ความคิดเห็นที่ 1 DUFF McKAGAN (Velvet Revover) Words: Ian Winwood -------- เป็นงัย Duff ปี 2004 ของคุณ “ปี 2004 ของผมเป็นอะไรที่แจ่มมากเลย ขอบคุณที่ถามครับ“ -------- ขอแบบชัด ๆ หน่อยได้ป่ะ “ก็เพราะว่าผมกลับมาพร้อมกับวงดนตรีวงใหม่ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเล่นดนตรีในแบบที่ผมรักซะด้วย เมื่อปีที่แล้วยังไม่มีใครเลยที่รู้จัก Velvet Revolver ผมเองก็ยังค่อนข้างแปลกใจอยู่ จริง ๆ แล้ววงของเราเป็นวงที่เจ๋งพอนะ แต่มันก็เป็นเรื่องยากเสมอที่จะบอกกับผู้คนอย่างนั้นเพราะพวกเขาคิดว่า แน่นอนดิ่พวกเอ็งมีสิทธิ์โม้ได้ ตอนนี้อย่างน้อยเราก็ออกอัลบั้มมาชุดหนึ่งแล้ว (Contraband) ตอนนี้พวกเขาจึงรู้แล้วว่ามันเป็นอัลบั้มที่เยี่ยมจริง ๆ และพวกเราเองก็ได้แสดงฝีมือให้พวกเขาเหล่านั้นได้ประจักษ์แล้วว่า ตอนเราเล่นโชว์มันเจ๋งแค่ไหนด้วย” -------- อืม..แล้วทุก ๆ สิ่งในปีนี้เป็นไปอย่างใจคุณรึเปล่าล่ะ “แน่นอนเลยผมอยากบอกว่ามันเป็นไปอย่างนั้นว่ะ โดยเฉพาะผมรู้สึกว่ามันเยี่ยมจริง ๆ ที่ได้กลับเข้ามาสู่เส้นทางสายนี้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมโคตรจะหวนคิดถึงเลยอ่ะ เราเล่นโชว์ในหลาย ๆ โชว์แม้แต่ตอนที่อัลบั้มของพวกเรายังไม่ออกมาซะด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหนบัตรก็จะขายเกลี้ยงตลอด (ใน US) และผลตอบรับก็ดีเยี่ยมมากเลย ซึ่งทำให้ผมคิดว่าเรามาได้ถูกจังหวะมากเลยว่ะ จากนั้นหลังอัลบั้มออกมาผู้คนต่างก็ปลื้มไปกับมันด้วย” -------- บอกผมหน่อยดิ่ว่า คุณทำได้งัยอ่ะที่ทำให้งานของคุณกลายป็นอัลบั้ม Number one ในอเมริกา (หัวเราะ) “ขอบคุณ เพื่อน” -------- น่า.....อยากรู้จริง ๆ “ก็เพราะว่าเราทำอัลบั้มออกมาอัลบั้มหนึ่งซึ่งโดน.....ว่าป่ะ คุณก็เห็นด้วยใช่เปล่าล่ะ จริงแล้วเมันอาจง่ายมากสำหรับพวกเราที่จะทำแบบ... คุณรู้จักใช่ป่ะที่เค้าเรียกกันว่า supergroup งัย วงที่ผลิตอัลบั้มหนึ่ง ๆ ออกมาแบบขี้เกียจ แต่ละเพลงไม่มีห่าอะไรเลย แถมยังหลงตัวเองว่าเก๋าอีก ผมรู้ว่าผู้คนอาจจะคิดว่าพวกเรากำลังจะทำตัวแบบนั้นแต่แล้วเราก็ไม่ใช่ไอ้วงประเภทนั้น ตั้งแต่ตอนเริ่มเลยวงของเราก็มีฝีไม้ลายมือกันอยู่แล้วแต่แค่นั้นยังไม่พอหรอก เพราะหลาย ๆ วงที่เป็นแบบนั้นเหมือนกับเราแต่เวลาออกอัลบั้มมาแมร่งโคตรห่วย เราเลยต้องทำงานกันอย่างหนักในทุก ๆ เพลง Slash, Matt (Sorum) และตัวผมเอง รวมถึง Scott (Weiland) ต่างก็มาจากวงที่ผู้คนต่างรู้จักกันอยู่แล้วซึ่งเราทั้งหมดก็ยังคงทำอะไรที่มีซาวนด์ออกมาสดและใหม่ เรารู้ว่ามันอาจจะเป็นที่น่าสนใจแต่ว่าผู้คนคงไม่คิดแบบนั้นจนกว่างานของเราจะเสร็จสิ้น และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ อัลบั้มนี้แข็งแกร่งพอนะผมว่า” --------------- แล้วโดยส่วนตัวล่ะ มันต้องน่ารำคาญแน่ ๆ สำหรับคำถามเกี่ยวกับ Scott เราจะเรียกมันว่าอะไรดีล่ะ ทนทรหด ทายาทเหรอ “ช่าย...มันค่อนข้างน่าเบื่อนะ แต่เราก็เข้าใจดีว่าประเด็นนี้นั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างก็อยากพูดถึง อย่างน้อยมันก็เในช่วงแรก ๆ แหละ Scott เค้ามีปัญหาเยอะในอดีต และปัญหาทั้งหลายนั้นก็ถูกเปิดเผยเป็นที่รู้กัน ทันทีที่เค้าร่วมวงใครต่อใครก็วิพากวิจารณ์กันว่ามันจะไปกันรอดได้นานเท่าไหร่ว๊าถ้าไอ้หมอนี่มันแป๊กอีก แต่ผมบอกคุณได้เลยว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน ผมเห็นเขาทำงาน รู้ดีว่าหมอนี้มันเป็น professional ขนาดไหน เขาขึ้น sound check ทุกครั้งอีกตะหาก และก็ทำอะไรที่เราจะต้องทำกันให้สำเร็จด้วยดี ผมว่าปัญาหาทั้งหลายที่พูดถึงกันนั้นจะค่อย ๆ ๆ ลดความสำคัญลง จนกระทั่งในอนาคตผมเชื่อว่าจะไม่มีใครถามหาพระแสงอะไรอีกแล้ว” -------- คุณช่วยเปรียบเทียบระหว่างการร่วมวงกับ Velvet Revolver กับสมัยที่อยู่ Guns N’ Roses ได้ไหมเอ่ย “เอาแบบ...เหมือนหรือต่างกันอย่างไรนะเหรอ” -------- ช่าย..... “อืมมม.....เท่าที่ผมสามารถนะ ตลอดเวลาที่ผมออกทัวร์กับ GN’R ผมจำอะไรไม่ค่อยได้เลยจริง ๆ นั่นค่อนข้างเป็นอะไรที่ผมเคยเป็นหากย้อยกลับไปตอนนั้นเหรอก็...เมาปลิ้นเพราะยาหรือไม่ก็เหล้าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เหรอ ผมจำได้เมื่อหกเดือนที่แล้วมีคนมาสัมภาษณ์ผมเหมือนกัน ก็เกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้แหละ” -------- มันเหมือนกับว่าคุณได้รับโอกาสอีกเป้นครั้งที่สองหรือเปล่าครับ “มันก็ไม่เชิงนะ แต่ก็...นะ...มันเจ๋งว่ะที่ผมได้ทำอะไรที่มันหลากหลายอีกครั้งหนึ่ง” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 SCOTT IAN (Anthrax) Words: Robyn Doreian -------- Hello Scott ปีที่ผ่านมาเป็นงัยบ้างสำหรับคุณ “มันเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอีกปีหนึ่งเลยนะ พวกเราได้เล่นกันในหลาย ๆ คอนเสิร์ตเลยว่ะ” -------- คล้ายกับว่าเป็นปีที่ Anthrax แสดงให้โลกได้เห็นว่า พวกเขาเจ๋งขนาดไหนเวลาที่เล่นสด “อะฮ่า..