ความคิดเห็นที่ 1 แล้วก็พูดเรื่องทำอัลบั้มมา 3 ปี เจอร์รี่ก็พูดเล่นว่าไปล่วงเกินคนไว้หลายคน พิธีกรถามว่า ใครที่โดนหนักที่สุด เจอร์รี่บอกว่าพูดเล่น แล้วพิธีกรก็บอกว่าแฟนๆ เธอนี่ดีนะ ไม่ถามคำถามยากๆ เลย เจอร์รี่บกว่าเค้าบอกว่าให้กินเยอะๆ หน่อย พิธีกรก็ถามว่าจะเขียนเพลงต่อไม๊ เจอร์รี่ก็บอกว่าต้องดูเวลา ความสามารถ บริษัท ว่าจะให้ทำชุด 2 ไม๊ พิธีกร.. เป็นไปได้ไม๊ที่จะเอาหลินจื้อหลิงมาเล่นเอ็มวี เค้าเป็นนางแบบน่าจะเล่นบทไหนก็ได้ คุณสนิทกับเค้ามาก คุณคิดว่าเค้าเหมาะกับบทแบบไหน เจอร์รี่.. เหมาะกับบทแบบไหน ใน MG1 จริงๆ แล้วบทพี่จิ้ง ก็เคยแนะนำให้เธอ พิธีกร.. คุณเคยแนะนำเธอมาเหรอ เจอร์รี่.. เปล่าๆ ไม่ได้แนะนำ แค่เคยคุยกับพี่ไฉ พี่ไฉถามว่ามีเพื่อนคนไหนจะแนะนำไม๊ ที่เหมาะกับบทในเรื่อง ผมรู้จักเธอมานาน ผมรู้สึกว่าบุคลิกเธอเหมือนพี่จิ้งในเรื่อง MG1 คือเรียนหนังสือสูง มีบุคลิกดี พิธีกร.. ในสายตาคุณคือ เรียนหนังสือสูง มีบุคลิกดี เจอร์รี่.. เค้าจบปริญญาโท 2 ใบนะ พิธีกร.. ปริญญาโทเหรอ แค่ปริญญาตรี 2 ใบไมใช่เหรอ เจอร์รี่.. (หันไปมองทีมงาน) ปริญญาโทนะ เธอจบปริญญาโท 2 ใบไม่ใช่เหรอ พิธีกร.. ใช่เหรอ ฉันจำได้ว่าปริญญาตรี 2 ใบนะ เจอร์รี่.. (ทำหน้างง และรอคอยคำตอบจากทีมงานมาก) พิธีกร.. ไม่เป็นไร คุณคงรู้จักเธอมากกว่าพวกเรา เจอร์รี่.. ไม่ ไม่นะ ผมก็แค่ ตอนนั้นบริษัทโมเดลลิ่งบอกผมเกี่ยวกับเธอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเว่อร์ไปหน่อยมั้ง พิธีกร.. แล้วพอทำงานด้วยกันเป็นเพื่อนกัน แล้วคุณรู้สึกว่าเธอเว่อร์ไม๊ แบบว่าปริญญาโท 2 ใบ เธอรู้เรื่องอะไรต่างๆ มากมายอะไรแบบนั้นรึเปล่า เจอร์รี่.. เธอไม่ได้แสดงออกมา พิธีกร.. เธอดูคิกขุนะ (ไม่แน่ใจนะคะ น่าจะความหมายประมาณนี้) เจอร์รี่.. ใช่ตั้งแต่เริ่มต้นก็ได้ยินมาว่าแบบนั้น พิธีกร.. ใช่ๆ เธอชอบถ่ายแบบว่า (ทำท่าคิกขุ) คุณชอบผู้หญิงคิกขุไม๊ เจอร์รี่.. ชอบไม๊เหรอ พิธีกร.. ผู้ชายบางคนชอบผู้หญิงคิกขุ เจอร์รี่.. ควรจะบอกว่า ถ้าเธอเป็นธรรมชาติแบบนั้นก็โอเค แต่บางคนแบบว่าจงใจไปหน่อย ก็ดู fake (ยังไม่จบ เดี๋ยวแปลแล้วค่อยมาโพสต่อค่ะ) จากคุณ : Bam (Wen Wen) - [ 25 ต.ค. 47 19:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Thanks Ka p'bam i'll wait for u จากคุณ : **AnnY~LiN** (Marisa-May) - [ 25 ต.ค. 47 20:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณแบมคะ ขอช่วยล่ะกัน พอดีได้ฟังอันนี้เหมือนกัน ขอเพิ่มเติมสำหรับบางท่อนที่หายไปหรือไม่ครบ ตู้เต่อเวย เขาว่าออกอัลบั้มใหม่แล้วจะไม่พูดโกหก ดังนั้นเรื่องไหน ที่นักข่าวถามแล้วไม่อยากตอบก็จะบอกว่า ขอไม่ตอบ เจอรี่ใช้ศัพท์แสลงตรงคำว่า case ที่คุณแบมแปล จริง ๆ มันเป็น K wan เป็นคำถิ่นของไต้หวัน แปลว่า ฆ่าทิ้งหรือกำจัด (แสดงว่ายังวัยรุ่นอยู่นะเนี่ย) เพราะแฟนส่ง diary ทั้งเล่มให้เจอรี่อ่าน และตัวเขาก็ต้องการอ่านให้จบ เนื่องจากอยากรู้ว่าแฟนคนนั้นมีข้อคิดเห็นหรือคอมเม้นท์อะไรบ้างกับเขา แล้วก็พูดติดตลกว่าอัลบั้มนี้คงเป็นอัลบั้มสุดท้ายแล้ว เพราะเรื่องที่ได้ล่วงเกินชาวบ้านก็ล่วงเกินไปหมดแล้ว จากคุณ : susijang - [ 25 ต.