่า 13,000 ฉบับ สมาชิกทั้งห้า อ่านข้อความ ดูคลิปไป ก็มีปาดน้ำตาและหายใจขัดเป็นระยะ น้ำตาคลออยู่ตลอด ไม่รวมกับที่บริจาคกันส่วนตัวไปแล้ว ค่าตัวของ SMAP ในรายการวันนั้น บริจาคเข้าการกุศลทั้งหมด ไม่เปิดเผยตัวเลขแต่ประเมินกันไว้ว่าน่าจะมากกว่า 10 ล้านเยน (ค่าตัวแค่ 79 นาทีเนี่ยนะ O_O) กระแสที่ตามมาคือ มีบทความตามหน้าหนังสือพิมพ์เอาเนื้อหาของรายการไปตีพิมพ์เผยแพร่ คนดังหลายวงการและโปรดิวเซอร์ของสถานีอื่นก็เขียนบล็อกและ tweet ข้อความสนับสนุนรายการเทปนี้ หมายเหตุ ปกติแล้ว เด็กในสังกัดจอห์นนี่จะไม่เปิดเผยยอดเงินบริจาค ห้าคนนี้ก็บอกว่าเรื่องการบริจาคเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวกับงาน แต่เพราะว่าเป็น SMAP นักข่าวก็ยังอุตส่าห์ไปขุดไปคุ้ยมาทำเป็นข่าวจนได้ ยอดที่แน่นอนไม่ยืนยัน ที่รู้แน่ๆคือยอดบริจาคแต่ละคนรวมกันมากกว่า 400 ล้านเยน ซึ่งข้อมูลนี้ เป็นยอดที่นักข่าวค้นมาเองจากยอดบริจาคของสภากาชาดญี่ปุ่น (จริงๆคือกะเล่นข่าวว่าทำไม SMAP ไม่บริจาค แต่ดันไปเจอว่าทำไปตั้งนานแล้ว) จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:34:01

ความคิดเห็นที่ 41 ลัดคิวถ่ายโฆษณารณรงค์ของสมาคมโฆษณาญี่ปุ่นฟรีโดยไม่รับค่าตัว ในรายการพิเศษที่ไต้หวัน SMAP ก็ส่งสารผ่านนากาตะ ฮิเดโตชิไปขอบคุณในฐานะตัวแทนคนญี่ปุ่น ข่าวในเมืองจีนก็เอาเทปรายการ SMAPxSMAP มาออก พร้อมสารขอบคุณคนจีนจาก SMAP อีกเช่นกัน จากที่เหมือนแยกตัวออกจากจอห์นนี่ ก็กลับมาประกาศส่งเสริมทุกกิจกรรมของค่ายเพื่องานนี้เต็มที่ งาน Marching J เมื่อเดือนเมษา จะป่วยจะยุ่งยังไงก็แทรกลงตารางไปปรากฏตัวถึงสองวัน จากที่เค้าจัดให้อยู่เฉพาะบนเวที แต่ห้าคนนี้รู้สึกไม่ดีว่าเหมือนมองคนที่มาบริจาคอยู่ต่ำกว่า เลยกระโดดลงจากเวทีมายืนอยู่ข้างกล่องบริจาค และพูดคุยจับมือกับคนที่มาบริจาคแบบตัวต่อตัว หลายต่อหลายครั้งในวันว่างที่หาได้ยาก นาคาอิเอาของเล่นไปแจก เอาอาหาร เอาเก้าอี้นวดไปให้ ถึงสถานพักฟ้ีนของผู้ประสบภัยในหลายจังหวัดแบบเป็นการส่วนตัว ปลอมตัว ไม่ต้องการเป็นข่าว ใส่แว่นใส่หมวกปิดหน้าปิดตามิดชิด แต่ staff ที่สถานหลบภัยก็ยังจำได้ เลยแอบถ่ายรูปไว้ ในวันที่มีการถ่ายทำ SMAPxSMAP ในทุกอาทิตย์ ช่วงพักระหว่างการเปลี่ยนฉาก เตรียมงาน ทั้งวงก็จะอาศัยเวลาว่างช่วงนี้มี video conference ไปตามศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยตามเมืองต่างๆ พูดคุยกับผู้ประสบภัยที่นั่น ร้องเพลง เล่นตลก ให้กำลังใจ ทั้งหมดนี้ไม่ออกข่าว แต่บรรดาอาสาสมัครตามศูนย์ประสบภัยต่างๆเอามาเล่าและเอารูปมาลงตาม blog ของตัวเอง และล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากคิมุระถ่ายละครจบแล้ว เลยจัดเวลาให้ตรงกันได้ ทั้งวงไปเยี่ยม ไปร้องเพลง พูดคุย ให้กำลังใจแฟนๆในเขตประสบภัยมาแล้วหลายครั้ง จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:41:14

ความคิดเห็นที่ 42 ทีแรก วางแผนเอาไว้ว่าจะออกซิงเกิ้ลใหม่ในวันที่ 4 พฤษภาค่ะ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เพราะต้องการช่วยประหยัดทรัพยากรในการขนส่งและผลิต CD ก็เลยยกเลิก แล้วเปลี่ยนเป็นให้โหลดเป็น digital single ทางมือถือแทนเป็นครั้งแรก และรายได้ส่วนนึงของเพลง not alone ก็เอาไปบริจาคช่วยผู้ประสบภัยด้วย แต่ที่ทำให้แฟนๆอึ้งกันไปหมด ไม่รู้ว่าจะปลื้ม จะภูมิใจ จะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี ก็คือการตัดสินใจไม่มีทัวร์คอนเสิร์ทเต็มรูปแบบในปีนี้ทั้งที่เป็นปีครบรอบ 20 ปี ทั้งๆที่ก่อนหน้าจะเกิดเหตุแต่ละคนก็บอกใบ้กันมาตลอดว่ามีล่ะปีนี้ มีแน่ๆ แฟนๆเก็บเงินเก็บทอง นับวันรอให้ประกาศเป็นทางการ จนกระทั่งมาเกิดเรื่อง นาคาอิบอกในรายการวิทยุว่าจะจัดทัวร์ในญี่ปุ่นตอนนี้มันก็ลำบากอยู่นะ ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ก็เลยมาลงที่การจัด fan meeting ครั้งแรกในรอบ 20 ปีของ SMAP แทน โดยจะไปจัด event ตามเมืองต่างๆ จำกัดให้เฉพาะแฟนคลับในพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น และร่วมเป็นส่วนนึงของรายการ FNS 27HRS TV ของฟูจิทีวีที่ปีนี้นาคาอิเป็นพิธีกรร่วมด้วย เลยทำรายการ Bistro SMAP สัญจร ไปทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยถึงฟุคุชิม่าและอิวาเตะ เบื้องหลังของ FNS 27HRS ปีนี้ คือคิมุระโทรหาอาคาชิยะ ซันมะหลังเกิดเหตุเมื่อเดือนมีนา คุยกันว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างเท่าที่เราจะทำได้เพื่อช่วยหรือให้กำลังใจคนในประเทศ เมื่อดาราใหญ่สองคนยื่นข้อเสนอให้ฟูจิทีวี ก็เลยมาลงตัวที่ไฮไลท์ของรายการ FNS 27HRS ในปีนี้ คือ Bistro SMAP สัญจรที่แยกเป็นสองทีมไปทำอาหารเลี้ยงคนเป็นพันคน และ talk show พิเศษของอาคาชิยะ ซันมะที่จังหวัดมิยาหงิ เพลงนี้ไม่ใช่เพลง SMAP แต่เป็นเพลงที่เคยบอกกันว่าชอบความหมายมาก ที่มาของเพลงนี้คือเมื่อปี 2008 ที่อาคาชิยะ ซันมะเป็นพิธีกรงาน 27hrs TV ในช่วงพูดคุยกลางดึกกับนาคาอิ ก็เขียนเนื้อเพลงไว้แล้วส่งให้วง BEGIN คุยกันขำๆว่าแต่งเป็นเพลงให้ได้มั้ย BEGIN ก็เอาไปนั่งแต่งภายในคืนเดียว เสร็จทันร้องปิดงานตอนจบ และกลายเป็นเหมือนเพลงชาติของบรรดาตลกในภายหลัง (แอบคิดว่าเป็นเพลงที่ตอนนี้ SMAP เองก็ยึดความหมายเป็นจริงเป็นจังเหมือนกัน เพราะตอนโอคามุระแห่ง 99 ร้องไห้ นาคาอิหันไปเตือนว่า egao no manma da yo) เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ร้องด้วยกันตอนปิดงาน 27 hrs ในปีนี้ค่ะ ร้องจากห้องส่งที่โอไดบะ,​ เวทีของซันมะซังที่มิยาหงิ,และบิสโตรสัญจรที่ฟุคุชิม่าและอิวาเตะ เราว่าความหมายเพลงนี้เข้ากับสถานการณ์ที่เค้าต้องการให้กำลังใจกันดีนะคะ boku ga warai wo kimi ni ageru kara kimi no egao wo boku ni........kudasai (เสียงหัวเราะนี้พวกผมมอบให้กับพวกคุณ ฉะนั้นขอรอยยิ้มของคุณให้กับผมเถอะนะ) จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 04:50:10