ใช่ดิ่ เพราะว่าพวกเราโคตรจะ professional น่ะดิ่” -------- Elijah Wood (นักแสดงชายที่รับบทเป็น Frodo Baggins ในภาพยนต์เรื่อง The Lord of the Ring) เองก็มาดูโชว์ของพวกคุณที่ LA แล้วมีใครอีกมั๊ยที่เป็นแฟนของพวกคุณแบบว่า เซอร์ไพร์ซมากอ่ะ “ช่ายแล้ว นอกจาก Elijah แล้ว ผมยังเป็นเพื่อนกับ Keanu Reeves ว่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพร์ซนะ เพราะว่าผมรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นแฟนวงเรา เขามาดูโชว์ของเราที่ LA เมื่อปีที่แล้ว พวกคนดูต่างช็อคที่เห็น Keanu กำลังโยกหัวท่ามกลางพวกเขา Elijah ดื่มกับ Charlie (มือกลอง) ไปหลายช็อทหลังจากที่เราโชว์เสร็จ เขาเป็นแฟนเมทัลชัวร์ ๆ เลยว่ะ” -------- โชว์ที่คิดว่าเจ๋งที่สุดในปีล่ะ “ไม่ได้ยอนะเฟ้ย....แต่ผมคิดว่าที่ออสเตรเลียว่ะเจ๋งสุด ๆ แล้ว เรากลับมาที่นี่อีกครั้งในรอบ 8 ปีและได้รับการตอบรับที่โคตรดีเลยว่ะ โดนใจผมเต็ม ๆ พวกเรารู้สึกดีจริง ๆ” -------- ที่ไหนเอ่ยที่เกิดเหตุการณ์ “Toilet Emergency” บนเวที “ที่ญี่ปุ่นน่ะดิ่ เจ้า Charlie มันกินอะไรเข้าไปไม่รู้ที่ไปแสลงในท้องของมันก็เลยขี้แตกอยู่เกือบ ๆ อาทิตย์นึง พอที่ Osaka เราขึ้นเวทีตอนคนดูตะโกน encore และพอ John (ร้องนำ) ประกาศจะเล่นต่อ แต่พอหันไปมองรอบ ๆ เศือกไม่มีมือกลองของเราซะฉิบ อิ ๆๆ เจ้า Charlie มันวิ่งออกจากบรรลังก์กลองไปแล้ว เพื่อไปนั่งบรรลังก์อื่น (โถส้วม) แทน แน่นอนเลยเพื่อนเอ๋ย พวกเราทั้งหมดและคนดูฮาตรึม เสียงหัวเราะดังพอที่จะทำให้มันขายขี้หน้าได้แบบสุด ๆ ล่ะ” -------- อะไรคือของขวัญที่เจ๋งที่สุดที่คุณได้จากแฟนเพลง “มีสาวญี่ปุ่นคนนึงทำตุ๊กตา Scott Ian ให้ผม เป็นอะไรที่อเมซซิ่งมากขอบอก เพื่อน ๆ ผมต่างก็บอกว่าผมเหมือน Bert เพราะว่ามีคิ้วหนาและจมูกใหญ่ ตุ๊กตานั่นก็เลยเหมือนกึ่ง ๆ ผมและ Bert คุณสามารถสอดแขนคุณเข้าไปและก็ขยับปากมันได้ด้วย” -------- อะไรเป็นสินค้าจากวงดัง ๆ ที่คุณได้มาในปีนี้ “บิกินี่ของวง Dimmu Borgir (วง black metal ชื่อดังจาก Norway) นะดิ่ มีสกรีน Dimmu ติดอยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็มี Borgir ส่วนตรงเป้ามีรูปดาวห้าแฉก ผมว่ามันคงเจ๋งใช่ย่อยนะถ้าคุณใส่มันลงไปใน metal beach ฮ่า ๆๆๆๆ” -------- อัลบั้มสุดโปรดของคุณในรอบปีล่ะ “Ashes Of The Wake ของ Lamb Of God ครับ ผมคิดว่าเป็นอัลบั้มที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังมาในระยะเวลาหลายปีมานี้ พวกคุณ ๆ ต้องรีบไปหาซื้อมาฟังโดยด่วนบอกให้” -------- แล้วภาพยนตร์ล่ะ “ปีนี้ไม่ค่อยมีหนังอะไรดี ๆ ออกมาให้ดูกันเลยว่ะ แต่ภาพยนตร์ที่ผมโคตรชอบที่สุดก็คือ Return Of The King ที่เป็น DVD ซึ่งมีฉากใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 55 นาที edit โดย Peter Jackson จริง ๆ แล้ว The Lord Of The Ring เป็น Star Wars ของผมเลยนะบอกให้ ผมอ่านหนังสือหลาย ๆๆ รอบเลยอ่ะตั้งแต่ผมอายุสิบขวบ การได้ดูมันในแบบภาพยนตร์มันเหมือนกับฝันที่เป็นจริงเลยว่ะ Peter Jackson ทำได้เยี่ยมมากครับ” -------- ใครคือคนโปรดของคุณ ที่คุณได้พบในปีนี้ “ผมได้เจอกับ Orlando Bloom นะ เขาไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากหรอกในหนังเรื่อง The Lord Of The Ring แล้วผมก็ได้ไปบ้านของ Keanu Reeves ทุกคนทำบาร์บีคิวและก็ดื่มกัน มันไม่ถูกที่ถูกเวลานะถ้าจะคุยกับเขาเกี่ยวกับภาพยนตร์ แต่บางทีโอกาสหน้าผมอาจจะว่ะ” -------- เขาหล่อเท่ห์แบบในหนังป่าวอ่ะ “ผมก็ไม่รู้ดิ่ ฮ่า ๆๆ แต่ผมคิดว่าเขาค่อนข้างสนุกสนานร่าเริงอย่างกับ Elf เลยนะ” -------- อะไรคือนิสัยส่วนตัวของคุณที่คุณตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงในปี 2005 นี้ “ช่วงนี้ผมค่อนข้างขี้เกียจว่ะ ตั้งแต่ทัวร์เมื่อมีนาคม 2003 แล้ว การโชว์มันไม่เหมือนกับการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างที่ผมชอบนะสิ ในปี 2005 ผมหวังว่าจะได้กลับไปเล่น snowboard อีก และก็ไปยิมซะเพื่อเอาไขมันออกซะบ้างเพราะผมรู้สึกว่าผมกำลังอ้วนขึ้นว่ะ” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 SHAWN “CLOWN” CRAHAN (Slipknot) Words: Ben Myers -------- หวัดดี Shawn ปี 2004 ของนายเป็นงัยมั่งเอ่ย “เยี่ยมว่ะเพื่อน เราได้ลูกชายอีกคนละ Simon Richard Crahan เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ตอนนี้เรากำลังเห่อเลย วงของเราเองก็คลอดอัลบั้มที่เจ๋ง ออกมาเหมือนกัน พวกเรากำลังทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเล่นสด ดังนั้นทั้งหมดจึงออกมาค่อนข้างเยี่ยมเลยเพื่อนเอ๋ย” -------- เจ้าหนูนั่นเป็นลูกคนที่สี่แล้วเหรอวะนั่น “อืม..เราต้องทำอะไรที่เราอยากทำในขณะที่เราสามารถทำได้ นายรู้เปล่า เราเป็นลูกชายคนเดียวว่ะเราเลยคิดอยู่เสมอที่จะมีครอบครัวใหญ่ และตอนนี้เราก็มีดังที่ตั้งใจไว้แล้วด้วย” -------- นี่มันก็เดือนธันวาคมแล้วนะ แต่นี่มันเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของนายเอง หายหัวไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ย “เอ่อ...