ค. 47 20:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะทั้งพี่แบม แล้วก็คุณsusijang ด้วยค่ะ ^__^ จากคุณ : To be good lover - [ 25 ต.ค. 47 22:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 (ต่อจากข้างบน) แบบย่อๆ นะคะ เพราะเค้าพูดแทรกกันไปมาตลอด ก็เลยไม่รู้จะเขียนยังไงค่ะ ขอบคุณคุณ susijang ด้วยค่ะ (แต่อยากถามตอนที่เค้าบอกว่าอะไรไม่รู้ที่จะให้แม่เค้าดู เค้าพูดว่าอะไรเหรอคะ แล้วพิธีกรตอบว่าอะไร) แล้วก็พูดอะไรต่อไม่รู้ ฟังไม่ค่อยออก ประมาณว่าถ้าธรรมชาติเป็นแบบนั้นก็โอเค ถ้ามานั่งแกล้งทำคงเหนื่อย (แต่ไม่รู้ฟังผิดรึเปล่า) พิธีกรถามว่า อะไรเป็นเรื่องที่ไม่สบายที่สุดหลังจากที่ดังแล้ว เจอร์รี่ คิดนานมาก แล้วก็บอกว่าก็โอเคนะ แต่จริงๆ ก็มีเหมือนกัน เช่นตอนขึ้นลิฟต์หรือเดินตามถนน แต่ก็เริ่มชินที่จะยิ้มให้คนอื่นก่อน แต่มีครั้งนึงเจอผู้หญิงกับผู้ชาย 2 คนแฟนกันขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน ผู้ชายสะกิดให้ผูหญิงดูว่าดูสิ เหยียนเฉิงซวี่ ผู้หญิงบอกว่า แล้วทำไมเหรอ ไม่เห็นมีอะไรเจ๋ง เจอร์รี่บอกว่าจ๋อยเลย ว่ายังไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ แต่ทั่วๆ ไปก็โอเค พิธีกรก็ถามต่อว่าแล้วอะไรที่เป็นสิ่งที่ได้มาที่ดีที่สุด เจอร์รี่ก็ตอบคล้ายๆ เดิมว่า ได้เรียนรู้ เช่นเปียโน การออกเสียง เขียนเพลง แล้วก็มีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้มาก ทำให้รู้อะไรเยอะ ไม่ใช่เป็นแค่ให้คนอื่นจัดการหมด แล้วตัวเองก็ออกมาร้องเพลงแค่นั้น แล้วก็พูดเทียบสมัยก่อนว่าไม่ค่อยมั่นใจ เพราะรู้สึกว่าตัวเองอาศัยอะไรเหรอ ตัวเองไม่มีความสามารถอะไร ทำไมดังได้ พิธีกรก็ให้เล่าเรื่องตลก เจอร์รี่ก็เล่าเรื่องเดิมที่เล่าในสี่แยกพาไปชิม ที่มีแฟนกันคู่นึง แล้วผู้หญิงจะให้ผู้ชายพิสูจน์ว่ารักแท้ ผู้ชายก็ให้ผู้หญิงเอา 30 บาทออกมาวางบนโต๊ะ แล้วผู้ชายก็เอาอีก 10 บาทมาวางแล้วบอกว่านี่ไง ซึ่งความหมายก็คือ ซื่อสือไจ้เมี่ยนเฉียน คือ 40 บาทอยู่ตรงหน้า คำว่า ซื่อสือ พ้องเสียงกับคำที่แปลว่าความจริง ก็คือ ความจริงอยู่ตรงหน้า (เรื่องนี้ตอนนี้กลายเป็นเรื่องโจ๊กไปแล้ว ไม่ใช่เพราะตลกนะ แต่เพราะเจอร์รี่เล่าอยู่เรื่องเดียวมา 3 รายการแล้ว แต่รายการนี้คงเป็นรายการที่สองแต่ออกอากาศก่อน รายการแรกคือสี่แยกพาไปชิม แต่ออกอากาศทีหลัง แล้วก็มีรายการอีกอันน่าจะหลังจากอันนี้ แฟนฝากแฟกซ์บอกพิธีกรว่าลองให้เล่าสิ แต่หวังว่าจะไม่ใช่เรื่อง 40 บาทนี่อีกนะ พอเจอร์รี่เล่าจบ พิธีกรก็หัวเราะอ่านแฟกซ์ให้ฟัง เจอร์รี่อายเลย แล้วบอกว่าไม่เคยเล่าที่นี่นะ พิธีกรบอกว่าสมัยนี้ทีวีมาดูได้กันหมด ขำมาก ต่อไปคงไม่กล้าเล่าแล้วล่ะเรื่องนี้) พิธีกรก็หัวเราะ เจอร์รี่ก็ดีใจว่าก็ขำกันนี่ แต่เจอร์รี่ก็เล่าเพิ่มว่าปกติก็ชอบเล่าเรื่องตลก พูดเล่น แต่มีครั้งนึงรู้สึกแย่ เพราะนักข่าวอีกแล้ว ตอนที่เปิดตัวอัลบั้มช่วงแรก เจอร์รี่เคยพูดเล่นว่าสมัยก่อนเสียงแสบแก้วหู (zao yin) ตอนนี้ดีขึ้น แบบพูดเล่น แต่นักข่าวเอาไปเขียนใหญ่โตว่า f4 ขายเสียงแสบแก้วหู แล้วก็พูดเรื่องนักข่าวว่าสมัยก่อนกลัวมาก  เวลาเจอจะเครียด จริงจัง เดี๋ยวนี้โอเคขึ้น พิธีกรก็บอกว่าสมัยก่อนพูดถึงเจอร์รี่ก็มักจะคิดว่าเป็นคนไม่ค่อยพูด หน้าตาบึ้งตึงตลอด เจอร์รี่บอกว่าอาจเป็นเพราะสมัยก่อนอยู่เป็นกลุ่ม แวนเนสก็ร่าเริง ไจ่ไจ๋ก็ช่างพูด ตัวเค้าก็เลย .. พิธีกรก็แทรกว่า แค่ยืนเก๊กข้างๆ ก็พอแล้ว เจอร์รี่รีบบอกว่าเปล่านะ ไม่ได้เก๊ก เพียงแต่รู้สึกว่าแค่ยืนเฉยๆ ข้างๆ ฟังเค้าพูดก็พอแล้ว ก็เลยอาจดูเหมือนหน้าตาไร้ความรู้สึก ไม่ได้มีความหมายอื่น แล้วก็เล่าต่อว่าตอนนี้พยายามปรับตัว ให้มองอะไรแบบไม่เครียดมาก สมัยก่อนชอบเจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ตลอด รู้สึกตลอดว่าอยู่กัน 4 คน ทำไมสื่อต้องเล่นเค้าคนเดียวตลอด พิธีกรก็บอกว่ารู้ไม๊ว่าทำไม ก็เพราะคุณดังที่สุดไง เจอร์รี่บอกว่าไม่ใช่หรอก เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวมากที่สุดต่างหาก (ประมาณว่าไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องอะไร) แล้วเจอร์รี่กทำท่าถอนหายใจว่าใน 4 คนเค้าอายุเยอะทีสุด แต่ค่อนข้างมีนิสัยเหมือนเด็กที่สุด เค้ายอมรับนะ เวลาเจอคนก็ไม่รู้ทำยังไง พิธีกรก็บอกว่าแต่ก็น่ารักดีนะ เจอร์รี่บอกว่าถ้าเจอคนที่ดีที่ถูกก็ดี แต่ถ้าเจอคนไม่ดีเค้าก็เอาไปว่า แล้วก็พูดถึงว่าตัวเองไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นศิลปินหรือดารา แค่อยากทำงานให้ดีที่สุด อย่างอัลบั้มนี้ ใครจะชอบไม่ชอบไม่เป็นไร เพราะได้ทำแบบว่าถึงมาตรฐานที่ตัวเองตั้งไว้แล้ว อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกผิดกับตัวเอง (ท่าทางเจอร์รี่เริ่มเหนื่อย ลูบหน้า บิดคอตลอด เพราะว่าเป็นหวัด) พิธีกรก็เริ่มถามเรื่องเบาๆ ว่าตอนที่น้ำหนักตัวมากสุดนี่เท่าไหร่ เจอร์รี่บอกว่า 77 แต่ไม่อ้วนนะ แค่ตัวใหญ่ ตอนช่วงก่อนที่คิดว่าต้องเล่นหนังแอ๊คชั่น แต่เวลาไม่ลงตัวเลยไม่ได้เล่น ไม่ยอมบอกด้วยว่าเรื่องอะไร พิธีกรถามว่าอยากเล่นบทอะไร เจอร์ร่บอกว่าบทปัญญาอ่อน พิธีกรก็มีบอกว่าคนส่วนใหญ่มักคิดว่าบทปัญญาอ่อน เก็บกด  แล้วก็นักฆ่า เป็นบทที่คนถือว่าท้าทาย แล้วพิธีกรก็ให้เจอร์รี่ทำท่าปัญญาอ่อนให้ดู เจอร์รี่ก็ทำทันที