ความคิดเห็นที่ 7
ผม คุณชัยรักษ์ คุณกังหันลม ก็มาถึงสวนลุมพินีตั้งแต่เวลา 13.00 น. ครับ เจ้าหน้าที่ของสวนลุมพินีก็เริ่มยกเก้าอี้มาทะยอยจัดไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลา 13.20 น. ซึ่งปีนี้จัดเก้าอี้ได้เร็วมากครับ ปีก่อน ๆ กว่าจะยกมาได้ก็ 15.00 น. ครับ
นักร้องคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ค่อย ๆ ทะยอยกันมา ที่เห็นก็มี จิมมี่ บัญชา, ต๊ะ พิเชษฐ์, อุ๋ย ทิชาพร, ตาล วิสสุดา, ปุ๊ ไกรฤกษ์, โน้ต พรชัย, แนน พรวลี ฯลฯ
ราว ๆ 14.20 น. คุณอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ ก็มาถึงบริเวณงาน และเดินทักทายแฟนเพลงที่มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
นักร้อง นักดนตรี เมื่อมาถึงก็เดินเข้าไปกราบไหว้ที่ สุนทราภรณนุสาวรีย์ หน้าสุนทราภรณนุสาวรีย์ ก็มีเครื่องเซ่นสังเวยตั้งอยู่ เช่น ข้าวสวย, ปลาดุกผัดเผ็ด, ผัดวุ้นเส้น, กุ้งกะเพรา, มะพร้าวอ่อน, ขนมไข่หงส์, ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, บัวลอย, กล้วย, ส้ม, แอปเปิ้ล, สาลี่, องุ่น และน้ำ 3 แก้ว
15.00 น. อากาศดี แดดร่มลมตก แฟนเพลงค่อย ๆ ทะยอยกันมาเรื่อย ๆ
15.30 น. นักดนตรีขึ้นเวทีเตรียมเครื่องดนตรี
16.10 น. เริ่มการแถลงข่าวคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้มอบให้กับห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติฯ คุณอาณา รัตนพันธุ์ เป็นพิธีกร สัมภาษณ์ คุณไมตรี อินทุสุต, คุณอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์, ดร. ระเด่น ทักษณา
16.25 น. วงดนตรีสุนทราภรณ์เริ่มบรรเลงตัวอย่างเพลงที่จะมีในงานคอนเสิร์ตฯ จำนวน 4 เพลง ได้แก่
1. ขอให้เหมือนเดิม (จิตติมา เจือใจ) 2. ห้วงน้ำลึก (ศุภชัย ไพจิตร) 3. ภัยพ่ายน้ำใจไทย (หมู่คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์) 4. ชื่นชีวิต (พรศุลี-รัชตพันธุ์ นำหมู่)
จากนั้นคุณอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ กล่าวถึงผู้ร่วมก่อตั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์ ที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงคนเดียว ท่านนั้นคือ คุณครูสริ ยงยุทธ ในวัยใกล้ 91 ปี
ครูสริกล่าวถึงความรู้สึก และขอบพระคุณผู้ฟังที่ได้ให้การสนับสนุน และติดตามผลงานของวงดนตรีสุนทราภรณ์เป็นอย่างดีตลอดมา
จบจากนั้นคุณอติพรกล่าวความรู้สึก และบอกกับครูสริ และผู้ฟังว่า จะสร้างอนุสาวรีย์ ใกล้ ๆ กับสุนทราภรณนุสาวรีย์ ให้กับครูสริด้วย
วงดนตรีสุนทราภรณ์อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ "พระมหามงคล" เป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ต "65 ปี สุนทราภรณ์" เมื่อเวลา 16.45 น. (รายละเอียดเพลงต่าง ๆ อ่านได้จากสรุปงานด้านบนครับ)
โดยรวมแล้วก็ถือได้ว่างานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งครับ นักร้องรุ่นเก่า ๆ ก็มาขับร้องเพลงให้ได้รับชมรับฟังกันมากมาย ก็ไล่เลียงตั้งแต่นักร้องที่อาวุโสมากที่สุดในงาน คือ ป้าเจี๊ยบ สุปาณี พุกสมบุญ ไล่ลงมาจนถึงนักร้องคลื่นลูกใหม่
ผู้ฟังก็ได้รับฟังเพลงกันอย่างเต็มอิ่มกว่า 50 เพลงครับ จากการสังเกตผู้ฟังก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนเก้าอี้ที่จัดไว้แต่แรกไม่เพียงพอ จนคุณสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องมาสั่งการด้วยตนเอง ด้วยอาการฉุนจัด สั่งการไปได้สักครู่เก้าอี้ก็เริ่มมาเสริมให้ในภายหลัง แม้ว่าบางท่านจะไม่มีเก้าอี้นั่ง ก็อุตส่าห์ยืนฟัง บางคนก็นั่งฟังบนพื้นหญ้า ได้บรรยากาศดนตรีในสวนไปอีกอย่าง ได้ทราบมาว่า ทาง กทม. เอง เกือบจะไม่อนุญาตให้วงดนนตรีสุนทราภรณ์ตั้งเวทีการแสดง แต่เหตุการณ์ไม่ดีนั้นก็ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ
ครั้งนี้ก็ได้ฟังเพลง 3 เพลง ซ้ำไปเสีย 2 รอบ ได้แก่ ชื่นชีวิต, ห้วงน้ำลึก และจังหวะชีวิต เพลงชื่นชีวิตผมคาดว่าคุณสมัครมาไม่ทันฟังในช่วงแรกที่แถลงข่าว ก็เลยต้องขอแรงนักร้องคลื่นลูกใหม่ ให้ร้องอีกครั้งในช่วงหลัง ๆ
ปีนี้คุณสมัคร ก็ได้ร้องเพลงมากกว่าใคร ๆ ทั้งหมด เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ นะครับ ปีนี้ก็ร้องคนเดียวเสีย 5 เพลง คือ ปลูกรัก, นวลปรางนางหมอง, ข้องจิต, จังหวะชีวิต และโยสลัม (เนื้อร้อง ไทยสามัคคี) ไม่รวมที่ร้องนำหมู่อีก 2 เพลง คือ รักชาติยิ่งชีพ และไทยรวมกำลัง รวมแล้วเบ็ดเสร็จ ก็ 7 เพลง พอดิบพอดีครับ จากที่ผมได้เก็บสถิตไว้เมื่อปีที่แล้ว คุณสมัครก็ร้องไป 11 เพลง ได้แก่ ลืมเสียเถิดอย่างคิดถึง, เย็นลมว่าว, ปลูกรัก, เจ้าไม่มีศาล, ม่านมงคล, โยสลัม (เนื้อร้อง ไทยสามัคคี), นวลปรางนางหมอง, กังหันต้องลม, อ้อมกอดพี่, อย่าเกลียดบางกอก และข้องจิต ก็อย่าหาว่าผมจับผิดท่านเลยนะครับ ถือเสียว่าเป็นสถิติที่ควรจะจดจำเอาไว้ดีกว่า (ดูซิครับ ว่าปีหน้าคุณสมัครจะได้ร้องอีกกี่เพลง)
ปีนี้เสียดายที่ คุณรวงทอง ทองลั่นธม ไม่ได้มาในงานครับ เนื่องจากเกิดหกล้ม โดยกระทันหัน แต่ที่น่าทึ่งที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกิน ป้าเจี๊ยบ สุปาณี พุกสมบุญ ในวัยเกือบจะ 81 ปี ไปได้ แม้จะอายุอานามมากแล้วก็ตาม แต่เสียงก็ไม่ตกลงเลยครับ ก็เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ฟังได้ไม่น้อยทีเดียว (รักษาสุขภาพดี ๆ นะครับป้าเจี๊ยบ ผู้ฟังอยากจะฟังเสียงป้าไปอีกนาน ๆ ๆ )
และสิ่งที่น่าจดจำอีกอย่างก็คือ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2547 เป็นวันครบรอบ 45 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ "พระมหามงคล" ให้แก่วงดนตรีสุนทราภรณ์ เพื่อใช้เป็นเพลงไตเติ้ลครับ ก็ถือได้ว่าเป็นสิริมงคลสำหรับผู้ปฏิบัติดนตรี นักร้อง และผู้ฟังครับ
เสียดายที่นักร้องเก่า ๆ ที่ยังร้องเพลงได้ อย่าง คุณวรนุช อารีย์, คุณมาริษา อมาตยกุล, คุณอโศก สุขสิริพรฤทธิ์ ฯลฯ ไม่ได้มาปรากฏตัวภายในงานครับ ก็หวังใจว่า ในปีต่อ ๆ ไป คงจะพบนักร้องเก่า ๆ เหล่านี้ และที่สำคัญที่สุด ปีนี้นักร้องเก่า ๆ ก็มาร่วมงานกันมากมายจนผิดหูผิดตา ผลดีก็คงจะตกไปอยู่ที่ไหนไม่ได้ นอกจากวงดนตรีสุนทราภรณ์
ประการแรก คือ ถือเป็นการรวมลูกศิษย์ลูกหามาบูชาครูบาอาจารย์กัน ประการที่สอง คือ เป็นการรวมนักร้องรุ่นต่าง ๆ ไว้ ซึ่งนานทีปีหนถึงจะมาพบกัน และประการสุดท้าย คือ เป็นการประกาศว่า วงดนตรีสุนทราภรณ์ มิได้ทอดทิ้งนักร้องเก่า ๆ ที่เคยฝากชื่อฝากผลงานไว้มากมายในอดีต เอาไว้ข้างหลังครับ เราต้องเชิดชูนักร้องเก่า ๆ ครับ ที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ในอดีต เพราะเขาเหล่านั้นก็มีส่วนสร้างเสริมวงดนตรีสุนทราภรณ์ให้กล้าแกร่งมาจนถึงปัจจุบันครับ
ในวาระที่วงดนตรีสุนทราภรณ์ก่อตั้งมาครบ 65 ปี และก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 66 ในปี 2548 ก็ขอเดชะแห่งองค์พระพิฆเนศวร์ อันเป็นเจ้าแห่งศิลปวิทยา ขอเดชะแห่งองค์พระปรคนธรรพเทพเจ้า อันเป็นเจ้าแห่งดนตรี จงโปรดประทานและดลบันดาลให้วงดนตรีสุนทราภรณ์เจริญรุดหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงครับ
จากคุณ :
เทพกร บวรศิลป์
- [
23 พ.ย. 47 20:44:29
]
|
|
|