CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เมื่อนายคลาสสิคนัดสาวแจ๊สดินเนอร์ – ปฏิสัมพันธ์แห่งสุดยอดแนวดนตรีสองกระแสจึงเริ่มต้นขึ้น(อีกครา)

    เมื่อนายคลาสสิคนัดสาวแจ๊สดินเนอร์ – ปฏิสัมพันธ์แห่งสุดยอดแนวดนตรีสองกระแสจึงเริ่มต้นขึ้น(อีกครา): คอนเสิร์ตคลาสสิคมีตแจ๊สครั้งที่ 2 # Session ที่ 1

    18.30 น. ผมเดินตัวปลิวในมาดเด็กแนว(ก่อนคริสต์กาล) ออกจากออฟฟิซแถวซอยลาดพร้าว 35 อย่างสบายอกสบายใจ สายลมเย็นในฤดู(เคย)หนาวเช่นนี้ทำให้เย็นย่ำของวันที่ 30 ปลายเดือนในวันนี้สร้างความรื่นรมย์ให้ผมยิ่ง ผมเดินลัดเลาะไปตามริมถนนลาดพร้าวราวสองป้ายรถเมล์มุ่งสู่สถานีรถไฟใต้ดินเช่นทุกๆวัน หากแต่ปลายทางของผมวันนี้มิใช่ที่พัก แต่เป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานบันเทิงทางศิลป์ของชาวเราบนเส้นรัชดาภิเษก

    วันนี้เป็นวันนัดพบกันครั้งที่ 2 ของเพื่อนสาวผมที่รู้จักมักคุ้นกันมาเป็นสิบปี ยัยแจ๊สคือเพื่อนที่ผมเจอและสนิทสนมกันมาตั้งแต่หลังเรียนจบมัธยมปลาย..เธอเป็นสาวสวย..โฉบเฉี่ยว..แต่คมลึกไม่ฉาบฉวย..เช่นยัยป็อบและยัยแด๊นซ์เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นที่ผมรู้จัก ผมเคยจะเอ่ยปากฝากรักกับแจ๊สหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งถูกตัดหน้าโดยนัยคลาสสิค หนุ่มหล่อผู้สูงศักดิ์ที่เรียนคณะเดียวกับแจ๊ส ส่วนไอ้บ้าที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาถอดสแควร์รูท.. อินทิเกรต..แก้สมการคณิตศาสตร์เชิงซ้อนอย่างผมเลยต้องเหินห่างจากยัยแจ๊สที่รุ่มรวยอยู่กับคีตศิลป์อยู่ในอีกฟากหนึ่งแห่งศาสตร์ที่เหมือนเส้นคู่ขนานกัน ผมมั่นใจอยู่ลึกๆว่า วันนี้คงจะเป็นอีกหนึ่ง..แด่ความทรงจำในลิ้นชัก ของผมอย่างแน่แท้...

    ปีที่แล้วผมตามสังเกตการณ์การนัดออกเดทของทั้งคู่ จนผมต้องทำตาแดงๆแต่มิใช่ซึ้งจะร้องไห้..หากแต่ให้อิจฉาตาร้อนคนทั้งคู่เสียเต็มประดา มาปีนี้ยัยแจ๊สเหมือนแกล้งกันยังชวนผมไป“เป็นเพื่อน”ของเธออีก..จนดูคล้ายจะเย้ยหยัน ด้วยความแค้นฝังหุ่น..ผมเลยออกปากชวนเพื่อนอีก 20 กว่าคนบุกไปดูให้มันเห็นกะตาว่า สานสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไปถึงไหนกันแล้ว...

