ความคิดเห็นที่ 1
กลุ่มศิลปินเริ่มแรกที่ควรจะศึกษาและนำมาเป็นแนวทางในการฟัง ถ้าจัดอันดับแถวหน้าของดนตรีประเภทนี้วงที่ติด 1 ใน 5 แน่นอนสำหรับผม Teenage fanclub,Gorkys Zygotic Mynci, (Belle and sebastian,Tahiti 80 ),The Breeders,Mojave 3 ,idlewild ,Interpol (3 วงสุดท้ายผมจัดให้อยู่ในอันดับเดียวนะครับด้วยวัยวุฒิของตัวผลงานเพลงเอง)
แต่นั้นยังไม่หลากหลายพอ ยังมีวงอื่นๆอีกอย่าง Bill richini, Reizoko,Styrofoam,Beulah,Elbow,Biffy clyro,mogwai,massive attack,,sigur ros ,cornelius ,Polyphonic spree,Tenacious D,Trembling blue stars,portishead ,Longview,Longwave,Ben Kweller,Reindeer section (เป็นการรวมตัวกันทำงานของกลุ่มนักดนตรีอินดี้ นำทีมโดยกลุ่มนักดนตรีในค่าย jeepster record)และงานของศิลปินในกลุ่ม SarahRecord เหล่านี้คือตัวอย่างที่น่าสนใจในการที่จะนำมาศึกษา
ดังนั้นจึงขอจำแนกออกเป็นแบบทดสอบ เป็น 3 กลุ่มเหมือนศิลปินไทยที่เราได้นำมาทดสอบกันแล้ว
กลุ่มที่ 1 คือ Indie rock คำนี้กว้างมาก แต่ก็ต้องกำหนดขอบเขตก่อน ถ้าในกรณีคงเป็นงานเพลงร็อคจากค่ายหรือสังกัดเล็ก ที่มีอิสระในการทำเพลงไม่ไปอิงกับตลาดหรือกระแสดนตรีหลัก(mainstream) และก็เป็นที่รู้จักกันในวงแคบ(แต่อนาคตไม่แน่พวกเขาเหล่านี้ อาจจะเป็นตัวกำหนดกระแสความนิยมต่อไปได้ ถ้ามีการเผยแพร่และเป็นที่รู้จักมากๆ) หรือบางวงที่เป็นอินดี้ร็อค แล้วดังระเบิดถูกจับมาเป็นกระแส ก็มีแต่ตรงนั้นเราจะไม่พูดถึงเพราะมันเป็นรู้จักกันในหมู่กว้างแล้ว พูดไปมันก็ไม่ทำให้คุณได้อะไรใหม่ๆอยู่ดี
แต่มันเป็นความโชคดีของคนรุ่นใหม่ที่มี Network ที่ก้าวหน้าโลกถูกเชื่อมเข้าหากันหมด ดังนั้นมันไม่ยากเลย ถ้าอยากจะคิดหาติดตามงานเพลงเหล่านี้มาฟัง เพราะกลุ่มศิลปินเหล่านี้ ก็มีการเผยแพร่งานกันในทางนี้อยู่ ด้วยต้นทุนที่ต่ำและได้ผลเกินคาด ศิลปินระดับหัวแถวที่จะยกตัวอย่างก็คงหนีไม่พ้น The Breeders, Mojave 3 ,idlewild ,Interpol, Teenage fanclub ,Gorkys Zygotic Mynci, Belle and sebastian, tahiti 80
