CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    "จักรวาล" โลกของ "เทียรี่" โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤศจิกายน 2546 17:04 น.

    สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเพลงบ้านเราพอสมควรสำหรับนักร้องเสียงเครือ "เทียรี่ เมฆวัฒนา" หนึ่งในสมาชิกของวงดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดัง "คาราบาว" เพราะผลงานที่ผ่านมาของเขานั้นหากไม่เป็นแนวเพื่อชีวิตก็จะเป็นลูกทุ่งเสียส่วนใหญ่

    ทว่ากับงานล่าสุดที่ชื่อ "จักรวาล" ของเขานั้นกลับออกมาในรูปงานดนตรีบรรเลงแบบ Progressive Rock ที่ยากยิ่งนักที่จะหาศิลปินไทยทำงานในประเภทนี้ออกมา

    "ผมเป็นคนที่อยากทำงานอะไรหลายๆ อย่าง ชุดนี้เป็นชุดที่ผมทำมา 10 ปี แล้วนะ ก็ตั้งแต่ปี 36 แต่ก็ยังไม่มีจังหวะที่จะออก บางทีเราไปคุยกับค่ายบางค่ายเขาอยากจะให้เราใส่เสียงร้องลงไปบ้าง ผมไม่ทำเพราะผมคิดอยู่คอนเซ็ปเดียว"

    เทียรี่บอกว่าตนเองเป็นคนที่ทำงานเพลงหลายประเภท ไม่ได้ยึดติดกับประเภทหนึ่งประเภทใด
    "คือผมเป็นคนทำงานหลายอย่างอยากทำอะไรก็ทำ อยากออกเพลงลูกทุ่งก็ออก...เริ่มต้นชุดนี้เลย เราอยากทำงานแปลกๆ เรื่องอวกาศ ซาวนด์ที่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอวกาศทั้งหมด โดยที่เป็นความคิดในช่วงตั้งแต่ 10 ปี ตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่อยู่ในคาราบาว ผมอยากทำมากนะเพราะปกติไม่ค่อยมีใครทำ แล้วก็เป็นงานที่ยากนะทำยากกว่ามีเสียงร้องอีก เพราะมันอธิบายด้วยเสียงร้องไม่ได้"

    "ใช้เวลาอัดจริงๆ 6 เดือน ผมจะทำงานเพลงอย่างเดียว ไม่ทำอย่างอื่น 6 เดือน ก็ 6 เดือนไปเลย เหมือนทำลูกทุ่งก็คือทำไปเลย...ตลาดคนฟังเพลงลูกทุ่งผมไม่เสียดาย เพราะผมก็ออกมาอยู่แล้ว คือไม่ใช่ว่าเก่งตลาดแต่ว่าผมอยากทำอะไหลายๆ อย่าง แล้วไม่จำเป็นที่ผมจะต้องมานั่งวิตกว่าคนรู้จักคุณแบบนั้นแล้วมาทำอีกแบบหนึ่งแล้วมันจะเสีย ไม่เกี่ยว จริงๆ แล้วมันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราทำได้หลายๆ อย่าง ผมว่ามีคนแบบนี้เยอะแต่หมายถึงว่าเขาจะกล้าทำหรือเปล่า แต่ผมอยากทำผมก็ทำ"

    "จักรวาล" ทุกเพลงล้วนเกิดขึ้นมาจากความตั้งใจที่รับรองว่าไม่เหมือนใครแน่นอน
    "ดนตรีก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น หมายถึงว่าเสียงกีต้าร์ก็เป็นเสียงกีต้าร์ที่แปลก ไม่จำเป็นต้องเหมือนฝรั่งเขา เพราะว่าผมเป็นคนไม่ดูงาน อย่างมีคนมาเวิร์กช้อปที่ฝรั่งเขามาล่น ผมก็ไม่ดู เพราะว่าถ้าเราดูเมื่อไหร่เราก็ติดของเขา ทำอัลบั้มนี้ผมได้เรียนรู้เยอะคือวิธีการใช้โน้ตบางทีมันก็แตกต่าง บางทีก็จะมีโน้ตที่อยู่ด้วยกันไม่ได้แต่เราเอามาอยู่ด้วยกัน อย่างเอกับซีอะไรแบบนี้มันอยู่ด้วยกันไม่ได้แต่เราก็มารู้ว่าถ้าเหลื่อมช่องกันมันจะอยู่ด้วยกันได้"