ความคิดเห็นที่ 43 และ SMAP ยังร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ นาคาอิบอกว่า ถ้าใครจะมองว่าทำเพื่อโฆษณาตัวเองหรือทำเอาหน้ายังไงก็ช่างเถอะ ที่สำคัญคือได้ใช้ชื่อ SMAP ให้เป็นข่าว ให้คนรู้ถึงความสำคัญในการช่วยเด็กๆก็พอแล้ว ถึงจะไม่ยอมจัดคอนเสิร์ทเต็มรูปแบบเพราะต้องการช่วยประหยัดทรัพยากร แต่ก็ยังมี event เล็กๆ ที่ฉลองครบรอบ 20 ปีอยู่ (อันนี้คงตั้งใจเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว คือวันนี้วันที่ 9 กันยา จะมี fan event ที่สระนำ้ใน Seibuen Amusement Park ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่จัดงานเปิดตัวซิงเกิ้ลแรกกลางพายุเมื่อ 20 ปีที่แล้วพอดีเป๊ะค่ะ จากที่ใครๆก็คาดกันว่าต้องฉลองกันอย่างอลังการที่โดมหรือสนามขนาดมหึมา ปรากฎว่าเดาผิดกันหมด เพราะเลือกจะกลับไปตรงจุดเริ่มต้นที่เคยล้มกันมาตั้งแต่แรก งานนี้เปิดให้แฟนๆเข้าฟรีค่ะ......แต่แค่ผู้โชคดี(โคตรๆ)หนึ่งหมื่นคนเท่านั้น โดยประกาศผลจากอัลบั้มพิเศษ SMAP AID ที่พึ่งวางขายเมื่อ 17 สิงหาที่ผ่านมา ใครดวงเฮงสุดๆ จะได้สุ่มคัดเลือกให้เป็นผู้โชคดีได้เข้างานที่ Seibuen (หลายๆคนแอบลุ้นให้ฝนตกหนักอีกที จะดูสิว่าคราวนี้นักข่าวจะทำเหมือนเดิมมั้ย ^_^) อัลบั้ม SMAP AID เป็นอัลบั้มรวมเพลงของ SMAP ที่แฟนๆเป็นคนโหวตเลือกเองค่ะ โดยมีโจทย์ว่าในสถานการณ์แบบนี้ ฟังเพลงไหนของ SMAP แล้วรู้สึกมีกำลังใจบ้าง ยอดอย่างไม่เป็นทางการ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 369,000 แผ่น คิดว่าถ้าจบยอดอาทิตย์นี้ น่าจะยืนอยู่ที่อัลบั้มอันดับ 8 ของปีนี้ ....ถึงผ่านมา 20 ปี ก็ยังพอจะขายเพลงออกอยู่บ้างล่ะน่า ^^" เอาเพลงนี้มาลง เพราะเป็นเพลงที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดใน SMAP AID ค่ะ สูงกว่า Sekai ni Hitotsu Dake no Hana ซะอีก ^_^ (Sekai ได้ที่ 5 เองนะ) Original Smile เพลงเก่าตั้งแต่ปี 1994 ตอนวางขายทีแรกไม่ได้อันดับหนึ่งอีกต่างหาก แต่พอ SMAP มาดังเอามากๆหลังจากนั้น ก็กลายเป็นเพลงในดวงใจของบรรดาแฟนๆ เพราะเป็นเพลงที่ใช้ร้องในคอนได้สนุกมากกกกกกกกกกกก และเนื้อเพลงบ่งบอกความเป็นตัวตนของ SMAP ได้ดี ชื่อย่อๆของเพลงนี้ที่ SMAP และแฟนๆใช้เรียกกันคือ オリスマ (Ori Sma) หลายๆคนเลยมีอีกชื่อให้เพลงนี้ว่า Original SMAP.....ก็ตรงดีนะคะ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:06:00

ความคิดเห็นที่ 44 ปัจจัยนึงที่ทำให้ยืนระยะได้ยาวนานก็คือการเข้าถึงทุกสื่ออย่างแท้จริง สื่อหลักสื่อแรกที่คุณมิจจิและ SMAP เจาะได้สำเร็จคือสื่อทีวี เมื่อสองเดือนก่อนมีรายการพิเศษที่จัดอันดับ 100 คนสำคัญแห่งวงการทีวี มีการแบ่งประเภทในด้านต่างๆเป็นด้านรายการวาไรตี้ ละคร และรายการเพลง SMAP เป็นเพียงกลุ่มเดียวในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับทั้งสามประเภทรายการ และเมื่อครองทีวีได้ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป การครองสื่ออื่นๆก็ตามมา แต่ละปี ตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา มีหนัง,ละครทีวี,ละครเวทีอย่างน้อยปีละ 6-7 เรื่อง บางปีมีงานแสดงของสมาชิกแต่ละคนรวมกันเกือบ 20 เรื่องก็มี เฉพาะปีนี้ มีทั้งที่เข้าฉายไปแล้วและกำลังรอคิวฉายอยู่ 10 เรื่อง ณ ปัจจุบันมีรายการรวมกันทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่มในหนึ่งอาทิตย์ 13 รายการทีวีประจำ(ไม่รวมละครและการโปรโมทช่วงมีงาน)และอีก 13 รายการวิทยุ และแต่ละปี ก็จะมีรายการพิเศษของทั้งวงและของแต่ละคน ปีละไม่ต่ำกว่า 12-13 รายการ ปีที่แล้ว นับเฉพาะแค่นาคาอิคนเดียว จัดรายการจรไปทั้งหมดก็เกิน 10 แล้ว รายการทีวีทั้งหมดนี้ ฉายในช่องสถานีหลักที่ออกอากาศทั่วประเทศ ไม่ใช่รายการท้องถิ่น ปัจจุบันมีโฆษณาสินค้ารวมทั้งหมด 24 ตัว มีคอลัมน์ประจำในนิตยสารเดือนละ 11 คอลัมน์ ไม่รวมงานถ่ายแบบหรือสัมภาษณ์ทั่วไป ซึ่งจะมีลงในนิตยสารต่างๆอย่างน้อยเดือนละไม่ต่ำกว่า 5-6 ฉบับ อาจมากกว่านี้ถ้ามีละคร 11 คอลัมน์นี้ ไม่ใช่ scoop รายการที่จะมีประจำในนิตยสารทีวีแต่ละฉบับทุกอาทิตย์ แต่เป็นคอลัมน์ที่เขียนโดยสมาชิกแต่ละคนเอง เช่นของคิมุระและสึโยชิ(ที่เอามารวมเล่มขายทีหลัง) 20 ปีที่ผ่านมา ออกหนังสือขายเกือบ 30 เล่ม มีทั้งตำรากับข้าว ตำราสอนภาษา สอนมารยาท รวมบทความในนิตยสาร เคล็ดลับลดความอ้วน เบื้องหลังรายการ นิยายแปล ฯลฯ (ไม่รวม photobook) สรุปง่ายๆ ตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา ไม่เคยมีวันไหนที่จะไม่เห็นหน้า SMAP ในทีวี ไม่เคยมีวันไหนที่บนแผงหนังสือหรือตามป้ายบิลบอร์ดหรือตามรายการวิทยุจะไม่มี SMAP ทำทุกอย่าง ขายทุกทางแบบครบวงจรจริงๆ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:11:11

ความคิดเห็นที่ 45 20 ปีที่ผ่านมา...... - SMAP ได้ขึ้นงานโคฮาขุทั้งหมด 18 ครั้ง ได้รับเลือกให้ร้องปิด 3 ครั้ง สองปีที่ไม่ขึ้นงานโคฮาขุ คือปี 2001 ที่เกิดเรื่องกับโกโร่ เลยไม่ยอมขึ้นแบบไม่ครบวง และในปี 2004 ที่ปฏิเสธการออกรายการสิ้นปีทุกรายการ เพราะปีนั้นไม่มีงานเพลง ใน 18 ครั้งที่ผ่านมาบนเวทีโคฮาขุ ทำเรทติ้งติด TOP 10 ไปทั้งหมด 11 ครั้ง ในจำนวนนี้ ทำเรทติ้งสูงสุดได้ทั้งสิ้น 6 ครั้ง มากที่สุดในบรรดานักร้องญี่ปุ่นทั้งหมด ครั้งล่าสุดคือเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ก็ได้ร้องปิดและยังทำเรทติิ้งได้สูงที่สุดอยู่ดี - ยอดรวมอัลบั้ม 10.8 ล้านแผ่นเป็นวงป๊อปเพียงหนึ่งในสองวงเท่านั้นที่ทำยอดได้เกิน 10 ล้าน (อีกวงที่ทำได้คือ CHAGE & ASKA) - เป็นหนึ่งในสี่ศิลปินเท่านั้นในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีอัลบั้มขึ้นอันดับหนึ่งโอริกอนในสามทศวรรษ (อีกสามคือ Southern All Stars, CHAGE and ASKA และอามุโระ นามิเอะ) - เป็นอันดับสี่ในบรรดาศิลปินญี่ปุ่นทั้งหมดที่ทำยอดซิงเกิ้ลรวมได้เกิน 20 ล้านแผ่น (อันดับหนึ่ง B'z, สอง Mr.Children, สาม Southern All Stars, ห้า ฮามาซากิ อายุมิ) - ยอดขายรวมทั้งซิงเกิ้ลและอัลบั้มคือ 34.45 ล้านแผ่น (ที่มา:2ch) เป็นยอดขายที่สูงที่สุดในบรรดาไอดอลทั้งหมดในประวัติศาสตร์วงการเพลงญี่ปุ่น และถ้านับรวมกับศิลปินญี่ปุ่นทุกแนวแล้ว จัดอยู่ในอันดับที่ 10 - มีเพลงสี่เพลงถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรวิชาดนตรีของกระทรวงศึกษา Sekai Hana ยังเป็นเพลงที่อยู่ในตำราเรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วย - ตลอด 20 ปีที่่ผ่านมา งานที่ทำมีแสดงหนัง ละคร ละครเวที ร้องเพลง เต้นรำ เล่นตลก เป็นพิธีกร เขียนหนังสือ เป็นดีเจ เป็นนักพากย์​ เป็นพ่อครัว ฯลฯ จนเวลากรอกข้อมูลในช่อง"อาชีพ"ในเอกสารต่างๆ เลยเกิดปัญหาว่าจะเขียนว่าอะไรดี มีคนแนะนำว่าให้เขียนว่า "อาชีพ = SMAP" ก็เลยทำดูเล่นๆ แล้วก็ผ่านซะด้วยแม้เป็นเอกสารราชการ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:21:56

