ความเป็นมาของเพลง "น้ำเหนือบ่า"

    ความเป็นมาของเพลง "น้ำเหนือบ่า"

    เขียนโดย ... ครูพิมพ์ พวงนาค (ผู้แต่งเพลง)
    ๔ กันยายน ๒๕๓๒

    เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวงานสงกรานต์ เชียงใหม่ โดยร่วมไปกับเพื่อนประมาณ ๒๐ คน ค่ารถไฟนำเที่ยวสงกรานต์ คนละ ๑๐ บาท สมัยนั้นจังหวัดเชียงใหม่ยังมีวัฒนธรรมยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะในทางพุทธศาสนา หรือขนบธรรมเนียมของชาวเชียงใหม่ มีอยู่พร้อมบริบูรณ์ และรอยยิ้มที่ชาวกรุงเทพฯ ได้รับจากการต้อนรับ ยังประทับใจของพวกเราอย่างไม่มีวันลืม

    ผมจะไม่กล่าวอะไรให้มากความ จะขอเท้าความเป็นมาของเพลง "น้ำเหนือบ่า" ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไร

    ในวันที่ผมได้ไปเที่ยวที่น้ำตกห้วยแก้ว ผมนั่งอยู่บนโขดหิน ริมแอ่งน้ำ มองดูสาว ๆ ชาวเหนือที่เขามาเล่นน้ำอยู่ที่แอ่งน้ำอย่างสนุกสนาน

    พอดีสาวหนึ่งในกลุ่มของพวกเธอวักน้ำสาดเพื่อนสาว พอเพื่อนจะวักน้ำสาดเอาบ้าง เธอผู้นั้นก็ผละจากหมู่ ว่ายออกไปยังกลางแอ่งน้ำ และดำผุดดำว่ายอย่างเพลิดเพลิน

    จะว่าเป็นการบังเอิญหรืออะไรก็ตามเถอะ ขณะที่เธอดำน้ำ และโผล่ขึ้นมาระหว่างกระแสน้ำที่พุ่งลงมาจากหน้าผา ด้วยความแรงของน้ำที่พุ่งลงมา ทำให้ผ้ากระโจมอกของเธอหลุดออกจากร่าง ทำให้กายที่ปราศจากเครื่องปกปิดมองเห็นได้ชัด ผมเห็นสาวเพื่อนของเธอหยิบเอาผ้าอีกผืนหนึ่งรีบว่ายเข้าไปหาร่างที่เปล่าเปลือย ที่น่าสงสารผู้นั้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อถึงตัวก็ส่งผ้าผืนนั้นให้ เมื่อสวมใส่เรียบร้อยต่างก็พากันว่ายเข้าหาริมแอ่งน้ำ และก็รีบพากันออกไปจากที่นั้นอย่างไม่ยอมมองดูผู้คนที่อยู่ในที่นั้นเลย เพราะความอาย

    เมื่อผมกลับจากเชียงใหม่ ตั้งใจจะเขียนเพลงสักเพลง จิตใจก็คิดไปถึงภาพของสาวเชียงใหม่ที่อาบน้ำ

    ทำให้เกิดจินตนาการ ทำให้เห็นภาพร่างที่เปล่าเปลือย มองเห็นประทุมทั้งคู่สั่นกระเพื่อม ๆ อยู่ไหว ๆ ผมจึงได้วางโครงเรื่องที่จะเขียนเพลง โดยนักเอาคำว่า "น้ำเหนือบ่า" ขึ้นมาตั้งต้น แล้วก็นึกไปถึงเพลงซุ้มของเพลงไทยเดิมขึ้นมา

    เมื่อผมได้แต่งทำนองขึ้นแล้ว จึงได้เขียนคำลงทีหลัง โดยขึ้นต้นว่า

    น้ำเหนือบ่า เมื่อหน้าน้ำ ที่ลุ่มที่ต่ำ ก็นองด้วยน้ำทั่วไป จะมองไปทางทิศใด ก็เห็นแต่น้ำไหลนอง

    เมื่อหน้าแล้ง น้ำแห้งหาย ลำห้วยทั้งหลาย คงเหลือแต่ทรายมากอง ไม่งามเหมือนยามน้ำนอง ยิ่งมองยิ่งเศร้าหัวใจ

    ห้วยเจิ่งน้ำแลงามกระไร มีสาว ๆ มาแหวกมาว่าย เล่นน้ำใสกันคึกคะนอง ต่างหยอกต่างเย้า คราเจ้าลำพอง

    ยามมองพาให้เสียวซ่านใจ เห็นแต่ร่างว่ายอยู่ไหว ๆ บัวบังใบสั่นสะเทือน

    โอ้...โอ สาวชาวเวียงเหนือ แม่ช่างงามเหลือเกิน ผิวเนื้อเมื่อพิศติดเตือน ใจสะทกอกสะเทือน งามติดเตือนตรึงใจ


    และยังมีอีกหลายเพลงที่แต่งไว้ในสมัยนั้น

    ต่อจากนั้นผมก็นำเอาเพลง "น้ำเหนือบ่า" มาต่อให้กับ คุณจุรี โมรากุล ชื่อในสมัยนั้น และได้นำเพลงนี้มาขายให้กับนาย ต. เง็กชวน และ นาย ต. เง็กชวน ได้ขอซื้อเพลง "สกุณาพาคู่" อีกเพลงหนึ่งให้ประกบคู่กับเพลงน้ำเหนือบ่า โดย นาย ต. เง็กชวน ขอให้ผมร้องคู่กับคุณจุรี โมรากุล และไม่ให้ผมปฏิเสธเป็นอันขาด ผมจึงกลายเป็นนักร้องกับเขาโดยประการฉะนี้

    ขอจบอันเป็นที่มาของเพลง "น้ำเหนือบ่า" ไว้เพียงท่านี้

     
     

    จากคุณ : เทพกร บวรศิลป์ - [ 24 พ.ย. 46 21:29:34 ]