ความคิดเห็นที่ 1 Feng: สวัสดีค่ะท่านผู้ชมรายการ Cover People แขกรับเชิญวันนี้  ต้องบอกว่าควรจะมาได้ตั้งนานแล้ว ทางเราก็ได้แต่รอ รอ รอ  ในที่สุดก็มาจนได้  คงต้องไปถามเจ้าตัวกันเองว่าเป็นเพราะเขาหรือคนอื่น เพราะธุระเขาเยอะพอสมควรทีเดียว  555 น่าจะมาตั้งนานแล้วนะ Ken: ถ้าไม่ผิดควรมาตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว Feng: ใช่ แล้วทำไมล่ะ   งานก็ออกเป็นคนสุดท้าย Ken: ใช่ออกหลังสุด  แต่ทำก่อนชาวบ้านเลย  ตั้งแต่แพลนงาน  แต่ระหว่างทำก็มักจะเจอเรื่อง เข้ามาขัดจังหวะตลอด   จริง ๆ ไม่มีปัญหาในการอัดสักเท่าไหร่  เพียงแต่พออัดเพลงนี้เสร็จ ก็จะถูกคั่นด้วยงาน  พองานจบก็จะไปอัดเพลงต่อไป  มันก็เลยอัดหนึ่งเพลง หยุดหนึ่งที เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ  จนเวลาผ่านไปสามปี Feng: สามปี Ken: เกือบสามปี Feng: ช่วงสามปีเห็นคนตั้งเยอะเขาออกอัลบั้มกัน  รู้สึกร้อนใจมั้ย Ken: ไม่นะ  ได้แต่บอกตัวเองว่าของดีมักได้ช้าสุด Feng: งานคุณก็เลยเลื่อนแล้วเลื่อนอีก   กลับกันเป็นคนอื่นป่านนี้คงออกกันสองสามอัลบั้มแล้ว คุณเพิ่งออกได้แผ่นเดียวเอง Ken: นั่นซิ   แล้วผมอยู่ในวงการก็เกือบหกปีแล้ว Feng: ขนาดนั้นแล้วเหรอ Ken: ผมเข้ามาตั้งแต่ยี่สิบ ปีนี้เดือนมกราก็จะย่าง 26 แล้ว เสียงประกอบคลิป จูเสี้ยวเทียนที่เข้าวงการมาได้เกือบ 6 ปีในที่สุดก็ได้ออกอัลบั้มเป็นผลสำเร็จ  แต่เรื่องที่น่าตกใจคือ หลังเซ็นต์สัญญากับบริษัท  ทางต้นสังกัดกลับส่งเขาไปเป็นคนทำงานเบื้องหลังของรายการบันเทิงต่าง ๆ นอกจากต้องดูแลคนดูและสร้างบรรยกาศระหว่างการถ่ายทำ  ยังต้องดูแลอารมณ์ของศิลปินด้วย   ซึ่งสำหรับจูเสี้ยวเทียนหลังจากการได้เป็นศิลปินดังสิ่งที่ยังคงทำให้เขามีความสุขก็คือการได้สลัดคราบ คนดังทิ้งและได้ทำดนตรีที่เขารัก Feng:   ตอนเอฟซื่ออายุ 20  ไม่ใช่ใช่มั้ย Ken: ไม่ใช่ ๆ  ตอนอายุ 20 เพิ่งเข้าวงการยังไม่มีงานอะไรมาก   นอกจากทำพาร์ทไทม์ก็ไปทำงาน เบื้องหลังกับรายการต่าง ๆ   Feng: คุณโดนค้นพบที่ร้านอาหารซินะ  แต่ถึงเซ็นต์สัญญากับบริษัทก็ไม่ใช่ว่าจะมีงานเลย ทำเบื้องหลังมาได้นานเท่าไหร่ Ken: ประมาณปลายปีของปีแรกถึงได้งานชิ้นแรก Feng: งานที่ว่าคือเป็นงานแสดงใช่มั้ย Ken: ใช่ Feng: งานเบื้องหลังที่ทำเป็นพวกครีเอทีฟรึเปล่า Ken: ไม่ใช่  คืออยู่หน้างาน  