เหินห่างการเขียนยาวๆไปนาน กะว่าจะล้างมือแขวนแป้นและส่งไม้ต่อให้คนอื่นแล้วนา แต่พอเจอมิสแจ๋ว คุณครูของเจ้าปอ เข้ามากอดและบอกว่าไม่ได้อ่านรายงานแห้งของป้าตุ๊กตั้งนานแล้ว ป้าตุ๊กหายไปไหน แค่นี้ป้าตุ๊กก็ใจอ่อน กลับมาเคาะแป้นพิมพ์ใหม่อีกครั้ง (เห็นมะพี่ใหญ่ เค้าก็ใจอ่อนเป็นน้า...) ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านมิสแจ๋วยังตามมาย้ำอีกว่าป้าตุ๊กอย่าลืมเขียนรายงานแห้งนะ ตีสองก็จะรออ่าน ถ้ามิสแจ๋วรอจริง สงสัยคงหลับคาคอมพ์ไปแล้วล่ะ
เมื่อมีงานใหญ่ของอรรณพน้อย เพลินเพลงกับเล็ก วงศ์สว่าง สยามนิรมิตจึงกลายเป็นที่รวมพลของครป.อีกครั้ง พอรถแท็กซี่จอดคนแรกที่เราเจอคือหม่าม้าอิ๊ดซึ่งสวยและเก๋สุดๆ (ดูรูปประกอบจากเอหรือกวิ้น แล้วจะเห็นด้วยว่าเราไม่ได้อวย) หม่าม้ากำลังรอแม่บังอรและพี่น้องอยู่ เราเลยคุยกับหม่าม้าด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอหม่าม้านานพอดู หม่าม้าอิ๊ดบอกว่าชวนคุณครูของน้องปอสองท่านมาดูด้วย เพราะทั้งมิสแจ๋วและมิสอิ๊ดคอยดูแลหม่าม้าและครอบครัวระหว่างหนีน้องน้ำไปอยู่ที่วังน้ำเขียวเป็นอย่างดี คุยกันสักพักคุณพ่อ คุณแม่และน้องปาล์มก็ลงจากรถแท็กซี่มาร่วมวงด้วย น้องปาล์มดูจะโตขึ้นและนิ่งขึ้นเยอะ ไม่วิ่งซนเหมือนแต่ก่อน เราคุยไปตาก็คอยมองรถแท็กซี่ไปเพราะพี่จิ๋มสุดที่รักของเค้าบอกว่าออกจากเอสพลานาดมาแล้ว พอเห็นรถแท็กซี่คันเป้าหมายจอดและพี่จิ๋มเดินลงมาเราก็พุ่งเข้าไปหา...แหม ได้แต่ฟังเสียงกันมาหลายเดือนแระ เจอตัวเป็นๆซะที...พี่จิ๋มมาพร้อมกับป้าแจงและแอน ซี ซึ่งต้องขอบคุณแอน ซีมากที่เป็นภาระเรื่องจองบัตรและยังตามมาคอยดูแลพวกพี่ๆแม้ว่าจะต้องกลับไปทำงานต่อ แต่เสียดายที่วันนี้เจอไม่ครบ ขาดหนึ่ง นัดจังและสุ ไม่รู้ล่ะงานหน้าคงครบน้า...พี่อุบอิ๊บอั๊บแล้ว ขอบอกว่าแอน ซี เชี่ยวชาญเรื่องการจองบัตรมาก ที่นั่งพวกเราอยู่ตรงกลางเวทีและกำลังพอดีๆ (จะไม่ดีได้ไง ก็ดูดิ แถวหน้าเราเป็นคุณเชษฐา ฐานะจาโร ไม่กล้าใส่ยศ กลัวจำผิดอ่ะ มองเห็นศิลปินน้อยเต็มๆ แต่คาดว่าน้องคงมองไม่เห็นพวกเรา เพราะไม่มีใครกล้ายกป้ายไฟ ก็สถานที่และผู้ชมดูน่าเกรงขามซะขนาดนั้น ครป.เริ่มทยอยตามมาสมทบ เริ่มจากพี่น้องซึ่งเป๊ะมาก ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมตรง concept ยุค 60s ทุกประการ แถม accessories ก็ matching ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทุกชิ้นไม่มีหลุด tone พี่น้องเก่งมากที่ยังสามารถเอาเสื้อสมัยนั้นมาใส่ได้...