ความคิดเห็นที่ 1 CLASSIC BOX The Beatles The Capitol Albums Vol.1 (Capitol / Apple)  4 discs / released  November 2004   วงดนตรีระดับรุ่นใหญ่ทุกวงจำเป็นต้องมี boxset งามๆไว้ประดับวงการอย่างน้อยสักหนึ่งกล่อง แต่ The Beatles ไม่เคยมีกล่องซีดีเป็นเรื่องเป็นราวกับเขามาก่อน (ไม่นับกล่องชุดรวมอัลบั้ม,รวมซิงเกิ้ลและรวมอีพีที่ออกมาเมื่อหลายปีก่อน) และ The Capitol Albums Vol.1 คือ boxset ชุดแรกของพวกเขา ชื่อก็บอกแล้วว่ามีการวางแผนจะออกตามมาอีกอย่างน้อยก็หนึ่งกล่องแน่ๆ   มีอะไรบ้างในกล่องนี้? สิ่งที่บรรจุอยู่ใน box สีสันสดใสจนหลายคนว่ามันแสบสันต์เกินไปนี้ก็คือซีดีสี่แผ่นที่เป็นการ reissue จาก Longplay ของ Beatles ที่ออกในสังกัด Capitol ของอเมริกาในปี 1964 และนี่เป็นครั้งแรกที่อัลบั้มเหล่านี้ปรากฏในรูปแบบซีดี สี่อัลบั้มดังกล่าวคือ Meet The Beatles!, The Beatles’ Second Album, Something New, Beatles’65 ลองเพลย์เหล่านี้ประหนึ่งคือซาวนด์แทร็คของประวัติศาสตร์ในปี 1964 ที่วง The Beatles ยึดอเมริกาโดยสิ้นเชิง มันคือเสียง,การเรียงเพลงที่ชาวอเมริกันยุคนั้นคุ้นเคย และรวมทั้งแฟนเพลงของวง “สี่เต่าทอง” ในบ้านเราในราวปีพ.ศ. 2507 ด้วย เพราะแผ่นเสียงของ Capitol เข้ามาในเมืองไทยอย่างกว้างขวางมากกว่า Parlophone ของอังกฤษหลายเท่า ตัวซองซีดีทำเลียนแบบแผ่นเสียงได้สวยงาม แต่ต้องระวังแผ่นหลุดร่วงหน่อยนะครับ แถม Booklet หนาเปอะจากฝีมือการเขียนของ Mark Lewisohn มนุษย์ผู้ที่รู้เรื่องของสี่เต่าทองมากที่สุดในโลก และภาพหายากมากมาย   เสียงจาก boxset ชุดนี้ มีความไม่ perfect ของแผ่นไวนีลอยู่ เสียงเบสบวมๆ เสียงแหลมที่แตกๆ แต่ไม่ถึงกับมีเสียงแกรกๆของเศษฝุ่นที่กระทบกับหัวเข็ม มันเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับความเงียบสนิท และสมบูรณ์เนี้ยบของซีดี Let It Be... naked ที่ออกมาปีที่แล้ว แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:37:15 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดูชื่อเพลงหมดแล้ว มันก็ซ้ำกับในสี่อัลบั้มแรกของ Beatles ฉบับอังกฤษที่ออกเป็นซีดีมาหลายปีแล้ว (Please Please Me, With The Beatles, A Hard Day’s Night, Beatles For Sale และบางเพลงใน Past Masters Volume One) นี่ ? คนที่มีซีดีเหล่านี้แล้วคงจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ box นี้หรอกมั้ง?   ครับ ถ้าดูชื่อเพลงคงไม่มีอะไรใหม่ เพียงแต่ Capitol จับเพลงโยกไปโยกมาและมีการนำเพลงที่เป็น single มาใส่รวมไว้ด้วย (หลายเพลงที่เป็น singles ในอังกฤษของ Beatles จะเป็นซิงเกิ้ลจริงๆไม่มีการไปรวมอยู่ใน Longplay) แต่ความแตกต่างก็คือมีหลายเพลงที่แม้จะชื่อเดียวกันแต่มันเป็นคนละมิกซ์กันกับของทางฝั่งอังกฤษครับ กล่าวคือมีความแตกต่างกันในแต่ละเพลง...ตั้งแต่ต่างกันเล็กๆน้อยๆแทบฟังไม่ออกบ้าง...หรือบางเพลงก็ต่างกันอย่างน่าตกใจ...ซึ่งผมจะสรุปให้ฟังในบรรทัดถัดๆไป   และอีกประการคือเพลงส่วนใหญ่ใน The Capitol Albums Vol.1 นี้เป็นฉบับสเตอริโอครั้งแรกในรูปแบบซีดี (ซีดีสี่ชุดแรกของ Parlophone เป็น mono ล้วนๆ แต่ในบอกซ์นี้แต่ละแผ่นจะให้มาทั้งแบบสเตอริโอและโมโน) จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การที่ Capitol ตัดสินใจออก box นี้ออกมาทำให้มีการโต้เถียงกันในหมู่แฟนสี่เต่าทองเอง ซึ่งแบ่งเล่นๆได้เป็นสามก๊กสามกลุ่ม 1.ไม่เห็นด้วยกับการออกซีรีส์นี้ กลุ่มนี้จะมองว่า อัลบั้มของ Beatles ฉบับอังกฤษถือเป็นมาตรฐาน เพราะมีการเรียงเพลงและคัดเลือกเพลง รวมทั้งหน้าปกอัลบั้มที่เป็นไปตามความปรารถนาของศิลปินเอง แต่ฉบับ Capitol นั้นทำไปโดยพละการโดยมีเหตุผลในทางพาณิชย์เป็นหลัก (ลดจำนวนเพลงลง, สลับที่เพลงตามใจชอบบางทีถึงกับข้ามอัลบั้ม,หน้าปกที่เต็มไปด้วยคำโฆษณาตลกๆ,และการใส่เสียงเอ็คโค่รือมิกซ์ใหม่อย่างสนุกสนานเป็นล่ำเป็นสัน) กลุ่มนี้จะเห็นว่าการออกซีรีส์นี้มาจะเป็นการทำให้ catalog สับสนสำหรับแฟนรุ่นใหม่ๆ และเสนอให้พวกที่ต้องการระลึกความหลังให้ไปฟังจากแผ่นไวนีลซะสิ 2.เห็นด้วยเต็มประตูกับการออก Capitol box โดยมากจะเป็นชาวอเมริกันที่เติบโตมากับแผ่นเสียงของ Capitol ก็เขาคุ้นเคยมากับเสียงเพลงนั้น การเรียงเพลงแบบนั้น เขาก็ย่อมอยากจะมีความทรงจำเก่าๆเก็บเอาไว้ในรูปแบบซีดีมั่งสิ (จะมีสักกี่%ของนักฟังยุคนี้ที่ยังฟังแผ่นเสียงกันอยู่) แถมบางคนยังยืนยันว่าการคัดเลือกเพลงของ Capitol ในบางอัลบั้มนั้นทำได้ดีกว่า Parlophone เสียอีก และการใส่เอ็คโค่เข้าไปในเพลงนั้น แฟนกลุ่มนี้กลับมองว่าเป็นเสน่ห์เหลือร้ายเข้าไปเสียอีก และสุดท้ายกลุ่มนี้จะฝากบอกกลุ่มแรกไปว่า “ถ้าไม่ชอบ...ก็ไม่ต้องซื้อ(สิวะ)” 3.กลุ่มที่สาม ไม่เข้าใครออกใคร ซื้ออย่างเดียว ไม่มีความหลังฝังใจอะไรกับใคร เพียงแค่อยากฟังเพลงที่คุ้นเคยในแบบที่ต่างออกไป หรือสำหรับบางคน แค่ได้ซื้ออะไรก็ตามที่ออกมาของ Beatles ก็สุขใจแล้ว   สำหรับตัวผมเองก็เอนเอียงไปทั้งสามกลุ่มอย่างละนิดละหน่อย  แต่ออกจะไปทางกลุ่มสามครับ.... และผมก็อึดอัดกับสุ้มเสียงของซีดี Beatles ยุคแรกๆมาหลายปีแล้ว (ออกมาตั้งแต่ยุคปลาย 80’s และไม่เคยมีการ remaster เป็นเรื่องเป็นราวอีกเลย) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:38:14 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Meet The Beatles!   กลางปี 1962 ที่ Beatles ได้เซ็นสัญญากับ EMI ในอังกฤษ พวกเขาอยู่ในค่ายเล็กคือ Parlophone อีกทีภายในเวลาแค่ปีเดียว Beatles ก็ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งวงที่ดังที่สุดในอังกฤษ ทุกซิงเกิ้ลที่ออกมาหลังจาก Love Me Do ขึ้นอันดับ1หมด และยังอัลบั้มที่ขึ้นอันดับ1แบบแทบไม่ยอมลงสองอัลบั้มติดต่อกัน กระแส Beatlemania แรงชนิดพาดหัวหนังสือพิมพ์ได้ทุกวี่วัน แต่น่าแปลก แทบไม่มีใครแยแสพวกเขาในอเมริกา ขนาดเพลงที่ว่าโดนสุดๆฮอทสุดเหวี่ยงอย่าง She Loves You ก็ยังแค่ออกกับสังกัดเล็กๆอย่าง Swan   Capitol ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของอีเอ็มไอในอเมริกา ปฏิเสธพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า อาจเป็นเพราะพวกเขามั่นใจว่าไม่เคยมีศิลปินใดข้ามฟากมาจากอังกฤษแล้วมาประสบความสำเร็จในอเมริกาได้ จนกระทั่งซิงเกิ้ล 'I Want To Hold Your Hand' ในช่วงท้ายปี 1963 ที่ Capitol ใจอ่อนยอมออกซิงเกิ้ลออกมา ตามมาติดๆด้วย Longplay 'Meet The Beatles!' แต่พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจใน format เดิมที่ Beatles ออกในอังกฤษ ดังนั้นทุกอัลบั้มในปี 1964 ที่ออกมาในสังกัด Capitol คืองานรวมเพลง (compilation) ที่ไม่ได้เป็นไปตามจุดประสงค์เดิมของศิลปิน   แต่เมื่อมองกันที่เนื้องาน Meet the Beatles! ถือเป็น collection ที่ยอดเยี่ยม และผมยกให้เป็น Longplay ของ Beatles ที่เยี่ยมที่สุดในยุคแรก พอฟัดกับ A Hard Day’s Night (Parlophone) ได้ สูตรสำเร็จในการทำ Meet The Beatles! ของ Capitol ก็คือ ตัดเพลง cover ที่อยู่ใน With The Beatles (Parlophone) ออกไปหมด เว้นไว้แต่ Till There Was You เพลงเดียว ใส่ซิงเกิ้ล I Want To Hold Your Hand / This Boy เข้าไป บวกกับ I Saw Her Standing There เพลงเก่าที่สุดในอัลบั้มจาก Please Please Me (Parlophone) ซึ่งเป็นหน้าบีของซิงเกิ้ล I Want ในอเมริกาด้วย แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:38:56 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลก็คืออัลบั้มที่เต็มไปด้วยเพลงที่น่าตื่นเต้นด้วยเสียงร้องและ performance ที่ทรงพลังและสดชื่นรื่นเริงร่า การเปิดอัลบั้มด้วย I Want / I Saw ไม่ต่างอะไรกับนักชกที่หวังน็อคคู่ต้อสู้ให้ร่วงในยกแรก Meet The Beatles! และซิงเกิ้ล I Want / I Saw ทำให้อเมริกันชนต้นปี 1964 ตกเป็นสาวกของสี่หนุ่มผมยาว วาจาฉะฉานจากลิเวอร์พูลนี้แทบจะในบัดดล โปรดเงี่ยหูฟัง.... • เพลง I Want/This Boy ในแทร็ค  1 และ 3 เป็น duophonic (fake stereo) แทร็ค 2 และ 4-12 เป็น true stereo จากเทปสองแทร็ค โดยคุณจะได้ยินเสียงร้องอยู่ด้านขวาและเสียงดนตรีแทบทั้งหมดอยู่ด้านซ้าย เป็นครั้งแรกที่เพลงเหล่านี้ปรากฏเป็นสเตอริโอในรูปแบบซีดี • แทร็ค 6 All My Loving เคยเป็น stereo มาแล้วครั้งหนึ่งในอัลบั้ม 1962-1966 แต่เป็นคนละมิกซ์กับใน box นี้ จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 The Beatles’ Second Album   คอนเซ็พท์ของอัลบั้มที่สองในสังกัด Capitol นี้คือ ‘Rock ‘n’ Roll’!!! มันคืออัลบั้มที่มันส์ที่สุดใน box นี้ ทั้ง 11 เพลงมีเพลงช้าจริงๆแค่เพลงเดียวคือ You Really Got A Hold On Me เพลงเก่าของ Smokey Robinson and the Miracles ที่จอห์นร้องไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกนั้นเป็นเพลงร็อคกระแทกกระทั้นที่พวกเขาบรรเลงเล่นกันอย่างเร้าใจตลอด ส่วนผสมของ The Beatles’ Second Album นั้นได้มาจากการนำเพลงcoverใน With the Beatles ที่ไม่ได้อยู่ใน Meet The Beatles! 5 เพลง คลุกเข้ากับเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลหน้าบีในอังกฤษสามเพลงคือ You Can’t Do That, Thank You Girl, I’ll Get You  เหยาะด้วยเพลงใหม่เอี่ยมขนาดที่ว่าในอังกฤษตอนนั้นยังหาฟังไม่ได้อีกสองเพลง (Long Tall Sally, I Call Your Name) และตบด้วยสุดยอดซิงเกิ้ลแห่งปี 1963 ‘She Loves You’ เป็นไม้ตายปิดอัลบั้ม   The Beatles’ Second Album ยังเป็นอัลบั้มที่มีการใส่เอ็คโค่เข้าไปมากที่สุดที่ Capitol ทำไว้กับ Beatles โปรดเงี่ยหูฟัง.... • เพลงจาก with the Beatles ที่อยู่ในซีดีแผ่นนี้ทุกเพลงถือเป็นครั้งแรกที่เป็นสเตอริโอในซีดี • You Can’t Do That, I’ll Get You และ She Loves You (แทร็ค 6,10,11) เป็น duophonic • Long Tall Sally และ I Call Your Name ในแบบโมโนจะเป็นมิกซ์พิเศษที่จอร์จ มาร์ตินโปรดิวเซอร์ตัวจริงของ Beatles ทำมาให้ Capitol โดยเฉพาะ • Thank You Girl เป็น true stereo และจอห์น เลนนอน จะเป่าฮาร์โมนิกาไว้เยอะกว่าใน mono version ที่อยู่ใน CD Past Masters Volume One • Money (แทร็ค 5) เป็น true stereo เพลงเดียวที่ทำจากเทปสองแทร็คแต่มีเสียงร้องฟังแล้วอยู่ระหว่างลำโพงซ้ายขวา (คาดว่าเกิดจากการนำเทปโมโนมิกซ์สองม้วนมา synchronize กันทีละช่วง) และยังมีเสียงเคาะเท้า,เสียงกีต้าร์ และเสียงเปียโนที่ต่างออกไปจากโมโนเวอร์ชั่น แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:39:50 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Something New   ลองเพลย์แผ่นที่สาม ในชื่อที่ฟังดูไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไหร่ 'Something New'  Capitol ถูกสังกัด United Artists ออกอัลบั้ม soundtrack 'A Hard Day's Night' ตัดหน้าไปก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือน เป็นเพราะก่อนหน้านั้นพวกเขามองข้ามศักยภาพของ Beatles และไม่ได้ทำสัญญาเรื่องซาวนด์แทร็คนี้ไว้ก่อนตั้งแต่ปีที่แล้ว(1963)  แต่ Capitol ก็ยังมีสิทธินำเพลงทุกเพลงที่ Beatles อัดเสียงกับอีเอ็มไอมาออกอยู่ดี เพียงแต่ไม่อาจใช้คำว่า soundtrack ได้ ก็เลยเป็นที่มาของอัลบั้ม "บางอย่างใหม่ๆ" นี้ มันประกอบไปด้วย...เพลงจากอัลบั้ม A Hard Day's Night (Parlophone) 8 เพลง ,จาก Long Tall Sally EP 2 เพลง และบวกกับเพลง I Want To Hold Your Hand ภาษาเยอรมันอีก 1 เพลง   Something New เป็นอัลบั้มแรกของ Capitol ที่ไม่มี fake stereo สักเพลง กล่าวคือเป็น true stereo  ทุกเพลง และนี่เป็นโอกาสแรกที่เราจะได้มีเพลงหกเพลงเหล่านี้ในแบบสเตอริโอในซีดี... I'll Cry Instead, Things We Said Today, Anytime At All, When I Get Home, Tell Me Why, I'm Happy Just To Dance With You และ If I Fell   เด่นที่สุดในอัลบั้มนี้คือ Things We Said Today (แทร็ค2)  คุณจะได้ฟัง (หรืออาจจะเกือบเรียกได้ว่า"เห็น") ศิลปะการมิกซ์เสียงจากเทป 4 แทร็คให้ได้อารมณ์และคุ้มค่าที่สุดในเพลงนี้ แม้ว่าพอลจะแต่งเพลงไม่มากใน A Hard Day's Night Session แต่มันก็เปี่ยมคุณภาพทุกเพลง เนื้อหาเป็นการมองย้อนอดีตจากอนาคตแบบ Back To The Future และลูกเล่นในการเปลี่ยนคีย์ในท่อนกลางสร้าง dramatic contrast ได้อย่างสุดยอด โปรดเงี่ยหูฟัง.... • If I Fell แทร็คที่ 10 ในซีดีนี้ ขณะที่เขากำลังประสานเสียงอย่างเข้มข้นกับจอห์น เลนนอน คุณจะได้ยินเสียงพอล แมคคาร์ทนีย์ร้องไม่ถึง (เสียงแห้งไปเลย) ในคำว่า our new love was in vain.... (รอบสองของการร้องท่อนนี้) ซึ่งในโมโนเวอร์ชั่นเขาจะร้องผ่านไปได้สบายๆ • I'll Cry Instead (mono) แทร็ค 12 ในซีดีนี้ จะมีการตัดต่อท่อนเวิร์สแรกเข้ามาอีกรอบ ทำให้เพลงสไตล์คันทรี่เพลงนี้ยาวกว่าใน version อื่นๆอยู่หลายวินาที • And I Love Her (mono) แทร็ค 19 เสียงร้องของพอลเกือบตลอดเพลงเป็น single track ไม่ได้เป็น double track ตลอดเพลงเหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆ ฟังดูให้อารมณ์เรียบง่ายและจริงใจกว่าเดิม แต่อาจจะไม่หวานชวนฝันเท่า • Anytime At All (mono) แทร็ค 14 เสียงเปียโนและกลองที่ฟาดโครมตอนต้นเพลงจะฟังดูถอยไปข้างหลังมากกว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ • When I Get Home (mono) แทร็ค 15 จะมีเสียงกลองล้ำหน้ากว่า แต่เสียงฉาบเบากว่าในเวอร์ชั่นอื่นๆ (เฮ้อ...ใครจะฟังออกไหมเนี่ย?) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:41:03 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Beatles’65   8 เพลงใน Beatles'65 มาจาก Lp Beatles For Sale อีกสองเพลงคือซิงเกิ้ล I Feel Fine / She's A Woman และอีกเพลงคือ I'll Be Back ที่ตกค้างมาจาก A Hard Day's Night Session   การใส่ซิงเกิ้ลดังกล่าวเข้าไปในอัลบั้มนี้ดูจะเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว เพราะใน Beatles For Sale จะไม่มีเพลงที่เป็นเพลงฮ็อตจริงๆสักเพลง แต่น่าเสียดายที่ใน stereo mix ของ I Feel Fine / She's A Woman ใน Beatles'65 นี้ วิศวกรของ Capitol หันกลับไปใช้วิธีการนำเอา British mono mix มาทำเป็น duophonic (fake stereo) อีกแล้ว นั่นยังไม่เท่าไหร่ ที่แย่สุดๆก็คือการใส่เอ็คโค่ที่ทำเกินกว่าเหตุมากๆ สองเพลงนี้น่าจะเป็นการมิกซ์เสียงที่อุบาทว์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Beatles