ความคิดเห็นที่ 1 แหมกลัวโดนด่าจริงๆ ผมตั้งข้อสังเกตเล่นสนุกๆ นะครับ จากคุณ : อากง - [ 2 ส.ค. 47 00:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เออใช่......จริงด้วยแฮะ จากคุณ : ด๊า...ดา - [ 2 ส.ค. 47 00:48:27 A:203.113.38.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก้อว่ากันไป จากคุณ : I Know man!! (flyingmoon) - [ 2 ส.ค. 47 01:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แสดงว่าต้นตำหรับเพลงมาจากสองประเทศนี้ เอะ อย่ามาว่ากันนะ ถ้าไม่ใช่ทำไมจึงเอาชื่อ(ครู)มาตั้งเป็นชื่อเพลง??????? จากคุณ : แค่สงสัยเหมือนกัน - [ 2 ส.ค. 47 01:52:39 A:202.28.9.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 55555555555555555 กระทู้อะไรขำโคตร แต่มันก็จริงของคุณเนอะ จากคุณ : chan-rak-thong-fa - [ 2 ส.ค. 47 03:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องรอผู้รู้ด้านเพลงไทยเดิมอธิบายค่ะ หุหุ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 2 ส.ค. 47 03:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แหะๆ ประเด็นนี้เคยสร้างความวุ่นวายให้วงการดนตรีไทยสมัยจอมพล ป. มาแล้วค่ะ ออกตัวก่อนนะคะว่าข้อมูลไม่แน่น จำได้คลับคล้ายคลับคลาเท่านั้น หากผิดไปตรงไหน ผู้รู้ผ่านมาช่วยท้วงติงแก้ไขด้วยนะคะ พวกเพลงเขมรไทยโยค ลาวดำเนินทราย ฯลฯ พวกนี้ เหมือนว่าเป็นเพลงที่แต่งเพื่อบรรเลงประกอบการแสดงน่ะค่ะ ประมาณว่า สมมติว่าตอนนี้ต้องมีบทที่ชาวเขมรออกมา ก็จะเล่นเพลงที่มีกลิ่นของเขมรหน่อยเพื่อให้เข้ากับการแสดง มันก็เลยมีชื่อเพลงแบบนี้ออกมา ทั้งๆที่ไทยก็คิดเองทั้งหมดนั่นแหละค่ะ แล้วสมัยจอมพล ป. เนี่ย จากโหมโรงก็จะรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหมคะ แต่ในสมัยนั้นยังทำมากกว่านั้นอีก เพราะสงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้นี่ล่ะค่ะ ว่าไทยทำอะไรไม่เป็นเลยรึไงฟะ ก็เลยให้ตัดเอาคำที่บอกเชื้อชาติในชื่อเพลงออก เช่น เขมรไทรโยค ก็เหลือแค่ ไทรโยค ลาวดวงเดือน ก็เหลือแค่ ดวงเดือน แต่บางเพลงก็มีปัญหา เพราะชื่อเพลงเป็นชื่อของเชื้อชาติ 2 เชื้อชาติต่อกัน (นึกชื่อเพลงไม่ออก) พอตัดแล้วก็ไม่เหลือชื่อเพลงเลย ช่วงนั้นดนตรีไทยเลยซบเซาสุดๆ มันเป็นเรื่องที่อาจารย์เล่าให้ฟังตอนอยู่ ป.ตรีน่ะ คาบนั้นง่วงๆ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละ ขอโทษนะคะทุกคน จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น - [ 2 ส.ค. 47 05:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นเพลงที่มีท่วงทำนองและสำเนียงคล้ายกับเพลงของประเทศนั้น ๆ น่ะครับ บ้างก็ดัดแปลง หรือนำบางส่วนจากสำเนียงของประเทศนั้นมาผสมผสานน่ะครับ จากคุณ : [[Joachim]] - [ 2 ส.ค. 47 06:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนไทยชอบให้เครดิต ชาติอื่นครับ ... จากคุณ : idolmania - [ 2 ส.ค. 47 10:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คนไทยชอบให้เครดิต ชาติอื่นครับ ... จริงเร้อ... จากคุณ : มู - [ 2 ส.ค. 47 11:18:21 A:203.113.37.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 บรรพบุรุษเราก็เป็นประเภท"ได้แรงบันดาลใจมาจาก..."เหมือนกับรุ่นลูกรุ่นหลานน่ะแหละ จากคุณ : ... - [ 2 ส.