ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล
บุญกุศลจงแผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์
ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยช่วยทำงานการทั้งหลาย
มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัณ
ขอทุกท่านได้กุศลผลนี้เทอญ
แม้จะบวชเพียงแค่20กว่าวันแต่ผมก็ได้อะไรมาบ้าง
อย่างน้อยก็ในเรื่องของการรู้จักมองตัวเอง
และการพิจารณาระดับความเป็นคนของตนเอง
เพื่อนๆมาลองดูกันไหมว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน
1.ปุถุชน หมายถึง ผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส
ได้แก่ คนทั่วไปทั้งหลาย ซึ่งก็มีดีบ้างเลวบ้างคละกันไป
แม้ในคนเดียวกัน บางครั้งก็ทำดี บางทีก็ทำชั่ว
พวกนี้คือคนที่รักษาศีล5ได้ไม่ครบนั่นเอง
2.กัลยาณชน คนประเภทนี้ พูดครั้งเดียวสามารถเข้าใจข้อธรรมได้
ไม่ต้องอธิบายให้มากความ มีจิตใจบริสุทธิ์ รักษาศีล5ได้ครบถ้วน
3.อริยบุคคล หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจนกระทั่งสามารถกำจัดกิเลสต่างๆ ออกได้
ยึดมั่นในพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งไม่เปลี่ยนแปลง จะไม่ถอยหลังกลับมาเป็นปุถุชน
ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านคงตอบว่าตัวเองอยู่ในชั้นปุถุชนแน่เลย555
แต่ก็ไม่ต้องคิดมากหนักอกหนักใจไปครับเพียงแต่ต่อๆไปนี้เรามารักษาจิตใจ
ไว้ไม่ให้ตกสู่ที่ต่ำก็พอพูดถึงจิตที่ตกสู่ที่ต่ำทำให้ผมคิดได้เรื่องหนึ่ง
ผมได้คุยกับหลวงน้า(ที่วัดเรียกพระรูปนี้ว่าหลวงน้า)ท่านสอนผมว่า
จิตคนเราเหมือนน้ำ คือ มันจะไหลลงสู่ที่ต่ำอยู่เสมอดังนั้นเราต้องหมั่นบริหารจิต
เพื่อไม่ให้จิตเราตกสู่ที่ต่ำ
ผมถามท่านต่อว่าแล้วพระอรหันคือละแล้วซึ่งกิเลสใช่หรือไม่
ท่านตอบว่าคนเราทุกระดับทั้งปุถุชน กัลยาณชน อริยบุคคล
ทุกคนมีกิเลสมีการรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง
เพียงแต่ผู้ที่มีจิตใจสูงเมื่อมีกิเลสเข้ามาในใจจะสามารถตัด
ออกไปจิตใจได้นั่นเอง
ดังนั้นผมหวังว่าเพื่อนๆควรเริ่มหันมองจิตของตนเอง
แม้มันจะยากแต่ก็อยากให้เพื่อนๆรู้จักพิจารณาตนเองกันนะครับ
ปล.ธรรมะเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะบุคคลอยากให้เพื่อนๆเข้าวัดบ้างนะครับจะได้รู้จักธรรมะมากขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชีวิตของตัวเอง ^_^
จากคุณ :
มือกลองในตำนาน 
- [
17 ธ.ค. 47 16:03:28
]
สิ่งที่ได้รับจากการบวช......
... เข้ามาดู
.. ใช้ชีวิตในโลกอย่างมีสตินะคะ ผ่านวัดมาแล้ว...
