Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มิสไซ่ง่อน ไม่ดูไม่ได้ (รอบกาล่า 26 กันยายน 2555 19.30 โดย อรรถ บุนนาค) ติดต่อทีมงาน

มิสไซง่อน ไม่ดูไม่ได้

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ากะไปดูแบบสบาย ๆ ไม่คิดจะเขียนวิจารณ์ แต่ผู้คนที่พบเจอที่โรงละครต่างบังคับขู่เข็ญให้เขียน บางคนโหดร้ายถึงขั้นบอกให้เขียนวิจารณ์องก์1 ตอนพักครึ่งการแสดงเลย

และต้องบอกไว้ก่อนว่าข้าพเจ้ามีอคติและสุคติกับเรื่องนี้เป็นพื้นเดิมก่อนดังนี้
-ไม่ชอบเนื้อเรื่องที่มีโครงเรื่องจาก นวนิยายมาดามคริสเซนติมัม ที่กลายเป็นมาดามบัตเตอร์ฟลายด์ เป็นสาวเครือฟ้า และกลายมาเป็นมิสไซง่อน คือจะกดขี่ผู้หญิงเอเชียและสร้างภาพจำเชย ๆ แบบนี้กันไปถึงไหน
-แต่ที่ดูเรื่องนี้มาหลายเวอร์ชันเพราะชอบเพลงจากเรื่องนี้และชื่นชอบ Lea Salonga ผู้ที่เล่นเป็น คิม คนแรกอย่างมากกกกก
-ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบ กัน เดอะสตาร์ เป็นอย่างยิ่งงงงง
-ข้าพเจ้ารู้จักกับทีมงานเป็นการส่วนตัวอยู่หลายคน รวมถึงเคยทำงานเป็นเบื้องหลังให้กับละครคณะนี้อยู่ด้วย

ทีนี้เรามาดูอคติของการรับรู้ของคนทั่วไปด้วยว่า งานของรัชดาลัยมักจะถูกตัดสินไว้ก่อนแล้วว่าเป็นงานตลาด ซึ่งก็ถูกต้อง เพราะมิวสิคัลเองก็ถือว่าเป็นละครตลาด เป็นวัฒนธรรมมวลชน แต่เมื่อมาแปลงผ่านคุณค่าในเมืองไทยแล้วเหตุไฉนถึงจึงดูเป็นไฮโซได้ก็ไม่เข้าใจ งานของรัชดาลัยมักจะถูกมองว่าขาดความเป็นศิลปะไปเยอะเน้นขายดาราและความฮือฮา คณะละครนี้จะเป็นคณะละครอ้วน เป็นทุนนิยม และเมื่อแปะป้ายว่าทุนนิยมลงไปในสังคมไทยแล้วจะกลายเป็นตัวร้าย ทุนนิยมสามานย์ ต้องตั้งคำถามด้วยว่าทำไมในสังคมไทยจึงเป็นเช่นนั้น

มาเข้าในเรื่องละครมิสไซง่อน อันดับแรกต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าเมื่อเป็นละครของคณะละครทุนนิยมอย่างที่บอกกัน ความวางใจจุดหนึ่งจะบังเกิดขึ้นคือ เราไปดูละครมืออาชีพ ส่วนที่เหลือภายในจะดีจะเลวอย่างไรขึ้นอยู่กับการตีความ รสนิยม ทัศนคติ ความรู้พื้นฐาน อคติและสุคติต่างๆนานา แต่ก็อุ่นใจได้ว่าได้ดูละครที่ได้มาตรฐาน ไม่ป๋องแป๋งเป็นละครโรงเรียน ดูไปก็ลุ้นไปว่า ฉากจะล้มไหม นักแสดงจะหลุดไหม ฯลฯ แน่นอนว่ามิสไซง่อนเป็นละครมืออาชีพ อย่างน้อยที่สุดจ่ายเงินไปดูแล้วก็ถือว่าถึงจุดคุ้มทุน