    19.30 น. ผมมาถึงหอเล็กของศูนย์ฯ ผมรีบจรลีไปหาน้องแอนมอศิลปากรสาวผู้ใจดีมอบบัตรฟรีเพื่อมุงดูยัยแจ๊สกะนัยคลาสสิคได้วิสาสะทางดนตรีกันอีกครา ขอขอบคุณคุณสายลมพัดแห่งแจ๊สคลับ(น้องแอน)ที่ทำให้ผมและเพื่อนๆอีก 20 กว่าคนได้“ทำเลทอง”ในฮอลล์ครับผม อ้าวนั่น..’จารย์นุ..ผู้ควบคุมดูแลสาขาดนตรีแจ๊สแห่งมอศิลปากร เข้ามาทักผม อ่า..เจอกันอีกแล้ว อาจารย์มีลักษณะพิเศษที่ทำให้ผู้พูดคุยด้วยไม่รู้สึกเกร็งแต่กลับสบายใจ (จนอยากชนแก้วด้วย..เอ๊ยไม่ใช่) ด้วยบุคลิกแกลมขี้เล่นแต่ก็เต็มไปด้วยความสามารถทางดนตรีเช่นนี้เอง น้อง BabyFish ของชาวแจ๊สคลับเราจึงบอก “พี่นุเจ๋งๆๆๆ” ทุกทีที่มีกระทู้พูดถึงอาจารย์ทางด้านดนตรีแจ๊สในเมืองไทยในห้องฯเรา

    ผมรับบัตรฟรีจำนวนถึง 24 ใบเอามาแจกน้องๆพี่ๆอย่างชื่นมื่น แล้วทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าในห้องเราก็หมุนเวียนกันมาแจมกันอีกครั้งจนครบโควต้า แต่ผมถูกนัยนิ้งแห่งแจ๊สไอแล่นด์ดอทคอม..เว็บไซด์แรกที่รวบรวมข่าวคอนเสิร์ตและปกิณกะด้านแจ๊สที่ทันสมัยทันเหตุการณ์เว็บหนึ่งของเมืองไทย..นิ้งเอาบัตรเบ่ง..โควตาสื่อมวลชนมาให้ผมอีกใบ แม้เกรงใจว่าพี่ๆน้องๆจะหาว่าผมพอได้ใหม่ลืมเก่า แต่ด้วยจิตพิศวาสยัยแจ๊สเป็นหนักหนาทำให้จำต้องทรยศพี่ๆน้องๆในห้องฯมานั่งจ้ำบ๊ะอยู่แถวหน้าสุด เอาล่ะฟ่ะ..วันนี้ผมขอดูเดทครั้งที่สองของยัยแจ๊สกะนัยคลาสสิคให้เต็มสองเนตรหนุ่ม(เหลือน้อย)อีกสักที

    หลังจากท่านคณบดีของหนุ่มสาวทั้งคู่กล่าวนำจบเท่านั้น ภายใต้การเดินนำขบวนออกมาของอจ.ทัศนา(ไวโอลิน) อจ.จามร(เพียโนจิ๋ว?) อจ.ดำริห์(โอโบ) อจ.วรพล(ฟลุ๊ต) และแน่นอนนัยคลาสสิคคนแรก..เอกชัย(เชลโล) ก็เริ่มบรรเลงบทเพลง Concerto In A Minor ของ G. P. Telemann โดยไม่ต้องอาศัยหูระดับคอคลาสสิคขนานแท้อย่างผม ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความไพเราะของบทเพลงได้ดิยิ่ง ปกติผมมักไม่อินกับการฟังเพลงคลาสสิคมากนัก และมักหมุนผ่านคลื่นดนตรีคลาสสิคของวิทยุจุฬาอยู่บ่อยๆ แต่ต้องยอมรับว่าการได้มานั่งชม “จะๆ” เช่นนี้ทำให้ผมทั้งตื่นตาตื่นใจกับความจัดเจนในเครื่องดนตรีของแต่ะท่านได้ ความบรรสานสอดคล้องกันและกันอย่างดีเยี่ยมของแต่ละอุปกรณ์ดนตรีที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าผมนี้คงจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ได้เกิดจากการฝึกฝนเล่นร่วมกันมาก่อน ผมอยากให้เด็กๆที่กรี๊ดศิลปินที่เอาแต่เต้นติ๊ดชึ่งอย่างยัยป็อบและยัยแดนซ์ในแนวดนตรีเมนสตรีมของยุคนิวมิลเลนเนี่ยมได้ “สัมผัสได้” และ “รู้สึกอิ่มเอม” อย่างที่ผมรู้สึกในขณะฟังเพลงนี้เสียจริงๆ ศิลปินและนักดนตรีของจริงจะได้ “มีที่ยืน” และมิต้องคอยทำงานประจำด้วย และต้องแว๊บเล่นดนตรีด้วยอย่างเพื่อนๆที่เรารู้จักอีกหลายๆคน (อ้าว..ปลาทองจะไปไหนล่ะนั่น..) และพวกเด็กๆจะได้มิต้องติดอยู่ในหล่มของพาณิชยศิลป์อันฉาบฉวยอย่างที่เราเห็นๆกันอยู่... จบเพลงมิต้องสงสัย เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราวลั่นฮอลล์ แค่การเริ่มต้นวิสาสะทางดนตรี นัยคลาสสิคก็ทำแต้มนำหน้าผมไปอีกแล้ว...

