ขณะที่อีกมากมายเชื่อว่าเขาจะล้มเหลว
ท่ามกลางวงบอยแบนด์ที่ท่อนแรพภายในเพลงไม่ใช่อะไรที่เกลื่อนกลาดนักอย่างในตอนนี้
ท่อนแรพไม่ใช่อะไรที่สลักสำคัญ และศิลปินแรพดังๆส่วนใหญ่เริ่มหายไปจากวงการเพลงเกาหลี
การที่แรพเปอร์ภายในวงบอยแบนด์เด็กๆอยากออกมาทำ STUDIO ALBUM ของตัวเองนั้น
จึงสร้างเสียงฮือฮาได้มากพอควร
"จะไหวหรือ?"
ก่อนจะเดบิวต์ เขากับยองเบเพื่อนสนิท เคยบอกกับต้นสังกัดว่าไม่อยากเดบิวต์เป็นวงบอยแบนด์เพลงป๊อป
แต่เมื่อไม่มีทางเลือกมากนัก เขาจึงเดบิวต์ในวงบอยแบนด์ BIGBANG
โชคดีที่ BIGBANG ออกจะแตกต่างจากวงบอยแบนด์ที่ Debut ในยุคนั้นอยู่สักหน่อย
พวกเขามีการผสมผสานของเพลง Hiphop ,RnB และ POP อย่างลงตัว
ควอนจียงจึงได้มีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองถนัดอย่าง การแรพ อยู่บ้าง
และเพลงที่ทำให้ทั้งเอเชียได้รู้จัก BIGBANG คือ "LIES" เพลงที่แต่งโดย "ควอนจียง" หรือ "G-DRAGON"เด็กหนุ่มวัย 20 ปีในเวลานั้นนั่นเอง
จียงเคยบอกว่า เขาแต่ง LIES เพราะอยากเก็บเอาไว้ร้องเอง แต่ประธานยางกลับบอกว่ามันสมควรเป็นเพลงของ BIGBANG
แม้จียงจะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมนัก แต่ภายหลังเขาก็คิดว่าประธานยางทำถูกแล้ว
ความสามารถที่ปิดไม่มิดของ G-DRAGON ทำให้อัลบั้มต่อๆมาของ BIGBANG มีเพลงที่เขา "แต่งเอง" รวมอยู่ด้วยมากมายหลายเพลง
และส่วนใหญ่มันก็เป็นเพลงฮิตของ BIGBANG ทั้งสิ้น (LIES,HARU HARU, LAST FAREWELL)
และคุณอาจพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า G-DRAGON
เป็นผู้ชายที่อยู่ทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จของ BIGBANG ได้อย่างแท้จริง
90 % ของเพลงที่ BIGBANG ร้องถูกแต่งเนื้อร้องและทำนองโดยผู้ชายคนนี้ (ร่วมกับศิลปินเบื้องหลังและสมาชิกวงคนอื่นด้วย)
แต่นั่นคือ BIGBANG
มันจะต่างออกไปมากเมื่อเขาจะออกอัลบั้มภายในนามของ G-DRAGON
เขาเคยออก Digital Single อยู่ 4-5 เพลงซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเพลง Rap ที่ยังมีความเป็น POP อยู่ค่อนข้างมาก
และ G-DRAGON ก็เริ่มต้นไม่สวยนักตอนเปิดตัวด้วยเพลง HeartBreaker
ทั้งข่าวฉาว
เพลงก๊อป
เนื้อหาเพลงที่ล่อแหลม
ในมุมมองของแฟนคลับ G-DRAGON อาจพิสูจน์ว่าเขาสามารถทำได้ ถ้าอยากจะทำ และเขาคือที่ 1 เสมอ
(เนื้อเพลงของเขาก็มักบอกว่าอย่างนั้น)
แต่ในมุมมองของคนทั่วไป
G-DRAGON คือไอดอลก้าวร้าว ที่เป็นเหมือนจุดด่างของวงการเคป๊อป อันแสนสดใสในเวลานั้น
เขาหยาบคาย และ แปลกแยก
GD ถูกโจมตีในสื่อกระแสหลักถึงข่าวก๊อปเพลง และ เนื้อหาเพลงล่อแหลม รวมทั้ง MV ถูกแบน
LIVE CONCERT "SHINE A LIGHT" ของเขาสร้างเสียงฮือฮากระฉ่อนวงการอีกครั้ง
ด้วยจำนวนผู้ชมเต็มความจุ OLYMPICS STADIUM
ที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับ "ศิลปินเดี่ยว" ในเวลานั้น
แต่ที่ดูเหมือนจะร้อนแรงกว่าคือ PERFORM บนเวทีที่มีการจำลองฉาก MAKE OUT บนเตียงมาด้วย!
นี่คือคำตอบของ G-DRAGON ต่อเสียงวิพากย์วิจารณ์เพลงของเขา และตัวตนของเขา
G-DRAGON ยังคงซื่อสัตย์ในเพลงของตัวเอง เขาไม่ยอมถอยเลยสักก้าวเดียว..
G-DRAGON ไม่เคยออกมาเถียง หรือชี้แจงกรณีลอกเพลงของศิลปินต่างชาติ
ท่ามกลางข่าวลือทั้งหลาย การเงียบก็เหมือนกับการยอมรับ
และคำตอบของเขาคือ การปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญบนเวทีของ FLO-RIDA
ด้วยเพลงที่ทุกคนบอกว่าเขาลอกมานั่นแหละ!
ที่ต่อมาเพลง "HEARTBREAKER FEAT.FLO RIDA"
ก็ถูกบรรจุไว้ในอัลบั้ม SHINE A LIGHT CONCERT ALBUM ด้วย
แม้จะถูกแรงกดดันจากสังคม สำหรับการเป็น "ไอดอล" ที่ควรเป็นแบบอย่างแก่เยาวชน
SHINE A LIGHT อาจไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมทั่วไป
ด้วยเนื้อเพลงที่มีเนื้อหารุนแรง ไม่เหมาะสม และวิพากย์วิจารณ์สังคม
แต่ GD ก็ได้พิสูจน์ตัวเองกับแฟนๆและวงการเพลงเกาหลีเรียบร้อยแล้ว
เขา "ทำได้" จริงๆ
แม้จะไม่ได้จบด้วยกลีบกุหลาบและรอยจูบ
มันมีแต่น้ำตาและก้อนหิน
ไม่มี A BOY ..
ไม่มี "เด็กคนนั้น" อีกต่อไป
G-DRAGON ได้ SHINE A LIGHT อย่างแท้จริง
นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน
2012
ONE OF A KIND.
คือการตอกย้ำตัวตน
G-DRAGON มักนำหน้าคนอื่นอยู่หลายก้าวเสมอ
เพลงของเขาบอกไว้เช่นนั้น
"ผมแตกต่าง"
หากเมื่อ 4 ปีก่อน G-DRAGON ใช้คำว่า SHINE A LIGHT
สำหรับการก้าวออกมาเป็น G-DRAGON ที่แท้จริง
วันนี้
G-DRAGON
คนนี้
WILD & YOUNG
เขาทั้ง
เด็ก และ ดิบ
ONE OF A KIND
ผมแตกต่าง.