ค. 47 11:57:20 A:203.113.34.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 รึว่าก็อปเค้ามา .... - -' ล้อเล่นคับผม จากคุณ : oat_jazz - [ 2 ส.ค. 47 11:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ประวัติ ลาวดวงเดือน (ลาวดำเนินเกวียน) มีเบื้องหลังเล่าว่ากรมหมื่นพิไชยฯนิพนธ์เพลงนี้ด้วยพระทัยผูกพันในตัวเจ้าหญิงองค์หนึ่ง ในราชสำนักเชียงใหม่ที่เคยเสด็จไปเยือน ในฐานะพระราชอาคันตุกะจากเมืองหลวง ถึงขั้นใคร่จะขออภิเษกด้วย แต่ก็ทรงไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงผิดหวังกับความรักครั้งนี้มาก แต่ต่อมาก็ได้อภิเษกไปกับกุลสตรีอื่น ทรงเป็นต้นราชสกุล " เพ็ญพัฒน์" จากคุณ : ป็อก (JPL) - [ 2 ส.ค. 47 16:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ประวัติ เขมรไทรโยค ความเป็นมาของเพลงนี้มีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2431 รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสน้ำตกไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนกำหนดวันเสด็จพระราชดำเนินประมาณเดือนเศษ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ได้ทรงแต่งเพลงขึ้นเพลงหนึ่ง โดยอาศัยเค้าของเพลงเขมรกล่อมลูกซึ่งเป็นเพลง 2 ชั้น ประดิษฐ์ดัดแปลงขึ้นใหม่เป็นเพลง 3 ชั้น กับได้ทรงพระนิพนธ์บทร้องประกอบบรรยายถึงความงดงามของธรรมชาติ แล้วประทานนามว่า "เขมรไทรโยค" ถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสด็จประพาสครั้งนั้น จากคุณ : ป็อก (JPL) - [ 2 ส.ค. 47 16:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเพลงไทยเดิม ชอบขึ้นต้นด้วย ลาว... เขมร... พม่า... มอญ... เช่น ลาวเจริญศรี เขมรไทรโยค พม่ารำขวาน มอญดูดาว เป็นต้น ทำไมไม่ชื่อว่า ไทยเจริญศรี ไทยดูดาว อะไรทำนองนี้เนอะ เพลงไทยเดิมที่ว่านี้ เป็นเพลงที่เรียกว่า "เพลงออกทำนอง" คือ นักแต่งเพลงไทยสมัยก่อน เค้าไปฟังเพลงของชาติเพื่อนบ้าน แล้วเกิดจับใจ นำเอาทำนองเด่นๆ ของเพลงนั้นมาประยุกต์ให้เข้ากับเพลง และเครื่องดนตรีไทย เกิดเป็นเพลงไทยขึ้น แล้วก็เลยให้เครดิตเจ้าของท่วงทำนองนั้น โดยการใส่ชื่อชาตินำหน้าเพลง เช่น ลาวเสี่ยงเทียน พม่าเขว เป็นต้น ว่ากันว่า เพลงที่ได้รับอิทธิพลมาจากแต่ละชาติจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น เพลงพม่า มักจะออกทำนองสนุกสนาน เพลงมอญจะค่อนข้างเศร้า ส่วนเพลงลาวนั้น จะมีทุกทำนอง คือ ทั้งเศร้า สนุก เกี้ยวพาราสี เป็นต้น บางคนอาจจะนึกสงสัยว่า แล้วเพลงไทยเดิมแท้ๆ ล่ะ มีบ้างหรือเปล่า และมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าเทียบเพลงไทยเดิมแท้ กับเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ มีสัดส่วนประมาณครึ่งต่อครึ่ง ถ้าอยากรู้ว่าเพลงไหนเป็นเพลงไทยแท้ ท่านว่าให้ดูจากชื่อเพลง ถ้าไม่มีคำว่า "ลาว" หรือ "เขมร" อะไรทำนองนี้ ให้สัญนิษฐานว่า เป็นเพลงไทยแท้ หรืออาจฟังจากสำเนียงการออกภาษา แต่ถ้าเราไม่ใช่ผู้สันทัดกรณี คงฟังไม่ค่อยออกหรอกค่ะ นอกจากนี้ สำหรับผู้เล่นดนตรีไทยเป็น จะดูจากโน๊ตดนตรีก็ได้ เพราะเพลงที่ได้อิทธิพลจากแต่ละชาติจะมีกลุ่มโน๊ตดนตรีเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง http://www.malila.com/coffbk8.html จากคุณ : JPL - [ 2 ส.