ความคิดเห็นที่ 46 การเป็นไอดอล เป็น boy band, girl group ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็คงไม่พ้นจะมีคนต่อต้าน ถึงจะมีคนชอบมากมาย แต่ก็ยังมีคนที่มองว่าพวกนี้เป็นสินค้า เป็นของปลอมที่แต่ละค่ายสร้างขึ้น เป็นแค่กระแสชั่วครู่ชั่วยาม เมื่อถึงเวลามีหน้าใหม่เข้ามา พวกคลื่นลูกเก่าก็จะเลือนหายไปตามเวลา ผู้กำกับคนนึงเคยถามชินโงต่อหน้าเลยว่า รู้สึกมั้ยว่าตัวเองน่ะเป็นแค่สินค้าชิ้นนึง โดนนักธุรกิจจับจูง ชินโงตอบยิ้มๆว่า เป็นสินค้าแล้วยังไงล่ะ ขอแค่มีีความสุข เป็นสินค้าที่ยังมีคนมากมายรักก็ดีแล้วนี่ สมาชิกแต่ละคน เคยพูดในโอกาสต่างๆหลายครั้งถึงเรื่องนี้ ทั้งตามงานแถลงข่าว สัมภาษณ์นิตยสาร ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ได้ทำงานให้คนดูได้ยิ้ม ได้มีความสุข นั่นก็เป็นสิ่งที่พิเศษมากพอแล้ว เราคิดว่าเป้าหมายนึงของ SMAP คืออยากจะพิสูจน์ให้ดูว่าจะไม่ยอมหายไปง่ายๆล่ะมั้งคะ ^^" เมื่อตอนที่ดังกันขึ้นมาใหม่ๆ มีไปออกรายการแล้วผู้ร่วมรายการคนนึงคุยกับชินโงเรื่องอนาคต บอกว่าอนาคตไอดอลอยู่ได้อีกไม่กี่ปีก็ต้องเปลี่ยนงานแล้ว ไม่ได้เป็นอาชีพที่ยั่งยืนอะไรหรอก แต่นาคาอิเถียงเป็นจริงเป็นจังออกอากาศเลยว่า ไม่จริง พวกเราจะอยู่ได้นานกว่านั้นแน่นอน เมื่อ 3-4 ปีก่อน มีวง girl group รุ่นกลางวงนึงไปออกรายการ utaban ที่นาคาอิเป็นพิธีกร มีคำถามว่า คิดว่าอีกสักสามปีข้างหน้า จะยังอยู่ด้วยกันเป็นวงอยู่มั้ย สมาชิกก็ดูจะไม่แน่ใจกันนัก คงไปสะกิดอะไรของนาคาอิเข้า ก็เลยดุสาวๆวงนั้นออกอากาศเลยว่า ทำไมไม่มั่นใจกันเลย ถ้าถาม SMAP ว่าอีกห้าปี ไม่สิอีกสิบปีก็ยังจะอยู่ด้วยกันอีกมั้ย จะตอบว่าใช่กันโดยไม่ลังเลแน่นอน ถึงวันนี้ เราว่า SMAP พิสูจน์ให้ได้เห็นกันแล้วมั้งคะ ว่าไอดอลก็เป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้ และคงไม่เกินไปนักถ้าเราจะบอกว่าการอยู่รอดของ SMAP เป็นแรงบันดาลใจให้วงไอดอลอีกหลายวง เพราะที่ผ่านมาก็มีอยู่หลายวงอยู่นะคะ ที่เคยบอกว่าอยากจะอยู่ให้ได้นานๆอย่าง SMAP อย่างฝั่งเกาหลีก็มีชินฮวากับ SNSD ฝั่งญี่ปุ่นเองนอกจากจะเป็นต้นแบบให้น้องๆในจอห์นนี่แล้ว แม้แต่ฉะโจวแห่ง EXILE ก็ยังเคยบอกว่า อยากให้ EXILE เป็นอย่าง SMAP (เออ แต่จริงๆจะนับ EXILE เป็นไอดอลก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะ ) ถึงหลายคนจะจัดประเภทให้กลายเป็น talent, artist(?), หรือแม้แต่ owarai ไปแล้ว แถมเวลาอยู่กับบรรดาตลกทั้งหลายจะดูกลมกลืนและมีความสุขกว่าอยู่กับนักร้องด้วยกันมาก แต่นาคาอิบอกว่าจุดเริ่มต้นของ SMAP คืองานเพลง ยังไง SMAP ก็จะไม่เลิกทำเพลงเด็ดขาด จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:29:37

ความคิดเห็นที่ 47 จากวงที่เริ่มต้นได้ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์ของทางค่าย กลายมาเป็นวงไอดอลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของจอห์นนี่ หรือจะบอกว่าประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็ได้ด้วยซ้ำ และยังเป็นกำลังสำคัญมากที่ทำให้ค่ายจอห์นนี่มีอิทธิพลได้ถึงขนาดนี้ หลายคนบอกว่า SMAP คือปาฏิหาริย์​ที่ยากจะเกิดขึ้นอีก เพราะจะมีวงไอดอลที่ไหนในโลกที่จะผ่านวิกฤตสารพัดพวกนี้มาด้วยดีขนาดนี้ได้ เจ้าของค่ายไม่เชื่อมั่นอยากจะยุบวงทิ้ง คนที่ร้องเพลงดีที่สุดต้องลาออก คนที่สาวๆคลั่งไคล้ที่สุดไปทำเค้าท้องต้องประกาศแต่งงานกลางคอนเสิร์ท สมาชิกถึงสองคนโดนตำรวจจับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกพักงานยาว นี่ยังไม่รวมข่าวลือ ข่าวซุบซิบสารพัดที่มีมาตลอด 20 ปีนี่อีก แต่ละข่าวก็แรงๆทั้งนั้น มีทั้งรูปหลุด สติ๊กเกอร์หลุด คลิปหลุด ทั้งอะไรสารพัด -_-" ถ้าตามหลักไอดอลญี่ปุ่นทั่วไป แค่เหตุการณ์เดียวก็แทบจะดับสนิทแล้ว แต่นี่รอดกันมาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายคนเลยเรียกว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ ขนาดห้าคนนี้คุยกันเองยังบอกเลยว่า นี่มันเป็นปาฏิหาริย์ชัดๆ ที่พวกเรานี่มีคนเต้นไม่ได้ ร้องเพลงไม่ได้อยู่ถึงสามในห้าคนกันเลยนะ ยังอุตส่าห์มีคนมาดูคอนเสิร์ทพวกเราตั้ง 10 ล้านคนแน่ะ ^^" แต่ในสายตาเรา SMAP ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์อะไรทั้งนั้น ที่มีทุกวันนี้ได้ ก็เพราะมันสมอง หยาดเหงื่อ เลือด น้ำตาและความใจสู้ล้วนๆ ไม่ใช่แค่ของสมาชิกห้าคน แต่รวมถึงคุณมิจจิและทีมงานทั้งหมดของ J-Dream ด้วย ทุกครั้งที่มีอุปสรรค จะท่องกันอยู่เสมอว่า Pinch wa Chance อุปสรรคคือโอกาส ถ้าจะว่านี่คือคติพจน์ประจำ SMAP ก็คงได้ นาคาอิก็ยังเอามาใส่ในเพลง 5 Respect ที่แฟนๆไม่ทิ้ง SMAP ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็เพราะ SMAP ทำทุกอย่างเพื่อคนดู ที่โปรดิวเซอร์และบรรดาผู้กำกับคนเขียนบททุกคนไม่ทิ้ง SMAP เพราะ SMAP ไม่เคยทำให้เค้าผิดหวัง ที่สำคัญที่สุด คือถึงแม้จะแทบไม่เคยพูดเลยว่ารักกัน ถึงแม้แต่ละคนจะไปได้ดีในงานของตัวเอง แต่สมาชิกทุกคน แม้แต่โมริคุงก็ตาม ไม่เคยทิ้ง SMAP สมาชิกทุกคนพูดอยู่เสมอว่า SMAP เป็นบ้าน ที่สามารถไปทำงานเดี่ยวอะไรต่ออะไรได้อย่างสบายใจ ไม่กลัวล้มเหลว ก็เพราะรู้ว่ายังมี SMAP อยู่ข้างหลัง ยังมีบ้านให้กลับมาได้อยู่เสมอ คิมุระ ทาคุยะที่เป็นเป้าว่าจะทิ้ง SMAP ไปออกงานเดี่ยวของตัวเองมากที่สุดเคยพูดไว้ว่า ที่ผ่านๆมาที่ยอมเล่นตลก ทำอะไรบ้าบอ ทรมานตัวเองต่างๆนานาใน SMAPxSMAP น่ะ ถ้าเค้าเป็นแค่คิมุระ ทาคุยะเฉยๆ ก็คงจะปฏิเสธ​ ไม่ยอมทำอะไรอย่างนั้นหรอก แต่ที่ยอมทำทั้งหมด ไม่เคยหยุดคิดหรือลังเลอะไรเลย ก็เพราะว่าเค้าเป็นส่วนนึงของ SMAP เมื่อถูกถามว่าทรัพย์สินอะไรที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต คิมุระ ทาคุยะตอบแค่คำเดียวว่า "SMAP" จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:37:01

ความคิดเห็นที่ 48 คุณอาราอิที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการ yume ga MORI MORI และเป็นคนสอนโลกของตลกให้ SMAP บอกว่าที่เค้ายังทำงานอยู่กับ SMAP ทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะเค้าประทับใจ"ความจริงจัง"ของ SMAP ตอนนั้นที่ยังเด็กๆกันอยู่ มีอยู่ครั้งนึงที่สมาชิกคนนึงในวงมาสายจากเวลานัดไปเป็นชั่วโมง สมาชิกคนนั้นก็เลยโดนคุณอาราอิตำหนิอย่างรุนแรงต่อหน้าทุกคนในกองวันนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนในกองอึ้งกันหมด คือสมาชิกที่เหลืออีก 5 คนลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างสมาชิกคนนั้น แล้วบอกว่าพวกเราเป็นวงเดียวกัน นี่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสมาชิกทั้ง 6 คน เด็กอีก 5 คนเลยขอให้คุณอาราอิตำหนิพวกเค้าด้วย และยินดีรับโทษร่วมกัน อีกทีนึงคือเมื่อเด็กพวกนี้ทำผิดพลาดในการถ่ายทำรายการครั้งนึง คุณอาราอิโมโหมาก เพราะทั้งๆที่สอนโลกของตลกกันมาขนาดนั้นแล้ว ก็ยังพลาด จนถึงขนาดสั่งเลิกกองและบอกเด็กพวกนี้ว่าไม่ต้องทำรายการแล้ว แล้วไล่กลับบ้าน เย็นวันนั้นคุณอาราอิได้รับโทรศัพท์จากลุงจอห์นนี่ คิตะงาว่าขอโทษแทนเด็ก 6 คน ถึงได้รู้ว่าหลังจากเลิกกอง เด็กพวกนี้โทรไปหาลุงจอห์นนี่ด้วยตัวเองและสารภาพผิด ยอมโดนลุงตำหนิและลงโทษ แต่ขอให้ลุงช่วยไปขอโอกาสจากคุณอาราอิให้อีกครั้ง คุณอาราอิบอกว่า"ความจริงจัง" และความรับผิดชอบของเด็ก 6 คนนี้ชนะใจเค้ามาตั้งแต่ตอนนั้น และจนวันนี้ ไม่ว่าทุกคนจะกลายเป็นดาราใหญ่คับวงการขนาดไหน สิ่งนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย คุณอาราอิใช้คำว่า 真面目 น่ะค่ะ แต่เราไม่รู้จะแปลคำนี้ว่าอะไรได้ตรงไปกว่านี้แล้ว ซึ่งจริงๆจะแปลแค่ว่าขยัน เอาจริงเอาจัง มันก็ไม่ครบความหมายซะทีเดียว ^^" หมายเหตุ คุณอาราอิเป็นคนที่เลือกสีประจำตัวให้กับสมาชิกแต่ละคนที่ใช้มาถึงวันนี้ และก็ยังเป็นหนึ่งในจำนวนคนน้อยมากกกกกกในวงการบันเทิง ที่เรียกชื่อตัวของนาคาอิคือมาซาฮิโร่ แทนที่จะเรียกชื่อสกุลอย่างคนอื่น นอกนั้น ไม่ว่ารุ่นใหญ่แค่ไหน สนิทกันยังไง ก็เรียกนาคาอิหมด ขนาดลุงจอห์นนี่เจ้าของค่ายยังไม่เรียกว่ามาซาฮิโร่เลย ตอนป้าแมรี่บากหน้าไปขอโอกาสให้ได้ทำ Yume ga Morimori บอกว่าถึงจะเป็นเด็กหน้าใหม่ แต่ขอให้ลองดูเด็กพวกนี้แค่สักครั้งก็ยังดี คุณอาราอิเป็นคนที่ยอมรับเด็กพวกนี้และบอกว่าจะเอามาฝึกให้เอง และทำด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ YumeMori จนมาถึง SMAPxSMAP ปัจจุบันนี้ คุณอาราอิได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นระดับสูงของฟูจิทีวีไปแล้ว จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:43:08

