เวลา ๐๗.๐๐ น. ถึง ๐๙.๐๐ น.
เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้านทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าเราไม่ทานอาหารเช้า อุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะอาหาร กลิ่นตัวจะเหม็น ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอจะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
อาหารบำรุงกระเพาะอาหาร คืออาหารที่มีพลังงาน และสารอาหารอย่างน้อย ๑ ใน ๔ หรือร้อยละ ๒๕ ของปริมาณที่ควรได้รับตลอดทั้งวัน
เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง ๑๑.๐๐ น.
เป็นช่วงเวลาของม้าม
ม้ามจะอยู่บริเวณชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเมล็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศรีษะบ่อย มักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้ามกับตับ
ม้ามโตม้ามจะไปเบียดปอดทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ถ้าม้ามชื้น อาหารและน้ำที่ทานเข้าไป จะแปรสภาพเป็นไขมัน จึงทำให้อ้วนง่าย
ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลานี้ ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้ม้ามยัโยงถึงริมฝีปาก ผู้ทั้พูดบ่อยๆ หรือพูดเก่งๆ ม้ามจะชื้นจึงควรพูดน้อย กินน้อย้ามจึงแข็งแรง
อาหารบำรุงม้าม คือ มันเทศแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากหัวบุก
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถึง ๑๓.๐๐ น.
เป็นช่วงเวลาของกล้ามเนื้อหัวใจ
หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้ เป็นช่วงของระบบหัวใจ หมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจ คนที่มีปัญหาเรื่องนี้ ดูที่อาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างที่เข้าใจกัน
อาหารบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ คือ กล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดง และผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีต่างๆ
เวลา ๑๓,๐๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น.
เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
ควรงดทานอาหารทุกประเภทเพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กมีห้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี โปรตีน เพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้าเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย ๑๑ ฟุต เพื่อให้ดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่า จึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชาย ๑ คู่
อาหารบำรุงลำไส้เล็ก คือ อาหารไขมันต่ำ น้ำสะอาด
เวลา ๑๕.๐๐ น. ถึง ๑๗.๐๐ น.
เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้จึงควรำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกาย หรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
ข้อควรระวัง.....
...ถ้าเหงื่อมีโซเดียมปนออกมามาก ไตจะวาย
...ถ้ามีโปตัสเซียมปนออกมามาก หัวใจจะวาย แก้ไขเรื่องหัวใจวายด้วยการดื่มน้ำส้ม หรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มโปตัสเซียม
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
อาหารบำรุงกระเพาะปัสสาวะ คือ ผลไม้ เช่น บิลเบอร์รี่ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