    เริ่มต้นบทเพลงที่สอง การสนทนาทางดนตรีบทนี้ทำให้ผมยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้น เมื่ออจ. เอกราชนำนัยศิษย์เอกนัยคลาสสิคคนที่สอง..เจตจำนง ออกมาดูเอทกีต้าร์คลาสสิคเช่นเดียวกับการนัดเดทเมื่อปีกลาย เพียงแต่นัยคลาสสิคคอนนี้มีแนวทางการเล่นที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนักจากเด็กรุ่นๆนี้ การสปีดนิ้วไล่สเกลเมโลดี รวมถึงไทม์มิ่งการดีดสายเอ็นทั้งหก มันบอกถึงชั่วโมงบินการฝึกปรือและความสามารถเกินตัวเกินอายุของนายจริงๆว่ะ..เอ้ายอมยกยัยแจ๊สให้เลย..เอ๊ยไมใช่..ฉันไม่มีวันยอมแพ้นายหรอก! ผมสังเกตว่าในคอนเสิร์ตนี้ทั้งอาจารย์เอกราชและอาจารย์จามรลดบทบาทของตนเองให้ลูกศิษย์ลูกหาและคนอื่นๆได้เล่นกันมากขึ้น เช่นบทเพลงนี้อจ.เอกราชเลือกจะประคองศิษย์เอกได้แสดงฝีไม้ลายมืออย่างเต็มที่ ส่วนอจ.จามร หากใครได้มาชมการเดี่ยวเพียโนในบทเพลงของโชแปงในคอนเสิร์ตนี้เมื่อปีกลายคงจะประจักษ์และคงถูกสะกดให้อึ้งกันทั้งฮอลล์กันมาแล้ว...

    นัยเจตจำนงและอจ.เอกราชทำให้บทเพลง Variazioni Concertanti op. 130 ของ M. Giuliani เพลงนี้เกิดบรรยากาศคล้ายการแจมกีต้าร์ร่วมกันในคอนเสิร์ต “ค่ำคืนวันศุกร์ในซานฟานซิสโก”ของสามเซียนกีต้าร์ ที่แฟนๆกีต้าร์แจ๊สและกีต้าร์ฟลามิงโก้รู้จักกันเป็นอย่างดี แม้ความรวดเร็วปานพายุบุแคมจะยังไม่เกิดจากนักดนตรีฝีมือระดับเด็กปีหนึ่งมหาลัยคนนี้ในขณะนี้ แต่หากเขาฝึกฝนต่อไปอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่น โอกาสที่จะมีมือกีต้าร์คลาสสิคระดับแนวหน้าที่มีเชื้อสายคนไทยหน้าตี๋คงจะเป็นไปได้ไม่ยากเลย จบเพลงไม่ต้องสงสัย..เสียงโห่ร้องและปรบมือเกรียวกราวอีกตามเคย น่ายินดีที่มอศิลปากรมีเด็กเก่งๆขนาดนี้ไว้สืบทอดต่อ อย่าเพิ่งเหลิงหรือใจแตกเสียก่อนไอ้น้อง รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ มีสัมมาคารวะ งานนี้รับรอง ถ้าอยากขึ้นมายืนเหมือนอาจารย์ที่สอนในภาควิชาสามารถและมีโอกาสทำได้แน่!