พิธีกรเล่าว่าไจ่ไจ๋อยากเล่นบทนักฆ่า แล้วก็คุยกันเรื่องไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ว่าหล่อไปรึเปล่า แค่สายตาก็ฆ่าคนได้แล้ว พิธีกรก็บอกว่าไม่ใช่แบบนั้น แบบพวกจิตวิปริตต่างหาก  ซึ่งต่างจากลักษณะภายนอกของไจ่ไจ๋มาก เจอร์รี่ก็เล่าเรื่องคนปัญญาอ่อนต่อว่า พวกนี้น่าสนใจที่สามารถมองเห็นความจริงของโลกได้ชัด เพราะไม่มีใครสนใจหรือถือสาเค้าเพราะเค้าปัญญาอ่อน ทำให้เห็นโลกชัด พิธีกรก็สวนว่านั่นมันไม่ใช่ปัญญาอ่อนแล้ว แต่แกล้งทำเป็นปัญญาอ่อนต่างหาก แล้วก็พูดต่อเรื่องวงการ เจอร์รี่ว่าอยู่มา 3 ปีรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ (ไม่รู้แปลผิดรึเปล่า) พิธีกรบอกว่าน่าจะอบอุ่นมากกว่านะ เพราะดังขนาดนี้ แต่เจอร์รี่ว่าแต่คนไม่ยอมรับ พิธีกรบอกว่าถูกกีดกันปัดแข้งปัดขาเหรอ เจอร์รี่บอกว่าไม่มีแบบนั้น แต่ว่า.. แล้วพิธีกรก็บอกว่าตั้งแต่เป็นายแบบพอมาเล่นละครก็ดังเลย มีแต่เสียงปรบมือ ทำไมถึงได้คิดแบบนั้น เจอร์รี่ก็พูดทำนองว่าข้างหน้าใช่ แต่เบื้องหลังก็..พิธีกรก็เลยบอกว่าเน้นหลายครั้งจังเลยนะว่ามีคนแบบว่า.. ใครที่เคยกลั่นแกล้งเจอร์รี่ไว้ระวังให้ดีนะ เจอร์รี่ก็พูดเล่นว่าใช่ๆ จะมีชื่ออยู่ในหนังสือที่เค้าจะเขียนแน่ แต่ต้องเป็นใกล้ๆ จะออกจากวงการนะ ถึงกล้าเขียนออกมา (คือเมื่อเทปแรก เจอร์รี่บอกว่าอยากเขียนสิ่งที่เจอมาใน 3 ปีนี้ จะเขียนเกี่ยวกับด้านมืดของวงการ แต่ต้องใกล้ๆ จะเลิกอาชีพนี้ก่อนถึงกล้าเขียน แต่เค้าก็พูดแบบทีเล่นทีจริง ไม่ได้ซีเรียสมาก) พิธีกรถามว่า เมื่อไหร่คิดจะออกจากวงการ เจอร์รี่บอกว่า อีกปีสองปีมั้ง พิธีกรก็ดุเลยว่าบ้าเหรอ ปีสองปี 100-200 ปีมั้ง เจอร์รี่บอกว่าจะพยายามทำต่อไป แต่เรื่องเบื้องหลังพวกนั้นไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน พิธีกรก็บอกว่าเจอร์รี่เป็นคนที่แยกดำขาวชัด ทนเรื่องบางอย่างที่ไม่ถูกไม่ควรไม่ได้ แล้วก็พูดเรื่องว่าวงการสกปรก แต่อยู่ไปนานๆ ก็ชิน แล้วก็บอกว่าดาราบางคน เค้าคิดว่าเค้าหาเงินได้เท่านั้นเท่านี้ เค้าก็เลิกแล้ว ไปอยู่กับธรรมชาติ ริมทะเล ทำสิ่งที่ชอบ เจอร์รี่บอกว่าสำหรับเค้าเค้าไม่ได้คิดว่าต้องหาเงินได้แค่ไหนถึงเลิก แต่อยากทำให้ดีที่สุด อยากรู้ว่าตัวเองทำได้แค่ไหน คิดว่าอีก ปีสองปี ตัวเองจะเป็นยังไง หรือว่าถูกวงการนี้กลืนกินไป พิธีกรก็ถามเรื่องข่าวว่าแคร์ข่าวประเภทไหนที่สุด เจอร์รี่บอกว่าพวกข่าวลือชู้สาวนี่ไม่มีความรู้สึกนะ แต่แคร์เรื่องที่ไม่ได้ทำแต่นักข่าวเอาไปเขียนว่าทำ โดยมีมูลมาจากพวกคนข้างๆ ที่ฟังบางส่วน เห็นบางส่วน แล้วปล่อยข่าวออกไป แต่ละครั้งที่อ่านข่าวพวกนี้แทบอยากจะออกไปสาบานว่าไม่จริงนะ เค้าว่าพวกนักข่าวพอเขียนลงไปคนก็เชื่อ อย่างเวลาเค้าอ่านข่าวดาราคนอื่นก็เกือบเชื่อ แล้วก็พูดเรื่องว่าถ้าเขียนความจริงหรือวิจารณ์เช่นทำหน้าบึ้งใส่คนอื่น