ความคิดเห็นที่ 1 ผมซื้อcd พันซ์ + retrospect ที่เอามาขายเลหลังของb2s  ในราคารวม60บาท เคสcdสวยงาม มีcredit+เนื้อให้อ่าน เฉลี่ยแล้วเพลงละ3บาท เชรดเด้ ขึ้นรถเมล์ยังแพงกว่าเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (nammak) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 01:32:43

ความคิดเห็นที่ 2 ราคาวัตถุดิบก็ยังเท่าเดิมมั้งครับ จากคุณ : -นักเลงเพลงสยาม- เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 01:36:55

ความคิดเห็นที่ 3 แหม่...ถ้าบ้านเรายังคงราคา CD เพลงไทยไว้ที่ 500 บาทเหมือนสมัย 20 ปีก่อน นี่...ค่ายคงเจีงระนาวแน่ๆครับ... เราอาจจะเคยชินกับราคา 150+ กันมานานแล้ว...พอ CD เริ่มที่จะกลายเป็นสินค้าเฉพาะและปรับราคาขึ้นไปบ้าง เลยอาจจะคิดว่าแพง...ผมก็คิดในตอนแรกเหมือนกันครับว่าแพง...แต่พอมานั่งนึกย้อนไปว่า...เมื่อก่อนมันแผ่นละ 400++ ล่ะก็...เลยโอเคกับราคา CD ไทยในตอนนี้นะครับ...^-^ จากคุณ : Xscape เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 02:22:35

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าเรื่องราคาขายเป็นประเด็นรองไปแล้วครับ เพราะทุกคนต่างรู้แก่ใจดีว่ายุคนี้มันขายยากแล้ว โหลดกันเป็นส่วนใหญ่ จะฟรีจะเสียเงินก็ว่ากันไป เพราะงั้นผมคิดว่าอาจไม่จำเป็นต้องมาคิดเรื่องลดราคาแผ่นมั้งครับ เพราะราคาต้นทุนมันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ คงราคาไว้สำหรับคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้อยากสะสม เพราะคนที่ตั้งใจจะซื้อจริงๆ เขาไม่เกี่ยงหรอกครับว่าเท่าไร ถ้าคิดเทียบกับแผ่นเมืองนอก ราคาบ้านเขาไม่แพงหรอกครับ ก็เหมือนแผ่นเพลงไทยบ้านเราแผ่นละร้อยนิดๆ ไม่แพงมากมายนัก แต่ถ้าคนไทยอยากจะสั่งแผ่นเมืองนอก ต้องเลิกพูดเรื่องถูกแพงไปเลยครับ เพราะว่าเราตัดสินใจจะสั่งของนอกไปแล้ว ยังไงก็เสียเยอะแน่ๆ ถือว่าใจเราพร้อมยอมเสีย เพราะเราอยากได้จริงๆ อีกนิดนะครับ เรื่องปรับราคาลงเพื่อดึงดูดคนซื้อ โอเคคนอื่นๆอาจคิดแบบนั้น แต่สำหรับผมแล้วไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง ถ้าผมไม่ชอบ ยังไงก็ไม่ซื้อครับ โหลดฟังฟรีๆยังขี้เกียจเลยครับบางที ไม่ชอบไม่รู้จะโหลดมาทำไม เปลืองเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์อีก :) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 02:59:40 จากคุณ : Norma Jump เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 02:58:40

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าคุณเล่นเครื่องเสียงเครื่องเล่นซีดี ดีๆๆรคาเกือบล้านบาทยังมีขายเลยและว่าคนเล่นระดับนั้นเป็นคนรวยแต่โง่หรือไม่แผ่นซีดีบางค่ายของไทยเช่นค่ายใบชาซองแผ่นละสามร้อยขึ้นยังขายได้เลยอาจจะขายไม่ได้มากเหมือนของอาเอสหรือแกรมมี่เพราะคนเล่นเฉพาะกลุ่มแต่ถ้าคุณมีเครื่องเล่นที่ดีพอผมว่าจะฟังเห็นความแตกต่างมากพอสมควรกับแผ่นราคาถูกหรือจากระบบอื่นเช่นHDคนเรามีความชอบต่างกันผมชอบฟังเครื่องเสียงระบบเก่ามากๆๆที่ทำจากหลอดแต่ตอนนี้ก็ยังมีการทำขายแต่แอบแพงมากๆๆถ้าหลอดนั้นเป็นหลอดเก่าๆๆที่ทำมาจากเยอรมีนยุโรปหรือUSบางคู่เช่นหลอด300Bหลอดใหม่แต่เป็นปีเก่าๆๆบางคู่เงินหนึ่งแสนบาทยังหายากเลย จากคุณ : korpphaibun เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 03:51:47