ความวิเศษสุดยอดของเรื่องนี้ในเวอร์ชันภาษาไทยคือ เบน ชลาทิศ ผู้ที่รับบทเอนจิเนียร์ ถ้าจะให้พูดจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ตัวเอกของเรื่องคือ เอนจิเนียร์ นางเอกคือ คิม พระเอกคือ คริส จะมีการชิงบัลลังก์เชือดเฉือนระหว่างเอนจิเนียร์กับคิมอีกทีนั้นขึ้นอยู่กับความเก๋า ของแคสต์แต่ละคน แต่ขอบอกว่าเบน ชลาทิศ นั้นเป็นดาราละครมิวสิคัลที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับคุณภาพของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้องหรือการแสดงก็ตาม อยากให้เขายึดอาชีพนี้ควบคู่ไป โดยอย่าไปรับเล่นละครทีวีหลังข่าวเลยนะ จ๋าของร้อง เดี๋ยวจ๋าจะบอกสาเหตุให้อีกทีว่าทำไมไม่ควรไปรับเล่นละครทีวีหลังข่าว การแสดงของเบน นั้นถือได้ว่ากู้ชื่อเบน หลังจากเบนไปเล่นคลิป เสียใจแต่ไม่แคร์ ของ หวาย แล้วทำสู้ออริจินัลซึ่งเป็นเพียงเด็กมัธยมมือสมัครเล่นไม่ได้ เรื่องเสียงร้องนั้นไม่ต้องบอกก็รู้อยู่ เรื่องการแสดงมิวสิคัลก็ได้รับการรับรองจากการเล่น สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว แต่ในเรื่องนี้ที่ได้เห็นความสามารถอันโดดเด่นของเบนอีกอย่างคือ การสร้างสมดุลบนเวที น้ำหนักการแสดงของเบน ไม่รู้ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ แต่ทุกฉากที่เบนออกมีความสมดุลในเรื่องการแสดงกับนักแสดงอื่น ทำให้ภาพรวมในฉากไม่โดดออกมาไม่รู้สึกว่ามากหรือน้อยจนเกินไป การใช้บุคลิกลักษณะเฉพาะตนสร้างตัวละครที่ตัวเองเล่นให้เกิดประโยชน์ ความสาวของเบนใช้ประกอบร่างกับตัวละครอย่างเอนจิเนียร์ได้น่าชม เป็นเอนจิเนียร์ที่ไม่หลุดจากคาร์แรกเตอร์เดิมตามบทละครและเพิ่มเสน่ห์ความน่าหยิกจนทำใจให้เกลียดเอนจิเนียร์ไม่ลง การควบคุมความสาวของเบนนี้อยากให้นักแสดงหมู่มวลชาย...หรือเปล่า? ทั้งหลายเอาเป็นแบบอย่าง เพราะการแสดงละครเรื่องท่ีมีฉากหลังเป็นเรื่องสงครามทั้งหลายในเมืองไทย เราจะเห็นกองพันทหารหญิงวิ่งกันเกรียวกราว และไม่สามารถมีเอฟเฟกต์ระเบิดหรือเสียงนิงได้ เพราะเกรงว่าเหล่าทหารหญิงเหล่านั้นจะกรีดร้องออกมาด้วยอารามตกใจ เช่นเดียวกันในเรื่องนี้ ความขึงขังของทหารไม่ว่าจะฝ่ายอเมริกันหรือเวียดนามน้อย แต่กลับไปดีในฉากบาร์อโกโก้ทั้งหลาย ที่นักท่องราตรีชายเต้นได้สะเด่ายิ่งกว่าเหล่าสาวอโกโก้ที่โหนเสาอยู่ และช่วยให้ฉากมั่วกามในบาร์ดูไม่ลามก ซึ่งน่าจะดีสำหรับสังคมไทยที่มีศีลธรรมระดับกระแดะอยู่ ที่จะไปดูได้อย่างสบายใจ เพราะรู้ว่าที่อุ้มแตงเล่นกันอยู่นั้นต่างเป็นเพื่อนสาวแลกกิ๊บติดผมกันอยู่หลังเวที ถ้าจะแอ๊บให้ได้มากกว่านี้ ฉากสงครามทั้งหลายจะมีน้ำหนักมากขึ้น