เค้าก็จะพยายามปรับปรุง แต่ไม่ใช่เขียนเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นเลยแต่บอกว่ามีเรื่องแบบนี้ พิธีกรก็พูดอะไรไม่รู้ ประมาณว่าถ้ามีปัญหาพวกนี้ ให้โทรหาเธอได้ เธอจะช่วย เพราะเธอก็เคยเจอ แล้วก็พูดว่าในวงการมีด้านมืดที่คนมองไม่เห็น แม้แต่ตัวเองยังกลัวเลย  แต่เจอร์รี่ก็บอกว่านักข่าวดีๆ ก็มี แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขียนเรื่องดีๆ เกี่ยวกับเค้านะ แต่เขียนแบบเป็นกลาง แนะนำเค้า ทำให้เค้าปรับปรุงตัว แล้วเจอร์รี่ก็บอกว่าเข้าใจว่าต่งคนก็ต้องทำมาหากิน แต่ไม่ควรสร้างข่าวที่ไม่จริง แล้วสองคนก็นินทานักข่าวว่าคุณรู้ไม๊ว่ามีนักข่าวบางคนที่เพื่อนๆ ต้องสะกิดกันว่าคนนี้พูดอะไรด้วยไม่ได้เลยนะ ไม่งั้นเดือดร้อนแน่ เจอร์รี่ก็บอกว่ามีๆ เค้ารู้ เจอพวกนี้ก็ทำท่าเออ อาๆ ไป พิธีกรก็บอกว่าก็เรียนรู้แล้วนี่ บางเรื่องต้องเรียนรู้เอง  อย่างคุณตอนนี้ก็มีประสบการณ์แล้ว เจอร์รี่บอกว่าแต่ก็เจ็บปวดมากนะ พิธีกรก็บอกว่าแต่ตอนนี้ก็ดีก็ไม่เคยถูกใครประมาณว่าโจมตีต่อหน้า เจอร์รี่บอกว่าแค่ต่อหน้าไง แต่พิธีกรบอกว่าลับหลังมีด้วยเหรอ เจอร์รี่บอกว่าไม่หรอก ตอนนี้ปล่อยวางได้แล้ว  เจอร์รี่ก็เล่าว่าช่วงที่ทำอัลบั้ม ก็แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เคยโดนเขียนซะจนฟังไม่ได้เลย เช่นเรื่องที่บอกว่าผมถูกใครตีทีสองที (ฟังไม่ค่อยออก) ฟังแล้วแทบอยากเลิก แต่ก็มาคิดว่าทนมาเกือบจะเสร็จถ้าเลิกคนข้างนอกไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นก็จะมองว่าเอ๊ะยังไง ก็เลยคิดว่าต้องทนทำให้เสร็จมีผลงานออกมาแล้วส่วนเรื่องเบื้องหลังที่เกิดขึ้นก็ค่อยปล่อยให้ค่อยๆ ... พิธีกรก็บอกว่าไม่ควรเลิกนะ แล้วเจอร์รี่ก็บอกว่า "ตอนนี้ดีใจนะ ที่ตอนนั้นไม่เลิกกลางคัน เรื่องนี้มีคนคนนึงต้องขอบคุณมากๆ ก็คือ แฟนนี่ เพราะเค้าช่วยผมไว้เยอะมาก ถ้าไม่มีเค้า วันนี้ผมคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ คนที่อยู่ข้างๆ คุณสำคัญมาก ถ้าเค้าช่วยคุณด้วยใจ ผมถึงได้มาถึงตรงนี้ได้" แล้วก็พูดต่อว่าระหว่างทำงาน ไม่มีใครรู้ บางคนก็มองด้านลบ เค้าอยากทำงานออกมาให้คนเห็น รวมถึงพวกนั้นด้วย ให้เห็นถึงความยืนหยัดอดทนของเค้า (ยังมีต่อ) แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 47 23:29:03 จากคุณ : Bam (Wen Wen) - [ 25 ต.ค. 47 23:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แฟนๆ ก็ส่งข้อความมาให้กำลังใจว่า อย่าแคร์นักข่าวเลย เจอร์รี่บอกว่าไม่แคร์แล้ว ตอนนี้แคร์คนรอบข้างมากกว่า แล้วก็มีคนถามว่าชอบเพลงไหน เจอร์ณี่ก็พูดไล่ออกมาแทบหมดอัลบั้ม แล้วก็คุยเรื่องเล่นบาส ถามว่าเคยพนันบาสไม๊ เจอร์รี่เหมือนฟังไม่เข้าใจ หัวเราะไม่ได้ตอบ แล้วก็พูดเรื่องไม่มีเวลาเล่นบาส กับเจย์ พิธีกรถามว่าชอบกินอะไร เจอร์รี่บอกว่าเค้าเป็นถังขยะ พิธีกรบอกว่าอะไรก็กินได้ เจอร์รี่บอกว่ากินของที่คนอื่นกินเหลือก็ได้ พิธีกรทำท่าไม่เชื่อ เจอร์รี่บอกว่าจริง แล้วก็เกือบจะเล่าเรื่องกัวฟู่เฉิงมั้ง แต่ก็ไม่พูดต่อ พิธีกรก็จะถาม เจอร์รี่ก็ไม่ตอบ แต่พูดต่อว่า เค้ารู้สึกว่าเห็นของเหลือรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง ถ้าคนที่กินข้าวด้วยกันกินเหลือเค้าก็จะด่านะ พิธีกรบอกว่าฉันไม่กล้าไปกินข้าวกับคุณแล้ว เจอร์รี่บอกว่าเค้ารู้สึกว่าพวกเราโชคดีที่มีกิน ไม่ควรมากินทิ้งกินขว้าง พิธีกรถามว่าแล้วคุณก็เลยเหมาหมดเลยที่เหลือ เจอร์รี่บอกว่าใช่ แต่ผมสามารถกินไปด่าไปได้นะ (พูดเองแล้วก็ขำเอง) พิธีกรงงว่า กินเยอะขนาดนี้ทำไมรูปร่างยังดีอยู่ เจอร์รี่บอกว่าเป็นโรคชนิดนึงมั้ง พิธีกรบอกว่าเพราะเล่นกีฬา เล่นบาสมั้ง เจอร์รี่บอกว่าแล้วก็บอกว่าใช่ ออกกำลังกาย แล้วพิธีกรก็พูดเรื่องเล่นหนังที่ฮ่องกงไม๊ เจอร์รี่ก็บอกว่าต้องดูว่ามีใครติดต่อมาไม๊ จากนั้นก็โปรโมทงานแจกลายเซ็น (ก็พูดวันผิดอีกแล้วค่ะ) พิธีกรก็แซวว่าคราวนี้ทำเวทีให้แข็งแรงหน่อย แล้วพิธีกรก็ถามว่าตอนนี้ใครเป็นผู้ช่วยหลัก เจอร์รี่บอกว่าเป็นแฟนนี่ซะส่วนใหญ่ แล้วพิธีกรก็พูดเรื่องแฟนๆ ใส่เสื้อ mg1 แล้วก็ถามว่ามีแฟนๆ ผู้หญิง ตัดผมทรงนี้ของเจอร์รี่ด้วย แล้วถามเจอร์รี่ว่าสวยไม๊ เจอร์รี่บอกว่ามีเหรอ ไม่เห็นนะ แต่เค้าคิดว่าผมยาวๆ แบบนี้ (ชี้ที่พิธีกร) น่าจะสวยกว่านะ พิธีกรรีบบอกเลยว่าแสดงว่าคุณชอบผู้หญิงผมยาวใช่รึเปล่า เจอร์รี่ก็เอาแต่ยิ้ม แล้วก็ถามว่าอยากเล่นหนังกับใคร เจอร์รี่บอกว่าเหลียงเฉาเหว่ย เล่นกับคนเก่งๆ จะทำให้พัฒนาเร็ว พิธีกรบอกว่าเค้าไม่กล้ามองตาเหลียงเฉาเหว่ย แต่เจอร์รี่ว่าเค้าว่าแบบหลิวเต๋อหัวเจ๋งนะ เค้าชิ่นชมมาก เพราะทั้งผู้หญิงผู้ชายก็หลงเสน่ห์หมด แต่พิธีกรบอกว่าไม่รู้สึกนะ อาจเป็นเพราะปล่อยกระแสไฟมานานไปมั้ง แล้วเจอร์รี่ก็ชมหลิวเต๋อหัวหับแซมมี่ว่า ที่เค้าเรียนรู้มากที่สุดคือการวางตัว การจัดการกับคน ทำให้รู้ว่าดาราใหญ่จริงๆ เป็นยังไง แล้วพิธีกรก็ถามเรื่องคอนฯของเฮียหลิว เจอร์รี่บอกว่าอยากดูแต่ไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วก็ชมหลิวเต๋อหัวต่อว่าเป็นรุ่นพี่ที่ควรศึกษา แล้วก็มีแฟนๆ เขียนว่าเจอกันที่คอนฯ เมืองไทย เจอร์รี่ก็มีพูดว่าอยากไปที่ต่างๆ ในไต้หวันมากขึ้น ต้องขอให้บริษัทช่วยจัดการ แล้วเจอร์รี่ก็พูดกับคนดูว่าจะตั้งใจพยายามต่อไปไม่ทำให้ผิดหวัง ประมาณนี้ ตอนจบก็ตลกดี เจอร์รี่ชอบบอกว่าอัลบั้มชุดนี้เป็นแบบว่า the best of คือประมาณว่าเป็นแบบรวมเพลงที่เค้ามักจะออกกันหลังจากออกมาหลายๆ ชุด แล้วเลือกเพลงที่เจ๋งๆ มารวม พิธีกรก็แซวว่าพูดอย่างกับเป็นอัลบั้มชุดสุดท้าย ขอให้ทุกคนสนับสนุน พิธีกรเอาซีดีทั้ง 2 ปกมาโชว์ถามเล่นๆ ว่าซื้อแบบไหนดี ทางที่ดีซื้อทั้ง 2 ปกเลย เจอร์รี่รีบบอกว่าไม่ต้องๆ ซื้อปกเดียวก็พอแล้ว พิธีกรบอกว่าแหมทำไมเกรงใจจัง แล้วก็หันมามองทีมงาน แล้วหันไปบอกเจอร์รี่ว่าเห็นไม๊บริษัทบอกว่าซื้อทั้ง 2 ปกเลยดีกว่า เจอร์รี่ทำหน้าเหมือนเด็กสำนึกผิดบอกว่ากลับไปต้องโดนบริษัทด่าแน่เลย แล้วก้บ๊าย บาย จบแล้วค่ะ จากคุณ : Bam (Wen Wen) - [ 25 ต.