|
คอนเสิร์ต "ลาร์ค ออง เซียล" ปิดฉากด้วยสายรุ้ง...13 ปี ขอบคุณที่คิดถึงกัน
- มติชน
"นึกถึงเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนนั้นปี 1999 เราไปเรียนเอเอฟเอสที่ญี่ปุ่น นั่งรถไฟไปดูวงนี้ที่นาโกย่า แต่แอบเคืองที่ปีนั้นวงนี้มาโปรโมตอัลบั้มที่เมืองไทยพอดี"
เสียงของ "เพื่อนสาว" ที่ไปดูคอนเสิร์ตกับผมในเวลานี้ เล่าความหลังให้ฟังก่อนที่จะเดินเข้าไปในอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เพื่อที่จะไปชมคอนเสิร์ตของวงดนตรีเจ-ร็อคชื่อดังอย่างวง "ลาร์ค ออง เซียล" ภายใต้ชื่อคอนเสิร์ต "โออิชิ ชาคูลล์ซ่า พรีเซ้นทส์ ลาร์คอองเซียล เวิลด์ ทัวร์ 2012 อิน แบงค็อก" (Oishi Chakulza Presents L’Arc~en~Ciel WORLD TOUR 2012 in Bangkok)
คอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นในคืนวันพุธที่ 7 มีนาคม 2555...
แม้ว่าจักรวาลเจ-ร็อคที่เคยเฟื่องฟูเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วจะซบเซาตามกาลเวลา(หมายถึงกระแสในบ้านเรา) ซึ่งหลายคนมองว่า อาจจะเป็นเพราะว่า วงดนตรีจากญี่ปุ่นไม่ค่อยที่จะนิยมชมชอบในการเดินสายเวิรลด์ทัวร์ เพราะเพียงแค่เดินสายรอบเกาะญี่ปุ่นก็อยู่ได้แล้ว อย่างเช่นวง "เกลย์"(Glay) ที่ไม่ค่อยออกมาทัวร์นอกประเทศเท่าไหร่นัก อีกทั้ง วงใหญ่ที่มีฐานแฟนเพลงญี่ปุ่นโพ้นทะเลมากมาย อย่าง "เอ็กซ์ เจแปน" (X Japan) ก็หากินกับบุญเก่าในยุคที่ยังมีฮิเดะ จนแทบจะไม่มีผลงานใหม่ออกมาให้ได้ยลกันแล้ว
(ผลงานระยะหลังของ เอ็กซ์ เจแปน ที่เห็นๆก็มีเพียง เพลง Scarlet Love Song ที่ทำประกอบแอนิเมชั่นที่ถูกพูดถึงกันมากอย่างเรื่อง Buddha เมื่อปีที่แล้ว และการทำเพลงธีมในงานประกาศผลลูกโลกทองคำ 2012 ปีล่าสุด โดยโยชิกิ ผู้เป็นหัวหน้าวงเป็นผู้แต่งเพลง)
แต่วิสัยทัศน์ของ "ลาร์คอองเซียล" น่าสนใจมาก เพราะนี่เป็นวงเจ-ร็อคไม่กี่วงที่พยายามจะจัดทัวร์คอนเสิร์ตไปต่างประเทศอยู่เสมอ อย่างทัวร์รอบนี้ พวกเขาจะไปเยือนเมดิสัน สแควร์ การ์เดน ที่นิวยอร์ค ซึ่งถือว่า เป็นศิลปินญี่ปุ่นกลุ่มแรกที่มาแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีที่ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกจากไมเคิลแจ็คสัน จนมาถึงยุคเลดี้ กาก้า เคยจัดแสดงมาก่อน
และตลอดระยะเวลา 20 ปี ของวงนี้ ยังมีงานเพลงออกมาให้ฟังอยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน วงนี้มีซิงเกิ้ลออกมาทั้งหมด 33 ชุด และอัลบั้มเต็ม 11 อัลบั้ม ที่เพิ่งคลอดมาให้ฟังกันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแบบสดๆร้อนๆ ก็เป็นอัลบั้มเต็มที่มีชื่อว่า "Butterfly"
สำหรับคอเจ-ร็อค ซึ่งรวมไปถึง "เพื่อนสาว" ของผม ที่เปลี่ยนผ่านจากสาวกระโปรงบานสมัยมัธยมฯ มาเป็นสาวในวัยทำงานแล้ว คงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่มาชมคอนเสิร์ตครั้งนี้...