โยคะช่วยได้จริงๆ อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ แต่ดูจากพี่น้องเท่านั้น พี่น้องเล่าว่ายามจะไล่ให้ไปจอดรถข้างนอกเพราะที่จอดใกล้ๆสำรองไว้ให้ VIP หมด พี่น้องบอกยามว่า ชั้นแต่งตัวซะขนาดนี้ จะให้เดินถนน คงไม่ไหว ขอหาที่จอดแถวนี้ละกัน เจอไม้นี้เข้า ยามก็ต้องยอม ทักถามสารทุกข์สุกดิบกันครู่ใหญ่ๆจนเริ่มหิวน้ำ พวกเราเลยเคลื่อนขบวนเข้าไปข้างในเพื่อหาน้ำดื่ม ยังเดินไปไม่ถึงไหน ครป.คนอื่นก็ตามมา มีมนซ. คุณอ้อย ปู บุ๋ม บอล กวิ้น เอ แอน พี นิ่ม แอ้ เจี๊ยบ นา อ๋อง และเรายังได้ทำความรู้จักกับคุณเจง ชาวซุ่ม ซึ่งชื่นชมน้องปอมาก ดีใจค่ะที่มีคนรักปอมาให้เรารู้จักเพิ่มขึ้น (พี่ยังคิดถึงน้องพีทนะ...มีโอกาสขึ้นมากรุงเทพเมื่อไหร่ คงได้เจอกันอีกนะคะ) ระหว่างรอเวลาพวกเราก็เมาท์มอยกันไปสารพัด ป้าแจงเปิดประเด็นชวนกินแกงส้มขึ้นมา ทีนี้ก็ตามมากันใหญ่เลยค่ะ แอน ซี บอกเบื่ออาหารไทยๆแล้วหันไปกินพิซซ่า ฮัทกันเหอะ (แต่มีตบท้ายว่าจะว่าไปแอนว่าปีนี้ผู้ชายได้ทุกคน...อ้าว น้องสาวช้านกลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง) บางคนก็เกิดนึกอยากเล่นดนตรีไทยขึ้นมาซะงั้น ขอจองเป่าแคนเฉยเลย แม้แต่มนซ. ก็ไม่เว้น ป้าฟ้องน้องปอตรงนี้เลยนะลูก ส่วนป้ากะพี่จิ๋มสุดที่รักของเค้ายังมั่นคงกับเมนูเดิม...ไก่...กะกันไว้ว่าจะกินจนกว่าหนังไก่จะเหนียวนั่นล่ะ ถึงจะเลิก....
คุยกันเพลินจนได้เวลาเข้างาน...บอกไว้ก่อนว่าพอได้สูจิบัตรของงานและอ่านพบว่างานแบ่งเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกเป็น AF (พัดชา ตี๋ มิวสิค ออฟ6และปอ) กลุ่มที่สองเป็นนักร้องรับเชิญ คือ คุณสุดา ชื่นบาน คุณฉันทนา กิติยพันธุ์ คุณวสุ แสงสิงแก้ว คุณศตวรรษ ตุงคะรัตน์ (ลูกชายคุณวิสูตร ตุงคะรัตน์) เห็นชื่อสองคนนี้ท่าเต้นของเอลวิส เพรสลี่ย์ลอยมาเลย คุณวินัย พันธุรักษ์ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล คุณดลชัย บุญยรัตเวช คุณแหวน ฐิติมาและกลุ่มที่สามเป็นนักร้องกิติติมศักดิ์ คือ คุณกร ทัพพะรังสี และคุณบุญเกียรติ โชควัฒนา เราถามพี่จิ๋มว่าจบกลุ่มแรกเดินออกมะ...อย่างที่บอกเรากะไว้ว่าจะไม่สนุกเพราะไม่กล้ากรี๊ด เนื่องจากเกรงใจแถวหน้าไง...เปิดม่านด้วยมิวสิคออกมาร้องเพลง Everyday น้องมิวเสียงนุ่มและร้องเพราะมาก ต่อมาก็เป็น La Bamba ซึ่ง feat. กันระหว่างมิวสิคกับพัดชา...