ค. 47 23:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Thank yOu Na Ka K. BaM จากคุณ : Bee (B@JeRrY) - [ 26 ต.ค. 47 00:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วรู้สึกว่าเค้าน่ารักดีอ่ะ เหมือนเด็กๆ เลย ดูซื่อๆ ตอบแบบจริงใจดี ขำมุข 40 บาทวางอยู่ตรงหน้าอ่ะ เล่ามา3 รายการแล้ว อิอิ น่ารักจัง จากคุณ : To be good lover - [ 26 ต.ค. 47 00:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณแบมมากค่ะ จากคุณ : คุณย่าแอบ - [ 26 ต.ค. 47 01:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากๆค่ะแบม จากคุณ : OJ (ojj) - [ 26 ต.ค. 47 07:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 many many thanks ka bam จากคุณ : cutie bunny - [ 26 ต.ค. 47 08:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะแบม จากคุณ : +au_au+ - [ 26 ต.ค. 47 10:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะแบม....งานท่วมหัวเลยวันนี้เดี๋ยวมาอ่านต่อ เจียหยิว เจียหยิว... จากคุณ : Baolinyan - [ 26 ต.ค. 47 12:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณพี่แบมมากๆนะคะ อ่านแล้วไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆก้ จากคุณ : dee (dukdeak) - [ 26 ต.ค. 47 17:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุนมากเลยค่า อ่านแล้วเพลินดี เพิ่งเคยได้ยินคุนชายพูดถึงแฟนนี่เปนครั้งแรกนะเนี่ย (หรืออาจจะพูดหลายครั้งแล้วแต่แปลไม่ออกเอง) อืม แล้วรู้สึกว่าคลิป1ยังแปลมะเสดนี่นา แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 47 19:12:02 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 47 19:11:24 จากคุณ : m&jerry (lovejerry) - [ 26 ต.ค. 47 18:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เจอรี่น่ารักจังเลย อ่านแล้วซาบซึ้งมากขอบคุณค่ะพี่แบม จากคุณ : หลิน (J-o-b-b-y) - [ 26 ต.ค. 47 23:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค๊าบ จากคุณ : หมู ขอยืมมาใช้ก่อง (เหยียนฮูหยิน) - [ 27 ต.ค. 47 03:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจอรี่ ชอบถ่อมตัวจังเลย ตอนพูดถึง f4 เหมือนเค้าไม่มีดีอะไร แค่นี้ก็หลงซะไม่รู้ยังงัยแล้วค่ะคุนชาย ถ้า เพอเฟค กว่านี้แควนแควน จะทนไหวเหรอ ..ขอบคุณพี่แบม มากๆค่ะ จากคุณ : AR_JERN - [ 27 ต.