สำหรับบท คิม รอบที่ไปดูนั้น เป็นรอบที่ เน็ต-กานดา วิทยานุภาพยืนยง แสดง โดยทางกายภาพแล้วนั้นคิดว่า แก้ม - กุลกรณ์พัชร์ โพธิทองนาค ดูเหมาะเจาะกับบทนี้มากกว่าในเรื่องรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ. ที่ว่าเหมาะเจาะนั้น เหมาะในแง่เป็น คิม ในภาพที่มองผ่านแว่นตาของชาวตะวันตก ที่ต้องการภาพหญิงเอเชียในแบบฉบับลักษณะนี้ และเชื่อว่าด้วยรูปลักษณ์ของแก้ม - กุลกรณ์พัชร์ นั้นเหมาะที่จะเป็นคิมในโปรดักชันของตะวันตก เพราะน่าจะเรียกคนดูฝรั่งมาได้มากมาย แต่การตีความในการแสดงเป็น คิม ของเน็ต - กานดานั้นน่าสนใจทีเดียว แม้ในสกูปของหนังสือแจกจะเขียนบอกว่า คิมที่เธอเล่นเป็น คิม ผู้เข้มแข็ง แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว เธอช่างเป็นคิมที่แสนแบบบาง หมดหนทาง แล้วปล่อยตัวให้ลอยไปกับชะตาชีวิต มากกว่าจะลุกขึ้นมายืนหยัดทำอะไร ต่างจากคิมเวอร์ชันอื่น ๆ ที่ได้ดู ถ้าเธอสามารถพัฒนาความอ่อนแอและน่าสงสารในระหว่างที่เธอแสดงเก็บรอบไปนั้น เชื่อว่าน่าจะเรียกน้ำตาคนดูได้อย่างท่วมท้นในตอนจบ ความสมจริงของ คิม เวอร์ชันนี้ก็คือ เป็นตัวแทนของภาพผู้หญิงไทยที่เป็นเมียทหารจีไอในช่วงสงครามเวียดนามได้ดีและต้องจริตรสนิยมผู้ชมคนไทย ที่ใช้ว่าผู้หญิงไทยนั้น เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงเวียดนามคิดอย่างไรในบริบทประวัติศาสตร์ของเขา และการที่กานดาเลือกใช้ภาพผู้หญิงไทยในการเข้ามาตีความนั้น เป็นการเลือกที่ชาญฉลาด. ไม่ว่าในแง่ความเข้าถึงในตัวละครหรือในแง่การตลาดที่จะเอาใจคนดูชาวไทย และไม่เสียความเป็นมิสไซง่อน เพราะอย่าลืมว่าเรื่องนี้เขียนจากสายตาชาวตะวันตก ความเป็นเจ้าอาณานิคมที่สร้างภาพเหมือนและเหมารวมให้กับคนเอเชียในแบบเดียวกัน การที่กานดาเลือกใช้ภาพผู้หญิงไทยเป็นภาพแทนก็ไม่ได้ทำให้ฝรั่งเจ้าอาณานิคมละครนี้จับได้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงเวียดนาม แถมยังต้องจริตคนดูชาวไทยกับเรื่องราวผู้หญิงกำพร้าตัวเล็ก ๆ ต้องไปขายตัวอย่างไม่เต็มใจและพบรักทันทีในวันแรกที่ไปขายตัวกับทหารหนุ่มหล่อผู้ที่จะเป็นอนาคตของเธอแล้วตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว...ขอบอกว่าเร็วมากกกกกกก แล้วต้องพลัดพรากจากลา พระเอกไปแต่งานใหม่โดยไม่รู้ว่านางเอกมีลูก บลาบลาบลา เฮ้ย...พล็อตนิยายไทยโคตรๆ พูดแบบฟันธงเข้าใจง่ายๆเลยว่า เธอเลือกเอาภาพดาวพระศุกร์มาใช้ในคิม และมันก็เวิร์คสำหรับคนดูคนไทย ดังนั้นคิมเรื่องนี้จะไม่ก้าวร้าว ยอมสงบนิ่ง ถ้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามขึ้นมาก็จะอยู่ในชุดของเหตุผลที่ผู้ชมชาวไทยเข้าใจได้ เป็นเมียที่ซื่อสัตย์และแม่ที่ดี แถมยังเป็นสาวที่มีกลิ่นอายความเป็นกระฎุมพีอยู่ จนอดคิดไม่ได้ว่ากำพืดของเธอต้องเป็นลูกสาวขุนน้ำขุนนางบ้านผู้ดีมีสกุลแต่มาสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะสงคราม ถ้าเธอเก็บล็อกเก็ตเอาไว้บางทีเธออาจจะไม่ต้องวิ่งไปขอวีซาหน้าสถานฑูตอเมริกา เพราะญาติผู้ใหญ่ที่ไปตั้งรกรากที่ฝรั่งเศสกำลังหาทายาทมาสืบทอดกิจการไร่องุ่นในชาโตที่บอร์โดว์ การใช้ชุดภาพจำที่ผลิตซ้ำบ่อยในสังคมก็เป็นการช่วยให้คนดูซาบซึ้งและอินกับละครที่ไม่ใช่จริตดั้งเดิมของตนได้ง่ายขึ้น พัฒนาการการแสดงของกานดาถือว่าก้าวข้ามกระโดดไปมาก จากเรื่องที่แล้วที่เธอรับบทเป็นประไพในสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล เธอยังเล่นเป็นประไพสาวไฮโซเดินห้างพารากอนอยู่เลย ไม่ใช่สาวยุค2475 ในเรื่องนี้สามารถทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอเป็นสาวในยุคสงครามเวียดนามจริงๆ แม้ว่าการจัดระเบียบและวางแผนการแสดงของเธอยังมีข้อบกพร่องอยู่ เธอยังไม่รู้ว่าควรจะออมเสียงไว้ในตอนไหน ปล่อยในตอนไหนเต็มที่ และเมื่อเป็นตัวดำเนินเรื่องออกมาแทบทุกฉากรากเลือดทีเดียวนั้น ทำให้เพลงเดือนกับตะวัน(reprise)ในองก์2นั้นเสียงเธอหายและหมดแรง ทั้งที่เธอควรออมเสียงกับเพลงไดอาล็อกก่อนหน้านั้นเพื่อจะมาเสริมความไพเราะในเพลงนี้ซึ่งถือว่าเป็นเพลงจำของเรื่่อง สำหรับเธอเหลืออยู่ที่การเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อความเชี่ยวของเวที และทำอย่างไรก็ได้ในการหาคาริสมามาประดับตน อนาคตเธอน่าจับตามองทีเดียว