Mojave 3 อยากพูดถึงวงนี้ก่อนเพราะเป็นวงโปรด วงแรกของกระแสนี้ที่รู้จัก Mojave 3 เป็นวงอัลเตอร์เนทีฟร็อคฝั่งอังกฤษ ที่มีซาวด์นละมุ่นละไม เซอร์มีการผสมผสานเครื่องเป่าได้อย่างลงตัว วงนี้โดยการนำของ Neil Halstead (เคยออกงานเดี่ยว และ งานในวง Slowdive มีสมาชิค Rachel Goswell and Ian McCutcheon ) สมาชิควง mojave 3 ประกอบด้วย สมาชิคเก่าวง slowdrive อย่าง Rachel Goswell ,Ian McCutcheon และ Neil Halstead เพิ่ม Simon Rowe ในตำแหน่งกีตาร์อีกคน ออกอัลบั้มมาแล้ว 4 ชุด ในสังกัด 4AD Ask Me Tomorrow (1996), Out of Tune (1998), Excuses for Travellers (2000), Spoon and Rafter (2003) งานที่อยากแนะนำคือ Excuses for Travllers ต้องบอกก่อนว่างานของวงนี้อยู่ในระดับ 4 ดาวทุกชุดเลย แต่ความแตกต่างนั้นมีให้เห็นไม่ซ้ำกันแน่ แต่ก็ไม่ทิ้งห่างกันนักในเรื่องซาวด์น อัลบั้มแรก Ask Me Tomorrow อารมณ์โดยรวม เป็นงานต้องห้ามสำหรับคนที่พึ่งอกหักมา เรียกได้ว่างานนี้อ้อยอิ่งมาก เพลงจะออกมาเศร้ามาก คิดดูให้เทคนิค สไลด์กีตาร์ มันจะเศร้าแค่ไหน แถมเสียงของ Rachel Goswell ซี่งเป็นสมาชิคหญิงคนเดียวในวง เสียงเธอหวานกังวาลมาก อัลบั้มนี้จะทำให้เราจมปักอยู่กับความเศร้ามากไป Out of tune เป็นงานชิ้นที่ 2 ในนาม Mojave 3 (โมอะเว 3) งานนี้ก็ยังเป็นงานที่มืดมนทางอารมณ์หาทางออกยังไม่เยอะ เป็นงานละมุ่นละไม ไปทางเศร้าอีกแล้ว แต่ความแตกต่างที่จับได้คือ อัลบั้มนี้จะมีการเพิ่มส่วนของคีย์บอร์ดเข้ามา จึงทำให้เพลงไม่เงียบไปนัก และแน่นอนกีตาร์ถูกจับใส่ ดีสตรอชั่นมากขึ้น เพลงเศร้าๆ มีให้เห็นตลอด แต่มันถูดทำให้รกขึ้น ดังนั้นงานนี้จึงทำให้ คนขี้แพ้ไม่เอาไหน อย่างร็อบ(High fidelity) ดูดีขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่รู้จะไงงานของ โมอะเว มันมีความดีทุกอัลบั้ม แต่ผมให้ Excuses for Travellers นำดีกว่าเพราะด้วยความหลากหลายของตัวงาน มันมีพัฒนาการภายในตัวเองงานเอง ของทั้งสองอัลบั้มแรกรวมกัน ในอัลบั้มนี้จะเพิ่ม เบนโจเข้ามาอีก ไม่จมปักเกินไป ถึงแม้จะขี้แพ้ แต่ก็ยังมี Got my sunshine ไว้ปลอบใจ เอ่อลืมบอกไป อัลบั้มนี้ แผ่นที่ออกในฝั่ง us จะมี 2 เพลงอย่าง Krazy Koz, Always right เพิ่มมาอีก หามาฟังดู อัลบั้มล่าสุดของโมอะเว ที่ออกปีนี้ ดูท่าพวกเขาจะทำงานพยายามให้ขึ้นหิงนะ ดูจากงานเพลงเปิดตัวอัลบั้มอย่าง Bluebird of happiness ดูแล้วพวกเขาบรรจงทำมันมากที่เด่นชัดมีการเพิ่มซาวด์นสังเคราะห์เข้ามาอีก ตรงนี้ทำให้อัลบั้มนี้ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงแต่อารมณ์เพลงยังไม่หนีจาก ไอ้ขี้แพ้คนเดิม ถ้าจะเริ่มรู้จักวงนี้คงแนะนำ อัลบั้ม excuses for travellers ไปฟังก่อน ถ้าติดใจค่อยตามหาตามรายชื่อมาฟัง
Gorkys Zygotic Mynci Gorky s Zygotic Mynci สำหรับผมถือเป็นหัวหอกทะลวงฟันของวงการดนตรีนอกกระแส ถ้าจัดอันดับแถวหน้าของดนตรีประเภทนี้ วงนี้ติด 1 ใน 5 แน่นอน สำหรับซาวด์นดนตรี จะออกมาในยุค 70 เลยซาวด์นบางๆ ไม่ค่อยแน่นเอฟเฟคอะไรมา แต่มีส่วนผสมของดนตรีที่หลากหลาย (ซินธีไซท์ ,ไวโอลิน) และสำเนียงกีตาร์ที่เป็น Punky ดูจะทันสมัยมากถ้าเทียบกับงานที่ออกในช่วงยุค 90 ต้นๆ ถือว่างานของ gorky มีความแปลกใหม่มาก ส่วนสำคัญอีกอย่างที่เพลงของ gorky น่าสนใจคือเสียงของ Euros ที่หวานออกไปทางป็อปได้สบายๆ แนวเพลงบางเพลงจะออกไปทาง Psychedelia อยู่บ้าง
ผมทำงานเป็นพนักงานเสิร์ทในร้านกาแฟแห่งหนึ่งตรงเซ็นทรัลลาดพร้าว คุณเชื่อมั้ยคนที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตชีวาแล้ว ไม่ต่างอะไรที่เราต้องมานั่งกินกาแฟทุกครั้งเมื่อถึงเวลาที่ร่างกายเรียกร้องมัน แต่การฟังเพลง - อึมมผมเรียกว่าการเสพบทเพลงดีกว่า เพราะถ้าได้มาถึงขั้นนี้แล้ว คนพวกนี้จะเรียกว่า ติดบทเพลง ก็ว่าได้ แต่การเสพบทเพลงมันต่างจากกาแฟตรงที่ อย. เขาไม่ห้ามให้คุณเสพเยอะ เพราะเพลงมันไม่มีอันตรายต่อร่างกาย เพลงมันไม่มีคาเฟอิน แต่มันมีฤทธิ์ทำให้คุณติดได้
วันหนึ่งๆ คนเหล่านี้ฟังเพลงไปกี่เพลง ไม่มีสถิติไว้หรอก แต่ถ้าจะให้เอาตัวเองเป็นตัวอ้างแล้ว ผมฟังวันหนึ่งๆ อย่างต่ำๆ 5 อัลบั้ม (ผมว่ายังน้อยไปน่ะ)มันก็เหมือนทั่วไป ต้องมี walkman ติดตัว ตอนเช้าก่อนมาทำงานชุดเครื่องเสียงของคุณต้องถูกใช้งานให้เปิดเพลงโปรดของคุณเพลงที่ผ่อนคลายๆ แต่งตัวไปคุณฮัมเมโลดี้เพลงนั้นในสมอง ตอนเช้าผมชอบเปิดเพลงสบายๆ นอกจากวันไหนดาว์นจริงๆ ผมจะยัด mogwai ใส่ (nirvana , idlewild ,longwave ได้หมด) แน่นอนวงนี้ เพื่อนบอกว่าเป็น Space Rock มีความยาวเพลงหนึ่ง อย่างต่ำ 10 นาที ผมชอบเปิด Fear satan เพลงนี้ยาว 16 นาทีกว่าดังนั้นถ้าผมฟังเพลงนี้ 2 รอบในตอนเช้า แสดงว่าผมเสียเวลาไปกับมัน 30 นาที
โอเคไว้ว่างๆ ผมจะเล่ารายละเอียดวงนี้ให้ฟังที่หลัง ผมต้องออกไปทำงานแล้ว วันนี้สายแล้ว gorky มันรายละเอียดเยอะไว้จะเล่าต่อ
จากคุณ :
my december
- [
15 ธ.ค. 46 11:44:15
A:203.149.45.24 X:unknown
]
|
|
|