    ไม่เพียงเท่านั้นนัยคลาสสิคยังไปเชิญอจ.สาวสองคนมาร่วมสนทนาทางคีตศิลป์กันต่อในบทเพลงชื่ออ่านยากชมัด Lebenssturme op. 144 ของ F. Schubert คอนเสิร์ตคราวก่อน..อจ.พิมพ์ชนกมาพร้อมศิษย์อีกคน พูดคุยกันด้วยเพียโน(ตัวเดียวกัน)แทนถ้อยคำ ก็ทำให้คนทึ่งและสนใจในลีลาพอแรงอยู่แล้ว มาคราวนี้อจ.ชวนเพื่อนอีกท่าน อจ.อลิสามาพูดคุยด้วยลีลาทั้งพริ้วพราย ทั้งลุกไล่ สอดประสาน และขัดกันในที ได้อย่างตื่นตาตื่นใจได้มากกว่าครั้งก่อน ผมก็มาถึงบางอ้อ..แบบนี้เองที่เขาเรียกว่าการสนทนาทางดนตรีอย่างแท้จริง เพราะคุยกันด้วยชุดของตัวโน๊ตล้วนๆ มิต้องพูดกันสักคำ! แถมตอนเริ่มบทเพลงที่สามนี้..ความที่อาจารย์ทั้งสองท่านมาพร้อมชุดราตรีเข้ม..เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าผู้ชมได้อย่างมาก ซึ่งเท่าที่ผมสังเกต..ส่วนใหญ่ก็คือพวกศิษยานุศิษย์ในคณะนั่นแหละ (ฮา...) ไอ้ผมความที่เคยเห็นทั้งสองท่านในลุ๊กแบบนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนเมื่อปีกลายแล้ว.. แม้อยากจะร่วมฮือฮาด้วยคน แต่ด้วยความที่รู้ว่าท่านทั้งสองเป็นอาจารย์ในคณะเลยต้องเงียบ (ฮา..กว่า!)

    ปฏิสัมพันธ์ของสองแนวดนตรีมาเริ่มอย่างจริงจังในบทเพลงที่สี่นี้ เมื่อฝั่งนัยคลาสสิคนำโดย อจ.เอกราช(กีต้าร์) อจ.พงษ์ศิริ() อจ.กิลเบิร์ต() ร่วมบรรเลงบทเพลง Hispanic Dance ของ C. Bolling กับฝั่งยัยแจ๊สโดย อจ.วุฒิชัย(กีต้าร์) คุณโดม(เบส)และคุณฮง(กลอง) บทเพลงนี้ทำให้ผมนึกถึงเพลงเขมรไทรโยคในคอนเสิร์ตคราวก่อน ที่ยัยแจ๊สกะนัยคลาสสิคยังไม่ค่อยเข้าขากันดีนัก แต่คราวนี้ผมต้องจี๊ดในหัวใจ พัฒนาการด้านปฏิสัมพันธ์ดีขึ้นทันตาเห็น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีจริงนะเพื่อนสาวผมกะแฟนหนุ่ม ...

    จบเบรคแรก ผมเดินหน้าแดง(มิใช่อิจฉานัยคลาสสิค.. แต่กำลังโมโหหิว! (ฮา...)) เมื่อปลีกตัวจากเพื่อนๆอีก 24 ชีวิต ผมแอบดอดไปเพิ่มพื้นที่ว่างในท้องด้วยโปรตีนก้อนกลมเสียบไม้...สัดไปสี่ไม้ซะ.. จนชีพจรในกายเริ่มดีดดิ้นและโยกคลอนในลีลาบ็อพปนสวิงอีกครั้ง จึงเดินกลับมายังฮอลล์ สังเกตว่าวันนี้ ไม่มีน้องๆศิลปากรเอาถังมาตีในลีลามันส์ๆแบบคราวก่อน และปีนี้ผมไม่ยักเห็น’จารย์ธนิสถ์ ศรีกลิ่นดีมาอย่างปีก่อน...และปีนี้แต่ละเซสชั่นเพลงน้อยกว่าคราวก่อนไปนิด...แต่คุณภาพมิได้ลดลงแต่ประการใด

    (จบเซสชั่นแรก ...)

    จากคุณ : Younger Pat - [ 3 ธ.ค. 47 10:51:44 A:161.200.146.25 X:161.200.255.162 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป