CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    "ทรงเป็นขวัญเกล้าชาวลูกทุ่ง"

    ลูกทุ่งกับเพลงไทย


    พระราชนิพนธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

           เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2532 นายสกุล ศรีพรหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะผู้จัดงาน "กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่ง" ได้นำศิลปินเพลงลูกทุ่งจำนวนมากมาพบข้าพเจ้าเพื่อรับรางวัลเกียรติคุณเพลงลูกทุ่งดีเด่น วันเสาร์ที่ 16 เดือนกันยายน ข้าพเจ้าก็ติดตามรายการโทรทัศน์ถ่ายทอดการแสดงเพลงลูกทุ่งที่คัดแต่เพลงเอกมาแสดง 50 เพลง ดูจนจบรายการนึกว่าจะได้ฟังอีกหลายเพลงที่ชอบแต่ไม่ได้ฟัง มาอ่านข้อกำหนดในการคัดเลือกเพลงที่หลังจึงได้ทราบว่าเพลงลูกทุ่งที่ได้ทำนองมาจากเพลงไทยของเก่านั้นเขาไม่นับมาพิจารณาด้วย
           ข้าพเจ้าติดตามเพลงลูกทุ่งมาเพียง 20 ปีเศษ โดยเฉพาะในระยะที่เรียกว่า "ยุคทองของลูกทุ่ง" แล้ว ตอนนั้นข้าพเจ้าเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้น เพื่อนกลุ่มใหญ่ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง เมื่อว่างจากการเรียนก็จะหลบมุมไปฟังวิทยุ สมัยนั้นเทปบันทึกเสียงยังไม่แพร่หลาย รายการลุกทุ่ง ในโทรทัศน์ก็ไม่ค่อยมี ข้าพเจ้ามักจะเอาฉิ่งติดไปในกระเป๋าเพื่อใช้ตีจังหวะ เรารู้จักนักร้องลูกทุ่ง ทุกคน จำเพลงลูกทุ่งได้เป็นร้อย ๆ เพลง ถึงจุดนี้เองทำให้นึกได้ว่า เนื้อเพลงและทำนองเพลง ลูกทุ่งนั้นจำง่าย ร้องตามได้ง่าย เข้าใจง่าย จึงได้เปรียบเพลงไทยและเพลงพื้นบ้าน
           เวลาเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปนราธิวาส เวลาเช้า ๆ เราจะเปิดวิทยุฟังเพลงลูกทุ่งที่ฟังประจำคือ วิทยุ 912 ก.ร.ป.กลาง ชื่อรายการลูกทุ่งพัฒนา เวลา 6.30 นาฬิกา ผู้จัดรายการจะเปิดเพลงตามที่ผู้ฟังเขียนขอไป สลับด้วยข่าวราชการ บางทีก็มีข่าวรับสมัครเข้าทำงาน เพลงลูกทุ่งก่อให้เกิดความสนุกสนานได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาอันสั้นก็ได้หัวเราะ ยิ้มแย้มกันแล้ว เพลงลูกทุ่งจึงแพร่หลายมาก
           สังเกตได้ว่าเวลาเกิดสถานการณ์ฝนตก ฟ้าร้อง น้ำท่วม เพลงลูกทุ่งก็จะออกมาใหม่ ทันสมัยกับข่าวนั้นทันที เนื้อร้องจะสะท้อนภาพชีวิตจริงของคน ใช้ภาษาที่เรียบง่าย เข้าใจ และ จำง่าย เข้าถึงใจคนฟังในเวลาอันรวดเร็ว
           เพลงบันทึกเหตุการณ์ที่ยุคปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ข้าพเจ้ายังติดใจในสำนวนเพลง ไม่หายก็คือ เพลง "แม่ค้าตาคม" ของศรคีรี ศรีประจวบ ซึ่งเดี๋ยวนี้ เรือด่วนบ้านแพน ดูเหมือน จะเลิกไปแล้ว แต่เพลงนี้บันทึกเรื่องเก่าไว้ดีทีเดียว
           เพลงที่เกี่ยวกับชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม ก็มีมากมาย เช่น
    จักรยานคนจน   ยอดรัก สลักใจ
    เด็กท้องนา       ละอองดาว   โสธรบุญ
    ขันหมากมาแล้ว   ยงยุทธ  เชี่ยวชาญ
    เก็บเงินแต่งงาน   เมืองมนต์   สมบัติเจริญ
    ไม้เรียว             เสรีย์    รุ่งสว่าง
    ไอ้หนุ่มตังเก      ไพรวัลย์        ลูกเพชร
           เมื่อยังเรียนชั้นมัธยม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรี ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ข้าพเจ้าจะต้องร้องเพลง ความที่เคยชินกับเพลงลูกทุ่งนึกทำนองแหล่ได้แล้วนึกถึงส้มตำอีสาน ก็เข้าครัวถามป้า ๆ ให้แน่ใจว่าใส่อะไรกันบ้าง แล้ววันนั้นก็ได้เพลงลูกทุ่งชื่อ ส้มตำ ออกมาร้องได้ เป็นที่สนุกสนานกันมาก
           เมื่อข้าพเจ้าเติบโตขึ้น ได้ฟังเพลงอย่างพินิจพิเคราะห์มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งได้ร่ำเรียนดนตรีไทยจากท่านผู้รู้ต่าง ๆ ลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็ได้เห็นความจริงว่า นักร้องลูกทุ่งนั้นที่ดีมากคือ การร้องเพลงด้วยเสียงแท้ และร้องเต็มเสียง อย่างชัดถ้อยชัดคำ ถ้าเสียงไม่ดีจริงจะเป็นนักร้องลูกทุ่งที่ดีได้ยาก และลีลาการขับร้องเพลงลูกทุ่งโดยการเอื้อนเสียงจะให้อารมณ์แบบพื้นบ้าน ที่ไพเราะน่าฟัง เพลงลูกทุ่งมีความคล้ายคลึงกับเพลงไทยคือการออกภาษา ลูกทุ่งมีเพลงภาษามากมายเกินกว่าเพลงสิบสองภาษาของเก่าด้วยซ้ำ ทำให้เข้าถึงชุมชนน้อยใหญ่ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดีและ ใช้ภาษาที่เรียบง่ายไม่ต้องเสียเวลาคิดก็เข้าใจทันที เช่น
           ยมบาลเจ้าขา : โลกมนุษย์แย่ที่สุดแทบทนไม่ไหว จะหนีไปไหนก็หนีไม่พ้น เมื่อก่อนนี้เคยเห็นแต่ผีหลอกคน เดี๋ยวนี้ชอบกลเจอแต่คนหลอกผี
           คุณนายโรงแรม : จะจ้างสักพัน ฉันก็ไม่หันไปมอง ถึงเธอจะใส่ทอง เส้นโตเท่าโซ่รถไฟ
           เพลงลูกทุ่งนั้นร้องกันตั้งแต่เด็กเล็กจนคนสูงอายุก็ชอบ แต่เพลงไทยนั้นเด็กมักฟังไม่รู้เรื่องเพราะยากเกินไป และยังมีสื่อ วิทยุ โทรทัศน์ แถบบันทึกเสียง การประชาสัมพันธ์ และการคมนาคมที่สะดวกเป็นเครื่องช่วย จึงทำให้เพลงลูกทุ่งออกไปสู่ชุมชนที่ห่างไกลทุกแห่งหนโดยให้เวลารวดเร็ว
           สรุปว่าเพลงลูกทุ่งมีความดีหลายประการคือ
           1. เป็นหลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์สังคมของประเทศ
           2. เป็นที่รวบรวมของภูมิปัญญา และทรัพย์สินทางปัญญาของชาวบ้าน
           3. เป็นเพลงที่เรียบง่ายคือ เข้าใจง่าย ร้องง่าย จำง่าย
           4. สามารถเข้าถึงสังคมทุกชั้น กระจายได้กว้างไกลถึงชนบททุกแห่ง
           5. มีความเป็นไทยทั้งในเรื่องของภาษา ทำนอง และการขับร้อง
           ในขณะเดียวกันเพลงลูกทุ่งก็มีปัญหาในเรื่องอายุ คือ มีอายุสั้น และบางครั้งแข่งขันกันผลิตออกมาจนเกินความต้องการทำให้ต้องแข่งกันในด้านธุรกิจการค้า จึงเกิดการขาดทุนเสียหาย เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
    สรุปว่าเพลงลูกทุ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ที่ควรรักษาไว้เช่นเดียวกับเพลงไทยประเภทอื่น ๆ
           พระตำหนักจิตรลาดารโหฐาน
           วันที่ 12 ตุลาคม 2532

    (คัดลอกจาก http://www.rits.ac.th/service/office/art/jit-sum-neug.html )

    จากคุณ : หัวใจไข้ขึ้น - [ 1 ก.พ. 48 17:08:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป