- ซื้อเทปตั้งแต่วันแรกที่วางแผง (ไปตีซี้กับคนขายร้านแถวบ้านจะได้โปสเตอร์ด้วย)
- แต่งตัวตาม อาจไม่ถึงขั้นเสื้อว้าบๆ แต่เข็มขัดยาว กับกางเกงตัวโคร่งน่ะ มีแน่นอน ใส่ไปดูคอนเสิร์ตแร็พเตอร์ด้วย)
- เอาวีดีโอเปล่า อัดเอ็มวี ทีเซอร์ สปอตโฆษณา (ถึงซ้ำกันก็อัดแล้วอัดอีก) คอนเสิร์ตต่างๆ ถ้าไม่อยู่บ้านก็จะตั้งเวลาให้วีดีโออัดเองอัตโนมัติ
- คอยตามฟังเวลาแร็พเดอร์ไปสัมภาษณ์ในคลื่นวิทยุ อัดใส่เทปเปล่าไว้(เมื่อก่อนจะมี คลื่นแซด แล้วก็คลื่นในเครืออาร์เอสอีกสองสามคลื่น) แล้วก็จะนั่งกดๆๆๆโทรศัพท์เพื่อให้ได้คุยหน้าไมค์กับแร็พเตอร์ ซึ่งก็ได้คุยเกือบทุกครั้ง (เคยได้คุยหลังไมค์ด้วย แบบจอนนี่รับโทรศัพท์เองตอนหน้าไมค์เปิดเพลง..แล้วก็คุยกัน งงๆมาก ไอ้เราตื่นเต้น จอนนี่ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง 55555)
- เมื่อก่อนคลื่นแซดจะมีเกมให้โทรไปร้องคาราโอเกะหน้าไมค์ วันนั้นโจทย์เป็นเพลงแรงบันดาลใจ ก็โทรไปร้อง ได้รางวัลด้วยนะ 5555555555
- ซื้อรูปที่ร้าน สมอลเวิลด์ (ร้านที่มาบุญครองชั้น 3 ที่อยู่ตรงบันไดเลื่อน อ่ะค่ะ ) มาเก็บใส่กระเป๋า ทำที่คั่นหนังสือ เวลาไปเรียนพิเศษ แอบไปซื้อทุกอาทิตย์
- ดูคอนเสิร์ตแร็พเตอร์ใหญ่ทุกครั้ง เมื่อก่อนบัตรคอนเสิร์ตที่ MBK Hall จะขายวันเดียว ที่ลานจอดรถชั้น 6 P18 ต้องไปรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า (เปิดขาย 10 โมงแต่ก็มีบางคนไปรอตั้งแต่คืนก่อนหน้า) ขายรวดเดียวหมดแล้วหมดเลย เราก็ไปตะเกียกตะกายซื้อบัตรมาได้ทุกครั้ง (เพราะเราตัวเล็ก พี่ๆ ตัวใหญ่ๆ จะสงสาร ให้เราแทรกได้) ครั้งแรกในชีวืตที่ไปดู คือ จอนนี่แอนด์หลุยส์ ตะลุยไฮแจ๊ค ตอนนั้น 10 ขวบเอง อยากไปดูมาก ขอแม่ แม่ไม่ให้ ก็ร้องไห้จนไข้ขึ้น สุดท้ายแม่ต้องยอมแต่ให้พี่ชายไปด้วย คอนเสิร์ตครั้งต่อๆมาก็ไปดูกับเพื่อน บางงานก็ไป"คนเดียว" แล้วพอกลับมา เราก็จะต้องโทรไปที่คลื่นวิทยุของอาร์เอส (โอยย ลืมชื่อแล้วคลื่นอะไรหนอ) เพื่อเล่าบรรยากาศของคอนเสิร์ตให้ฟังทางหน้าไมค์ ทำทุกครั้ง จนครั้งหลังๆ มีคนเพจเข้ามาในรายการ ตามให้เราโทรไปเล่าออกหน้าไมค์ให้ฟังหน่อย (แหะๆๆ)
- ดูคอนเสิร์ตแบบโดนอัดก๊อปปี้อยู่หน้าสุดตลอด บัตรคอนเสิร์ตสมัยก่อน จะมีราคา 800 / 500 / 200 (นั่งอัฒจรรย์ด้านหลัง) 200(ยืนด้านหน้าเวที) เราก็จะซื้อบัตร 200 ยืน ซึ่งมันไม่ระบุที่นั่ง เราก็ต้องไปรอที่หน้า MBK Hall ตั้งแต่ห้างเปิด ถ้าไปคนเดียว ก็ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด (จนพี่ที่เป็นการ์ดของอาร์เอส จำหน้าได้) เตรียมเสบียงมาพร้อม แต่ถ้าไปกับเพื่อนก็ผลัดกันไปหาของกิน เพื่อรอประตูเปิดตอน 6 โมงเย็น ถึงจะต่อแถวอยู่หน้าสุด แต่พอประตูเปิดแล้ว คนก็จะดันกัน แล้วก็วิ่งกรูกันไปเกาะหน้าเวที ต้องอาศัยความเร็วและถึกอย่างมาก ในการวิ่งไปจองที่หน้าสุด และอดทนกับการโดนอัดกับรั้วเหล็ก แต่ได้เห็นจอนนี่กับหลุยส์ชัดมาก (จุดนี้ยอม) ตลอดโชว์ ได้จับมือบ้าง (แต่ส่วนใหญ่จะเอื้อมไม่ทันคนอื่นเค้า) จอนนี่เคยทำมือบอกให้คนข้างหลังเราถอยไปหน่อย เพราะสงสารที่เห็นเราโดนเบียดจนแทบแบน (ใจดีอ้ะ 555) ออกจากคอนเสิร์ตในสภาพเหมือนผ่านถนนข้าวสารช่วงสงกรานต์ทุกครั้ง คือเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า