เอาล่ะมาถึง กัน-นภัทร แล้วกรี๊ดดดดดด กรี๊ดดดดดด ขอกรี๊ดหน่อยเหอะ ช้อบชอบบ เอาล่ะกรี๊ดแล้วเป็นยันตร์กันผีเผื่อบทสิจารณ์นี้หลุดไปในพันทิพอีกจะได้ไม่โดนแฟนคลับกันถล่มยับเยิน ในชีวิตข้าพเจ้าเสียสตางค์โหวตให้รายการเรียลลิตี้ทั้งหลายอยู่แค่2คน ได้แก่ แก้มเดอะสตาร์ และกันเดอะสตาร์ เท่านั้น จริงๆ ดังนั้นบทวิจารณ์นี้อาจจะลำเอียง ขอบอกไว้ก่อนเลย ก่อนอื่นต้องบอกไว้ว่าบทคริสนั้นเป็นเพียงไม่ประดับตั้งแต่ออริจินัล เพียงแต่เป็นตัวละครสำคัญในการก่อให้เกิดความขัดแย้งในโครงเรื่อง พูดกันง่ายๆก็คือต้นเหตุการก่อเรื่องขึ้น และแสนจะเป็นอาณานิค้มมมมนิคมมม ที่ก่อเรื่องไว้แล้วก็สะบัดตูดทิ้งให้พวกใต้อาณานิคมบ้าบอคอแตกกันต่อไป เป็นการสะท้อนภาพสงครามเวียดนามไว้ด้วยเช่นกัน และตอนจบก็มาปาดหน้าเค้กส่วนสวยๆไปดูดีแสนดีกันไป เมื่อดูเรื่องนี้แล้วต้องบอกว่า กันไม่เหมาะเล่นมิวสิคัลต่างประเทศ หมายถึงมิวสิคัลที่เอาโปรดักชันต่างประเทศมาทำเป็นไทย กันเหมาะที่จะเล่นมิวสิคัลที่เป็นออริจินัลไทยมากกว่า เชื่อว่าถ้ากันเล่นสาวเครือฟ้า เดอะมิวสิคัล เป็นร้อยตรีพร้อม จะเจิดจรัสมากว่านี้หลายสิบเท่า อาจจะเป็นด้วยบุคลิก นำ้เสียง และประกายดาราบางอย่างที่เหมาะเจาะลงตัวกับมิวสิคัลแบบไทยมากกว่า ดังนั้นเราจึงไม่เห็นกันเจิดจรัสเท่ากับตอนที่เล่นเป็นคุณเปรม ในสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล และอีกอย่างหนึ่งที่จ๋าขอร้องไว้ตอนแรกที่วิจารณ์เบน กันติดวิธีการเล่นละครโทรทัศน์มาแล้วหลังจากตอนเล่นสี่แผ่นดินนั้นถือว่าเป็นมือใหม่ในการแสดงแล้วมาเล่นละครเวทีจึงได้ซึมซับความเป็นละครเวทีได้อย่างรวดเร็วและเจิดจ้าบนเวที การแสดงในแบบละครโทรทัศน์บางอย่างได้ทำลายเสน่ห์ของกันในการแสดงละครเวทีหนนี้ไปมาก รวมถึงการร้องแบบนเวทีคอนเสิร์ตในหลายตอน และใช้ระยะเวลาไปหลายฉากในการวอร์มเครื่องให้ร้อนก่อนจะส่งพลังจริงออกมา แม้บทเพลงในส่วนที่เป็นไดอาล็อกกันจะทำได้ไม่ดีในแง่ส่งอารมณ์เพราะร้องเป็นคอนเสิร์ตมากกว่ามิวสิคัล แต่เพลงคู่ซึ่งเป็นเพลงจำของเรื่องเลยได้แก่ เดือนกับตะวัน กับ คืนสุดท้ายของโลกใบนี้ กันทำเคมีบางอย่างได้น่าฟังและถือเป็นออริจินัลของเขาที่ทำขึ้นมาสำหรับ มิสไซง่อนฉบับภาษาไทย คือหางเสียงในการเอื้อนอ้อยแบบเพลงลูกกรุงหรือเพลงไทยเดิมในแนวถนัดของเขา กลายเป็นเพลงจำที่ฟังไพเราะในแบบใหม่ขึ้นมา จนอยากจะฟังร้องในเวอร์ชันภาษาอังกฤษกับนักร้องเสียงใสๆเอื้อนสวยๆของไทยอย่างใครซึ่งนึกไม่อกในตอนนี้ น่าจะได้ซาวนด์ใหม่เกิดขึ้น อาจจะตัดขายไปทั่วโลกได้ เมื่อดูและประจักษ์ว่ากันเหมาะกับมิวสิคัลแบบไทย ทำให้อยากดูกันในแบบมิวสิคัลไทยอีก อาทิเช่น มนต์รักลูกทุ่ง เดอะมิวสิคัล,จุฬาตรีคูณ เดอะมิวสิคัล,ในฝัน เดอะมิวสิคัล,แต่ปางก่อน เดอะมิวสิคัล เสนอไว้เลย อ้อไปดูรอบการ์ลาเจอกฤษณา อโศกสิน กับ ว.วินิจฉัยกุลด้วยล่ะ แต่ปางก่อน เดอะมิวสิคัล ก็ไม่น่าจะเป็นความฝันที่ไกลเกินไปใช่ไหมครับ คุณพี่...

