@Fiction 15 - 17@ Meteor Garden Part 3 ยาวมากกกค่า โพส์ทจนเหนื่อยแน่ๆ

    ตอนที่ 15

    ริมฝีปากของฮัวเจ๋อเล่ยทั้งอบอุ่น อ่อนโยน ในขณะเดียวกันก็วาบหวาม เค้ายกมือข้างนึงขึ้นจับหัวไหล่เสี่ยวเจินราวกับคีมเหล็กตรึงไม่ให้เธอกระดุกกระดิกไปไหนได้ เสี่ยวเจินไม่สามารถที่จะหลับตาแน่นต่อไปจำเป็นต้องลืมตาพรึบ! เบิกโต........จ้องมองด้วยความรู้สึกตกตะลึง คาดไม่ถึง

    เล่ยถอนริมฝีปากออก

    “มีคนเคยบอกว่าทำแบบนี้แล้วช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้”

    คนพูดลุกขึ้นยืน ผละออกจากเสี่ยวเจินอย่างรวดเร็ว ภาพของเล่ยตอนนี้เสี่ยวเจินมองเป็นสีเทา เค้าเลิกคิ้วก้มมองเธอที่ยังไม่ลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาให้

    “เสี่ยวเจิน...”ตามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนเคย เสี่ยวเจินลังเลที่จะยื่นมาจับแต่ก็เลือกที่จะยึดเค้าไว้ในท้ายที่สุดเช่นเคย

    เมื่อยืนมั่นคง..........ทั้งสองคนก็ตกอยู่ในสภาพที่ตะขิดตะขวงใจ หรือบางทีอาจเป็นแค่เสี่ยวเจินที่รู้สึกอยู่คนเดียว เล่ยยังจับมือของเธอไว้อยู่ เสี่ยวเจินอยากจะหันไปมองทางอื่น แต่ตาตัวเองกับพยายามจ้องสบกับเล่ย นัยน์ตาสีน้ำตาลของเค้าจะบอกเราได้มั้ยว่าคิดอะไรอยู่......ไม่เลย.....ไม่มี....เค้ากลับทำให้เรารู้สึกสับสนงงงวยมากขึ้นเสียยิ่งกว่า

    “พรุ่งนี้ 9 โมง ว่างมั้ย?”จู่ๆเล่ยก็ถามขึ้น

    “คะ...ทำไม?”

    “พี่ถามว่าว่างมั้ย?” เรียงตามความเอาแต่ใจ เต้าหมิงซื่ออาจมาอันดับ 1 ลองลงคือเหม่ยจั๊ว ซีเหมิน แล้วก็เล่ย ไม่ใช่ว่าเล่ยจะเป็นคนแบบที่เออออตามใจอย่างที่ใครๆชอบคิดกัน เค้าเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คนนึงทีเดียว

    “ค่ะ ว่าง เอ่อ...”เสี่ยวเจินตอบงึมงำ เมื่อจะพูดต่อเล่ยก็พูดออกมาเสียก่อน

    “...ดี….”ว่าแล้วเค้าก็จูงเสี่ยวเจินออกไปส่งยังห้องนอน ระหว่างเดินเค้าไม่ได้ปล่อยมือเธออีกนั่นแหละ มือที่หยาบเป็นรอยจากการฝึกฝนสีไวโอลินอย่างหนักเกือบ 10 กว่าปีของเค้ายังให้ความรู้สึกนุ่มกว่ามือของเสี่ยวเจินเองเสียอีก เสี่ยวเจินเผลอคิดเลยเถิดไปว่า ถ้าเกิดไปถึงห้องเค้าจะทำอะไรขึ้นมาอีก แล้วมันก็มาถึงหน้าห้องของเธอพร้อมที่คิดนั่นเอง เล่ยคลายมือออกเปิดประตูสีขาวบานใหญ่ให้

    เสี่ยวเจินรีบเข้าไปยืนด้านในประตู ไม่รู้จะพูดอะไรดี

    เพราะเสี่ยวเจินมีท่าทียุ่งยากใจรึไงเค้าจึงลูบผมเธอเบาๆ บอก ...“พี่หวังว่าเธอจะฝันดี”

    พูดเสร็จก็ดันให้เสี่ยวเจินเข้าห้องไป พร้อมปิดประตูให้เสร็จสรรพ

    ในห้องเสี่ยวเจินยืนพิงผนังข้างประตู.....หญิงสาวยกมือข้างนึงขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา พี่เย็นชาเกินกว่าที่ฉันคิดจริงๆ พี่ทำแบบนี้ได้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือ?

