ความคิดเห็นที่ 1 อยากฟังครับ จากคุณ : Agent Fox Mulder - [ 7 ม.ค. 48 15:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไว้จะลองหามาฟังนะครับเด๋วนี้ไม่ได้ตามงานน้าแกเลยที่ชอบก็Solo อัลบั้มของสองปีที่แล้วอะฟังสบายๆดี เด๋วนี้ไม่ชอบอะไรหลายๆชิ้น จากคุณ : apison@prointered.com - [ 8 ม.ค. 48 15:37:23 A:202.57.156.184 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 งานนี้มีรางวัลแกรมมี่อีกตัวในตู้เฮียแกแหงๆ.... จากคุณ : Younger Pat - [ 8 ม.ค. 48 19:45:59 A:192.168.0.13 X:203.170.137.68 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปกติผมก็ตามงานของน้าแพทแกอยู่เรื่อยๆละครับ คนอะไรก็ไม่รู้ มีไอเดียใหม่ๆมานำเสนออยู่เรื่อยไม่เคยตัน แถมยังขยันออกงานบ๊อยบ่อย (อยากจะขอสมองแกมาใส่หัวตัวเองซักครื่งนึงก็ยังดี) แต่คราวนี้คงต้องรอไปก่อน เพราะผมเพิ่งหมดเงินไปกับ บิล ฟริเซล มาน่ะครับ จากคุณ : pop (pop ellington) - [ 9 ม.ค. 48 00:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นภาพปกแล้วคิดว่าชุดนี้น่าจะมันส์ครับ อา อยากฟังเร็วๆ จัง ^_^ จากคุณ : pinkcow - [ 11 ม.ค. 48 18:40:58 A:10.8.1.38 X:203.154.169.133 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมลองฟังตัวอย่างในเวบ www.patmethenygroup.com แล้ว เอาความรู้สึกจากใจจริงนะครับ ไม่ได้เขียนเชียร์... ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยแตกต่างจากงานก่อนๆนะครับ แถมเมโลดี้และซาวด์กีต้าร์นี่ชวนให้นึกถึง Mike Oldfield ตะหงิดๆด้วย .... สงสัยต้องลองฟังทั้งอัลบั้มหลังวันที่ 25 มกรา ที่กำหนดออกอีกที ฟังทั้งแผ่นอาจมีอะไรมากกว่านี้อีกมากก็ได้ แต่สำหรับเท่าที่ฟังจากตัวอย่างนั้น "ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ!"เลยครับ จากคุณ : Younger Pat - [ 12 ม.ค. 48 12:33:13 A:161.200.146.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่อ่านมา เค้าบอกว่า อัลบั้มชุดนี้จริงๆแล้วเป็น Suite เดียว ที่มีความยาวประมาณ 68 นาที แบ่งออกเป็น 4 ภาค โดยทำออกมาในลักษณะขอเพลงมาต่อกันเป็น ชิ้นเดียว น่าจะคล้ายกับเพลงเอพิคของวงโพรเกรสซีฟร็อคที่ยาวๆ เช่น เพลง Supper's Raedy ของ Genesis และไคล์แม็กส์จะไปอยู่ในภาคสุดท้าย ที่ผมบอกว่า ต่างจากแนวเดิม เพราะ หนังสือ เค้าถึงกับบอกว่า Pat destorys his formular เลย แต่อย่างที่คุณ Younger Pat บอก ผมก็ลองไปฟังดูแล้ว เห็นด้วยว่า ช่วงที่ตัดมาให้ฟังนั้น ไม่ต่างจากสไตล์การเล่นที่ผ่านมาเลย ต้องรอฟังทั้งให้ทั้ง 68 นาทีถึงจะบอกได้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ จากคุณ : Analog Kid - [ 12 ม.ค. 48 23:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไปตามเสฟไฟล์ของกระทู้ที่ใช้ชื่อว่า เด็กอนาคิน เอ๊ย เด็กอนาล็อก ในห้องร็อคไว้เพียบ เพราะก่อนมาฟังแจ๊สก็ฟัง โปรเกรสสีฟร็อคมาก่อน ว่างๆแวะมาทักทายในห้องแจ๊สกันอีกนะครับ ชอบไอเดียการเขียนของคุณครับ.... จากคุณ : Younger Pat - [ 15 ม.ค. 48 13:49:44 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆผมก็คล้ายคุณ Younger Pat ที่ฟังแนวโพรเกรสซีฟ แล้วมาต่อด้วยแนวแจ็ส แต่ผมยังไม่ได้ฟังแจ็สมากเท่าไหร่นักครับ เลือกที่มีแนวร็อคผสมซะเป็นส่วนใหญ่ อย่าง Pat Metheney หรือพวก Fusion  อย่าง Mahavishnu Orchstra และศิลปิน ECM บางคนอย่าง Etherhard Webber หรือ Terje Rypdal ที่มีกลิ่นโพรเกรสซีฟ จากคุณ : Analog Kid - [ 17 ม.ค. 48 13:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Eberhard Weber's Color of Cloe คือหนึ่งในอัลบั้มที่เพราะทีเดียว ของTerje Rypdal ผมฟังรวมฮิตเอาก็เรียกว่าคุ้มทีเดียว ใครเป็นแฟนPat แห่งECM แต่ไม่ฟังTerje Rypdal ก็น่าเสียดายมาก แต่ตอนนี้ฟัง Ulf Wakenius อยู่มันเป็นบ้าเลยคนนี้ จากคุณ : apison@prointered.com (jazzaholic) - [ 17 ม.ค. 48 17:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีใจมีคนชอบ ศิลปิน ECM อย่าง Terje Rypdal และ Eberhard Webber ครับ ผมก็ชอบชุด Color of Cloe เจ๋งจริงๆ เสียงเบสแกเด่นมากๆ นอกจาก 2 คนนี้ ผมยังชอบอีกหลายคนอย่าง -  Egberto Gismonti -  Ralf Towner และ Oregon ( สมัยอยู่ที่ ECM ) -  Steve Tibbets อีกหลายคนที่ยังไม่เคยฟัง แต่เคยดาวน์โหลดมาลองฟังอย่าง David Darling จากคุณ : Analog Kid - [ 18 ม.ค. 48 12:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบหมดเลยทั้งEgberto,Steve แต่เป็นงานยุคแรกๆเท่านั้นหลังๆผมค่อนข้างเฉยๆ ส่วนOre ผมชอบงานในสังกัด Intuition มากกว่าECM รู้สึกมันมีพลังมากกว่า แต่นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ แต่ช่วงนี้ผมMoveความสนใจไปแถบสแกนดิเนเวีย พวกอิตาเลียน อังกฤษ รัสเซีย ญี่ปุ่น ที่มีมุมมองทางดนตรีที่ตรงใจผม เปิดเผย ซับซ้อนในแบบที่ผมคิดและเปรียบเสมือนเป็นการค้นพบส่วนตัวของผมจริงๆ จากคุณ : apison@prointered.com (jazzaholic) - [ 18 ม.ค. 48 15:10:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันนี้อัลบั้มออกแล้ว มีใครได้ฟังแล้วมาเล่าสู่กันฟังหน่อย นอกประเด็นนิด อยากถามคอ progressive rock อย่างคุณ Analog Kid หรือคุณ Younger Pat ว่าถ้าฟังแจ๊สแล้วกลับไปฟัง progressive นี่มันจะกลับทางไหมครับ อ่านที่คุณ Analog Kid เขียนไว้ในห้อง Rock & Roll แล้วอยากไปหามาฟังบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่คนจะฟัง Progressive ก่อนแล้วค่อยหันมาหาแจ๊ส ก็เลยไม่รู้ว่าอย่างผมนี่ถ้าจะสวนทาง มันจะแก่เกินฟังหรือเปล่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : Cherokee - [ 26 ม.ค. 48 00:26:10 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยังไม่ได้ฟังเลยครับ แต่กะลังจะไปโดเรมี ขอบคุณ ตามความรู้สึกผมนะครับ คนฟังโปรเกรสสีฟอย่างวงเยส หรือบางวงที่เล่นบรรเลงและประพันธ์ดนตรีมีชั้นเชิงมากๆ จะได้ทักษะการฟัง การแยกประสาทการรับรสของเครื่องดนตรีหลายๆชิ้นพร้อมๆกัน ทำให้มีพื้นฐานมาฟังแจ๊สโดยเฉพาะก็แนวฟิวชั่น จะรับได้เร็วมาก (ยิ่งฟิวชั่นแข็งๆแต่เมโลดี้งามๆแบบญี่ปุ่นนี่เข้าทางเลยครับ) แต่ผมว่าหากติดแจ๊สก่อน แล้วกลับไปฟังโปรเกรสสิฟนี่จะรู้สึกว่าร็อคโปรเกรสสีฟ มันแข็งๆทื่อๆ ไม่เติมเต็มอารมณ์ได้ลึกเท่าแจ๊สนะ ไม่รู้สิ สำหรับผมการกลับไปฟังงานโปรเกรสสิฟเก่าๆมันเหมือนกลับไปดูภาพยนตร์การ์ตูนนิยายไซไฟหรือแฟนตาซีย้อนยุคมากกว่า มันเหมือนเราอยากกลับไปเป็นเด็กอีกรอบอ่ะ อารมณ์ในวัย 35 อัพมันจะแมชชิ่งกับแจ๊สมากกว่าครับ คงคล้ายๆบางคนที่อายุ 40 แล้วยังมีโมเดลไอ้มดแดงวี 1 วี 3 งามๆสมัยนี้ในคอนเลคชั่นของตัวเอง มันเป็นความประทับใจในอดีตมากกว่าสำหรับผม เหมือนกับการกลับไปฟังเฮฟวี่เมทัลบางวงที่เคยบ้ามันสมัยวัยรุ่น เปิดได้ 2-3 เพลงก็ต้องปิด เพราะความจริงก็คือ เราเริ่มแก่ (แหมไม่อยากเขียนคำนี้เลย) อารมณืมันไม่เหมือนก่อนแล้ว...สำหรับผมนะครับ จากคุณ : Younger Pat - [ 26 ม.ค. 48 10:27:07 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 คงคล้ายๆที่คุณ Younger Pat บอกล่ะครับ โพรเกรสซีฟร็อคมันคือ ความหวือหวาของเทคนิคในการเล่นของนักดนตรี ในขณะที่แจ็สจะเน้นที่อารมณ์เป็นส่วนใหญ่ อาจจะยกเว้นในส่วนของ Fusion แต่ก็ไม่ผิดนะครับ ถ้าเราอยากคึกคักบ้าง บางครั้งบางคราว เหมือนผม ที่ฟังแนวเฮฟวี่บ้าง แต่คงไม่ลงลึกไปประเภท Death Metal อะไรพวกนั้น มันเกินวัยแล้วครับ จากคุณ : Analog Kid - [ 4 ก.พ. 48 11:17:39 ]