ความคิดเห็นที่ 49 ภาคผนวก 1 ว่าด้วยเรื่อง SMAPxSMAP SMAPxSMAP เป็นรายการที่เรานับถือทีมงานดั้งเดิมที่คิด concept สุดๆ (คุณอาราอิ) เพราะปรับได้ตามสถานการณ์และแสดงถึงเสน่ห์และความสามารถของสมาชิกได้เด่นมาก รูปแบบรายการที่เปิดกว้าง ทำให้เชิญแขกได้ทุกแนว และไม่ล้าสมัยไปตามเวลา ตลอดหนึ่งชั่วโมงของรายการ จะแบ่งออกเป็นช่วงหลักๆสามช่วงใหญ่ด้วยกัน ช่วงแรกคือช่วง Bistro SMAP ที่จะเชิญแขกมากินอาหารที่สมาชิกทำให้ตามคำสั่ง แบ่งเป็นทีม แข่งกันว่าทีมไหนชนะก็จะได้รางวัลจากแขกรับเชิญไป ระหว่างทำอาหารก็จะให้นาคาอิ(ซึ่งทำอาหารไม่ได้เรื่องเลย)สัมภาษณ์แขกที่มาในช่วงนี้ มักจะมีคำถามเสมอๆว่าตกลงสี่คนนั่นทำอาหารเองจริงรึเปล่า เพราะหรูเวอร์มาก ถ้าย้อนไปดูเทปแรกๆจะเห็นว่าเละมากค่ะ หุงข้าวยังไม่เป็นเลย ต้องมีเชฟอาชีพช่วยทำ แต่พอทำไปเรื่อยๆทุกอาทิตย์เป็นสิบๆปี มีมืออาชีพคอยสอน มันก็ต้องเก่งขึ้นมามั่งล่ะน่า พอทำรายการไปได้สักพัก เชฟอาชีพก็ถอยไปยืนดูอยู่หลังกล้อง ปล่อยให้ทำเองหมด สูตรอาหารในแต่ละเทป สมาชิกจะเสนอไอเดียให้เชฟอาชีพช่วยดูก่อนว่ามันจะเวิร์คมั้ย เพื่อไม่ให้แขกที่มาต้องมาเสี่ยงตายกับอาหารไอเดียประหลาดๆ ^^" ออกหนังสือเอาสูตรอาหารใน Bistro มารวมเล่มขายไปแล้ว 8 เล่มได้ เล่มล่าสุดพึ่งออกเมื่อสองเดือนก่อน ทำยอดผ่าน 250,000 เล่มสบายๆ ช่วงที่สองคือช่วง Game กับ Skit หรืออะไรก็ได้แล้วแต่อารมณ์ ^_^ ก็จะเอามาแข่งเกมประหลาดๆกันเอง หรือไม่งั้นก็แข่งกับแขกรับเชิญ แต่ที่เด่นมากคือการแสดง skit ตลกในรายการนี่แหละค่ะ บางอันก็เป็นการแต่งเรื่องแต่งตัวละครมาใหม่เลย บางอันก็ล้อเลียนกระแสในเวลานั้น ใครบอกว่าคิมุระ ทาคุยะแสดงได้แต่บทพระเอกเดิมๆซ้ำ อยากเรียกให้มาดู SxS เพราะบทที่คิมุระแสดงได้ดีที่สุดน่ะ คือเวลาเล่น monomane ล้อเลียนนั่นแหละ เหมือนมาก ช่วงที่สามเป็นช่วงที่เอามาโพสท์กันบ่อยๆในเฉลิมกรุงคือช่วง S-Live ถ้าเป็นช่วงที่ออกเพลงก็จะร้องเพลงของตัวเอง บางทีก็เรียบเรียงต่างจากในซีดี นอกนั้นก็จะเป็นการร้องเพลงร่วมกับแขกรับเชิญทั้งนักร้องญี่ปุ่นและนักร้องต่างชาติ เป็นอีกช่วงนึงที่ทีมงานโชว์ prop และจัดเวทีได้อลังการงานสร้างมาก ึคุณคุโรกิโปรดิวเซอร์คนนึงที่คิมุระเรียกชื่อเล่นว่าคุรุคิน คนนี้ก็บ้าเลือดทุ่มทุนสร้างเหมือนกัน ตอนจะไปเชิญ Michael Jackson มาออกรายการ คุณคุรุคินก็ห้ิว portfolio ไปหา ไปเดินตามขบวนของไมเคิลที่ตอนนั้นอยู่ที่ญี่ปุ่น ตามไปทุกที่จนมีโอกาสได้แนะนำตัว ตอนรู้คิวว่า Gaga จะมาญี่ปุ่น คุณคุรุคินก็บินไปอเมริกาปุบปับทันที ไม่นัดไม่เนิดอะไรก่อน ทำ portfolio ไปเสนองานเรียบร้อย เตรียมดีไซน์เวทีไปสามแบบ แถมด้วยเทปตัวอย่างรายการและคลิปข้อความจาก SMAP ไปแนะนำตัว ก็ต้องเป็นคนประเภททุ่มสุดตัว บ้าดีเดือดแบบนี้ล่ะมั้ง ถึงอยู่กับ SMAP ได้ อันนี้เลือกคลิปยาก เพราะไม่รู้จะเอาอันไหนมาลงดี เอาอันนี้ละกันค่ะ เพราะมี sub ด้วย ตัวอย่าง skit บ้าบอหลุดโลกของรายการ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 05:52:17

ความคิดเห็นที่ 50 ภาคผนวก 2 Fuji TV's FNS 27hrs ถึงจะเป็นแฟนๆนักร้องญี่ปุ่น แต่คิดว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จักรายการนี้นัก จะไปรู้จัก 24hrs TV ของช่อง NTV ซะมากกว่า เพราะงานนั้นไอดอลออกบ่อย แต่เพราะเราเขียนถึงรายการนี้อยู่เยอะ ก็เลยอยากพูดถึงรายการนี้คร่าวๆ งานนี้เป็นงานใหญ่ประจำปีของช่องฟูจิทีวีค่ะ เป็นการออกอากาศสดต่อกัน 27 ชั่วโมง (มีบางปีก็ลดเหลือ 25,26 ชั่วโมงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมแล้วแต่พิธีกรหลักล่ะมั้ง) จะว่าไปก็คล้ายๆกับงาน 24hrs ของช่อง NTV แต่อันนั้นจะเน้นการกุศลล้วนๆ รายการที่ออกในแต่ละช่วงก็มักจะเป็นคลิปเรียกน้ำตา ดูแล้วซาบซึ้งเกิดกำลังใจ ในขณะที่ของ 27hrs TV จะเน้นรายการตลกเฮฮาวาไรตี้เป็นหลัก คือเอาขำเข้าว่า รายการแต่ละช่วงจะเป็นวาไรตี้ประจำของทางช่องอยู่แล้ว มีพิธีกรหลักเป็นแขกรับเชิญ เริ่มจัดครั้งแรกตั้งแต่ปี 1987 แต่ใช้ชื่อว่า FNS no hi เป็นรายการสดตลอดวันเฉยๆ มาเปลี่ยนชื่อและปรับรูปแบบอย่างปัจจุบันนี้ในปี 1997 เป็นต้นมา พิธีกรหลักที่ผ่านมามักจะเป็นสายตลกล้วนๆเช่น Downtown, 99, อาคาชิยะ ซันมะ แต่ในบรรดาพิธีกรทั้งหมด เป็นสมาชิก SMAP ไปซะ 7 ครั้ง (นาคาอิ 6 ชินโง 1) เลยเป็นอีกหนึ่งงานที่แสดงให้เห็นว่า กลมกลืนกับการเป็นตลกกันมากกว่า ^^" คลิปนี้ก็เป็นอีกคลิปจากงาน 27hrs ปีล่าสุด ที่มีนาคาอิเป็นพิธีกรร่วมกับ 99 ค่ะ เป็นคลิปที่แสดงให้เห็นชัดเหมือนกันนะคะ ว่าทุ่มกันบ้าเลือดขนาดไหน เป็นเหตุการณ์หลังจากนาคาอิเป็นพิธีกรติดต่อกันไม่ได้หลับได้นอนมาเกือบ 20 ชั่วโมง และพึ่งแสดง Live ร่วมกับ SMAP ยาวสิบนาทีกว่าๆจบไปหมาดๆ เป็นคลิปที่ดูแล้ว แฟน SMAP หลายคน tweet ด่าฟูจิทีวีกันให้เพียบ ถึงจะรู้ว่าเตี๊ยมกันไว้ก่อนแล้ว เผลอๆนาคาอิจะเป็นคนคิดเองด้วยซ้ำ(ไม่งั้นจะถอดนาฬิกาทำไม) แต่มันจำเป็นจะต้องเล่นกันแรงขนาดนี้เลยเหรอ น้ำร้อนนะนั่น ถึงจะฮามากก็เถอะ แล้วไงล่ะ ก็ได้เรื่องน่ะสิ จบงานนี้เดินกะเผลก ปวดหลัง ขาลากไปซะหลายวัน แถมเจ้าตัวยังมีรายการสดต้องจัดติดต่อกันรวมสี่วันรวด วันสุดท้ายนี่ตาบวมเลย จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 06:01:26

ความคิดเห็นที่ 51 จบซะที เป็นกระทู้ที่ยาวที่สุดที่เคยเขียนมาเลยค่ะ ถึงวันนี้ ไม่เคยหวังจะให้ SMAP อยู่บนจุดสูงสุดในวงการไปตลอดชีวิต ไม่ได้หวังจะให้เป็น SMAP อยู่ด้วยกันจนแก่ตายกันไปข้าง เพราะรู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก กับวงการบันเทิงที่มีการแข่งขันสูงขนาดนั้น (ถึงจะทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กันมาแล้วไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็เถอะ) แค่รู้สึกว่ามาได้ขนาดนี้ อยู่มาได้ขนาดนี้ก็เป็นกำไรมากแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน แต่ถ้ายังอยากจะทำกันอยู่ ยังจะรักษาสัญญาที่ว่าจะฉลองด้วยกันตอนนาคาอิอายุ 60 ยังจะทำตามที่ชินโงพึ่งบอกว่าความฝันในตอนนี้คืออีก 20 ปีให้หลัง ก็ยังจะมี SMAP ถ้ายังอยากจะให้วิ่งตามสุดกำลังกันต่อไปอย่างที่บอกใน fan meeting เมื่อเดือนที่แล้ว เราก็จะยังตามไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงที่สุดล่ะค่ะ.....STAY Happy 20th Anniversary......SMAP eien nante iwanai kara sa, kodou yamu sono toki made บอกไม่ได้หรอกว่าชั่วนิรันดร์​ แต่แค่จนกว่าชีพจรหยุดเต้นเท่านั้น We'll be together, Yours ever anata to tomoni arukou จะเดินไปด้วยกันกับเธอ ironna koto wo norikoe จะก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ tatta no 50 nen.....isshou ni แค่สัก 50 ปีก็พอ ที่เราจะอยู่ด้วยกัน จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 06:12:38

ความคิดเห็นที่ 52 แถมอีกคลิปละกัน คลิปเก่าเมื่อปีที่แล้ว แต่สรุปเรื่องหลักๆในกระทู้นี้ไว้ได้เกือบทั้งหมดค่ะ (พอดีเพลงมันยาว ^^") จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 06:15:21

ความคิดเห็นที่ 53 มาจองอ่านค่ะ ขอเข้างานก่อนนะคะ วันนี้ นายไปมิตติ้ง จะแอบอ่าน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : AhoUshi (AhoUshi) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 07:54:33

ความคิดเห็นที่ 54 พอย้อนกลับไปมองอดีตมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อเหมือนกัน วง ๆ นึงผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดนี้ แต่ก็ยังยืนหยัดในวงการบันเทิงญี่ปุ่นได้ และยืนหยัดได้อย่างดีซะด้วย แต่ละคนเป็นที่รู้จัก แต่ละคนมี "แนวทาง" เป็นของตัวเอง ผูกพันกันแต่ก็เป็นอิสระระหว่างกัน มีชื่อเสียง มีคนให้ความยอมรับนับถือเป็น National Icon เดินทางมาถึงปีที่ 20 แล้ว ทั้ง ๆ ที่บอยแบนด์ส่วนใหญ่อายุการใช้งานน้อยนิด ยืนอายุจนจะเข้าเลข 4 กันได้แถมยังดังกันอยู่ น่าภูมิใจจริง ๆ เป็นหนึ่งวงที่ถ้าแยกไปตอนนี้(โดยสมัครใจ)จะไม่เสียใจเลย(ล่อเป้ามากฮ่า ๆ) ที่บอกว่าไม่เสียใจเพราะเป็นวงที่เรารู้สึกว่าเค้าให้คนดูให้แฟนคลับเต็มที่มาก ๆ และเราไม่มีอะไรที่ไม่เคยได้เห็นไม่เคยได้ดูจาก SMAP เลย ให้ครบทุกอย่างทุกหยดจริง ๆ สาระความรู้ความบันเทิงกำลังใจและแรงบันดาลใจ ความเสียดายอาจจะมีแต่คงไม่เสียใจเพราะเหตุผลข้างต้น ไม่มีอะไรค้างคาต่อกัน 20 ปีของการเป็นนักสู้ 20 ปีของการไม่ทอดทิ้งกันและกัน 20 ปีที่ยืนหยัดสร้างตัวมาจนเป็น SMAP ทุกวันนี้ Proud to be your FAN !!!! Omedeto 20th anniversary SMAP !!!!!!! ป.ล. เผื่อใครอยากเห็นโฆษณาลิปสติกโดยคิมุระ โฆษณาเครื่องสำอางค์ด้วยผู้ชายครั้งแรกของญี่ปุ่น คาเนโบ เทสทิโม II ยอดขายเพิ่ม 3 เท่าในสองเดือน เอาให้ชมกันค่ะ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมขายดี จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 08:27:24

ความคิดเห็นที่ 55 รัก SMAP มาก ขอบคุณนะที่เอามาให้อ่านระลึความหลังอีกที จากคุณ : Type_L เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 10:03:05

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ NAJ ผลงานยอดเยี่ยมเหมือนเคย   รู้จัก SMAP ก็เพราะเพลงชาติ SMAP อย่าง Sekai ni Hitotsu Dake no Hana เลยได้เริ่มติดตามอยู่บ้าง  รายการ SMAPxSMAP ก็ได้ดูบ่อยเหมือนกัน เป็นไอดอลผู้ชาย ที่แต่งเป็นผู้หญิงได้ขึ้นมากครับ  ไม่นึกว่าจะกล้า่ขนาดนี้ด้วย 555 ที่ต้องยอมรับอีกอย่างคือ ฝีมือทางการแสดงของทาคุยะ นี่เรียกได้ว่าหาตัวจับยากจริงๆ ครับ เด็กจอห์นนี่รุ่นหลังควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ^^ จากคุณ : jazz_tronik เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:24:14

ความคิดเห็นที่ 57 สมกับเป็นพี่ NAJ อ่านแค่หัวเรื่องก็รู้แล้วว่า สุดยอด เดี่ยวกลับไปนั่งอ่านอย่างสงบที่ ห้องดีกว่า ฮ่าๆ พี่สาวเล่าให้ฟังในสไกด์ว่า น้ำตาไหลอยู่ เพราะอ่านกระทู้นี้ กลัวตัวเองเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณมากนะคะ อุยย ปาดน้ำตา ไม่ทราบว่าใครพอมีลิงค์รวบรวมประวัติวงต่างๆที่มีเขียนในพันทิปบ้างคะ หาไม่เจอเลย จากคุณ : all abt เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:05:34

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นกระทู้ที่ดีที่สุดที่เคยได้อ่านมาในห้องเฉลิมกรุง ... ขอบคุณคุณ NAJ มากค่ะที่ทำให้เราได้รู้ในเรื่องต่างๆ ที่อยากรู้มานานหลายปี แต่ไม่รู้จะตั้งคำถามยังไงเพราะไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับ SMAP เลย ได้แต่เคยอยากรู้อย่างกว้างๆ (ทำให้ตั้งคำถามได้ยาก ก็เลยเก็บความสนใจไว้ในใจต่อไป) เรื่องราวเหล่านี้ ต้องเป็นแฟนที่ติดตามมาตลอด และรู้จริง รักจริง ถึงจะเขียนเล่าให้ฟังอย่างน่าสนใจได้(เรื่องราวใน 20 ปี ยาวนานมากจนยากจะสรุปย่อมาให้ฟัง) กระทู้นี้นี่แหละ ที่ตอบความสนใจอยากรู้ของเราได้หมดเลย อ่านจนอิ่มเลยค่ะ ^__^ ขอบคุณที่แบ่งปันในความชอบ ความประทับใจ ให้ได้อ่านกันนะคะ เราเชื่ออยู่อย่างนึงว่า ความจริงใจ ความจริงจัง ความรักที่คนเรามีให้กัน และการเห็นคุณค่าของคนอื่น จะทำให้เกิดสิ่งที่ดูเหมือนปาฏิหาริย์ได้ เป็นเพราะว่า เวลาคนเราอดทนทำบางสิ่งเพราะเห็นแก่คนอื่นและทำด้วยความรัก แบบนั้นจะทำให้คนเราทำสิ่งที่ดีได้มากกว่าทำให้ตัวเอง ก่อนหน้านี้เราเคยสงสัยว่าทำไม SMAP ถึงดังมากดังนานขนาดนี้ แต่พออ่านแล้วก็ซึ้งขึ้นมาในระดับนึง(ที่คนที่ไม่ได้ติดตามวงนี้เลยอย่ืางเรา ก็คงจะพอเข้าใจได้เพียงส่วนเสี้ยวของสิ่งที่พวกเค้าได้เจอและได้ทำมาเท่านั้น) ว่า สมาชิกของวงทุกคนรัก SMAP "มาก" และมีความรักความนับถือกัน ยืนหยัดฝ่าฟันทุกอย่างไปด้วยกันอย่างแท้จริง รู้(ขึ้นมานิดนึง จากที่ไม่เคยรู้เลย)แล้วว่าทำไมคนถึงนับถือนาคาอิกันมาก ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ค่ะ เป็นกระทู้ที่ดีที่สุดที่เคยได้อ่านมาในห้องเฉลิมกรุงจริงๆ สุดท้ายก็ขอเป็นกำลังใจให้วงที่เรารัก และน้องยุนอา ให้เดินตามรอยพี่ๆ ลุงๆ วง SMAP กันต่อไป (จะทำได้มากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องนึง ถือว่าเป็นความตั้งใจและความฝันของน้องๆ) โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นวงที่รักกันอย่างยาวนานค่ะ ^^ ------------------------------------------------------- พวกคุณสุดยอดจริงๆ SMAP !!!!! จากคุณ : ว้อบแว้บ* เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:14:56

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านเรื่องราวของ SMAP แล้วหัวใจอบอุ่น อยากร้องไห้เลยล่ะ จากคุณ : AhoUshi (AhoUshi) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:23:53

ความคิดเห็นที่ 60 วันนี้มีแฟนมีตที่ไซตามะค่ะ ที่ SMAP เลือกไปที่นั่นก็เพราะเป็นสถานที่เปิดตัวเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พายุเข้างานต้องช้าไปอีกหลายชั่วโมงและลงท้ายนักข่าวไม่มีใครถามอะไรเด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์เลย หน้าตาแต่ละคนหวั่นใจมาก แต่ปีนี้คงไม่มีอะไรแบบนั้นแล้ว อีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ว่าหนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คนถ้าใจไม่สู้ คงไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีนาคาอิ ลีดเดอร์ กับ คิมุระ กัปตัน สามคนที่เหลือก็คงหวั่นไหวไม่น้อย ถ้าไม่มีนาคาอิ(คุณแม่) วิ่งสู้ฟัดเปิดรายการวาไรตี้ ช่วยกันกับคิมุระดูงาน ถ้าไม่มีคิมุระ(คุณพ่อ)ที่จับงานละครได้ถูกที่ถูกเวลา คนที่ไฟแรงสูงกล้าได้กล้าเสียกล้าพูด กล้ากบฎ ถ้าไม่มีโกโร่ที่มองโลกในแง่ดีในเวลาที่ใจย่ำแย่ ถ้าไม่มีสึโยชิที่อดทนและพยายามรับความกดดันจากความสำเร็จของเพื่อนวงให้ได้ ถ้าไม่มีน้องเล็กชินโงที่อารมณ์ดีเฮฮาน่ารักชอบลองของแปลกของใหม่ วันนี้คงไม่มี SMAP ให้เห็นกัน สำหรับเราแล้ว SMAP เป็นอะไรที่ล้มลุกคลุกคลานมามาก แต่เป็นประเภทต้นร้ายปลายดังระเบิดระเบ้อ SMAP เป็นวงที่เป็นจุดเปลี่ยนผ่านของบอยแบนด์วัยใสร้อง ๆ เต้นมาถึงทาเลนโตะที่ทำได้ทุกอย่างในสากลโลก เป็นต้นแบบของไอดอลพันธุ์ใหม่ที่ผสมผสานให้เกิดไอดอลรุ่นน้องในทุกวันนี้ อีกอย่างนึงที่เราชอบในสแมปคือมันยังมี ... อะไรล่ะ ลำดับอาวุโสบาง ๆ อยู่ (วงรุ่นกลาง ๆ ใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้คงไม่ค่อยมีแล้วเนอะ) รู้เลยว่านาคาอิกับทาคุยะเป็นที่เกรงใจของคนอื่นพอสมควร มันเลยปรามกันได้เวลามีเรื่อง ทั้งในจอและ เลยไปถึงนอกจอด้วย เรื่องของสึโยชิเมานี่จะเห็นชัดว่าสองคนนี้ "ไม่อวยไม่โอ๋" สึโยชิเลย มีชินโงกับโกโร่จังรับตำแหน่งโอ๋ไป  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ทิ้งกัน ลงไม้เรียวแล้วก็ลงมือปัดเป่าจัดการปัญหาให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าใครคนไหนจะมีปัญหาก็ตามที และ แน่นอนว่าถ้าใครแหยมนินทาเอาเรื่องร้าย ๆที่ไม่จริงมาพูดเป็นเล่นล่ะก็ เจอสายตาพิฆาตแน่นอน เสียดายปีนี้น่าจะมีคอนฯ กะจะไปอยู่เชียว จัดคอนฯไปนาน ๆ หน่อยนะค้าลุง หนูจะได้เคลียร์งานเก็บตังค์ไป จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:57:49

ความคิดเห็นที่ 61 สุดยอดกระทู้นึงแห่งห้องเอเชียเฉลิมกรุง เลยค่ะ ขอบคุณคุณ NAJ มาก ๆ ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา โดยส่วนตัว ไม่ได้เป็นแฟนคลับวง SMAP แต่เพราะพี่แกเป็นรุ่นพี่ใหญ่ของค่ายจอนนี่ของศิลปินที่เราก็เลยรู้จักค่ะ และก็ชอบผลงานละครของทาคุยะเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ไม่เคยรู้เลยว่า กว่าพี่แกจะดังค้างฟ้ากันได้อย่างทุกวันนี้เนี้ย พวกเค้าต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง พอได้อ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้รู้ว่าคนที่ดังมากๆและมีแต่คนยอมรับนี่ เค้าต้องผ่านอะไรมามากมาย ใช้ความพยายาม ความทุ่มเท เสียสละ ความรัก และอะไรอีกหลาย ๆ อย่างมากมายจิงๆ ขอบคุณมากๆเลยน่ะค่ะ สำหรับกระทู้ดีๆที่เขียนมาจากใจกระทู้นี้ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : sweetyminky เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:58:34

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นกระทู้คุณNAJทีไร ต้องเข้ามาอ่านตลอดเลยค่ะ เป็นแฟนพันธุ์แท้ 555 กระทู้ 2TOP ก็เข้าไปอ่านซ้ำอยู่เรื่อยๆ อ่านแล้วรู้สึกทึ่งในตัวของสองหนุ่ม 2TOP มาก^^ กระทู้นี้เดี๋ยวจะ bookmark เก็บไว้อ่านเลยค่ะ เพราะมันทำให้รู้สึกได้ถึงความพยายาม, ความอดทน, และความรักของทั้งตัว SMAP, ทีมงาน และแฟนๆ ที่ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆ^^ อ่านจบแล้วรู้สึกว่าต้องพยายามมากๆ ให้ได้ซักครึ่งหนึ่งของ SMAP ก็ยังดี^^ สู้สู้!!!!! จากคุณ : ตายรังที่ไข่เจียว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 16:04:27

ความคิดเห็นที่ 63 โปสเตอร์ที่เค้าว่าโดน ๆ ฉกกันก็มีอันนี้รวมอยู่ด้วยค่ะ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 16:06:02

ความคิดเห็นที่ 64 รู้จักทาคุยะก่อนจากซีรีส์ แล้วถึงรู้จัก SMAP และนี่เป็นกระทู้ที่ทำให้เรารู้จักวงนี้ได้มากที่สุดเลยค่ะ คุณ NAJ เขียนเรียบเรียงได้เป็นระบบ อ่านง่าย อ่านแล้วเหมือนได้รู้จัก SMAP ในแต่ละช่วงเวลา ไล่เรียงไปตามแต่ละเหตุการณ์ ประทับใจในการร่วมกันต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคกันมา ที่อยู่มาได้นานขนาดนี้ไม่ใช่เพราะหนทางมันราบรื่น  แต่เพราะเขาไม่ยอมแพ้กันต่างหาก แต่ละเรื่องที่เจอ หนักๆ ทั้งนั้น   อ่านแล้วเป็นเรื่องราวให้กำลังใจกับคนอ่านมากๆ ค่ะ  ^^ จากคุณ : เด็กหญิงชาเย็นปั่น เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 17:20:52

ความคิดเห็นที่ 65 ขอสารภาพตรงๆ ว่าตอนเเรกไม่ได้ชอบ Smap เลย เเต่พอได้มีโอกาสเข้ามาอ่านบทความต่างๆ ของ คุณ NAJ เเล้ว ทำให้รู้สึกว่าศิลปินกลุ่มนี้ไม่ได้มีเเค่หน้าตาอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาต้องฝึกฝนพัฒนาความสามารถ ความอดทนต่างๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เเม้ตอนนี้จะผ่านมา 20 ปี พวกเขาก็ยังโด่งดัง เป็นขวัญใจของคนญี่ปุ่น ตอนนี้เราก็เป็นคนนึงที่ขอสมัครเป็นแฟนของ Smap ด้วยคน อีกอย่างนึงที่สัมผัสได้จากการอ่านกระทู้ของคุณ NAJ ก็คือ ความรักของแฟนคลับคนนึงที่มีต่อศิลปินอย่างจริงจัง ขอชื่นชมนะค่ะ ถ้า Smap ได้รู้ว่ามีคนที่คอยติดตามเรื่องราวต่างๆเเละเป็นกำลังใจให้พวกเขาอย่างนี้ จะต้องดีใจมากเเน่ๆ เป็นกำลังให้แฟนคลับทุกคน ทั้งที่เป็นแฟน Smap เเละวงอื่นๆ ด้วยนะค่ะ จากคุณ : ErnGii (ErnGii) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 17:38:09

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านเเล้วน้ำตาเกือบไหลในออฟฟิส ปาฏิหาริย์แรกที่ทำให้ SMAP อยู่ได้ถึงทุกวันนี้คือทุกคคนในวงรัก SMAP มากกกกกก และปาฏิหาริย์ที่ 2 ที่ทำให้  SMAP อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้คือ.....แฟนๆSMAP รักSMAP เหลือเกินนนนนนน จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:13:46

ความคิดเห็นที่ 67 มาลงชื่อว่าอ่านอยู่ค่ะ ขอบคุณคุณNAJมากเลยนะคะ สำหรับกระทู้ดีๆ ทำให้รู้ในอีกหลายๆด้านจริงๆ กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะกันจริงๆ ^ ^ ตอนแรกเราก็รู้จักแค่คิมุระ ทาคุยะแหล่ะค่ะดูละครแกบ่อย ก็รู้แค่ว่าอยู่วงSMAPอะไรเนี่ยแหล่ะแต่ไม่ได้สนใจ แต่พอหลังจากที่เป็นแฟนคลับวงยุ่นวงนึงก็ตามดูรายการไป ก็ไปออกรายการUtabanสมัยนั้นบ่อยอยู่ก็ชอบพิธีกรมากค่ะ แบบฮาอ่ะ ชอบๆ ก็มารู้ตอนหลังว่าเอ๊ะ คนเดียวกับสมาชิกSMAPนี่หว่า จำเสียงได้ก่อนหน้าอีก55 จากที่จำหน้าไม่ได้สักคนไปๆมาๆจำได้ทุกคนซะงั้น ซึมซับไปโดยไม่รู็ตัว ปล.แอบสงสันนิดนึงเมมเบอร์ที่คุณNAJ ชอบมากที่สุดคือใครเหรอคะ ? ^ ^ จากคุณ : Gerken เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:22:55

ความคิดเห็นที่ 68 กลับมาอ่านต่อค่ะ ตั้งแต่ติดตามวงการเพลงญี่ปุ่นมาเรารู้สึกว่าศิลปิน/ไอดอลที่กลายมาเป็น Big Name ของญี่ปุ่น ส่วนมากมักไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น ความพยายาม ไม่ย่อท้อนี่แหละที่เราว่ามีส่วนทำให้คนศรัทธาในบรรดา Big Name ทั้งหลาย ไม่ว่าจะ SMAP, Mr. Children, Ayumi Hamasaki, EXILE,...etc. ต่างก็ผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะกันทั้งนั้น (มีแต่ Utada Hikaru เนี่ยแหละที่เทพมาก...เดบิวต์ปุ๊บก็ดังเปรี้ยงปร้างทันที่เลย) ความสำเร็จและการเป็นที่ยอมรับของคนญี่ปุ่นทั่วไปในทุกวันนี้มันจึงคู่ควรแล้วล่ะค่ะ อันนี้ถามค่ะ - ลุงจอห์นนี่เป็นอะไรกับป้าแมรี่คะ พี่น้อง หรือว่าสามีภรรยา - แล้วลุงจอห์นนี่กับป้าแมรี่เป็น American - Japanese (ลูกครึ่ง) หรือว่า American Born - Japanese (คนญี่ปุ่นที่เกิดที่อเมริกา) หรือว่า American คะ - ข่าวของทาคุยะกับคุณภรรยาที่ลือแล้วลืออีกว่าจะเลิกกันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ และก็ข่าวว่าทาคุยะนอกใจภรรยาเนี่ย สรุปแล้วเขาก็ยังเป็นครอบครัวสุขสันต์ที่รักกันดีอยู่ใช่มั้ยค่ะ (ก็น่าจะดีอยู่นะ ลือกันมาจนลูก 2 คนโตจนเข้าโรงเรียนกันหมดแล้ว) จากคุณ : SK_TL เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:31:08

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ NAJ main ใครหว่า ไม่เคยได้สังเกต คิมุระ นาคาอิ หรือ สึโยชิ เราว่ารักเท่า ๆ กันน้า สามคนเนี้ย บางทีก็คิมุระ บางเวลาก็นาคาอิ บางครั้งก็สึโยปง โฮ่ ๆ เดา ๆ เอาค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ดูรายการมัวแต่ไปเป็นบ้าเป็นหลังเรื่องเรียนอยู่นาน จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ คิดถึงพวกเทป Love Award อะไรพวกนี้จัง ไม่เห็นนานแล้ว แต่รุ่นน้องไปออกรายการเยอะขึ้นเนอะ(อันนี้ชอบ) เพราะมันฮามว้ากกกกก สถานะไดเซมไปนี่มันเอื้อให้แกล้งคนจริง ๆ นะคะ เมื่อวันก่อนดูเทปปีที่แล้วมั้งนะ ที่กี้กับสึบะไปออก สึบะสะดุ้งโหยงเลยฮ่า ๆ เทปของโอคาดะก็ฮาดี พอรุ่นน้องมาก็เล่าความหลังครั้งเก่าก่อนกันสนุกสนานได้รู้ประวัติคนโน้นคนนี้ พวกวงกลาง ๆ ค่อนทางเก่า และกลาง ๆ ค่อนทางใหม่ มาบ่อย ๆ ยังงี้ดี ยังอยากเห็นพวกรุ่นเก่า ๆ แบบนี้เผากันเองนะ น่าจะมีใครส่งไอเดียไปรายการบ้างเนาะ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:38:53

