ความคิดเห็นที่ 1 Blur - Think Tank ท่ามกลางความระทึกของบรรดาแฟนเพลงทั้วโลก เมื่อได้สดับรับข่าวว่า "Blur" จะปล่อยงานลำดับที่ 7 ออกมาในปีพ.ศ.นี้ โดยมี Norman Cook (Fatboy Slim)เข้ามารวมพลังในตำแหน่ง producer จากการเชื้อเชิญของ Damon Albarn นักร้องนำ พร้อมๆกันแฟนๆก็อดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจเฮือกยาวกับการลาจากของมือกีตาร์สำเนียงโดดเด่นของพวกเขานาม Grahm Coxon นอกจากการปรากฎตัวด้วยสำเนียงโหยลึกจับจิตจับใจในเพลง "Battery in your legs" แล้ว Grahm ก็ปล่อยให้ Blur ที่เหลือคล้องแขนกับ Fatboy บินไปอัดเสียงกันถึงทวีปแอฟริกา จากคุณ : ^naive^ - [ 4 ก.ย. 46 20:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 "Think Tank" คือชื่องานลำดับที่ 7 ของคณะเบลอร์ งานที่ Damon ไม่ต้องมานั่งถกข้อคิดเห็นใดๆกับ Grahm อีกแล้ว งานที่ท่วงทำนองหวานละมุนของDamon จะถูกปลดปล่อยออกมาล่องลอยโดยปราศจากการบดบังของสำเนียงหม่นมัวแต่ลื่นไหลจากกีตาร์ของ Grahm แต่แล้วนั่นกลับไปเป็นช่องโหว่เบ่อเริ่มเทิ้มของทุกบทเพลงจนต้องมีการทดแทนด้วยเสียง chourus สมทบลงไปอย่างมากมาย มากจนรูโหว่ทั้งมวลล้วนถูกอุดจนกลมกล่อมได้รูปได้รส แม้ว่าจะไม่สามารถยกขึ้นเทียบเคียงกับงานระดับลือลั่นสั่นสะเทือนไปทั้งวงการอย่าง "Park Life"(1994) และ "13"(1999) ได้แต่ Think Tank ก็เป็นผลงานชิ้นงามที่พิสดารบนความเรียบง่าย ทรงคุณค่าเหนืองานเพลงทั่วผืนแผ่นดินอีกชุดหนึ่ง จากคุณ : ^naive^ - [ 4 ก.ย. 46 20:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "Think Tank" ประกอบด้วย15 บทเพลง 14 track มี track 0 ซ่อนอยู่ข้างหน้า track 1(แต่ข่าวเรื่อง track 0 ดันรั่วออกมาตั้งแต่อัลบั้มยังไม่ออกมา เลยไม่ค่อยมีใครจะตื่นเต้นเท่าไหร่ ทางเบลอร์ยืนยันว่ามันหลุดออกมาพร้อมกับ mp3 ใน internet ที่แพร่ออกมาก่อนอัลบั้มจะวางขายอีกนั่นแหละ ทำให้คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่ผ่านมาของเบลอร์แปลกประหลาดเก๋ไก๋กว่าของใครๆที่สุดตรงที่ว่า แฟนๆต่างร้องตามเพลงใหม่กันได้ทุกถ้อยทุกคำ) เปิดฉากแรกด้วยเพลงจังหวะเนิบนาบที่ซึมซับมาจากกาฬทวีป "Ambulance" จืดชืดอ้อยสร้อยและระคายหูด้วยเสียงสังเคราะห์อันล้นหลามที่คาดว่าน่าจะมาจากน้ำมือของDamonร่วมกับproducer สำคัญคนหนึ่งของอัลบั้มนี้  William Orbit อัจฉริยะผู้ร่วมเสกสรรค์อัลบั้ม Ray of Light ของ Madonna กับ Marius De VriesและPatrick Leonard จนกลายเป็นผลงานสุดมหัศจรรย์ของปี1998! (ในThink tank ยังมี Ben Hillier นอกจากจะมีตำแหน่งpercussions, engineer และmixเสียงแล้วยังมาช่วยเป็น producerด้วยอีกคน ส่วนพี่ Fatboy นั้น ท้ายสุดแล้วรับงานไปproduceเพียงสองเพลงเท่านั้น)  จากความผิดหวังเต็มประดาจากเพลงแรก มาถึงเพลงที่สอง" Out of Time " ผู้คนต่างต้องน้ำตาซึมให้กับกำเนิดใหม่ของ Blur ด้วยความหวานหม่นที่ชอนไชเข้าไปถึงห้วงลึกในดวงใจ แต่ตัวเพลงกลับเรียบง่ายอย่างที่สุด!  