ออกนอกสถานที่ไปช่วยเขาทำนู่นทำนี่  ดูแลคนดูสร้างบรรยากาศ Feng: ดูแลคนดูเหรอ   แบบคนดูเยอะแยะคุยกันจุ๊กจิ๊ก  นั่งมั่งยืนมั่ง  มั่วไปหมดก็ต้องทำให้อยู่ ในระเบียบ Ken: ใช่  แบบพวกเป็นใคร  มาจากโรงเรียนอะไร มา ๆ  เล่าเรื่องตลกกันหน่อย ช่วยสร้างบรรยากาศในสถานที่ถ่ายทำ Feng: คุณทำเรื่องอย่างนี้เป็นเหรอ Ken: ยังใช้ได้นะ  มันสนุกดี  เพราะเวลาอยู่ในสตูคนดูบางทีไม่เข้าใจก็จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย Feng: ก็ต้องบอกพวกเขาก่อน Ken: ใช่   Feng: แบบตรงนั้นเป็นใคร  ตรงนี้เป็นใคร   ถ่ายได้ไม่ได้  เดี๋ยวใครจะมา  ปิดโทรศ้พท์ด้วยนะ Ken: บางทีคนดูก็จะวิ่งมั่วไปหมด  ถ้าไม่บอกละเอียด  บางทีศิลปินนั่งแต่งหน้าอยู่เกิดมีคนดูโผล่ พรวดเข้าไปมันก็ไม่ดีกับตัวศิลปินเขา Feng: ถ้าเจออย่างนั้นก็จะต้องโดนว่าซินะ  เพราะรับผิดชอบตรงส่วนนี้   ทำงานนี้นานเท่าไหร่ Ken: ประมาณ 5-6 เดือน Feng: ไม่ถือว่าสั้นนะ Ken: ใช่  นานพอควร Feng: อย่างนี้คุณน่าจะต้องร่าเริงมาก Ken: ไม่ใช่  555 Feng: คือดูไปในสี่คุณให้ความรู้สึก  เงียบขรึมพอควร Ken: ไม่ใช่เงียบขรึมเพียงแต่มีอะไรจะเก็บอยู่ข้างใน  ผมก็ไม่ใช่เป็นคนอารมณ์ดีด้วย เพียงแต่เวลามันเกิดมันจะอยู่ข้างในหมด Feng: เรื่องที่อารมณ์คุณไม่ค่อยดี  ก็เป็นเรื่องที่ฉันเพิ่งรู้เหมือนกัน  555 แต่กับเรื่องดนตรีแล้วคุณแน่วแน่มา  ทราบว่าในแต่ล่ะคอนเสิรต์คุณจะแสดงโดยมีกีต้าร์ ร่วมด้วยเสมอ Ken: อืมม์  ผมชอบ  ผมชอบอะไรที่จริงแท้  ที่เข้าใกล้กับความเป็นจริง Feng: เข้าใกล้กับความเป็นจริง   ในอัลบั้มนี้เราคงจะรู้จักคุณมากขึ้นจากดนตรีซินะ Ken: รวมถึงที่ว่าผมเต้นรำไม่ได้จริง ๆ  555  ส่วนใหญ่เป็นไอด้อลมันต้องเต้นได้ไม่ใช่เหรอ Feng: โธ่  อู๋เจี้ยนหาวเต้นเก่งเกินตะหาก  ไม่ใช่ว่าพวกคุณเต้นไม่ได้ซักหน่อย  ต้องว่าเขาเก่งเกิน เราต้องให้คนอื่นเขาพูดมั่ง  วันนี้เขาออกอัลบั้มมาดูซิคนเขาพูดถึงจูเสี้ยวเทียนกับดนตรียังไง CaiZiPing: เขาเป็นคนที่จะถูกดนตรีทำให้ซาบซึ้งได้ง่ายมาก  อย่างตอนถ่าย love strom ในเรื่องต้องมี การร้องเพลงประกอบ  Inside of my guitar   ประมาณตีสามตีสี่เขาโทรมาร้องไห้ ฉันก็ถามว่าร้องทำไม  เขาว่าเนื้อร้องมันซึ้งมาก Rainie: อยู่ในกองถ่ายต้องเห็นเขาถือกีตาร์นั่งร้องเพลงตลอด  ซับหน้าเติมแป้งก็ยังนั่งร้องเพลงอยู่นั่นแหละ จะหวีผมหรือทำอะไรเล่นตลอด  ต้องบอกว่าดนตรีเขาหลากหลายมาก  บางครั้งก็ร๊อค  บางทีก็แจ๊ส หรือ บัลลาด  บางทีก็เพลงจีน   เขาบอกฉันว่าเขาจะต้องทำอัลบั้ม  ไม่ว่าจะได้แต่งแค่สองสามเพลง  หรือคนอื่น แต่งให้  ยังไง ๆ ก็ต้องทำให้ได้อยู่ในเกณฑ์ที่เขาพอใจเขาถึงจะออกมัน 12ShaoOwner:  นิสัยเขาเหมาะกับการทำงานโปรดิวซ์  อย่างงานดนตรีมากกว่า  เหมาะที่จะอยู่เบื้องหลัง          บ่อยครั้งหลังปิดร้าน  เก็บร้านได้ที่แล้วเราสองคนก็จะนั่งดื่มเบียร์ร้องไปเล่นกีตาร์ไป          เขาชอบร้องบีเทิล  อย่าง let it be เป็นต้น จากคุณ : susijang - [ 1 ก.พ. 48 21:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เสียงประกอบคลิปจูเสี้ยวเทียนที่อยู่ในเอฟซื่อ  มักเกิดอาการอยากวิ่งหนีก่อนจะขึ้นเวทีเสมอ  ความกดดันจากความดัง ถึงกับทำให้เขาไม่รู้จะทำตัวยังไง  การได้เห็นพวกเขาดังทั่วเอเชียวิ่งวุ่นไปทั่ว  เรากลับพบความสามารถทางด้านดนตรี ของเขา Feng: นี่จะบอกให้  เห็นพวกเธออย่างนี้แล้วต้องบอกว่าน่าสงสารจริง ๆ  ช่วงนั้นยุ่งจนไม่รู้จะยุ่งยังไงแล้ว ทั้งถ่ายหนัง  เล่นคอนเสิรต์  แล้วคุณก็บอกว่าไม่มั่นใจในการเต้นของตัวเอง  ถ้าไม่มีเวทีแล้วก็ไม่มี เพลงของตัวเองแล้วจะเปิดคอนเสิรต์ได้ยังไง   อย่างนี้คุณก็ต้องรู้สึกละอายแก่ใจเหมือนกัน Ken: ใช่   คุณรู้มั้ยเวลาก่อนเริ่มคอนเสิรต์เราต้องนั่งแท่นไฮโดริคขึ้นไป   ทุกครั้งที่แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่ตรงนั้น ผมจะคิดตลอด  หันหลังหนี ๆ   แต่ทุกครั้งที่หันหลังกลับก็จะเจอ staff อยู่ข้างล่างแล้วก็ยกนิ้วเชียร์อยู่ตรงนั้น คราวนี้จะหนีก็หนีไม่ได้  ได้แต่หันกลับขึ้นไปแต่โดยดี Feng: คงต้องบอกว่าเป็นเพราะดังเร็วเกินไป  และทุกสิ่งที่เกิดก็มีส่วนมาจากละคร การโด่งดังอย่างรวดเร็ว  ถ้าพูดถึงในแง่การเงินมันเป็นเรื่องดี  ทำเงินได้ทันที แต่พวกคุณทั้งสี่ ก็ไม่มีใครเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้น   Ken: ช่วงนั้นต้องบอกว่าละอายใจมาก  ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถอะไรนักหนา   ผมอาจรู้แต่เรื่องที่รู้ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจ   Feng: ที่พูดเมื่อกี้คือเจ้าร้านใช่มั้ย ..  ที่อยู่ในร้านมืด ๆ   เวลาพักก็จะนั่งเล่นกีตาร์กับเจ้าของร้าน ดื่มไปเล่นไป Ken: ใช่  นั่งเล่นนั่งคุย Feng: แต่เมื่อถึงเวลาแสดงจริง ๆ  คงไม่สามารถเอาไอ้สิ่งที่เล่นนั่นมาแสดงหรอกนะ   แต่คุณก็มีอยู่แค่นั้น ก็ต้องนำมันออกมาแสดง  ตอนนั้นในใจคง Ken: จะกลัวมาก ๆ   ฝึกเล่นจนเลือดออกตามนิ้ว  เพราะตื่นเต้นแล้วใกล้ขึ้นเวทีด้วย เวลาขึ้นเวทีมืองี้สั่นไปหมด  กีต้าร์ก็ไม่ใช่เล่นได้ดีมาก  แต่หน้าก็ต้องแสดงเหมือนสนุกมาก Feng: รอยยิ้มเพื่อการค้า Ken: แต่มันอยากจะร้องไห้เต็มแก่แล้ว  แต่จะทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ Feng: เมื่อกี้เห็น MV แล้วดูการร้องเพลงของคุณ  รู้สึกคุณดูจะไม่เกร็งเหมือนแต่ก่อน Ken: ใช่ซิ  ก็เก็บกดมาตั้งหลายปี Feng: ตั้งสามปีล่ะนะ Ken: แต่ถ้ารวมเวลาทั้งหมดที่กักเก็บมันไว้  รวม ๆ ก็เกือบ 6 ปี   ทุกอย่างที่อยากแสดงออก ก็ได้ออกมาในอัลบั้มนี้แหละ Feng: เจ๊ไฉ่บอกว่ากลางดึกคุณจะโทรศัพท์ไปทะเลาะกับเขา Ken: ทะเลาะ  ตอนนั้นถ่าย love strom  พวกเขาก็ว่าจะเอาเพลงฝรั่งเก่ามาประกอบ ก็เพราะเรื่องเพลงนี้แหละทะเลาะกัน  แบบเขาว่าอันนั้นถูก  ผมก็ว่าอันนี้ถูก  สองคน ก็มานั่งคิดกันว่าจะเอายังไง   พอเขาว่าเนื้อต้องแก้  ผมก็ว่าแก้ไม่ได้  ก็ทะเลาะกันแบบนี้แหละ กลางคือก็จะโทรไปหา  ประมาณผมว่ามันต้องอย่างงี้  มันแก้ไม่ได้ ฯลฯ ยังไงก็ตามเพลงนั้นเป็นเพลงที่อัดแล้วมีความสุขมาก   Feng: จริงเหรอ Ken: จริงครับ Feng: แล้วสุดท้ายใครชนะ Ken: ปรากฏว่าที่ทะเลาะกันนะ เสียเวลาเปล่า  เพราะตรงที่ต้องการแก้เอาไปให้ผู้รู้ดูเขาว่าแก้ไม่ได้หรอก มันโดนบังคับไว้แล้ว  แก้ไม่ได้ Feng: แต่การที่ได้ทะเลาะกันมันจะทำให้ผู้จัดการได้รู้จักคุณมากขึ้น  เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่คุณอยากจะพูด เป็นความคิด  ความรู้สึก และจุดยืนของคุณ   นักแสดงมีจุดยืนของนักแสดง  ผู้จัดก็มีจุดยืนของเขาเช่นกัน Ken: สมัยก่อนที่ทำเบื้องหลัง  ผมก็เจอบ่อยแบบศิลปินอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้  พวกผมก็จะแอบกระซิบกันอยู่ข้าง ๆ ว่า อย่าไปสนใจมัน  ช่างมัน   คือผมก็เข้าใจ 555  เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็แค่เอาหลักใหญ่ให้ได้เป็นพอ Feng: ในพวกเธอสี่คนคงต้องนับว่าคุณเป็นนักประสานซินะ Ken: ก็พอประมาณ Feng: รูปนี้ดูไม่ค่อยเหมือนคุณนะ Ken: นี่เป็นรูปแรก