ความคิดเห็นที่ 1 ชอบด้วยฮ่ะ ดูแล้วคลั่งไคล้ลิลี่ (อย่างรุนแรง) ไปเลย ตัวหนังไม่ขอพูดถึงนะ เดี๋ยวคนยังไม่ได้ดู เสียอรรถรส.. จากคุณ : sadcore - [ 1 พ.ย. 47 11:42:02 A:203.130.130.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีคำถามฝากไว้อีก เพลงในชุด KOKYu นี้แต่งเพื่อมาทำหนังโดยเฉพาะหรือเปล่าคับ จากคุณ : off_na - [ 1 พ.ย. 47 13:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมมีเป็นวีซีดีอ่ะครับ ฉากไปทะเลก็ไม่ได้ตัดนะครับ เริ่มกันตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงฉากโปรยเงินทิ้งเลยอ่ะ เด็กผู้หญิงที่มองว่าวนั้นสุดท้ายถ้าจำไม่ผิดจะตายครับ ส่วนคนที่โดนข่มขืนนั้นเป็นคนที่ในตอนสุดท้ายเธอโกนหัวออกน่ะครับ ส่วนเพลง ost ที่เป็นอัลบั้มของ Lily Chou Chou เป็นเพลงที่แต่งมาเพื่อใช้ในหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยครับ ถ้าซื้อเป็นดีวีดีร้านพี่คนนั้น แผ่นที่สองมี MV แถมให้สามเพลงครับ จากคุณ : pka FC (udomdog) - [ 1 พ.ย. 47 16:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กลับมาใหม่ ทนไม่ได้ >_< คุณ off_na ลองกลับไปดูหนังอีกทีจิ ดูข้ามๆ ไปรึเปล่าคะ รู้สึกว่า จะเข้าใจผิด / สับสน หลายตอนเลยฮะ ตอนไปทะเล นี่สำคัญนะ.. ตัดมิได้ฮ๊า จากคุณ : sadcore - [ 1 พ.ย. 47 18:04:45 A:203.130.130.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ช่ายๆ อย่างนั้น ผมหมายถึงว่า หนังมันยาวไป น่าจะตัดฉากไปทะเลทิ้งอ่ะ เพราะ ฉากนั้นยาวมาก เหมือนการเที่ยวของคนธรรมดา สงสัยผมเขียนเข้าใจยากมั่ง  และฉากนั้นผมเห็นว่ามันสำคัญแค่ตรงควางตังค์ทิ้งแค่นั้น ผมเลยคิดว่าฉากนี้น่าจะทำให้หนังยาวเกินความจำเป็น ขอโทษด้วยที่เขียนให้อ่านเข้าใจผิดกัน ของผมเป็น DVD ครับมีแผ่นเดียวอ่ะ ร้านอ๊อด แถมไม่มีmenu เลย อยากให้ฮอลลีวู้ดเอาเรื่องนี้ไปทำใหม่จัง ผมอยากได้ภาพที่สวยกว่านี้อ่ะ เพราะหนังยังถ่ายทำแบบต้นทุนต่ำอยู่ แต่ฉากๆ ที่ยืนตามท้องนานี้สิ สุดยอดเลยสวยมากครับ เซอร์ดี มุมกล้องมุมนี้คงเป็นออริจินอลไปแล้ว ปล.ชอบฉากนี้มาก ดูแล้วทำให้นึกถึง Thom york เลย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 47 19:11:26 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 47 18:47:09 จากคุณ : off_na - [ 1 พ.ย. 47 18:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ทำเพลงได้สุดยอดจริงๆ ลงตัวเข้ากับหนังอย่างมาก ตอนแรกนึกว่า bjork ร้องอ่ะ จริงๆผมคิดว่าหนัง Hedwig and the Angree Inch เพลงประกอบเจ๋งแล้วนะ มาเจอเรื่องนี้คงต้องยกอันดับหนึ่งให้ เลื่อน Hedwig ลงมา.... ยังไงก็รออ่านกระทู้ของน้องmerveillesxx  อยู่น่า สงสัยวันนี้เปิดเทอมยังไม่เห็นเลย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 47 18:58:06 จากคุณ : off_na - [ 1 พ.ย. 47 18:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฉพาะฉากที่ไปทะเลมั้งครับ ที่ดูแล้วภาพไม่เนียน (ใช้กล้อง DV) นอกจากนั้นเค้าใช้ Digital ถ่าย แบบเดียวกับ Starwars Ep. I & II เลยนะครับ จากคุณ : Pit - [ 1 พ.ย. 47 19:00:39 A:161.200.93.213 X:161.200.255.163 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากความคิดเห็นของตัวเอง, ถ้าตัดฉากไปทะเลออก จะไม่มีการเปรียบเทียบระหว่างการตายของนักท่องเที่ยวพูดเก่งๆ กินเก่งๆ คนนั้น กับการตายของ "เพื่อน" ในตอนท้าย (อ้างอิงแบบนี้คนที่ดูแล้วคงพอเข้าใจนะคับ) จริงๆ แล้วเราจำเป็นต้องรับผิดชอบความตายต่อใครสักคนหนึ่งหรือเปล่า ถ้ามันทำไปเพราะความไม่ตั้งใจ หรือการบีบบังคับ นี่คือปัญหาข้อหนึ่งที่หนังตั้งคำถามไว้ให้เราคิด อย่างไรก็ตามชอบฉากทะเลนะคับ, ทำให้คิดถึงอารมณ์หนังทางฝั่งตะวันตกที่เนื้อเรื่องช่วงแรกๆ จะสวยงามมาก พูดถึงความผูกพัน ความสดใสของชีวิต ซึ่งขัดกับในตอนช่วงหลังซึ่งไปกันคนละทาง หนังจะพูดถึงความรุนแรง สงคราม (ลองนึกถึง life is beautyful นะคับ มันจะเป็นคล้ายๆ อย่างนั้น) แล้วฉากทะเลมีส่วนอย่างมากที่ทำให้คนดูเห็นสภาพของ "เพื่อน" ที่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงแรกๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือ และทำให้เรามานั่งสงสัยว่ามันมีอะไรนักหนาที่ทำให้ใครคนหนึ่งเปลี่ยนได้ถึงขนาดนั้น ไม่มีฉากทะเล, เรื่องอาจไม่สมบูรณ์ด้วยประการฉะนี้ อนึ่ง, อยากอ่านบทความของคุณ merveillesxx เหมือนกัน... มาโพสต์หน่อยเร้วววว ps. เพิ่งตกหลุมรัก salyu ก็จากเรื่องนี้ล่ะคับ จากคุณ : b-side - [ 1 พ.ย. 47 19:50:48 A:203.113.35.12 X:203.150.217.118 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผม มี sound track อะ อยาก ได้ป่าว จากคุณ : x.y.u. - [ 1 พ.ย. 47 23:16:21 A:202.183.233.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืม มีคนชอบหนังเรื่องนี้กันเยอะเหมือนกันนะ แต่สำหรับเรา ดูแล้วยกเป็นหนังที่หดหู่สุดขีดเลยล่ะ ตั้งแต่ดูหนังมาก็มีเรื่องนี้ all about lily กับ virgin suicide ที่ว่าดูครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว (เคยคิดอยากถามคนที่ชอบหนังเรื่อง all about lily ว่าทำไมถึงชอบหนังเรื่องนี้ มีจุดไหนที่โดน ไม่นับเพลง) แผ่นดีวีดีหนังเรื่องนี้เราสั่งจากฮ่องกง มีแจ๊คเก็ตสวมรูปทุ่งนั่นแหละ สวยดี แต่ดูเสร็จก็ขายต่อไปแล้ว ส่วนเพลงประกอบเพราะดี ตอนไปญี่ปุ่นก็เห็นมีวางขาย แต่ไม่ได้ซื้อมา จากคุณ : cottonbook - [ 2 พ.ย. 47 08:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมดูก็รู้สึกหดหู่ครับ แต่สิ่งที่มาทดแทนความรู้สึกหดหู่ หรือมาล้างความรู้สึกทำให้เราประทับใจคือ บทเพลงที่ทรงพลังจนทำให้เรารู้สึกว่า lily มีตัวตนจริงๆ ผมว่าความรู้สึกตรงนี้มากกว่าที่ทำให้หนังมีพลัง ขอบคุณครับคุณ x.y.u. สำหรับความเอื้อเฟื้อ คือผมมีฟังแล้วครับ อัลบั้มKokyu แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 47 10:04:28 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 47 10:03:54 จากคุณ : off_na - [ 2 พ.ย. 47 10:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ใช่ คุณ off_na ลืมไปรึเปล่า ว่า ฉากไปทะเล ทำให้เรารู้ว่า ทำไม อยู่ๆ โฮชิโนะ ถึงกลายเป็น monster มันไม่ได้สำคัญแค่ตอนโปรยเงินนะฮะ ส่วนเรื่องคนเล่นว่าวที่ถามไว้ (ชิโอริ) คุณเข้าใจถูกแล้ว (ตอนแรกๆ เราดู ก็แอบคิดไว้ในใจว่า ดนตรีเหมือน bjork เหมือนกัน) ost ประกอบเรื่องนี้มี 2 อัลบั้มนะ มีของ lily chou-chou - kokyu กะ อันที่เป็นดนตรีบรรเลงในหนัง (ซึ่งเป็นเปียโนเศร้าๆ ซะส่วนใหญ่) อีกอัลบั้มนึง จากคุณ : sadcore - [ 2 พ.ย. 47 10:27:10 A:203.130.130.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหรอครับ ผมก็อยากถามอยู่เหมือนกันอ่ะว่าทำไมหมอนี้เปลี่ยนไป นอกจากฉากโปรยเงินแล้วยังมี อะไรอีกมั่งอ่ะครับ สงสัยผมอาจจะมองข้ามไป จริงๆผมก็ไม่มีคำตอบเลยว่าหมอนี้เปลี่ยนไปได้ยังไง ยังไงช่วยบอกด้วย ว่างๆผมจะได้กลับไปดูอีกรอบ จากคุณ : off_na - [ 2 พ.ย. 47 10:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนังยาวไม้ ยาวสำหรับชุนจิ ผมดูไม่ออกว่าทำแบบต้นทุนต่ำยังไงอ่ะช่วยบอก วิธีดูให้หน่อยดิอยากรู้อ่ะ ผมดูแล้วยังไม่ปิ้งเท่าไหร่ แต่ก็ซื้อดีวีดีเก็บไว้แล้น จากคุณ : guyver - [ 2 พ.ย. 47 20:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อึมม การพิจารณาหนังต้นทุนต่ำหรือสูงของผม ต้องเน้นว่าเป็นแบบพิจารณาของผมนะครับ เพราะว่าผมไม่ได้เรียนด้านนี้มาอาศัยดูหนังเยอะแค่นั้น ง่ายๆ ลองเอาหนังเรื่องนี้ไปเทียบกับหนังของเป็นเอก หรือหนังเรื่อง "แอบคนข้างบ้าน" ดูก็จะรู้ละครับ และสิ่งที่เอาไปเทียบมีดังนั้น 1.