ตอนนี้เราใช้เวลาไปกับการฟังคนอื่น ๆ อย่างเดียวเลยว่ะเพื่อน แต่มันก็เป็นช่วงหนึ่งแล้วนะตั้งแต่เมื่อก่อนที่เราออกมาพล่ามบ่อย ๆ ตอนนี้เราค่อย ๆ กลับมาเป็นแบบเดิมละแต่ขอแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนะ เพราะเราต้องหยิบโน่นทำนี่มากขึ้นในช่วงนี้” -------- ครั้งหนึ่งนายเคยบอกกับเราว่านายใกล้ ๆ ที่จะถูกเตะออกจากวงแล้วใช่ป่ะ หลังจากนายให้สัมภาษณ์กับ Kerrang นั่นไม่ใช่เพราะว่าปากนายเป็นเหตุเหรอ “ไม่อ่ะ...เราพยายามที่จะพูดแต่เรื่องจริงเสมอเท่าที่เป็นไปได้ เราคิดว่ามันสำคัญสำหรับเราว่ะ แต่เราก็ได้เรียนรู้แล้วว่าบางทีเราอาจจะปากไวไปหน่อยว่ะ ก็เลยอาจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่นักสำหรับการพล่ามเพื่อแสดงความคิดเห็นน่ะ มีไม่กี่คนหรอกที่เหมือนพวกนาย มีหลายครั้งเลยว่ะที่เราถูกเขียนถึงแต่มันไม่มีผลอะไรเกี่ยวกับชีวิตเราหรอก” -------- ในระยะสิบสองเดือนที่ผ่านมาใคร ๆ ต่างก็จะเขียนถึงเรื่องทางตันของ Slipknot นายคิดว่างัย “พูดตรง ๆ เลยนะ...มีหลายอย่างที่แน่นอนว่าจะต้องเกิดขึ้นกับทางวงสำหรับการทำอัลบั้มที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับ Subliminal Verses และตัวเราเองรู้ว่าผู้คนคิดยังงัยเกี่ยวกับ Slipknot เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานี้หลังจากการทัวร์ในอัลบั้ม Iowa เรายินดีว่ะที่ใคร ๆ ต่างข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยพวกเรา เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันให้กับเราเอง และในที่สุดแล้วความเป็น art ก็ชนะ พวกเราชนะว่ะ” -------- มันถูกไหมที่จะพูดว่า Slipknot เดี๋ยวนี้สงบเสงี่ยมมากขึ้น ไม่บ้าเหมือนเมื่อก่อน “อืม....จำได้ป่ะว่าเมื่อเรากระหายและบ้าขึ้นมาเมื่อไหร่ เราก็จะทำอะไรที่อยากจะทำ แต่สิ่งเหล่านั้นที่มันเหมือนกับจะวนเวียนอยู่ในความเป็น Slipknot นั้น ไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้พวกเรารู้ว่าอะไรที่เราจะต้องทำและจะต้องได้มันมาอย่างไรเท่านั้น” -------- แต่ว่าชีวิตช่วงนี้ต้องดูดีอู้ฟู่ขึ้นใช่ป่ะ “ชีวิตเราถูกจัดระบบระเบียบมากขึ้นนะ มีอะไรที่พอเพียงมากขึ้นดูดีขึ้นจริง ๆ แต่ว่าหรูหราฟู่ฟ่าขึ้นเหรอ??? อาจจะไม่นะ แต่ว่ามันรู้สึก..........อิ่มหมีพีมันสุขภาพดีขึ้นว่างั้น” -------- ลูก ๆ ของนายเคยให้นายช่วยทำหน้ากากวันเฮลโลวีนให้เปล่า “แน่นอนเลยว่าไม่เคยว่ะ ลูกสาวเราแต่งเป็นแวมไพร์มาสี่ปีแล้ว พวกเขารู้ว่าอีกด้านหนึ่งของตัวเราเป็นยังงัย แต่เราไม่ชัวร์ว่ะว่าพวกเขาคิดยังงัยเกี่ยวกับ Slipknot ในเรื่องของความน่าสะพรึงกลัวอย่างที่คนอื่น ๆ คิด” -------- เด็ก ๆ มักจะไม่สนใจในสิ่งที่พ่อแม่เป็นอยู่ นายอาจจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับพวกเขารึเปล่า “พวกเขามีหัวทางด้านการเป็นศิลปินนะ และอะไรที่เราทำได้คือกระตุ้นให้พวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วม เราเลือกทังแนวทางของเราเองไปจนถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวของพวกเขาเอง เรากำลังหวังว่าต่อไปว่าพวกเขาจะได้พบได้เข้าใจกับสีสันที่เราแต่งแต้มไว้ เรากับลูกชายวัย 11 ตั้งวงดนตรีร่วมกันโดยใช้ชื่อว่า Son of Clown เราเล่นกลองส่วนเขาเล่นกีตาร์ เขาเป็นเด็กสเก๊ตด้วยว่ะ ชอบดนตรี แต่ก็อ่านหนังสือนะเฟ้ยแถมสอบได้ A บวกซะหลายตัวอีกตะหาก เราหวังว่าบางวันเขาจะใส่หน้ากากต้นแบบ แบบที่เราเคยใส่ เพราะถ้าใคร ๆ ใส่ได้เขาก็ต้องทำมันได้เช่นกัน” -------- นายเต้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่อ่ะ (ฮา) นายแดนซ์เปล่า “แน่นอนดิ่วะ แหม...... เอ่อ.........โอเค...เรายอมรับว่ะว่าเราชอบการเต้นแน่นอนแต่ตอนอยู่คนเดียวนะเว้ย เช่นตอนที่เราอยู่ในห้องนอนของโรงแรมตอนออกทัวร์ พวกเราจะ check out เสมอแหละ รูมเซอร์วิสก็เลยต้องมาเคาะประตูห้องอยู่บ่อย ๆ ตัวเราเองชอบที่จะอยู่ในโลกส่วนตัวว่ะ ใส่หูฟังแล้วก็ไม่สนใจเสียงโทรศัพท์หรือคนมาเคาะประตูอะไรทั้งสิ้น เราไม่แน่ใจว่ะว่ามันเรียกว่าแดนซ์รึป่าว หรือว่าทำท่าทางประมาณเลียนแบบพวกร็อคสตาร์ แต่ว่าแน่นอน ถ้าเราชอบเพลงเพลงหนึ่ง เราก็จะอืม....เป็นแบบว่านักร้องนำประมาณนั้นว่ะ จริง ๆ นะเฟ้ย...เราไม่เคยลืมหรอกว่าเรารู้สึกว่าเป็นเหมือนเด็กว่ะเวลาอยู่หน้ากระจกอ่ะ” -------- มีแบบเต้นสไตล์เบรคแดนซ์มั่งเปล่า “แน่นอนเลยเพื่อน เราชอบท่าหุ่นยนต์ว่ะ แบบใช้ข้อมือยึก ๆ อ่ะ และก็คิ้ว..........” -------- Body Popping ล่ะ “ช่าย ๆๆๆ ด้วยเลย (อธิบายวิธีการเต้น...)” -------- นายควรที่จะทำวีดิโอเอโรบิคนะเว๊ยถ้างั้น ตั้งชื่อว่า Clownercise!!! งัย ขายได้ตรึมแน่ ๆ “ชัวร์เลยว่ะ เมื่อไหร่ที่เราหมดมุขในด้านดนตรีแล้ว เราจะทำมันแน่นอน และจะต้องออกมาแบบบ้า ๆ บอ ๆ แน่ ๆ อิ ๆๆๆ” --------- นายจะใส่กางเกงวอร์มเปล่าวะเวลาทำท่า body popping “ไม่อาาาาาาาว อ่ะ” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 IAN WATKIN (Lostprophets) Words: Daniel Lukes -------- หวัดดี Ian ปี 2004 ของคุณเป็นงัยบ้าง “เจ๋งนะ (หัวเราะ) เป็นปีที่น่าตื่นเต้นดีครับ เป็นปีแห่งการผจญภัยซะด้วยสิ -------- ที่ไหนเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากที่สุดที่คุณไปเยือนในปีนี้ “นิวซีแลนด์ครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยไปมาก่อนเลยค่อนข้างประหลาดสำหรับผมนะ ที่นั่นเป็นสถานที่ ที่มีภูมิประเทศแบบผสมผสานกันระหว่างเมืองและชนบทแทบจะทุกที่ที่ผมไป” -------- แล้วอะไรที่คุณคิดว่าคือความสุขที่สุดที่คุณได้รับในรอบปี “ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ มีตั้งหลายครั้งแน่ะที่ผมมีความรู้สึกแฮบปี้ไปกับชีวิต......อืม....แต่ที่สุดก็น่าจะเป็นตอนที่อัลบั้มเต็มของพวกเราออกมานี่น่ะดิ่....น่าจะใช่นะ” -------- แล้วอะไรคือจุดต่ำสุดของคุณในปีนี้ล่ะ “ก็คือการต้องเจอกับเรื่องยุ่ง ๆ ส่วนตัวในหลาย ๆ อย่างน่ะสิ่ตลอดปีเลยล่ะ” -------- คุณต้องเพิ่มรายละเอียดให้กับชีวิตของคุณรึเปล่า “ไม่นะ ไม่เลย ผมทำตัวเองให้สมดุลย์อยู่เสมอทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ผมกำลังพยายามแค่จัดการกับทุก ๆ อย่างให้มันลงตัวที่สุดครับ” -------- คุณรู้สึกรึเปล่าว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสละเวลาส่วนตัวของคุณให้กับงาน “ช่ายเลยครับ เพราะว่าผมถือว่าชีวิตส่วนตัวกับงานนั้นต้องแยกจากกันให้ได้” -------- คุณสามารถรับมือกับการมีชื่อเสียงเหมือนอย่าง George Michael ศิลปินที่คุณชื่นชอบได้รึเปล่า “ผมว่าผมทำได้นะ (หัวเราะ) มันก็แปลกนะเพราะว่าพวกเราต่างก็พูดกันเล่น ๆ เกี่ยวกับมัน คนอื่น ๆ ในวงไม่ชอบการมีชื่อเสียงเลยครับ เพราะว่ามันเหมือนกับพวกเขาถูกแบ่งแยกยังงัยบอกไม่ถูก ส่วนผมเองค่อนข้างชอบมันนะและผมก็มีความสุขที่จะได้คุยกับผู้คนมากหน้าหลายตา แต่บางทีมันก็ดูเป็นเรื่องงี่เง่ายังงัยบอกไม่ถูก ความดังอาจเป็นเรื่องที่ไม่น่ายกย่องเสมอไปนะ อย่างไรก็ตามเถอะผมคิดว่าพวกเรารับมือกับมันได้แน่ เพราะเราตะหนักดีว่าเรามาจากไหน เราเป็นใคร” -------- อะไรคืออัลบั้มสุดโปรดของคุณในปี 2004 ล่ะ “ผมคิดว่าอัลบั้มล่าสุดของ Jimmy Eat World นะ ผมชอบมาก ๆ เลยอัลบั้มนี้ มันเป็นอะไรที่มิกซ์กันได้เจ๋งนะระหว่างความเป็นร็อคและพ็อฟ พวกเขาค่อนข้างทำอะไรที่แหวกแนวออกไป และใคร ๆ ก็เรียกแนวของพวกเขาว่าเป็น emo แต่ผมว่าพวกเขาไม่ได้เป็นและไม่เคยเป็นด้วยซ้ำ พวกเขาเป็นวงร็อคที่ไม่ต้องตะโกนแหกปากสำรอกไปวัน ๆ แต่ว่าพวกเขาเจ๋งกว่านั้น ผมว่าพวกเขาเป็นนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะ” -------- คุณเชื่อในเรื่องของจิตวิญญาณใช่เปล่า “ก็บางอย่างนะ แต่ว่าผมยังไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้หรอก” -------- แล้วเรื่องกฎแห่งกรรมล่ะ “ไม่อ่ะ อย่างเช่น ผมคิดว่ามีเรื่องห่วย ๆ เกิดขึ้นกับแม่ของผมมากมาย ซึ่งผมคิดว่าเธอไม่สมควรที่จะได้เจอเพราะเธอไม่เคยทำอะไรผิดอะไรเลยในชีวิตเธอ แล้วจะให้ผมเชื่อได้ยังงัยล่ะว่ากรรมมีจริง” -------- คุณเคยเจอกับใครบ้างไหมที่คิดว่าโดนใจคุณ และมอบความรักให้กับคุณ “เคยนะบางครั้ง มันเจ๋งดีที่พวกเขาทำอย่างนั้นได้ นั่นก็คือพวกที่มาดูดนตรีร็อค และสุดเหวี่ยงไปกับมันงัย” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 JEFF HANNEMAN (Slayer) Words: Ben Myers -------- ว่างัย Jeff ปี 2004 เป็นงัยบ้างสำหรับคุณน่ะ “ทุกอย่างเยี่ยมว่ะ แต่สิ่งเดียวที่ไม่ได้เรื่องก็คือขวัญกำลังใจไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เพราะผมเบื่อที่จะต้องเจอกับผู้คนหน้าเดิม ๆ ตลอดเวลาที่ผมทัวร์น่ะสิ และมันก็ไม่ได้หยุดสักที” -------- แต่คุณก็ได้เปิดโลกทัศน์นะ “อืม....คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นการได้เห็นโลกมากขึ้นจากการไปโน่นไปนี่ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยว่ะ เพราะทุก ๆ ที่แมร่งคล้าย ๆ กันไปหมด เพราะว่าผมก็ยังคงอยู่ในโรงแรม รถบัส และสถานที่จัดคอนเสิร์ตตลอดแหละ ไม่เหมือนกับการออกไปเปิดหูเปิดตาดูทิวทัศน์เลยว่ะ ล่าสุดนี่ก็เหมือนกัน ที่ที่เราไปเป็นบาร์แห่งหนึ่งหลังจากโชว์เสร็จ แต่แล้วก็ต้องออกเดินทางอีก” -------- การทัวร์ในชื่อ Unholy Alliance Tour ร่วมกับพวก Slipknot, Mastodon และHatebreed เป็นงัยบ้าง ได้ข่าวว่า เสียงของTom Araya (ร้องนำ/เบส) แป๊กไปถึงสองครั้งสองครา “ใช่เลย สองครั้งแล้วในทัวร์นี้ และอาจจะเป็นครั้งที่สามสำหรับ Slayer เอง เจ้า Tom มันพยายามฝืนสังขารน่ะสิ” -------- แล้วแฟน ๆ โอเคมั๊ยกับเรื่องนี้ “แน่นอนที่สุดเลยเพื่อน ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ Munich มันร้องอยู่ดี ๆ เสียงหายไป ไอ้พวกเราเองตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ ก็คิดว่าเครื่องขยายเสียงของมันพังแต่ที่ไหนได้” -------- คุณแน่ใจเปล่าว่านั่นไม่ได้เป็นเพราะเจ้า Corey (นักร้องนำ Slipknot) พล่ามใส่หูเขามากเกินไปทำให้ความสามารถในการรับรู้เสียงของเขาลดลง “เอ่อ....ไม่หรอก ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะ Tom มันไปสุงสิงอยู่ Corey มากเกินไปนะ” -------- อะไรคือ highlight ที่เจ๋งที่สุดสำหรับคุณล่ะ ในปีนี้ “พูดตามตรงนะเพื่อน อาจจะเป็นช่วงเวลา 6 วันที่เราได้พักผ่อนหลังจากจบ Jagermeister Tour น่ะสิ จากนั้นเราก็ต้องลุย Unholy Alliance Tour ต่ออีก เพราะเราต้องทัวร์ยาวเลยจนกระทั่งสิ้นเดือนธันวาคมนี่แหละ ตอนนั้นเราไม่ต้องมาทำห่าอะไรบนรถบัสเลย ไม่ต้องไปแอร์พอร์ทด้วย” -------- แล้วคุณหาวิธีทำลายความน่าเบื่อหน่ายซ้ำซากนี้ยังงัยล่ะ “มันเป็นวิธีที่ดูงี่เง่าหน่อยนะ พวกเราก็แค่ตะโกนด่าใส่กันงัยแบบว่าด่ากันด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนน่ะ เช่น fuxx you!! No, fuxx you!! แต่ว่าเราไม่ได้โกรธกันจริง ๆ นะเฟ้ย พวกเราค่อนข้างที่จะคุยกันในหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับการแสดงของพวกเรา ดังนั้นหากปราศจากการทราบถึงผลที่เป็นทั้งแง่ดีและแง่ลบแล้ว กลับบ้านเลย มันก็เป็นอะไรที่จบเร็วเกินไป เพราะมันก็จะเหมือนเดิมคือ เอ่อ.....พวกเรามากันแล้ว ลุยกันต่อเลย.....อย่างนี้มันออกจะน่าเบื่อว่ะ” -------- ใครที่คุณไม่อยากเป็นมากที่สุด “ไม่มีนะ” -------- แล้วรู้สึกอย่างไรกับการทัวร์ร่วมกับวงรุ่นน้องทั้งสามวง “Mastodon มีซาวน์ดที่โคตรจะเจ๋งเลยว่ะ Slipknot ผมก็ชอบนะโดยเฉพาะอัลบั้มแรกของพวกเขาเยี่ยมที่สุดแล้ว ถ้าผมมีโอกาสนะผมจะดูพวกเขาเล่นบ้าง” -------- คุณจำชื่อพวกเขาทั้งเก้าได้เปล่า “เวร....จำได้งัยล่ะ....อะไรนะ หมายเลข 1 ถึง 9 ชื่อเหรอ เอ่อ....Corey แล้วก็.......พวกแมร่งคนอื่น ๆ” -------- คุณไม่คิดที่จะทำอัลบั้มกันเหรอช่วงนี้ “คิดสิ เมื่อต้นปีนะ พวกเรามีวัตถุดิบกันอยู่มากพอสมควรเลยล่ะ และเราก็กำหนด deadline กันแล้วด้วย แต่ Rick Rubin (producer) บอกว่าเขากำลังจะเปลี่ยน distributor ทั้งหลายใหม่น่ะสิ เขาต้องการให้พักเรื่องนี้ไว้ก่อนจนกว่าจะปีหน้าแน่ะ ทำให้เราเซ็งกันเล็กน้อย เพราะว่าเรารอมาตั้งนานแล้วที่จะทำเพลงกัน แต่สุดท้ายแล้วเศือกโดน cancel ซะนี่” -------- งี่เง่าว่ะ “ช่าย...แต่ว่ามันก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ เหมือนกับตอนที่เราทำอัลบั้ม Reign In Blood ในปี 1986 โน่น แม้ว่าอัลบั้มจะทำเสร็จแล้ว แต่ก็ออกขายไม่ได้จนกว่าจะผ่านไปเดือนนึง เพราะ CBS ไม่ต้องการวางจำหน่ายให้เรา เขาบอกว่าพวกเราน่ากลัวเกินไปว่ะ” -------- พวกคุณถูกต่อต้านจากสาธารณชนบ้างหรือเปล่า “ก็มีบ้างนะ เราถูกฟ้องร้องเมื่อไม่นานมานี้ข้อหาเกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรมของเด็กกลุ่มหนึ่งซึ่งฆ่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คนจำนวนมากโยนความผิดมาให้พวกเราซะเพราะว่าตำรวจค้นพบอัลบั้มของวง Slayer ที่ห้องนอนของเจ้าฆาตกรเด็กพวกนั้น เราก็เลยถูกกล่าวหาซะ แม้ว่าเจ้าเด็ก ๆ พวกนั้นจะยอมสารภาพว่าฆ่าจริง และบอกว่าไม่เกี่ยวกับ Slayer ก็ตาม” -------- รู้สึกยังงัยที่ได้ร่วมงานกับ Dave Lombardo (drums) อีกครั้ง “เยี่ยมเลยว่ะ แต่ก่อนเรามีปัญหาที่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย แต่ตอนนี้เหมือนกับว่าความทรงจำที่ดีเก่า ๆ ได้หวนมาอีกครั้งหนึ่ง” -------- คุณกังวลรึเปล่าตอนที่เขาไปช่วยเล่นให้กับ Metallica แทน Lars Ulrich ตอน The Download Festival “กังวลสิ ผมอยากให้เขาทำมันออกมาได้ดี ผมไม่แน่ใจว่า Dave เตรียมตัวอย่างไร และคิดว่าบางทีเขาอาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ทุกอย่างก็ออกมาสำเร็จด้วยดี พวกเขาเจ๋งว่ะ” --------พวกคุณไม่กลัวเหรอว่า Metallica จะดึงตัวเขาไปแบบถาวร “เฮ้ย...ไม่ดิ่ เพวกเราเองก็คุยกันเล่น ๆ นะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประมาณว่า!! เฮ้ย!! เราเสียมือกลองไปอีกแล้วว่ะ....แต่แล้วทุกอย่างก็โอเคด้วยดี” -------- คุณได้ดู Some Kind Of Monster ของ Metallica รึยังล่ะ “ยังเลยว่ะ ได้ยินเค้าพูดถึงกันบ่อยนะ แต่ยังไม่เคยดูเลย” -------- พวก Slayer เคยว่าจ้างจิตแพทย์มาบำบัดจริง ๆ เหรอ “มีหลายครั้งเลยที่เรื่องนี้ถูกกล่าวถึง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือส้งตีนเหอะ ไม่เคยโว๊ย!!!” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 VILLE VALO (HIM) Words: Alex Milas -------- Hello Ville ปี 2004 ของคุณเป็นงัยมั่ง “ผมรู้สึกเหมือนกับถูกเพ้นท์อยู่ในภาพวาดของ Salvador Dali ยังงัยยังงั้นเลย” -------- ปีนี้คุณเทคยาอะไรเข้าไปบ้างเนี่ย “อืม...มันเป็นปีที่แปลกออกไปจากเดิมนะในหลาย ๆ ด้านสำหรับผม ทุก ๆ สิ่งที่พวกเรามุ่งมั่นฝ่าฟันกันมานับสิบปีสุดท้ายมันก็เป็นจริงจนได้ มันก็เลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างอืม....อธิบายยากแฮะ” ------- ตอบกันคนละเรื่องสงสัยเมา -------- นอกจากการทัวร์แล้ว มีอะไรอีกมั๊ยที่สำคัญ ๆ ในปีนี้ “พวกเรามีเวลาสามเดือนที่จะหยุดพัก เป็นครั้งแรกในปีนี้ชึ่งดีว่ะแม้ว่าเราจะยังคงใช้เวลาอยู่มากโขเพื่อทำ demo ชิ้นใหม่อยู่ แต่ยังงัยผมก็ได้นอนบนเตียงของผมเองซะที ได้เรียนวิธีการทำอาหารด้วยว่ะ เพวกเราได้ไปทัวร์อเมริกาครั้งแรกด้วยนะเป็นอะไรที่เร้าใจดีครับ” -------- คุณถูกจับเพราะร่วมชุมนุมเวทีโจมตีการเลือกตั้งบ้างรึเปล่าเนี่ยปีนี้ ไม่เลยว่ะ อืม..ผมเองได้พูดคุยครั้งสองครั้งกับชาวนิวยอร์คที่ให้ความสนใจในกรณีของ เหตุการณ์ 11 กันยายนนะ จริง ๆ แล้วผมไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับพวกการเมืองหรอก แต่ว่าไอ้เรื่องดังกล่าวนั้นมันค่อนข้างห่างจากเรื่องการเมืองทั่ว ๆ ไปนะ ซึ่งผมเองก็สนใจที่จะรับฟังความคิดเห็นและอารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แม้ว่าผมจะต้องพูดเพื่อความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของยุโรป แต่ผมคิดว่า Kerry น่าจะเป็นประธานาธิบดีที่ดีกว่านะ” -------- ชาวอเมริกันขึ้นชื่อในเรื่องดังกล่าวนะว่าป่ะ “อืม...ยังงัยก็ตามเหอะ HIM ก็ได้ทำดนตรีที่สุดอรรศจรรย์ขึ้นแล้ว (หัวเราะ) เรากำลังดึงดูดใจทุก ๆ คนชึ่งสนใจวัฒนธรรมของชาวยุโรป (แล้วเกี่ยวไรด้วยวะ????) ผมหมายถึง ไม่มีใครถามผมหรอกถ้ามีกวางเรนเดียร์เดินอยู่บนถนนในเมือง Helsinki” -------- อ่ะฮะ งั้นผมก็มีคำถามถามคุณเกี่ยวกับกวางเรนเดียร์แน่นอน “ใช่...ผมกินเรนเดียร์” -------- ไม่ ๆ แค่อยากถามว่า แน่ใจเหรอว่าฉี่ของเรนเดียร์มีฤิทธิ์กดประสาท เพราะว่าพวกมันกินเห็ดแห่งเวทย์เข้าไป “แน่นอน ผมเคยได้ยินมาว่ามันเวิร์คว่ะ เพื่อนผมมันเป็นแฟนพันธ์แท้ของบรรดายาหลอนประสาททั้งหลายแนะนำมาเพราะว่ามันเคยลองมาแล้ว โดยธรรมชาติแล้วเรนเดียร์ไม่กินเห็ดหรอกคุณต้องป้อนมัน สารผสมที่มีผลต่อจิตประสาทจะค้างอยู่ในฉี่ของมัน ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าคุณไม่มีเรนเดียร์ก็ไม่เป็นไรหรอก คุณแค่ให้เหยื่อบริสุทธิ์ใครคนไหนก็ได้กินแทนกวางแล้วคุณก็จัดการกับฉี่ของเขาคนนั้นซะแทนเลย ส่วนผมไม่ขอลองว่ะมันน่าหยะแหยงเกินไปว่ามะ มันอาจให้ผลข้างเคียงที่ไม่ได้เรื่องว่ะ ผมขอลองอะไร (ยา) ที่คุ้นเคยดีกว่า” -------- ได้ข่าวว่าคุณชอบไปซิ่งกับ Bam Margera (Stuntman ของ Jack Ass) บ่อยครั้งจริงเปล่า เขาเคยลากคุณไปปู้ยี่ปู้ยำในตอนใดตอนหนึ่งของ Jack Ass เปล่าเอ่ย “Bam กับ Rab ตอนนี้อยู่ที่ Dublin ซึ่งพวกเขาเคยมาซ่าในงานคอนเสิร์ตของเราด้วย สองปีที่แล้วมือกีตาร์ของเราถูกหลอกให้ทอดหนังไข่ของมือเบส แล้วก็กินมันซะนั่นแหละสำหรับ Jack Ass ล่ะ แต่ Bam บอกว่ามันหยาบโลนเกินไปสำหรับ MTV ว่ะ” -------- จริงดิ่เป็นไปได้งัยสำหรับ Jack Ass “ผมว่าระดับการวัดความหยาบคายของคนเรามันต่างกันนะ” -------- อะไรคือสิ่งที่ประหลาดที่สุดที่มีคนขว้างปาใส่คุณในปีนี้ “ใครบางคนปาลูกฟุตบอลใส่กบาลผมระหว่างที่ทำการแสดง จริง ๆ แล้วแรกเริ่มเดิมทีใน Finland นั้นเราถูกมองว่าเป็นพวกซาตานิคน่ะสิ ซึ่งผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ใช่ ก่อนหน้านั้นก็มีนะ พวกสาวกแบล็กเมทัลซื้อตั๋วมาดูพวกเรา ยืนอยู่หน้าเวทีเละแต่งตัวกันมาเต็มยศตามสไตล์พวกแบล็กเมทัลเลย พวกเขาถุยน้ำลายใส่เรากันก่อน มันแหม....มันจะห่าอะไรกันนักหนาว๊ะ พวกเอ็งเก็บเงินไว้ไปทำอย่างอื่นเลยไป๊ อย่างเช่นเอาไปซื้อดอกไม้ให้คุณแม่โน่น. -------- ในปี 2005 จะเต็ไปด้วยวงประเภท Love Metal หรือเปล่าเนี่ย “นั่นมันเหมือนกับว่าดนตรีเมทัลถูกใช้ไปในทางที่ผิดน่ะดิ่ อะไรที่คุณคาดหวังล่ะ ลองนึกถึงตัวอย่างนี้สิ Arnold Schwarzenegger ในเรื่อง Conan The Babarian ที่ไม่มีหนวดเครางัยล่ะ เก็ทมะ??” จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 HOWARD JONES (Killswitch Engage) Words: Stephen Lynch -------- Hello Howard ช่วยเล่าเรื่องราวของคุณในปี 2004 ให้ฟังได้เปล่า มันเป็นยังงัยบ้างล่ะ “เป็นปีที่น่าสนใจดีครับ อย่างน้อยผมก็อยากพูดว่า มันเป็นปีแรกเลยที่ผมมีอัลบั้มแรกโดยทำหน้าที่ร้องนำในวงดนตรีวงหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้รับการสนับสนุนจากทางสังกัดที่ยอดเยี่ยมของเรา ผมได้ไปออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในชีวิตกับทัวร์คอนเสิร์ตที่เจ๋งสุด ๆ และตอนนี้เหรอผมก็กำลังทัวร์อยู่กับ Slayer ว่ะ ทุก ๆ สิ่งในปีนี้ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ราบรื่นไปหมดเลยครับ” -------- อืม..แล้วปีนี้จะเป็น The End Of Heartache (ชื่ออัลบั้มถูกนำมาเหน็บ) ได้งัยล่ะ “ฮ่า ๆๆๆ ไม่หรอกน่า.....คุณไม่ได้เจออย่างผมคุณจะเข้าใจได้งัยล่ะจริงป่ะ จริง ๆ แล้วมันคือปีที่เจ๋งที่สุดนะก็ว่าได้ แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้ผมปวดกบาลอยู่ใช่ย่อย เราต้องเจอกับโลกที่กว้างขึ้น พวกเราชอบนะ เราต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา มันเป็นปีที่น่าอัศจรรย์ก็จริงอยู่ แต่เราต้องจากคนที่เรารัก คิดถึงบ้าน คิดถึงการนอนอย่างเต็มอิ่มซึ่งเตียงของเราไม่ต้องเคลื่อนไหวไปมาอย่างการนอนอยู่บนรถบัส ผมต้องบินไม่รู้จะกี่เที่ยว ๆ อย่างน้อยน่าจะ 75 ถึง 100 ไฟล์ทเลยว่ะ แต่ที่มากกว่านั้นคือการอยู่แต่บนรถบัส.........เฮ่อ....เหนื่อยว่ะ” -------- คุณใช้เวลารวมแล้วนานเท่าไหร่สำหรับการเดินทางทั้งหมดในปีนี้ “ปีนี้เหรอ...