ค. 47 16:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สารภาพว่า โดยส่วนตัวแล้วยังแยกไม่ค่อยออกครับ ว่าสำเนียง(ที่เอามาทำเป็นเพลงไทยแล้ว) ชาติไหนเป็นชาติไหน ทั้งที่มีพื้นด้านโน้ตดนตรี(สากล)อยู่บ้าง วันก่อนจะหาเพลงไทยสำเนียงแขกไปทำอะไรบางอย่าง ไปไล่ฟัง แขกมอญ แขกเจ้าเซ็น แขกกล่อมจ้าวและอะไรอีกหลายแขกอยู่ ก็ยังฟังไม่ออกเลยครับ (ไม่เห็นมี harmonic minor เลย แหะ แหะ) จาก "การดนตรีไทยและทางเข้าสู่ดนตรีไทย" โดยครูสงัด ภูเขาทอง ผู้ล่วงลับครับ จากคุณ : Narcissus - [ 2 ส.ค. 47 21:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชื่อชาติต่างๆนั้น บอกว่าเพลงที่แต่งนี้แต่งขึ้นด้วยสำเนียงหรือMode ของชาติต่างๆ ซึ่งอาจจะเอาทำนองเขามาหรือคิดขึ้นใหม่ก้อได้บรรพบุรุษเรามีความล้ำลึกมากอยู่ครับ จากคุณ : artizzimozo - [ 2 ส.ค. 47 21:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้..ขอบคุณค่ะ กระจ่างขึ้นเยอะเลยเนี่ย มีโอกาสจะได้อธิบายให้เด็กๆฟังได้ ขอบคุณอีกทีค่ะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น - [ 2 ส.ค. 47 23:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่ออ ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ แบบว่าได้รายงานมาต้องส่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยอ่ะค่ะ ท่านให้หาข้อมูล และก็ประวัติของทำนองดนตรีไทย ซึ่งต้องมีตัวอักษรขึ้นต้นเหมือนอักษารตัวแรกของชื่อ ซึ่งก็เป็นตัว "ช.ช้าง" ไม่ทราบว่าจะหาข้อมูลและรายละเอียดได้ที่ไหนบ้างคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : [WhAt'S Up?] - [ 2 ส.ค. 47 23:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอคิดด้วยคนครับ เรื่องนี้อาจจะมองได้เป็น 2 ประเด็น 1.เชิงสุนทรียศาสตร์ การใช้ชื่อชนชาติต่างๆนำหน้าเพลงนั้นมีประโยชน์ในการบอกกล่าวให้ได้รับทราบถึง กลุ่มเสียงที่ใช้บรรเลง ทางเพลง(กลอนเพลง)ที่ควรใช้ให้เหมาะสม หน้าทับที่ใช้กำกับ สำเนียงของเพลงนั้นๆ ที่มาของเพลงนั้นๆซึ่งอาจจะเกิดจากการนำทำนองมาปรับปรุง ปรับเปลี่ยน เลียนแบบ หรือยกมาดื้อๆ เรื่องราวบทร้องที่จะนำมาใช้ ฯลฯ 2.ด้านสังคม กรณีนี้สำคัญครับแต่ไม่ใคร่พูดถึง ปัญหามันอยู่ที่ "ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย" นี่ล่ะครับ เมื่อแบ่งแยกเป็นเขา เป็นเรา จึงต้องมีที่มา หันไปดู ดนตรีพี่น้องใกล้ชิด ทั้งลาว กัมพูชา ที่มีที่มาใกล้เคียง แต่ที่ไป ไกลลิบ เพลงของเขา น้อยนักที่จะนำหน้าด้วย "ชนชาติต่าง" มันบอกอะไรเราได้บ้าง ถ้าเป็น "ดนตรีสยาม" ซะก็หมดเรื่อง ลองสังเกตุดูสถาปัติยกรรมโบราณต่างๆที่มีอยู่ในสุวรรณภูมินี้ หรือ งานปฏิมากรรมใดๆ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากกลุ่มชนที่หลากหลายเชื้อชาติ และวัฒนธรรม แต่น้อยนักที่จะให้เกียรติใช้ชื่อชนชาตินั้นๆนำหน้าเฉกเช่นเพลงไทย(อีกแล้ว)ซึ่งก็กลายเป็นความเข้าใจผิดกันบ้างตามประสาในหมู่คนที่ขาดความเข้าใจ แค่นี้ก่อนครับ ยิ่งเขียนยิ่งงง ว่ามั๊ย... จากคุณ : ยางสน - [ 2 ส.ค. 47 23:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ท่านที่ไม่มีความรู้ ก็มาอ่านประดับความรู้เฉยๆ ดีกว่านะครับ ออกความเห็นไม่สร้างสรรค์แบบนี้ น่ารำคาญครับ สำหรับท่านที่ให้ข้อมูล ขอบคุณมากครับ เช่นคุณ JPL, คุณยางสน, คุณ Narcissus โดยเฉพาะมุมมองของคุณยางสน น่าสนใจมากครับ จากคุณ : นักอ่านชั้นอะ - [ 3 ส.