|
หนังสือ ดารา Starpics ปีที่ 17 ฉบับที่ 17 10 พ.ย. 2516 (S.P. 75)
ชีวิตในฮาวายและโฉมใหม่ของ THE IMPOSSIBLES สิ่งที่แต้มความคึกคักให้กับวงการ เพลงบ้านเรา ในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมาคือ การ กลับมาจากฮาวายของคณะดนตรียอดนิยม THE IMPOSSIBLES หลังจากทิ้งให้ประดาแฟนคิดถึงอยู่ เกือบปี พวกเขาก็หอบรูปโฉมและลีลาใหม่มาฝาก... บางคนชอบใจในขณะที่บางคนส่ายหน้าหนี The Impossibles อันประกอบด้วย เศรษฐา, ปราจีน, วินัย, สิทธิพร, พิชัย, อนุสรณ์ และยงยุทร ได้ตกลงทำสัญญาไปเล่นที่ฮาวายเป็น เวลา 1 ปี ชายหนุ่มทั้ง 8 (รวมทั้งผู้จัดการ) ได้รับ การต้อนรับและความอบอุ่นจากนักเรียนไทยที่นั่น (ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200 คน) เป็นอย่างดี และเพราะ หตุที่ไม่ได้สืบเสาะเกี่ยวกับรสนิยมของคนที่นั่น ระยะ 1 เดือนแรกที่เข้าไปเล่นประจำใน Hawaiian Hush ด้วยเพลงแบบ Bubblegum Music (ที่เราเคยได้ยินพวกเขาเล่นตอนอยู่เมือง ไทยนั่นแหละ) คลับจึงเงียบเหงาเหมือนป่าช้า หา คนไปเที่ยวแทบไม่ได้เลย พวกเขาหนักอกเหมือน แบกภูเขาไว้ทั้งลูก ทุกคนวุ่นวายใจแทบคลั่ง คิดว่า เดือนต่อไปคงอยู่ไม่ได้ ต้องเผ่นกลับเมืองไทยให้ ขายขี้หน้าประชาราษฏร์แน่ๆ แต่ก่อนม้วนเสื่อต้อง ลองสู้ดูสักครั้งก่อน พวกเขาจึงเริ่มถามไถ่จาก บรรดาแขกที่พลัดหลงเข้าไปเที่ยวบ้าง นักเรียน ไทยบ้าง รวมทั้งคนในวงการธุรกิจบันเทิง ซึ่งได้ ความว่าคนที่นั่นแทบจะเต้นรำกันเป็นกิจวัตร ประจำวัน เขาจึงไม่นิยม Bubblegum Music เพราะ ไม่ดุเดือด, ไม่หนักแน่น, เต้นรำไม่มันส์ ต้อง Jazz Rock จึงจะถึงใจ คณะ Chicago กำลังยิ่งใหญ่ ที่สุดสำหรับคนที่นั่น และที่ไล่หลังมาติดๆ คือ Tower Of Power นัยว่าจะแซงขึ้นหน้าในเร็ววันนี้ เสียด้วย เท่าที่ถามความรู้สึกหนุ่มไทยทั้ง 8 ของเรา เห็นว่า Tower Of Power เหนือกว่า Chicago จึงไม่ ต้องสงสัยพวกเขาเปลี่ยนทิศทางดนตรีเสียใหม่ ระดมต่อเพลงของทั้งสองคณะนี้พัลวันไม่ใช่ง่ายๆ เลย สำหรับการเริ่มต้นใหม่ พวกเขาต้องทำงาน หนักมาก ซ้อมเพลงวันละหลาย ช.ม. ในตอนกลาง วัน จนแทบไม่มีเวลาไปไหน กลางคืนต้องเริ่ม แสดงตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตี 3.45 จึงได้กลับไปนอนใน อพาร์ตเมนท์ ที่เช่าไว้ 4 ห้อง แบ่งกันอยู่ห้องละ 2 คน ค่าเช่าเดือนละ 650 เหรียญ ก็ตกประมาณ 13,000 บาท สำหรับอาหารการกินพักแรกๆ ลำบากเหมือนกัน อาหารฝรั่งไม่ค่อยถูกปากเท่า ไหร่ ดีที่ยังมีนักเรียนไทยเอื้อเฟื้ออาหารไทยให้ บ้างในบางครั้ง อยู่นานเข้ารู้จักตลาดสด รู้ที่ๆจะซื้อ ของที่ต้องการได้ จึงลงมือทำอาหารกันเอง โดยผลัด เปลี่ยนกันสำแดงฝีมือ ปรากฏว่าถูกปากกว่าและ ประหยัดค่าอาหารไว้มากทีเดียว ในวันหยุดพวกเขามักไปพักผ่อน ตามสวนสาธารณะ หรือเที่ยวตามสถานที่ที่ไม่ไกลนัก อยู่ที่นั่นคิดถึงบ้านเหมือนกัน บางทีรู้สึกเหงา แต่มีอิสระดี คนที่นั่นไม่มีใครสนใจใคร ทุกคนมี สิทธิเสรีภาพที่จะทำอะไรได้เต็มที่ ถามวินัย ว่า สนุกไหม, ที่นั่น ? เขายิ้มกว้างแล้วพูดเสียง กลั้วหัวเราะ โอ้ยมันส์ ครบเครื่องเลยครับ ก็ไม่ เข้าใจเหมือนกันว่า ครบเครื่องนี่มันเป็นยังไง พวกเราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มาก มาย จากการดูและพบปะสังสรรค์กับนักดนตรีดังๆ Frank Zappa ยอดนักดนตรีคนหนึ่งเคยมาคลุกคลี อยู่ด้วยถึง 3 วันเพราะความถูกคอ Frank ได้เชิญ พวกเขาไปเที่ยวที่บ้านด้วย และถามถึงอังกะลุงที่ เขาคิดจะนำไปประดิษฐ์ใหม่ ให้คนเดียวเล่นได้ทั้ง วง โดยเปลี่ยนรูปให้คล้ายออร์แกน สิ่งที่ทำให้ Frank ดีใจที่สุด คือ แผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ที่พวกเขามอบให้ ส่วนนิโกรแก่ๆ ที่อ้างว่าเป็น Chuck Berry แล้วเข้ามาร่วมเล่นดนตรีด้วยนั้น เศรษฐาว่าไม่รู้จะเป็นตัวปลอมหรือเปล่า เพราะเขา ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว จึงจำหน้าตาจริงๆ ของ Chuck ไม่ได้ หลังจากกัดฟันอยู่ด้วยกันได้ 3 เดือน พิชัย ทองเนียม ก็ขอลาออกจากคณะด้วยเหตุผลส่วนตัว และบินเดี่ยวกลับบ้าน ทางคณะจึง จดหมายมาเรียก เรวัต พุทธินันทน์ ไปเล่นเบส แทน ระหว่างนั้น เศรษาฐา โดดมาจับเบสและร้องนำไปก่อน เรวัต ไปถึงใช้เวลาปรับตัวหนึ่งสัปดาห์ ก็สามารถขึ้นไป เล่นเบส, ออร์แกน และร้องนำสลับกับเศรษฐาได้ ฐานะของพวกเราเริ่มดีขึ้น เมื่อการเล่นเข้าที่ดี แล้ว สามารถเรียกคนเข้าคลับจนแน่นตึงทุกคืน Hawaiian Hush แทบแตก เพราะนักเที่ยวทั้งหลาย ต่างแห่กันมาที่นี่ แน่นอน ส่วนแบ่งรายได้ของพวก เขาจะต้องดีขึ้นด้วย แต่มีอะไรบางอย่างผิดปกติที่ พวกเขาสังเกตเห็น จึงมีการเจรจากันกับผู้ว่าจ้าง ปรากฏว่าตกลงกันไม่ได้ พวกเขาจึงขอเลิกสัญญา ก่อจะครบกำหนด (ขณะนั้นอยู่ได้ 11 เดือนกว่า แล้ว) ตัดสินใจกลับบ้าน ประดาแฟนๆ ในบ้านเราที่ตั้งหน้า ตั้งตาคอยอยู่ ออกจะตื่นเต้นมาก เมื่อพวกเขาออก แสดงทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก หลังจากกลับมา ถึง อยากดูว่า พวกเขาจะมีอะไรใหม่ๆมาฝากบ้าง อย่างที่ เห็นกันแล้ว Jazz Rock ผสม Soul คือรูปแบบใหม่ ของ The Impossibles ในวันต่อมา มีเสียงโจมตีกันใหญ่ว่า The Impossibles แต่งตัวรุงรังเหมือนไอ้บ้า บ้างก็ ว่าเป็นวัวลืมตีนไปอยู่เมืองฝรั่งเพียงไม่กี่เดือน ทำ เป็นพูดภาษาไทยไม่ชัด พวกเขาก็ไม่ได้ตอบโต้ กล้ำ กลืนความขมขื่นเข้าไปเก็บไว้ในหัวใจ เมื่อถูก ถาม เศรษฐาชี้แจงว่าเรื่องที่ว่าแต่งตัวรุงรังนั้น พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคืนนั้น (ที่ ออกโทรทัศน์) ทุกคนแต่งชุดราตรีทักสิโด้ ผมที่ยาม ประ บ่าก็ให้ช่างทำผมรวบไว้ข้างหลัง จนมองไม่เห็นเขา ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขารุงรังที่ตรงไหน ส่วนเรื่อง พูดไทยไม่ชัด ไม่ใช่เรื่องแกล้งคืนนั้นผู้จัดการของ วง จรัล ปันท์สุนานันท์ มีโอกาสพูดเพียงคนเดียว เขาเป็นคนภาคใต้และเป็นคนจีน พูดภาษาไทยไม่ ค่อยชัดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาพูดไม่ ชัดเมื่อกลับจากเมืองฝรั่ง ด้านดนตรีนั้น พวกเขาเชื่อว่าได้ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นไม่ใช่เลวลงอย่างที่ใครบาง คนว่า และไม่เชื่อว่าคนไทยจะฟังไม่รู้เรื่องหรือหู ไม่ถึง คนที่เขาชอบมีมากมาย พวกเขามีเจตนาโดย สุจริตที่จะช่วยยกระดับดนตรีในบ้านเราให้สูงขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักดนตรีรุ่นหลัง ที่จะทำ ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และเพื่อให้ดนตรีสมบูรณ์ยิ่งขึ้น พวกเขาตัดสินใจเพิ่ม (สมชาย กฏษณะเศรณี) มือ เบสชั้นเยี่ยมคนหนึ่งของเมืองไทยเข้ามาเสริม กำลัง...ไม่มากเลย 8 คน สำหรับดนตรี แจ๊ส ร็อค ฝรั่งมือแน่ๆเขายังเล่นกันตั้ง 11 คน
ขณะนี้ The Impossibles ยังไม่ได้เล่นประจำที่ไหน แต่ก็มีงานจรมากจนล้นมือทีเดียว(ส่วนมากเดิน ทางไปเล่นต่างจังหวัด) และคิดว่าในปลายปีนี้คงจะ เข้าเล่นประจำที่ไหนสักแห่ง สำหรับงานด้านแผ่นเสียง พวกเขา วางแผนจะลงทุนอัดแผ่นเสียงเองสักชุดหนึ่ง คาด ว่าจะออกจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ เพลงส่วน ใหญ่ประพันธ์โดย สุรพล โทณวนิก และจะมีเพลง เก่าๆ สมัยคุณปู่ที่นำมาเรียบเรียงเสียงประสาน ใหม่สัก 2-3 เพลง ท่านที่เป็นแฟนโปรดอดใจรอสัก นิด แล้วจะได้พบกับมิติใหม่ที่หนักแน่นกว่าเดิม ของพวกเขาอย่างแน่นนอน เพื่อให้คุณได้รู้จักกับสมาชิก The Impossibles ดีพอสมควรทุกคน จะเขียนถึงประวัติ ย่อๆของสมาชิกที่เป็นพลังใหม่ของวงนี้ ส่วนคนเก่า ต้อย, แตง ฯลฯ...อย่าเอาเลย คุณรู้เสียจนแทบจะรู้ ว่าพวกเขามีไฝมีปานที่ไหนแล้ว จึงไม่มีอะไรจะ บอกอีก
