ความคิดเห็นที่ 1 Tokio: การเริ่มต้นดนตรี ของคุณ ในช่วงวัยรุ่น ก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป ใช่ไหม ฝึกเล่น กีตาร์ ในห้องนอน? Keigo: ใช่ครับ ผมเริ่มฟังเพลง hard rock พวก Kiss/ Led Zeppelin/ Black Sabbath/ Deep Purple ช่วง มัธยมต้น ก่อนที่จะเล่นมันจริงๆ จัง ตอนช่วง มัธยมปลาย ซึ่งตอนนั้น เพลง แนว new wave มันกำลังระบาดด้วย (วงดนตรีอย่างเช่น Police/ Pixies/ Raincoat เป็นวงดังๆ ช่วง new wave ในต้นยุค 80’s-เจ้าของกระทู้) ช่วงกลางๆ ยุค 80’s มีวงดนตรี ในโรงเรียน อยู่ประมาณ 10 วง ณ เวลานั้น ดนตรี rock มีอิทธิพล มากต่อพวกเรา เลยครับ (ยิ้ม) เพลงที่เล่น cover ตอนนั้น ก็ตามสมัยนิยม เช่น Cramps, Jesus and Mary Chain, Smiths, The Jam/ Specials/ Seven Seconds/ Misfits, บางที เราก็เล่นเพลง ญี่ปุ่นตามสมัยนิยมด้วยนะ โดยเฉพาะ Loudness, Boowy แล้ว ก็ Checkers (เป็นวง rock ของญี่ปุ่น) ขาดไม่ได้เลยหล่ะ พอฤดูกาล ของงานโรงเรียน และการออกร้านมาถึง ตอนนั้น วงดนตรี ของโรงเรียน ส่วนใหญ่ คือ มันค่อยมีใคร เล่น Lead Guitar แบบ ไหลลื่นได้ แล้วเผอิญ ผมกลับกลายเป็นคนเดียวในโรงเรียน ที่ดัน เล่นกีต้าร์ Lead แบบไหลลื่น (หัวเราะ) ในงานโรงเรียนขึ้นเวที ไปหลายคนจึงเห็นนาย Keigo Oyamada โผล่เกือบทุกวง และเกือบทุกแนว ตั้งแต่ rock แบบ Beatles ยัน Heavy Metal แบบ Loudness โอ่........ แล้วแต่ละวง เอกลักษณ์ก็ไม่เหมือนกันนะครับ เช่น วง ที่ Cover ของ Cramps เนี่ย จะแต่งชุดดำ ทมิฬ เลย ประมาณ ไป งานศพใครว่ะ แล้วก็เล่นกีต้าร์ Gretsch ถ้าเป็นวงที่ Cover ของ Specials เนี่ย เราจะใส่หมวก ประหลาดๆ กัน ประมาณจะไปงาน ปาร์ตี้ พอไปอยู่กับวงเหล่านั้น ผมก็ไม่ได้ไปเบ่ง ego หรอกนะว่า ‘ข้าเป็นคนที่เล่นดนตรี ได้เจ๋งที่สุด พวกเอ๊ง เล่นไม่เป็น สัปปะรด ฉะนั้น เอ๊งจงฟังข้า’ ผมไม่เคยทำอย่างนั้น เลย แม้พอมาทำอาชีพ ทางสายนี้แล้วก็ตาม ในตอนนั้น ผมคงโชคดี อยู่อย่างที่ว่า ผมชอบฟังเพลงหลายๆ แนว ไม่มีแบ่งกั้น และลองเล่นหลายๆแนว จะ Pop /rock / punk/ heavy metal ทะลวงกะโหลก ลองมาหมดแล้ว เพื่อความแปลกใหม่ และ ฝีมือด้วย อย่างนี้ล่ะมั๊ง เขาถึงชวนผมไปเล่นให้วง โน้น วงนี้ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Tokion: เห็นว่า ตอนเด็กๆ คุณไม่มีทีท่า ว่าจะสนใจดนตรี เลย? Keigo: ตอนแรกๆ ในตอนนั้น ไม่ได้คิดหรอกว่า จะเอาจริง เอาจังกับดนตรี โดยเฉพาะ อันที่จริงมันก็ไม่ได้เป็นกฏตายตัว อะไร ว่าฟังแล้ว ต้องเล่นด้วย ซึ่งบางคนชอบฟัง มากกว่า รอบๆข้าง คนในครอบครัว เขาก็ทำอาชีพ ที่ข้องเกี่ยวกับดนตรี แต่ผมก็ไม่ได้ ซึมซับอะไร ว่าจะต้องเล่นดนตรี เลยใน ตอนเด็กๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พ่อแม่ ของผม ย้าย บ้าน ก็ไปช่วยท่าน ขนของ ก็มีของพวกนี้ย้ายตามมาด้วยเช่น ภาพวาดของผม สมัยตอนเด็กๆ เทปอัด ที่อัดเสียง บ้าๆ บอ เล่นเพลง กัน (ยิ้ม) ภาพ แล้วก็วีดีโอ ที่ อัดไว้ตอนสมัยยัง ละอ่อน อยู่เลย แล้วก็มันทำวันวาน ที่มัน ค่องข้างเลือนๆ ไปแล้ว มันชัดขึ้นมาทันที เช่น รูปที่ ผมถือ Recorder (ขลุ่ยฝรั่ง) อยู่ในมือ แล้วก็ยังมีวีดีโอที่บันทึกภาพเก่าๆ ของครอบครัวเอาไว้ มีอันนึง ที่คนในครอบครัวผม แล้วก็ญาติพี่น้อง ร้องเพลง ของ Carpenters ด้วยกัน โดยแม่ผมเล่น piano ด้วย พอผมได้ดูวีดีโอ อันนั้น สาบานได้เลย ความรู้สึกตอนนั้น คือ wow! ครอบครัวใครว่ะเนี่ย! (หัวเราะ) ตอนเด็ก ผมก็ชอบ ดูพวก การ์ตูน แล้วก็พวก Series (ละครเป็นตอน) อย่าง ขบวนการพิทักษ์โลก แล้วก็ ไอ้มดแดง อุลตร้าแมน ด้วย ทางทีวี แนวพวกฮีโร่ด้วยนะ ที่ดูบ่อยๆเลยก็คือ Kamen Rider แล้วก็ Mazinger Z แล้วก็ซื้อ วีดีโอ เรื่องเหล่านั้นมาดูอยู่ แล้วก็ชอบวาด ตัวการ์ตูนพวกนี้ เยอะไว้มากๆ ก็เหมือน เด็กทั่วไป เนี่ยแหละ ผมเชื่อ ว่า ถ้าใคร เป็นแฟนการ์ตูน พวกนี้ ใครๆเขาก็เคยทำแบบ นี้กันทั้งนั้นแหละ ทุกวันนี้ ยังร้องเพลง ไตเติ้ล ของเรื่องพวกนั้น ได้อยู่นะครับ พ่อของผม ท่านก็มีวงดนตรีเช่นกัน ชื่อวงว่า Hawaiian Kayu Kyuko (Kayu Kyuko แปลว่า Traditional Pop /เจ้าของกระทู้) bands มีเพลงนึง ที่อยู่ในชุด 96/69 (เป็น Album remixed ผลงานในชุด 69/96 ของ Cornelius เอง / เจ้าของกระทู้) ที่ผมมาช่วยให้ คือเพลง world's end humming ~reprise (in Hawaii) ที่ปิดท้ายอัลบั้มทั้งใน 69/96 และ 96/69 มีอันนึง ถ้าคุณจำได้ ที่ผม Remixed กับ Konishi แห่ง Pizzicato Five นั่นแหละพ่อผม เขาเล่นเองแหละ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Tokion: คุณมี ทีม football ด้วยใช่ไหมครับ เป็นทีมในทีมงาน ของ Trattoria Disc เนี่ยแหละ Keigo: อันที่จริง มันเริ่มมาจาก มีหุ้นส่วนในค่ายคนหนึ่ง เขาชอบ ดูฟุตบอลมาก เมื่อปีที่แล้ว (1996) เขาได้ไปดู ฟุตบอล ในกีฬาโอลิมปิค ที่ Atlanta มา และเขายังบอกนะ ว่า จะไม่พลาดซักนัด ในฟุตบอลโลก ที่จัดที่ เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ปี 2002 เอากะเขาสิ! (หัวเราะร่วน) แล้วก็เขาก็คุย ในที่ ประชุมว่า ถ้าจะมีทีมฟุตบอล ของ บริษัทจะดีไหม จะได้เป็นหน้า เป็นตา ให้กับ Polystars ด้วย (ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ อีกแห่งหนึ่งของ ญี่ปุ่น join venture กับ ทาง EMI) บริษัทอื่น (ค่ายเพลงอื่น) ยังมีเลย ก็เอาสิครับ น่าสนใจดี ก็ทีมของเรา มีผมเป็นผู้จัดการทีมครับ แล้วก็มี เขา เป็น โค้ช Tokion: คุณคิดอย่างไร ที่ Flipper Guitar (วงดนตรี เก่า ที่ Keigo Oyamada เป็นสมาชิก ร่วมกับ Kenji Ozawa/ เจ้าของกระทู้) มีคนกล่าวถึง ภายนอกประเทศด้วยทั้งๆ ที่ อยู่ภายในประเทศ นี่แสดงให้เห็นรึเปล่าว่า ชาวต่างชาติ เริ่ม หันมามอง ศิลปิน ญี่ปุ่น กัน Keigo: อันที่จริงวงดนตรี ที่ทำแบบนี้ได้เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ คือ Loudness นะ สำหรับผม ส่วนที่ Flippers Guitar ทำไมมีคนสนใจ ก็คงเพราะแนวทางของเรา คงไปโดนใจ เขามั๊งครับ แต่ว่า... ปัจจุบันนี้ ก็มีวงดนตรี ที่พยายาม หาความสำเร็จแบบนั้น เยอะมาก แต่ถ้าจะให้พูดถึง Flippers Guitar กับแฟนเพลง ภายนอกประเทศ ก็คงเพราะ เรามีผลงานภายในประเทศ ที่ export ไปขายที่เมืองนอก ทั้งที่ทำกับบริษัทภายในประเทศ ร้องก็ภาษาญี่ปุ่นเนี่ยแหละ (ส่วนความสำเร็จของ Loudness ภายนอกประเทศนั้นก็เพราะว่า พวกเขาไปเซ็นสัญญา กับทาง Warner Music ของ อเมริกา และออกอัลบั้ม เพลง ภาษาอังกฤษ พูดง่ายๆว่า Loudness โก อินเตอร์ แบบเต็มเหนี่ยว/ เจ้าของกระทู้) จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Tokion: ทำไม Flippers Guitar ถึงโด่งดังถึงวงกว้าง? Keigo: อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ เหมือนกัน ตอนออกอัลบั้มชุด แรก ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะ ตังค์ ไม่ค่อยมี พอมาชุดสอง ดีขึ้นหน่อย ได้ออก music video โชว์ตาม ทีวี เล่น concert ลงนิตยสาร ซึ่งนั้นล่ะมั๊งว่าทำไม เราถึงโด่งดังไปในวงกว้าง Tokion: คุณพอจะแยกออกได้ไหมว่า แบบไหน ที่เป็นสากลนิยม (International Style) และ ตลาดภายในประเทศ (ญี่ปุ่น) นิยม (Domestic Style)? Keigo: อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ แต่ให้เดา ว่า ที่เป็นแบบนี้ มันก็แค่มีอย่างเดียวคือ โดนใจ (Impression) ชอบก็ฟัง ไม่ชอบก็ไม่ฟัง ที่ตลก อยู่อย่างนึงคือ ชุด Camera Talk ของทางวง ก็ไม่ได้ออกไปขายต่างประเทศนะ ยอดขายกลับขายดีมากๆ ในญี่ปุ่น ยอดขายดีกว่าชุด Dr.Head ที่ขายทั้งในและนอกประเทศเสียอีก อะไรก็เป็นไปได้กับคำว่าโดนใจ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Tokion: ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงการเข้ามาของดนตรี ที่เรียกว่า Shibuya Kei ด้วย ตอนนั้นคุณได้คิดไหมว่า จะทำสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ก่อเป็นกระแส หรือมันก็แค่ กระแสทางดนตรี ที่พากัน เฮโล ทำกันแฟชั่น สำหรับ ภายนอกแหล่ง Shibuya? Keigo: มันเริ่มมาจาก หลายๆคน หลายๆ ที่ ต่างคนต่างอยาก แสดงฝีมือ กัน ออกมา โดยเฉพาะ ดนตรี ผมว่า Shibuya-Kei มันไม่ใช่แค่แนวดนตรี นะ แต่เผอิญ แถวนั้น มี ร้านขายเทป ยักษ์ใหญ่ ของฝรั่ง อยู่หลายร้าน เช่น HMV (ร้านขายเทป ของค่าย EMI คล้ายๆ Imagine บ้านเรา/ เจ้าของกระทู้) แล้วก็ Tower Records ที่เปิดสาขาในญี่ปุ่น อย่างที่รู้ พวกศิลปิน อินดี้ส์ / ใต้ดิน ได้ present ตัวเอง ต่อพวก แมวมอง ตามสังกัด ที่ชอบ มา แวะเวียนในร้าน แล้วก็คนฟัง สำหรับผมนั้น มันไม่ใช่กระแสหรือ แฟชั่น เพียงแต่ มันมีช่องทาง และ โอกาส เสียมากกว่า ในการ เสนอแนะผลงาน ซึ่งร้านพวกนี้ ช่วยได้เยอะทีเดียว  ซึ่งมันบังเอิญไปตั้งอยู่ใน สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วย คนเล่นดนตรี ใน Shibuya แต่มองอีกมุมนึง พวก Pizzicato Five แล้วก็ Original Love ว่า ทำไมมันถึงดังระเบิดเถิดเทิง กว่า วงอื่น อันนั้น คงเป็นเพราะ เขามีอะไร ที่ เรียกว่า โดนใจ นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 47 18:23:57 จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Tokion: คุณคิดว่า ความสำเร็จ ของ Flippers Guitar นั้นสร้างกระแส แก่ วงการเพลงแวดวงใต้ดิน และอินดี้ส์ รึเปล่า? Keigo: พวกเรา FG ไม่ใช่วง อินดี้ส์ นะครับ อย่าสับสน! (ตอบทันที) เราทำชุดแรก ก็ออกกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แล้ว เรามาจากแวดวงคนเล่นดนตรี กลางคืน แต่เราก็เคยอยู่.