<<JBC>> บทสัมภาษณ์ JERRY จากนิตยสาร I-WEEKLY ของสิงคโปร์ (คมมาก!!! แฟนคุณชายไม่ควรพลาด)

    อีกหนึ่งบทสัมภาษณ์ของคุณชายเมื่อครั้งไปโปรโมทหนัง Magic Kitchen ที่สิงคโปร์ โดยนิตยสาร I-WEEKLY ค่ะ อ่านแล้วชอบมากๆๆๆๆ (เอ่อ......แบบว่าคุณชายทำอะไรก็ชอบไปหมดเลยน่ะค่ะ อิอิ ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้นะคะ ^_^) ขอแสดงความเห็นส่วนตัวไว้ตรงนี้ก่อนว่า ชอบการพูดจาของคุณชายมากค่ะ คำพูดเฉียบขาดและคมมากๆๆๆ แล้วก็คิดว่าคุณชายเธอเป็นคนฉลาดพูด ฉลาดคิด ฉลาดทำ แล้วก็ฉลาดหล่อด้วยอ่าาาาาา 5555555 อยากรู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่ตัวข้าพเจ้าแสดงความเห็นไว้หรือเปล่า ต้องลองอ่านดูนะคะ พยายามแปลโดยรักษาความหมายให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุดเลยนะคะ เพราะอยากถ่ายทอดเต็มๆ เลยว่า คุณชายเธอพูดอะไรบ้าง งานนี้คมมากๆ คมจนอาจมีเลือดไหลซิบๆ ด้วยนะคะ (อ้อ...ส่วนตรงไหนที่ตัวเองคิดว่าไม่รู้จะถอดความว่าอะไรดี ก็ขอคำแนะนำจากเพื่อนชาวไต้หวันแล้วด้วยนะคะ ถ้าหากยังผิดพลาดประการใดขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวค่ะ ^v^)

    “ตัวตนของเหยียนเฉิงซวี่”

    พูดถึงอาซวี่ นักข่าวให้คำจำกัดความเกี่ยวกับตัวเค้าเยอะแยะมากมาย เข้ากับคนยาก เรื่องมาก อารมณ์แปรปรวน หนำซ้ำยังอาจจะถูกห้ามสัมภาษณ์หรือถ่ายรูปจากผู้จัดการของเค้า ซึ่งการนัดหมายและสื่อสารกันล่วงหน้าก็แสนจะลำบากลำบนซะจริงๆ ทั้งหมดนี้คือ ภาพของเค้าที่ถูกมองมาโดยตลอด

    แต่ทว่า....แต่ไหนแต่ไร ชั้นเชื่อสิ่งที่ตัวเองประสบมาด้วยตัวเองมากกว่า

    เหยียนเฉิงซวี่ที่ชั้นสัมภาษณ์เค้าแบบตัวต่อตัวที่สิงคโปร์ เผยรอยยิ้มให้เห็นตลอดเวลา ช่างทำให้รู้สึกถึงความสนิทสนมกันเองซะจริงๆ

    >>>  “ผมอ่านนิตยสารของคุณแล้ว ดีมากเลย จริงๆ นะ”

    ตอนที่เห็นเค้า ใบหน้าเค้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ยิ่งเมื่อผมเห็นหัวข้อโหวต “หนุ่มมาดแมนแห่งวงการบันเทิงของเอเชีย” ผมได้อันดับหนึ่ง ผมยังคิดว่านานมาแล้วที่ไม่ได้มาสิงคโปร์ กังวลใจมาโดยตลอดเลย” กว่าพันคนที่ไปรอที่สนามบิน งานแถลงข่าวที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนพันกว่าคนรวมไปถึงนักข่าวที่แย่งกันสัมภาษณ์จนโกลาหลวุ่นวาย แม้ว่าจะเปิดเผยตัวต่อสาธารณะชนน้อยกว่า IDOL คนอื่นๆ แต่เค้าก็ยังคงเป็นจุดสนใจของการทำข่าวอยู่นั่นเอง

