ความคิดเห็นที่ 1 หลัง 3 เดือนผ่านไป ผมก็รักษาขาจนเกือบจะหายดี และกลับมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่มีเธอคนนั้นอยู่ข้างๆ ช่างหงอยเหงาเสียจริงๆ ได้แต่เดินผ่านสถานที่ ที่เคยไปกินข้าวด้วยกัน สถานที่ที่นั่งคุยกันใต้ตึกตอนดึกๆ มันทำให้ผมนึกถึงความทรงจำเก่าๆ แม้มันจะเจ็บปวด แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขขึ้นมาเหมือนกัน 30/4/55 วันนี้ก็เป็นวันปกติธรรมดาครับ ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรพิเศษ มีแต่งานวิจัย หลังจากทำงานจนเหน็ดเหนื่อยก็ผลอยหลับไป แต่ในฝันนั่นเอง ที่ทำให้ผมรู้สึกคิดถึงเธอคนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง.... ในคืนนั้นผมฝันว่า เพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงบอกผมว่า เยวอน(คนที่ผมชอบ เขียนอธิบายไว้แล้วใน ภาค 1)  จะมาที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าผมคิดถึงเธอคนนั้นมาก ในฝันผมก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีสาเหตุ หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝัน ไม่รู้เพราะอะไร น้ำตามันก็ไหลออกมาอีกครั้ง ผมก็ยังคิดในใจว่า ถ้าได้เจอกันอีกครั้งก็คงจะดีนะ แต่เพราะว่ามันเป็นแค่ความฝัน มันจะเป็นจริงได้อย่างไร พอคิดได้อย่างงั้น ก็ตื่นขึ้นมาไปอาบน้ำและไปมหาลัยตามปกติ.... จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 16:26:35

ความคิดเห็นที่ 2 2/5/55 ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาด้วยระบบ Push ของ iPhone ครับ สั่นไม่หยุดเลย ตื่นมาก็คิดในใจว่า ใครส่ง Msg มาเยอะแยะตอนนี้เนี่ย คนจะหลับจะนอน นี่ยังเช้าอยู่เลย แต่พอเห็นชื่อคนส่งแล้วก็ทำให้ผม แปลกประหลาดใจเล็กๆ เพราะคนที่ส่งมาก็คือ เยวอน นั่นเอง ....... จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 17:12:53

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าบอกนะว่าโทรมาเชิญไปงานแต่งงาน :hmm: จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 17:33:44

ความคิดเห็นที่ 4 อันนั้นเศร้าจริงจังเลยทีเดียว T_T จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 18:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะว่าช่วงอาทิตย์นี่ที่ญี่ปุ่นเป็น Golden Week นั่นก็คือ วันหยุดยาวนั่นเอง เยวอนเลยถามผมว่า ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าวันหยุด ผมก็คุยกันแบบปกติ วันก่อนไปโน่นนี่มา ตามภาษาคนคุยเรื่อยเปื่อย และเธอก็ถามต่อว่าวันที่ 5-6 นี่ไปไหนหรือเปล่า ซึ่งวันที่ 5 ผมนัดกับ Professor ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน เลยบอกว่า ผมว่าง 4,6 วันที่ 5 ไปกับ Professor ผมยังส่งไปอีกว่า ถ้าจะมา เดี๋ยวไปกับ Professor วันที่ 4 ก็ได้ (ส่งไปเล่นๆไปงั้นแหละ) เธอตอบกลับมาทันทีว่า ได้ งั้นวันที่ 5-6 ไปเที่ยวด้วยกันนะ ....... จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 18:04:41

ความคิดเห็นที่ 6 ผมก็งง + ตกใจ อ่าว นี่ความจริงหรือฝันกันแน่เนี่ย พร้อมกับ บีบแก้มตัวเอง “โอ๊ยเจ็บ” แสดงว่านี่เป็นความจริงแน่นอน แล้วพร้อมกับบอกผมอีกว่า อยากบอกใครนะ เพราะว่าเค้าไม่ได้บอกคนอื่น กะจะมาเซอร์ไพร์ เพื่อนๆคนอื่นๆด้วยนั่นเอง 4/5/55 ตอนตี 2 กว่าๆ เธอก็ทักผมว่าพร้อมบอกว่า “เจอกันพรุ่งนี้ บ่ายโมงครึ่งนะ” และผมก็ตอบตกลง เพราะว่าย้ายงานอื่นๆไปไว้วันอื่นหมดแล้ว วันนี้ว่างทั้งวัน ไปไหนก็ได้ 5/5/55 วันนี้คงเป็นวันดีของผมจริงๆ แหม วันที่ 5/5/55 ซะด้วย แถมได้เจอกับเธออีก วันนี้ตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวสุดหล่อ ออกไปนั่งรอเธอที่สถานีรถไฟหน้ามหาลัย พอถึงเวลานัด เธอก็มาจริงๆ นี้ไม่ใช่ความฝัน นี่เป็นความจริงที่กำลังเกิดต่อหน้าผม ผมก็ดีใจมากที่ได้เจอกันเธอคนนี้อีกครั้ง ตอนเจอหน้ากันผมก็บอกกับเธอว่า “ขอมือหน่อยซิ” พอเธอยืนมือมา ผมก็หยิบ Choko Ball ไปใส่มือถือ พร้อมกับบอกว่า “เพรเซนโต๊ะดะ” แปลว่า ขอบขวัญนั่นเอง พอเธอเห็นกล่องขนมเธอก็ค่อนดีใจ ก็แน่ละ มันคือขนมที่เธอคนนั้นชอบนี่นา . หลังจากเจอกัน ก็คุยกันว่าจะไปไหนกันดี แต่เธอบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยง เลยตกลงกันว่า “ไปกินข้าวกัน แถวๆนี้แหละ” ร้านที่เธอเลือกก็คือร้าน Royal Host ซึ่งก็คือร้านที่ผมพาเธอไปกินข้าววันที่ผมบอกรักเธอเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง เธอบอกว่าคิดถึงรสชาติของอาหารที่นี่มาก และอยากจะกินอีกครั้ง..................... จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 18:28:10

ความคิดเห็นที่ 7 มารอลุ้น จากคุณ : ตุ๊กแกร่ำสุรา เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 18:48:35

ความคิดเห็นที่ 8 จะพยายามให้จบวันนี้นะครับ กำลังเขียนอยู่ สัญญาว่าจบวันนี้แน่นอน พอไปถึงที่ร้านเราก็สั่งอาหารมากินกัน พูดคุยกันตามปกติ ถาม สารทุกข์ สุกดิบ กันไป ผมก็ค่อนข้างจะดีใจเพราะไม่ได้คิดว่า จะมีโอกาสมากินข้าวกับเธอที่นี่อีกครั้งนึง หลังจากคุยกับไปหลายๆเรื่อง และก็งงว่า ทำไมอยู่ดีๆถึงมาญี่ปุ่น บินมาแค่ 3 วันเองก็กลับแล้ว เมื่อถามเธอก็ได้ความว่า “ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินถูก + กับไม่มีคาบเรียนเลยถือโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น แล้วก็มาเยี่ยมเพื่อนๆด้วย” เมื้อเย็นก็ยังคงไปกินข้าวด้วยกัน แต่สมาชิกที่เพิ่มขึ้น เพื่อนคนญี่ปุ่น เกาหลี คนไทย มากันรวมได้เกือบๆ 20 คน นั่งคุยกันสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ก็ทำการแยกย้าย ก่อนแยกย้ายก็ถ่ายรูปรวมกัน หน้าร้านอาหาร และเดินไปด้วยกันจนถึง 4 แยก ซึ่งจะต้องเดินแยกกันตรงนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็จะไม่ได้เจอกันอีก เพราะว่าเธอจะกลับเกาหลีแล้วครับ (มาแป๊บเดียวเองอะ T_T) ผมก็ลำลาด้วยสายตาเศร้าๆ โบกมือบ๊ายบาย แล้วก็เดินหันหลังกลับไป การหันหลังไปครั้งนี้ หลังจากนี้ เมื่อไรจะได้เจอกันอีกก็ไม่รู้ พอคิดอย่างงั้น ผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ รู้สึกคิดถึง รู้สึกอยากจะเจอเค้าอีกเร็วๆ แต่ทำไงได้ ก็ลากันแล้ว ก็คงไม่ได้เจอกันอีกนานแหละ แต่ว่าเธอบอกว่า วันหยุดหน้าร้อน จะมาเที่ยวที่ไทย ก็คงได้เจอกันอีกครั้งตอนนั้นละมั้ง ........ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 18:51:58

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากนั้น พอเดินถึงมหาลัย ผมก็เริ่มนึกถึงเรื่องราวต่างๆมากมายที่เกิดขึ่้น ทั้งเรื่องที่คิดแล้วดีใจ ทั้งเรื่องที่คิดแล้วเสียใจ ด้วยความที่อยากจะสงบสติ อารมณ์คนเดียว เลยเดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ แล้วเดินเล่นรอบมหาลัยคนเดียวอีกครั้ง (ใน ภาค 1 ผมเล่าไว้ว่า เวลาอยากสงบสติอารมณ์ผมจะมาเดินเล่นคนเดียวบ่อยๆ) พอเริ่มเดิน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง ไม่รู้เพราะอะไร ความรู้สึกของตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ แต่น้ำตามันออกมาแล้ว แล้วไหลไม่หยุดอีกตะหาก คิดถึงแต่เรื่องราวเก่าๆ ในปีที่แล้ว ยิ่งคิดยิ่งเศร้า แต่สุดท้ายก็ หยุดร้องไห้ แล้วเดินกลับหอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ........ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:07:12

ความคิดเห็นที่ 10 **** Climax **** 6/5/55 ตื่นมาประมาณ 11 โมงเช้า (จริงๆก็ ไม่เช้าเท่าไหร่) อาบน้ำ กินข้าวเสร็จก็คิดว่าเธอคงใกล้จะออกจากที่พักไปสนามบินแล้วหละ เพราะเมื่อวานเธอบอกว่าจะไปสนามบินประมาณ บ่าย 2 พอเล่าให้เพื่อนๆคนไทยฟัง เพื่อนๆเลยยุว่า “เมิงไปสนามบินตอนนี้เลย ไป๊ !!!!!!!” (เหมือนในหนังมากๆ เที่ยวบินก็ไม่รู้ เวลาเครื่องออกก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า บ่าย 2! ซึ่งตอนนี้ก็ จะบ่ายโมงแล้ว) หลังจากกล้าๆกลัวๆอยู่พักนึก + กับถูกยุ ก็ติดสินใจ “เอาว่ะ ไปก็ไป” ............. รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบหูฟังไอโฟน กับรองเท้าคู่ใจไปด้วย (เพราะว่าต้องนั่งรอนานแน่ๆ) ตอนนั้นเดินถึงสถานีรถไฟก็ประมาณ บ่ายโมงพอดี เวลาไม่ค่อยท่า เลยตัดสินใจว่า “ไปรถไฟ ไม่ทันแน่นอน จะมากี่โมงก็ไม่รู้” เลยเดินลงจากสถานี และโบก Taxi ไปสนามบินเลย ใช้เวลาน้อยมาก เนื่องจากรถไม่ติด บ่ายโมง 20 ก็ถึงสนามบินแล้วครับ ทันเวลาๆ (แต่โดนค่ารถไป 5000 เยน ประมาณ 2000 กว่าบาท ><” ) ก่อนที่จะออกจากหอ เพื่อนผมได้เช็คเวลาเครื่องบินไว้ให้แล้ว มีเครื่องที่ไป โซล ออกเวลา 4 โมง 20 ก็คิดว่าน่าจะลำนี้แหละ ไปดักรอหน้าทางเข้าประตูเช็คอินดีกว่า พอไปถึงก็ไปดูตารางสายการบินครับ และพบกันความจริงที่ว่า “เครื่องบินจากญี่ปุ่นไปเกาหลี ออกเหมือนรถเมล์เลยครับ มี 3 ลำ แต่ละลำ ออกห่างกัน 10 นาที =_____-”” หลังจากนั้นก็ตัดสินใจ “เอาว่ะ นั่งเฝ้ามัน 3 เค้าเตอร์นี่แหละ” ไปสายการบินไหนเดี๋ยวก็รู้กัน !! นั่งรอจนถึงบ่าย 2 ก็แล้วก็ยังไม่มา บ่าย 2 ครึ่ง ผ่านไป เค้าเริ่มเปิดประูให้เช็คอินแล้ว คนก็มาต่อแถวเข้าเช็คอินเต็มไปหมด เพิ่มความยากลำบากในการมองหาเธอขึ้นไปอีก 3 เท่า แต่ผมก็ยังนั่งเฝ้าอยู่ หวังว่าจะได้ส่งเธอที่สนามบิน แต่อีกใจก็ยังคิดว่า “จะได้เจอไหมนะ เลยเวลาแล้วหรือว่าเธอเข้าไปแล้ว หรือว่าไป Fight เช้าก็ไม่รู้” นั่งรอจนถึง เกือบๆ 4 โมงครับ และแล้วเธอก็มา ................ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:07:30

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ภาพที่ผมเห็นคือ เธอมากับผู้ชายอีกคนนึง ซึ่งคนนั้นก็จีบเยวอน เหมือนกันผมเมื่อปีที่แล้ว ผู้ชายคนนั้น เอามือโอบไหล่เยวอนไว้ เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วทนไม่ไหวจริงๆครับ อารมณ์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ไม่รู้จะเดินเข้าไปหาดีหรือเปล่า หลังจากอึ้งอยู่ 3 วิ เธอและเขา กำลังเดินมาทางผม (นั่งอยู่หน้าทางเข้าเช็คอิน) ผมก็รีบเดินออกไปอีกประตูทันที และเดินเข้ามาอีกครั้งดูให้แน่ใจว่า ไม่ผิดตัว และก็มั่นใจครับ ว่าไม่ผิดตัวแน่นอน เธอและเขา มากัน 2 คน ผมก็ตัดสินใจว่า “กลับดีกว่า อย่าไปให้เธอเห็นเลย ดีไม่ดีเธอเห็นผมไม่รู้จะดีใจหรือเปล่า” คิดอย่างงั้นผมก็เดินลงจากชั้น 2 มาชั้น 1 (ในระหว่างนั้นคุย Like กับกลุ่มเพื่อนๆอยู่ด้วย เพื่อนๆบอกว่า “ให้เข้าไปหาเลย กลัวอะไร” แต่ใจผมมันแป้วไปแล้วครับ) พอลงมารถบัสก็มาพอดี ผมก็ขึ้นไป ประตูรถบัสปิดลง รถเตรียมจะออกจากท่ารถแล้ว แต่แล้วก็มีพนักงานคนนึงเปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหน้าผม (ผมอยู่หน้ารถ) แล้วประกาศหาคนทำกล้องถ่ายรูปหาย (พนักงานเก็บกล้องถ่ายรูปได้) ถามอยู่ซักพักว่าของใคร แต่จังหวะนั้นผมไม่สนใจอะไรแล้ว อยู่ๆก็เดินลงจากรถ แล้วขึ้นไปที่ชั้น 2 อีกครั้ง (เหมือนในหนังอีกแล้ว)............ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:07:54

ความคิดเห็นที่ 12 ใจก็เต้นตุบๆตับๆ สายตาพยายามมองหาว่า เธออยู่ไหน หาไม่เจอแล้ว (พิมพ์ไปบอกเพื่อนใน Line ด้วยว่าหาไม่เจอๆ) พยายามเดินให้ทั่วตามร้านขายของต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว แต่ไม่เจอจริงๆครับ ในใจคิดว่า เธอคงเข้า Gate ไปแล้วมั้งแต่จังหวะนั้นเอง ผมก็เห็นเธอไกลๆ เสื้อสีเหลือง ผมทำสีทอง ตัวไม่สูงมาก ใช่เลย! ผมเจอเธอแล้ว !!!!!!!................ จังหวะนั้นก็จะเข้าไปดี ไม่เข้าไปดี คิดอะไรไม่ออก ในสมองมันงงไปหมดแล้ว โชคดีที่มีเพื่อนใน Line ช่วยออกคำสั่งให้อยู่ (ต้องเรียกว่าออกคำสั่งจริงๆ) จังหวะนั้นบอกไรมาทำหมด คิดไม่ออกแล้วครับอ เพื่อนทั้ง 5 คนได้ (เป็นกรุ๊ป) บอกให้ “เข้าไปเดี๋ยวนี้! รีบๆเข้าไป! ผู้ชายจะอยู่ช่างมัน มาถึงขั้นนี้แล้ว” ผมก็ “เป็นไงเป็นกันว่ะ เดินเข้าไปเลยครับ ตอนนั้นหัวใจเต้นเร็วมาก เร็วกว่าไปวิ่ง 100 เมตร อีก” จังหวะนั้นผู้ชายไปห้องน้ำพอดี ผมเลยเดินผ่านไปทางข้างหลังเธอ และอ้อมไปนั่งข้างๆ เยวอน พอเธอ หันมาเห็น เธอทำหน้า ตกใจมากครับ! เซอร์ไพร์มากๆ เพราะว่าเธอไม่คิดว่าผมจะมา “พร้อมกันหน้าตกใจ และพูดไม่ออก” ผมก็ถามว่า “ตกใจเหรอ เป็นอะไรหรือเปล่า” เธอก็ยังคงอ้าปากค้างอยู่ -_-” (สงสัยตกใจมากจริงๆ) หลังจากนั้นผมก็บอกว่า “คราวที่แล้ว ผมสัญญาณกับเค้าว่า ผมจะมาส่งเค้าที่สนามบิน แต่ผมมาไม่ได้ (เพราะว่ารักษาตัวอยู่ที่ไทย) วันนี้ผมมาส่งเค้าตามสัญญาแล้วนะ” ผมคิดว่า บางที่ผมไม่รอเจอผู้ชายคนนั้นจะดีกว่า ผมเลยบอกเธอว่า “ผมมาส่งแล้วนะผมกลับแล้ว” ด้วยบทสนทนาสั้น ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ผมก็เดินออกไป แล้วก็ขึ้นรถบัสที่เดิม ออกจากสนามบินไป.......... จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:09:41

ความคิดเห็นที่ 13 ไปต่อรถไต้ดิน และรถไฟเพื่อกลับมหาลัย การนั่งรถไฟคนเดียวครั้งนี้ ผมรู้สึกว่ามันยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผมนั่งรถไฟมาเลยก็ว่าได้ รู้สึกเหมือนเวลามันผ่านไปช้า ในหัวยังมึนส์ๆ ทั้งเสียใจที่เห็นภาพบาดตาบาดใจนั้น แต่ยังไงผมก็พยายามจนถึงที่สุดแล้ว ผมจะไม่เสียใจกับเรื่องราวเหล่านี้และเก็บมันไว้เป็นความทรงจำดีๆ ที่มีค่าที่สุดสำหรับผม ว่าครั้งนึง ผมเคยรักใครได้มากมายถึงขนาดนั้น แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง ผมคงต้องตัดใจจากผู้หญิงคนนี้จริงๆ คงต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ หาคนใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผมจะรักเค้าได้ถึงขนาดนี้หรือเปล่า แต่ยังไงผมก็จะพยายามให้ดีที่สุดครับ คนเราบางทีก็อย่า จมอยู่กับอดีต อยากให้อดีตมากำหนดชีวิตในอนาคต รอให้อนาคตกำหนดอนาคต จะดีกว่า ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านจนจบนะครับ ดราม่าเรื่องยาวของผมได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ หวังว่า อาจจะช่วยให้ใครหลายๆคนที่เศร้ากับความรักของตัวเอง มาลองอ่านดู อาจจะทำให้เรื่องของท่านเป็นเรื่องเล็กๆไปเลยก็ได้ ถ้าได้อ่านเรื่องของผม ผมเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อกหักนะครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:09:58

ความคิดเห็นที่ 14 ------- จบแล้วครับ -------- รบกวนเม้นขอกำลังใจนิดนึงก็ดีนะครับ ช่อยปลอบผมหน่อย เรื่องเกิดวันนี้หมาดๆ ยังทำใจไม่ได้เลยจริง T_T จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:11:05

ความคิดเห็นที่ 15 ประสบการณ์ที่ดีครับ จดจำไว้เป็นความทรงจำที่สวยงามดีกว่าครับ ปล.ขอกลับไปอ่านเรื่องราวแฟนเค้าคนนั้นก่อน ลืมไปและ จากคุณ : ตุ๊กแกร่ำสุรา เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 19:53:09

