ขอแตกประเด็นมาดีกว่า เผื่อคนอื่นๆ จะได้มีโอกาสอ่านด้วยครับ
จากหัวข้อกระทู้เดิม
" อยากรู้ว่าทำไม....รูปปั้นชาวกรีก-โรมันถึงต้องใส่ผ้าน้อยชิ้นจังเลย "
มีหลายๆ ท่านได้ให้ข้อมูลไว้ถูกต้องแล้วครับ ผมเพียงแต่มาเสริมรายละเอียดบางอย่าง ที่อาจจะมีทั้งคนที่รู้แล้ว และยังไม่รู้มาก่อน
..............................................
เชื้อสายดั้งเดิมของชาวกรีกคือ Indo - European อพยพมาจากตอนเหนือของทวีปยุโรป ( ช่วงตอนกลางประเทศรัสเซีย ) ชาวกรีกจะเรียกตัวเองว่า เฮเลนนีส ( Hellenes ) มีเทพสูงสุดคือ Zeus และเทพีสูงสุดคือ Hera
เทพต่างๆ ของ กรีก
( กรีก / โรมัน )
ซีอุส ( Zeus ) / จูปิเตอร์ ( Jupiter ) = เทพเจ้าแหล่งท้องฟ้า สายฝน พายุ
เฮรา ( Hera ) / จูโน ( Juno ) = เทพีแห่งการแต่งงาน
โพไซดอน ( Poseidon ) / เนปจูน ( Neptune ) = สวรรค์ของคนรักอ่าง .. เอ้ยม่ะช่าย ... เทพเจ้าแห่งท้องทะเล
เฮดิส ( Hades ) / พลูโต ( Piuto ) = น้องชายซีอุส เทพเจ้าแห่งยมโลก
อะพอลโล ( Apollo ) / ฟีบัส ( Phoebus ) = บุตรซีอุส เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
อะเตมิส ( Artemis ) / ไดอะนา ( Diana ) = เทพีแห่งดวงจันทร์
เฮอมิส ( Hermes ) / เมอคิวรี่ ( Mercury ) = เทพเจ้าแห่งการสื่อสาร
อาเธนา ( Athena ) / มิเนอร์วา ( Minerva ) = เทพีแห่งสติปัญญา เทพีประจำเมืองเอเธนส์
อะโฟไดท์ ( Aphrodite ) / วีนัส ( Venus ) = เทพีแห่งความงาม
อีรอส ( Eros ) / คิวปิด ( Cupid ) = เทพเจ้าแห่งความรักชั่วนิรันดร์
เมดูสา ( Medusa ) - เทพีแห่งความอิจฉาริษยา
ไดโอนิอุส ( Dionysus ) - เทพเจ้าแห่งเหล้า สวนองุ่น และการละคร
เฮราคลีส ( Heracles ) / เฮอคิวลีส ( Hercules ) = เทพเจ้าแห่งพลังและความแข็งแรง
ลักษณะทางความคิดความเชื่อ และการใช้ชีวิตของชาวกรีก โดยรวมๆ
1. เป็นพวกมนุษย์นิยม และเชื่อว่ามนุษย์มีความสามารถสูงสุด ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา
2. งานสร้างสรรค์ต่างๆ ของกรีก มีความหมายต่อชีวิตปัจจุบันมากกว่าคำนึงถึงโลกหน้า และ ไม่มี
ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเหมือนชาวอียิปต์ ดังนั้น จึงไม่มีสุสานหรือพิธี
ฝังศพที่ซับซ้อนวิจิตรเหมือนกับชาวอียิปต์
3. เชื่อในหลักเหตุผล การแสวงหาความจริงเกี่ยวกับชีวิต ไม่สนใจสิ่งลี้ลับ
4. ไม่เคร่งศาสนา แม้จะมีพระเจ้าหลายองค์ การบูชาพระเจ้าก็เพื่อประโยชน์แก่ตนเองมากกว่า
5. ศิลปะกรีกจะเน้นความสวยงาม มากกว่าความคิดทางศาสนา โดยเน้นความงดงามตามธรรมชาติ ความสมดุล สมส่วน
6. นิยมความเป็น ปัจเจกชน มีสิทธิ์ เสรีภาพ
ศิลปกรรมของกรีก แบ่งออกเป็น 4 ยุค
1. Primitive Or Geometric Period ( 1100 - 650 B.C )
งานศิลปะในยุคนี้มักเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และงานประติมากรรมขนาดเล็ก โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปทรงที่เรียบง่าย และเป็นรูปทรงเลขาคณิตพื้นฐาน
2. Archaic Period ( 651 - 451 B.C )
งานประติมากรรมเริ่มมีการพัฒนารูปทรงขึ้นมา แต่ยังมีลักษณะเรียบง่าย นิยมแกะสลักเป็นรูปคน รูปผู้หญิง เรียกว่า คูเร ( Koure ) และรูปผู้ชาย เรียกว่า คูรอส ( Kouros ) มีลักษณะผมหยิก เป็นปมยาว มีรอยยิ้มนิด ๆ เรียกว่า Archaic Smile รูปผู้ชายมักเปลือย ส่วนผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว เรียกว่า ทูนิค ( Tunic )
งานประติมากรรมส่วนใหญ่ มีลักษณะลอยตัว ให้ความรู้สึกกลมกลืนกัน ระหว่างรูปและพื้น ท่าทางของรูปคนยืน คำนึงถึงความสมดุล ของหุ่นต่อความรู้สึกของผู้ดูอย่างมาก ท่ายืนน้ำหนักจะอยู่ที่ขาขวา ขาซ้ายงอพักตามธรรมชาติ แขนขวาจะปล่อยตามสบายแนบลำตัว แขนซ้ายจะงอขึ้นแสดงความเคลื่อนไหว ท่าทางส่วนรวมของประติมากรรมรูปคนดูกลมกลืน นุ่มนวล แต่มีพลัง เรียกท่ายืนนี้ว่า โพลีคลิตันไอเดียล
3. Classical Period ( 450 - 300 B.C )
เป็นยุคที่อารยธรรมและศิลปะเจริญถึงขึ้นสูงสุด มีการคิดระบบหัวเสา ( Doric Order
/ Ionic Order / Corinthian Order ) สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง ได้แก่ วิหารพาร์เธนอน ( Parthenon ) วิหาร อิเรคเธียม ( Erectheum )
4. Hellenistic Period ( 300 - 146 B.C )
ได้ย้ายศูนย์กลางความเจริญไปยังเมือง อเล็กซานเดรีย เริ่มนิยมความหรูหราแทนความเรียบง่ายแบบเดิม สิ่งก่อสร้างเริ่มมีการตกแต่งลวดลายมากขึ้น ในยุคนี้ งามศิลปะแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ จนถึงปลายยุค เริ่มเข้าสู่จุดเสื่อมถอยในที่สุด ..
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 47 14:14:23
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 47 14:13:51
จากคุณ :
A r t F u l l Y
- [
18 พ.ค. 47 14:10:16
]