เพราะอีกนั่นแหละ เพลงต่อไปมิวสิคยังติดพันไม่ยอมวางไมค์ ต่อด้วย It Doesnt Matter Anymore ช่วงนี้เราก็ได้แต่ตบมือให้น้องๆ เพราะบอกกับคนอื่นไว้ว่าจะไม่กรี๊ด จนเจ้าปอโผล่ออกมาในเพลง Raindrops Keep Falling On My Head นั่นแหละค่ะ ป้าลืมตัวไปนิ้ดดดดดด...แต่นิดเดียวจริงๆน้า เพราะมองเห็นหน้าหลาน วันนี้ปอหล่อเป๊ะค่ะ ผมเซทได้ทรงกำลังดี เอ่อ...ป้าว่าไม่ต้องมีหงอน ปอก็หล่อได้นะลูก...สารภาพว่าอาทิตย์ที่แล้วไม่ได้เข้ามาอ่านในบ้านพันทิปเลยไม่รู้ว่าปอร้องกี่เพลง ได้ยินเอบอกว่าปอร้องเพลงนี้ ก็นึกว่าคงได้ร้องเพลงเดียว แต่พอได้ยินอินโทรเพลง Only The Lonely ของ Roy Orbison และเจ้าปอเดินออกมา...ดั่ม ดำ ดั๊ม ดัมมี่ ดู วา...เท่านั้นแหละค่ะ ป้ากรี๊ดจนพี่จิ๋มสะกิด...ไหนบอกว่าจะไม่กรี๊ดไง...หนนี้เค้าลืมตัวเต็มๆอ่ะ...แถวหน้าก็แถวหน้าเหอะ...แล้วเราก็ลืมตัวต่อไปเรื่อยๆจนกลุ่ม AF ปิดท้ายด้วยเพลง Sha La La ซึ่งพวกเราทั้งร้อง ทั้งตบมือตามจังหวะ แบบไม่มีใครยอมใคร งานนี้น้องๆ AF เอาอยู่ค่ะ ร้องดีทุกคนและร้องเพราะทุกเพลง ถึงแม้ว่าจะเป็นการอัดเสียงไว้ก่อนก็ตามที...ก็คิดดูสิคะ แต่ละเพลงน่ะ พวกน้องๆยังเป็นวุ้นอยู่เลย แถมปอของป้าก็ยังไม่เป็นวุ้นเลยด้วยมั้ง จบกลุ่มน้องเล็ก ต่อด้วยกลุ่มสอง นำโดยคู่หูโฟร์ มด (รุ่นใหญ่) อย่างคุณสุดาและคุณฉันทนา ทั้งเพราะทั้ง entertain เยี่ยม ตามด้วยคุณวสุซึ่งทำให้เรานึกภาพน้องจิ๊บ รด.ตัวน้อยๆของเราในสมัยนั้นไม่ออกเลย แต่ทีเด็ดอยู่ที่คนนี้ค่ะ...คุณศตวรรษ ซึ่งออกมาร้องและเต้นในชุดหนังสีดำทั้งชุด...คุณพี่ผู้ชายแถวหน้าถึงกับยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพกันเลยทีเดียว...ซูมแล้วซูมอีกก็ว่าได้...ซูมอะไร ถามได้ที่ยัยซ้ายนะคะ...เพราะตอนกินข้าวด้วยกัน ยัยซ้ายยังไม่เลิกเพ้อ...ดร.สมศักดิ์ซึ่งวางกรรไกรหันมาจับไมค์ให้เราฟังก็ไม่ทำให้ผิดหวัง Oh! Carol ยังติดหูอยู่เลย คุณแหวน ฐิติมาในเพลง Sad Movies ก็เจิดมาก แต่ที่เราทึ่งจริงๆก็คือนักร้องกิตติมศักดิ์ คุณบุญเกียรติ ในเพลง (Where Do I Begin) Love Story ทำให้เราเห็นภาพไรอัน โอนีลยืนเกาะรั้วกลางหิมะเต็มๆสองลูกตา ยังจำได้รูปนั้นสอดไว้ที่ปกหน้าของสมุดจดวิชาศีลธรรมตั้งหลายเดือน ขยายความสักนิดสำหรับคนที่เกิดไม่ทัน คือสมัยนั้นนักเรียนคอซองส์อย่างเรานิยมห่อสุมดจดงานด้วยปกพลาสติคใสและสอดรูปสุดหล่อ สุดเท่ห์ (แต่ไม่นิยมสุดสวยนะคะ) ไว้เพื่อให้หูตาสว่างระหว่างเรียนหนังสือ และต่อด้วย My Way เพลงอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล เพราะจนลืมไปเลยว่าจะเดินออกตั้งแต่กลุ่มแรกจบ แต่ save the best for the last จริงๆ คือ คุณกรค่ะ สุดๆไปเลย ตั้งแต่ Sound Of Silence จน Blowing In The Wind โอย...สุดยอดจริงๆ คุณกรบอกว่าถ้าครั้งนี้คนดูเต็มสองพันคน จะมีครั้งหน้าอีก และครั้งหน้าจะเป็น BB เพราะเห็นสมัยนี้นิยม BB กันมากแต่ BB ของคุณกร คือ Bee Gees และ Beatles โหย...พลาดได้ไงคะ...เอ่อ น้องแอน ซีขา 3 ใบของพี่จิ๋ม แจงและพี่ตุ๊ก confirm ล่วงหน้ากันตรงนี้เลยนะคะ (ไม่ว่าจะมีเจ้าปอหรือไม่ก็ตาม) concert นี้คุ้มค่าบัตรมากๆค่ะ ไม่นับที่มาเพื่อดูเจ้าปอนะคะ เพลงเพราะทุกเพลง นักร้องยอดเยี่ยมทุกคน แถมยังมีสปอตโฆษณาเก่าๆมาเรียกเสียงฮาเป็นระยะๆ ถึงแม้เราจะรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างเพราะบางสปอตก็ไม่เคยได้ยิน แต่ดูๆแล้วยัยซ้ายรู้จักทุกสปอตแน่นอน ส่วนเรื่องเพลง เอ่อ...บังเอิญเกิดทันและร้องได้ทุกเพลงค่ะ แต่ไม่ใช่เป็นสาวแล้วอย่างยัยซ้ายนะคะ ตอนนั้นเราแค่ประถมต้นๆเท่านั้น...สมัยนั้นไม่มีพี่ Tube หรือ น้อง Gle ให้โหลดและหาเนื้อเพลงอย่างสมัยนี้นะคะ อย่างที่คุณสุดาบอกเนื้อเพลงก็ต้องส่งมาทางเรือ สำหรับเราเพลงไหนที่ชอบต้องแกะเนื้อเอง ตอนนั้นยังไม่มีเทปด้วยละมั้ง พอเพลงขึ้นปุ๊บต้องหยิบกระดาษกะดินสอมาแกะเนื้อทันที...แต่ได้ประโยชน์มหาศาลเพราะทำให้ภาษาอังกฤษแข็งแรงจนถึงทุกวันนี้...แม้ แหม แหม...นับนิ้วคำนวณอายุป้าตุ๊กกันใหญ่เชียวน้า...
จบงานครป.ก็เดินออกมารอถ่ายรูปกับน้องปอ เรากำลังเล่นกับน้องปาล์มเพลินๆได้ยินเสียงเอเรียกแม่นมมาถ่ายรูปหน่อย อย่างนี้ก็เสร็จป้าน่ะสิคะ แต่ป้าตุ๊กยังไม่ถ่ายรูปหรอก ขอกอดหลานชายก่อน ระหว่างกอดยังบอกเจ้าปอด้วยว่า...ขอกอดนานๆนะ คิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้งสามเดือน เจ้าปอหัวเราะ แต่อาจจะนึกในใจยังไม่นานพอคร้าบบบบป้า กอดเสร็จป้าตุ๊กก็ยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เกาะบ่าหลานตลอด ใครจะถ่ายรูปยืนตรงไหนก็ยืนไปแต่แกะมือป้าตุ๊กไม่ออก พูดแล้วจะหาว่าคุยตีนตุ๊กแกห้อยหัวพนมมือ(หรือตีนวะ)ใบ้หวยบ้านไหน จังหวัดไหนที่ว่าเหนียวแล้ว ก็ยังไม่เท่ามือป้าตุ๊กที่เกาะหนึบอยู่กับบ่าเจ้าปอ แต่พอเห็นรูปของกวิ้นแล้วถึงรู้ว่าป้ายืนผิดข้างอ่ะ ขอโทษน้า...ยัยซ้าย เค้าไม่ได้ตั้งใจจริง จริ๊ง ถึงจะยืนผิดตำแหน่งแต่ยัยซ้ายไม่มีหลุด concept เพราะระหว่างถ่ายรูปนางก็หาได้ปล่อยให้มือว่างไม่ นางบรรจงเอามือลูบๆๆๆๆ six packs เจ้าปอ ลูบอยู่นั่นแหละ และยังมีหน้ามาบอกเราตอนหลังด้วยว่าไม่ใช่แค่กล้ามจะใหญ่ขึ้นนะ...