ลักษณะ Production การถ่ายทำ หนังเรื่องนี้ช่วงกลางคืนเท่าที่ผมดูเขาไม่ได้จัดแสงเลย ดูจะใช้แสงจากธรรมชาติจริงๆ คือถ้ามืดก็จะมืดเลย 2.ลักษณะของภาพที่ออกมาจะบ่งบอกว่า ใช้ฟิล์มคุณภาพดีแค่ไหน สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมว่าเขาไม่ได้ใช้ฟิล์มที่ถ่ายภาพยนต์ด้วยซ่ำ น่าจะเป็นฟิล์มที่บ้านเราใช้ถ่ายละคร แถมบางช่วงก็ใช้ กล้องดิจิตอลธรรมดาถ่าย 3.คือดูเอฟเฟ็ค หนังเรื่องนี้ผมคิดว่าไม่มีเอฟเฟ็คอะไร เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จะถูกหรือไม่ ไม่รู้ครับพิจารณากันเอาเอง จากคุณ : off_na - [ 2 พ.ย. 47 21:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมนึกว่าเค้าตั้งใจซะอีกเน้อ ไม่เปงไรครับ เห็นคุยบ่อยๆในราชดำเนินรึปล่าว จากคุณ : guyver - [ 3 พ.ย. 47 06:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยากบอกว่าชอบsoundtrackเรื่องนี้มากๆ จากคุณ : mew - [ 3 พ.ย. 47 10:03:57 A:210.177.16.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ost นี่โดนสุดๆ เหมือนกัน ปัจจุบันยังเอาใส่มาฟังในมือถือ ฟังตอนนั่ง bts นี่มันได้อารมณ์ดีจิงๆ ล่องลอยๆ ดี อยากได้เนื้อเพลงอะ ใครมีมั่ง ได้ดูเรื่องนี้มานานมากกกกแล้วจนจำรายละเอียดไม่ค่อยได้เท่าไหร่แล้วอะ รู้แต่ว่าชอบทุกอย่างที่เป็นเรื่องนี้ ตอนนั่งดูนี่เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง ไม่อยากให้จบเลย พอจบแล้วก้อรู้สึกหดหู่ๆ (อารมณ์เดียวกะตอนดู nobody knows จบยังงัยยังงั้น) จากคุณ : Suedegirl - [ 3 พ.ย. 47 10:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เออ ใช่ครับหนังเรื่อนี่มันหนังทุนต่ำคับ หนังเรื่องนี่จึงมีฟุตเตจมากมายทำให้หนังตัดออกมา ย๊าวว ยาวว แต่ดูได้เรื่อยๆ นะ หนังเรื่องนี้ใช้กล้อง DV แบบที่เราๆมีนี่หละถ่าย ความดิบของภาพจึงมีสูงนะครับ ดูฟิลภาพที่ถ่ายออกมา ปัจจุบันนี้กล้อง DV รุ่นใหญ่สามารถถ่ายแบบ Film look ได้แล้วครับ ภาพจะนวลขึ้น(ไม่เหมือนก็ไกล้เคียง) แต่ข้อเสียของ DV จะมีของเสียในเรื่องของการเก็บแสง และ Depth ของภาพ ทำให้ความสวยคมสู้ฟิลมไม่ได้ (ในอนาคตไม่แน่ ตอนนี้มีเทคโนโลยีใหม่กำลังมาแทน DV คือกล้อง HDที่มีความคมชัดสูงมากแล้เก็บแสงได้ดี ) หนัง DV ส่วนใหญ่นำมาใช่ในหน้งดิจิตอล อย่าง Starwars Ep. I & II ซึ้งเน้น CG เป็นหลัก ทำให้ประหยัดค่าโพรดั๊กชั่นถ่ายทำได้เยอะทีเดียว ถ้าดูหนังเรื่องนี่ให้ดูการกำกับภาพของเขาด้วยครับ (ไม่รวมตอนที่ไปทะเลนะครับ เพราะคิดว่าเขาคงตั้งใจเป็นแบบแฮนด์เฮลแบบนั้น ) หนังเรื่องจึงเป็นหนัง DV ที่วางเฟรมสวยที่เดียวในแบบที่หนัง DV ไทยต้องศึกษา (ส่วนใหญ่ของไทยก็พวกเทเลมูวี่นั้นหละครับ) ลองศึกษาหนังเรื่องอื่นๆของ Shunji Iwai ดูนะครับ หนังเขาจะสวยๆทั้งนั้น แนะนำอีกเรื่อง Swallowtail Butterfly ดูเพลินสนุกดีครับเพลงประกอบก็เพราะเช่นกัน เป็นเพลงของวงดนตรีจากหนังเรื่องนี้นะครับ Yen Town Band ( สาว sadcore คลั่งมาก) หาได้จากร้านพี่คนนั้นเช่นกัน ลองดูครับ จากคุณ : XXram - [ 4 พ.ย. 47 02:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 hahaha oh yeah .. -yentown band- .. (better known as 'chara') <3 จากคุณ : sadcore - [ 4 พ.ย. 47 15:57:36 A:203.130.130.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 สงสัยแผ่นที่คุณ จขกห จะมาจากต้นฉบับไม่ดีเท่าไหร่ครับ ของผมเป็น dvd 5 ได้มาจากจีนแดงก็คิดว่าภาพสวยแล้วนะ พอได้ดูรูปตัวอย่างที่มาจาก ดีวีดีลิขสิทธิ์ โซน2 - ญี่ปุ่น นี่ โอ้โห สี และภาพสวยแจ่มมากๆ (โดยเฉพาะฉากทุ่งนา เขียวๆ ) ที่จริงเหตุการณ์ที่คุณสงสัย มีฉากเล่าที่มาที่ไปอยู่ในหนังหมดเลย คงจะมีโอกาสได้ดูอีกสักครี่งนะครับ จากคุณ : FF>> - [ 5 พ.ย. 47 08:01:21 A:202.133.166.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขออภัยที่ตอบกระทู้ช้า เนื่องจากช่วงนี้ผมเปิดเทอมแล้วครับ ตอบคำถามก่อน >ผมว่าน่าจะตัดช่วงไปเที่ยวทะเลทิ้งนะ เพราะมันไม่มีอะไร>เท่าไร เพราะฉากที่มี คงเป็นฉากโยนเงินลงทะเลแค่นั้น เพื่อนผมก็เคยพูดแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมคิดว่าส่วนนี้เป็นประเด้นทางวัฒนธรรมทีพวกเรา(ชาวไทย)อาจจะเข้าไม่ถึงก็ได้ หลายสิ่งหลายอย่างในหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับ 'ความเชื่อ' ของคนแถบโอกินาว่า อย่างน้อยๆที่สุด เพลงเปิดในหนังร้องเพลงภาษาโอกินาว่า! ชื่อเกาะในหนังเป็นชื่อเพลง รวมถึงการแสดง 'ลางร้าย' และ 'ความเปลี่ยนแปลง' ของโฮชิโนะ (พอกลับมาจากเที่ยวทะเล เขาเปลี่ยนไปคนละคน) ตามที่คนขับรถบอกไว้ว่า เขาเสียไปแล้ว '2 ชีวิต' >อยากรู้ว่าทำไม เด็กที่เล่นว่าวถึงตาย และเขาตายยังไง >เพราะอยู๋ดีๆก็เห็นนอนตาย ดิ่งพสุธาครับ สำหรับผมที่เป็นฉากที่ผม 'เจ็บ' ที่สุดแล้ว ทซึดะกำลังเล่นว่าวด้วยความไร้เดียงสา เธอพูดว่า 'ฉันอยากบินไปบนท้องฟ้า' ทันใดนั้นภาพก็ตัดมาเป็นภาพเธอสิ้นลมอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจี มันเป็นภาพที่สวยงามและน่าเศร้าไปพร้อมๆกัน (คุณนันทขว้างเคยบอกว่า งานภาพที่เหมือนมิวสิกวิดีโอในหนังเรื่องนี้ เหมือนเราถูกแฟนบอกเลิกในวันวาเลนไทน์) มันแสดงว่าเธอยังมีดวงวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในตัว แต่มันหมดแปดเปื้อน ชีวิตที่เกินทนรับ ทำให้ดวงวิญญาณนั้นต้องสลายหายไป >(แต่ตายจริงหรือเปล่า เพราะหนังที่ผมดูมันมืดอ่ะ) เอ...DVD ที่ผมดูก็ชัดดีนะครับ แนะนำของร้านพี่คนนั้นครับ >และคนคนที่เล่นว่างคนเดียวกะที่ถูกบังคับขายตัวมั้ย ใช่ครับ นอกจากประเด็นอินเตอร์เนทแล้ว ชุนจิ อิวาอิ (ผู้กำกับ) ต้องการวิพากษ์เรื่องของ ‘เอ็นโจโคไซ’ ด้วย (เหล่านักเรียนหญิงที่ให้บริการเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน หรือเพื่อนอน - คำนี้มีอธิบายในเวบ offficial ของหนังด้วย) ซึ่งเป็นประเด็นที่โด่งดังในญี่ปุ่นมานานแล้ว ล่าสุดคิมคีด็อคก็เล่าถึงประเด็นนี้เหมือนกันในหนังเรื่อง Samaritan Girl มีหนังญี่ปุ่นที่น่าสนใจอีกเรื่อง ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ Love & Pop ลองอ่านที่ http://www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=11714 >มีคำถามฝากไว้อีก เพลงในชุด KOKYu นี้แต่งเพื่อมาทำ >หนังโดยเฉพาะหรือเปล่าคับ ใช่แล้วครับ Lily Chou-Chou นั้นตามเครดิตเขียนว่า คือคนสามคน ได้แก่ ชุนจิ อิวาอิ, ทาเคชิ โคบายาชิ (คนทำเพลงให้หนังของอิวาอิ รวมถึงเป้นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินด้วย) และ Salyu (ซึ่งเพิ่งออกซิงเกิลในปีนี้เอง) >ยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ทำเพลงได้สุดยอดจริงๆ ลงตัวเข้ากับ>หนังอย่างมาก ตอนแรกนึกว่า bjork ร้องอ่ะ อันนี้ทุกคนเห็นเป็นเสียงเดียวกันครับ อิวาอิให้สัมภาษณ์ว่าเค้าได้แรงบันดาลใจของ ลิลี่ ชูชู มาจากตอนไปดูคอนเสิร์ตของ เฟย์ หว่อง แต่ยังไงผมก็ว่าเธอเหมือนบียอร์คจำแลงมากกว่า >จริงๆผมคิดว่าหนัง Hedwig and the Angree Inch เพลง >ประกอบเจ๋งแล้วนะ มาเจอเรื่องนี้คงต้องยกอันดับหนึ่งให้ >เลื่อน Hedwig ลงมา.... จุดนี้คิดเหมือนกันจริงๆครับ อันนี้เป็นกระทู้ที่พูดถึงหนัง ลองอ่านดูนะครับ http://www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=10568 เขียนถึง Swallowtail Butterfly http://www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=11687 ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ในส่วนที่ผมเคยตั้งกระทู้ไปนั้น ไม่จัดว่าเป็นบทความสักเท่าไรครับ มันเป็นคำถาม 7 ข้อ ที่ผมตั้งขึ้นเอง-ตอบเอง มากกว่าครับ เคยคิดจะเขียนถึงเรื่องนี้จริงๆจังๆ สักที แต่ว่าก็ดันเปิดเทอมแล้ว แย่จัง ------------------------------------ A2807113 ทุกท่านที่เคยดู - ชื่นชอบ - หลงรัก - คลั่งไคล้ All About Lily Chou-Chou ช่วยเข้ามาหน่อยจ้า [ภาพยนตร์] (โพสต์เมื่อ 10 พ.