สาวหนีบหนุ่มนั่ง"ลัลลาบาร์" ลุ้นผู้ว่าฯ ณ บ้านเลขที่1 เขต1
คอลัมน์ นัดกิน
ในที่สุดรายชื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นครคนใหม่ก็อยู่แค่ปลายจมูก!
และเพื่อจะให้ได้บรรยากาศแบบเข้าถึงการนั่งลุ้นพ่อเมืองคนใหม่ "ลัลลาบาร์"(Lullabar) ร้านอาหารบรรยากาศสุดสบาย บริเวณถนนมหรรณพใกล้เสาชิงช้า น่าจะเป็นสถานที่เหมาะดีใช่ย่อย
แค่เดินผ่านหน้าร้านก็รับรู้ได้ถึงความสบายสไตล์บ้านเพื่อน สมคอนเซ็ปต์ "ทุกวันคือวันหยุด"(Everyday is a Holiday) เพราะแม้ตัวบ้านจะบรรจุเรื่องราวตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 แต่เมื่อเดินเข้าไปภายในกลับพบความเป็นกันเอง ขนาดเจ้าของร้านใส่เสื้อยืด กางเกงห้าส่วนยืนต้อนรับ
ชณัฏฐ์ หวังบุญเกิด หรือ ณัฏฐ์ เจ้าของร้านมาดเซอร์ เล่าถึงร้านว่า ความจริงบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าตั้งแต่สมัย ร.ศ.130 เป็นบ้านเลขที่ 1 ประจำเขต 1 พระนคร ซึ่ง คุณพ่อศิริ หวังบุญเกิด ส.ส.กรุงเทพฯแห่งพรรคไทยรักไทย ประทับใจในเรื่องราวและตัวบ้านมาก ผนวกกับเจ้าของบ้านถูกชะตาพ่อ จึงเปิดไฟเขียวผ่านตลอดให้พ่อเช่าบ้าน เพื่อสร้างที่ทำการพรรค ส่วนตัวณัฏฐ์ทำงานเป็นเว็บดีไซเนอร์ให้กับเอไทม์มีเดีย แต่ตอนหลังพ่อเกิดอยากทำร้านอาหาร และพอเหมาะพอเจาะกับที่ณัฏฐ์เริ่มเบื่องาน เขาจึงตัดสินใจออกมาดูแลร้านแห่งนี้เต็มตัว
"ร้านไม่มีสไตล์นะ อย่างโต๊ะเก้าอี้ก็เดินหาจากวัดสวนแก้วเป็นส่วนใหญ่ เอาแบบสบายๆ เหมือนมานั่งบ้านเพื่อน ฟังเพลง ปาร์ตี้ ส่วนชื่อลัลลาบาร์นี้ มาจากคำว่า Lullaby ที่แปลว่า เพลงกล่อมครับ เราจะเปิดเพลงแนวบริทพ็อพ ซึ่งมีน้อยร้านในกรุงเทพฯจะเปิด คล้ายๆ เอาของที่เราชอบมากล่อมให้คนนั่งมีความสุข"
ก็อย่างที่เจ้าของร้านเขาว่า นอกจากบ้านที่มีเรื่องราว เอกลักษณ์ของร้านอีกอย่างก็คือ การเปิดเพลงพ็อพจากฝั่งอังกฤษ ซึ่งสามารถชักจูงให้คนหนุ่มสาวคอเพลงเดียวกันมาสังสรรค์ที่ร้านนี้ได้ไม่ยาก จนไปๆ มาๆ ลูกค้าก็กลายเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านไปในที่สุด นอกจากนี้ ทางร้านยังเปิดโอกาสให้คนมีฝีมือปาดแปรงบนผืนผ้าใบ ได้มีโอกาสแสดงผลงานศิลปะอีกด้วย
ส่วนใครที่อยากได้ความมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ขอแนะนำวันศุกร์และเสาร์ ลัลลาบาร์จะเพิ่มสีสันด้วยการแสดงดนตรีสด ทั้งดนตรีคุ้นหูและแปลกหู แต่ชวนเพลินใจไม่แพ้กัน โดยมีพนักงานต้อนรับอัธยาศัยดี ชื่อ ไทเกอร์ สุนัขพันธุ์บ๊อกเซอร์วัย 9 เดือน คอยดูแลตลอดจนกว่าแขกจะอยากกลับ
ด้วยความหลากหลายของเครื่องตกแต่ง ทำให้ลัลลาบาร์สามารถให้บริการทั้งผู้ใหญ่หัวใจยังรุ่น และคนในวัยรักชอบดนตรีแนวบริทพ็อพของร้าน เช่น มุมสงบริมระเบียงบ้านด้านหลัง มุมเก้าอี้ไม้เรียบง่าย มุมโซฟาสีขาวสะอาดตา และพระเอกของร้าน มุมกระจกพร้อมโซฟาหนังสีดำชุดใหญ่น่าสบายและเป็นส่วนตัว ซึ่งเจ้า ของร้านระบุว่า ฮิตมากขนาดลูกค้าประจำต้องแย่งกันโทร.จอง
แต่กว่าจะเป็นอย่างนี้ได้ ณัฏฐ์เล่ากึ่งตลกว่า ร้านเปิดมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2546 แต่ด้วยทำเลที่ลูกค้าต้องสวมวิญญาณนักค้นสักหน่อย ทำให้ช่วง 6 เดือนแรก ร้านเหงาชนิดนั่งตบยุง แต่ช่วงหลังเมื่อมีคนเข้ามาแล้วติดใจ พลังปากต่อปากกระจายออกไป ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากว่า "ทำเลเป็นโจทย์สำคัญ ช่วยพยายามมาหากันหน่อยนะครับ"
ใครอยากฟังดนตรีมีเอกลักษณ์ พร้อมเจอเพื่อนใหม่ในบ้านที่มีเรื่องราวหมายเลข 1 แห่งเขตพระนคร ตกเย็นวันที่ 29 สิงหาคม หลังใช้สิทธิเลือกผู้ว่าฯคนใหม่แล้ว ลองหาโอกาสมาแถวศาลาว่าการกรุงเทพฯ หากมาทางราชดำเนินจะผ่านร้านนมมนต์ เลยมาอีกนิดซอยแรกขวามือ คือถนนมหรรณพ และซอยมหรรณพ 1 มีร้านเพลงกล่อมให้นั่งลุ้นโฉมหน้าผู้สร้างความหวังใหม่ให้คนกรุง
....ไม่ได้ไปซะนานเลย คิดแล้วอยากไปจังยิ่งใกล้ต้นเดือนแล้วด้วย
จากคุณ :
MooG.G 
- [
27 ส.ค. 47 21:57:09
]
โอ้ ร้านนี้ดังใหญ่ล่ะ