(อ่านว่าจุด จุด จุด) ก็ใหญ่ขึ้นด้วย ใครอยากรู้ว่าเป็นอะไรที่ใหญ่ขึ้น ไปถามนางเอาเอง สุภาพสตรีอย่างเค้ากระดากปาก ส่วนพี่จิ๋มสุดที่รักของเค้าที่ไม่ยอมถ่ายรูป (มั้ง) ไม่ยอมกอดเจ้าปอ (มั้ง) ก็โดนเจ้าปอเม้นท์ว่า...หน้าเหมือนแม่พี่พัดชาอ่ะ เออ จริงด้วย ดูๆไปพี่จิ๋มหน้าคล้ายจริงๆ ว่าแต่เล่าเรื่องกอดนานๆเนี่ย ยัยขวาจะปิ๊งไอเดียไม่ยอมไปเจอน้องนานๆบ้างอ๊ะเป่า พี่ใหญ่ขา...เค้าคิดถึงพี่ใหญ่แล้วนา ส่งแต่ตัวหนังสือคุยกันไปคุยกันมาหลายเดือนแระ อีกอย่างนะ พี่ใหญ่หายไปนานๆ เจ้าปอจะลืมข้างไปแล้วนะ นมไขว้กันให้วุ่น กลับมาให้เจ้าปอจับข้างให้ถูกซะที ตอนออกมายืนหน้าประตูป้าแจงถามเจ้าปอเรื่องงานที่ชัยภูมิ ปอถามว่าไปกันหรือเปล่า ป้าแจงรีบชี้มาที่ป้าตุ๊กแล้วบอกให้เจ้าปอถามป้าสิ แจง พี่ติดไว้ก่อนนะ ไว้เคลียร์บิลกันวันหลัง ป้าแค่ส่งยิ้มให้เจ้าปอแต่ไม่ตอบ เจ้าปอเลยยื่นมือมาให้จับเป็นทำนองสัญญากันว่าจะไป ป้ารีบเก็บมือไพล่หลัง เจ้าตัวแสบบอกว่า งั้นเดี๋ยวจับอย่างอื่นซะเลย อ๊ะ...อย่างนี้ก็เข้าทางป้าสิ อย่างป้าน่ะเหรอจะกลัว ป้าบอกว่าจับเลย จะจับอะไรก็เข้ามาจับเลย ปอหัวเราะฮ่าๆ รีบบอกว่า...ผมจะจับแขน แหม...กลัวป้าติดใจไปให้จับบ่อยๆเรอะ ส่งน้องปอขึ้นรถกลับบ้านแล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปทานอาหาร...ไว้งานหน้าเจอกันใหม่
ขอบคุณนิ่มที่เอา VCD concert 12 วีคของปอมาฝากพี่และยังมีฝากให้คุณครูน้องปออีกด้วย พี่ทำงานไปแอบเปิดดูไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเด็กน้อยเมื่อสองปีก่อนจะกลายเป็นหนุ่มน้อยขวัญใจพี่ๆแม่ๆและป้าๆไปแล้ว ขอบคุณผู้ผลิตที่อยู่เบื้องหลังด้วยนะคะ ส่วนของแถมอีกแผ่นที่เป็นโยคะ พี่จะเอาไว้ลองฝึกตามจ้า เจอกันคราวนี้ได้คุยกับแอนจอ สัมผัสถึงความห่วงใยที่แอนจอมีให้เจ้าปอแล้ว พี่ยิ่งแน่ใจว่าไม่ต้องคอยตามแอนจอกลับบ้านแระ แอนจอไม่หลงซอยแน่ๆ ฝากความคิดถึงให้ป้าแดงและหลานสาวสุดสวยน้องปิ๊งด้วยจ้า สุดท้ายก็หวังว่างานหน้าคงได้ดินเนอร์กันแบบ full team ทั้งพี่ใหญ่ หนึ่ง แอน ซี นัด สุ บอล กวิ้น เอนะ มื้อนี้กินกันห้าคน (พี่จิ๋ม มนซ. ป้าแจงและเจ้าตัวเล็ก ป้าตุ๊ก)แต่เม้าท์กันสามชั่วโมงได้
แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 17:54:10
แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 16:53:51
จากคุณ |
:
RainBow Gelato
|
เขียนเมื่อ |
:
5 มี.ค. 55 16:50:17
|
|
|
|