ความคิดเห็นที่ 70 อันนี้ถามค่ะ (แอบตอบนะคะ) - ลุงจอห์นนี่เป็นอะไรกับป้าแมรี่คะ พี่น้อง หรือว่าสามีภรรยา ป้าแมรี่เป็นน้องสาวค่ะ - แล้วลุงจอห์นนี่กับป้าแมรี่เป็น American - Japanese (ลูกครึ่ง) หรือว่า American Born - Japanese (คนญี่ปุ่นที่เกิดที่อเมริกา) หรือว่า American คะ ลุงเป็นอเมริกันบอร์นฯจ้า เชื้อสายญี่ปุ่นเกิดที่ LA - ข่าวของทาคุยะกับคุณภรรยาที่ลือแล้วลืออีกว่าจะเลิกกันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ และก็ข่าวว่าทาคุยะนอกใจภรรยาเนี่ย สรุปแล้วเขาก็ยังเป็นครอบครัวสุขสันต์ที่รักกันดีอยู่ใช่มั้ยค่ะ (ก็น่าจะดีอยู่นะ ลือกันมาจนลูก 2 คนโตจนเข้าโรงเรียนกันหมดแล้ว) ลือกันจนชินเป็นข่าวทุกต้นปีค่ะ เอาเป็นว่าตั้งแต่แต่งงานเลยดีกว่า แรก ๆ ก็ฮือฮาแต่หลัง ๆ ไม่สะทกสะท้านกันแล้วล่ะ คิมุระเป็นคนที่หวงครอบครัวมากค่ะ ไม่ค่อยพูดถึง จะมีชิสึกะซังมากกว่าที่พูดว่าเลี้ยงลูกยังไงมีความสุขดีอะไรแบบนี้ ภาพที่ปาปาฯถ่ายได้ก็พวกคิมุระไปงานโรงเรียนลูก ไปเที่ยวด้วยกันบ้างอะไรบ้าง ลือมาเป็น 10 ปีแล้วก็ได้แค่ลือค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 19:45:21 จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:44:40

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านแล้วปลาบปลื้ม ยินดี ชื่นชม วง SMAP ที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไม่หวังผลตอบแทน อ่านแล้วสุขใจจัง ขอบคุณ จขกท.มากๆ ที่ตั้งใจรวบรวม เรียบเรียงและเล่าให้ฟังนะคะ จากคุณ : miracle_rainyteddy เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 20:48:07

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณที่รวบรวมให้ได้อ่านค่ะ จากคุณ : Rexular เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 21:04:00

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นด้วยกับคุณ วรินทร์รตา น่าจะมีรายการจับเอา SMAP, TOKIO, โทนิเซน มานั้งคุยกันฮาๆซักรายการ สงสัยได้เรื่องเก่าๆมาเผาเต็ม (แม้จะเคยรวมตัวลีดเดอร์แต่ละวงไปแล้วรอบนึกก็เถอะ แต่ถ้ารวมได้ครบคงฮากว่ามาก) ถ้ามีเพอเฟอร์แมนซ ในมาด Skate Boys คงฮามาก 55+ จากคุณ : y2thumb เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 21:08:17

ความคิดเห็นที่ 74 SMAP !!!! เดบิวครบรอบ 20 ปี!!! หลังจากเริ่มติดตามวงนี้มาตั้งแต่ปี 2007 ถึงตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว (ไม่นานเท่าไหร่เนอะ) เคยบ้าเก็บคลิปรายการ ซีรียส์ คอนเสิร์ต ซื้อนิตยสาร อัลบัม ปัจจุบันถึงเราจะไม่ได้ติดตามเท่าไหร่แล้ว แต่ก็ยังชื่นชมวงนี้อยู่เสมอ ดีใจที่ได้รู้จักลุงๆSMAPมากมาย แถมได้รู้จักพี่ๆบ้านพี่ยะฯ เพื่อนๆในพันทิป เราฝึกร้องเพลง SMAP ได้หลายเพลง ได้รู้จักภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นจากการดูรายการวาไรตี้กับซีรียส์ ดีใจกับ SMAP ที่ฝ่าฟันอุปสรรค์มากมายจนมายืนอยู่ที่จุดนี้ได้ จากคุณ : Lalawolf เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 21:11:12

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาออกความเห็นนะคะ รู้สึกเหมือนตัวเองใจร้าย....ดีใจแฮะ เวลาคนบอกว่าอ่านแล้วน้ำตาไหล ^^" คือดีใจที่มีคนอ่านแล้วอินไปกับเรื่องของ SMAP ด้วยน่ะค่ะ ตอบคำถาม 1. คนที่เริ่มชอบตอนแรกคือโกโร่จังค่ะ และเมื่อก่อนไม่เคยมีคนที่ชอบมากที่สุดเลย เพราะมันจะมี moment ที่แต่ละคนจะผลัดเป็นที่หนึ่ง เป็นคนที่ชอบที่สุดมาตลอด จนตั้งแต่ไปดูตัวเป็นๆเห็นนาคาอิทุ่มสุดตัวจนหอบตัวโยนเมื่อคอนปีที่แล้วนี่ล่ะค่ะ อีกอย่างเพราะนาคาอิเป็นคนปากแข็ง ซึนซะยิ่งกว่าพระเอกการ์ตูนเรื่องไหนๆ เวลาดูรายการหรืออะไร เราเลยจะสังเกตนาคาอิเป็นพิเศษว่ามองหรือทำอะไรอยู่ เลยสรุปกับตัวเองได้ว่า จริงๆแล้วชอบนาคาอิที่สุดสินะ ^^" 2. แก้นิดนึง ป้าแมรี่เป็นพี่สาวลุงจอห์นนี่ค่ะ 3. เรื่องคิมุระ เมื่อปีที่แล้วมีลืออยู่ครั้งนึง ว่าทิ้งลูกกับเมียให้ไปเล่นสกีกันสามคน ตัวเองถ่าย SMAPxSMAP อยู่ที่โอไดบะเสร็จแล้วมีปาร์ตี้ต่อ ไม่ตามไปหาลูกหาเมีย ข่าวมาออกทีหลังว่าปาร์ตี้ที่ว่า เป็นงานวันเกิดของผู้จัดการ "I" หรือก็คือคุณอิอิจิม่า มิจจิ เราก็เลยนึกต่อว่า เออ พออยู่งานปาร์ตี้ ไม่ตามเมียกับลูกไปเที่ยว ก็บอกว่าจะหย่า แต่ถ้าตามเมียกับลูกไปเที่ยว ไม่อยู่งานคุณมิจจิ ก็คงจะเป็นข่าวแยกวงแทนสินะ ^^" เข้ามาเพิ่มเรื่องให้น้ำตาไหลอีกนิดหน่อย fan report จาก Seibuen เริ่มมาแล้วค่ะ ร้องไปสี่เพลง Ganbarimashou, SekaiHana, Original Smile, และ Can't Stop ชินโงบอกว่า "รวมถึงคนที่ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ทั้งแฟนจากทั่วญี่ปุ่นและแฟนๆจากทั่วโลกที่คอยสนับสนุนพวกเรา ถ้าไม่มีพวกคุณ​ พวกเราก็คงมาไม่ได้ถึงตรงนี้ จากนี้ต่อไปขอฝาก SMAP ไว้ด้วยนะครับ" นาคาอิ "ผมจะไม่มีวันลืมวันนี้เลย" จบงาน event นี้ด้วยการขัดคำสั่งบรรดา staff ที่ท้วงอยู่ข้างเวทีว่าคงไม่ไหวมั้ง SMAP จับมือกับแฟนครบทั้ง 10,000 คนที่โชคดีได้มาร่วมงานในวันนี้ ^_^ รูปนี้ เป็นรูปเวทีและบริเวณงานก่อนเปิดให้คนเข้าไปค่ะ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 21:40:01

ความคิดเห็นที่ 76 เค้าชอบงานเขียนคุณ  NAJ  :) จากคุณ : 6002theTIMEOUT เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 21:47:14

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านเพลินเลย ผมชอบทาคุยะมาตั้งแต่ตอนดูซีรีส์ละชอบมาก่อนที่จะรู้ว่าเค้าเป็นนักร้องอีก 55+ จากคุณ : RadiorA เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:01:58

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณนะคะคุณ NAJ สำหรับกระทู้ดีๆนะคะ เหตุการณ์ที่จำได้แม่นที่สุดคือตอนที่สึโยชิซังเมา ตอนนั้นอยู่บนรถกำลังจะกลับบ้านวิทยุที่ฟังอยู่ก็มีข่าวสึโยชิซังขึ้นมา (ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคลื่นบันเทิง จำได้ว่าเป็นข่าวช่วงประมาณทุ่มนึง) พี่น้องมองหน้ากันเลิกลั่ก พี่มันตกใจที่โดนจับ ส่วนน้องตกใจที่ว่ามันดังขนาดออกข่าววิทยุเลยเหรอ 555 จากคุณ : nn (อาขิ) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:41:53

ความคิดเห็นที่ 79 สุดยอดกระทู้ของเฉลิมกรุงทำเราร้องไห้ได้เลยนะเนี่ย เมื่อ10กว่าปีก่อน (โชว์แก่ได้อีก)เรารู้จักSMAPจากเพื่อนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกันมันเรียนเอกภาษาญี่ปุ่น และชอบทาคุยะมากๆในห้องจึงมีทั้งโปสเตอร์ ซีดีเพลง วีดีโอรายการต่างๆ ละคร ตลอด4ปีที่อยู่กับมันเราจึงซึมซับความเป็นSMAPเข้าไปเต็มๆ ช่วงนั้นเรารู้จักเพลงของSMAP เกือบทุกเพลง บางเพลงชอบมากเคยร้องได้ด้วยก็มี  แต่หลังจากเรียนจบได้งานทำเรากับเพื่อนก็ต่างแยกย้ายทำให้เราไม่ได้ติดตามSMAPรวมถึงผลงานบันเทิงอื่นๆทางฝั่งญี่ปุ่นอีก เพราะส่วนมากจะเริ่มหนักไปทางฝั่งเกาหลีแล้ว >.<   จะได้ดูงานละครของทาคุยะบ้างบางเรื่อง ส่วนด้านเพลงหลังจาก Sekai ni Hitotsu Dake no hana เราก็ไม่รู้จักเพลงของSMAPอีกเลย แต่เวลาเจอข่าวตามสื่อต่างๆก็จะดูและอ่านบ้าง  ล่าสุดที่ดู SMAPXSMAP ก็ตอนที่มีจางกึนซอก ไปออกนั่นแหล่ะ ยังคุยกับเพื่อนเลยว่า เฮ้ยย รายการนี้ยังอยู่เหรอฉันเคยดูตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย  น่าทึ่งมากจริงๆ สมควรแล้วที่เจ้าของกระทู้ยกให้เป็นกรณีศึกษาของวงการไอดอล ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับข้อมูลดีๆในกระทู้นี้ อ่านจบแล้วคิดถึงอดีตขึ้นมาซะงั้น!! จากคุณ : อย่าอิจฉาถ้าฉันสวยกว่าเธอ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:53:01