ความคิดเห็นที่ 6 ที่อังกฤษ ซีดีเพลงมีตั้งแต่ 7-10+ ปอนด์ แต่คนที่โน่นเขาได้เงินมากกว่ามั้งคะ คือเขาก็ซื้อได้ไม่มากขนาดนั้น เดือนละแผ่นก็เยอะแล้ว เอาจริงๆเราก็ว่าพอๆกับเมืองไทยมั้งคะเพราะว่าอย่างเรา เราก็สามารถซื้อได้แค่เดือนละแผ่นอะ แค่นั้นก็ตังหมดละ จากคุณ : Calotropis เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 07:01:16

ความคิดเห็นที่ 7 ญี่ปุ่น  ราคา CD เพลง single 1000-1700 เยน Album 2500-4000 เยน ราคาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ ของข้างในเช่น มินิโฟโต้บุค ดีวีดี บัตรเข้าร่วมงาน รูปสะสม จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 08:19:27

ความคิดเห็นที่ 8 เดือนนี้เพลงสากล ถล่มปล่อยอัลบั้มกันเยอะมาก ตามเก็บไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ จากคุณ : innocentblood เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 09:08:06

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าไม่นับพวกโหลดบิท ซึ่งต่อให้ลดราคาขายถูกขนาดไหน เค้าก็ไม่เสียตังค์ซื้อหรอก ซื้อจาก itune เพลงละประมาณ  30 บาท อัลบั้มนึง 10 เพลง ก็ประมาณสามร้อย ราคาก็พอๆกับซื้อแผ่นซีดีแหละครับ(เพลงฝรั่งนะ ของไทยถูกกว่า) แล้วจริงๆ คุณภาพไฟล์จากซีดีก็ดีกว่า เพราะงั้นเลยยังมีคนซื้อจากซีดีอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ซื้อมาแล้วริปลงมือถือลงไอพ็อดน่ะแหละ ถ้าขี้เกียจไปหาซื้อแผ่น โหลดจาก itune ก็ง่ายดี จากคุณ : Avalance7 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 09:24:21

ความคิดเห็นที่ 10 ต้นทุนการผลิตเกี่ยวกับตัววัตถุกายภาพ (จับต้องได้) มีในทุกจุดน่ะครับ เช่น งานออกแบบ ..ซึ่งแต่ละบริษัทก็อาจทำงานไม่เหมือนกัน อย่างงานเฉพาะตัวอักษร ก็อาจจะแยกคนพิสูจน์อักษร กับคนวางเลย์เอาท์ คนละคนกัน ฯลฯ โครงสร้างการทำงานมันแล้วแต่น่ะครับ.. ราคาเลยแปรผันไปได้ ในด้านฟอร์แมตเสียง ต้องไม่ลืมว่าออดิโอซีดีนั้น บรรจุฟอร์แมต WAV ..ซึ่งถือเป็น Hi-def ถ้าเทียบกับไฟล์ Mp3 -คนละตลาดกันนะครับ- ..ถ้าชอบหรือต้องการคุณภาพเสียง ซื้อซีดีคุ้มกว่า (มองว่าร้านขายทั้งหลาย น่าจะแยก section เป็น WAV เป็น Mp3 ..ให้ชัดคงจะดี) - โทรศัพท์มือถือกับเครื่องเล่นพกพา นั้นเป็นตลาดของ Mp3 ครับ ดูในคู่มือจะบอกว่าเล่นไฟล์ WAV ได้ แต่เป็นไฟล์ที่ bit ต่ำมากของฟังค์ชั่นบันทึกเสียงในเครื่องครับ ..ไม่ใช่ไฟล์ 16/44.1 หรือ 24/96 ของตลาดดนตรีน่ะครับ ต้องเล่นกับวิทยุหิ้ว (อย่างน้อย ๆ), เครื่องเล่นแผ่น, คอมพิวเตอร์, เครื่องเสียงโฮมสเตอริโอ ฯลฯ #### มันแยกตลาดกันชัดเจน แต่ขาดการให้ความรู้ระดับสาธารณะครับผม -_-" (จริง ๆ หลังแผ่นบอกวิธีใช้อยู่นะครับ แต่ไม่มีคำอธิบายมากกว่านั้นว่าเพราะอะไร?) ซีดีถ้าซื้อเพื่อมา Rip เองก็เถอะครับ ..พอริปเป็น Mp3 ปั๊บบบบ.. คุณได้ฟอร์แมต Lo-def ทันทีครับ ไปได้มากสุดก็ 320K. แต่ซีดีนั้น 1,411.2K เลยครับ (ของ 16/44.1 นะครับ ถ้าแผ่น 24/96 ก็สูงกว่านี้อีกมากเลย) ------------------------------------------------ ป.ล.แผ่น 24/96 ราคาจะสูง เพราะส่วนใหญ่ยังต้องสั่งผลิตที่อเมริกา, เยอรมัน ฯลฯ ป.ล.ตอนนี้แผ่นเสียงกำลังกลับมาแบบเงียบ ๆ ..ราคาหลักพันครับ ก็ต้องซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงกันอีก แต่คุณภาพเสียงจะทำให้คุณลืมที่ได้อ่านข้างบนนี้ทั้งหมดครับ ..เพราะมันสุดยอด :) จากคุณ : PASSION_WARFARE เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 11:21:25