เยอะเลยนะขอบอก แค่เดือนหรือสองเดือนแรกที่เราทำอัลบั้มเสร็จ เราก็ทัวร์กันเลยว่ะ จากนั้นผมก็ไปทัวร์กับอีกวงหนึ่งของผม เสร็จแล้วก็มากับ Killswitch อีก ตอนนี้เราก็ยังคงทัวร์กันอยู่เลยครับ” --------- พวกคุณทำได้งัยเนี่ย แล้วคุณไม่รู้สึกเหม็นขี้หน้ากันบ้างเหรอ “ใครบอกว่าไม่มีล่ะ ฮ่า ๆๆ... ไม่มีจริง ๆ น่านแหละเราล้อเล่น เราทุกคนก็แค่ได้เวลาส่วนตัวของใครของมันก็เท่านั้นเอง บนรถบัสนอกจากพวกเราห้าคนแล้วก็ยังมีเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ และ ทัวร์แมเนเจอร์อีก บางทีมันก็มีช่วงเวาที่อึดอัดใจเหมือนกันนะ แต่พอเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้อยู่บนรถ ต่างคนต่างก็ทำอะไร ๆ ของตัวเองไป” -------- อะไรที่คุณคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในปีนี้ “สิ่งแรกเลยก็คือการได้ไปออสเตรเลียเลยครับ อย่างที่สองก็คือการได้ทัวร์กับเจ้าพ่อ Slayer งัย ซึ่งเราไม่เคยคิดและคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นได้ทั้งสองอย่างเลยนะเฟ้ย แต่ว่ามันเป็นไปแล้ว” -------- คุณได้รับความทรงจำอะไรที่ดีบ้างจากออสเตรเลีย “สนุกดีนะ เป็นอะไรที่น่าจดจำ เราออกไปชมทิวทัศน์ของ Sydney กันเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุก ๆ โชว์ที่เราไปเล่นมันโคตรของความสุดยอดเลยว่ะไม่น่าเชื่อเลย เราได้เวลาพักผ่อนกันก่อนที่จะต้องบินไปที่อื่นอีกในตอนเช้า มันวุ่นวายอยู่พอสมควรนะช่วงนั้นแต่ผมรู้สึกคุ้มค่าจริง ๆ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่ดีนะ มีแต่อาหารหร่อย ๆ ได้ร่วมในโชว์ที่ยอดเยี่ยมหลาย ๆ แห่ง แค่นี้ผมก็โคตรจะปลื้มแล้วครับ” -------- คุณได้ลองเนื้อจิงโจ้บ้างป่าว “ไม่อ่ะ แต่ว่าพวกเราบางคนได้ลองแล้วนะ ผมไม่ได้ลองด้วยนะ (หัวเราะ)” -------- แล้วสิ่งที่น่าละอายที่สุดในปีนี้ล่ะ “ก็คงเป็นที่ Hellfest เลยว่ะ ตอนเราเริ่มโชว์เพลงแรก ผมควงไมโครโฟนไปโดนหน้าเจ้า Adam (guitar) มันน่ะดิ่ แค่สิบวินาทีแรกของเพลงแรกเลยว่ะ ปั๊ก!!! Adam หลั่งเลือดไปทั่วเวทีเลยว่ะ หลังจากโชว์เสร์จมันต้องไปเย็บแผลซะหลายเข็มอยู่” -------- แล้วคุยบอกเขาว่าไรหลังจากลงเวทีแล้ว “Sorry, dude!! มันแค่บอกว่า ไม่เป็นไรว่ะเอ็งไม่ได้ตั้งใจนี่หว่า ผมอึ้งอ่ะแบบว่า เฮ้ย...โอเคนะ ที่แปลกกว่านั้นก็คือไอ้หมอนั่นมันชอบท้าให้คนดูกระโดดขึ้นมาบนเวทีน่ะดิ่ ผมว่ามันน่ารำคาญว่ะ” -------- แล้วเขาได้อะไรล่ะทำอย่างนั้นน่ะ “ไม่รู้ดิ่ ก็คงสนุกมันน่ะ ผมก็ไม่ได้ไปห้ามอะไรมันหรอก” -------- คุณได้ซัดกับใครบ้างมั๊ยในปีนี้ “ครั้งเดียวที่ผมจำได้ก็คือ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คน่ะ เรากำลังแสดงอยู่ผมกระโดดเข้าใส่คนดู และก็พยายามหาทางที่จะออกมาจากฝูงชนให้ได้เพื่อกลับขึ้นเวที แต่ไม่รู้จะทำงัยเพราะว่ามันเป็นที่ที่กว้างว่ะ รปภ. บอกให้ผมโดนขึ้นไปบนลำโพงแล้วก็ค่อยปีนขึ้นไปบนเวที ผมก็ทำตามนะ แต่ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันคว้าขาผมไว้แล้วดึงผมลงมา จากลำโพง จากนั้นมันก็กระชากคอผมมาเพื่อที่จะเหวี่ยงผมไปใส่แผงกั้น ตอนนั้นผมรู้เลยว่ากำลังจะโดนอัดแน่ ๆ ผมเลยควงหมัดซัดหน้ามันไปดอกหนึ่งแตกเลย.......และไอ้หมอนั่นก็คือรปภ.คนหนึ่งนั่นเอง เขาเศือกจำผมไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ผมก็เพิ่งจะร้องเพลงอยู่ห่างจากเขาไปแต่สามฟุตเท่านั้นเมื่อชั่วครู่ที่แล้ว ผมรู้สึกแย่ว่ะที่ทำอย่างนั้นลงไป” -------- วงอะไรคือวงโปรดของคุณในปีนี้ล่ะ “HIM น่ะ พวกเขาเจ๋งว่ะเขียนเพลงและเนื้อร้องได้ดีมากแม้ว่ามันอาจหดหู่ไปบ้างนะ แต่ผมก็ชอบว่ะผมเริ่มชอบวงนี้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ตอนเราไปยุโรปกันผมคิดถึงบ้านมาก ผมเลยฟัง HIM ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นน่ะ ตั้งแต่นั้นมาผมก็กลายเป็นแฟนของวงนี้ไปลย” -------- คุณจะไปไหนป่าวในวัน New Year Eve นี้ “ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะได้นอน ๆๆ ให้หลับสบายบนเตียงนุ่ม ๆ นั่นแหละเป็นไอเดียหนึ่งของผมสำหรับการเฉลิมฉลอง” ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 DAVE MUSTAINE (Megadeth) Worlds: Rod Yates --- -----Hello Dave, 2004: How was it for you? “นอกจากเรื่องน่าเบื่อที่ถูกฟ้องรอง (โดย Dave Ellefson อดีตมือเบสของ Megadeth) แล้วก็มีเหตุการณ์ดี ๆ หลายอย่างผ่านเข้ามานะทั้งอัลบั้มเก่าที่ออกมารีสีชใหม่และอัลบั้มใหม่ที่ออกมา และการได้เพื่อนร่วมวงมาร่วมออกทัวร์ เป็นปีที่น่าทึ่งปีหนึ่งเลยที่ผมได้กลับมาอีกครั้งหลังจากที่แขนผมเดี้ยงไปเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2002 ผมต้องใช้เวลาหลังจากนั้นอีกตั้งสี่เดือนแน่ะกว่าผมจะมีความรู้สึกว่ามือผมใช้การได้อีกครั้ง และผมก็รู้สึกว่าตอนนี้ผมเล่นกีตาร์ได้ดีกว่าตอนก่อนที่จะบาดเจ็บซะด้วยซ้ำ” -------- แล้วคุณรู้สึกอย่างไรบ้างครับที่ได้กลับขึ้นเวทีในครั้งแรก “มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ เลยล่ะ รู้สึกว่าได้ปลดปล่อยเลยว่ะ โดยเฉพาะกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการยุบวงในครั้งนั้น ผมอาจจะได้เจอแต่คนที่คอยทับถมผมให้จมดินก็จริงอยู่นะ แต่แค่การได้กลับมาสู่วงการนี้อีกครั้งและยิ่งเห็นว่าตั๋วคอนเสิร์ตทุก ๆ ที่ที่เราแสดงขายได้จนเกลี้ยง นั่นแสดงให้เห็นว่าผมยังคงมีแฟน ๆ อยู่ว่ะ นี่แหละที่ผมหมายถึง” -------- มีอะไรนอกเหนือจากดนตรีอีกมั๊ย ที่คุณต้องทำในปีนี้ “ผมก็ไม่รู้จะตอบคุณว่างัยเหมือนกัน เพราะว่ามีหลาย ๆ สิ่งเลยว่ะที่ผมต้องทำ อืม...