พอดี อ่านเรื่องวิธีกินขมิ้นชันเพราะคุณแม่ทานอยู่ ก็เลยเอามาลงไว้
ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่ยอมรับกันทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและโบราณ
กินขมิ้นชันเวลาไหนได้ผลดี 40 เท่า
ว่ากันด้วยเรื่องของสมุนไพรขมิ้นชัน สมุนไพรยอดนิยมและมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และที่สำคัญคือ การช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากตับ เป็นต้น ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายทำให้ผู้คนหันมาบริโภคขมิ้นชันกันมากขึ้นทั้งในรูปของอาหาร อาหารเสริมและยาสมุนไพรก็ตาม
แต่จะมีสักคนที่ทราบว่า การทานขมิ้นชันแม้ว่าจะมีประโยชน์กับร่างกายและสุขภาพ แต่ถ้าเรารู้จักบริโภคขมิ้นชันให้เป็น เราจะได้ประโยชน์จากขมิ้นชันเพิ่มขึ้นเป็น 40 เท่า อ่านไม่ผิดครับ 40 เท่า ซึ่งองค์ความรู้ตรงนี้อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ท่านผู้มีความรู้ด้านสมุนไพรท่านหนึ่งและผู้เป็นเจ้าของบทความชื่อดังที่ทุกคนน่าจะเคยได้อ่าน นาฬิกาชีวิต (biological clock) ได้ถ่ายทอดไว้อย่างละเอียดในรูปแบบของหนังสือครับ
การใช้ประโยชน์จากขมิ้นชันให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น หลักการเกี่ยวของมันเกี่ยวข้องกับเรื่องของนาฬิกาชีวิตครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้น ผมขออธิบายเรื่องนาฬิกาชีวิตก่อนสักเล็กน้อย เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นของท่านผู้อ่านครับ
นาฬิกาชีวิตคือ อะไร ?
คำอธิบายเรื่องของนาฬิกาชีวิต ผมขอยกมาจากหนังสือเลยนะครับ มีใจความสำคัญดังนี้
การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก โดยมองลึกลงไปว่าช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิต ที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยอวัยวะตันและอวัยวะกลวง
อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต
อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)
การไหลเวียนขอพลังชีวิต (ลมปราณ) ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยะวะรวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวันเรียกว่า นาฬิกาชีวิต
ที่มา http://www.pendulumthai.com/clockx.html
ที่มีของการใช้ขมิ้นชันให้ได้ผลดี 40 เท่ามาจากหลักการของนาฬกาชีวิตนี่แหละครับ เรามาดูกันก่อนว่า เวลาในการไหลเวียนของลมปราณในแต่ละอวัยวะ เวลาไหนสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนใด ?
ช่วงเวลาที่ลมปราณไหลผ่าน อวัยวะ สิ่งที่ควรปฏิบัติ
01.00-03.00 ตับ นอนหลับพักผ่อนให้หลับสนิท
03.00-05.00 ปอด ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธิ์
05.00-07.00 ลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายอุจจาระ
07.00-09.00 กระเพาะอาหาร กินอาหารเช้า
09.00-11.00 ม้าม พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
11.00-13.00 หัวใจ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
13.00-15.00 ลำไส้เล็ก งดกินอาหารทุกประเภท
15.00-17.00 กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เหงื่อออก ( ออกกำลังกายหรืออบตัว )
17.00-19.00 ไต ทำให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน
19.00-21.00 เยื่อหุ้มหัวใจ ทำสมาธิหรือสวดมนต์
21.00-23.00 ระบบความร้อนของร่างกาย ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำให้ร่างกายอบอุ่น
23.00-01.00 ถุงน้ำดี ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
ถ้าเราทราบข้อมูลดังตารางด้านบนแล้ว เราจะรู้ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการบริโภคขมิ้นชันให้ได้ผลดี 40 เท่าครับ เพราะช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ผมพูดถึงก็คือ ช่วงเวลาลมปราณไหลเวียนผ่านอวัยวะนั้นนั่นเอง
สมมุติว่าเรามีปัญหา
โรคกระเพาะอาหาร เวลาที่เหมาะสมในการทานขมิ้นชันให้ได้ผลดี คือ 07.00 09.00
โรคท้องผูก เวลาที่เหมาะสมในการทานขมิ้นชันให้ได้ผลดี คือ 05.00 07.00
โรคไต เวลาที่เหมาะสมในการทานขมิ้นชันให้ได้ผลดี คือ 17.00 19.00
คิดว่าน่าจะพอเข้าใจนะครับ เรามีปัญหาตรงไหนอวัยวะไหน ? เราก็ทานขมิ้นชันในเวลานั้นตามช่วงเวลาที่ลมปราณไหลผ่านในแต่ละอวัยวะนั้น ใครที่กำลังตั้งใจทานขมิ้นชันหมอเส็งอยู่ ก็ทดลองทานขมิ้นชันตามช่วงเวลาที่เหมาะสมกับโรคของตนเองดูครับ
แต่ถ้าหากมีปัญหาสุขภาพหลายอย่างหรือเป็นหลายโรค เราสามารถทานขมิ้นชันได้ตามช่วงเวลานาฬิกาชีวิตได้หลายครั้ง เช่น ถ้าเรามีปัญหาที่อวัยวะ 3 อวัยวะ เช่น ไต กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ เราก็ทานขมิ้นชัน 3 ครั้งตามเวลาของแต่ละอวัยวะ หรือถ้าเราไม่สะดวกที่จะมานั่งจำเวลาทานขมิ้นชันแล้ว อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา แนะนำให้ทานขมิ้นชันทุกๆ 2 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ
ปรับใช้ได้กับยาชนิดอื่น
หลักการ คือ การทานยาให้ตรงกับเวลาที่อวัยวะนั้นมีลมปราณไหลผ่าน ดังนั้น การทานยาตามนาฬิกาชีวิตสามารถปรับใช้ได้กับการทานยาทุกประเภทครับ ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพรชนิดอื่น เช่น กระชายดำ ว่านชักมดลูก หรือยาแผนปัจจุบันก็ตาม เพราะนาฬิกาชีวิต คือ เวลาที่ลมปราณในแต่ละอวัยวะไหลเวียนครับ ไม่ว่าเราจะทานยาชนิดไหนเข้าไป ยังไงก็ได้ผลดี 40 เท่าเหมือนกัน