ความคิดเห็นที่ 16 เหมือนยังมีภาคต่อนะคะ ใครหรืออะไรที่เป็นของเรา จากกันนานแค่ไหน ไกลแค่ไหน วันนึงก็ต้องกลับมาเป็นของเรา แต่ถ้าเค้าไม่ใช่ของเรา พยายามแค่ไหนยื้อยังไงเค้าก็ต้องจากเราไปอยู่ดี จากคุณ : Expert Lover เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 20:28:23

ความคิดเห็นที่ 17 โชคชะตาทำให้คุณเจอเค้า สักวันนึงมันก็จะทำให้เจอเธออีก ถ้าคนๆ นั้นเป็นของคุณนะคะ แต่ถ้าไม่ ไม่ต้องห่วงหรอกคะ อีกคนเค้าก็กำลังจะโคจรมาเจอคุณเหมือนกัน สู้ สู้ คะ เป็นกำลังใจให้ :] จากคุณ : luv_2o เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 21:04:37

ความคิดเห็นที่ 19 โอ๊ย ผมตามอ่านตั้งแต่แรกจนจบแล้วครับ น้ำเน่าเหมือนละครจริงๆ เหมือนที่เค้าพูดชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร แต่แอบขัดใจตอนจบ จากคุณ : ชายหนุ่มแสนอบอุ่น เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 21:07:43

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นกำลังใจให้ คุณยังมีโอกาสเจอคนอีกมากมาย อาจจะได้เจอคนที่ใช่มากกว่าคนนี้ก็เป็นได้ ขอแค่ยอมรับและก้าวเดินต่อไปแล้วกันนะคะ สู้ๆ อกหักไม่ยักกะตายเนอะ แค่สะบักสะบอม รักษาให้ดีสักวันก็หายค่ะ ^^ จากคุณ : nongteatree เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 10:17:27

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ ทุกคนที่ให้กำลังใจ ^^ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 13:06:20

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานผ่านมา ผมก็ได้คุยกับเพื่อนอีกคนนึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ เค้าบอกว่าเค้าก็ตกใจ เพราะว่าทั้งสองคนนั้นเป็นแฟนแล้ว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็ Confirm แล้วครับ ไม่ใช่ผมที่คิดไปเอง หลังจากนี้คงจบ แบบเจ็บๆ แต่ได้รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว บางทีมันอาจจะทำให้ผมสบายใจขึ้นอีกหน่อยก็ได้ ใครก็ได้ พาผมไปเมาที~~~ ><" จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 13:10:05

ความคิดเห็นที่ 23 ถามนิดนึงค่ะว่าผู้ชายที่บอกว่าเป็นแฟนเยวอนที่มาด้วยกันที่สนามบินนี่ใช่จุนหรือเปล่า ไม่ใช่แฟนคนเดิมที่เกาหลีเหรอคะ ถ้าไม่ใช่แฟนคนเดิมก็เสียดายแทนคุณนะ แปลว่ามีคนทำให้เปลี่ยนใจได้ ทั้งๆที่เรื่องที่คุณเล่าดูเหมือนเธอก็มีใจให้คุณอยู่นะ ผู้หญิงด้วยกันดูออกเพียงแต่เธออาจจะสับสนอยู่บ้าง ถ้าคุณไม่ป่วยจัดหนักก็น่าจะ success ป.ล. ผู้ชายนี่เวลาเฮิร์ทต้องเมาเหรอคะ มันช่วยยังไงเห็นมาหลายคนแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 13:59:11 จากคุณ : Expert Lover เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 13:57:42

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ใช่จุนครับ เป็นคนญี่ปุ่นที๋โฌผล่มาทีหลัง เค้าเลิกกับแฟนเก่าแล้วไปมีแฟนใหม่เป็นญี่ปุ่นครับ แต่ว่า ญี่ปุ่นคนนี้ นิสัยดีครับ ดีมากจริงๆ ผมก็รู้จักดี ผมว่า เค้าคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เรื่องนี้คงไม่ใช่ว่าใครผิดใครถูก แต่ตอนนี้มันก็ลงตัวแล้วครับ โดยที่ผมเป็นคนที่เจ็บแต่จบ ส่วนเรื่องเหล้า ผมกินยังไงก็ไม่เมาหรอกครับ (กินน้อยมาก) แค่พูดเล่นขำๆนะ ^^ จากคุณ : ปอปลา007 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 14:18:15