ค. 47 03:53:59) มีคำถามค้างคาใจดังนี้ครับ 1. ถ้ายูอิจิ (พระเอกของเรา)คือ ฟิเลีย แล้วโฮซิโนะ(เพื่อนพระเอกที่ตอนหลังกลายเป็นตัวร้าย) คือ Blue Cat ใช่มั้ยครับ ? mer: ตอนที่ดูรอบแรก ในช่วงแรกผมคิดว่า ฟิเลียกับบลูแค็ท คือคนๆเดียวกัน นั่นคือ ยูอิจิ สรุปคือว่ายูอิจิมาตอบเองเออเองอยู่คนเดียว จากเหตุที่ว่าเมื่อตอนที่ All Aboutฯ เป็นนิยายอินเตอร์แอคทีฟทาง internet อิวาอิ (ผกก.) ก็เข้ามาโมเมชื่อแฝงหลายๆชื่ออยู่บ่อยครั้ง แต่พอถึงฉากแอปเปิ้ลเขียวความคิดนั้นก็ตกไป (อีกอย่างหนังกระโปรงบานขาสั้นของอิวาอิไม่น่าจะอิงเชิงจิตวิทยาขนาดนั้น) ผมเข้าใจว่าโฮซิโนะ(บลูแคท)นัดพบกับฟิเลีย โดยใช้แอปเปิ้ลเขียวเป็นสิ่งที่บอกว่าเค้าคือ บลูแคท โดยที่โฮชิโนะไม่น่าจะรู้ว่ายูอิจิคือฟิเลีย (ถ้า “รู้” แล้วทำกันแบบนี้โฮชิโนะจะดูเป็นตัวละครที่โรคจิตเกินไปแล้ว ว่ามั้ยครับ) โฮชิโนะให้แอปเปิ้ลเขียวแก่ยูอิจิไปโดยบอกว่า “ถ้าใครเข้ามาคุยกับแก ให้แอปเปิ้ลเค้าไป” นั่นก็คือคนที่เอาแอปเปิ้ลไปก็คือฟิเลียนั่นเอง แต่ในเมื่อแท้จริงแล้วยูอิจิคือฟิเลีย จึงไม่มีใครได้รับแอปเปิ้ลนั่นไป (ในจุดนี้ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมโฮชิโนะต้องให้แอปเปิ้ลแกยูอิจิ หรือเพราะว่าเขาใช้ยูอิจิไปซื้อโค้กเลยมีโอกาสเดินไปรอบๆงาน เพื่อให้คนพบเห็นได้ง่าย) 2. แล้วอะไรเป็นแรงจูงใจทำให้ยูอิจิฆ่าโฮซิโนะ ? mer: ถ้าคิดตามสภาพยูอิจิ (ฟิเลีย) เปรียบเสมือนว่าในที่สุดเพื่อนที่หลงเหลือคนสุดท้ายบนโลกของเค้าก็คือ บลูแคท เพราะเมื่อพบเพื่อนที่เกือบจะเปิดใจแก่กันได้แล้วอย่างทซึดะ (สาวน้อยที่ถูกบังคับให้ขายตัว) เธอก็มาด่วนจากไปเสีย (บางทีทซึดะอาจจะปฏิเสธซาซากิ เพราะตอนนี้เธอเริ่มชอบยูอิจิแล้วก็ได้ จากไดอะล็อกที่ว่า “ตอนนี้ฉันก็มีเธอดูแลแล้วไง”) ประกอบกับจากบท chat ในช่วงท้ายๆเรื่อง แต่เมื่อปรากฏความจริงว่า แท้จริงแล้ว บลูแคทก็คือโฮชิโนะ ความรู้สึกทั้งมวลของเค้าจึงถูกปลดปล่อยออกมา ความผิดหวัง ความเศร้า ความแค้น หรืออาจจะเป็นความรังเกียจที่ฉากหน้าโฮชิโนะคืออันธพาลที่ทุกคนเกรงกลัว แต่ฉากหลัง -ในโลกอินเตอร์เนท- เขาก็ขี้ขลาดไม่ต่างไปจากยูอิจิเท่าใดนัก จำกัดความได้ว่ายูอิจิรู้สึกเหมือนตัวเองถูก “หักหลัง” นั่นเอง ด้วยเหตุทั้งมวลนี้ยูอิจิจึงตัดสินปลิดชีวิตอดีตเพื่อรักของเค้าลง สถานการณ์ของยูอิจิกับโฮชิโนะว่าไปก็คล้ายๆ ชินจิกับคาโอรุในเรื่อง Evangelion เพียงแต่คาโอรุอาจจะไม่ร้ายเท่า แถมทั้งคู่ยังออกแนวเกย์ๆด้วยซ้ำ (ฮา) แต่ลงท้าย บทสรุปก็เป็น “โศกนาฎกรรม” เช่นกัน 3. ความสัมพันธ์ของ ยูอิจิ - โฮชิโนะ – คุโนะ ? mer: ตอนนึงบลูแคทได้เล่าว่าเค้ามีเพื่อนสมัย ป.5 ที่ก่อนจะแยกจากกันฝ่ายหญิงได้ให้ CD วงฟิเลีย (วงเก่าของ ลิลี ชูชู) แก่เขา ตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจเพลงใน CD นั้นจวบจนตอน ม.ต้น เขาจึงเริ่มชอบมัน และตอนนี้นี่เองเค้าก็ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับผู้หญิงคนนั้นแต่กลับไม่พูดจากัน เหมือนไม่รู้จักกัน และก็มีบทสนทนาที่ฟิเลียบอกว่า “คุณบลูแคทคุยอะไรกับฉันก็ได้ เล่าเรื่องผู้หญิงที่ชอบลิลีกับเดอบุสซี คนนั้นก็ได้” ถ้าบลูแคทคือโฮชิโนะ คิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือ คุโนะ (สาวน้อยนักเปียโนที่ตอนหลังทำหัวสกินเฮด) จากฉากที่หนุ่มๆเล่นน้ำฝนแล้วผลักโฮชิโนะไปถูกคุโนะ ทั้งสองทำหน้าอ้ำๆอึ้งๆ เมื่อเพื่อนๆถามว่าโฮชิโนะรู้จักคุโนะมั้ย เค้ากลับทำเหมือนปกปิดอะไรบางอย่าง ผมคิดว่าบางทีสมัย ป.5 (หรือกระทั่งตอนนั้น)โฮชิโนะอาจจะแอบชอบคุโนะอยู่ก็ได้ (ในทางกลับกัน คุโนะอาจจะแอบชอบโฮชิโนะ) และในภายหลัง (หรืออาจจะเพราะตอนนั้นนั่นแหละที่ทำให้)ยูอิจิก็แอบชอบคุโนะ บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรม 4. เหตุจูงใจที่โฮชิโนะทำ “เรื่องนั้น” กับ คุโนะ ? mer: เรื่องราวสมัยม.ต้น มักเป็นว่าคุณจะแอบชอบหญิงสาวที่นั่งหน้าคุณ (จากเรื่องนี้ก็คือ ยูอิจิแอบชอบคุโนะ ซาซากิแอบชอบทซึดะ) ในวันที่มีการแสดงร้องประสานเสียง โฮชิโนะก็มาดูด้วย วันนั้นทำให้ทซึดะรู้ว่ายูอิจิแอบชอบคุโนะ และบางทีโฮชิโนะก็รู้ด้วยเช่นกัน คิดว่าคันซากิ (ยัยตัวร้ายที่เกลียดขี้หน้าคุโนะ) คงไปขอร้องให้พวกโฮชิโนะ (ซึ่งตอนนั้นคงเป็นอันธพาลขึ้นชื่อในร.ร.ไปแล้ว) “แกล้ง” คุโนะ (หล่อนบอกในตอนหลังว่า “ชั้นสั่งให้พวกแกแกล้งหล่อน ไม่ใช่ข่มขืนโว้ย”) เหตุใดโอชิโนะถึงต้องกระทำการรุนแรงถึงขั้นสั่งในพรรคพวก “ข่มขืน” คุโนะ (เค้าพูดว่า "จัดการเธอซะ") - จะเป็นเพราะแค่ว่าเค้ามีจิตใจที่ “เลวทราม” แค่นั้นเหรอ ? ทั้งๆที่พื้นฐานจิตใจของเค้ามิใช่คนแบบนั้น - เพราะ “ภาวะเคยชิน” ที่เค้าเคยทำสิ่งนี้กับทซึดะ เช่นกัน (แต่หนังก็บอกเราเพียงว่า โฮชิโนะ “แบล็คเมล์” ทซึดะ เค้าอาจจะแค่ถ่ายรูปเปลือยก็ได้) - เค้าต้องการ “กลั่นแกล้ง” ยูอิจิ อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่พอใจที่ยูอิจิไปชอบคุโนะ (แต่นี่คงไม่ใช่การหึงหวงแบบเด็กๆแล้วล่ะ เพราะแทนที่เค้าจะหาเรื่องกับยูอิจิ เค้ากลับเลือกใช้วิธี “ทำลาย” ชีวิตของคุโนะ และฝากรอยแผลในจิตใจไว้กับยูอิจิ) บางทีลึกๆในจิตใจ ในภาวะที่เค้าไร้สิ้นซึ่งทุกอย่างแล้วเค้าเหลือเพียง “ความทรงจำ” ที่ว่าเค้าเคยแอบชอบคุโนะ แต่ยูอิจิกำลังจะมาแย่งมันไป แต่กลับกันสภาวะ “ความหวงแหน” นี้อาจจะเพราะเค้าหวงแหนยูอิจิเสียมากกว่า อาจเป็นเพราะเค้าเห็นยูอิจิเป็น “อะไรบางอย่าง” ที่รองรับอารมณ์, ทาส อะไรก็แล้วแต่ หรือบางทีเค้าอาจจะนึก “อิจฉา” สิ่งที่เค้าไม่มี แต่มันมีในตัวยูอิจิก็ได้ (ฉากที่เค้าหัก CD ลิลีของยูอิจิก็อาจจะเกี่ยวพันกัน เพราะเรารู้ว่าโฮชิโนะเป็นคนที่ทำให้ยูอิจิรู้จักลิลี มันอาจเป็นสภาวะ “ความหวงแหน” ในอีกกรณีหนึ่ง เพราะหนังแสดงให้เห็นว่าแม้โฮชิโนะจะกู่ไม่กลับไปขนาดนั้นเค้าก็ยังไม่ทิ้งลิลีไปจากใจ – เพียงแต่ภายหลังเค้าอาจจะรับฟังเพลงของลิลีด้วยจิตที่แค้นเคืองต่อทุกสิ่งทุกอย่าง หรือเหมือนเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์ ในทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับยูอิจิ) มีคนเคยเสนอกับผมว่าบางที โฮชิโนะอาจจะมีความรู้สึกกับยูอิจิในทางลึกซึ้ง (พูดง่ายๆ เกย์ นั่นแหละ) แต่อันนี้ผมว่าไม่น่าจะใช่ อีกทั้งหนังอิวาอิก็ไม่เคยจะสอดแทรกประเด็นพวกนี้เข้าไปเลย ในประเด็นนี้เราอาจจะต้องเชิญท่านอาจารย์ เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ มาตอบละมั้ง (ฮา) เป็นว่าฉากที่ยูอิจิร้องไห้ด้วยความรวดร้าวหลังจากส่งคุโนะไป “แดนประหาร” คงทำให้เราเจ็บปวดไปอีกนาน 5. จาก BioScope เล่มที่ 25 คอลัมน์ “หนังในคืนเหงา” คุณไกรวุฒิบอกว่า “แต่เมื่อหนังเผยให้เห็นสภาพที่แท้จริงของสมาชิกเวบไซต์นี้ (อย่างน้อยๆก็ 4 คน) กลับช่างน่ากลัวเหลือเกิน เพราะ 3 ใน 4 เป็นพวกขี้แพ้ในชีวิตจริง ส่วนอีก 1 นั้นเป็นพวกขี้แพ้ที่ซ่อนความอ่อนแอแล้วชูความขบถเป็นหน้ากากบังหน้า” ผมสงสัยว่า 4 คนที่ว่ามีใครบ้าง ? mer: เพราะเท่าที่หนังบอกผมก็ว่า ยูอิจิ ส่วนราย “อีก 1” ที่ว่าก็ต้องเป็นโฮชิโนะแน่นอน แล้วที่เหลือนี่ใครล่ะนั่น เท่าที่เห็นว่าต๊องๆ ก็มีอีตาบ้าหัวกระเซิงๆหน้างานคอนเสิร์ตนี่แหละ (ที่ชมวงฟิเลียออกนอกหน้าจนถูกยำTEEN) 6. ฉากที่ยูอิจินั่งเล่นเปียโน ที่นั่นคือบ้านใคร ? mer: ผมคิดว่าน่าจะเป็นบ้านของโฮชิโนะ คือโทนสีน้ำตาลแบบนั้นมันน่าจะใช่น่ะ อีกอย่างฐานะอย่างยูอิจิคงไม่มีเปียโนหรอกนะ อีกทั้งฉากนั้นเกิดขึ้นหลังจากยูอิจิฆ่าโฮชิโนะไปแล้ว บางทีเค้าอาจจะไปที่นั่นเพื่อ “ไว้อาลัย” และ “ระลึกความหลัง” กับเพื่อนเก่าคนนี้ 7. เมื่อดูหนังเรื่องนี้แล้ว คุณหลงใหลในตัว Lily Chou-Chou หรือไม่ mer: แน่นอนเพราะอิวาอิสร้างตัวละครตัวนี้ได้ลึกลับและน่าค้นหา(และคล้ายๆ Bjork มากกว่าจะเป็น เฟย์ หว่อง - ฮา)ขนาดนั้น จาก MV ในฉากลานหน้าคอนเสิร์ตทำให้ผมหลงใหลใน Lily Chou-Chou ทันที . 8. สำหรับคุณ “อีเธอร์” คืออะไร mer: อีเธอร์ คืออะไรก็ได้ที่ยัง “มีชีวิต” ในเวบ Yen - Town ส่วน Keyword บอกไว้ว่า [Ether] Substance which fills this world. It was a concept once considered in physics, but Lily uses the term such as Inner Space. It contains significant meaning among her fans for the purpose of telling about Lily's music. จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มุมมอง - อิวาอิสามารถถ่ายทอดชีวิตและมุมมองของ “เด็ก ม.ต้น” ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ (และเฉพาะใน All Aboutฯ อาจจะถึงขั้น “ถึงลูกถึงคน”) ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์กุ๊กกิ๊กอย่างเด็กผู้ชายแอบชอบเด็กหญิงที่นั่งหน้า, เด็กผู้ชายที่โจ๋ๆต้องม้วนแขนเสื้อขึ้นเป็นก้อนๆเน่าๆ (นึกว่าจะมีแต่ในไทยนะเนี่ย), เด็กเรียนเก่งที่เป็นไอ้ “ขี้แพ้” หรือพวก “แปลกแยก”ในโรงเรียน (อันนี้โดนจังๆเลย ฮือๆ), เรื่องง่ายๆอย่างไอ้อาการ “แอบชอบ” กันนี่แหละ หนังทำให้เราคิดได้หลายมุมว่าคนนี้ชอบคนนู้น คนโน้นชอบคนนั้น, ความล้มเหลวในการสื่อสารระหว่างเพื่อนชาย-หญิง ในช่วง “ข้ามวัย” ในตอน ม.ต้น (ผมแน่ใจว่าทุกคนต้องเคยเจอกับเหตุการณ์นี้) มันจึงเป็นหนังที่พวกเราได้อารมณ์ “ถวิลหาอดีต” และรู้สึก “ขมขื่น” และ “หม่นหมอง” ไปด้วย อาจจะเรียกได้ว่าอิวาอิเป็นคนที่ไม่สูญเสียความทรงจำหรือความรู้สึกของ “วัยเยาว์” ไป (ถ้า “เจ้าชายน้อย” เป็นวรรณกรรมเรื่องโปรดของเค้าเราก็จะไม่แปลกใจ) ผมคิดว่าถ้าผมดูเรื่องนี้สมัยที่อยู่ม.ต้น หรือ ม.ปลาย ชีวิตผมคงเปลี่ยนไปในอีกทางอย่างแน่นอน (ตอนนั้นไม่น่ามัวเสียเวลากับ American Pie เล้ยยยยย .ซัดซะ 2 รอบ) - เหตุการณ์ต่างๆในหนังที่ดูรุนแรงหรือมืดมนอย่างไม่น่าเชื่อ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นรอบๆข้างเราทุกวัน ข่มขืน อันธพาล โดดตึก หรือแม้แต่ความรู้สึกอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว อยู่ท่ามกลางคนมากมายแต่แท้จริงคืออยู่ตัวคนเดียว อีกเรื่องนึงที่โดนผมสุดๆ คือตัวละครอย่าง โฮชิโนะ ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน (หนังบอกกับเราว่าสาเหตุมาจากธุรกิจที่บ้านเค้าล้มละลาย จนครอบครัวแตกแยก บางทีอิวาอิอาจจะต้องการบอกเราถึงความน่ากลัวของ “ลัทธิบริโภคนิยม” ในทุกวันนี้ก็ได้ ว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้ถึงขนาดนี้ หรือตอนที่เพื่อนของยูอิจิบอกว่า “พวกคนรวยก็งี้แหละ เลี้ยงข้าวพวกเราเพื่อให้เราเป็นเพื่อนกับลูกเค้า”) หลายๆคนที่ผมคุยด้วยถามว่า “คนเราจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ” ผมตอบว่า “เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่เชื่อหรอก” ผมเคยมีเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่ต่อมาก็ไม่คุยกัน (หรือพูดได้ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว มากกว่า) ทั้งๆที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันนี่แหละ ก็คล้ายๆกับโฮชิโนะ เค้ากลายไปเป็นเด็กเกเรอะไรเทือกนั้นน่ะ มันคงเป็นอีกตัวอย่างของความล้มเหลวทางการสื่อสารและการเปลี่ยนแปลงของคนไปตามกาลเวลา ยุคสมัย และสภาพแวดล้อม บางทีอิวาอิอาจจะมีเรื่องแบบนี้กับเพื่อนเค้าก็ได้ ส่วนนี้มันโดนด้วย “ประสบการณ์ส่วนตัว” น่ะครับ - คงเป็นอีกครั้งอินเตอร์เนทถูกยกมาเป็นประเด็นในสื่อภาพยนตร์ หลังจากยุคโพสต์โมเดิร์นที่มนุษย์ปฏิเสธอดีตและมุ่งสู่อนาคต ท่ามกลางกระแสธารแห่งเทคโนโลยีที่ข่าวสารข้อมูลใกล้ชิด-โยงใยกัน แต่ผู้คนกลับห่างเหินกันมากขึ้น การเล่นห้อง chat หรือเวบบอร์ดบางทีก็เหมือน “การกักขังตนเอง” จนทำให้เราต้องถามตัวเองว่า “ตัวตนของเราคืออะไร อยู่ที่ไหนกันแน่” . (คิดเหมือนผมมั้ยว่า SMS ในวันนี้ดูเป็นสื่อที่ “มักง่าย” และ “ไม่จริงใจ”) และเรื่องของการใช้ข่าวสารในการชักจูงผู้คน (เห็นได้จากการที่อิวาอิสร้างเรื่องเวบ Lily-holic ขึ้นมา) หรือจากตอนที่โฮชิโนะพูดกับยูอิจิว่า “พวกข่าวลือน่ะ ระวังไว้หน่อยนะ” - อิวาอิทำให้เราเห็นว่าเค้าคืออัจริยะในการกำกับภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉาก(ที่คลาสสิกไปแล้ว) กับยูอิจิท่ามกลางทุ่งเขียวขจี (“โลกทั้งโลกเป็นสีเทา แต่ทุ่งข้าวสีเขียวขจี” - โดนมั้ยล่ะ), ฉากว่าวลอยลมที่เราดูแล้วอยากบิน (จนพาลอยากจะโดดตึก), ฉากที่ใช้เครื่องอบผม (มันเรียกงี้หรือ ไม่ใช่แน่ๆ ^^;;) ที่เราดูแล้วต้องอ้าปากค้างว่า “มันคิดได้ยังไง” หรือจะเป็นสีเขียวที่เปรอะไปทั้งเรื่อง (ถ้าถามอิวาอิ เค้าอาจจะให้คำตอบเดียวกับ อัลฟงโซ คลัวรอง (Great Expectations, 1998) ก็ได้ว่า “ผมชอบสีเขียว”) ที่ผมชอบที่สุดคงเป็น MV ของ Lily ฉากนั้น (คงรู้กันว่าอิวาอิเคยเป็นคนกำกับมิวสิกวิดิโอด้วย) . สงสัยเรื่องสีเขียวต้องให้คุณไกรวุฒิมาเคลียร์ให้ (ฮา) - สิ่งที่ประจักษ์ชัดแก่ทุกคนอยู่แล้วว่าเพลงประกอบของหนังเรื่องนี้ “สุดยอด” .ทั้งเพลงของ Lily และส่วนของสกอร์ เพิ่มเติม - ครอบครัวของยูอิจิ: แม่ของเค้าน่าจะแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่มีลูกติดมา (ก็คือ ชินอิจิ เด็กที่นั่งเล่นเกมเป็นบ้าเป็นหลัง) และแม่ก็กำลังท้องเด็กคนใหม่จากผู้ชายคนนี้ เห็นได้ชัดจากตอนที่คุณแม่ (ยังสาว) ของโฮชิโนะถามยูอิจิว่า “มีพี่น้องมั้ยจ๊ะ” ยูอิจิตอบว่า “ไม่” - ฉากที่ยูอิจิขี่จักรยานกับแก๊งค์เด็กเลวอีก 2 คน (ฉากสีเขียวอีกแล้วครับทั่น) ผู้ชายที่เรียกยูอิจิแล้วให้เงิน “เอาไปกินขนมนะ” น่าจะเป็นพ่อของยูอิจิ (จากที่เค้าบอกว่า “อย่าบอกแม่นะ”) สังเกตดีๆจะเห็นว่าผู้ชายคนนั้นมีเด็กเล็กๆมาด้วย นั่นคงจะเป็นลูกใหม่ของเค้า ชี้ให้เห็นว่ายูอิจิเคยประสบกับสภาวะครอบครัว “แตกแยก” - โทรศัพท์ของทซึดะที่ห้อยบ้าบออะไรเต็มไปหมด อิวาอิอาจจะ “กัด” (เล็กๆ) กับแฟชั่นบ้าพลังของสาวๆญี่ปุ่น (รวมทั้งมุขแกล้งพูดคิกขุของ ทซึดะ ในร้านอาหารด้วย) - ฉากที่ยูอิจิโทรหาทซึดะ ริงโทนมือถือของทซึดะคือเพลง Piece ของ L’Arc~en~Ciel (ปี 1999) ถ้าผมไม่หูเพี้ยนน่ะนะ และใน MV เพลงนี้ก็มีฉากเอามีดแทงเหมือนกัน - มีคนบ่นกับผมว่าฉาก “เที่ยวโอกินาว่า” ของเหล่าหนุ่มๆทำให้หนังยืดเยื้อ แต่ผมคิดว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่เดียว ทำให้เราเห็นมิตรภาพอันแสนสวยงามของเด็กๆ ก่อนที่มันจะพังทลายในที่สุด (คุณๆผู้ชายดูแล้วคิดถึงสมัยเด็กที่แสนซ่าและสุดห่ามแน่นอน), อิวาอิถ่ายทอดมุมมองของ “เด็กผู้ชาย” ได้อย่างลึกซึ้ง (และน่ารักมาก) เช่น การตื่นเต้นกับทรวดทรวงของพี่สาวสุดเซ็กซี่ รวมทั้งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของโฮชิโนะ หลังจากที่เค้าเสีย “2 ชีวิต” ของเค้าไป (1.โดนตัวจิซาร์บินชน 2.เกือบจมน้ำตาย - ตามที่ชายโอกินาว่าคนนั้นพูด) จนในที่สุดโฮชิโนะโปรยเงินลงทะเล บางทีเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เขา “คิด” อะไรบางอย่างได้ (ผมเชื่อว่าช่วงโอกินวานี้คงมีประเด็นทาง “วัฒนธรรม” ของญี่ปุ่นหลายๆอย่าง ที่ชาวเราอาจไม่สัมผัสได้ .อันนี้รวมถึงเนื้อเพลงของ Lily ด้วย) - ตามหนัง Lily มีอัลบั้ม 3 ชุด 1.Jewel (แผ่นที่ยูอิจิให้ทซึดะยืม) 2.