    ต่างจากภาพลักษณ์ที่ภายนอกมองว่าเค้าเป็นคนเย็นชา พูดน้อย อาจจะเป็นจิตใจที่งดงาม และอาจจะเป็นเพราะเค้าเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เหยียนเฉิงซวี่ที่สวมเสื้อแจ๊คเก๊ตกีฬาสีแดง ท่าทีง่ายๆ ยิ้มอย่างเบิกบาน พูดเยอะ สายตาจับจ้องมองที่ชั้นตลอด พูดจากตรงๆ ถ่อมตัว ชั้นยอมที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินได้เห็นนี้  

    ให้เค้าดูแฟ้มข้อมูลเล่มหนาๆ ที่แฟนๆ ของเค้าส่งมาให้ เค้ามีท่าทีปลื้มใจมากๆ

    “หลายคนเข้าใจเหตุเข้าใจผล ไม่ใช่เป็นแค่พวกบ้าดาราทั่วๆ ไป บางคนเป็นถึงหัวหน้า บางคนเป็นแม่ พวกเธอดูความสามารถดูการกระทำของผมจริงๆ ผมไม่สามารถทำอะไรแบบขอไปที ผมต้องไม่ทำให้พวกเธอผิดหวังในตัวผม บทความบางอันที่พวกเธอเขียนทำให้ผมซาบซึ้งใจมาก พวกเธอแสดงความคิดเห็นต่อผมด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพียงแค่พูดจาให้ไพเราะแค่เปลือกนอกเท่านั้น สิ่งเหล่านี้กลายเป็นขุมพลังสำหรับผม บางครั้งทำงานแล้วเจอแรงกดดันหรือได้ยินได้ฟังข่าวในแง่ลบ พอได้อ่านสิ่งเหล่านี้แล้วก็ทำให้ผมเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นที่จะเผชิญหน้ากับนักข่าว”

    เค้าย้ำหนักแน่นว่า แฟนๆ มีส่วนสำคัญอย่างมากในชีวิตเค้า ถ้าพูดไปแล้วก็อาจจะขนลุก แต่ไม่รู้ทำไม ชั้นกลับเชื่อว่าเป็นความรู้สึกจากใจจริงๆ

    “ในใจของผม แฟนๆ ถือว่ายิ่งใหญ่มากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอ ผมคิดว่าผมคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก ผมอาจจะไปเป็นบ๋อยหรือทำอะไรก็ว่าไป ผมมองพวกเธอเป็นเหมือนเพื่อน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แฟนๆ ที่เห็นผมบ่อยๆ ไม่จำเป็นว่าผมจะจำชื่อเธอได้ แต่ผมก็จำหน้าตาเธอได้ มีอยู่คนนึงไม่ได้เจอนานมากแล้ว ครั้งนี้ ผมมาโปรโมทนอกไต้หวันแล้วพบเธอ เธอบอกว่าเธอสอบเข้ารับราชการได้แล้ว ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็เพื่อที่จะได้เติบโตไปพร้อมๆ กับผม แล้วมีอีกคน ตอนวันเกิดผม เธอเอาผลการเรียนให้ผมดู แล้วบอกว่าเธอสอบได้ที่หนึ่ง”

    ผมดีใจมากๆ ว่าผมมีผลกระทบในด้านบวก แล้วพวกเธอเองต่างก็พากเพียรกระทำเรื่องราวดีๆ คนในครอบครัวของพวกเธอต่างก็รับรู้ว่าการสนับสนุน IDOL คนนี้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินทองเพื่อไปดูคอนเสิร์ตในแต่ละที่ เหมารถตามไปทุกทีในแต่ละวัน หรือ ไปรอที่สนามบินเป็นต้น ที่แท้ก็สามารถใช้วิธีการอื่นๆ อีกก็ได้

    IDOL เป็นสิ่งตายตัว อยากสลัดคราบ IDOL ออกไป

    “ทุกคนต่างคิดว่าผมเป็น IDOL แน่นอนว่าผมคงต้องยอมรับว่าเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของผมทำให้ผู้คนสนใจ แต่ผมก็รู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าจะอาศัยเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก เพียงสองสามปีก็ต้องถูกแทนที่แล้ว ผมหวังว่าในปีนึงจะมีเวลาสัก 2-3 เดือนที่ผมได้สร้างเสริมพลังให้กับตัวเอง ..... เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น แต่ผมต้องการทำให้ทุกคนรู้สึกว่าผมกำลังมุ่งมั่นพากเพียร เพื่อตัวเอง และเพื่อคนมากมายที่ให้การสนับสนุนผม ผมหวังว่าเวลาที่แฟนๆ เอ่ยชื่อของผมออกมานั้น พวกเค้าจะรู้สึกภาคภูมิมีเกียรติ”

