CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    Rerun นิยายเรื่องซินเดอร์มารายอ้า (กระทู้เดียวจบ) ขออภัยถ้าโหลดนาน

    ตามเสียงเรียกร้องค่ะ

    ซินเดอร์มารายอ้า
    Vicky_b

    Chapter I
    สาวน้อยผู้อาภัพ

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ตลาดโรงเกลือที่สงบสุข ผู้คนต่างมีความสุขยิ้มแย้มแจ่มใส พ่อค้าแม่ค้าขายของกันในตลาดอย่างมีความสุข พ่อบ้านแม่บ้านที่มาจับจ่ายใช้สอยก็มีความสุขในการจับจ่ายไม่ต่างกัน และนั่นสาวน้อยสุดสวยที่หิ้วตะกร้าเก่าๆมาจ่ายตลาดแถมยังอยู่ในชุดแม่บ้านขี้ริ้วขี้เหร่ราคาถูกแสนถูกที่ไม่รู้ว่าโดนซักบ้างหรือเปล่านามว่า ซินเดอร์มารายอ้า เธอเป็นเด็กหญิงผู้น่าสงสาร แต่ก่อนชีวิตของเธอสวยงามดั่งกลีบกุหลาบโรย
    (ตัดเป็นภาพขาวดำ)เธอเป็นบุตรสาวของท่านเซอร์ กาย ริชชี่ และ ท่านผู้หญิงเมียน้อยกาย ริชชี่  แต่อนิจจาเธอเกิดมาได้ไม่นาน มารดาผู้ให้กำเนิดก็หมดลมหายใจเพราะเลือดไปเลี้ยงเส้นผมไม่เพียงพอ มีเพียงสิ่งเดียวที่แม่ของเธอพูดออกมาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะลาโลกไปคือ… “เด็กคนนี้จะต้องชื่อซินเดอร์มารายอ้า เพราะเธอมีดวงตาสีฟ้าที่สวยงาม” เออ! เกี่ยวไรกันอ่ะไม่เข้าใจแต่ช่างเหอะ ส่วนบิดาของเธอก็เศร้าโศกเสียใจในการจากไปของภรรยาอันเป็นที่รักและแม่ของลูกจนวันๆไม่ทำอะไรนอกจากนั่งเล่นดีดไหระบายอารมณ์ ด้วยเสียงดีดไหที่ไพเราะเสนาะโสตรวมทั้งลีลาม้วนหลาย ไปต้องหูต้องตาเจ้าของคลับของชนชั้นสูงในเมืองนาม
    “อีสานไฮเทค” บิดาของเธอจึงได้ไปเป็นนักดนตรีที่คลับ ที่นั่นบิดาของเธอได้ตกหลุมรักนางโชว์ที่สวยดั่งดาวจรัสแสง งามดั่งแก้วเจียระไน มีสมาดอนน่า
    ดั่งคำกล่าวที่ว่า รักทำให้คนตาบอด ทั้งสองคนนี้ก็ไม่ต่างกัน หลังจากคบหาดูใจได้ไม่ถึง 3 วัน ทั้งคู่ก็ตกลงแต่งงานกัน จะด้วยฟ้ากลั่นแกล้งหรือม่านหมอกแห่งรักจางลง วันส่งตัวเจ้าสาวเข้าบ้าน ท่านเซอร์กายจึงได้ทราบความจริงว่า แท้จริง มีสมาดอนน่า ไม่ได้เป็นคนโสดจริงดั่งนามตั้ง เพราะเธอมีลูกติดอีก 3 คน คือ วิคกี้ บี พี่สาวคนโต  อะแฟนไคลี่ พี่สาวคนกลาง และหนูหลอดลูกสาวคนสุดท้อง แต่ถ้าเทียบอายุแล้วยังไงยัย เอ๊ย! หนูซินเดอร์มารายอ้าก็ยังอายุมากกว่าสามสาวนั่นอยู่ดี
    ท่านเซอร์เลี้ยงดูบุตรสาวทั้งสามดั่งบุตรสาวแท้ๆของท่านเอง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด บิดาอันเป็นที่รักก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยสาเหตที่ไม่อาจระบุได้หรือชาวบ้านเรียกว่า ไหลตาย แม้แต่หมอพรทิพย์เองก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ ว่าตายได้ยังไง