ความคิดเห็นที่ 11 ผลงานทางปัญญา ต้นทุนไม่เคยน้อยลงอยู่แล้วค่ะ เรากลับมองว่ามันเป็นทางเลือก ใครที่ต้นทุนน้อยก็โหลดไป แต่อย่างพวก physical release เนี่ย ถึงจะแพงแค่ไหนแฟนพันธุ์แท้ก็ซื้อกันอยู่แล้ว ปล.แต่ราคา digital release กับ physical release ที่เมืองนอก เท่ากันเป๊ะ! CD ราคาประมาณ 7-10ปอนด์ (ส่งในประเทศไม่มีค่า shipping อีกต่างหาก) อัลบัมใน iTunes ก็ราคาเท่ากัน จากคุณ : 100 years เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 13:12:01

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าเหตุผลก็เหมือนกับหลายท่านค่ะ   คือต้นทุนซีดีมันไม่ได้ลดลง เราเองก็เป็นอีกคนค่ะที่ยังคงซื้อซีดีอยู่(มีไอพอด แต่ก็ไม่เคยใช้วิธีโหลด) ที่ยังซื้อซีดีอยู่ก็เพราะคุณภาพเสียงที่ดีกว่า และเราว่าซีดีมันมีเรื่องราวน่ะค่ะ(เป็นประวัติศาสตร์อะไรทำนองนั้น...แผ่นนี้ซื้อที่ไหน ช่วงนั้นทำงานอะไรอยู่ บลา บลา บลา...) แล้วเรายังชอบชื่นชมพวกartwork ชอบอ่านนั่นอ่านนี่และดูรายละเอียดต่างๆน่ะค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 14:47:17 จากคุณ : Rosieroong เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 14:43:59

ความคิดเห็นที่ 13 เพราะคนที่ตั้งใจจะซื้อจริงๆ เขาไม่เกี่ยงหรอกครับว่าเท่าไร อันนี้ไม่จริงสำหรับผม ราคามันเพิ่มขึ้นตามต้นทุนบ้างก็พอกัดฟันซื้อ ผมซื้อผลงานเพลง ไม่ได้ซื้อ package แค่ต้องการรูปแบบ physical ที่อยู่ทนไม่เสียหายไปกับระบบ ถ้าไม่ได้ทำแผ่นเสียหายเอง ต้องการ quality สูงสุดที่จะให้ได้ คือไม่ต่ำกว่า CD 16/44.1 ที่ต้องเหมาซื้อเพลงกากๆท้ายอัลบั้มไปด้วยผมก็ยอมแล้วนะ ถือว่าชดเชยกับต้นทุน physical แต่พวกติสท์จัด ทำเป็น package พิเศษให้ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงเกินปกติ เพิ่มของแถมเป็นสมุด note ปฏิทินไร้สาระ ไร้ความคิดสร้างสรรค์ แล้วมาขาย 800 บาท แบบนี้ผมไม่ซื้อเด็ดขาด จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:51:45

ความคิดเห็นที่ 14 -ขอบคุณทุกคนที่ร่วมแสดงความเห็นกัน  ได้ความรู้มากๆเลย จากคุณ : ThisLonelyMe เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 02:50:48

ความคิดเห็นที่ 15 cd แผ่นแรก ๆ ที่ผมซื้อหน้าปกราคาอยู่ที่ 450 ที่จำ ๆ ได้ก็จะมี y not 7 และยุคแถว ๆ นั้น หลาย ๆ อัลบัมก็อยู่ที่ 270 สำหรับผมยุคนั้นเป็นอะไรที่ราคาแรงมาก ทั้งเครื่องเล่น ทั้งแผ่นที่ส่วนใหญ่เห็นแต่ตามห้าง (ที่อื่นอาจจะมีอีกเยอะ แต่ยุคนั้นเดินทางไม่ค่อยมาก) เดี๋ยวนี้ราคาถูกแล้วครับ จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 13:51:59