ไม่ได้บอกชื่อ (แผ่นที่ทซึดะขอฟังบนรถไฟ) 3. Kokyu (Breathe -ลมหายใจ) . ความจริงแล้ว Lily มีอัลบั้มเดียวคือ Kokyu (ไพเราะมหากาฬบานตะไท !!) - ในโลกแห่งความเป็นจริง Lily Chou-Chou ออก single 2 แผ่นกับค่าย Sony Music และออกอัลบั้มเต็ม Kokyu กับค่าย Toshiba EMI ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่า Lily เป็นแรงบันดาลใจให้แก่อิวาอิ หรือว่าอิวาอิสร้างตัวละครนี้ขึ้นมาแล้วจึงหานักร้องมาในภายหลัง (ใครรู้บอกที) - ส่วนนี่เป็นเรื่องของ เดอบุสซี่ เอามาจากเวบ imdb *A lot of the music came from the famous French composer Claude Debussy (1862-1918). Debussy's most famous piano piece, Arabesque in heard through out the movie. It is also the title of one of Lily's albums (or was it the title of one of her songs?) << เป็นชื่อเพลง track 1 ในอัลบั้ม Kokyu (เพลงเปิดเรื่องเลย) และเป็นชื่ออัลบั้มในส่วนที่เป็น score ครับ *'Chou-chou' in Lily's name is most certainly a reference to Debussy's only daughter, Claude-Emma, whose nickname was also 'Chou-chou' (His piece 'The Children's Corner suite' was dedicated to her). So, in a sense, Lily is Debussy's 'offspring'. - อันนี้เคยบอกไปในกระทู้ที่แล้ว ใน Kill Bill Vol.1 มีเพลงจากหนัง All About Lily Chou-Chou ด้วยนะ เพลงที่ว่าก็คือเพลง Kaifuku suru kizu (Track 5 / album: Kokyu / artist: Lily Chou-Chou / 2001) ใช้ตอน Scene ที่ The Bride ได้รับดาบของ ฮัตโตริ ฮันโซ (เพลงที่เสียงผู้หญิงร้องช้าๆ น่ะ) โหลดได้ที่ http://www.killbill2.net/music.php จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนอันนี้เป็นข้อความที่น่าสนใจ ที่คนเข้ามาตอบครับ (ขอขอบคุณทุกท่าน ไว้ ณ ที่นี้) ------------------------------ ความคิดเห็นที่ 4 แลกกันอ่านแล้วกันนะคะ เขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วตอนดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ทั้งหมด เกี่ยวกับ Lilly Chou Chou ฉันไม่มีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีภาพยนตร์หรือเทคนิคการถ่ายทำอะไรทั้งสิ้น การตัดสินใจชมหนังแต่ละเรื่องเน้นความสนุกเป็นหลัก ความสนุกของฉันคือหลังจากดูหนังเรื่องหนึ่งแล้ว มีอะไรให้คิดต่อตอนกลับบ้าน มีอะไรให้กลับมาสานต่อ ‘ความอยากเขียน’ของตัวเอง คิดว่าคงเป็นความสนุกแบบเดียวกับ พวกผู้ชายที่ชอบวิเคราะห์เกมส์ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก หรือ นักธุรกิจที่คอยติดตามความเป็นไปของตลาดหุ้น บ่ายวันนี้ฉันจึงพาตัวเองไปนั่งที่ห้อง 503 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อชมภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง All About Lily Chou-Chou ผลงานของผู้กำกับ Shunji Iwai ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของงานจุฬาวิชาการในปีนี้ ฉันได้ดูหนังสองเรื่องก่อนของ Iwai คือ Love Letter และ April Story จากวิดีโอและรู้สึกถูกอกถูกใจมากๆ ทั้งวิธีการเล่าเรื่องและสารที่ต้องการนำเสนอ Love Letter พูดถึงการเยียวยาอดีตอันขมขื่นจากการสูญเสียคนรัก ในขณะที่ April Story เป็นหนังสั้น เล่าเรื่องความมุ่งมั่นในการทำตามความฝันของผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ทั้งสองเรื่องใช้ภาพและสีในโทนสดใส รวมทั้งโครงเรื่องทั้งหมดก็เป็นไปในแนวอ่อนโยน เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ สำหรับผลงานล่าสุดของเขา All About Lily Chou-Chou ซึ่งเป็นที่มาของไดอารี่ในวันนี้ ทำให้คนดูหนังอย่างฉันเกิดความรู้สึกสองอย่าง อย่างแรก คือทึ่งความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับคนนี้เหลือเกิน เขาทำหนังที่มีเนื้อหาจริงจัง หนักแน่น แต่ภาพและเพลงประกอบกลับงดงามราวกับมิวสิควีดีโอ (อ. กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน และ คุณ นันทขว้าง สิรสุนทร วิทยากรในงานเสวนาหลังชมภาพยนตร์ ให้ความเห็นว่า เทคนิคแบบขัดแย้งหรือ Contrary ยิ่งตอกย้ำให้เราเจ็บลึกกับเนื้อหาของหนังมากขึ้น เปรียบเทียบกับการถูกบอกเลิกจากแฟนในวันวาเลนไทน์) ตัวหนังกล่าวถึงปัญหาของเด็กวัยรุ่นจากเมืองเล็กๆในญี่ปุ่น แก่นของมันเป็นสากลซึ่งสามารถเข้าใจได้ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น ความรุนแรงในโรงเรียน การคุกคามทางเพศ โสเภณีเด็ก อิทธิพลของอินเตอร์เนตและเพลงป๊อบต่อดวงวิญญาณที่อ่อนแอและไร้ที่พึ่ง เด็กๆของเราไม่ว่าอยู่ในสังคมไหน ก็ต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ฉันไม่เคยเรียนศิลปะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรกันแน่ คิดเอาเองว่ามันน่าจะสวยงามและสามารถสื่อความคิดบางอย่างให้กับผู้เสพ แม้ในท้ายที่สุด หนังก็ไม่ได้ให้ทางออกที่เป็นรูปธรรมกับตัวละครหลัก นั่นทำให้ผู้ชมหลายคนหงุดหงิด หากในสายตาของฉัน ผู้กำกับ Iwai ได้ทำหน้าที่ศิลปินอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาถ่ายทอดความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างสวยงามและซื่อสัตย์ น่าเศร้า สมัยนี้ความดีงามวิ่งไม่ทันเทคโนโลยีสื่อสารความเร็วสูงในสาย Fiber Optic เราคงต้องใคร่ครวญหาทางออกจากปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง นอกจากทึ่งแล้ว ความรู้สึกที่สองของฉัน คือหัวใจสลาย จากคุณ : nbow - [ 10 พ.ค. 47 09:03:55 ] ------------------------------ ความคิดเห็นที่ 5 ตัวละครในเรื่องนี้ทุกคนล้วนบาดเจ็บและอ่อนแอจากสภาพที่รุมเร้าพวกเค้า ทุกคนต้องการเพียงพื้นที่เล็กๆ ให้ได้ตะโกนร้องบอกออกไปว่า ฉันยังอยู่ ฉันยังมีตัวตน แต่ต่างกันไปที่ว่าแต่ละคนมีวิธีการที่จะบอกออกมายังไงเท่านั้น ยูอิจิเลือกที่จะใช้ลิลี่เป็นผู้นำทาง โฮชิโนะเลือกที่จะใช้แสดงตัวเป็นคนเลวเพื่อกลบเกลื่อนความผิดหวังภายใน เรื่องนี้เรายิ่งดูยิ่งรักและชอบในเนื้อหาและมุมมองของแต่ละตัวละคร ถึงแม้จะผ่านมานานแล้วก็เหอะ แต่ทุกวันยังฟังเพลงของลิลี่ และหยิบหนังเรื่องนี้มาเปิดดูอยู่บ่อย ๆ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 15:09:34 จากคุณ : ใบไม้ ใบหญ้า - [ 10 พ.ค. 47 10:04:08 ] ---------------------------------- ความคิดเห็นที่ 9 ที่ว่ารู้จักคนที่ออนไลน์ในเรื่องมี 4 คน เรานับดูก็คงจะเป็น 1.Philia คือ ยูอิจิ 2.Bluecat คือ โฮชิโนะ 3.คงจะเป็นไอ้ต็องที่ถูกยำตอนเข้าแถวแต่ไม่รู้หรอกว่าใช้ log in ชื่ออะไร (คนนี้ไม่แน่ใจ) และ (ถามแทรกก่อน - ผู้หญิงที่หยุดยืนมองยูอิจิตอนถือแอปเปิ้ลเขียว ไปซื้อโค้กแน่ะใครเหรอ เธอทำท่าเหมือนจะเข้ามาทัก เหมือนจะรู้ สงสัยจะเป็นสมาชิกคนนึงของบอร์ดแน่ๆ แต่ไม่แสดงตัว - อันนี้เดา) 4.คุณแบร์ คนนี้ไงล่ะ (เค้าบอกว่าอย่าลืมมองหาเค้านะตอนไปงานคอนเสริต์ เพราะเค้าจะพาตุ๊กตาหมีไปด้วยล่ะ) หุหุ ผิดคาดอย่างสิ้นเชิง ตอนผมเห็นน่ะ ก๊ากสุดๆ เลย จากคุณ : ใบไม้ ใบหญ้า - [ 10 พ.