อ่านเจอกระทู้ข้างล่างคุยถึงรายการวิทยุ ก่อนจะเจอคุณดุ๊กจุดประกายขึ้นมา โทษฐานที่ชอบรายการแม่และเด็กเหมือนกัน เลยขออนุญาตมาตั้งกระทู้ครับ
ผมเริ่มฟังรายการนี้ครั้งแรกตอนวันเสาร์หนึ่ง(หรือวันธรรมดาแต่เป็นวันหยุด...ไม่แน่ใจ)ของเมื่อเกือบสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีก่อน ขณะนั้นเป็นเวลาหลังหกโมงครึ่งมั้ง มาม๊าผมเห็นผมตื่นขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ด้วยปกติจะตื่นสักเจ็ดโมงกว่า ครั้นจะปล่อยผมตื่นมาเฉยๆก็อาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เลยเปิดวิทยุให้ฟัง ก่อนจะมาเจอคลื่น 103(หวังว่าจำไม่ผิดนะ)
สิ่งที่ได้ยินคือ การเล่านิทานเรื่องสโนว์ไวท์ โดยผู้จัดรายการเป็นคนพากษ์เสียงทุกตัวละครเลย...น่าแปลกเหมือนกัน ที่ผมจำได้แม่นยำปานนั้น...ผมฟังดูก็เห็นว่าสนุกดีแฮะ และมาม๊าผมก็คงปิ๊งขึ้นมาว่า รายการนี้เข้าท่าดีไว้เปิดให้ผมฟังก่อนไปโรงเรียนดีกว่า
นับจากนั้น ทุกจันทร์ถึงศุกร์ ก่อนจะเดินไปเรียนหนังสือ(วัยโตของตัวเองเริ่มอิจฉาวัยเด็กของตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ...อารายว้า ได้เดินไปเรียนด้วย)ผมจะมีอันต้องฟังรายการนี้ทุกเช้าไป
รายการจะเริ่มตอนตีห้าครึ่ง ไปจบลงที่หกโมงสี่สิบห้าโดยประมาณ ต่อจากนั้นก็จะเป็นรายการสยามานุสติ(อีกหนึ่งรายการคลาสสิกเหมียนกัน..ชอบชอบ)
เนื้อหาของรายการก็ ช่วงแรกจะเป็นเล่าเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เป็นประโยชน์ ทั้งต่อแม่และลูก รวมถึงสาระน่ารู้ต่างๆ ยังจำได้ว่ามีหลายครั้งมากที่ผู้จัดบอกเอาสาระนี้มาจากคอลัมน์โลกใบเล็กใบใหญ่ของนิตยสารสารคดี ขณะนั้นผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องและสนใจหนังสือเท่าใดนัก แต่ก็ติดใจว่าอืม...นิตยสารนี้ท่าจะเจ๋งแฮะ มีเรื่องให้เอามาพูดออกรายการได้ตลอดเลย
ถัดจากสาระน่ารู้ก็จะเป็นช่วงโฆษณา(จริงๆก่อนเข้าช่วงสาระก็มีไปแล้ว 1 เบรก) ซึ่งผู้สนับสนุนหลักคือ ปุ้มปุ้ยปลายิ้ม นั่นเอง หลังๆจะมีกุ๊งกิ๊งอันเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือด้วย...วุ้นเส้นกุ๊งกิ๊งรสต้มยำแห้ง และต้มยำน้ำ
กลับเข้ารายการอีกที(ถ้าจำไม่ผิด)จะเป็นช่วงตอบจดหมาย เด็กๆก็จะเขียนจดหมายไปให้ผู้จัด(ต่อไปจะเรียกว่าพี่อ้อยนะครับ)ทำเสียงโน่นเสียงนี่ให้ เช่น ให้พี่อ้อยพูดประโยค...ถ้าใครไม่ทำการบ้าน หมาป่าจะไปจับกินตับ...ในเวอร์ชั่นหมาป่าพูด และยอดฮิตอีกอย่างคือ การเขียนชื่อนามสกุลจริงของพี่อ้อยมาในจดหมายแล้วถามว่าหนูเขียนถูกหรือป่าว? หากจำไม่ผิดนี่น่าจะเขียนอย่างนี้นะ
.......ติณรพี พรหมใจรักษ์.........