สำหรับบทเอลเลน ของ นิว-นภัสสร ขอข้ามไปได้ไหม ขอรอไดูอีกรอบตอนที่เป็นแคสต์ แก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เพราะไม่อยากเชื่อว่าระดับตัวแม่อย่างนิว นั้นทำได้แค่นี้ เข้าใจว่าน่าจะป่วยในรอบที่แสดง อ้อขอติสำหรับเสื้อผ้าหน้าผมของนิวในเรื่องด้วยว่ามันก็สวยดีแต่ทำให้นิวดูแก่มากกกก เหมือนเมียแกได้ผัวเด็กแล้วอิจริษแฟนเก่าที่เด็กกว่าเอ๊าะกว่าเลยเกรี้ยวกราดเป็นหมาหวงก้าง เหตุผลในการเห็นใจเอลเลนในฐานะผู้หญิงอีกคนที่ต้องเจ็บปวดเลยอ่อนลง น่าจะเป็นเสื้อผ้าในแนวเชยๆของปลายทศวรรษที่70ต้นทศวรรษที่80 สไตล์ครูสอนวิชาจริยธรรมยุคนั้นใส่ หรือชุดแบบนางเอกกินน้ำส้มในหนังไทยยุคนั้นใส่น่าจะช่วยเสริมให้นิวดูเด็กลงและน่าเห็นใจกว่านี้

บทจอห์น สำหรับคิวนั้นถือว่าสอบผ่านกับการเล่นมิวสิคัลเรื่องแรก แต่ก็อีกเช่นกันว่าไม่ได้มีอะไรโดดเด่นถึงขั้นประทับใจเป็นพิเศษ แม้กระทั่งในเพลงบุยดอย ในการเปิดองก์2 ซึ่งถือว่าเป็นเพลงแจ้งเกิดสำหรับคนที่เล่นเป็นจอห์น และเป็นเพลงที่น่าจะยากที่สุดในเรื่อง เพราะเป็นเพลงที่มีเนื้อหาหนักและทำให้เรื่องมิสไซง่อนเป็นมิวสิคัลที่มี"อะไร"มากกว่าเรื่องโศกนาฏกรรมแบบบูรพาคตินิยม อุปสรรคของการตีบทในเพลงนี่สำหรับคิวคือวัยและสัญชาติ วัยที่ไม่ทันเหตุการณ์สงครามเวียดนามหรือวัยที่ยังทันเห็นผลพวงของสงครามเวียดนามที่ยังทิ้งไว้ในภูมิภาคนี้ สัญชาติที่ไม่ใช่อเมริกันที่จะทำให้รู้สึกผิดจากการเป็นผู้ก่อเหตุการณ์นี้และเกิดผลพวงที่ไม่คาดคิดและประเมินเอาไว้อีกมากมาย เป็นการบ้านของคิวที่จะไปขบคิดว่าจะทำอย่างไรในการจะเปิดตาที่สามขึ้นมาเพราะวิธีการแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน และน่าจะทันที่ทำให้ละครมิสไซง่อนภาคภาษาไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น

จีจี้ที่แสดงโดยพริมาภา กรโรจนชวิน เป็นอีกคนที่น่าสนใจ คงต้องยอมรับว่าข้าพเจ้าเป็นคนชอบเชียร์มวยรอง จะเชียร์จะลุ้นนักแสดงโนเนมที่ไต่เต้าขึ้นมา จึงทำให้จับตามองเธอเป็นพิเศษก็ว่าได้ เธอแสดงเป็นจีจี้ที่มีความเซ็กซี่และหยาบโลนได้ดี คงจะต้องบอกว่าสำหรับมิสไซง่อนฉบับภาษาไทยนั้นเป็นมิสไซง่อนที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์มาเรียบร้อยแล้ว มันจึงขาดความดิบ ความหยาบ ของเซ็กซ์และสงครามไป มีเพียงพริมาภาเท่านั้นในเรื่องที่ยังคงตรงนั้นไว้ได้ การบ้านของเธอก็เช่นเดียวกับกานดาคือการสั่งสมสร้างรัศมีของดาราซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในวงการบันเทิง มิเช่นนั้นต่อให้คุณมากความสามารถอย่างไรคุณก็จะถูกกลืนหายและลืมเลือนไปนี่คือความจริงของวงการนี้ ซึ่งไม่ได้โหดร้ายหรอกนะมันเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ

มาต่อกันที่บท ถวี ตาไม่ฝาดเขาเขียนในสูจิบัตรว่าอย่างนี้ คงถอดเสียงตามระบบสัทศาสตร์ของภาษาเวียดนาม แสดงโดยเลอวิทย์ สังข์สิทธิ์ โดยส่วนตัวแล้วติดตามงานของเลอวิทย์มาโดยตลอด เขามีลักษณะเทกนิกการแสดงเฉพาะตนอยู่ การปรับสมดุลเข้ากับคนอื่นทำได้ยากอยู่ จึงชมเชยเบนไปในตอนต้นว่า แม้จะแสดงกับเลอวิทย์แต่การทำสมดุลกับเขาทำได้ดีมากเพราะไม่รู้สึกว่าเลอวิทย์ "เยอะ" แต่เมื่อเลอวิทย์แสดงกับคนอื่นเลยรู้สึกว่าเขา "เยอะ" จะว่าอย่างไรดี เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าเลอวิทย์ไปอยู่ในโปรดักชัน มิสไซง่อน ฉบับภาษาญี่ปุ่น เลอวิทย์จะพอดีมากกก เพราะมิวสิคัลญี่ปุ่นจะเล่นเยอะกว่าฝรั่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เลอวิทย์อาจจะต้องยอมลดทอนอัตลักษณ์ทางการแสดงลงบ้างเพื่อให้ได้สมดุล เพราะในจริตแต่ละสำนักมาก็ไม่เหมือน และนักแสดงร่วมเวทีในแต่ละครั้งก็ไม่เหมือน เลอวิทย์คงมาตรฐานของตนได้เสมอต้นเสมอปลายในทุกเรื่องที่ได้ดู เป็นนักแสดงละครเวทีที่อยากจะพูดถึงมาก เป็นตัวแทนภาพของความพยายาม ความตั้งใจจริง ความทุ่มเท เลอวิทย์ผ่านร้อนผ่านหนาวความสำเร็จความผิดหวังมา ความจริงชีวิตเลอวิทย์ไม่แพ้คิตะจิมะ มายะ ในนักรักโลกมายาเลยทีเดียว โชคดีว่าในบท ถวี เป็นบทที่เล่นใหญ่ไปสักหน่อยก็ไม่ค่อยขัดตาเสียเท่าไร ถ้าเลอวิทย์รับบทคริสหรือจอน คงจะคันใจอยู่ไม่น้อย คันใจคืออาการเขินของผู้ชมเวลาเห็นนักแสดงเล่นใหญ่มากกกใหญ่จนคนดูเขินแทน-บัญญัติโดยข้าพเจ้าเอง... การบ้านของเลอวิทย์คงอยู่ที่การปรับสมดุลของน้ำหนักการแสดงของตน บทที่ตกมาถึงเลอวิทย์ที่จะได้รับต่อไปจะได้มีความหลากหลายมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นเลอวิทย์รับบท "ฮะมะริยะคุ" ภาษาญี่ปุ่นหมายถึงบทที่กลายเป็นกับดักที่แปะป้ายนักแสดงคนนั้นไปแล้วว่าจะต้องรับบทแบบนี้โดยตลอด ประหนึ่งยุคนึงที่สัมปทานบทเพื่อนของนางเอกที่แสดงโดยสินจัยจะต้องเป็นใหม่-นัฐฐา ลอยด์ หรือบทสามีของสินจัย จะต้องเป็น กบ ทรงสิทธิ์ บทนางเอกหนังผีผู้กร้านชีวิตต้องเป็นทราย เจริญปุระ เหล่านี้เป็นต้น