ใน compilation ของ Fanzine (จุลสาร แฟนคลับ) ที่ชื่อ Eikoku- ongaku แต่นั่นเราก็ไม่ถือว่าเราเป็นวงระดับอินดี้ส์ หรอกนะครับ เพราะไม่ได้ทำเทปใต้ดิน หรืออินดี้ส์ ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว พวกเราก็แค่วงดนตรี ที่เล่น ในผับ ในบาร์ เท่านั้น เราก็ทำ Demo tape ออกมาไว้แจก ตอนเล่น โชว์ เสร๊จ ซึ่งนั่น ก็เป็นทำเนียมของวงดนตรี ที่เล่นกลางคืน แล้วมีผลงาน ของตัวเอง ก็อยากแจกให้คนอื่นฟังบ้าง ซึ่งที่ใน L.A. พวก hair band เขาก็ทำกัน ซึ่งพอเราทำอัลบั้มชุดแรก เราก็ออก กับค่ายย่อย ในค่ายเพลง ยักษ์ใหญ่ อย่าง EMI ดังนั้น เราจึงไม่ใช่วง ระดับอินดี้ส์ เลยครับ และ แน่นอน ค่าย Trattoria ของผม ก็เป็นค่ายย่อยใต้ชายคา ค่ายเพลงระดับ Major อย่าง Polystar เช่นกันครับ มันเป็นเช่นนั้นครับ Tokion: แต่ดนตรี ของคุณ มัน อินดิ้ส์ มาก แต่อยู่บน ค่ายเพลงระดับ บิ๊กๆ ได้อย่างไร? Keigo: แน่นอนครับ แนวดนตรีแบบนี้ที่ผมเล่น พวกใต้ดิน แล้วก็ อินดี้ส์ เคยทำมาก่อน ดังนั้นเขาก็เลย เหมารวมว่า มันเป็นอินดี้ส์   มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ไอ้คำว่า อินดี้ส์ มันเกร่อ ไปทั่วแวดวงเพลงญี่ปุ่น (ไมต่างจากบ้านเราเลย เมื่อ 10 ปีก่อน/เจ้าของกระทู้) สาบานได้เลยนะ ว่า ตอนนั้น ผมละโคตร รำาค๊าญ รำคาญ (เน้นเสียง) กับไอ้สิ่งที่เรียกว่า เด็กแนว และอินดี้ส์ ผมมีเพื่อนอยู่คนนึง เขาเปิดค่ายเพลงใต้ดิน ที่ชื่อ Cru-el (ออกเสียงว่า ครู-เอ้ว) แต่ผมก็ไม่ได้ไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางค่ายเขาหรอกนะ ผมชักชอบการบริการ และการวางแผนงาน ของบริษัท เขา โดยเฉพาะตอนที่เขาทำ production ให้กับศิลปินที่ชื่อว่า Kahimi Karie (ต่อมา Kahimi Karie ออกกับทางค่ายเพลงระดับ major อย่าง Polystar โดยมี Keigo ดูแลการผลิต / เจ้าของกระทู้) ซึ่งมันก็ดีที่เดียว ที่การทำงานค่ายเพลงที่เข้าใจธุรกิจ และศิลปะให้มันพอดีไปด้วย ซึ่งแต่ก่อนในญี่ปุ่น มันไม่มีไง จะมีก็ Extasy ของ Yoshiki (มือกลอง/ มือคีย์บอร์ด วง X-Japan) หล่ะมั๊ง ที่ พอฟัดพอเหวี่ยงกับ ธุรกิจการแข่งขันแบบนี้ ผมเองก็อยากทำ เช่นกัน แต่ขอนายทุน ที่ เป๋าตุง (เงินเยอะ) พอ นะ (หัวเราะ)   บางทีคุณเอง อาจจะพบแนวทางใหม่ ในอีก 10 ปีข้างหน้าก็ได้ ในเมื่อยังไม่มีใคร มันสร้างกระแส จากสิ่งนั้น แต่ถ้าจะพูด ว่า Flippers Guitar นั่น เป็นผู้ก่อกระแส เพลงในแวดวงอินดี้ส์ ผมว่า พวกเราไม่ใช่แน่นอนครับ ภาพในอดีต ของ Keigo Oyamada (Cornelius -คนสวมหมวก) กับ Kenji Ozawa ในนาม Flippers Guitar แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 47 18:32:23 จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Tokion: คุณคิดว่า คำยืนยอ จาก พวกเด็กแนวนั้น มันเป็นเรื่องน่าขัน ถาม ตรงๆ เลยนะครับว่า คุณไม่ได้มีปัญหา กับระบบธุรกิจ ในเพลง ญี่ปุ่น เลยเหรอ? Keigo: อันนี้มันเป็นเรื่องที่ตลกเช่นกัน ใครหลายคน นึกว่าผมต่อต้าน เพียงเพราะ ผมเล่นในสิ่งที่ ชาวบ้านชาวช่อง เขาไม่ฟังกัน รู้ไหมว่าผมเอง ตอนที่ทำ เพลง ผมเองก็มองเหมือนกัน ว่าเราจะเสนอให้ ผู้บริโภค ได้เข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อไปได้อย่างไร แน่นอนครับ มันเป็นการดีถ้าหาก เราก็ทำงานของเราไป ลืมเรื่อง เงินๆ ทองๆ แต่ว่า คิดแบบมองกลยุทธทางการตลาด ก็ดีแล้วครับ มันทำให้เราทำสิ่งที่เราชอบ และทำยังไง ให้เขา เออ ออ ไปกับเราด้วย ]Tokion: คุณได้ให้ความสำคัญต่อการทำงานศิลปะ ในบทเพลง และการทำ production ว่าเป็นเรื่อง แรก เลยรึเปล่า? Keigo: รู้ไม๊ ผมเคยคิดนะ มันจะดีไม่ใช่น้อย หาก ผมขายผลงานของผม ได้ ล้านชุด (หัวเราะ) เอาระดับ platinum 3 แผ่นเลย แต่พอมาคิดอีกที สำหรับแนวทางของผมมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ที่ จะขายได้ถล่มทลายขนาดนั้น โดยเฉพาะ ในญี่ปุ่น ซึ่งส่วนตัวผมเอง ก็ไม่ได้มัวมานั่งคิดหรอก ชุดนี้ ข้าจะเอาให้ถึงล้านตลับ ให้ได้โว้ย แล้ว ถึงค่อยมาเขียนงาน ที่อยู่ในกรอบว่า ต้องขายให้ได้ ต้องติดชาร์ท top ten บน oricon chart ให้ได้ (Bill Board ของญี่ปุ่น) ผมไม่ทำแบบนั้น แน่ ถ้าผมทำแบบนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ผม ฝืนใจตัวเอง ทำซะเปล่า จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Tokion: ทำไมคุณถึงคิดว่า ผลงานของคุณ ไม่น่าจะถึงระดับ ล้านตลับ? Keigo: ผมสนแต่ว่า ผมสนุกกับการทำดนตรี ที่ผมรัก แค่นั้นแหละ ไอ้ปัจจัยอื่นนั่นแค่เป็นตัวเสริม แล้วคุณคิดว่า มีศิลปินคนไหน ทำงาน ประเภท 'ข้าต้องขายให้ได้ล้านตลับ' เอาใจตลาด บางที คุณอาจจะคิดในใจ ว่า Tetsuya Komuro นั่นไง (Tetsuya Komuro นักดนตรี วง globe นักแต่งเพลง /producer ของค่าย Avex อีกหนึ่งค่ายเพลง ยักษ์ใหญ่ ของ ญี่ปุ่น เคยร่วมงาน กับ Yoshiki มือกลองวง X-Japan ในชื่อ Virginality/ เจ้าของกระทู้) ใช่! Komuro นั่นไงที่คุณคิดไว้ในใจจะตอบอยู่แล้วใช่ไหม แต่..เดี๋ยว ก่อน...ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ผมเคยได้มีโอกาสไป ดูการแสดง ของ Globe และ TRF ที่มาเปิดการแสดงที่ ฮ่องกง ซึ่งตอนนั้น ผมก็ไปฮ่องกง ซื้อตั๋วอยู่ที่หน้าแถวสุดเลย และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัส ตัวตน ที่แท้จริงของ ความเป็น Komuro เลย คุณรู้ไหมผมบอกได้คำเดียวเลยว่า สุดยอด ไอ้บุคคลคนนี้ แหละ ที่ไอ้พวกเด็กแนว ควร สักการะ บูชา มันจะไม่แปลกใจเลยถ้าการแสดงของเขา เป็นวงวัยรุ่นเด็กหนุ่มที่เล่น ดนตรีสุดเหวี่ยง ที่คุณสามารถหาดูได้ ตาม Live house ใน Osaka แต่ขอโทษทีเถอะ Komuro อายุเกือบ 40 แล้วนะ คุณอย่าลืมสิ แต่เขายัง เก๋าอยู่เลย มาดร๊อค เต็มเปี่ยม เขาไว้ผมยาวประมาณ ทรงของพวก Beatles แต่งตัวก็แซ๊บ..มาก (หัวเราะ) พอโชว์เริ่มต้น เขาเอามือขยี้เสียง บนsynthersizer ดังวี๊ด วาด ปิ่มว่า ลำโพง จะทะลุเลย นักร้องนำที่เป็นผู้หญิง โกรกสีหัว Blonde เลย แล้วแต่งตัวเป็น punk ด้วย แล้วก็มือกีต้าร์อีกคนนึงที่ชื่อ Mark คนนั้นแต่งตัวเป็นผู้เป็นคน ที่สุดในวงล่ะ (หัวเราะ) ประมาณลูกคุณหนู เขายืนอยู่ สามคน บนเวที เหมือน ไอ้ตัวประหลาด บ้าๆบอๆ บนเวที สามรูปแบบ บางที Komuro เอง เขาก็เล่นกีต้าร์บ้าง นะ เขาก็ Performance มันด้วยอารมณ์สนุก ด้วยดีนะ นักร้องนำ นี่ ก็ สุดตีน เลยครับ ร้องเสียงต่ำ แล้ว ค่อยโหนเสียงสูงปรี๊ด แบบ โอเปร่า ไม่พอ นะ กรี๊ดใส่ ไมค์ ด้วย ซึ่งผมเอง ได้แต่บอกว่า ผมได้ทึ่ง ว้าว นี่เหรอ ไอ้กลุ่ม คนที่พวกนั้น หาว่า ทำเพลงเอาใจตลาด ไม่มีเค้า เลยซักนิด ภาพ: Tetsuya Komuro บนเวที concert จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Tokion: รู้สึกคำชอบ คำพูดแบบ ประชด ถากถาง นะเท่าที่ผมสังเกต คุณชอบการแซว ล้อเลียน มากเลยรึเปล่าครับ? Keigo: มันไม่ใช่การประชด หรือ เผากันนะครับ มันก็แค่ว่าผมไม่เคยได้ติดตาม ผลงาน ของ Globe อย่างจริงๆ จังๆ แล้วพอดู concert ผมก็ได้แต่บอกว่า มันสุดยอดมากนะ ในอัลบั้มกับ บนเวที มันคนละเรื่องกันเลย แล้วอีกอย่าง คนที่ดูในวันนั้น ก็ไม่ใช่น้อยๆ นะ เต็มฮอลล์ โยกหัว ดิ้นกันสุดเหวี่ยงเลย Tokion: ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น กำลังขึ้นประเด็นใหม่ครับที่ว่า อัลบั้มชุด 69/96 ที่มีอยู่เพลงนึง ที่คุณนำเพลง classic ของ Vivaldi ในเพลง ไปผสมเป็น sample track กับเพลง Iron Man ของ Black Sabbath Keigo: มันไม่ใช่การล้อเลียน หรือประชดเลยนะ ไอ้ความหมายประชด เนี่ย คนเขาชอบนึกไปในทางไม่ดีกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ ผมแค่อยากทำอะไรสนุกๆ เท่านั้น แค่คิดว่าจะเป็นอย่างไร ถ้า โลก Classic ของ Vivaldi ปะทะ กับโลก hard rock ยุค 70 อย่าง Black Sabbath มันดูน่าสนใจทีเดียวมากกว่า การทำดนตรี มิติเดียวอีก ซึ่งผมเอง ก็ แฟน Black Sabbath คนนึงล่ะ แล้วก็ไม่ได้ล้อเลียนด้วย ทั้ง Sabbath และ Vivaldi รวมทั้ง Tetsuya Komuro ด้วย! จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 18:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Tokion: Pizzicato Five เป็นหนึ่งในวงดนตรี อีกวงหนึ่ง จากญี่ปุ่น ที่ขายผลงานได้ภายนอกประเทศ อยู่ในเกณฑ์ Best seller สัมภาษณ์ Konishi แห่ง PF เขาก็บอกว่า ถึงแม้งานของเขาจะได้รับความสนใจจากภายนอก ประเทศแต่ ฐานปริมาณแฟนเพลง ในญี่ปุ่นสำคัญกว่า แล้วคุณเอง เคยคิดสนใจตลาด ในเมืองนอกบ้างไหม? Keigo: ตอนที่ผมยัง ไม่อยากคิดมากกับ เรื่องการตลาด และทุนนิยม อะไรให้มันมากนัก แม้ทั้งใน และ นอก ประเทศ เพราะผมคิดว่า การไปมีผลงานไปขายในต่างประเทศ ไม่ใช่ว่า จะออกหัว แล้วได้กำไร เสมอในเกมส์ ธุรกิจ วงการเพลง ที่เป็นอยู่แบบนี้ ณ เวลาตอนนี้ กับการเป็นคนทำเพลง ก็ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด แล้วง่ายๆ เลยครับอย่างที่เคยบอกไป มันต้องโดน ด้วย ไม่ว่าจะทำแนวไหน ไอ้คำว่า โดน เนี่ย สำคัญนะ นั่นก็หมายถึงความสนใจจากแฟนเพลง ถ้าหากมีแฟนเพลงภายนอกประเทศ เนี่ย ให้ความสนใจ ในผลงาน ของผม ก็ถ้ามีนายทุน เอาไปขาย ก็ยินดี และขอบคุณ ที่ให้ความสนใจ และอุดหนุน ครับ แล้วอีกอย่างผมก็มีแฟนคลับ อยู่ที่ญี่ปุ่นก็เยอะ พอสมควรนะ ก็เลย ทำตลาด ในญี่ปุ่น ให้ แน่นๆ จริงก่อนดีกว่าครับ ส่วน ถ้าจะโก อินเตอร์ ถ้า เขายื่นโอกาสมาให้ ก็เอาครับ (หัวเราะ) ปล่อยไป ก็ โง่ แล้ว จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Tokion: ก่อนหน้านี้ เราพูดถึง วงการเพลงระดับสากล กันไปแล้วผมว่า คุณดูเหมือน เป็น คนชอบทันกระแส ว่าตอนนี้วงการดนตรีไปถึงไหน กับในสิ่งที่คุณชอบ และของเก่าก็ไม่ได้ทิ้ง และกลายเป็นสิ่งแปลกใหม่ ไป ฟันธงได้เลยรึเปล่าว่านี่คือเอกลักษณ์ของการทำเพลง Pop แบบญี่ปุ่น? Keigo: ไม่ใช่เลยครับ! (ตอบเสียงดังฟังชัด ทันที) สำหรับเกี่ยวกับแนวทางดนตรีที่ ผมทำ ก็เห็นด้วยกับที่คุณวิเคราะห์ มา ว่า ผมเป็นคนลองหาสิ่งใหม่ๆ มาใช้ และผสานกับของเก่า ที่ผมยังไม่ทิ้งเสียทีเดียว ก็คือพวก sound ดนตรี แบบ Rock n’Roll เนี่ยแหละ แต่ถ้าพูดถึง เอกลักษณ์ ของเพลงญี่ปุ่น อืม... ผมว่ามันไม่มีอะไรที่ฟันธงว่านี่คือ Sound แบบ Japanese Pop หรอก คิดดูสิ ... ใช่... อาจจะจริงของคุณ ที่ ศิลปินญี่ปุ่น เป็นพวก ชอบอะไรแปลกๆใหม่ มาสร้างสีสัน Tokion: ดังนั้น คุณยังฟันธงไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณทำอยู่ และอีกๆหลายๆคนทำอยู่ นี่ คือ sound แบบ Modern J-Pop สมัยใหม่ ? Keigo: ใช่ตามสัญชาติ และเชื้อชาติ ผมเป็นคนญี่ปุ่น แต่! ผมเกิดที่ Tokyo ครับ แล้วก็อยู่กินมากับแถวๆ ย่าน Shibuya ด้วย และแน่นอน Tokyo ก็คือเมืองหลวงของญี่ปุ่น และ Shibuya ก็คือย่านๆ หนึ่งใน Tokyo ที่มันเป็นเช่นนั้น ก็ผมเล่นดนตรี ใน Shibuya แนวดนตรี หลากหลายสายพันธ์ ไป รวมตัวกันอยู่ที่นั่น ซึ่งถ้าใน L.A. ก็ Sunset Boulevard ที่ชุมนุมของพวก rocker ทั้งหลาย แนวทางที่ผมทำออกมาเป็นบทเพลง มันคือสิ่งที่ผมได้ยินได้ฟัง จากดนตรี ที่ได้อิทธิพล จากแถวๆนั้น และก็อย่าคิดว่ามันคือ สำเนียงแห่งตะวันออก เพราะจะเอาตะวันออกไหนล่ะ? อาหรับ แขก จีน ญี่ปุ่น ก็ต่างสไตล์ไป พูดง่ายๆคือ อยู่ในโลกเดียวกัน แต่เอกลักษณ์มันต่างกัน ถ้าพูดให้ถูกมันก็คือแนวดนตรี จาก ย่าน Shibuya ใน Tokyo จะดีกว่านะครับ ถึงจะถูกต้อง กว่า [พักสายตาซักครู่.....น้อง Aya ดูแล พี่เขาหน่อย เดี๋ยวเขาเมื่อยสายตา/เจ้าของกระทู้] จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Tokion: ในอัลบั้มชุดล่าสุดของคุณ ที่ชื่อ Fantasma รายละเอียดในแต่ละชื้น มันถูกวางได้เรียบเรียงได้ กล่อมกล่อมเข้าที่ ดี จากเสียงกลองถึง bass จาก rock ดิ้นกันเร่าร้อน ถึง pop แบบเย็นยะเยือก อะไรคือสูตรสำเร็จในการนำอิทธิพลทางดนตรีที่คุณสัมผัส มาใช้ในงานของคุณ อย่างไร้ขีดจำกัด? Keigo: อาจเป็นเพราะผมฟังเพลง ได้ทุกแนวล่ะมั๊ง ผมชอบ (Tetsuya) Komuro/ My Bloody valentines /Black Sabbath /Hanatarahi /Loudness /Beach Boys /Beatles ที่ไม่ร๊อคก็พวก bossanova / jazz ก็ฟังได้ ก็ฟังได้ทุกแนวแหละ และอีกหลายศิลปิน ก็ เปลี่ยนบรรยากาศดี (หัวเราะ) แล้วแต่อารมณ์ ซึ่ง พวก classic ผมก็ฟัง ผมก็เลย tributed ให้ Bach เสียหน่อย ในเพลง 2010 มันเป็น Baroque music ในศตวรรษที่ 21 ขนานแท้เลย (หัวเราะ) คิดดูสิ ท่า Bach ไปจับ Syntersizer แล้วจะเกิดอะไรขึ้น !? จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Tokion: แนวดนตรี ของคุณมักชักจะแหวกแนว ขึ้นเรื่อยๆ จากการทดลอง แล้ว Trattoria ของคุณเอง มันจะมีสิ่งที่นำเสนอในเพลง หลากหลายแนว มากๆ เห็นในหลายศิลปิน จะใส่ความเป็น pop อยู่อย่างเคร่งครัด แม้ว่า จะมีศิลปินหลากหลายแนวเพลง ในสังกัดคุณก็ตาม ความสัมพันธ์ ระหว่างการ ค้นหาสิ่งใหม่ๆ ของคุณ และการ เติบโต ของค่าย มันไปด้วยกันรึเปล่า? Keigo: แน่นอน ว่าการเพลงหลากหลายแนวทาง หลากหลายรูปแบบ ก็เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่ในตอนแรก ผมตั้งใจว่า จะไม่ทำ Trattoria แค่เพียงค่ายลูก ค่ายหนึ่ง ที่ผลิตป้อนงานให้ ในบริษัทแม่ เจตนาของผม อยากให้ทางบริษัท ทำงานหลายๆ แบบ ที่ไม่ใช่แค่ทำเพลง ผมมาเริ่มต้น มาบริหารค่าย ตอนอายุประมาณ 23-24 ปี ซึ่งทางผู้ใหญ่ เขาก็ให้โอกาสเรา ตอนที่เริ่มงาน ค่าย Trattoria ให้ Polystar เนี่ย ก็คนทำงานตอนนั้น ก็ยังไม่เยอะมาก ศิลปิน เองที่อยู่ตอนแรกๆ เขาก็เคยผ่านงาน ใต้ดิน และ อินดี้ส์ มาก่อน ก็วงที่รู้จักกัน มาช่วย ทำให้ดังยิ่งขึ้น (ยิ้ม) ก็ในที่สุด มันก็ก่อตัว เป็นผึกแผ่น มีศิลปิน หลากหลายแนว ส่งเดโม มาให้พิจารณา ก็เต็มโต๊ะ และเลยหลักที่ผมคาดหวังไว้ ไปแล้วทีเดียว Tokion: คุณมีหลักการรับศิลปินเข้าค่ายอย่างไรบ้าง? Keigo: คำตอบง่ายๆ ใครก็ตอบได้ โดยไม่ต้องพึ่ง คำตอบจาก สมาชิกห้อง rock ณ pantip<---- (ประโยคที่ว่านี้ผมใส่ไข่ เอาให้หน่อย เพื่อความมันส์ครับ/ เจ้าของกระทู้) ว่า............ ถ้าฟังแล้วน่าสนใจ ผมก็เรียกมาคุยครับ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Tokion: ในชุดแนะนำผลงานศิลปิน ของทางค่าย ชุดนึง ที่ศิลปิน ในสังกัดคุณ แล้วมีคุณยืนตะหง่านอยู่ตรงกลางคล้ายผู้ยิ่งใหญ่ คุณทำราวกับว่า Trattoria ก็คือาณาจักร แบบ Disneyland แบบคุณคือ Mickey Mouse รึเปล่า? Keigo: ตอบอย่างไม่อาย เลยครับ ใช่ ครับ เพราะ ผมเจ้าของค่ายนิ! (หัวเราะ) ผมว่าศิลปิน เองเขาก็ไม่ได้ซีเรียส ตรงกันข้าม กลับสนุกสนานกัน มากกว่า ในconcept แนะนำ ศิลปิน ชุด Menu 100 ก็ไม่ต่างอะไรจากการเล่นสนุก แบบเด็กทั่วไป เราใช้ concept ว่า Planet of the apes (เป็นภาพยนต์ ทางทีวี และนิยาย ที่ Keigo ชอบ/ เจ้าของกระทู้) มีการสร้างฉากแบบในเรื่องมีคนแต่งตัวเป็นเหล่า สนุกดีครับ ผมเองที่ทำอย่างนั้น เพราะก็อยากทำกิจกรรมอะไรร่วมกันกับ ศิลปิน ซึ่งค่ายอื่น มันไม่มีไงฮะ ต่างกันต่างทำงาน ซะเป็นส่วนใหญ่ แข่งกันดังอีก ก็อยากทำอะไรร่วมแรง กันแล้วไม่อยาก ให้ เครียดเกินไป กับการเป็น Major Label Artist Tokion: ผมเคยได้ยินมาว่า Trattoria ก็คือ สิ่งที่นำเสนอผลงานความ เป็น Cornelius แล้วกับศิลปิน แนวอื่นละ? Keigo: ตอนที่แรกเริ่มสุดๆเดิมที เนี่ย ผมได้รับเทป รวมเพลง ประกอบกีฬา ฟุตบอล ซึ่งคนทำ คนเขียนเพลง คือ Mike Always จาก อังกฤษ Mike บอกว่า อยากนำมาขายที่ญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะมาใช้ กับ การแข่งขันฟุตบอล J-League ได้ เหตุการณ์นี้ มันเริ่มต้น หลังจาก วง Flippers Guitar ของผม กับ Ozawa คุง มันแตกวง ไปแล้ว แล้วตอนนั้น ผมแทบไม่ทำเพลง เลย หลังแตกวงไป ผมก็เลยไปคุยกับผู้บริหาร ของทางค่าย ว่า เป็นไปได้ไหม ที่ทำ เพลง ประกอบ กีฬา ฟุตบอล เขาบอกมาว่าได้ ถ้ามี Production ทีม ก็ทำได้ มันจึงเป็นจุดเริ่มต้น ของค่าย Trattoria ที่ผู้ใหญ่เขาให้ไฟเขียวทำ ก็หลังจาก ทำ เพลง production ทางเพลงประกอบ รายการ / โฆษณา ต่างๆ นาๆ ก็น่า จะทำศิลปิน มาป้อนให้ค่ายบ้าง ก็เลยเริ่มจากวงที่ เคยออกผลงานมาก่อนแล้ว มา Major Debut กับทางเรา ก็รู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เช่น Bridge / Venus Peter แล้วก็ Kahimi Karie แต่ก็ไม่ได้ไป Produced ให้เขาหมดนะ ผมจะอยู่ในส่วน ของ Executive Producer แล้วก็ให้ Producer กันเองบ้าง Producer ของทาง Polystar แล้วคนอื่น ช่วยบ้าง ก็ว่ากันไป จริงๆแล้ว Trattoria ผมได้ถึงขั้นเป็นเจ้าของถึงงั้นออกเงินทุนอะไรเองหรอก เพราะผู้ให้ทุน คือ Polystar ส่วนเราเป็นผู้ทำกำไร และผมเองก็อยู่ในส่วนของผู้บริหารของ Trattoria ที่ สามารถ บรีฟงาน และนำเสนอกับทางค่ายได้ ผมดุแลทั้งในส่วน ธุรกิจ การทำงาน ของศิลปิน เป็น A&R ก็ดูแลครบวงจร เลย ในค่าย หลังๆไป ก็แบ่งหน้าที่ ให้คนอื่นไปทำ หลักๆของค่ายเราเลยก็คือ การชักชวน ศิลปิน และ อินดี้ส์ ที่มีฝีมือ และน่าสนใจ มาทำ Major debut กับทางเรา เพื่อนำเสนอในวงกว้างขึ้น เช่น 00100/ Hanatarashi/ Citrus/ Seagull Screaming Kiss her her ถ้าจะได้ถูกผม เป็นผู้บริหาร ค่าย Trattoria เสียมากกว่า และในส่วนของทาง เรื่องดนตรี ของศิลปินแต่ละคน ก็ให้ producer และศิลปิน ของทางค่าย เขาจัดการกันเอง ดีกว่าครับ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Tokion: อัลบั้มชุด 69/96 เหมือนเป็นอัลบั้มที่ ร่วมมือร่วมใจ กัน ของ ชาวร๊อค แต่ละคนก็ เป็นศิลปินร๊อคที่โด่งดัง เช่น Hide มือกีต้าร์จากวง X-Japan / Denki Groove และอีกหลายๆคน นอกจากจะมารับเชิญเล่นดนตรี ในอัลบั้มคุณแล้ว ก็ยัง มาเรียบเรียงดนตรี ในอัลบ้ม remix ชุด 96/69 ของงานชุด 69/96 อีกชุดนึงด้วย ส่วนอัลบั้มชุดใหม่ทำไมถึง กลับ ไปทำคนเดียว อีกล่ะ Keigo: ณ เวลานี้ตอนทำ Fantasma ผมพบว่า ตอนนี้สุขใจมากกว่าในการทำ งานแบบคนเดียวแบบเต็มขั้น แม้ว่าชุดที่แล้วจะได้น้ำใจ จาก ชาวร๊อค ในสายพันธ์ต่างๆ มาช่วยเล่นดนตรี และสร้างสีสันใน 69/96 ตอนนี้ผมอยากให้มันเป็นในอีกแบบหนึ่ง อีกอารมณ์หนึ่ง คือารมณ์ขึ้นลงของคน ซึ่งชุดที่แล้ว มันมีแต่ความบ้าคลั่ง หลุดโลก ลูกเดียว เพลง Chapter 8: Seashore and Horizon ผมวาดเอาไว้ว่า อยากได้นักร้องหญิงที่ตีกลอง แล้วร้องเพลงได้ แบบ Maureen Tucker มือกลอง วง Velvet Underground ทำ ดังนั้นผมจึงได้มือเบส รับเชิญคือ Robert Schneider ที่มาเล่นเบส ในเพลงนี้ และเขียนเนื้อร้องภาษาอังกฤษให้ และก็ Hilarie Sidney มือกลองและ นักร้องนำหญิง รับเชิญ มาร้องในเพลงนี้ ทั้งสองคนมาจากวง ร๊อค จาก อเมริกา ที่ชื่อว่า Apples in stereo ซึ่งมา promote trip กับทาง Polystar พอดี Robert เขาก็ชอบดนตรี แบบยุค 60’s พวก Beach boys/ Beatles/ Rolling Stones/ Monkees อะไรพวกเนี่ยด้วย แล้วก็มาทำ แล้วก็ร้องในส่วนของ Harmony เราร้องด้วยกันประสานเสียง เหมือน Beatles เลย แยกไม่ออกเสียงใครเป็นใคร ผมเองก็ ภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่สิ่งเดียวที่ผม กับพวกเขาสื่อถึงกันได้ คือดนตรีนะ จะเรียบเรียงไปแบบไหน มาแบบนี้ ดีไหม เราใช้ดนตรีในการเชื่อมโยงความเข้าใจกัน ระหว่างเรา ไม่มีกำแพงอะไรมาขวางกั้นเราได้ มันเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมจริงๆ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Hilarie Sydney มือกลองและ นักร้อง วง Apples in stereo มาตีกลองและ ร้องนำรับเชิญในเพลง Chapter 8: Seashore and Horizon และเพื่อนร่วมวงอีกคน อย่าง Robert Scheinder ก็มาเล่นเบส และ แต่งเนื้อร้องเพลงนี้ด้วย จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปสมาชิกวง Apples in stereo จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Tokion: Cornelius กับ Oyamada ซัง มีเส้นขนานอะไร บ่งบอกไหมว่า ใครเป็นใคร แตกต่างกันอย่างไร? Keigo: บางทียังสับสนอยู่เหมือนกัน บางครั้งผมคิดเสียว่า Cornelius เป็น project อันนึงที่มีผมเป็นศูนย์กลาง และมีคนอื่นไปๆมาๆ รับเชิญ พอบันทึกเสียงไปปุ๊บ ความคิดอีกอย่างก็เข้ามาว่า “กีต้าร์ ตูก็เล่น producer ก็ตูอีก แต่งเพลงก็ตู แล้วทำไมไม่เป็นชื่อตูล่ะฟะ’ ว่า Keigo Oyamada มากกว่า ไอ้บ้าที่มาจาก พิภพวานร อย่าง Cornelius ที่อยู่ๆโผล่มากับแว่นดำ และความบ้าๆบอที่มันแสดงออกมา ถึงอย่างไร ผมกับ Cornelius ก็ยังเป็นหนึ่งเดียวที่ยังไปด้วยกันได้ Tokion: Cornelius เหมือนเป็นสิ่งที่คุณต้องการแสดงออกมา ใน performance และKeigo Oyamada คือผู้เชิด Cornelius รึเปล่า Keigo: มันคือสิ่งที่ผมเสนอผลงานของผมออกไป และบังที มันก็เป็นนามแฝงที่ซ่อนตัวตน ของผมในแบบที่ Keigo Oyamada นั่นไม่สามารถทำได้ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Tokion: อัลบั้ม ชุดที่แล้วของคุณคือ 69/96 มันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แบบ rock n’roll และความสุข แต่ลึกมันเหมือนกับ อมทุกข์อะไรเอาไว้ รึเปล่า? Keigo: ใช่ครับ มันเป็นแบบนั้น ผมไม่ใช่พวกแบบมีความสุข เอิ๊กๆ ยิ้มร่าไปหมดกับทุกสิ่งตลอด และท่าเป็นความสุขที่แบบ สุขใจมากๆเนี่ย ผมก็แสดงออกมาพอสมควร Tokion: ถ้าความสนุกสนาน นั่นคือ 69/96 แล้วความหมายของ Fantasma ล่ะ Keigo: มันเหมือนการทำ soundtrack ของหนังเรื่องหนึ่งครับ ที่มีเรื่องราวต่อเนื่องกัน (พูดง่ายๆ คือ Concept Album สำหรับชุดนี้/ เจ้าของกระทู้) มันจะมีฉาก มีซีน การเล่าเรื่อง เช่น เวลาที่ผ่านพ้นไป การเคลื่อนที่ของอวกาศ ไปสถานที่ ต่างถิ่น เถลไถล ไปในป่า แหวกว่ายอยู่ ในกระแสน้ำ เรื่องราวก็เปลี่ยนไป ตามบทเพลงที่เปลี่ยนแทร๊ค และสถานที่ด้วย ทำภูมิหลังเรื่องราวตัวละครในเพลง ไว้ด้วย จริงๆมันได้โผล่ออกมาเป็นเนื้อร้องเลยนะ มันเริ่มจาก การจดเล็กจดน้อย แล้วค่อยเอามาประสานกันเป็นเรื่องราว และออกมาเป็นเพลง ซึ่งผมอาจจะคิดได้สดๆ ระหว่างการบันทึกเสียงเลยว่าเพลงต่อไป ต้องเป็นแบบนี้ถึงจะเหมาะ มันได้ค้นหา และแก้ไข ได้ ตลอดเวลาเหมือนการ เขียนบทหนังซักเรื่อง แต่กับ 69/96 มันก็คือ ร๊อคให้สุดเหวี่ยงเลย ดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยสรรพเสียงตะวันออก ของกีต้าร์ และ การโซโล่ การ Improvise การเหยียบ effect กีต้าร์ เต็มไปด้วยความหนักแน่นรุนแรงในแบบ Rock sound แบบเอาเร้าใจเลย ส่วน Fantasma ผมเริ่มใส่ใจในรายละเอียด ของการทำเพลงมากขึ้น และเป็นเมโลดี้ที่สวยงามมากขึ้น ยิ่งกว่า อัลบั้มชุดก่อนๆ ของผม และเอกลักษณ์ของ ผมที่ยังไม่ทิ้งคือ การทดลองเอานู้นผสมนี่ หน่อย พอฟังแล้วบางทีผมก็เป็นคนขี้เบื่อด้วย เฮ้อ..เพลงนี่ไม่เอา จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 19:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Tokion: อะไรที่ทำให้คุณเป็นพวกชอบหน่าย? การเป็นพวกอมทุกข์ รึเปล่า? Keigo: เมื่อตอนที่ผมอยู่บ้าน ผมหยิบผลงานของ พวก Ben Watts แล้วก็ Robert Wyatt แล้วก็ พวกศิลปินหญิงเดียว ฟังพวกนี้เรามันเหมือนบางสิ่งที่รู้สึกแล้วเฮ้อ ฟังแล้วต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ บางที ผมฟังพวก Ramones ขึ้นมาอย่างเนี่ย ผมก็ไม่สนนะว่าเกิดคุ้มคลั่งบ้าๆบอๆขึ้นมา และมันมีบางสิ่งที่ทำ ให้เรารู้สึกได้บรรยาย ออกมาเวลาฟังเพลงพวกแบบ ความทุกข์ Tokion: แล้วตกลงว่าคุณเป็นพวก เก็บกดรึเปล่า? Keigo: ผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมเองเป็น คนอย่างไรเหมือนกัน มันคงแล้วแต่อารมณ์ หล่ะมั๊ง คุณลองฟังอัลบั้มชุดใหม่ของผมก็ได้ มันมีด้านที่เป็นความทุกข์ด้วย แต่เพลงเหล่านั้นผมก็ไม่แน่ใจ ว่า ความรู้สึกที่แต่งออกมาแบบนั้น มาตอนไหน และมีเพลง แบบ ไม่ทุกข์ด้วยนะ ประมาณ ว่าสุขใจ Happy ผมแค่อยากจะมันส์เท่านั้นเอง แล้วมันส์ก็มีเรื่องทุกข์ อีก สลับไปมา เหมือน หนังดราม่า (ยิ้ม) Tokion: ก่อนจาก กัน ถ้า Keigo Oyamada ไม่ใช่ Cornelius คุณคิดว่าเขาจะเป็นไร? Keigo: เจ้าของร้าน เทป ครับ! (หัวเราะ) จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 20:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Cornelius's Discography Albums: First Question Award (1994) 69/96 (1996) Fantasma (1997) Point (2001) Albums remixed:(ศิลปินคนอื่นมา เรียบเรียงเพลง ของ cornelius เสียใหม่ ในรูปแบบที่ต่างกันไป ยกเว้นงานที่ชื่อ Cm ที่ Cornelius นำเพลง คนอื่น มา remixed เสียใหม่) 96/69 (1997) Fm-Fantasma mix (1998) CM-Cornelius Mix (1999) Pm-Point Mix (2002) CM 2 (2003) Ep: Holiday in the sun-ep. (1993) Cornelius กับ concert ที่เมืองไทย ในงาน Soi Music เมื่อประมาณเดือน ก.ย. 2547 ผมได้มีโอกาสไปดูด้วยครับ มี Modern dog มาร่วม concert ด้วย แล้วก็มีวง Death of a saleman ด้วย ภาพนี้โดยคุณ Lapo จากห้อง นอกกระแส จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 20:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ Analog Kid น่าจะชอบผลงานของ Cornelius ชุด Fantasma นะครับ เพราะมันเป็น concept album เล่นเพลงต่อเนื่องกัน แลวอีกอย่าง ถ้าอยากลองฟังแนว พวก Avant garde ที่พอหาได้ในสมัยนี้ ก็แนะนำชุดนี้ครับ ถ้าคุณชอบงาน ในชุด Ummagumma แล้วก็ Atom Heart motherของ Pink Floyd และ Music from the body ของ Roger Waters เป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่าจะฟังได้ไม่ยากครับ อ่อ ทิ้งท้ายคำคม (Quotes)จาก Cornelius 'ดนตรี มันไม่มีอะไร ฟันธง ได้หรอกว่า อันนี้ดี อันนั้นห่วย