ค. 47 03:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ทำไมเจอรี่เธอน่ารักแบบนี้ จากคุณ : tempopo - [ 27 ต.ค. 47 05:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณหลาย เจ่เจ แบม เช่นเคยฮะ เทค์แคร์ล่วยน้า จากคุณ : amos - [ 27 ต.ค. 47 10:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องพาสาวให้แม่ดูคือดีเจเขาบอกว่าถ้าเจอรี่ไปออกรายการคังซี รายการนี้ชอบถามสาระแนเรื่องชาวบ้าน ต้องเจอถามว่า หลินจื้อหลิง(ไม่ใช่ต้าเอสค่ะ)กับคุณมีความสัมพันธ์แบบไหน เจอรี่ก็ตอบว่าก็เพื่อนกัน แล้วก็โดนถามว่าเคยพาผู้หญิงไปบ้านมั้ย เจอรี่บอกว่าเคย ก็ตอบไปแล้วเมื่อกี้ ดีเจถามอีกว่าหลังจากเข้าวงการเคยพาผู้หญิงไปให้แม่ดูมั้ย เจอรี่บอกว่างั้นขอโทรถามแม่ก่อน ดีเจก็เลยบอกว่าอันนี้ก็เป็นการซ้อมไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องไปออกรายการ เขาก็ทำได้ เรื่อง ครั้งแรกของเจอรี่ ที่ดีเจโวยวาย ดีเจบอกว่า Staff กับเจอรี่ซ้อมกันมาดีเหลือเกิน เพราะตอบเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เรื่องคิขุของน้องหลิง ใครๆ ก็บอกว่าเสียงเธออ้อนมาก ดีเจถามว่าเจอรี่ชอบผู้หญิงเสียงแบบนี้มั้ย เจอรี่ก็ว่าเสียงเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้แกล้งดัด และไม่เคยได้ยินเธอเสียงแข็งหรือเสียงดัง ดีเจบอกว่าถ้าเธอแกล้งทำเสียงอ้อนแบบนี้ได้ตลอด เธอคงเล่นละครได้เก่งพิลึก เจอรี่ก็เห็นด้วยแล้วก็บอกว่าคงเหนื่อยมากถ้าต้องแสดงอย่างนี้ตลอดเวลา จากคุณ : susijang - [ 27 ต.ค. 47 22:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ประทับใจค่ะ...มากด้วย..ขอบคุณแบมมาก เจอรี่..ไม่รู้สิคิดนะคะว่า เจอรี่ต้องมีความสุขกับการที่เค้ามีชื่อเสียง...และคงจะมีชีวิตที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ แต่ทำไมเค้าถึงได้เจอคนที่ไม่ดีด้วยนะ...แล้วทำไมไจ๋ถึงมีแต่คนรักเอ็นดู และดูมีความสุข เจอรี่ดังและมีชื่อเสียงที่สุดแต่กลับถูกกลั่นแกล้ง เพราะอะไร กลัวเจอรี่จะออกจากวงการมาก...กลัวเค้าสู้พวกนั้นไม่ไหว อยากขอบคุณแฟนนี่นะ..เธอแน่มาก จากคุณ : * (ทองเจิ้น*) - [ วันออกพรรษา 19:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 47 21:24:44 จากคุณ : To be good lover - [ วันออกพรรษา 21:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับคุณทองเจิ้นค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโจมตี เจอรี่มากขนาดนี้ด้วย แล้วก็รู้สึกชอบแฟนนี่ มากขึ้น เจอรี่บอกเหมือนกับแฟนนี่เป็นคนที่เข้าใจเค้าจริงๆ เป็นกำลังใจให้เจอรี่ตลอดไปค่ะ จากคุณ : AR_JERN - [ 29 ต.ค. 47 00:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากค่ะคุณแบม..อ่านไปอมยิ้มไป จากคุณ : pooberry (pooberry) - [ 29 ต.ค. 47 16:15:02 ]