ก็เป็นได้ บอกตรงๆว่าเสียดาย I Feel Fine มากครับที่ถูกนำมาปู้ยี่ปู้ยำอย่างทารุณขนาดนี้ (และผู้จัดทำซีดีชุดนี้ก็จริงใจพอที่จะนำเวอร์ชั่นที่น่าขนลุกขนพองนี้มานำเสนอเราอีกครั้ง) โปรดเงี่ยหูฟัง.... • I'll Be Back สเตอริโอจะเป็นมิกซ์เดียวกับใน A Hard Day's Night stereo Parlophone LP แต่ในโมโนมิกซ์จะเป็นมิกซ์พิเศษที่จอร์จ มาร์ตินทำให้ตลาดอเมริกันโดยเฉพาะ • I Feel Fine / She's A Woman mono mixes ก็เป็นมิกซ์พิเศษที่มาร์ตินทำให้ Capitol singles โดยจะมีรีเวิร์บมากกว่าของอังกฤษ และใน She's A Woman ของซีดีนี้(โมโน)จะ fade out เร็วกว่าของอังกฤษ   เรื่อง mix เรื่อง variation นี่ดูออกจะไร้สาระ แต่คนที่เป็นแฟนจริงๆก็มีความสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ที่วงดนตรีสมัยนี้อาจจะไม่มีเรื่องกระจุ๋มกระจิ๋มกระจุกกระจิกพวกนี้ให้มาคุยคุ้ยข่าวกันแล้ว   ผมฟังซีดี Beatles'65 อย่างเพลิดเพลิน เพราะในซีดีเวอร์ชั่นปี 87 ของ Beatles For Sale เป็นโมโนที่เสียงทื่อมะลื่อมากๆ การได้ฟังทั้งแปดเพลงในแบบสเตอริโอนุ่มๆถือเป็นของขวัญคริสต์มาสอย่างดี โดยเฉพาะ I'll Follow The Sun ในเวอร์ชั่นสเตอริโอนี้ไพเราะเหลือหลาย และ Rock And Roll Music ก็มันส์กว่าเดิมหลายสิบเท่า แทบจะมองเห็นภาพของลุงจอร์จ มาร์ตินขย่มเปียโนอย่างลืมตัวสู้กับการแผดเสียงของเลนนอนเลยทีเดียว และแม้แต่เพลงที่ไม่ค่อยจะได้ความอย่าง Mr. Moonlight ก็ยังพอไปวัดไปวาได้เมื่อแต่งตัวแบบสเตอริโอนี้ น่าเสียดายที่ไม่มีเพลงโปรดของผมอีกเพลง ‘What You’re Doing’ ที่ถูกเฉือนออกไปใช้ในอนาคต แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 18:41:36 จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สรุป สำหรับแฟนเดนตายของ The Beatles คงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะหยุดยั้งไม่ให้เขาซื้อบอกซ์นี้  และสำหรับผู้ใดก็ตามที่ต้องการสัมผัสกับ sound อมตะอันน่าตื่นเต้นและเปี่ยมชีวิตชีวาในยุคแรกของ Beatles, The Capitol Albums Vol.1 ก็ไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง โดยไม่จำเป็นต้องไปแยแสถึงเหตุผลทางประวัติศาสตร์,เจตจำนงดั้งเดิมของศิลปิน  หรือ variations ต่างๆที่ผมเพ้อพร่ำมาทั้งหมดนี้แต่อย่างใด (แล้วคุณ Winston มันจะเขียนยาวยืดอย่างงี้มาทำไมกันฟะ?) จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 the end.... จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 18:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ จากคุณ : rtype - [ 5 ม.