    >>>  “ผมเป็นคนไม่มีความเชื่อมั่น เวลานักข่าวเข้าใจผิดในตัวผม ผมจะแคร์มากๆ”

    แต่ละครั้งที่เห็นเค้าออกทีวีให้สัมภาษณ์ มักจะรู้สึกว่าเค้าช่าง desperate เหมือนกับรีบร้อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมา พยายามที่จะทำให้คนเข้าใจตัวตนของเค้า

    บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมคนที่ถูกประคองโอบอุ้มจากผู้คนมากมายถึงได้แคร์สายตาที่ผู้คนรอบข้างมองเค้า

    “ช่วงก่อน งานผมเยอะมากๆ คิดจะถอนตัวออกไปจริงๆ เพราะว่าแรงกดดันมากเหลือเกิน คิดเสมอว่ามุมานะตั้งเท่าไหร่ ทำไมหนังสือพิมพ์ถึงได้เขียนเป็นเรื่องไม่ดีไปเสียหมด จริงๆ แล้ว ตัวเองทำผิดอะไรเหรอ?? ผมบอกกับบริษัทว่าผมต้องการใคร่ครวญเส้นทางข้างหน้าของผม ดังนั้น จึงพักผ่อนระยะนึง”

    “บางครั้ง ความคิดของผมก็สุดขั้วมาก ยามที่ได้รับความเจ็บช้ำ ก็จะคิดว่า พอแล้ว โดยเฉพาะเวลาทำเรื่องบางอย่างอย่างเต็มความสามารถ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ คนอื่นยังไปพูดจาไม่ดีลับหลังทำร้ายผมด้วย ผมเจ็บปวดมาก ผมก็มีนิสัยเด็กๆ อยู่ ตอนนี้ 26 ขวบแล้ว ทำไมถึงยังเด็กอยู่นะ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” เค้าหัวเราะเล็กน้อย ส่ายหัว เหมือนกับว่าถามเองตอบเองอย่างนั้นแหล่ะ

    ว่ากันว่า ลึกๆ แล้ว เค้าก็ชอบพูดคุยหยอกเล่นกับเพื่อนร่วมงานเหมือนเด็กๆ พูดจาล้อเล่นและเลียนแบบท่าทางของคนอื่นๆ แล้วเวลาหลังออกงานต่างๆ แล้วก็จะกลัดกลุ้มใจมากถ้าการแสดงออก (ผลงาน) ของเค้าไม่สมบูรณ์แบบพอ ยังคงไร้เดียงสาไม่เปลี่ยนแปลง

    “ความคิดของผมค่อนข้างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน จากเล็กจนโต เวลาทำอะไรก็ตามจะคิดว่าขอเพียงแค่ตั้งใจพยายาม ทุกคนก็น่าจะมองเห็นเอง พอเข้าวงการบันเทิงแล้ว สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือว่าผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง เมื่อก่อนงานยุ่ง บางครั้งเวลาออกมาพบนักข่าว ก็อาจจะค่อนข้างเฉยชา พวกเค้าก็คิดว่าผมเป็นคนใหม่ในวงการ ทำไมถึงไม่ “ประพฤติตัวแบบนั้น” กับพวกเค้า ผมคิดว่าขอเพียงแค่รับผิดชอบกับงานของตัวเอง ผมก็ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นแล้ว ต่อมาผมถึงได้พบว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ตลอดไป เพราะในวงการบันเทิงนอกจากต้องมีพละกำลังแล้ว หลายครั้งหลายคราวท่าทีของคนในสังคมยังเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะก้าวเดินต่อไปในอาชีพนี้ได้อีกหรือไม่ ถ้าคุณไม่สามารถทำให้นักข่าวมีทัศนะที่ดีต่อคุณ ผู้คนก็จะไม่ยอมรับคุณตลอดไป”

    แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 47 23:42:30

    จากคุณ : SEE YOU AGAIN (noy2noi) - [ 28 ม.ค. 47 22:27:51 ]