มันขึ้นอยู่ที่ว่า คุณใช้อะไรมาวัด และ มาตรฐานของใคร มากกว่า' จากท่อนหนึ่งในนิตยสาร Magnet ฉบับที่ 53 จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 20:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 . แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 47 21:21:15 จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 21:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จบแล้วครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม เน็ทช้าไป ขออภัย ถ้ามีอะไรดีๆ หรือน่าสนใจ ก็พยายามจะเอามาลงนะครับ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 21:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอ๊วยาวจัง เดี๋ยวทำงานเสร็จจะมาอ่านค่ะ คุณ brad pitt ได้ฟัง cornelius รีมิกซ์เพลง Mixed Bizness ของ Beck รึยังคะ หลุดของเดิมไปเลย แต่เพราะดี ชอบจนต้องไปหารมิกซ์อื่นๆของตะแกมาฟัง (เสียดายไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตเขา อุตส่าห์เสียตังค์ซื้อบัตรมาแล้วแท้ๆ T-T) จากคุณ : Nutjung - [ 27 ต.ค. 47 22:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาไปไว้ห้องนอกกระแส ไม่ดีกว่าหรือครับ จากคุณ : knotyman - [ 27 ต.ค. 47 22:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #25 ฟังแล้วครับ แหวกไปจากของเดิมเหมือนที่คุณว่าเลย แล้วก็ชุด cm 2 แนะนำมานะครับ ชุดนี้ Cornelius mixed เพลง rock ดังๆ หลายเพลงทีเดียว ส่วน Soi ผมได้ไปดูครับ เสียดายเล่นน้อยไป หน่อย #26 เอาไว้ในห้องนี้ดีแล้วล่ะครับ อย่างน้อย บทสัมภาษณ์นี่ ได้ให้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่าง ใน แวดวง rock นั้นแหละครับ และการ เปิดใจ ยอมรับ และ ไม่มีทิฐฐิ กับคนที่เขาไม่ได้ ชอบเหมือนเรา ซึ่งหลังๆ ไปมักจะมีกระทู้แบบ ใจแคบ แบบแนวคนอื่นไม่ดี แนวตัวเองดีหมด มันเยอะครับ (ซึ่งผมเชื่อว่า ในห้องนี้ สมาชิกประจำ คงไม่ค่อยมีใคร ทำอย่างนั้น) ผมเลยเอา บทสัมภาษณ์ ของ Cornelius มาเพื่อมาชี้แนะว่า สำหรับตัวเขา ไม่มีกำแพงขวางกั้นระหว่างแนวทางและ ดนตรี ทั้งหมดมาบรรจบกันเป็นบทเพลง บทเพลงจะเจ๋ง หรือ ห่วย เอาอะไรวัด ใครตัดสิน มีคนชี้ขาดอยู่ คนนึงหรือเปล่า ก็ไม่มี มันอยู่กับวิจาณญานของเรา นั้นแหละครับ จากคุณ : Brad Pitt - [ 27 ต.ค. 47 22:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นบทความที่ดีมากครับ แปะหน้ารวมด้วยเลยดิครับป๋าพิษ ให้คนอื่นได้อ่านกันด้วย จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 27 ต.ค. 47 22:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ครับ แค่เห็นว่าห้องนั้นน่าจะมีคนรู้จัก และสนใจวงนี้เยอะกว่า แค่นั้นเอง จากคุณ : knotyman - [ วันออกพรรษา 09:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #22, ขอบคุณที่แนะนำครับ คุณ Brad Pitt จะลองหามาฟังดู จากคุณ : Analog Kid - [ วันออกพรรษา 10:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณเจ้าของกระทู้หลายๆ ครับ จากคุณ : วัชเจียเหว่ย - [ 29 ต.ค. 47 13:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากเลยครับ  ชอบๆๆๆ ชอบประโยคนี้จัง 'ดนตรี มันไม่มีอะไร ฟันธง ได้หรอกว่า อันนี้ดี อันนั้นห่วย มันขึ้นอยู่ที่ว่า คุณใช้อะไรมาวัด และ มาตรฐานของใคร มากกว่า' ใช้ครับศิลปะไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่ความพอใจแล้ความสุขของแต่ละบุคคลที่จะเลือกเสพ มีความสุขในสิ่งที่เราเลือกเท่านั้นก็น่าจะพอ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 47 16:05:40 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 47 15:43:39 จากคุณ : XXram - [ 29 ต.ค. 47 15:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เยี่ยมครับ ------------ ขอบคุณมาก จากคุณ : Pholyphonic - [ 31 ต.ค. 47 11:37:08 A:61.90.117.240 X: TicketID:070582 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สัมผัสแค่ครั้งเดียวเองในงาน SOI แต่ขอโทษ...มันส์ซะไม่มี ขออีกทีนะ จะรอไปดูใครรู้ก็กรุณาแจ้งบอกให้กันทราบด้วย ชอบมากกกกกกกกก สุดยอด จากคุณ : chilly - [ 9 พ.ย. 47 20:21:30 A:168.120.27.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ปล. แถมรูป จากงาน soi ให้อีกรูปนึง ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : lapo - [ 14 พ.ย. 47 22:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอ้ว cornelius เคยฟังวงนี้จากอัลบั้มพิเศษของคุณ Hide อ่ะครับ ใช่วงเดียวกันรึป่าวครับ แล้วเมื่อไม่นานมานี้รู้สึกว่าเค้ามาเมืองไทยนะครับ แต่จำได้ว่ามาเล่นที่ผับไหน ครับ แล้ววงนี่ก็เป็นวงที่มีอิทธิพลต่อวงร็อคของญี่ปุ่นหลายๆวงเลยนะครับ (รู้รายละเอียดคร่าวๆเท่านั้นเอง) แต่ชอบสไตล์การร้องของเค้าและดนตรีของเค้ามาก จากคุณ : J - [ วันลอยกระทง 11:23:18 A:161.200.255.161 X: ]