นี่คือผลงานที่บรรดานักแต่งเพลงทั้งหลายต่างปราถนาจะได้ประดิษฐ์คิดค้นออกมาสักเพลงหนึ่งในชีวิต เรียบง่ายแต่กินลึกเข้าไปในจิตใจผู้คน!   ขณะที่ยังเคลิบเคลิ้มงมงายอยู่กับtrackที่2 ซึ่งจบไปแล้ว พี่Fatboy ก็ปรากฎตัวออกมาเขย่าร่างกระตุ้นให้ออกจากห้วงภวังค์ในความครึกครื้นอึกทึกกับเพลงลำดับที่สาม "Crazy Beat"ผสมผสานความกวนของเบลอร์กับความหนักแน่นในจังหวะของพี่normanไว้อย่างลงตัว เพลงถัดมา" Good song " ทำให้เราเห็นความทุลักทุเลของเบลอร์เมื่อขาดGrahmไป เสียงกีตาร์อะคูสติกไร้วิญญาณที่วนเวียนอย่างไม่รู้จบโดยไม่มีหยุดพักหายใจบ้างเลยพาลทำให้ผู้ฟังหายใจไม่ใคร่ออกไปด้วย เพลงที่5ดำเนินไปด้วยความมั่นคงเรียบง่ายของกลอง(Dave Rowntree)และเบส(Alex James) แต่ก็ไพเราะและลงตัวด้วยความหวานเหงาเปล่าเปลี่ยวของท่วงทำนองและเนื้อร้อง เพลงถัดมาคือ"Brothers and sisters" คงเป็นเพลงที่Damonท่าจะลำบากใจว่าจะเอาใส่ไว้ในอัลบั้มนี้หรือว่าจะเก็บเอาไปให้ Gorillaz ดี?( Gorillaz เป็นงานที่ Damon ไปปรากฎตัวในนามว่า 2D ประสบความสำเร็จอย่างมากผิดกับงานเดี่ยวของ Grahm ที่แม้จะดีแต่มีคนฟังกันในวงแคบเท่านั้น) เพลงที่ 7 เป็นบรรยากาศเมามายของ" Caravan" ที่ในเพลงบอกไว้ว่าเจ้าคาราวานนี่มันสำคัญยิ่งกว่าครอบครัวเสียอีก(เอ.....ทำไม?) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 46 21:08:47 จากคุณ : ^naive^ - [ 4 ก.ย. 46 20:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพลงอื่นๆที่เหลือมีความหลากหลายแตกต่างกันไปเฉพาะตัว มีทั้งที่ fatboy มาร่วมด้วยในอีกเพลงที่เด้งดึ๋งน่ารักน่าชังยิ่งชื่อ"Gene by Gene" "Sweet song"เพลงหวานเศร้าที่มีท่อนที่หวนรำลึกถึงการลาลับไปจากโลกนี้ของ George Harrison มือกีตาร์ที่โลกเคารพและเต่าทองคนโปรดของ Damon (Everyone is dying.Stop crying now ,here comes the sun....) เพลงเฮฮาครึกครื้นชื่อยาวยืดอย่าง" Moroccan Peoples Revolutionary Bowls Club" และมีกระทั่งเพลงที่พยายามจะยัดเยียด Free jazz เข้าไปในเพลงอย่างเสียไม่ได้เช่น" Jets " แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหนักหนาฟังไปฟังมาเข้าหลายๆรอบอาจจะกลับกลายเป็นลงตัวก็ได้(แต่ยากแฮะ.....คงต้องสัก 50รอบขึ้นไป) จากคุณ : ^naive^ - [ 4 ก.ย. 46 20:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "Think Tank" เป็นอัลบั้มที่เหมือนยาปฏิชีวนะ ต้องกินให้ครบdoseถึงจะออกฤทธิ์ได้ดี เช่นกัน การฟัง Think Tank ควรจะให้เวลากับมัน สัก4-5รอบไป จะซึมซับเข้าอกเข้าใจความหวานในรสชาติแปลกใหม่ ที่เบลอร์แสดงให้เห็นถึงความหลักแหลมในการทำเพลงที่นอกจากจะไม่ยอมย้อนรอยตนเองนำของเก่ามาขายใหม่แล้ว ยังล้ำหน้าผู้อื่นไปครึ่งก้าวอีกด้วย (แต่เทียบกับ "13" แล้ว เบลอร์ตอนนั้นล้ำหน้ากว่าชาวบ้านไปสักสองก้าวได้) ถึงแม้อัลบั้มนี้จะอ่อนด้อยในเรื่องความเป็น pop กว่าที่ผ่านๆมาอย่างมาก เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อมั่นได้ว่าเบลอร์ยังคงต้องวนเวียนไปในกระแสหลักของวงการดนตรีได้อีกนานแสนนาน จากคุณ : ^naive^ - [ 4 ก.