    "อย่างเพลงสหัสรังสี จังหวะมันจะ 5-4 ไม่ใช่จังหวะ 4-4 คือก็อยากทำดูซิว่าถ้าเราทำเป็น 5- 4 มันจะรู้สึกว่ามันขัดมั้ย มันเต้นได้มั้ย แล้วเราก็พบว่ามันได้ เพลงบรรเลงนี่มันไม่มีภาษาพูด เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ทำให้คนฟังรู้สึกเบื่อ ก็ต้องมีทั้งขึ้นทั้งลง หรืออย่างเสียงกลองนี่ก็เป็นเสียงโปรแกรม ที่ผมใช้โปรแกรมก็เพราะว่าเรื่องของจักรวาลมันต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์ผมคิดแบบนั้นนะ อย่างคุณไปดูหนังสตาร์ วอส์อะไรก็ตามคุณจะมีความรู้สึกว่ามันเป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนั้นแหละ"

    "มันเป็นเจตนารมณ์ของเราที่เราต้องการอย่างนั้น แต่ไม่แน่เราอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ถ้า แต่นี่คือความคิดผมเมื่อ 10ปีที่แล้ว"

    ใช้วิธีไหนในการแต่ง?
    "ผมเอาหนังสือมา หนังสือไลฟ์เกี่ยวกับเรื่องอวกาศอย่างเดียว แล้วเราก็ดูว่าเราจะแต่งเรื่องไหน อย่างเรื่องสหัสรังสี ที่แปลว่าพระอาทิตย์เราก็ดูรูปพระอาทิตย์นี่แหละดูแล้วก็อยู่ในห้องเหมือนคนบ้า เปิดไฟน้อยๆ เล็กๆ ดวงเดียวปิดไฟมืดๆ แล้วก็ค่อยเขียนขึ้นมา คือทุกๆ อย่างมันถูกทำขึ้นมาตามที่มันน่าจะเป็นจริงๆ อย่างเพลงอุกกาบาตต้องมีความรู้สึกว่ามันเคลื่อนไหว ดุเดือดอะไรอย่างนี้ ถ้าเป็นเกี่ยวกับสหัสรังสีก็เป็นแสงร้อนๆ หรืออย่างเพลงจักรวาลนี่ก็จะเป็นอะไรที่มันกว้างใหญ่"

    ทำไมต้องเป็นจักรวาล?
    "ผมชอบมัน เพราะมันเป็นภาพที่สวย มนุษย์เพิ่งเห็นภาพนี้มาไม่กี่ปี เมื่อก่อนมนุษย์ไม่เห็น 200 ปีถึงมั้ยที่มีคนมาถ่ายภาพอย่างนี้ไปดูดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์คนรุ่นก่อนไม่รู้จัก มองขึ้นไปก็มีดาวแค่นั้นเอง แล้วในสมัยโบราณก็จะไม่เคยมีรูปแบบนี้เลย ก็จะมีรูปโมนาลิซ่า รูปดอกไม้ แต่รูปพวกจักรวาลไม่มี แล้วจินตนาการไม่ออก อย่างมากก็มีแค่ท้องฟ้า มีดาว แต่คุณเคยเห็นทางช้างเผือกมั้ย
    คุณเคยเห็นดวงจันทร์ พระอาทิตย์มั้ย"

