........................................................
ถ้าต้องเลือกใครสักคน....มาอยู่ในหัวใจ
ถ้าต้องเลือกใครสักคน....โดยใช้แค่ความรู้สึก
ถ้าต้องเลือกใครสักคน....โดยไม่ทำร้ายใคร
ถ้าต้องเลือกใครสักคน....ผมควรจะเลือกใคร
........................................................
เพียงก้าวเข้ามาในอาคารเสียงเพลงจังหวะคึกคัก ท่วงทำนองสนุกสนาน ดังเชื้อเชิญให้ผู้คนที่เดินผ่านเข้ามาตบเท้าหรือโยกตัวเบาๆตามไปด้วย บรรยากาศแบบนี้คงตื่นใจแปลกตาสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับผมมันคือความเคยชิน
ทุก ครั้งที่ร่างกายเคลื่อนไหวไปคล้ายสัญชาติญาณออกจากจิตใต้สำนึกนอกเหนือความ คิด ที่นี่ไม่ใช่สถานบันเทิงแต่กลับมีเสียงเพลงดังตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ บางครั้งถึงกับดังทั้งวันทั้งคืนด้วยซ้ำ ผมผลักประตูเข้าไปยังห้องที่ผนังทำจากกระจกด้านหนึ่ง
"หวัด ดีครับ หวัดดีครับ" ผมร้องทักทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ไม่จำเป็นต้องดูก่อนว่ามีใครอยู่บ้างเพราะยังไงเดี๋ยวก็ต้องทำงานร่วมกัน ทั้งหมดอยู่ดี
ผม ได้เสียงขานรับดังขี้นทั่วห้อง บางคนผมรู้จักบางคนไม่รู้จัก บางคนผมยกมือไหว้บางคนยกมือไหว้ผม การทักทายคงดำเนินต่อไปถ้าไม่เพราะแรงกระแทกอย่างแรงจากประตูตรงเข้าเต็ม กลางหลังและศีรษะด้านหลังของผม ดีนะที่ผมหันหลังอยู่ถ้าเป็นด้านหน้าล่ะก็ ...คงมีจมูกหักคิ้วแตกกันบ้างแหละ
"เฮ้ยฮั่น/พี่ฮั่น เป็นไรป่าวๆ" เสียงร้องด้วยความตกใจของพี่ๆเพื่อนๆในห้องซ้อมดังขึ้นรอบตัวผม ที่ตอนนี้กำลังงงชีวิตเล็กน้อยจากแรงกระแทกด้านหลัง ไม่เจ็บแต่ก็ทำเอามึนพอสมควร
"พี่ครับๆ เป็นไรมากมั๊ยครับ ผมขอโทษๆ พี่เจ็บตรงไหนป่าวครับ" เสียงนุ่มๆดังอยู่ตรงหน้าผมพร้อมด้วยใบหน้าใสๆตี๋ๆของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
ท่า ทีกระวีกระวาดเป็นห่วงเป็นใยรวมทั้งหน้าซีดๆที่บอกถึงความกังวลใจทำเอาเจ้า ทุกข์อย่างผม แค่คิดจะโกรธยังทำไม่ลง พอตั้งสติได้ผมจึงรีบหัวเราะตอบไป
"ฮา ฮาฮา ไม่เป็นไรๆ เป็นการทักทายที่รุนแรงไปหน่อยนะไอ้น้อง" ผมตบไหล่เจ้าเด็กหน้าตี๋ไปสองสามที อยากให้ดูเป็นเรื่องตลกมากกว่า แต่ดูเหมือนเจ้าเด็กตี๋จะยังรู้สึกผิดอยู่ ยืนมองผมหน้าจ๋อยไม่ยอมไปไหน ถ้าจะรู้สึกผิดจนน่าสงสารขนาดนั้น หรือว่าผมดูเป็นพวกน่ากลัวเกินไปเองนะ
"อ่ะ เอาไป เอาเป๋าไปเก็บให้พี่ทีดิ" คงต้องไล่ด้วยวิธีนี้ไม่งั้นก็ได้แต่จ้องผมแล้วทำหน้าจ๋อยอยู่แบบนี้แหละ เจ้าเด็กตี๋รีบรับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของผมไปเก็บไว้ที่เก็บของหลังห้องซ้อม ทันที นี่ถ้าใช้ไปซักผ้าไอ้เด็กตี๋นี่คงจะรีบไปเลยทีเดียว
ก็ เข้าใจได้อยู่ว่าทำไมต้องเกรงผมขนาดนั้น ผมอยู่ที่นี่เต้นที่นี่มานาน ทั้งเป็นครูสอนทั้งรับงานใหญ่มาก็มาก เป็นที่รู้จักทั่วไปของทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ในตึกไม่ใช่น้อย ที่เจ้าเด็กตี๋นี่จะกลัวผม...ก็ถูกต้องแล้วล่ะ
“ฮั่น!! โอเคเปล่าเนี่ย” เพื่อนฝูงเดินเข้ามาถามไถ่หลังจากที่ผมส่งกระเป๋าให้จำเลยแล้วเดินไปนั่งรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ
“เออๆ บอกแล้วว่าไม่เป็นไรๆ แล้วจะเสียงดังกันทำไมวะ” คงต้องออกปากเตือนเพื่อนบ้าง ไอ้ที่เป็นห่วงก็ขอบคุณอยู่นะ แต่พอเจ้าพวกนี้เสียงดังหน่อยหน้าเจ้าตี๋นั่นก็หน้าเจื่อนลงเข้าไปอีก ก็ไม่อะไรหรอกนะ...ก็แค่สงสารเด็ก
(1)
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 16:51:28
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 16:51:05
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 16:42:48