    “เอ่อ! อันนี้หมอก็ไม่สามารถระบุได้นะคะ ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบของตำรวจก่อน หมอยุ่งมากไม่ได้ค่ะ มันนอกเหนือหน้าที่ของหมอค่ะ” พูดเสร็จเธอก็เกาหัวที่ผมสีแดงสดถูกจัดเป็นกระจุกแหลมๆ ดั่งหนามทุเรียนหมอนทองดังแกรกๆ และเดินจากไป ปล่อยให้ครอบครัวผู้สูญเสียเสาหลักของบ้าน ยืนโศกเศร้ากันต่อไป
    งานศพของท่านเซอร์เป็นไปอย่างเงียบเชียบมีเพียงคณะลิเกของกุ้ง สุทธิราชเท่านั้นที่เป็นมหรสพใหญ่ของงาน ด้วยมีสซิสมาดอนน่าให้เหตุผลในการจัดงานเล็กๆเพราะ ทรัพย์สินในบ้านของท่านเซอร์มีไม่มาก และตอนท่านเซอร์เสียชีวิตทางบ้านก็ติดหนี้สินเยอะแยะจนไม่สามารถจัดงานใหญ่ๆได้
    หลังจากสิ้นบุญท่านเซอร์ มีสซิสมาดอนน่าก็ตั้งตัวเป็นเจ้าของบ้านทันที และผลักไสให้ซินเดอร์มารายอ้า ลดตัวไปเป็นคนรับใช้ แม้จะมีคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำในครั้งนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าปริปาก แต่เรื่องนี้ก็เคยมีการถกเถียงกันระหว่างการเปิบซกเล็กของเหล่าคนใช้หลังครัว และเรื่องที่หนีไม่พ้นเมื่อคนใช้คุยกัน คือนินทาเจ้านายโดยมีหัวหน้าคนใช้คนสนิทของท่านเซอร์ นายคลับเฟลล่า คนเก่าคนแก่ของบ้านที่ไม่พอใจในการกระทำของ มีสซีสมาดอนน่าที่ทำกับหนูซินเดอร์มารายอ้า จนปากคันคันปากอยากเม้าท์ขึ้นมา กลางวงซกเล็ก
    “ข้านะไม่เห็นด้วยเลยที่จะให้คุณหนูซินเดอร์มารายอ้า ต้องมาเป็นคนรับใช้ คุณหนูสมควรที่จะได้นั่งแท่นเป็นเจ้าบ้านมากกว่านังผู้หญิงกลางคืน ไร้เกียรตินั่นซะอีก” หัวหน้าคนใช้เม้าท์อย่างออกรสโดยมีลูกคู่เป็นคนใช้ในบ้านพากันเห็นด้วย แต่จะเพราะเม้าท์ดังไป หรือเป็นคราวชะตาขาดก็ไม่ทราบได้ มีสซีสมาดอนน่าเกิดเดินมาได้ยินเข้า นางจึงหยิบเอามีดพร้าในครัว มาตัดคอหัวหน้าคนใช้ต่อหน้าธารกำนัล ที่กำลังเปิบซกเล็กกันอย่างเมามัน
    “เพื่อความเข้าใจและเข้าถึงพวกแก ข้อยซิจะเว้าเป้นภาษาอีสาน ถ้าไผซิข้องใจในการบริหารจัดการทุกอย่างในบ้านของข้อย พวกเจ้าสามารถเว้ามาซื่อๆได้ ข้อยเป็นคนสปอร์ตหลาย แต่ถ้าไผที่ขุดเอาอาชีพเก่าของข้อยมาเว้ากันอีก หัวของมันผู้นั้นซิจะกุดเหมือนบักคลับเฟลล่านี่” ว่าแล้วนายหญิงก็โยนหัวของหัวหน้าคนใช้ลงกลางวงซกเล็ก โอ้ว!!! แซ่บ
    ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของ ซินเดอร์มารายอ้า ก็ไม่ต่างอะไรกับหน้ามือเป็นหลังฝ่าเท้า จากเด็กสาวที่เคยมีเสื้อผ้าสวยๆใส่ เธอก็ได้นุ่งเพียงเสื้อผ้าเก่าๆสกปรก มอมแมม งานบ้านที่ไม่เคยทำเธอก็ต้องทำ ห้องนอนที่เคยหรูหราก็แปรสภาพมานอนข้างคอกวัวคอกควาย ว่าไม่ได้เลี้ยงควายกะลัง อินเทรนด์ คนรวยเค้าเลี้ยงกันเยอะ แต่ถึงชีวิตจะดูเศร้าสลดเพียงใด สิ่งเดียวที่นำพาความสุขมาสู่ชีวิตน้อยๆของสาวน้อย คือการได้ร้องเพลง ซินเดอร์มารายอ้ามักจะร้องเพลงไม่ว่าเธอจะทำอะไร จะอาบน้ำ ทำงานบ้าน จ่ายตลาด หรือแม้แต่ตอนกินข้าว  “อะแหะ อะแหะ ข้าวติดคอค่ะ”   สมน้ำหน้าจะกินข้าวยังร้องเพลงอีก ----โง่นี่----
    (กลับมาบรรยากาศตลาดต่อ)
    ต่อไปจะเรียก ซินเดอร์มารายอ้า ว่ามาราย
    มีสซีสมาดอนน่า เรียกว่า มาดอนน่า
    “วันนี้จะเอาอะไรล่ะจ๊ะ สาวน้อย” แม่ค้าขายผลไม้ถามด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
    “มาร้านผลไม้ คงซื้อไข่ไก่ล่ะมั้งคะป้าขา” น่าน…มุขคุณเธอ
    “เหรอ งั้นอยู่นี่แป๊บนะ ป้ามีของจะให้” แม่ค้ายังคงยิ้มแย้มแจ่มใส บอกแล้วว่าเมืองนี้มีความสุขเรื่องแค่นี้เขาไม่โกรธกันหรอก
    พลั๊ว
    “ฮึ อีบ้า วันนี้กรูยิ่งขายไม่ได้อยู่ ยังมาเล่นมุขกวนประสาทกรูอีก อีเด็กเวร” แม่ค้าคว้าเปลือกทุเรียนตบหน้ามารายเข้าอย่างแรง เป็นเรื่องแรกที่เห็นนางเอกถูกตบด้วยเปลือกทุเรียน ปกติตัวโกงเท่านั้นถึงจะได้รับสิทธิอันพึงโดนนี้
    หลังจากโดนแม่ค้าเอาเปลือกทุเรียนตบแล้ว มาราย ก็ออกเดินซื้อของตามรายการต่อไป วันนี้แม่เลี้ยงอยากกินลาบหมู เธอจะต้องไปซื้อที่ร้านขายหมู (ก็ถ้าคราวนี้ไปถามที่ร้านขายผัก คาดว่าหล่อนคงโดนตบด้วยหัวไชเท้าแหละฉันว่า)
    “เอาชิ้นนี้ค่ะ” มารายหยิบเนื้อหมูชิ้นอวบ ในขณะที่ก็มีบุรุษคนนึงตั้งใจจะหยิบเนื้อหมูชิ้นเดียวกัน
    “อุ๊ย ขอโทษครับ” “อุ๊ย ฉันเลือกแล้วนะยะ”
    สองหนุ่มสาวต่างจับเนื้อชิ้นเดียวกัน และเมื่อตามองตากัน โอ้!ช่างเป็นภาพที่น่ารักเสียจริงๆ
    “คุณอยากได้ชิ้นนี้เหรอคะ” มารายถาม เมื่อเห็นว่าหนุ่มเจ้าของมือปริศนาหล่อมากๆ
    “เอ่อ ครับ” ชายหนุ่มตอบอย่างขวยเขิน
    “พอดีแม่ของดิฉัน อยากทานลาบหมูน่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวทำลาบไก่ให้แม่ทานแทนก็ได้”มารายพูดยิ้มๆ ด้วยกริยาเขินอายแบบไร้จริตจะกร้าน(จริงๆนะ)
    “ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมอยากกินขาหมูแล้ว เฮียเอาขานี้ล่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางยกแขนอวบๆของมารายไปให้คนขายหมู
    “อีตาบ้า” มารายด่าพลางต่อยเข้าที่ตาซ้ายอย่างแรง
    “ตาต่ำ แขนสวยๆแบบนี้เห็นเป็นขาหมู”   มารายงอนตุบป่องเดินออกจากร้านขายหมูไปพร้อมกับชิ้นหมูที่ยังไม่จ่ายตังค์มุ่งหน้ากลับบ้าน

    จากคุณ : Vicky_b - [ 9 ส.ค. 47 07:29:23 ]