ย. 46 20:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะให้วิจารณ์ว่าอะไรล่ะ ในเมื่อมันเป็นการวิจารณ์ ที่ใช้ความเห็นส่วนตัวในการเขียน มันจึงไม่มีผิดไม่มีถูกอยู่แล้ว มันไม่ใช่การวิเคราะห์นี่นา ที่จะต้องีหลักการที่แน่นอน แต่คุณเขียนเก่งจัง ยาวดี มีความรู้ด้วย... จากคุณ : นายไผ่ - [ 4 ก.ย. 46 21:57:17 A:202.57.165.53 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีครับเยี่ยมครับ ถือว่าครบสูตร การวิจารณ์อย่างมีสีสันนะครับ มีข้อมูลใช่ได้ นะครับ ส่วนเรื่องที่นักวิจารณ์ที่ไม่ค่อยชอบก็เกิดมาจากโรค ตีตัวไปก่อนไข้ ไม่มี Graham เพลงก็หมดขลัง Fatboy slim เข้ามา เดี๋ยวมันก็เหมือน Gollilaz เฮ้อ คิดกันอย่างนี้แหละถึงเป็นอัลบั้ม เพลงดี แต่ไม่มีใครใยดี จากคุณ : Brad Pitt - [ 4 ก.ย. 46 21:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดีจังครับ วงเล็บเยอะไปนิด... จากคุณ : winston - [ 4 ก.ย. 46 23:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 In my opinion, being a good reviewer, you don't need to describe everything unnecessary. The passages above are too long for making the readers understand this album's overview. Boringly, you have got a lot of detail but you didn't focus on any real background, strengths and weaknesses. Just make it clearly and engage the readers to be able to follow what you wanna talk to them. Thanks, man จากคุณ : Metallurgist - [ 5 ก.ย. 46 07:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับ Metallurgist ครับพ้ม... จากคุณ : นายก๊วก - [ 5 ก.ย. 46 13:35:50 A:202.28.24.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 เขียนดี อ่านสนุก แต่เนื่องจากยังไม่ได้ฟังชุดนี้ จึงไม่สามารถแชร์ไอเดียว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร แต่อยากแนะนำเสริมต่อจากคุณ Winston นิดหน่อยเรื่องวงเล็บครับ ตอนผมหัดเขียนใหม่ๆ ด้วยความร้อนวิชา ก็ชอบแทรกวงเล็บเยอะๆ แต่ต่อมาก็พบว่าวงเล็บบางครั้งก็เบรคความต่อเนื่องในการอ่านใจความหลัก ยิ่งถ้าบทความในวงเล็บยาวเกินไปมันอาจพาคนอ่านออกนอกสิ่งที่เรากำลังจะเล่าอยู่ไกลเกินไป ทำให้การเล่าเรื่องสะดุด หรือดึงกลับมายาก ส่วนเครื่องหมาย "!" ผมก็จะพยายามใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะถ้า "ตกใจ" บ่อยเกินไป Impact ของมันก็จะเจือจางลง หวังว่าคงจะได้ประโยชน์นะครับ จากคุณ : Sam - [ 7 ก.ย. 46 10:57:25 A:203.209.19.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้อ...เห็นด้วยกับคุณ Metallurgist เช่นกันครับ จากคุณ : Sam - [ 7 ก.ย. 46 10:58:31 A:203.209.19.30 X: ]