เช่น การทำกายภาพบำบัดของแขน เรื่องครอบครัว ชีวิตการแต่งงาน การรวมวงอีกครั้ง และก็ต้องตอบคำถามที่ไร้สาระมากมายเกี่ยวกับคดีฟ้องร้อง.....มันเป็นอะไรที่น่าเศร้าว่ะ” -------- นั่นจะส่งผลให้อัลบั้ม The System Has Failed ดับหรือเปล่า “ไม่อ่ะ ไม่เลยนะ ผมรู้ตัวเองดีว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเป็นหัวหน้าวงที่ดี ผมต้องคอยดูแลและต่อสู้เพื่อเพื่อน ๆ ในวง และถ้าหากมองย้อนกลับไปจะเห็นเหตุผลที่ชัดเจนเลยที่ว่าทำไมพวกเขาไม่ได้มาอยู่ ณ ที่ตรงนี้นั้นก็คือ อย่างเช่น Marty (Friedman) ไม่ได้มาร่วมด้วยเพราะว่ามันต้องการที่จะเป็นพวก pop band ดังนั้นเขาก็ไม่สามารถที่จะใช้ชื่อวงว่า Meg-a-deth ได้อีกต่อไป มันก็เลยไปเป็นวงแบบ Matchbox 20 ซะ” -------- ใครคือวงที่คิดว่าเจ๋งที่สุดที่คุณได้ยินในปีนี้ล่ะ “มีอยู่เพลงหนึ่งถูกเปิดใน MTV เป็นเพลงของวงที่ชื่อ Maroon 5 แม้ว่ามันจะไม่ใช่สไตล์ที่ผมชอบก็เหอะ เพลงมันเจ๋งดีวะมีท่อนฮุคเยี่ยมด้วย” -------- แล้วภาพยนต์ที่ดีที่สุดของปีนี้ล่ะ “ผมว่า The Notebook นะ เป็นหนังรักที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว Saw ก็ดีนะ -------- คุณสนใจเกี่ยวกับ love story ด้วยเหรอเนี่ย จะเข้ากันกับคุณเร้อ??? “ผมเดาว่างั้นนะ เพราะว่าแม้ว่าเมื่อก่อนผมอาจจะมองว่า love story นั้นเป็นเรื่องสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำหรับเด็กผู้หญิงที่มีจิตใจเข้มแข็งอย่างผู้ชายมากกว่าว่ะ ฮ่า ๆๆ” -------- Some Kind Of Monster ของ Mettalica เป็นอีกสิ่งหนึ่งในปีนี้ที่ทำให้คุณปวดหัวหรือเปล่า “ผมไม่จำเป็นที่จะต้องปวดหัวไปกับมันเลยว่ะ แต่มันน่ารำคาญนะเวลาเจ้าพวกนั้นมันพล่ามว่า ผมอาจจะพอใจและเห็นด้วยกับเนื้อเรื่องก่อนที่มันจะถูกออกมาเผยแพร่ แต่เมื่อผมลองดูและให้คอมเมนท์เกี่ยวกับมันว่าผมไม่ชอบมัน พวกเขากลับไม่สนใจและก็ยังทำมันออกมาจนได้ หลังจากนั้น Lars ก็ออกมาพูดว่าผมมันตัวเจ้าปัญหาเพราะว่ามันไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่ชอบตัวหนังเรื่องนี้ อืม...ผมไม่สนใจว่าคุณจะเข้าใจหรือไม่นะ ผมแค่ไม่ชอบมันว่ะ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบแค่นั้นก็น่าจะเป็นคำตอบที่พอเพียงนะ แต่ผมให้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า เมื่อไหร่ที่อัลบั้มของผมออกมาผมจะไม่มองย้อนกลับไปหาไอ้สิ่งเดิม ๆ อีก แต่จะมองมาแต่ข้างหน้าเท่านั้น” -------- คุณอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันคริสมาสตร์ครับปีนี้ “ขอ gold record อีกซักครั้งว่ะ แน่นอนเลยว่าผมอยากได้สักรางวัลจากออสเตรเลียด้วยเพราะผมยังไม่เคยได้เลยนะ ผมได้แต่บอกกับเพื่อน ๆ ในวงว่าออสเตรเลียนั้นเป็นประเทศที่สวยงาม ผู้คนที่นั่นก็ เยี่ยมจริง ๆ ครับ” ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : Metallurgist - [ วันสิ้นปี 00:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สุดยอดครับพี่ ขอบคุณมากครับ สวัสดีปีใหม่ครับ ปีนี้ของผมเหรอครับถือว่าโชคดีครับ เพราะ รอดทหาร ได้ไปเที่ยวพีพี ซึ่งตอนนี้ไม่เหลืออะไรไว้แล้ว ได้ไปดูบอลยูโรที่โปรตุเกต ได้รู้จักแล้วก็แอบชอบผู้หญิงคนนึงเข้าเต็มเปาเลยครับ เฮ้อเซ็งอันหลังสุดนี่แหละครับ feliz ano a todos los rockerssssss!!!!!! happy new years to all the rockerssss!!! จากคุณ : ก้อง - [ วันสิ้นปี 08:02:29 A:81.41.19.176 X:80.58.6.235 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ได้รู้จักแล้วก็แอบชอบผู้หญิงคนนึงเข้าเต็มเปาเลยครับ เฮ้อเซ็งอันหลังสุดนี่แหละครับ เหมือนกัน ครับพี่ก้อง 555++ จากคุณ : โตนิค - [ วันสิ้นปี 11:22:27 A:203.113.61.38 X:203.150.217.118 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปีนี้ของผมแย่ครับ สูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัวไป แล้วที่เหลือทั้งปีก็ไม่มีโชคดีอะไรเลย.... จากคุณ : blueframe - [ วันสิ้นปี 15:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับกระทู้ครับ อ่านกว่าจะจบยาวดีครับ ส่วนคุณ blueframe ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ วันสิ้นปี 16:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมาก ขยันจริงๆ :) คุณ blueframe เสียใจด้วยครับ จากคุณ : น้ำใส - [ 1 ม.ค. 48 07:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณเตีย กับ คุณ น้ำใส มากครับ.. จากคุณ : blueframe - [ 1 ม.ค. 48 15:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าวเพิ่งเห็น คุณBlueframe เสียใจด้วยครับ คนจากไปก็ไปแล้ว คนอยู่ก็ต้องสู้ต่อไปนะครับ เศร้าให้น้อยกว่าสุขดีกว่าครับ จากคุณ : เคราครึ้ม - [ 2 ม.ค. 48 00:24:10 ]