โรคไฮเปอร์ (สมาธิสั้น)
1. เข้าใจและยอมรับ
ขอให้เข้าใจและยอมรับว่าเด็กไฮเปอร์มีพลังงานเหลือเฟือ ทำให้ไม่สามารถควบคุมตนเองให้อยู่นิ่งได้ การอดทนและใช้ความสุขุมจะช่วยให้อยู่ร่วมกับเด็กเหล่านี้ได้
2. ช่วยหาทางออกให้เด็กได้ระบายพลังงานส่วนเกิน
เด็กควรมีโอกาสทำกิจกรรมที่ได้ใช้พลังงานส่วนเกินอย่างเป็นประโยชน์ เช่น การออกกำลังกายอย่างง่ายๆ ด้วยการเดินหรือวิ่ง ตลอดจนการเล่นกีฬาต่างๆ
3. ช่วยลดความกดดันของเด็กต่อปฏิกิริยาที่ได้รับจากเพื่อนหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่
เด็กที่ไฮเปอร์มักถูกกล่าวว่าเป็นเด็กไม่ดี เนื่องจากมักทำความเดือดร้อนอยู่เป็นนิจ แต่ขอให้สมาชิกในครอบครัวอย่าตีตราเด็กเช่นนั้นตลอดไปด้วย ควรให้กำลังใจให้เด็กรู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นเด็กดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เสมอ เพียงแต่มีพลังงานส่วนเกินที่ต้องช่วยกันควบคุมให้เหมาะสม จะช่วยรักษาภาพพจน์ที่ดีต่อตนเองและความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กให้คงอยู่ ได้
4. รักษาระเบียบวินัย
แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายในการฝึกระเบียบวินัยให้เด็กไฮเปอร์แต่ก็เป็นสิ่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกฝังโดยเน้นกฎเกณฑ์ได้ทีละน้อยก่อน และค่อยขยายไปยังเรื่องที่มีความสำคัญรองลงมา คุณพ่อคุณแม่ควรมีความชัดเจนและความสม่ำเสมอในการรักษากฎเกณฑ์ โดยหลีกเลี่ยงคำห้ามที่พร่ำเพรื่อ
5. ฝึกระเบียบวินัยโดยไม่ต้องตี
ควรมีห้องแยกหรือที่ที่จะให้เด็กอยู่ตามลำพังสักชั่วขณะ เมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นห้องนอนเด็กเองก็ได้ เพื่อให้เด็กใช้เวลาไตร่ตรองพฤติกรรมที่ตนได้กระทำไป และอนุญาตให้เด็กออกมาอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อีกเมื่อเด็กหยุดพฤติกรรมนั้น หรือรู้ตัวว่าจะไม่กระทำอีก ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษด้วยการตี ซึ่งอาจทำให้เด็กก้าวร้าวขึ้นได้จากการเลียนแบบผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวได้ง่าย ผู้ใหญ่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการรู้จักควบคุมตนเอง
6. อย่าทำให้เด็กเหนื่อยล้า
เด็กเหล่านี้มีความอดทนต่อความเครียดต่ำอาจจะระเบิดอารมณ์หรือการแสดงออก ที่ ควบคุมตนเองไม่ได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า
7. หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่ต้องการความสงบ
การที่เด็กไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในสถานที่ที่ต้องการความสงบ เช่น วัด หรือภัตตาคารหรูๆ อาจถูกว่ากล่าวทำให้เด็กรู้สึกกระดากอายได้ ต่อเมื่อเด็กรู้จักควบคุมตนเองได้ดีขึ้นที่บ้านแล้วจึงค่อยๆ พาไปในสถานที่ดังกล่าว
8. จัดบ้านให้เป็นระเบียบ
บ้านที่เป็นระเบียบจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ระเบียบไปด้วย รวมทั้งกิจวัตรประจำวันต่างๆ เช่น มื้ออาหาร การทำการบ้านหรือช่วยงานบ้าน เวลาเข้านอนก็ควรเป็นเวลาที่สม่ำเสมอทุกวัน
9. ยืดระยะเวลาของสมาธิ
เมื่อใดที่เด็กมีพฤติกรรมที่ดี เช่น นั่งอยู่กับที่ได้นาน ทำงานแล้วเสร็จ ควรให้คำชมเชยเสมอ เป็นการช่วยเตรียมให้เด็กพร้อมสำหรับกิจกรรมที่โรงเรียนด้วย
10. มีเวลาพักสำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้าง
การที่ต้องอยู่กับเด็กไฮเปอร์ตลอด 24 ชั่วโมง อาจทำให้คุณแม่เหนื่อยเกินไป ควรมีเวลาพักเพื่อที่จะมีเรี่ยวแรงมาดูแลเด็กได้อีก คุณพ่อหรือพี่เลี้ยงเป็นผู้ที่ช่วยได้มากทีเดียว ควรช่วยผลัดอยู่กับเด็กบ้าง หรือการที่คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาออกไปนอกบ้านตามลำพังเพียง 2 คนบ้าง จะช่วยให้คุณแม่หายเหนื่อยและมีกำลังใจขึ้นอย่างมากทีเดียว