ค. 47 14:55:26 ] **คุณแบร์ >> ลองดูฉากที่ยูอิจิไปซื้อโค้ก สังเกตดีๆ จะเห็นผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง อุ้มตุ๊กตาหมีมาด้วย ------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 11 ขอชมว่าตาไวมากๆ ตรง "คุณแบร์" นั่นผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยครับ o_O'' เรื่องอาการ "ผิดคาด" แบบนี้ดูจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วล่ะครับ (อย่างเช่นเวลานัดเจอคนที่รู้จักกันในเนท แล้วพอเจอตัวจริงก็...) สาเหตุก็อาจมาจากสื่อต่างๆที่เราโดนกรอกหูกรอกตา (ปนยัดเยียด) อยู่ทุกวันนี้แหละครับ ดาราหล่อๆสวยๆในจอทีวี สร้างค่านิยมหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกแก่เรา (ประกอบกับเราๆท่านๆ ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา) ทั้งที่นั่นถือเป็น "ส่วนน้อย" ของโลกมนุษย์ใบนี้น่ะครับ ... เรื่องนี้เป็นกลายๆกับหนัง Goodbye Dragon Inn ที่แสนจะเรียบง่าย (จนออกไปทางเหนื่อยหน่าย) ของไฉ้หมิ่งเหลียงแหละครับ เค้าอาจจะต้องการวิพากษ์ (ปนกัด) ผู้ชมที่เฝ้าแต่ลุ้นระทึกแต่ความตื่นเต้นสุดเหวี่ยงจากหนังก็เป็นได้ (อันนี้อ่านมาจากวิจารณ์ของคุณธิดา ในผู้จัดการน่ะครับ) >ถามแทรกก่อน - ผู้หญิงที่หยุดยืนมองยูอิจิตอนถือแอปเปิ้ล>เขียว ไปซื้อโค้กแน่ะใครเหรอ เธอทำท่าเหมือนจะเข้า >มาทัก เหมือนจะรู้ สงสัยจะเป็นสมาชิกคนนึงของบอร์ด >แน่ๆ แต่ไม่แสดงตัว - อันนี้เดา ผมคิดว่าคงเป็นหนึ่งในคนที่เล่นบอร์ด Lily-Philia นั่นแหละครับ เธอคงเห็นข้อเขียนระหว่างบลูแคทกับฟิเลีย (ในเรื่องที่เค้าเขียนๆกันคงเป็น BBS นะ) เธอก็อาจจะมีอาการ "ผิดคาด" ต่อตัวบลูแคท เช่นกัน (ในตอนนั้นยูอิจิอยู่ในฐานะบลูแคทนะครับ) เพราะถ้าเป็นผมผมคงจินตนาการว่าบลูแคทเป็นผู้หญิงน่ารักๆคิกขุๆ มากกว่า (จากลักษณะการพิมพ์ และไม่นับเรื่องเด็กสาวตอน ป.5 ที่เค้าเล่า) แทนที่จะเป็นเด็กที่ดู "ไม่มีอะไรเลย" อย่างยูอิจิ (ตรงนี้ผมนึกไปถึงหนังเรื่อง American Beauty ที่ ตัวละครอย่าง เอลเจลล่าพูดว่า "สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ก็คือการเป็นคนธรรมดา" -ถ้าผิดพลาดขออภัยครับ ดูนานมากแล้ว) จากคุณ : merveillesxx - [ 10 พ.ค. 47 23:17:28 ] ------------------------------- สรุปแล้ว All About Lily Chou-Chou ก็คือ หนังที่เล่าถึงโลก “Dystopia ของวัยรุ่น” นั่นเอง (หลังจากนำเสนอโลกแนว Utopia ใน April Story) ซึ่งแน่นอนผมเชื่อในอย่างแรกมากกว่าอย่างหลัง . ความรู้สึกจากที่ดูจบรอบแรกคือ “อยากกระโดดตึกตาย” ครับ แต่พอดูรอบที่สองความรู้สึกอาจจะผิดแผกไปจากเดิม พิจารณาไคร่ครวญให้ดีแล้ว ในตอน end credit สุดท้ายที่เพลง Glide ดังขึ้นมา บางทีอิวาอิอาจจะกำลังใจแก่เหล่าดวงวิญญาณที่สูญสลายไป หรือเหล่าดวงวิญญาณที่กำลังหลงทาง ให้โบยบินไป เพื่อตามหาความฝันของตัวเองอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะดูซักกี่รอบ ก็รู้สึก "หัวใจสลาย" ... ว่าแล้วนึกถึงบทกวีในเพลง Shape (in the shape of the wings) ของวง Laputa ครับ I don't mind the colour of the wings Just fly, fly away The sky is the limit, You have your own wings to fly, wherever you want to go To the light, to the sky, and To find your way, To find your destiny จากคุณ : merveillesxx - [ 10 พ.ค. 47 23:28:48 ] จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งเห็นกระทู้นี้ เน็ทเสียมา 3 วัน คงไม่ตอบคำถามเพราะข้อเขียนในแต่ละความเห็นค่อนข้างสมบูรณ์ อีกอย่างเราดูเรื่องนี้มาค่อนข้างนาน .. ลืมไปบ้าง สิ่งหนึ่งรับรู้เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ คือ รู้สึก .. ติดจมอยู่กับอารมณ์ มีความหดหู่ค่อนข้างเยอะในหนังเรื่องนี้ แต่มีฉากจบที่ค่อนข้างผ่อนคลายมาก มี 2 ความสัมพันธ์ในหนังเรื่องนี้ ยูอิจิกับ chou chou ยูอิจิกับคุโนะ . . . chou chou คือตัวแทนที่ยูอิจิสร้างขึ้นมาเป็นจุดรวม เป็นทุกอย่าง ใครก้อได้ที่เข้าไปในเวบ .. จะต้องรัก chou chou เวบนั้นคือที่เดียวที่ยูอิจิสามารถมีความคิด มีความเป็นอิสระ ไม่ใช่ลูกไล่ของใคร ไม่ใช่คนที่ต้องฝืนหัวเราะเมื่อเห็นคนที่ตนรักถูกย่ำยี ในนั้น เขาเป็นผู้สร้าง เขาคือ ฟีเลีย ยูอิจิกับคุโนะ ... จำไม่ได้ว่าความรู้สึกของยุอิจิต่อคุโนะมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้แว้บ ๆ ว่า มีอยู่ฉากที่ยุอิจิ .. เห็น คุโนะ แต่ความสัมพันธ์อย่างหนึ่งของคนทั้งคู่ถ่ายทอดผ่านทางเสียงเปียโน ขณะที่เราดู ๆ อยู่ จำได้ว่ามองเห็นความรู้สึกของยูอิจิต่อคุโนะนับวันจะมากขึ้น จนวันหนึ่งเธอได้กลายภาพมาเป็น chou chou .. คิดว่าหลังเกิดเหตุรุนแรงจนเธอต้องโกนผมทิ้ง เธอมีความเข้มแข็ง ในขณะที่ยูอิจิกลับรู้สึกอ่อนแอ เพราะไม่สามารถเข้าไปห้ามเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ คนที่ทลายภาพทั้งหมดลงกลับเป็นโฮชิโนะ เพราะในชีวิตจริงโฮชิโนะค่อนข้างจะกดยูอิจิไว้มากโขอยู่ วันที่เหตุการณ์ระเบิดออกคงเพราะการได้เห็นชายผู้ถือแอปเปิ้ลเขียวของยูอิจิ เป็นภาพที่เชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนในเน็ทเข้าด้วยกัน โฮชิโนะคือผู้ทำลาย chou chou เ โฮชิโนะคือบลูแคท บลูแคทผู้ทำลายคุโนะ ผู้ที่เข้ามาในเวบแห่งนี้ต้องรัก chou chou ผู้ที่รักในเสียงเพลงต้องไม่ทำร้ายคุโนะ . . . สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดมากที่สุด เพื่อน คนรัก และครอบครัว ที่ท้าย ๆ เรื่องมีคำถามถึง ฟีเลีย ถึงบลูแคท ว่าหายไปทั้ง 2 คน บลูแคท ก็อย่างที่รู้กันอยู่ แต่ฟีเลีย... ถ้าดูฉากท้ายเรื่องจะเห็นยูอิจิยืนฟังเสียงเปียโนของคุโนะด้วยท่าทีที่สงบ นั่นคืออีเธอร์ใหม่ของเขา น่าเสียดายที่ไม่มีภาพเพราะอยู่ในคอมเครื่องเก่า cap ภาพก็บไว้แล้วมาทำเป็น screen saver สวยมาก จากคุณ : วาดตะวัน - [ 12 พ.ค. 47 01:46:31 ] ---------------------------------- ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งมีโอกาสอ่านคำถามข้อที่ 1 และ 2 อย่างละเอียด มันมีความสัมพันธ์กันในข้อคำถามที่ 1 และ 2 โดยจุดเริ่ม มาจากประโยคนี้ของโฮชิโนะ . . . “ถ้าใครเข้ามาคุยกับแก ให้แอปเปิ้ลเค้าไป” เป็นการพิสูจน์ความไม่จริงใจของบลูแคท ที่ต้องการจะหักหลังเพื่อนในเน็ทอย่างฟีเลีย โดยใช้ยูอิจิเป็นเครื่องมือ คุณคิดว่าฟีเลียมางานนี้เพื่ออะไร ดู chou chou แค่นั้นเหรอ ไม่น่าจะใช่ เค้ามาหาเพื่อน เพื่อนที่เค้าไม่เคยมีเลยในโลกความจริง และอาจไม่มีในโลกเสมือนที่เค้าสร้างขึ้นมา เพื่อน .. โฮชิโนะก็เคยเป็นเพื่อนรัก เพื่อน .. หลายคนก็ทำร้ายเพื่อน เค้ามีแค่เพื่อนในโลกเสมือนอย่างอินเตอร์เน็ท หญิงที่ไปเจอขณะซื้อน้ำ .. นั่นก็เพื่อนในเน็ท ชายที่ยืนถือตุ๊กตาในรูปความเห็นที่ 9 นั่นก็เพื่อนในเน็ท ชายที่ถูกขับไล่ นั่นก็เพื่อนในเน็ท และโฮชิโนะ บลูแคทผู้ฉีกตั๋วคอนเสิร์ทใบนั้น โฮชิโนะ ชายผู้ถือแอปเปิ้ลสีเขียว นั่นก็เพื่อนในเน็ท มันไม่ใช่อย่างที่เค้าคิด เค้ามาหามิตรภาพ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับคืนมามันมากกว่า คือการปลดปล่อยจากกับดัก ของความหวาดกลัว ความหมายของผลแอปเปิลสีเขียว โฮชิโนะ ชายผู้เปรียบตัวเองเป็นพระเจ้า จากคุณ : วาดตะวัน - [ 15 พ.ค. 47 12:46:04 ] -------------------------------- ส่วนอันนี้ผมเมลไปถามคุณไกรวุฒิ จุลพงศธร แห่งหนังสือ Bioscope ซึ่งพี่เค้าก็ตอบครับมาดังนี้ครับ ซึ่งเป็นคำตอบที่น่าประทับใจมากๆ "ก่อนอื่น พี่ต้องสารภาพก่อนนะครับว่า มีหลงลืมไปแล้วว่า 4 คนนี้คือใคร (เนื่องจากพี่เขียนบทความนี้นานมาก บทความนี้ลงในเล่มธันวาคมปีก่อน ซึ่งพี่ก็ดูหนังเรื่องนี้ก่อนหน้านั้นหลายเดือนเสียด้วย รวมเสร็จสรรพพี่อาจดูหนังเรื่องนี้เป็นปีแล้วนะครับ หลายๆอย่างจึงคลาดเคลื่อนอย่างแน่นอน ที่น้องพูดมาก็ถูกแล้วครับ คือมี 1.ยูอิจิ 2. โฮชิโนะ (ไอนี่คือรุ่นพี่ที่ทำตัวเลวๆใช่ไหม พี่จำชื่อมันไมได้) ส่วนอีก 2 คนที่เหลือ พี่คิดถึงบรรดาเด็กผู้หญิงครับ (ที่โดนข่มขืนและกลั่นแกล้งต่างๆนานา รวมทั้งผู้หญิงตอนต่อแถวและคุณแบร์) พี่เชื่อนะครับว่าพวกเธอน่าจะเป็นสมาชิกของเวบไซต์นี้ด้วย (ถึงแม้พี่จะแยกไม่ได้หรอกว่าเธอใช้นามแฝงว่าอะไร) ที่พี่เชื่ออย่างนั้น เพราะหลังจากดูหนังจบลง พี่ค้นพบว่ามันสวยงามมาก โครงสร้างของหนังเรื่องนี้คือ 1.เริ่มต้นจากไอ้พระเอกก่อนว่าไอ้นี่มันเปนสมาชิกเว็บนะ มันมีความสุขมากนะเวลาแชท แต่ชีวิตจริงมันแย่อย่างนั้นอย่างนี้นะ 2.ต่อมา หนังพาไปดูชีวิตของคนรอบข้าง (ที่ชีวิตเฮงซวยไม่ต่างกัน) เรา – ในฐานะคนดู – เริ่มเดาต่างๆนานาว่าเอํ๊ะ ใครจะเป็นนามแฝงไหนนะ 3.พาไปงานคอนเสิร์ตเลย ซึ่งเราจะค้นพบคนล้านแปดซึ่งต่างมีลิลี่ ชูชูเปนส่วนหนึ่งของเธอเช่นกัน คือ เขาล่อเราจาก 1 คน ไป 2 คนแล้วขยายไปเห็นอีก 100 คน ซึ่งไอ้100 หรือ 1000 คนเนี่ย เราไม่จำเป็นต้องรู้พื้นหลังของเขาเลย เราก็สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขาและเธอต่างมีบาดแผล และได้รับการเยียวยาจากลิลี่ ชูชูอย่างไร ในฉากที่พระเอกยืนฟังเพลงกลางทุ่งหญ้าสีเชียว แล้วก็ไปเห็นตัวละครอื่นๆซึ่งก็ยืนในสภาพใกล้เคียงกัน ฉากแบบนี้พี่นึกถึงว่าพวกเขายืนเหมือนเป็นเสาวิทยุน่ะครับ คือทุกคนเชื่อมถึงกัน สื่อถึงกันได้ เข้าใจกันและกัน และรู้สึกแทบจะเป็นคนคนเดียวกัน (หรือในอีกแง่หนึ่ง ถ้าน้องได้ดูหนังเรื่อง lord of the ring ภาค 2 หรือ 3 พี่ไม่แน่ใจ ที่มีฉากการส่งสัญญาด้วยกองไฟบนภูเขาน่ะครับ ที่คนหนึ่งจุด พออีกฝั่งนึงเห็นไฟก็จะจุดตามเปนทอดๆไป พีได้อารมณ์นั้นเลยครับ) หนังเพียงฉายให้เราเห็นตัวละครหลักๆแค่บางคนเท่านั้นที่ยืนอยู้กลางทุ่งหญ้าสีเขียว นั่นคือสิ่งที่หนัง ’เลือก’ ให้เราเห็นครับ แต่สำหรับพี่แล้ว สิ่งที่หนังไม่ให้เราเห็น แต่เราสามารถเข้าใจได้โดยอัตโนมัติ ก็คือ ยังมีคนอีกเปนร้อยคนเลยครับ ที่ยืนอยู่กลางทุ่งหญ้าสีเขียวอันเป็นนิรันดร์แห่งนั้น ด้วยเหตุนี้เอง พี่เลยเหมาโดยปริยายว่าพวกบรรดาสาวๆนั้นก็น่าจะเป็นสมาชิกของเวบไซต์อาถรรพ์(อิอิ) แห่งนี้" --------------------- เรื่องเสาวิทยุของพี่เค้า ผมก็อึ้งๆไป แหม คิดไปได้... แต่ก็เห็นด้วยครับ ว่าไป "ทุ่งหญ้าสีเขียวอันเป็นนิรันดร์" เนี่ย ผมคิดว่าเป็นเหมือนพวก ยูโทเปีย อะไรอย่างนั้นเลยนะ (หรือจะเป็น ดิสโทเปีย นะ) พึ่งนึกออกว่า ตอนโฮชิโนะฟังเพลง หนังพาไปให้เราเห็นว่าเค้ายืนอยู่ท่ามกลางพื้นที่แห้งแล้ง (ตามรูป - มันดูอ้างว้างแบบแห้งแล้ง ไม่เหมือนของยูอิจินะผมว่า) แต่ในตอนจบ (end credit) ตัวละครทุกตัวไปอยู่ ณ ดินแดนสีเขียวแห่งนั้นแล้ว ... บางทีดวงวิญญาณของพวกเขาคงจะถึงเวลาที่จะอยู่(หลับไหล) อย่าง "สงบสุข" แล้วล่ะ จากคุณ : merveillesxx - [ 11 พ.ค. 47 10:47:30 ] --------------------------------------- ส่วนอันนี้เป็นประโยคน่าจดจำ จากหนังเรื่องนี้ครับ แผลที่ใหญ่ที่สุดในหัวใจคือการมีตัวตนอยู่ (All About Lily Chou-Chou) ในห้องที่มืดมิด ฉันนั่งกอดเข่าอยู่คนเดียวเสมอ (All About Lily Chou-Chou) สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดมากที่สุดคือ เพื่อน คนรัก และครอบครัว (All About Lily Chou-Chou) The things you hold dear, friends, family, lovers, hurt you the most. You live with that. That's why we have the Ether. - Philia (All About Lily Chou-Chou) "rich people do it all the time. They feed you so you'll be friends with their kids." (All About Lily Chou-Chou) ปี 1999 นอสตราดามุสทำนายผิด โลกไม่ได้จบสิ้น ...หากคำทำนายนั้นเป็นจริง ...หากชีวิตฉันถึงกาลอวสาน ฉันคงมีความสุขกว่านี้ (All About Lily Chou-Chou) Summer 1999, Nostradamus was wrong. But if the world had ended, if my life had ended during my summer vacation, I might have been happier. - Philia (All About Lily Chou-Chou) It did end. Humanity's extinct. The world we live in now is "The Matrix". - Blue Cat (All About Lily Chou-Chou) ปี 2000 ทั้งโลกเป็นสีเทา มีแต่ทุ่งหญ้าที่ยังคงเขียวขจี (All About Lily Chou-Chou) จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รวมเวบไซต์ที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ http://www.lily-chou-chou.jp/ (official site) http://www.lilyphilia.com http://lilychouchou.yeah.net http://www.hi.is/~eybjorn/lily/lily000.html http://www.linkclub.or.jp/%7Ekeisuke/lily/ http://aalcc.tripod.co.jp/ -- เจาะลึกสถานที่ในหนังhttp://zipmind.nease.net/fayewong/lily http://zipmind.nease.net/lily.htm http://mengjianlian.nease.net/cosplay/2004-03-28-lily-chouchou/01.htm อันนี้เนของ Salyu http://www.salyu.jp/ (official site) http://www.kewai.jp/salyu/index.html http://ent2.excite.co.jp/music/interview/2004/salyu/ http://www.swallowtail-web.com/ (-Yen Town Report-) เวบของชุนจิ อิวาอิ http://ayumitoayumu.zero-city.com/home/home.html เวบของอายูมิ อิโต จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนอันนี้เอ็กคลูซีฟสุดๆ เพราะไม่เคยแปะที่ไหนมาก่อน รวมเนื้อเพลงและคำแปลของอัลบั้ม Kokyu นั่นเอง (ทั้งหมดเอามาจากเวบ lilyphilia) --------------------------------- 01. ARABESUKU - ARABESQUE (translated lyrics only) Note- Lily sings this song in OKINAWAN aoi sora aoi umi tori no uta aoi sora aoi umi minami no tori no uta shiroi hana ga saku koro musume wa umare moratta hana no namae o musume wa moratta aoi sora aoi umi tori no uta aoi sora aoi umi minami no tori no uta shiroi hana ga saku koro musume wa umare moratta hana no namae o musume wa moratta hana no namae o musume wa moratta aoi sora aoi umi tori no uta akai hana ga saku koro ARABESQUE (provisional translation) ------------------------------------------ blue sky blue sea birdsong blue sky blue sea birdsong of the south when the white flowers blossomed a girl was born the girl was named after the flower blue sky blue sea birdsong blue sky blue sea birdsong of the south when the white flowers blossomed a girl was born the girl was named after the flower the girl was named after the flower blue sky blue sea birdsong when the red flowers blossom A few random notes: The girl named after the flower is, of course, Lily. Wearing his white shirt, standing in the middle of the vibrantly green rice-field, Yuici looks like a white flower. The tears on his cheeks are like dew. White colour represents innocence, purity, Ether. Red colour represents blood, loss of innocence, pollution of purity, damaged Ether. Okinawa is a sort of Paradise, where Lily's southern island may be found, but in this Paradise lurk dangers and death. Hoshino almost gets "stabbed" by a fish. The white becomes red, innocence gets replaced by experience, the Ether gets polluted, when Hoshino gets really stabbed and dies. The stabbing is also shown metaphorically as a bloodied knife sticking through an apple. The apple is also a symbol of the fall from innocence in Paradise. If we see Lily as a worshipped goddess, then the final concert is her religious festival, held exactly on the date of her 20th birthday. Hoshino may be interpreted as a human sacrifice to the goddess. He commits the ultimate sin by preventing Yuichi, who is Lily's 'high priest', from attending the religious ceremony. Just a few thoughts that have been playing around in my mind, and took shape when I knew what it is that Lily is singing throughout the introductory scene of the film (in Okinawan). Regards Unicorn จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 