ความคิดเห็นที่ 1 จริง ๆ ผู้เข้าแข่งขันกว่าจะมาถึงกรรมการทั้ง 4 น่าจะผ่านด่านทีมงานมาก่อนนะคะ คัดมาแล้วระดับหนึ่ง ไม่น่าจะเลือกแค่เสียงดี แต่ต้องมีเอกลักษณ์และน่าจะขายได้ แต่สงสัยจำนวนลูกทีม เพราะไม่ได้กำหนดจำนวนตายตัว ถ้าลูกทีมจำนวนต่างกันมาก ๆ จะทำยังไง รึรู้กันว่าถ้าทีมตัวเองคนเยอะแล้ว ก็ต้องไม่กด ยอมหลีกทาง แต่ .. ถ้าคนมาทีหลังเริ่ดกว่าคนแรก ๆ ล่ะ จากคุณ : kamemama เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:49:32

ความคิดเห็นที่ 2 งง!!! ตรงนี้ด้วยคน จริงๆกั้นบอร์ดระหว่างกรรมการไปเลย เพราะตอนนี้เห็นชอบพยักหน้าชี้ชวนให้เอา หรือเห็นบางคนกดเอา ก็กดตามบ้าง ไม่รู้สิ่! เรารู้สึกอย่างนี้จริงๆ จากคุณ : February sept เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:53:50

ความคิดเห็นที่ 3 โค้ชจะเลือกคนไหนบ้างเราว่าขึ้นอยู่กับว่าลูกทีมที่เคยเลือกไว้มีแนวไหนบ้าง เพราะรอบต่อไปต้องแบทเทิลกัน ถ้าเป็นคนละแนวมาแบทเทิลกันมันก็ดูแปลกๆนะคะ แล้วสำหรับบางคนที่ร้องดีแต่ไม่ได้รับเลือก จริงๆแค่ร้องดีเราว่ามันไม่พอหรอกค่ะ ต้องมีเอกลักษณ์และมีบางอย่างที่ตัวโค้ชเองสามารถให้คำแนะนำเพื่อจะได้พัฒนามากยิ่งขึ้น อย่างบางคนร้องดีมากอยู่แล้ว และถ้าโค้ชคิดว่าเค้าคงไม่สามารถพัฒนาคนนั้นให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ ก็คงไม่เลือกค่ะ จะเห็นว่าโค้ชแต่ละคนที่ทางรายการเลือกมา มีแนวทางแตกต่างกันนะคะ ความถนัดต่างกัน ก็ไม่แปลกที่จะสนใจผู้เข้าแข่งขันต่างกันด้วย จากคุณ : munamm เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:04:27

ความคิดเห็นที่ 4 โค้ชก็ตัดสินด้วยความชอบล่ะครับ เสียงดีแต่โค้ชไม่ชอบหรือไม่ใช่ทางก็อาจไม่เลือก โค้ชก็อาจมีขอกัน หรือถามกันว่าจะกดหรือเปล่า แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็ต้องแย่งกัน อย่างนิดตอนแรกเหมือนสแตมป์จะปล่อยให้โจอี้ แต่ตอนหลังก็กด จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:05:42