    "อย่างเพลงจักรวาลนี่ก็จะเป็นอะไรที่กว้างใหญ่ เวลาคุณฟังเพลงนี้คุณก็ต้องรู้สึกว่าต้องจินตนาการด้วย ฟังแล้วเปิดหนังสือเกี่ยวกับจักรวาลนั่งดูแล้วคุณจะรู้สึกว่ามันเข้ากันนะ หรืออย่างเพลงหมื่นไมล์ทะเลก็เป็นเรื่องในทะเลผมแต่งตั้งแต่อายุ 23 แล้วก็จำไว้แล้วก็มาต่อเรื่อยมาจนถึงปี 36 เพลงทะเลสีทองก็เป็นทะเลทราย ซึ่งจะใช้โน้ตที่มันเป็นอียิปต์นิดหน่อย เป็นคาวบอยๆ เราก็จะใช้โน้ตแบบนั้น"

    ไม่คิดถึงเรื่องตลาดเลย?
    "ไม่คิดเลยครับ พอเราคิดถึงตลาดมันก็มีกรอบทันทีเลย เราต้องทำตามใจฉันเลย เพราะว่าผมอยากจะอธิบายคำนี้แหละเข้าใจมั้ย เงินมันจะคิดว่าตัวเองใหญ่แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเทียบกับจักรวาลเล็กมาก เขาเรียก อีโก้ไง เพราะมันคิดว่าตัวเองใหญ่...แต่ชุดนี้ขายดีครับ (ยิ้ม) กลุ่มหนึ่งซื้อไปฟังเพราะเห็นว่ามันประหลาดดี อยากให้คนไทยทำงานที่มันหลากหลายบ้าง บ้านเราไอ้นี่ดัง ไอ้นี่แดนซ์ก็จะแดนซ์กันทั้งแถบเลย ไม่ใช่เมืองนอกเขาจะมี เหมือนบลูซ์ก็ส่วนหนึ่ง ใครจะฟังคันทรี่ก็ฟัง ร๊อกก็ร๊อกไปมันควรที่จะเป็นแบบนั้น"

    เทียรี่บอกว่าสำหรับเขาแล้วจุดเด่นของเพลงชุดนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนไปกว่าเรื่องของความแปลก
    "อาจจะเป็นตัวโน๊ตที่เป็นอวกาศที่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่...มันฟังยากอยู่แล้ว อย่างไปขายคนที่เขาฟังเพลงป๊อปนะเขาไม่ซื้อหรอก แต่ผมต้องการคนที่ฟังเพลงยากๆ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นผมจะมาเสียเวลาทำทำไม ผมทำเพลงป๊อปเพราะๆ ก็ได้ ขายดีกว่านี้ตั้งเยอะ แต่บางทีเราอายุขนาดนี้แล้วเราก็อยากทำอะไรหลายๆ อย่างไม่ใช่หาเงินอย่างเดียว"

    "ชุดนี้ผมพอใจนะ ผมทำตามใจ 100 %...ชุด 2 ก็อยากทำครับ เราอยู่ในวงการเพลงเราก็อยากที่จะทำอะไรที่มันเหมือนกับเป็นแนวที่ใช้ฝีมือหน่อย มันจะได้มีอะไรหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ผมว่ามันมีแค่สตริงกับลูกทุ่ง มันน่าจะมีอะไรหลายๆ อย่าง คุณทำเพลงบลูซ์ก็ได้ เพลงแจ็สก็ทำไปซิ ไม่งั้นคนที่ไม่ฟังเพลงไทยสองอย่างนี้ก็จะไปฟังเพลงฝรั่งอย่างเดียวเลย"

    "ที่บ้านเรายังเป็นเรื่องของกระแส คนไทยยังติดอยู่กับกระแสด้วย คือถ้าอันนี้ดังก็จะตามกันไปหมดเลย"
    -----------------------------------------------------
    http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=4613903939127

    จากคุณ : NKL - [ 3 ก.ย. 47 23:09:52 A:203.107.205.18 X: ]