ค. 47 11:56:26 A:192.232.68.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกท่านที่ตอบคำถามนี้ น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนพอควร เคยเห็นคำถามนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว คิดว่าคงจะมีคนถามแบบนี้อีกหลายครั้ง แต่ถ้าพบอีกคงไม่รออ่าน เพราะรู้คำตอบแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าก็รักดนตรีไทย (aunty_bkk) - [ 3 ส.ค. 47 19:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : อากง - [ 3 ส.ค. 47 20:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุยต่อคุณยางสน อีกนิด เกี่ยวกับสุนทรียทางดนตรี และสังคม ในช่วงแรกๆ เราคิดว่า ผู้แต่งท่านคงคิดในลักษณะของการ "รับเอา" สำเนียงมาผสมผสาน เพื่อความไพเราะ เพื่อขยายทางบรรเลง ให้รับกับเนื้อเพลง ซึ่งตัดตอนจากวรรณคดี หรือเมื่อให้เข้ากับการแสดง เช่นการแสดงละครพันทาง ก็ต้องมีเพลงออกสำเนียงพม่า มอญ ลาว ต่อๆ มาก็เป็นเรื่องของสังคม การบรรเลงเพลงไทยสำเนียงชาติต่างๆ ในขณะรับแขกเมือง ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้แต่ง และผู้บรรเลง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับ ยอมเป็นมิตร ผูกสัมพันธ์กัน อย่างการแสดงระบำ บางชุดที่กรมศิลปากรจัดทำเพื่อตอนรับแขกบ้านแขกเมืองทั้งหลาย ที่รู้สึกว่า เพลงไทยของเรา มีลาว มอญ พม่า แขก เยอะ ก็เพราะเพลงเหล่านั้น มีเนือ้ร้องให้เราจำได้ติดหู มีทำนองที่ฟังไพเราะ เย็นใจ ในขณะที่เพลงไทยแท้ๆ ที่มีลักษณะเหมือนภาษาไทย "คำโดด" ฟังแล้วรู้สึกห้วนไปซักหน่อย แต่ก็คือเพลงไทย หนักไปทางบรรเลง เพราะบรรจุเนื้อเพลงแล้ว ไม่ติดหู ความเห็นส่วนตัว......ก็ว่ากันไปอ่ะนะ จากคุณ : นัทธ์ - [ 3 ส.ค. 47 22:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #19 เอาชื่อเพลงที่ขึ้นต้นด้วย ช ช้างไปก่อนละกันนะครับ - เชิด ( เชิดใน, เชิดนอก, เชิดจีน, เชิดฉิ่ง, เชิดฉาน, เชิดมอญ, เชิดแขก) - ชวา (บูเซ็นด็อก) - ชมแสงจันทร์ - ชมแสงทอง - ช้างประสานงา - เชียงแสน - ชำนาญ (ชำนัน) - ชุบ ไปค้นต่อเอาเอง จะได้เป็นการค้นคว้าของคุณเอง ใช้ google ก็น่าจะเจอนะครับ แนะนำหนังสือไว้ละกัน - "การดนตรีไทยและทางเข้าสู่ดนตรีไทย" โดยครูสงัด ภูเขาทอง - "สังคีตนิยมว่าด้วยดนตรีไทย" โดย เฉลิมศักดิ์ พิกุลศรี - "ทฤษฎีและปฏิบัติดนตรีไทย" โดย ศ.ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ - "รวมบันทึกเพลงไทย" โดย ภิชาต เลณะสวัสดิ์ ผมซื้อจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ (นานแล้ว) ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็หลังไมค์ละกันครับ จากคุณ : Narcissus - [ 3 ส.ค. 47 23:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาทักทายครับ ไม่ได้เข้ามาซะนาน อยากให้ห้องดนตรีไทยมีกระทู้คึกคักๆอย่างนี้ บ่อยๆจังเลยครับ จากคุณ : นักเรียน ม ปลาย - [ 4 ส.ค. 47 14:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ ท่านประธานหายไป๋ จากคุณ : Narcissus - [ 4 ส.ค. 47 19:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาเซฟค่ะ อิอิ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 ส.ค. 47 22:38:59 ]