ค. 48 19:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนอ่าน Hook โชคไม่ดีเท่าคนอ่าน pantip น่ะซิถึงได้เจอแต่ Clean version เอ้ย! Edited version แถมยังได้อ่านทีหลังอีกต่างหาก แต่ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ระดับลีลาการตวัดปลายปากกาของหมอที่ผ่านการวิเคราะห์ระดับป๋าเรียกพี่ ถึงยังไงก้ต้องน่าอ่านวันยังค่ำ ว่าแล้วก็ต้องเริ่มเก็บหอมรอมริบเพื่อที่วันหนึ่งจะได้ฟังดนตรีของบีเทิลส์แบบที่คนอเมริกันเคยฟังเสียที จากคุณ : SOS (SamOfSound) - [ 5 ม.ค. 48 19:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ...คำว่า "ป๋าเรียกพี่" ข้างบน ไม่ได้หมายถึงใครเป็นกรณีพิเศษนะครับ เขียนแบบกลอนพาไปเฉยๆ :) จากคุณ : SOS (SamOfSound) - [ 5 ม.ค. 48 19:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ จากคุณ : Magu - [ 5 ม.ค. 48 22:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่เวอร์ชั่นใน Hook ก็จะมีอะไรหลายอย่างต่างจากนี้นะครับ ต้องอ่านอีกเช่นกัน.... จากคุณ : winston - [ 5 ม.ค. 48 22:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เยี่ยมครับ เอาเรื่องขึ้นปก(ฮุก)เล่มสองเลยจะดีมาก จากคุณ : fab4 - [ 7 ม.ค. 48 11:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มีหนังสือนี้อยู่บนแผงด้วยเหรอเนี่ย :-p จากคุณ : oneal - [ 7 ม.ค. 48 14:49:50 A:203.144.251.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 fabelhaft.... จากคุณ : Brad Pitt - [ 7 ม.ค. 48 19:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้วสยิวมาก จากคุณ : FingerPie - [ 7 ม.ค. 48 21:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Hook คือ Soundmag เดิม แต่ปรับโฉมใหม่ครับ... จากคุณ : winston - [ 9 ม.ค. 48 01:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Something new...ก่อนขึ้นเพลง Komm... มีเสียงไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ พูดว่า Com'on หรือ Com'in...ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเฉพาะในmono versionครับ จากคุณ : walrus - [ 13 ม.ค. 48 10:56:53 A:203.156.3.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ้าว หวัดดีพี่หมอ.... ได้มาแล้วยังครับบอกซ์นี้ จากคุณ : winston - [ 13 ม.ค. 48 12:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ได้มา 3 สัปดาห์แล้วครับ.... package มันช่างน่าทุเรศทุรังเหลือเกิน... แผ่นcd ของผมหล่น 5-6ทีแล้วครับ.... จากคุณ : walrus - [ 13 ม.ค. 48 13:39:01 A:203.156.3.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 package มันช่างน่าทุเรศทุรังเหลือเกิน... แค่แอบฟังคุณหมอคุยกันก็สนุกแล้ว จากคุณ : กำสะลัม - [ 13 ม.ค. 48 15:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เอาไว้ผมไรท์ให้ดีไหม จะได้เก็บของจริงไว้ในกล่องตลอดกาล เป็น package ที่ประสาทจริงๆ ไม่รู้มันจะสลับซับซ้อนอะไรขนาดนั้น จากคุณ : winston - [ 13 ม.ค. 48 17:20:29 ]