นักแสดงหมู่มวล ของคณะนี้ไม่ต้องพูดถึงในแง่คุณภาพเลย เกินมาตรฐานทุกครั้ง ดูได้อย่างสบายใจไม่ว่าจะเป็นทั้งร้องเต้นเล่นละคร เราจะไม่เห็นการเต้นกระหย่องกระแหย่งเหมือนพึ่งหัดระบำมาเมื่อวานซืน หรืการเตะขาไลน์แดนซ์ได้ไม่สูงเท่ามาตรฐาน การร้องที่หาการฮาร์โมไนซ์ไม่ได้ หรือการส่งบทรับกับตัวละครเอกไม่ได้เพราะชั่วโมงบินไม่ถึง ขอพูดถึงเรื่องนี้เสียหน่อย ดังที่กล่าวไปแล้วว่าคณะละครนี้เป็นทุนนิยมดูจะกลายเป็นตัวร้ายในวงการละครเวที ว่าสูบเอาความเป็นศิลปะไปจากละครเวทีด้วยเม็ดเงิน แต่ควรจะยอมรับไหมว่าคณะละครเวทีแห่งนี้เป็นผู้ที่ทำให้นักแสดงละครเวทีเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงปากท้องกินอิ่มนอนหลับกันได้ รวมถึงอาชีพเบื้องหลังของละครเวที นั่นหมายถึงการยกระดับละครเวทีให้เป็นวิชาชีพหนึ่งในสังคมไทย เราจะไม่ต้องกระอักกระอ่วนใจว่าอันนี้ช่วยๆหน่อยก็แล้วกัน มาแสดงให้ฟรีมาทำละครให้ฟรี เงินก็ไม่ได้แถมต้องเสียค่ารถค่าข้าวเอง มันหมดยุคละครเวทีศักดินาการกุศลที่เอาลูกคุณหญิงโน้นนายพลนี้มาแสดงแล้วกลายเป็นที่นัดดูตัวหาคู่กลายๆ มาเล่นละครมาทำละครให้เพราะเกรงใจหรือเพื่อหาคอนเนกชัน นักแสดงละครเวทีกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ลืมตาอ้าปากได้ เป็นอาชีพที่เป็นอาชีพไม่ใช่งานอดิเรกของเหล่าลูกหลานไฮโซ บัณฑิตที่จบเอกการละครมีอนาคตรองรับอย่างชัดเจนว่าตลาดแรงงานของตนจะไปไหน ไม่ใช่เรียนกันมาแทบล้มประดาตายสี่ปี บางคนต่อโทด้วยแต่จบมาไปเป็นแอร์ฯ ไปทำงานแบงก์ เก็บเอาวิชาการตีความบทละคร เอาฝีมือการแสดง เขียนบท กำกับละครของตนเข้าหีบซุกฝุ่นไปเสีย เสียดายของเปล่าๆปลี้ๆ เขียนไปก็เหมือนด่าตัวเองอยู่กลายๆ 5555

น่าชื่นใจที่เห็นโอกาสของนักแสดงละครเวทีที่เติบใหญ่ขึ้นจากเป็นตัวเล็กๆวิ่งเป็นหมู่มวลแล้วขึ้นมารับบทระดับแถวหน้าได้ น่าชื่นใจที่เห็นเคอร์เทนคอลที่ไม่ได้เป็นระบบสตาร์ แต่เป็นระบบลำดับความสำคัญของตัวเอกของละคร ฝันที่จะเห็นเมืองไทยมีคณะละครมืออาชีพในการทำมิวสิคัลเป็นล่ำเป็นสันอย่าง คณะละครชิกิ ของญี่ปุ่น ที่เอาทั้งละครต่างประเทศมาทำเป็นภาษาญี่ปุ่นและมีละครออริจินัลของตน