ความคิดเห็นที่ 80 เป็นกระทู้ที่คู่ควรกับเฉลิมกรุงจริงๆ จากคุณ : หน่วยอาชาเหล็ก เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:54:08

ความคิดเห็นที่ 81 ถึงจะไม่ใช่วงโปรดของเรา แต่ก็แอบผูกพันอยู่ห่างๆ เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก^^ บางเรื่องเราไม่รู้ แต่หลายๆเรื่องรู้และยังจำได้  อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงวันเก่าๆ ถึงจะรู้สึกแก่ไปบ้าง แต่ก็รู้สึกดีนะคะ^^ จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:00:56

ความคิดเห็นที่ 82 ตามมาอ่านจบแล้วครับคุณ NAJ > < อย่างแรกคือ หลังจากละจากกระทู้นี้ไปเมื่อคืน ผมก็ไปพยายามหาไฟล์ Albums SMAP AID มาฟังๆดู ทำให้รู้อะไรเกี่ยวกับวงๆนี้มากขึ้นเยอะเลย ส่วนตัวด้านเพลงผมว่า SMAP ไม่ได้แย่อะไรมากมายนะครับ จะมีึคนนึงที่อาจขุดไม่ขึ้นจริงๆก็ ป๊ะป๋า นาคาอิเนี้ยละ 55+ ตัวเอง ฟังเพลงของ SMAP ครั้งแรกจริงๆ คือ Lion Heart ซึ่งถ้าจำไม่ผิดได้ฟังในช่วงประมาณ เรียนภาษาญี่ปุ่นใหม่ๆ เกือบ 6 ปีได้แล้ว ซึ่งตอนนั้น ไม่ได้ฟังใน Version ของ SMAP ร้องครับ.... (น่าจะพอรู้นะว่าเป็นใึคร 55+) ซึ่งก็หลังจากนั้นนานพอควรก็ได้มาฟังเพลงนี้แบบเต็มๆ บอกตรงๆว่า -*- รู้สึกว่า เวอร์ชั่นที่ฟังเพราะกว่า แต่ รู้สึกชอบที่ SMAP ร้องต้นฉบับไว้มากกว่า ไม่รู้เพราะอะไร... ซึ่งถ้าคิดจากข้อมูลที่คุณNAJเขียน ก็ทำให้รู้แล้วนี้ละ ว่าทำไม ถึงชอบที่ SMAP ร้องมากกว่าทั้งๆที่ส่วนตัวก็คิดว่าเสียงตาลุงพวกนี้สู้ หนุ่ม 5 คนนั้นไม่ได้เลยแท้ๆ.............. ขอบคุณ คุณNAJ อีกครั้งครับ หวังว่า คงได้อ่านกระทู้ที่คุณนาจเขียนบ่อยๆนะ เวลาคุณนาจเขียนกระทู้ แล้วมันจะทำให้ผมอยากเขียนบ้างทุกทีเลย > < ปล. กระทู้ทำให้ผมชอบเพลง Original Smile > < จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 01:12:44

ความคิดเห็นที่ 83 เป็นกระทู้ที่ดีมากคะ ทำให้คนที่รู้จัก SMAP แบบห่างๆอย่างเรา เข้าใจและรู้จัก SMAP ได้ แถมมีแอบน้ำตาคลอด้วยนะ   ขอบคุณสำหรับกระทู้ค่ะ จากคุณ : บีแชยอง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 01:47:50

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้ค่ะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่า วงนี้คือวงที่สร้างปาฏิหาริย์จริงๆ ><~ จากคุณ : ZE (ze-zephyr) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 02:01:26

ความคิดเห็นที่ 85 เพิ่งจะเห็น+อ่านกระทู้นี้จบ ณ เวลานี้พร้อมกับตาบวมๆ ระลึกถึงอารมณ์ความรู้สึกตัวเองในหลายๆเหตุการณ์ที่คุณNAJพูดถึง (เกือบทุกอันสำคัญเลย ฮะๆ) แล้วบางทีก็แอบตกใจ.... รู้สึกเหมือนแค่กระพริบตาก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว!!!! มีเรื่องอยากเม้าธ์หลายช่วงเลยค่ะ แต่ตอนนี้....... Zzzz...... (พรุ่งนี้ทำงาน 9 โมง โฮ... เวลานอนไม่พอแล้ว) ปล. ขอบคุณสำหรับกระทู้รำลึกความหลังนะคะ ^__^ จากคุณ : =too= เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 02:01:59

ความคิดเห็นที่ 86 กระทู้นี้สุดยอดมากๆ อ่านจบแล้วประทับใจมาก ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ จากคุณ : sinein_nop เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 02:10:54

ความคิดเห็นที่ 87 แอบเห็นด้วยกับคุณ St.yawn เรื่องป๊ะป๋า 555+ ตอนแรกผมก็นึกว่าทาคุยะกับชิสุกะเลิกกันไปนานแล้ว พอมาอ่านกระทู้นี้ถึงรู้ว่ายังไม่ได้เลิกกัน ล่าสุดที่เห็นชิสุกะในทีวีดูแก่นำทาคุยะไปเย๊อะมาก ผู้หญิงแก่เร็วกว่าผู้ชายจริงๆ แต่จะว่าไปเมื่อก่อนเธอก็สมควรที่จะโดนผู้หญิงหลายๆคนหมั่นไส้ เพราะเธอเคยคว้าทั้งที่1ทางฝั่งร็อคและที่1ทางฝั่งป๊อป มาไว้ในครอบครองได้  ^^ ชอบที่คุณNAJ เขียน อ่านแล้วเพลินมาก ใช้เวลา2วันเลยทีเดียวกว่าจะว่างอ่านและดูคลิปจนจบ  จะรออ่านกระทู้ต่อๆไปอีกนะครับ... จากคุณ : มิ๊กกี้เมา เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 02:14:50

ความคิดเห็นที่ 88 "..จบงาน event นี้ด้วยการขัดคำสั่งบรรดา staff ที่ท้วงอยู่ข้างเวทีว่าคงไม่ไหวมั้ง SMAP จับมือกับแฟนครบทั้ง 10,000 คนที่โชคดีได้มาร่วมงานในวันนี้ ^_^.." น้ำตาร่วงเลย จากคุณ : MikaRin เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 07:27:39

ความคิดเห็นที่ 89 ชุดนี้คุ้น ๆ ตาป่าวคะ สีเหมือนชุดเดบิวต์เลยเนอะ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 07:40:08

ความคิดเห็นที่ 90 เรื่องชิสึกะ เห็นด้วยว่าแก่นำไปเยอะเหมือนกันค่ะ คงเพราะอายุมากกว่าอยู่แล้วด้วยมั้ง แต่เท่าที่เห็น เราว่ายังรักษาหุ่นได้เนี๊ยบมากนะคะ สำหรับคนวัยนี้ที่ลูกสองเข้าไปแล้ว คุณ St.yawn ระวังนะคะ ถ้าฟังบ่อยๆเข้าจะโดนเสียงนาคาอิสะกดจิตโดยไม่รู้ตัว อย่างเราเอง ฟังทีแรก ผงะเล็กน้อย คนๆนี้ร้องเพลงขายเป็นเรื่องเป็นราวเนี่ยนะ สิ่งแรกที่คิดถึงคือ นี่มันเสียงโกดะ ทาเคชิหรือไจแอนท์แห่งโดราเอมอนชัดๆนี่หว่า แต่ฟังไปเรื่อยๆ กลับชอบเสียงนาคาอิร้องเพลงซะอย่างงั้น เวลาตั้งใจร้องจริงจังน่ะค่ะ คือบางทีนาคาอิเหมือนแกล้งร้องแย่กว่าที่เป็นอยู่เข้าไปอีก รักษาคาแรกเตอร์ความห่่วยเข้าไว้ ถึงกับมีคนทำคลิปวิเคราะห์การร้องเพลงของนาคาอิเอาไว้เลยเชียว จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:18:01

ความคิดเห็นที่ 91 #89 นำมาตั้งแต่ปกอัลบั้ม SMAP AID เลยล่ะค่ะ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมทำเป็นสองสี สีเหลืองกับสีแดง (นึกว่าจะอินกับงานกีฬาสีของบ้านเราไปด้วย ^^") ที่แท้คือย้อนไปถึงชุด debut อันแสนจะจอห์นนี่เมื่อ 20 ปีก่อนนี่เอง ดูคลิปแล้วนึกได้ว่าลืมเรืื่องสำคัญไปเรื่องนึงตอนพูดถึง SMAP AID คือทุกเพลงในอัลบั้มนี้เป็นเวอร์ชั่นดั้งเดิมสมัยตั้งแต่อัดกันครั้งแรกเลย นั่นก็หมายความว่า Ganbarimashou และ Original Smile ในอัลบั้มนี้ เป็นเวอร์ชั่นท่ีเราจะยังได้ยินเสียงของโมริคุงชัดเจน เป็นส่วนนึงของ SMAP แถมของรางวัลที่แจกให้แฟนที่เล่นเกมชนะตามงาน fan meeting ทุกงาน เป็นโปสเตอร์พร้อมลายเซนต์ของสมาชิกทั้ง 5 ที่เซ็นต์กันสดๆตรงนั้น แต่เป็นโปสเตอร์ของ SMAP ที่มี 6 คน รวมโมริคุงด้วยค่ะ ^_^ ในคลิปงานเมื่อวานจะเห็นพูดถึงโมริคุงกันเต็มๆด้วย แอบดีใจว่าความฝันที่โมริคุงจะมาเป็นแขกในบิสโตรใกล้ความจริงขึ้นมาอีกนิด คลิปนี้เป็นคลิปรวมข่าวใน #79 กับอีกรายการนึงค่ะ ตัวงานเมื่อวานเห็นว่ามีถ่ายกันหลายรายการเลย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะปล่อยออกอากาศกันเมื่อไหร่ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 08:31:07 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:30:34