- ทำของให้ ตอนคอนเสิร์ตใหญ่อัลบั้ม Day Shock ( Raptor Yaak Concert) เราเอาตุ๊กตาหมีไปให้จอนนี่กับหลุยส์ แต่เย็บเสื้อให้ใส่เหมือนชุดคอนเซปต์เด๊ะๆ (ที่เอาพลาสติกกันกระแทกมาเย็บเป็นเสื้อ แล้วมีเสื้อสีขาวข้างใน เสื้อจอนนี่มีลายสีฟ้า เสื้อหลุยส์มีลายสีเขียว) แล้วก็หอบเอาเข้าให้ในคอนเสิร์ต ด้วยสภาพแบบย่อหน้าข้างบน จำได้แม่นเลยว่า ตอนจะเอาให้ จอนนี่(อีกแล้ว) เป็นคนเห็นก่อน ก็หยิบขึ้นไปบนเวทีทั้งสองตัว หยิบขึ้นมาดูแล้วเรียกหลุยส์ว่า "หลุยส์ๆ มาดูนี่สิ เหมือนเราสองคนเลย" แล้วสองคนก็เอาตุ๊กตาไปเทียบกับตัวเอง พร้อมกระโดดดึ๋งๆ ดีใจ ปลื้มมากกกกกก ตอนเค้าเอาเทปคอนเสิร์ตมาออกทางช่อง 7 ยังเห็นช็อตนี้อยู่เลย เป็นความทรงจำที่ใหญ่มากระหว่างเรากับแร็พเตอร์
- ซื้อเทปทุกอัลบั้ม พอเริ่มมีซีดี ก็ซื้อซีดีด้วย ซื้อเทปด้วย (ค่าขนมหมดกัน)
- สมัคร RS Starclub จะได้นิตยสารทุกเดือน เพื่ออัพเดทข่าว และจะได้มีข้ออ้างเวลาไปสิงป้อมยามที่อาร์เอส เพื่อรอจอนนี่กับหลุยส์ (55555555555 เขินตัวเองอ่ะ )
- ตอนแร็พเตอร์ กู๊ดบาย เสียใจมาก ตอนรู้ข่าว มือเย็น ไม่เชื่อหูตัวเอง วันไปดูคอนเสิร์ตร้องไห้ยกใหญ่ในคอนเสิร์ต กลับมาร้องไห้ต่อที่บ้าน ไม่กล้าหยิบเพลงมาฟัง หยิบวีดีโอที่อัดไว้มาดูอยู่หลายวัน เพราะทำใจไม่ได้ (ไม่จริงช่ายม๊ายยยยยย T^T )
- วันที่ 30 สิงหา กับ 4 มีนา ของทุกปี จะคิดถึงสองคนนี้เป็นพิเศษ
บางอันเป็นความลับที่แอบทำคนเดียว ไม่มีใครรู้ ยอมเปิดเผยที่นี่เพราะเห็นว่าทุกคนในที่นี้ คงเข้าใจเรา 55555
ทุกวันนี้ เวลาเห็นน้องๆ ทำอะไรให้ศิลปินที่ตัวเองรัก อาจดูมากไปในสายตาคนอื่น แต่เราเข้าใจ ความรักทำให้คนเรามีพลังและความกล้าที่จะทำอะไรได้มากกว่าที่คนอื่นและตัวเราเองคิดว่าจะทำได้มากนัก
ถามว่าทำเพื่อ...?
ไม่รู้สิ ตอนนั้นแค่อยากทำ ให้คนที่เราชอบ แต่พอเราโตขึ้นมา เราเลือกเรียนนิเทศ สาขาวิทยุโทรทัศน์ เพราะเราคุ้นเคยกับดีเจ กระบวนการหลังไมค์ การพูดออกหน้าไมค์บ่อยๆ เรียนจบมา ก็ทำงานด้านวิทยุ ปัจจุบันทำคอนเสิร์ต และอีเว้นท์ ที่เราไปโดนเบียดแบนแต๋ดแต๋อยู่หน้าเวที ทำให้เราเก็ทวิธีการทำคอนเสิร์ตให้สนุก การดูแลคนที่มาดู แบบไหนที่คนจะชอบ เพราะเราเห็นมันมาตั้งแต่เด็ก
ตอนแรกที่อายที่จะโพสท์ แต่ว่าคิดๆดูแล้วก็ภูมิใจกับมัน เพราะมันก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต...สนุกออก !!
(ขอโทษ จขกท นะคะ ที่มันอาจจะยาวไปซักนิด แหะๆๆ)
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 20:14:45
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 20:11:26
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 19:59:31
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 19:58:10
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 19:57:27