มาพูดถึงบทภาษาไทยบ้าง ในฐานะคนที่เกี่ยวพันกับเรื่องตัวอักษรไม่ว่าเป็นการเขียนหรือการแปล ก่อนอื่นต้องขอชมเชยคนที่แปลบทในละครเพลงที่นำมาทำเป็นภาษาไทยทุกเรื่อง ขอย้ำทุกเรื่อง อันนี้ใครจะว่าลำเอียงก็ยอม เพราะข้อจำกัดของภาษาไทยนั้นการถอดบทแปล เก็บความ ลงโน้ต รวมถึงไพเราะด้วยนั้นเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญยิ่ง แค่แต่งกลอนแปดธรรมดาไม่ต้องมีหัวเรื่องให้เพราะยังยากเลย เสียงวรรณยุกต์ที่ต้องลงกับโน้ต จำนวนพยางค์ การออกเสียงคำบางคำให้ชัดเจนในเพลงยากยิ่ง การเลือกคำให้ทั้งไพเราะและไม่ลิเก หลังจากดูมิวสิคัลภาษาไทยหลายเรื่องแล้วทำให้เข้าใจว่าเหตุใดละครในสมัยโบราณถึงร้องเล่นกันช้าเหลือเกิน แถมเนื้อร้องต้องร้องซ้ำมีลูกคู่รับเพื่อให้ฟังจับความได้ รวมถึงการร้องพร้อมกันเกินสองไลน์เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ในภาษาไทยเลย เพราะจะฟังไม่รู้เรื่อง ยกเว้นจะเป็นเนื้อร้องที่ร้องล้อกัน นั่นคือข้อจำกัดของลักษณะภาษาไทย สำหรับเนื้อร้องภาษาไทยในเรื่องมิสไซง่อนเป็นฝีมือการแปลของธานี พูนสุวรรณ คนนี้ก็เป็นไอดอลของข้าพเจ้ามาแต่เล็กแต่น้อย จะว่าลำเอียงก็ยอม ที่ชื่นชมอย่างแรกก็คือแปลเนื้อร้องได้ออกมาได้ไม่ฟังราวกับเหมือนใส่กูเกิ้ลแปล ข้อจำกัดของการแปลเนื้อร้องในมิวสิคัลภาษาต่างประเทศมาเป็นภาษาไทยในหลายครั้งมีปัญหาเรื่องการที่เนื้อร้องจะฟังดูเหมือนใช้กูเกิ้ลทรานสเลท เพราะคำนึงถึงการเก็บความให้ตรง การใส่เนื้อให้ตรงโน้ต หรือบางทีคำนึงถึงความสละสลวยจนเกินไปจนกลายเป็นภาษาร้องยี่เกฝรั่ง ธานีทำได้ดีทั้งในการเก็บความที่ได้เกือบครบถ้วนและภาษาฟังรื่นเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เป็นวรรณศิลป์จนสวยเกิน อย่าลืมว่าเราไม่ต้องการเนื้อร้องเป็นวรรณศิลป์ในการแสดงแบบมิวสิคัล มิเช่นนั้นก็จะเป็นละครในละครร้อง และยิ่งเป็นซังทรูมิวสิคัลด้วยแล้ว บทพูดธรรมดาสามัญก็ต้องกลายเป็นร้อง แต่คำที่เลือกใช้ก็ต้องมีอะไรนอกเหนือคำธรรมดาดาดๆสามัญ นี่คือความยากยิ่งกว่ายากของการทำมิวสิคัล สำหรับเพลงหลักที่เป็นเพลงจำให้คะแนนผ่านหมด เพลงไดอาล็อกที่ยังมีบางเพลงตะกุกตะกักอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมทำได้ดี อาจจะเข้าไม่ถึงเนื้อเพลงดั้งเดิมทั้งหมด แต่ขอยกความผิดให้ข้อจำกัดของภาษาไทย การใส่คำหยาบลงไปเป็นกระสายในบทของเอนจิเนียร์ให้อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดผล ในตัวละครเอนจิเนียร์เป็นอย่างยิ่ง และเติมกลิ่นอายความดิบ หยาบของละครเรื่องนี้เข้าไปให้พอมีอยู่มีเช่นนั้นจะเป็นละครนมกล่องยูเอชทีมากกกกก ทั้งที่ควรเป็นละครเหล้าวอดก้า

มาถึงเรื่องงานศิลป์ของเรื่องทั้งคอสตูมและฉาก ต้องบอกว่าโปรดักชันไทยนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างโปรฝรั่งและโปรญี่ปุ่น คือเรียลลิสติกไม่เท่าโปรฝรั่งแต่ก็ไม่ได้เนี้ยบบบจนผิดธรรมชาติเหมือนโปรญี่ปุ่น มีความน่าเสียดายอยู่หลายฉากที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้แต่มีข้อจำกัดเรื่องความกว้างและลึกของเวทีรัชดาลัย ฉากจบขององก์1ที่คิมพาลูกหนีไปในแสงอาทิตย์ขึ้น (ขอตีความอย่างนั้นเพราะจะหมายถึงความหวังในที่แห่งใหม่แต่ทำเหมือนสีอาทิตย์อัสดงในทุกโปร) เวทีตื้นไปไม่เห็นมิติของความไกลของความหวัง ไม่มีรูปปั้นใหญ่ยักษ์ของโฮจิมินห์กลางเวที เพราะเวทีคงแคบและลึกไม่พอจึงแก้ปัญหาเป็นหน้าโฮจิมินห์บนผ้าใบใหญ่แทนทำให้ฉากนี้ดูไม่ค่อยทรงพลังเท่าที่ควร ฉากที่เป็นกรุงเทพอย่างพัฒพงษ์ตั้งความหวังว่าน่าจะทำได้สมจริงที่สุด เพราะน่าจะมีหลักฐานของจริงให้ดูมากที่สุด ก็ดูไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร แถมมีเรื่องหลุดยุคขายกระเป๋าของปลอมในพัฒน์พงษ์ซึ่งยุคนั้นยังไม่มี หรือรถตุ๊กตุ๊กเองก็ไม่ได้เป็นรถตุ๊กตุ๊กสมัยนั้รจริง น่าประหลาดใจว่าการทำเรื่องประวัติศาสตร์ใกล้ในเมืองไทยนั้นทำยากกว่าเรื่องประวัติศาสตร์ไกล ทั้งที่มีหลักฐานที่เป็นภาพเคลื่อนไหวหลงเหลือ

(เดี๋ยวมาต่อครับ)

จากคุณ : music of the night
เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:41:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com