    ส่วนเล่ยซึ่งกำลังเดินกลับไปยังห้องนอน ได้แค่ครึ่งทาง เค้าก็หยุด.....

    คุณชายฮัวเจ๋อเล่ย ผู้ซึ่งไม่เคยสนใจใครหน้าไหน ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร ยกเว้น F4 และซันไช่ ......ก้มมองมือที่เพิ่งปล่อยจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมายของตัวเองแววตาของเค้าราวกับกำลังต่อสู้กับความขัดแย้งลึกๆบางอย่างอยู่ เป็นความขัดแย้งที่เค้าเพียงคนเดียวเท่านั้นจะสามารถสะสางมันลงได้......ร่างสูงหันไปพิงผนังราวกับหมดแรง


    ************ภาพตัดมายัง****************

    ห้องนอนอันกว้างขวางและเรียบง่ายตามแบบฉบับเดิมของเล่ย สิ่งที่อยู่บนตู้ขนาดเล็กซึ่งประยุกต์เป็นที่วางโคมไฟข้างเตียงเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

    มันคือ..........กรอบรูปซันไช่ขนาบด้วยF4ยิ้มแย้ม ตั้งเด่นอยู่นั่นเอง

    .........เสียงกังวานใสของเด็กสาวถักเปียสองข้างเจ้าของร้านน้ำแข็งใสที่หมู่บ้านชาวประมงเคยพูดเมื่อก่อนริมชายหาดแว่วอยู่ตรงซอกมุมใดมุมหนึ่งในความทรงจำ

    “....เดิมที เธอก็แค่ชอบซันไช่ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเพื่อนกับซันไช่ หลังจากนั้น เมื่อเธอเข้าใจซันไช่มากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็รู้ตัวว่าตัวเองจากซันไช่ไปไม่ได้ ไม่ว่าซันไช่อยู่ที่ไหน เธอก็จะตามไปอยู่ที่นั่น เพราะว่าเธอรักซันไช่เข้าแล้ว!.....”

    “.....ซันไช่ทำให้เธอทุกข์ทรมานใช่มั้ย? เธอรักซันไช่หรือเปล่า?.....”


    ตอนนี้ยังรักอยู่หรือเปล่า.......?...................


    ***********************************************

    ตึก บริษัท ซีเหมิน กรุ๊ป .......สูงระฟ้า ด้านหน้ามีตัวอักษรโตๆบ่งบอกความเป็นเจ้าของอยู่ ภายในเงียบสงัด.......ทุกชั้นปิดไฟมืด ยกเว้นเพียงชั้นที่ซีเหมินทำงานอยู่ ห้องรองประธานกรรมการมีแสงไฟสีขาวสว่างโล่ คนขยันถกแขนเสื้อเชิ๊ทสีฟ้าอ่อนพับขึ้นอย่างลวกๆ เสื้อนอกถูกพาดไว้ตรงพนักเก้าอี้ เนคไทคลายออกเกือบหลุด บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยกองแฟ้มเอกสารต่างๆ จำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนวันรุ่งขึ้น หน้าจอแลปท๊อปมีงานที่ยังทำค้างด้วยเช่นกัน

    “Rrrrrrr Rrrrrrrrrrr Rrr…ฮัลโหล”เสียงโทรศัพท์มือถือขนาดเล็กกะทัดลัดมีกล้องตรงหัวดัง...ซีเหมินรีบรับเมื่อเห็นหน้าจอขึ้นชื่อเสี่ยวโยว

    “ซีเหมินคะ......ฉันโทรมารบกวนมั้ย?”ปลายเสียงหวานทำให้ซีเหมินยิ้มออกมาทันที

    “ไม่.... ไม่เลย มีอะไรหรือ?”

    “ก็แค่อยากฟังเสียงเธอ ช่วงนี้คงงานยุ่งมาก…….”เสี่ยวโยวนั่งบนเตียงในห้องสวมชุดนอนเรียบร้อย ตรงข้ามกับคนรักจริงๆเค้าต้องทำงานหนักจนหัวแทบระเบิด

    “ก็ยุ่งอยู่พอควร...เสี่ยวโยว ฉันขอโทษนะ ..”

