. . . ศิลปะ . . .
ขอมีสาระอีกสักกระทู้แล้วกันนะครับ
คราวนี้ มาพูดถึง ReNoir กันบ้างนะครับ : )
ปิแอร์ออกุสต์ เรอนัวร์
[Pierre-Auguste Renoir, 1841-1919]
เรอนัวร์ เกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1841ที่เมืองไลโมจ [Limoges] ฝรั่งเศส ครอบครัวย้ายมา
ที่ปารีสตั้งแต่เขายังเล็ก เรอนัวส์ได้แสดงแววรักศิลปะตั้งแต่เด็กและได้เข้าไปฝึกงานที่โรงงาน
ทำตุ๊กตาดินเผาเคลือบสี หลังจากโรงงานเลิกกิจการได้ช่วยพี่ชายวาดภาพตกแต่งพัด ระหว่าง
วัยเยาว์นั้นเรอนัวร์เดินเข้าออกในพิพิธภัณฑ์ลูฟด้วยความชื่นชอบผลงานของศิลปินฝรั่งเศสใน
อดีตหลายคนเช่น วาโต บูแชร์ และฟราโกนาร์ด ระหว่างปี 1870 ระหว่างเกิดการเคลื่อนไหว
อันสำคัญของศิลปินหัวก้าวหน้าที่ต้องการบันทึกเรื่องราวในสังคมที่เกิดในปัจจุบันและใช้สีสัน
ที่สดใสกว่าภาพของศิลปินในอดีต โดยการนำของศิลปินรุ่นพี่ที่สำคัญอันได้แก่ มาเนและกูรเบท์
ในปี 1862 เรอนัวร์ตัดสินใจเข้าศึกษาศิลปะอย่างจริงจังที่สถาบันศิลปะ ดิเอธิเลียเกลอร์ [The
Atelier Gleyre] ได้รู้จักกับเพื่อนร่วมสถาบันได้แก่ โมเน ซิสลี และบาซิลี ภายหลังได้รวมหัวกัน
ลาออกเพื่อศึกษาแนวทางศิลปะตามความเชื่อของตัวเอง ผลงานของเรอนัวร์ระยะแรกได้รับ
ิอิทธิพลจากศิลปินรุ่นพี่คือกูรเบท์และมาเนเรอนัวร์รับเทคนิคการวาดภาพด้วยใบมีดจากกูรเบท์
ภายหลังเขาได้พัฒนาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ในปี 1860 เรอนัวร์ยากจนมากไม่มีเงินแม้จะซื้อสี
ระหว่างปี 1866-1867 ผลงานของเขาถูกปฏิเสธจากกรรมการซาลอง แต่อีกสองปีต่อมาผลงาน
ของเขาชื่อ Lise เรอนัวร์พยายามพัฒนาเทคนิคการวาดภาพโดยการศึกษาจากศิลปินรุ่นพี่อีก
หลายคนเช่นเดอลากรัว และกามีร์โกโร โดยเฉพาะเทคนิคของเดอลากรัวเห็นชัดเจนจากภาพ
ของเขาชื่อ โอดาลิสก์ [Odalisque, 1870] ในปี 1869 เรอนัวร์ออกไปวาดภาพนอกสถานที่เคียง
คู่กับโมเนที่สถานตากอากาศริมแม่น้ำเซน ผลงานยุคนี้เริ่มเข้าสู่เอกลักษณ์ของลัทธิประทับใจ
นักวิจารณ์ศิลปะชื่อ โฟเบ พูล [Phoebe Pool]ได้เขียนบันทึกไว้ว่า "เขาคือเรอนัวร์และโมเนที่ได้
ค้นพบว่าในเงามืดไม่ได้เป็นสีน้ำตาลหรือสีดำอย่างที่ศิลปินในอดีตเคยวาด แต่เป็นสีที่เกิดจาก
สีแวดล้อม แต่สีในตัววัตถุย่อมเปลี่ยนแปลงตามแสงที่เรามองเห็น ซึ่งเกิดจากการสะท้อนจาก
สีในวัตถุอื่น ๆ หรือเกิดจากการตัดกันของสีข้างเคียง ปี 1874 เรอนัวร์ได้ร่วมนิทรรศการผลงาน
อิมเพรสชั่นนิสม์ร่วมกับเพื่อนศิลปิน คนอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 1870เป็นต้นมาผลงานเรอนัวร์ได้รับความ
สนใจจากนักสะสมหลายคน ผลงานของเขาเริ่มขายได้และได้รับวาดภาพครอบครัวของนักสะสม
เหล่านี้หลายภาพ เช่นภาพของครอบครัวชาร์เพนเทียร์ [The Charpentiers] ระหว่างนี้เรอนัวร์ได้
สร้างผลงานที่บันทึกชีวิตผู้คนในอิริยาบทที่กำลังพักผ่อน หรือกำลังรื่นเริงตามสถานบันเทิง ที่รู้จัก
กันมากที่สุดคือภาพชื่อ งานบอลล์ที่มูแลงเดอกาเล [The Swing and The Ball at The Moulin
de Gallette] เรอนัวร์ได้แสดงภาพความงดงามของผู้คนในงานรื่นเริงเหล่านี้โดยเฉพาะภาพผู้หญิง
สวยที่อวดเนื้อหนังที่ขาวอวบสมบูรณ์งดงาม ตั้งแต่ปี 1880 เป็นต้นมาเรอนัวร์พยายาพัฒนาสไตล์
ของตัวเองที่แปลกแยกกว่าแบบอิมเพรสชั่นนิสม์เดิม ภาพระยะหลังส่วนใหญ่เป็นภาพผู้หญิงที่เน้น
รูปทรงและเส้นรอบนอกที่ชัดเจนซึ่งเขาได้รับอิทธิพลจากศิลปะแนวคลาสิกโดยเฉพาะผลงานของ
ราฟาเอลซึ่งเรอนัวร์ชื่นชมภายหลังที่ได้เดินทางไปชมงานที่อิตาลี ผลงานในยุคสุดท้ายภายหลัง
ปี1880 เป็นต้นมาผลงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความงามของสตรีเพศในอิริยาบทต่าง ๆ
เช่น ภาพผู้หญิงเปลือย ภาพผู้หญิงอาบน้ำ ผู้หญิงอ่านหนังสือ ผลงานในยุคนี้นับว่าเรอนัวร์ประสบ
ผลสำเร็จอย่างสูงทั้งทางด้านชื่อเสียงและทางการเงิน ผลงานหลังปี 1903 มีลักษณะฝีแปรงที่หยาบ
รูปทรงของผู้หญิงมีทรวดทรงอวบอ้วนเกินพอดีเหตุมาจากโรคไขข้ออักเสบ จนมือไม่สามารถจับพู่กัน
เขาต้องใช้เศษผ้ามามัดพู่กันกับมือ เรอนัวร์เสียชีวิตวันที่ 3 ตุลาคม 1919 ที่เมืองคาเยสเซอร์เมอร์
นับว่าเรอนัวร์ได้พยายามต่อสู้เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ ต่อสู้กับความจนแม้จะได้รับชัยชนะเขา
ต้องมาสู้กับสุขภาพของตัวเองสุดท้ายก็ต่อพ่ายแพ้ต่อสังขาร แต่ชัยชนะของเขาคือผลงานของเขา
ชื่อ มาดามยอร์จ ชาร์เพนเทีย ทางรัฐบาลซื้อเพื่อนำมาแสดงถาวรที่พิพิธภัณฑ์ลูฟตั้งแต่เขายังมีชีวิต
*** ข้อมูล ภาษาไทย ทั้งหมด มาจาก WebSite ***
http://yalor.riy.ac.th/~nicoleh/Renoirbio.htm
ทีนี้ เรามาดูผลงานของเค้ากันนะครับ
จากคุณ :
A r t F u l l Y
- [
30 มิ.ย. 47 20:04:41
]