ยงยุทธ มีแสง ชื่อเล่น เล็ก เกิด เมื่อ 10 มกราคม 2488 เรียนจบชั้น ม.6 จาก ร.ร. อยุธยาอนุสรณ์มูลนิธิ เล่นทรัมเป็ตมาตั้งแต่ยัง เรียนหนังสือ จบแล้วก็ยึดอาชีพนี้เรื่อยมา เคยเล่น ร่วมกับวงของ นริศ ทรัพย์ประภา ที่ ดาราคลับ และวง เมธารัตน์ ของ วัชัย เอื้อมพร ที่ สตา ร์คลับ ถึง 6 ปี แล้วมาเล่นอยู่วง ม.ส. 2 ปี ก่อนมา ร่วมกับ The Impossibles โดยการชักชวนของ เพื่อนเก่า ปราจีณ และเศรษฐา ซึ่งเป็นชาวอยุธยา ด้วยกัน เมื่อตอนประกวดสตริงคอมโบ้ครั้งที่ 3 (ก่อนไปฮาวาย) นักดนตรี เขาชอบ Mike David, Frank Zappa, คณะ Tower Of Power และ Chase แผนการอนาคต ยังไม่คิดอะไร อยู่ ยังงี้สบายดีแล้ว
เรวัต พุทธินันทน์ ชื่อเล่น เต๋อ เกิดเมื่อ 5 กันยายน 2491 เคยเล่นมากับวง Mosrite ตั้งแต่เรียนอยู่เซ็นต์คาเบรียล เมื่อเข้า เรียนธรรมศาสตร์ก็เล่นกับ Dynamics จนได้ ปริญญาเศรษฐศาสตร์ แล้วคิดจะเลิกเล่น ไปสมัคร เป็นสจ๊วต เพื่อนๆ จากวง Thanks ชวนไปร่วมวง แรกๆเขาปฏิเสธ บังเอิญสอบสจ๊วตไม่ได้จึง โอ.เค. ยอมเป็นหัวหน้าวงให้คณะ Thanks โดยดี จนต้อง ล้มวงเพราะหลายคนในคณะติดเรียน เขาไปสมัคร ทำงานธนาคารแต่ ดวงผมมันจะเป็นนักดนตรี ขณะที่กำลังรองานอยู่ เศรษฐาก็ร่อนสาส์นมาให้ไป แทนพิชัย เขานอนคิดอยู่หลายวัน แต่เห็นเป็น โอกาสที่จะสร้างตัวได้ จึงแพ้คกระเป๋าบินไปฮาวาย เขาชอบดนตรีคณะ Tower Of Power อนาคต อยากมีธุรกกิจของตนเอง จะ เป็นอะไรก็ได้
สมชาย กฤษณะเศรณี ชื่อเล่น ปี๊ด เกิดเมื่อ 25 มกราคม 2494 เขาร่วมหัวจมหางมา กับ Dynamics จนต้องยุบคณะเพราะทุกคนต้อง เรียนหนังสือ ขณะนี้เขาก็ยังเรียนอยู่ปีสุดท้ายของ คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เขารักดนตรีมาก แม้ยังไม่เข้าร่วมวงกับใครก็หมั่นฝึกซ้อม แกะ เพลงที่บ้านทุกวันเป็นประจำ เต๋อ ชวนเขาเข้าวง The Impossibles ตั้งแต่ก่อนกลับจากฮาวาย 1 เดือน ทั้งที่มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ ขนาดเล่น เบสในสไตล์ของ Lee Dorman แห่ง Iron Butterfly ได้สบาย เขายังว่าเล่นกับ The Impossibles หนัก ใจเหมือนกัน เพราะ คุณปราจีณเก่งมาก มั่วไปได้ เลย แกรู้ เขาชอบวิธีการเล่นเบส ของ Chris แห่ง Yes และ Peter แห่ง Chicago แผนการอนาคต ยังไม่รู้จะทำอะไรดี แต่คงไม่ใช่เล่นดนตรีตลอดชีวิตแน่ๆ
จากคุณ |
:
แอร์ฟอร์ซ
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ย. 55 15:41:12
|
|
|
|
|