ช่วงนี้เป็นช่วงโปรโมท magic kitchen นะคะ จะมีข่าวออกมาทุกวัน มีคลิปทุกวันจนโหลดแทบไม่ไหว คร่าวๆ นะคะ เท่าที่ทราบคือวันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มจากเซี่ยงไฮ้ วันเสาร์ที่กว่างโจว วันอาทิตย์ที่เซินเจิ้น ส่วนสัปดาห์หน้าไม่ทราบละเอียด เข้าใจว่าน่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย

รวมข่าวสรุปย่อๆ จาก นสพ. (ไม่ใช่คลิปนะคะ ก็เลยไม่รู้ว่าเค้าพูดกันยังงั้นจริงไม๊) ช่วงที่ไปโปรโมทที่เซี่ยงไฮ้นะคะ เนื้อหาแต่ละข่าวจะคล้ายๆ กันค่ะ บางทีก็ซ้ำกับสิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์แล้ว เอาเฉพาะช็อตเด็ดแล้วกันนะคะ
-มีฉบบับนึงพาดหัวว่าเป้าหลงกลายเป็นเสี่ยวไป่ทู่ เค้าว่าเจอร์รี่มางานนี้ไม่มีท่าทีดุร้ายหรือพยศแบบเป้าหลงเลยแต่กลับมีอารมณืขันอ่อนน้อมเหมือนกระต่ายน้อย
ขนักข่าวถามว่าทำไมเจอร์รี่ถึงได้รับเล่นหนังเรื่องนี้ซึ่งเป็นหนังตลาด (คือเน้นเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่พวกหนังเอากล่อง) เจอร์รี่ก็ตอบว่า เหตุผลหลักก็คือฝีมือการแสดงของตัวเองยังไม่ดี ก็เลยเลือกบทที่มีลักษณะใกล้เคียงกับตัวเองถึงจะมั่นใจ นักข่าวถามว่าบทนี้มีอะไรเหมือนกับตัวเค้าบ้าง เจอร์รี่ก็หัวเราะตอบว่า เค้าทำอาหารเป็นเช่น เนื้อผัดต้นหอม ไข่ต้ม แล้วก้พูดเรื่องเดิมว่าเป็นคนขี้อาย ได้แต่แอบรักคนอื่น อยู่เงียบๆ ข้างเธอ แค่เห็นเธอก็ดีใจ  แล้วก็บอกว่าตอนมัธยมเคยรักผู้หญิงคนนึง 3 ปี แต่ในที่สุดก็ไม่กล้าบอกเธอ อีกฉบับบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นรุ่นพี่ (แต่อีกฉบับบอกว่าเพื่อนร่วมชั้น) เธอชอบร้องเพลง เข้าประกวดทุกงาน
-เจอร์รี่บอกว่ารู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ไม่กล้าบอก ตอนนี้ไม่ได้เจอเธอมา 4 ปีแล้ว นักข่าวถามว่าถ้าตอนนี้หลงรักใครเข้าจะทำยังไง เจอร์รี่บอกว่าไม่รู้ อาจทำเหมือนพวก Se Lang (จิ้งจอกบ้าผู้หญิง คือพวกคนที่บ้าผู้หญิง) ใช้สายตาจ้องมองเธอจนเธอละลายมั้ง นักข่าวเลยฮากันใหญ่
-พอถูกถามถึงเรื่องหนังของเอฟอื่น เจอร์รี่ก็บอกว่า Star Runner ดีมาก แล้วก็ชักชวนให้คนไปดูกัน