เพราะมันได้อารมณ์ทั้งการหวนระลึกถึงความรุ่งเรืองของคลื่นเจ-ร็อค พร้อมกันกับมองเห็นภาพปัจจุบันของวงนี้ที่ยังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่
ราว 2 ทุ่ม เราทั้งสองคนยืนอยู่ในอิมแพ็ค อารีน่า พร้อมกับแฟนเพลง "ลาร์คอองเซียล" จำนวนเกือบหมื่นคนเรียบร้อยแล้ว
คอยไม่นาน ท่ามกลางแท่งไฟหลากสีเพื่อให้เข้าคอนเซ็ปต์ของชื่อวง "L’Arc~en~Ciel" อันเป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า "สายรุ้ง" งานเลี้ยงจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยภาพกราฟิกที่แสนสวยงามบนจอแอลอีดีด้านหลังขนาดยักษ์...
พอภาพของ ไฮด์(Hyde) นักร้องนำของวง แสดงขึ้นบนหน้าจอแล้ว ไฮด์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนเพลงอันเป็นการเริ่มต้นคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างเป็นทางการเสียที หลังจากนั้น สมาชิกที่เหลือของวงก็ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน ทั้ง เท็ตสึ(tetsuya) หัวหน้าวงและมือเบส, เคน(ken) มือกีตาร์ และ ยูกิฮิโระ(yukihiro) มือกลอง พร้อมกับเปิดตัวด้วยเพลง "Ibara no namida" ตามด้วยซิงเกิ้ลล่าสุดในอัลบั้ม Butterfly อย่างเพลง "Chase" และ "Good Luck My Way" ซึ่งระหว่างที่ร้องทั้งไฮด์และเท็ตสึพยายามวิ่งไปทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของเวที เพื่อทักทายบรรดาแฟนเพลง
เมื่อออร์เดิร์ฟเเรียกน้ำย่อยจบลง พอเข้าสู่เมนคอร์ส ไฮด์เริ่มบิ๊วด์ผู้ฟังด้วยการตะโกนเป็นภาษาที่ไทยแปร่งหูว่า "สวัสดีครับคนไทย พวกเรา ลาร์คอองเซียล สวัสดีครับ คอยนานไหมครับ? พร้อมรึยัง? ARE YOU READY!?" จากนั้นก็เปิดด้วยเพลงอันดับ 1 ของวงนี้ตลอดกาลในโอริก้อนชาร์ตของญี่ปุ่น นั่นคือ เพลง "Honey" ตามต่อด้วยเพลงชวนกระโดดอย่าง เพลง "Drink It Out" และ "Revelation" ซึ่งตัวขับเน้นให้เพลงนี้คึกคักคือภาพกราฟิกด้านหลังซึ่งเป็นเปลวไฟโชติช่วง
น่าสังเกตว่า เวลาดูคอนเสิร์ตของวงนี้ ปกติเราจะเห็นเคนสูบบุหรี่ไปพร้อมๆกับเล่นกีต้าร์ แต่มารอบนี้ ดูเหมือนกับว่า เขาต้องเคี้ยวหมากฝรั่งแทน(ไม่แน่ใจว่า เป็นหมากฝรั่งผสมนิโคตินหรือไม่?) ซึ่งอาจจะเป็นข้อกำหนดของฮอลล์หรือข้อห้ามทางวัฒนธรรมของบ้านเราที่ไม่อยากให้นักดนตรีสูบบุหรี่บนเวทีซึ่งอาจจะเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในภายหลัง
จากนั้น บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง เพราะให้บรรดาแฟนเพลงมีจังหวะหายใจกันเสียหน่อย กับเพลง "Hitomi no Juunin" ซึ่งสมาชิกในวงนั่งเล่นกีต้าร์และเบสด้วยอริยาบทสบายๆ และเพลงจังหวะปานกลางซึ่งเป็นเพลงดังในอัลบั้มล่าสุดอย่างเพลง "X X X" ก็ดังขึ้น (อ่านว่า Kiss Kiss Kisss ล้อการออกเสียงว่าคริสต์ ในคำว่า คริสต์มาส X′mas) ตามต่อด้วยเพลง "Forbidden lover" และ "My Heart Draws A Dream"
หลังจากที่เคนลีดกีต้าร์จนจบเพลง "My Heart Draws A Dream" เขาได้ทำตามสัญญาที่เคยพูดไว้ในวันแถลงข่าวว่า จะพูดภาษาไทยให้ฟัง สำเนียงภาษาไทยที่เขาพูดออกมาต้องตั้งใจฟังมากๆ ได้ความว่า "สวัสดีครับ ผมไปกินบาร์บีคิวที่ธนิยะ ไปซื้อช้างมาขับ ผู้หญิงสวยมากครับ ผมไปเที่ยวสีลมมาครับ(คนดูเริ่มซุบซิบว่า ไปทำอะไรที่นั่น) ผมซื้อของขวัญมาให้ยูกิฮิโระด้วย" แล้วเคนก็เดินไปที่ยูกิฮิโระ เพื่อนำของฝากมาให้ นั่นคือ "ฉาบ" และ "เสื้อยืด" ที่สกรีนว่า I Love Thailand
ยูกิฮิโระ รับมุกของเคน ด้วยการลองเสื้อแล้วตีฉาบ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะของแฟนเพลงได้ทั้งฮอลล์...
แล้วครึ่งหลังของคอนเสิร์ตก็เริ่มด้วยเพลงดังของเขาอีกชุดใหญ่ นั่นคือเพลง "Seventh Heaven", "Driver′s High", "Stay Away" และ "Ready Steady Go"
เพื่อนสาวที่ยืนข้างๆกันตั้งข้อสังเกตว่า ลิสต์เพลงที่นำมาโชว์ในครั้งนี้ พยายามบาลานซ์กันระหว่างเพลงฮิตในอดีตเมื่อครั้งที่เจ-ร็อคยังบูม และเพลงดังในปัจจุบัน เพื่อเอาใจแฟนเพลงที่มีทุกกลุ่มตั้งแต่หนุ่มสาววัยทำงาน จนถึงเด็กสาวมัธยมฯหน้าตาหน้าเอ็นดูที่คุณแม่พามาชมคอนเสิร์ต ซึ่งเธอยืนเชียร์วงนี้อยู่ข้างๆเราสองคน
ในขณะ "Ready Steady Go" กำลังบรรเลงอยู่ เท็ตสึ นำกล้วยหอมอันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเขาเองในเวลาโชว์คอนเสิร์ต ออกมาโยนแจกเพื่อเรียกเสียงเฮฮา แล้วในที่สุด เพลงก็จบลง สมาชิกในวงกลับเข้าไปที่หลังเวที เหลือเพียงยูกิฮิโระที่โซโล่กลองอย่างเมามันพร้อมภาพกราฟิกที่เต็มไปด้วยความดุดันของสายฟ้าแล่บ แล้วเวทีก็เหลือเพียงความว่างเปล่า
เสียงอังกอร์ดังขึ้น พร้อมกับการเล่นเวฟของคนดู เพื่อเรียก "ลาร์คอองเซียล" กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง ไม่นานเกินรอ สมาชิกทั้ง 4 ก็ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับเล่นเพลงความหมายดีๆอย่างเพลง "Anata" เนื้อเพลงให้ความหมายว่า ขอบคุณที่อยู่ข้างๆกันมาตลอด ซึ่งดูเหมือนว่า ทั้ง ไฮด์, เท็ตสึ, เคน และยูกิฮิโระ กำลังสื่อสารกับแฟนเพลงเช่นนั้น แล้วจึงต่อด้วยเพลงอย่าง "Winter fall" และ "Blurry Eyes"
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา "ลาร์คอองเซียล" ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลงที่ชาวไทยรู้จักกันดี เพลง "Niji" ที่แม้ว่า ข้างนอก แรม 15 ค่ำ เดือน 3 พระจันทร์จะลอยเต็มดวง แต่ในฮอลล์นี้ กลับอิ่มใจไปด้วยเสียงเพลงแก้มด้วยกราฟิกด้านหลังเวทีซึ่งเป็นสายรุ้งสวยงามอันเป็นสัญลักษณ์ของวง
พอสิ้นเสียงเพลงสุดท้าย ไฮด์ได้บอกว่า "ขอบคุณครับ รอกันมาตั้ง 13 ปีเลยนะ เจอกันใหม่ครับ"
เพื่อนของผม ซึ่งกำลังอิน กระซิบข้างหูว่า สำหรับแฟนเพลงไทยที่ติดตามวงนี้มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ประโยคนี้โดนใจมาก...
แต่ยังซึ้งไม่จบ เท็ตซึหยิบกล้วยหอมมาโยนแจกคนดู ซึ่งเป็นธรรมเนียมปิดท้ายในการเล่นคอนเสิร์ตของวงนี้ไปแล้ว
ในที่สุด คอนเสิร์ตที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า กับเพลงที่เล่นอีก 19 เพลงก็จบลงไปพร้อมกับความรู้สึกที่ว่า
อยากดูอีกสักรอบ!
ปล.หากอยากอิ่มกว่านี้ แนะนำให้ไปที่ร้านขายซีดีเพลง เพื่ออุดหนุนดีวีดีบันทึกการแสดงสด ฉลองครบรอบ 20 ปีของวง "ลาร์คอองเซียล" ที่ใช้ชื่อว่า "20th L′Anniversary Live" ซึ่งบันเทิงการแสดงของพวกเขาเมื่อวันที่ 28 และ 29 พฤษภาคม 2011(มี 2 ชุด) ที่อาจิโนะโมะโตะ สเตเดียมที่กรุงโตเกียว ท่ามกลางฝนโปรยปรายและดนตรีของพวกเขาในวันนั้น รับรองว่าคุณได้ฟังเพลงพวกเขาจนหายคิดถึงแน่นอน
เรื่อง...ณัฐกร เวียงอินทร์
แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 11:15:33
จากคุณ |
:
city of the damn
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มี.ค. 55 11:15:05
|
|
|
|
|