ความคิดเห็นที่ 16 แบบลุลาชุด่าสุดนี่แถมผ้าพันคอ หญิงมากมาย สวยแต่ไม่อยากแกะออกมาใช้ สรุป คนที่สะสมแผ่นมี อย่างผมนี่แหละ จะโหลดก็ได้ แต่เสียงไม่เข้าหู rip เองกับมือ สะใจกว่า จะเอาเสียงดีแค่ไหนตามใจชอบ แล้วปก แพคเกจนี่ ถ้าไม่น้ำท่วม ไฟไหม มันไม่สูญสลายง่ายๆเหมือนไวรัสลง ฮาร์ดดิสค์เสีย นะ มูลค่าทางเศรษฐศาสตร์มันมีอยู่ในตัวเอง เหมือนพระเครื่อง เหมือนเหรียญ เหมือนแสตมป์ จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:07:40

ความคิดเห็นที่ 17 แหม ก็ต้องเอากำไรกันบ้างสิครับ ฮ่าๆ ผมว่ามันก็ถูกมากแล้วนะ ราคาซีดีเดี๋ยวนี้เนี่ย :-) จากคุณ : ถังเจ๋อ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 11:41:31

ความคิดเห็นที่ 18 เพราะว่า ซีดีเพลง มันไม่ได้มีแค่ซีีดีเพลงหน่ะสิฮะ สำหรับผมมันคือของแต่งบ้านอย่างนึงเลยแหละ จากคุณ : It_Nice เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 12:53:53

ความคิดเห็นที่ 19 #13 แปลว่าคุณต้องการแค่คุณภาพเสียง กับเพลงที่ชอบ แบบนั้นแปลว่าคุณแค่อยากได้เพลงไว้ฟัง แต่ไม่ได้อยากได้ของสะสม ซึ่งที่ผมพูดถึงคือ “แฟนเพลงที่รักในศิลปินนั้นๆ” จริงๆ เขาจะอยากได้ทุกอย่างที่เป็นของศิลปินนั้นๆครับ สนับสนุนทั้งแผ่น ของพรีเมียม เสื้อวง โปสเตอร์ โปสการ์ด ก็เช่นเดียวกับแผ่นซีดี ไม่ว่าจะราคาเท่าไรเขาก็พร้อมจะจ่ายให้ครับผม ผมจึงชี้ว่าเรื่องราคาถูกหรือแพงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจของแฟนเพลงระดับฮาร์ดคอร์ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 02:56:18 จากคุณ : Norma Jump เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 02:53:23

ความคิดเห็นที่ 20 #19 ผมอาจจะอยู่ตรงกลางระหว่างคนที่แค่ถูกใจอัลบั้มก็ซื้อ กับคนที่เป็นแฟนคลับรักศิลปินมากๆ ยกตัวอย่างเช่น อ๊อฟ ปองศักดิ์ จะออกมากี่อัลบั้มผมก็ซื้อตลอด ถึงอัลบั้มห่วยเพลงไม่ค่อยถูกใจก็ซื้อ เหมือนเป็นหน้าที่ๆต้องซื้อโดยอัตโนมัติ จัดว่าเป็นแฟนเพลง แต่ไม่ใช่แฟนคลับน่ะครับ แต่ก็ไม่ได้ไปตามซื้อทุกอัลบั้มที่มีชื่อไปโผล่ ซื้อแค่ studio album กับโปรเจคพิเศษบางแผ่น ไม่ซื้อพวก limited edition แพงๆ เพราะส่วนที่แพงขึ้นผมไม่รู้สึกว่าได้สัมผัสความเป็นศิลปินของเขามากขึ้น อย่างที่บอกเช่นสมุดโน้ตปฏิทิน แกรมมี่ใช้มุกนี้บ่อยมากๆ ส่วนที่แพงขึ้นก็ออกมาจากโรงงานทั้งนั้น แม้แต่ความคิดก็อาจจะไม่ได้มาจากศิลปินด้วยซ้ำ เหมือนเอาไว้ให้แฟนคลับไว้เบ่งกันเองว่าข้าคือแฟนคลับตัวจริง ผมไม่เอาด้วยหรอกของแบบนี้ จะมีก็แค่บางอัลบั้มเช่นอัลบั้มเดี่ยวกอล์ฟ(กอล์ฟไมค์) เจ้าตัวเค้าออกแบบ package เอง อันนั้นผมยังเห็นด้วยว่าถ้าซื้อมันก็ยังพอมีคุณค่าจริง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะได้เงินผมไป เพราะมันแพงกว่าปกติหลายเท่าจนต้องกลับมาคิดว่า นี่คือราคาความคิดสร้างสรรค์หรือราคาโรงงานรับเหมาพิเศษ จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 01:25:30