พอจดหมายจบ(อาจจะมีโฆษณาคั่น) ก็เข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอยครับ การเล่านิทานนั่นเอง นิทานก็จะมีทั้งนิทานพื้นบ้านไทย เทพนิยาย นิทานอีสป นิทานจีน นิทานนานาชาติ ไปถึงพวกเรื่องเล่าแบบ(ที่ในขณะนั้นคิดว่า)น่ากลัวๆ
ใกล้ๆจะหกโมงสี่สิบห้า นิทานก็จบลง ถ้าเป็นพวกนิทานเด็กๆปกติและยังไม่จบเรื่อง ผมก็จะเซ็งมากว่าทำไมมานจบเร็วจังอ่ะ แต่ถ้าเป็นนิทานน่ากลัวๆผมก็จะรู้สึกโล่งอกไปที เสียงพี่อ้อยกลับมาแล้ว(คือตอนเล่านิทานจะมีซาวด์เอฟเฟกต์ประกอบอ่ะ ถ้าเป็นเรื่องน่ากลัว ซาวด์ก็จะน่ากลัวตามไป)
รายการจบ ก็เดินไปโรงเรียน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะตื่นมาฟังอีกที
เคยฟังรายการ จส.100 ได้ยินชื่อผู้จัดคนหนึ่งชื่อ ติณรพี พรหมใจรักษ์ ด้วย น่าจะใช่คนเดียวกับพี่อ้อยนะ อยากฟังพี่เค้าคุยถึงเรื่องรายการแม่และเด็กจัง แต่จะโทรเข้าไปในรายการ จส.100 ขอให้เล่ามันก็ไม่ต้องกาลเทศะอ่ะนะ
ก็ถ้ามีเพื่อนคนไหนเคยฟังก็ส่งความประทับใจกับรายการมาได้นะครับ อยากได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์มาก...ดีใจที่อย่างน้อยก็มีคุณดุ๊กคนหนึ่งแล้ว...
รายการนี้น่าจะมีแฟนๆเยอะเหมือนกัน เพราะเคยจัดทัวร์ไปกินติ่มซำที่ฮ่องกงด้วย และรายการนี้ก็ทำให้ผมได้ยินคำว่าติ่มซำเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย
ผมฟังตั้งแต่ประถมต้นไปจนถึงช่วงเรียนมอต้นน่ะครับ โรงเรียนเริ่มไกลจากบ้านในระยะทางเลขสองหลักขึ้นต้นด้วยสอง(บากบั่นขวนขวายในการเรียนขนาดไหนคิดดูดิ) ต้องออกจากบ้านเช้าขึ้นๆ จากตื่นตีห้าครึ่งกว่าๆแล้วได้ฟังแม่และเด็กทันที ก็กลายเป็นตื่นตีห้าแล้วรอรายการแม่และเด็กมา หนำซ้ำยังฟังได้ถึงแค่ช่วงสาระน่ารู้จบแล้วก็ต้องรีบออกจากบ้านไปให้ทันโรงเรียนด้วย รายการแม่และเด็กก็เลยค่อยๆจางลงๆจนหายไปจากชีวิตผม
มีใครรู้ว่ารายการนี้จบตัวเองลงเมื่อไร อย่างไร รบกวนช่วยบอกเล่ากันฟังด้วยนะครับ
ทุกวันนี้เวลานึกถึงบรรยากาศอันอบอุ่น ผมยังคงนึกถึงเสียงเพลงเข้ารายการแม่และเด็กได้ดีอย่างฝังใจสุด ไม่รู้ว่าเพลงอะไรเหมือนกัน จะซื้อมาเปิดฟังซะให้สะใจ
ผมจะลองเขียนทำนองออกมาเป็นภาษาไทยดูนะครับ ถึงแม้จะมีความแน่นอนว่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องกันเป็นส่วนใหญ่ แต่เผื่อเพื่อนๆคนใดสักคนจะรู้และบอกได้ว่ามันเป็นเพลงอะไรก็คงดี
...ตื่น ตืน ตื๊น ตืน ตื่น
ตึ๋น ตึน ตึน ตื๊น ตึน ตึน ตึน ตืน ตึน ตืน ตึน ตึ่น ตึน ตื๊น...(ผมลองอ่านเองยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอ่ะ)
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบครับ
ป.ล.จำได้ว่ารายการแม่และเด็กมีขายเทปนิทานด้วย ซึ่งผมไม่เคยซื้อเลย...น่าเศร้าๆ ซื้อแต่เพลงดังหนังเด็กอ่ะ
จากคุณ :
เฮ้งต๋ง
- [
14 ธ.ค. 47 13:36:19
]