-เกี่ยวกับแซมมี่ เจอร์รี่บอกว่าตอนแรกคิดว่าแซมมี่เป็นดาราใหญ่ ต้องหยิ่ง เข้าหายาก ตอนแรกแทบจะจินตนาการไม่ออกว่าในฉากจะพูดว่า "ผมรักคุณ" ได้ยังไง ตอนนี้เค้าว่าแซมมี่น่ารัก เค้าเห็นแซมมี่เป็นเหมือนน้องสาวที่เพอร์เฟคท์มาก นักข่าวถามว่าเค้ามีแนวโน้มที่จะรักผู้หญิงที่มีอายุมากกว่ารึเปล่า เค้าบอกว่าเปล่า เพียงแต่เค้าไม่ได้จำกัด เค้าว่าผู้หญิงที่อายุมากกว่ามีความเป็นผู้ใหญ่แล้วก็มีเสน่ห์ของตัวเอง มีนักข่าวถามว่าเค้าจะหลงรักแซมมี่ไม๊ เจอร์รี่กระอักกระอ่วนมาก ตอบว่าไม่รู้ (แต่ที่ตลกคือตอนตอบว่าไม่รู้ แล้วก็เอ้อๆ อ้าๆ พูดว่าตุ้ย อา ตุ้ย อา แล้วก็บอกว่าไม่รู้ อันนี้เห็นในคลิปค่ะ แล้วก็มีคนเล่าในกระทู้จีนด้วย นักข่าวหัวเราะกันใหญ่ บางคนก็เอาไปเขียนมั่ว ว่าเค้ายอมรับ เพราะ ตุ้ย อา มันแปลว่าใช่ แต่ จริงๆ แล้วมันเป็นคำพูดที่เค้าติดปาก เวลาคิดไม่ออก ว่าจะพูดยังไงดี ก็เลยมีแฟนๆ บอกว่าคราวหน้าถ้าเจอเค้าต้องบอกว่าให้เลิกพูดคำว่าตุ้ย อา ตุ้ย อา ซักที)
-แฟนๆ ของเจอร์รี่มากันเต็มไปหมด ตะโกนแต่ชื่อเค้า นักข่าวว่าเป็นครั้งแรกที่แซมมี่ซึ่งปกติจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนๆ มาตลอด กลายเป็นเหมือนถูกทิ้ง ไม่มีใครสนใจ แต่แซมมี่ก้บอกว่าเครียมใจไว้แล้ว ส่วนเจอร์รี่ก็ดีกับแซมมี่มาก ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษตลอด เช่นลากเก้าอี้ให้แซมมี่  มีฉบับนึงบอกว่าตอนมีคนแซวว่ามีแต่แฟนๆ ของเจอร์รี่มาตะโกนแต่ชื่อเจอร์รี่ เจอร์รี่บอกว่าเค้าตื่นเต้นมาก ก้เลยจ้างแฟนๆ ของแซมมี่ให้ตะโกนเรียกชื่อเค้าด้วย
-เจอร์รี่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเฉยๆ เวลาทำงานคนจะคิดว่าเข้าหายาก เค้าเป็นคนทำอะไรในกรอบ เป็นขั้นเป็นตอน  เค้าเองยังกลัวที่สุดที่ต้องทำงานกับคนที่เฉยๆ แบบเค้า เพราะต่างคนต่างไม่พูด คงร่วมงานกันยาก แต่โชคดีที่ทั้งแซมมี่กับหวาไจ๋เป็นคนที่สนุกสนานกว่า จะเป็นคนที่เข้ามาชวนเค้าคุยก่อน ทำให้เค้าไม่ตื่นเต้น แล้วสองคนนี้ก็เป็นคนตรงต่อเวลา แล้วก็เป็นมืออาชีพมาก
-เจอร์รี่บอกว่าตัวเองไม่โรแมนติกเลย เรื่องโรแมนติกที่เคยทำครั้งเดียวก็ทำตามจากละครเกาหลีญี่ปุ่นที่ดูมา ตอนนี้คิดกลับไปรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก แล้วก้ไม่โรแมนติกเลย
-อันนี้เป็นความรู้ใหม่ เจอร์รี่ชอบใช้วิธีเขียนจดหมาย เพราะอาย ไม่กล้าพูดแบบประจันหน้า แล้วที่ใส่แว่นกันแดด ก็เพราะรู้สึกว่าสามารถหลบสายตาคนได้
-มีฉบับนึงบอกว่าเจอร์รี่กว่าจะออกมาหน้าเวทีแต่งตัวนานมาก หวีผมประมาณ 20 นาที แล้วก็ต้องทาปาก ขั้นตอนเยอะมาก แต่พอให้สัมภาษณ์กลับพูดตรงไปตรงมา ซื่อๆ ไม่เหมือนคนหยุมหยิมต้องแต่งตัวนานขนาดนั้น
-แซมมี่บอกว่าเจอร์รี่เป็นคนเซ้นซิถีฟ เป็นคนมีศิลปะ เป็นสุภาพบุรุษ หลังจากรู้จักและร่วมงานกัน รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่ลักษณะภายนอกกับภายในไม่เหมือนกัน หลังจากร่วมงานกันถึงรู้ว่าเค้าเป็นคนละเอียดอ่อน แล้วก็เซ้นซิถีฟ เป็นคนที่สะเทือนใจง่าย เกี่ยวกับการแสดง แซมมี่ไม่กล้าวิจารณ์ บอกแต่ว่าเค้าเป็นคนทำงานจริงจังมาก แม้ว่าเป็นการแสดงหนังครั้งแรกของเค้า แต่เวลาเข้าฉากด้วยกันก็ราบรื่นมากอีกฉบบับบอกว่าแซมมี่บอกว่ามีฉากนึงเป็นฉากเศร้า เธอรู้สึกว่าเจอร์รี่แสดงดีมาก แล้วงงมาที่เห็นเจอร์รี่มีน้ำตาออกมาจริงๆ อีกฉบับบอกว่าเจอร์รี่เป็นคน introvert (คือว่าไม่ค่อยพูด เก็บไว้ในใจ) ปกติไม่ค่อยพูด เธอชอบตาของเค้ามาก (เพราะว่าอะไรไม่รู้แปลไม่ออก ประมาณว่าใสปิ๊ง) คนที่เข้าใจเค้าจะสามารถรู้สิ่งที่เค้าต้องการจะสื่อออกมาได้จากแววตาของเค้า เค้าเป็นคนเอื้ออาทรคนอื่น อยู่กับเค้าแล้วรู้สึกอบอุ่น (อันนี้งงมาก ไม่รู้แซมมี่พูดจริงรึเปล่า แต่รู้สึกว่าจะเขียนเว่อไปหน่อยนะ)
-ผกก. บอกว่าเค้าไม่ได้ร่วมคาสติ้งตัวละคร ทีแรกเลยรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเจอร์รี่ เค้าคิดว่าเจอร์รี่ไม่เคยเล่นหนังเลย จะไหวเหรอ แต่พอร่วมงานถึงรู้ว่าเค้าโดดเด่นมาก ขยันแล้วก็ตั้งใจมาก ขนาดฉากง่ายๆ ที่เค้าว่าผ่านแล้ว เจอร์รี่ยังขอเอาใหม่เพราะรู้สึกว่ายังไม่ดีที่สุด ผกก บอกด้วยว่าการแสดงของเจอร์รี่ดีกว่าที่เค้าคิดไว้มากๆๆๆ เทียบกับเรื่อง MG แล้วดีขึ้นเยอะมาก เป็นนักแสดงที่มีศักยภาพมาก แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ผกก. ปวดหัวเหมือนกันคือในช่วงแรก คือเจอร์รี่ปกติไม่ค่อยพูด เป็นคน introvert แถมบางทียังขี้อายอีก ซึ่งเป็นอุปสรรคมากในการสื่อสารระหว่างการถ่ายทำ แต่โชคดีที่อาการนี้เป็นไม่นาน หลังจากสนิทกัน ก็ราบรื่นขึ้น แต่เนื่องจากเป็นหนังเรื่องแรกของเจอร์รี่ ฉากที่เป็นบทพูด ผกก จะใช้เวลากับเค้ามากที่สุด เกี่ยวกับเรื่องอารมณ์แปรปรวน ผกก บอกว่าไม่เห็นรู้สึกว่าเป็นนะ
-อันนี้แปลกดี เจอร์รี่บอกว่าดูหนังของแวนเนส เห็นเพื่อนสนิทกอดจูบกับผู้หญิงแปลกหน้า รู้สึกแปลกๆ นักข่าวถามว่าอยากเชิญให้เอฟอื่นมาดูหนังไม๊ เจอร์รี่บอกว่าไม่ค่อยอยาก เพราะอาย กลัวพวกนั้นหัวเราะเยาะ
-เจอร์รี่บอกว่าโอกาสที่จะเล่นละครกับเอฟอื่นก็มี แต่หวังว่าบทจะเฉลี่ยเท่าๆ กันหน่อย
-เจอร์รี่บอกว่าการแสดงของเค้ายังไม่ถึงขั้นมืออาชีพ ในฉากอารมณ์ของคนสองคน แต่มีคนดูอยู่ 400-500 คน จะให้เป็นธรรมชาติเหมือนส่องกระจกอยู่ที่บ้านคงทำไม่ได้
-เจอร์รี่ดูเรื่อง I am Sam ของฌอน เพนน์ แล้วร้องไห้ขนาดหนัก เพราะคิดถึงครอบครัวของตัวเองที่เป็น Single parent family เหมือนกัน เจอร์รี่อยากเล่นบทนี้มาก
-เจอร์รี่ชอบหนังรักของเกาหลีมาก เช่น my sassy girl แล้วอีกเรื่องไม่รู้คือเรื่องอะไร Ai You Tian Yi แปลว่ารักมีลิขิต อะไรประมาณนี้ แต่อีกเรื่องที่ดู 6 รอบคือ Hua Yang Nian Hua (แปลว่าเวลาที่งดงามที่ผ่านไป)
-อันนี้ก็งง เค้าว่าถ้าเจอคนที่รักแล้วถึงเวลาจะทำแบบทาคุยะ คือแต่งงานเลย จะไม่แคร์ปฏิกิริยาของแฟนๆ
-เกี่ยวกับพวกเหตุการ์ณ์ที่แฟนๆ รุมล้อม เจอร์รี่บอกว่าให้แฟนๆ ระวังตัวหน่อย เค้ากลัวว่าจะมีคนถูกเหยียบตาย
-เจอร์รี่ว่าหลิวเต๋อหัวหล่อมา ตาปล่อยกระแสไฟได้ แล้วก็ดีกับเค้ามาก สอนเค้าหลายอย่าง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แถมของกว่างโจว

-งานที่กว่างโจว นสพ บอกว่าบนเวทีเห็นได้ชัดว่าเจอร์รี่ยังไม่ทิ้งความเป็นเด็กๆ ชอบมีท่าทางอะไรไม่รู้ (น่าจะเกิดจากความตื่นเต้น) ตอนจบของงานจะมีเขียนตัวหนังสือ นสพ. บอกว่าแซมมี่ก็ทำท่าวาดแบบสง่างาม แต่เจอร์รรี่ท่าทางขีดทีละเส้นเหมือนเด็กทำการบ้านอย่างตั้งใจ
-นสพ. ว่าสองคนนี้ไม่อนามัยเลย ไม่ได้ใส่ผ้าปิดปากทั้งๆ ที่มีปัญหาซาร์สที่นี่ ตอนทำเค้กก็ไม่ใส่ถุงมือ แล้วก็ไมค์อันเดียวก็ใช้ร่วมกันตั้งหลายคน ที่หนักสุดก็คือเจอร์รี่คนดีที่แอบหยิบสตอเบอร์รี่กินด้วยมือเปล่าโดยไม่ล้างมือบนเวทีต่อหน้าคนทั้งหมด

เอาไว้ค่อยมาต่อนะคะ (เหนื่อยแล้ว)

แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 47 18:21:18