02. AI NO JIKKEN ---------------- I see you. You see me. (tooku wo miru) You see me. I see you. (haruka tooku o) I see you. You see me and now I'm in you. You're in me (eeter no umi) You're in me. I'm in you. (kwooku no soto) I'm in you. You're in me and now Ai no jikken ga watashi wo mayowaseru Ai no jikken de waratte iru no? Ai wa mai, ai wa tobu (soshite) Ai wa suru, ai wa kau (soshite) Ai wa seku, ai wa ai wo ai shite 'ru Life like dead Dead like life Ai no jikken ga watashi wo mayowaseru Ai no jikken de waratte iru no? I see you. You see me. (doko ni ikite 'ru) You see me. I see you. (genzai wo ikite 'ru) I see you. You see me and now EXPERIMENT IN LOVE ------------------------- I see you. You see me. (seeing far) You see me. I see you. (far far away) I see you. You see me and now I'm in you. You're in me. (the sea of ether) You're in me. I'm in you. (surrounding the quark) I'm in you. You're in me and now Experiment in love - it confuses me Experiment in love - does it make you laugh? Love dances, love leaps (and then) Love is made, love sustains (and then) Love is impatient, love makes love to love Life like dead Dead like life Experiment in love - it confuses me Experiment in love - does it make you laugh? I see you. You see me. (Where do you live?) You see me. I see you. (I am living in the present) I see you. You see me and now จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หมายเหตุ 4. Hikousen -- ยังหาเนื้อไม่ได้ 5. Kaifuku suru kizu -- เพลงบรรเลง 06. HOOWA (Saturation) I miss you, I miss you Ichi-oku-koonenn no hate ni mo todoite I miss you, I miss you Yonjuu-man-kiro mo saki no tsuki ga warau I miss you, I miss you Minami kaikisenn de modotte kita nara I miss you, I miss you Anata no kuchibiru ni chikazuite shimatta Ato ichi-miri ni aru hoowa e no iriguchi SATURATION I miss you, I miss you Stopping at the end of 100 million light years I miss you, I miss you Another 400 thousand kilometers away the moon grins I miss you, I miss you If you had returned by the southern line I miss you, I miss you Your lips came close Just another millimeter and saturation is reached จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 07. TOBENAI TSUBASA (Wings That Can't Fly) kootei ga hizunde mieta shiroi taisoogi ga mieta karasu ga hikuku sora tonda kuroi hane o sukoshi dake wakete kudasai sora ni nobita kaidan soko made te ga todokanai yuugure no sora wa akaku minna no shisen tsumetaku soshite ookina ishi ga sora kara ochite kite atashi o oshitsubusu watashi no kokoro ni wa mieta torinokosarete iku mono ga anata no iiwake ya uso wa nan no yaku nimo tatanai garakuta no yoo sora ni nobita kaidan soko made te ga todokanai yuugure no sora wa akaku minna no shisen tsumetaku soshite ookina kumo ga sora kara orite kite atashi o kakushite iku kigen naoshite ikiyou sora no kirema kara koboreru hikari ga mata ugoite kuruyo yuugure no sora wa akaku mou sugu ni kurete shimau dakara tobenai tsubasa o sutetara suteta nara atashi wa maiagarou dakara tobenai tsubasa o sutetara suteta nara atashi wa maiagarou ======================================== WINGS THAT CAN'T FLY the school playground looks distorted the white gym outfits are on display a crow flies low across the sky please stretch your black wings please stretch them out a little a staircase reaching up to the sky no hand can reach that far the twilight sky is crimson everyone’s gaze is cold then a huge rock comes tumbling from the sky and it crushes me in my heart there have appeared things left farther and farther behind your excuses your lies have turned useless like garbage a staircase reaching up to the sky no hand can reach that far the twilight sky is crimson everyone’s gaze is cold then a huge cloud descends from the sky and wraps itself all around me I must pull myself together and go on living because the lights tumbling out of the gaps in the sky are again flashing at my eyes the twilight sky is crimson and darkness will fall very soon now that my wings can no longer fly I'll cast them off and when I do I'll walk on air and soar in the sky now that my wings can no longer fly I'll cast them off and when I do I'll walk on air and soar in the sky จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 08. Kyoumei -- ยังหาเนื้อไม่ได้ 09. Glide (เป็นเพลงร้องภาษาอังกฤษ) I wanna be I wanna be I wanna be just like a melody just like a simple sound like in harmony I wanna be I wanna be I wanna be just like the sky just fly so far away to another place To be away from all, to be one of everything I wanna be I wanna be I wanna be just like the wind just flowing in the air through an open space I wanna be I wanna be I wanna be just like the sky just fly so far away to another place I wanna be I wanna be I wanna be just like the sea just swaying in the water so to be at ease To be away from all, to be one, of everything I wanna be I wanna be I wanna be just like a melody just like a simple sound like in harmony -------------------------- END ขอ 'อีเธอร์' จงอยู่คู่กับท่าน จากคุณ : merveillesxx - [ 7 พ.ย. 47 14:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เฮ้ยผมดู โจเซ่แล้วน่ะ เกือบร้องให้อ่ะ รู้สึกว่ามันใกล้ความจริงดี จากคุณ : guyver - [ 7 พ.ย. 47 23:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไว้จะตามเรื่องอื่นๆมาดู จากคุณ : off_na - [ 8 พ.ย. 47 14:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีคำถาม ทำไมคาแรคเตอร์ของคน ญี่ปุ่น กับการ์ตูน มันต่างกันจัง เพราะถ้าในหนังเราจะเห็น พวกเขาซึมกระทื่อ เหงี่ยมๆ เจียมเจี๋ยม แต่คาแรคเตอร์ ในการ์ตูนที่ถูกจิตนาการออกมา(ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากชีวิตจริงๆ) ทำไมพวกเขาดูซ่า ดูร่าเริง ดูกวนโอ้ย ผมเลยงงกับตรงนี้มาก เลยอยาดรู้ว่า จริงๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นเขาเป็นยังไง วานคนที่ไปญี่ปุ่นหรือรู้เรื่องญี่ปุ่นช่วยบอกทีครับ ถ้าคำตอบออกเป็น ชีวิตพวกเราเป็นเหมือนหนัง ผมว่าพวกเขาคงเก็บกดน่าดู เพราะคาแรดเตอร์ของสังคมญี่ปุ่น ในการ์ตูนกับหนัง ต่างกันมาก จากคุณ : off_na - [ 8 พ.ย. 47 16:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดูไปแค่รอบเดียว ยังงงๆ เนื้อหาอยู่ แต่ถ้าพูดถึงอารมณ์ คนที่ชอบฟังเพลงบริทพ็อพเหงาๆ น่าจะชอบ อารมณ์มันอย่างนั้น ดูแล้วเศร้าๆ จากคุณ : bact' (Bacteria!) - [ 15 พ.ย. 47 05:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คือหนังมันไม่ได้ทำให้เศร้านะ แต่เรารู้สึกว่า เด็กกลุ่มนี้เค้าเศร้า จากคุณ : bact' (Bacteria!) - [ 15 พ.ย. 47 05:54:13 ]