ความคิดเห็นที่ 5 มาตอบค่ะ สำหรับรอบ Blind Audition ที่เราเห็นกันนั้นมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 140 คน จาก 4000 กว่าคนทั่วประเทศค่ะ การตัดสินมาจากการที่โค้ชทั้งสี่คนจะนั่งหันหลัง แล้วฟังเอาจากเสียงร้อง และถ้าเสียงของใครโดนหูโค้ชก็จะกดปุ่มหันว่าฉันต้องการคุณใหม่อยู่ในทีม ซึ่งฉันจะทำหน้าที่เหมือนโต้ชนักกีฬาคอยเทรนให้ว่าจะร้องต่อไปในรอบดวลไมค์ (Battle) เพื่อฟาดฟันด้านเสียงและเทคนิค ค้ดออกไปเรื่อยๆจะกว่าจะได้ผู้ชนะเลิศ เกณฑ์การตัดสินก็ใช้ สัญชาติญาณ ความรู้สึก ความชอบ ของโค้ชแต่ละคน ว่าอยากจะได้นักร้องเสียงแบบไหนอยู่ในทีมของตัวเอง ซึ่งโค้ชต้องใช้จินตนาการว่าเสียงอย่างนี้จะปั้นอย่างไรต่อจะโค้ชอย่างไรต่อไป (บางครั้งคนที่ร้องดีมากๆโค้ชอาจจะไม่อยากรับไว้ในทีมเนื่องจากไม่รู้จะสอนไหวมั๊ย ) และการที่โค้ชพยายามชี้ชวนให้โค้ชคนอื่นหันเพราะอาจจะคิดแล้วว่าเสียงอย่างนี้ เป็นแนวของโค้ชอีกคนนึงมากกว่าตัวเอง กำหนดลูกทีมเท่ากันทุกทีมค่ะ แต่ที่เราเห็นในทีวีเค้าตัดมาให้เราดูว่าโจอี้บอยอาจเลือกได้เยอะกว่า แต่ถ้าดูจนจบรอบ blind audition แล้วจะรู้ว่าทุกทีมมีผู้เข้าแข่งขันเท่ากัน สำหรับที่ตอบว่าคนหลังๆอาจจะร้องเพลงดีกว่า...โค้ชก็พยายามจะยัดคนเสียงดีเหล่านี้ให้ได้ไปต่อไงคะ กรณีที่ทีมตัวเองเต็มแล้ว แต่นักร้องที่เหลือเสียงดีจังปล่อยให้ตกรอบไม่ได้ ก็พยายามจะให้โค้ชคนอื่นที่มีที่ว่างอยู่ได้คนเสียงดีๆเก็บไว้ ตอบแค่นี้กระจ่างใจรึยังคะ จากคุณ : รักรายการนี้ เพราะมีพี่ก้อง ^^ (โสด ชรา แต่น่ารัก) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:12:47

ความคิดเห็นที่ 6 รายการนี้ไม่ได้เลือกคนที่เสียงดี แต่เลือกคนที่เสียงถูกใจโค้ช จากคุณ : ตัวตลกสีเทา เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:23:19

ความคิดเห็นที่ 7 ลองจินตนาการตัวเองเป็นโค้ชดูครับ แล้วจะเข้าใจรายการนี้ สรุปก็คือเลือกตามใจโค้ช เอาง่ายๆ เคยไม่ชอบนักร้องเสียงดีสักคนไหมครับ แบบใครๆ ก็บอกนักร้องคนนี้เสียงดี ร้องเพลงเพราะ ใครๆ ก็ชอบ แต่เรากลับรู้สึกว่าก็โอเค เสียงดี แต่ก็เฉยๆ ไม่ได้ชอบหรืออะไร ส่วนเรื่องเชียร์ให้คนอื่นกดก็ตามข้างบนเลยครับ จริงๆ ส่วนตัวชอบนะไอ้การเชียร์คนอื่นกด หรือโค้ชหันคุยกันเนี่ย คือมันดูเป็นเสน่ห์อย่างนึงของรายการนี้ น่ารักดีออก ^_^ จากคุณ : NORITA...BOY เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:53:13

ความคิดเห็นที่ 8 คนออดิชั่นมาแล้ว คือคนที่คัดแล้ว แต่ไม่เสมอไปว่าจะคัดคนแย่ๆออกหมด เพราะไม่งั้น รายการก็ไม่สนุก นี่มันไม่ใช่ประกวดจริงจัง แต่มันคือรายการทีวี ประเภท วาไรตี้โชว์ เน้นความสนุกสนานด้วย พอคัดมา คนดีกว่า มาเจอคนดีน้่อยกว่า ก็จะเหนชัดว่าใครดีกว่า กรรมการก็เลือกไปหมด เกรงใจคนประกวด เกรงใจ กรรมการกันเอง ดังนั้น อย่าไปสนใจกติกามากมาย เน้นดูคนร้อง เสียงร้องเป็นหลักดีกว่า จากคุณ : poliopakung เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:33:22

ความคิดเห็นที่ 9 140 คน คัดเหลือ ประมาณ 50-60 คน ครับ ไม่ได้รับหมด แต่เวลาถ่ายทอดมันไม่พอที่จะให้ดูทุกคน มันก็ต้องตัดๆบ้าง ขนาดคนเข้ารอบบางคนยังต้องตัดเลยครับ เป็นปกติของ The Voice ส่วนการเลือก คุณเห็นคุณภาพของผู้เข้าแข่งขันแล้ว.... ทุกคนร้องเพราะหมดครับ  แต่จะเข้ารอบ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นครับ..... จากคุณ : vrpanda เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 19:24:38

ความคิดเห็นที่ 10 บอกตรงๆว่า ดูรายการนี้แล้วไม่รู้สึกว่าเสียเวลานั่งดู ไม่ใช่แค่ของไทย อเมริกาปาไป season 3 แล้วก็ยังน่าติดตาม เพราะของดีดูที่คุณภาพ จากคุณ : อ สุวงศ์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:41:31

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบรายการนี้ที่คัดคนที่เสียงจริงๆ ไม่เน้นหน้าตา สงสัย สมมติ ตอนรอบเเบทเทิ้ล ทีมพี่ก้อง มี 18 คน ทีมพี่คิ้ม มี 20 คน ทีมพี่โจอี้ มี 40 คน ทีมพี่สเเตมป์ มี 15 คน ทีมที่มีคนน้อยก็เสียเปรียบสิ จากคุณ : pikaball เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:11:24

ความคิดเห็นที่ 12 ของเมืองนอก โค้ชมีลูกทีมเท่ากัน ถ้าบางคนครบโควต้าแล้ว ปุ่มจะกดไม่ติด ไม่มีสิทธิ์หันแล้ว 55555 ไม่รู้ของไทยจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า จากคุณ : Octo-pUnn เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:19:36

ความคิดเห็นที่ 13 พี่โจ้เคยทวีต จริงๆ ลูกทีมเท่าๆกัน แต่ที่ตัดออกมาฉายให้ดู เป็นส่วนของพี่โจ้ซะเยอะเท่านั้นเอง จากคุณ : hydrokitten เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 14 ลูกทีมจำนวนเท่ากันนะคะ นี่ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกด้วย เพราะบางทีเราว่ากรรมการก็อาจจะคิดว่า ถ้ารีบเลือกไป โควต้าจะเต็มก่อนเดี๋ยวทีหลังไปเจอคนเด็ด ๆ ก็ไม่สามารถกดได้แล้ว จากคุณ : สวัสดีขอโทษขอบคุณ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 00:33:53

ความคิดเห็นที่ 15 ลูกทีมเท่ากันครับ ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้สงสัย ผมแนะนำให้ไปอ่านคอลัมท์เล่นหูเล่นตาของพี่คิ้ม ใน คมชัดลึก วันจันทร์ แล้วจะเข้าใจครับ (หาเอาในเว็บคมชัดลึกก็ได้ครับ) จากคุณ : พะโล้ถ้วยไม่ใหญ่ส่ายไข่เป็ด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 10:37:17

ความคิดเห็นที่ 16 ลูกทีมเท่ากันค่ะ แล้วถ้าใครได้ลูกทีมครบแล้ว ก็จะหันหน้ามาฟังตลอด ไม่หันหลังค่ะ จากคุณ : แฟน The Voice (ในนามของดวงจันทร์) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 14:51:47