หมอนกระดูกทับเส้นประสาท
ผู้ที่มีปัญหากระดูกเสื่อม หรือได้รับอุบัติทางรถยนต์ หรือบางรายอาจจะไม่มีสาเหตุชัดเจนที่ทำให้หมอนกระดูกกดทับเส้นประสาท ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเจ็บคอ ร่วมกับอาการปวดแขนโดยปวดจากต้นแขนร้าวไปปลายแขน มีชาที่มือ หากเป็นมากจะมีอาการอ่อนแรงของมือ ตำแหน่งของหมอนกระดูกทับเส้นประสาทที่พบบ่อยได้แก่กระดูกคอข้อที่ 5-6,6-7 และ 4-5 เรียงตามลำดับ
อาการ
อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ขึ้นกับตำแหน่งของหมอนกระดูกว่ากดทับเส้นประสาทเส้นใด
หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 4-5 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้มเนื้อหัวไหล่ แต่ไม่มีอาการชามือ
หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 5-6 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อด้านหน้า(bicep ) กล้ามเนื้อที่ใช้กระดกข้อมืออ่อนแรง ชาหรือปวดบริเวณมือฝากนิ้วหัวแม่มือ
หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 6-7 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อด้านหลัง(triicep ) กล้ามเนื้อที่ใช้เหยียดนิ้วมือ ชาหรือปวดบริเวณริ้วกลาง
หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 7-กระดูกหน้าอกข้อที่1 ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อสำหรับการกำมือ ชาบริเวณมือฝากนิ้วก้อย
แต่ในความเป็นจริงอาการและการตรวจพบอาจจะไม่ตรงไปตรงมา จำเป็นต้องใช้การตรวจพิเศษเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อให้ยาแก้ปวดรับประทานมักมีอาการดีขึ้น เรื่องชาหรืออ่อนแรงอาจจะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์จึงจะกลับสู่ปกติ
การวินิจฉัยโรค
การตรวจที่ให้ผลแม่นยำได้แก่การตรวจ MRI คือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
การตรวจด้วยเครื่อง CT ร่วมกับการฉีดสีเข้าไขสันหลังจึงจะมีความแม่นยำพอกับการทำ MRI
การตรวจคลื่นไฟ้ฟ้ากล้ามเนื้อ Eletromyography(EMG) เป็นการวัดว่าเส้นประสาทถูกกดทับหรือไม่โดยการเปรียบเทียบข้างที่เป็นโรคกับด้านที่ปกติ
การรักษา
อาการปวดมักจะเกิดจากสาเหตุสองประการคือ เกิดจากการกดทับของเส้นประสาท และเกิดจากการอักเสบ ในการรักษาเบื้องต้นเพียงให้ยาแก้ปวด NSAID ก็เพียงพอที่จะบรรเทาอาการปวด
การทำกายภาพ เช่นการอบร้อน/เย็น การใช้ ultrasound จะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
การดึงคอ จะช่วยลดการกดทับของเส้นประสาท
การจัดกระดูก Chiropractic manipulation อาจจะช่วยลดอาการปวด(ต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจจะทำให้โรคเป็นมากขึ้นหากทำผิด)
การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้อาการเป็นมากขึ้น เช่น การยกของหนัก กิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระแทก เช่นการวิ่ง การนั่งรถที่แล่นทางขรุขระ การนั่งเรือเร็ว เป็นต้น
การใส่ปลอกคอเพื่อให้มีการพักของกระดูกต้นคอ
การใช้ยาแก้ปวดดังกล่าวข้างต้นหากไม่หายอาจจะต้องให้ยา steroid ยาแก้ปวดที่แรงมากขึ้น
การฉีดยาเข้าบริเวณที่ปวด