    “อะไร ...ไม่เห็นมีเรื่องที่ต้องขอโทษ…”

    “หมู่นี้เราแทบไม่ได้เจอกัน” เสี่ยวโยวยิ้มกับโทรศัพท์

    “ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ดูแลเธอ”

    “ไม่หรอก ซีเหมิน....ฉันเข้าใจ เธอต้องทำงานนี่”

    “ขอบใจ ....เสี่ยวโยว .....เอาไว้ฉันเสร็จงานโปรเจคนี้เราไปเที่ยวกันนะ”

    “จ้ะ...ไม่ต้องกังวลเรื่องฉันนะ ซีเหมิน ฉันไม่อยากให้เธอต้องปวดหัวเรื่องฉันอีก แค่งานก็หนักพอแล้ว” ความอ่อนไหวที่แม่เคยเป็นห่วงนักหนาดูท่าจะไม่สู้ความรักที่เสี่ยวโยวมีต่อซีเหมิน ต่อให้เป็นตายร้ายดียังไง แค่รู้ว่าซีเหมินรักเธอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

    “แย่ชะมัด......ฉันต้องทำงานต่อแล้ว”งานที่กองบนโต๊ะทำให้ซีเหมินจำเป็นจะต้องพูดแบบนั้น

    “อืม.......ทำงานต่อเถอะนะ”

    “จ้ะ……งั้น....”ซีเหมินกำลังจะวางหู

    “ซีเหมิน.......”แต่เสี่ยวโยวพูดต่อ

    “หืม?......”

    “กินข้าวรึยัง?”

    “ข้าว...(พูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้)....จริงสิ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง”

    “เธอยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยง!...แล้วนี่จะ 5 ทุ่มแล้ว.......ไม่ได้นะ....รอเดี๋ยว..ตอนนี้เธออยู่ที่บริษัทใช่มั้ย?”ซีเหมินเลิกคิ้วกับน้ำเสียงร้อนรน เสี่ยวโยวลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า

    “อือ....เสี่ยวโยว ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้ว...”

    ซีเหมินพูดแบบนั้นแต่เสี่ยวโยวเลือกเสื้อผ้าเตรียมออกมาเพื่อเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว

    “ไม่ได้ ครั้งก่อนเธอต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะแบบนี้ รอฉันนะ...ฉันจะเอาข้าวเย็นไปให้...”เสี่ยวโยววางหูไป ทำให้ซีเหมินต้องละมือจากงานเพื่อย้อนนึกถึงคำพูดของเธอที่ช่างเหมือนกับคำพูดของแม่ เวลากลับถึงบ้านต้องคอยถามแบบนี้แล้วบังคับให้เค้ากินข้าวด้วย นอกจากแม่ที่ตอนนี้ไปอยู่อิตาลีหลังจากหย่าขาดกับพ่อแล้ว คงมีผู้หญิงอีกเพียงคนเดียวที่เค้าพอใจจะให้ถามแบบนี้แล้วบังคับให้เค้าทำตาม

    เสี่ยวโยวรู้ว่าเค้าเคยเข้าโรงพยาบาลเพราะเรื่องนี้........ ตอนที่มีเรื่องกับเหม่ยจั๊ว เสี่ยวโยวก็บินกลับมาพอดี ....ตลอดเวลาที่เสี่ยวโยวไปเรียนแคนาดา เธอยังห่วงหาเค้าอยู่ ทั้งๆที่เค้าทำร้ายจิตใจเธอมาตลอดแท้ๆ

    ความจริงเรื่องที่เค้าอยากจะขอโทษเสี่ยวโยวก็คือ เค้าไม่รู้ว่าการเป็นคนรักที่ดีมันเป็นยังไง เค้าต้องทำแบบไหนเสี่ยวโยวจึงจะมีความสุขมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาเค้าไม่เคยคบใครแล้วนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน....... มันผ่านพ้นหมดอาทิตย์ไปพอดี ไม่ทันหรอกที่เค้าจะได้คิดเอาใจใส่ ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ความเห็นแก่ตัว คำพูดที่เสแสร้งรวมถึงการมี Sex เท่านั้น

    เหลือบมองงานที่ยังสุมบนโต๊ะอยู่......ซีเหมินสลัดเรื่องนี้ออกไปก่อน ก้มทำงานต่อเพื่อรอให้เสี่ยวโยวนำอาหารมือเที่ยง+เย็นมาให้

    จากคุณ : disara - [ 28 มี.ค. 47 00:55:33 ]