ๆ ที่ถ่ายตอนเข้าบริษัท  น่าจะเป็นรูปถ่ายครั้งที่สองสำหรับประชาสัมพันธ์ Feng: เข้าวงการมาก็ผมทรงนี้ Ken: ใช่ครับ Feng: ไม่ได้เปลี่ยนเลยซินะ Ken: ใช่  ความยาวก็อยู่ประมาณนี้นี่แหละ Feng: คุณเป็นนักประสาน  ที่คุยเมื่อกี้ว่าในสี่คนคุณดูเหมือนจะเป็นตัวกลางเสมอ  เรื่องที่ต้อง ประสานบ่อย ๆ คือเรื่องแบบไหน Ken: ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ต้องติดต่อกับคนภายนอก  น่าจะเป็นเพราะผมเคยทำหน้าที่ดูแล คนดูมาก่อน  ฝีปากก็ฝึกมาค่อนข้างจะคล่องแคล่ว  ช่วงที่ออกมากันใหม่ ๆ เวลามีสัมภาษณ์ พวกเขาจะไม่ค่อยกล้าพูดอะไรมาก  เพราะบางครั้งสื่อก็ถามอะไรที่ทำให้เราไม่รู้จะตอบยังไง ผมว่าตอนนั้นผมค่อนข้างจะ handle ตรงนั้นได้ค่อนข้างดี  อย่างเวลาใครเอาพวกเราไป เทียบกับอะไร ๆ  คือแล้วพวกเราควรจะพูดอะไร  ผมก็ได้แต่พูดว่านั่นเป็นเกียรติของพวกเรา Feng: หลังจากที่คุณพูดคำนี้ไปแล้ว อีกสามคนคงมองคุณด้วยสายตานับถือซินะ Ken: โธ่  ไม่หรอก Feng: นั่นเป็นคำตอบที่ดีมากเลยนะ Ken: นั่นก็ใช่  แต่สิ่งที่เกิดกับเราสี่คน  เป็นเรื่องของการเวียนหน้าที่กัน ถ้าวันนี้ต้องการถ่ายภาพ    มา ๆ ขอท่าโพสหน่อย   เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว โพสก็ไม่ค่อยเป็น นั่นแวนเนสเดินหน้าดิ 555   บางครั้งตายล่ะ  บรรยากาศกร่อย ๆ เอาไงดี  ไจ๋ ๆ คุยเรื่องตลกหน่อย Feng: คุณต้องคอยคุมคิวด้วยเหรอ Ken: เปล่า  ไม่ใช่  มันกลายเป็นอัติโนมัติไปเลย   บางทีไม่ได้แล้วงานนี้ขอเท่ห์ ๆ  Yan Cheng Xu ไปที Feng: 555 Ken: มันจะเป็นอย่างนี้ตลอด Feng: คุณนี่รู้จักผลักภาระนะ  เคยทำเบื้องหลังนี่รู้ดีเทียวจะสร้างบรรยากาศหรือแก้ไขปัญหายังไง แต่ยังไงคุณก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วกว่าคนอื่น Ken: มันเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นมากกว่า   หลัง ๆ พวกเขาก็...ลื่นแล้ว Feng: ลื่นซะ  ช่วงระยะเวลาที่พวกคุณเป็นเอฟ4 อยู่ด้วยกัน  ก็เป็นระยะที่ค่อนข้างนานทีเดียว Ken: เป็นเวลาที่ค่อนข้างทรมานเหมือนกัน   ไม่ใช่อะไรหรอก  เพราะออกไปพร้อมกันสี่คนทีไร มันจะป่วนไปหมด   ป่วนมาก   ต้องมีคนบาดเจ็บแน่นอน Feng: แรก ๆ คงแปลกใหม่นะ  แต่ตอนหลังคงเหมือนภาระ Ken: ใช่  โดยเฉพาะเวลาไปโปรโมทหรือร่วมงานที่จีนแผ่นดินใหญ่  แฟน ๆ แถบนั้นจะค่อนข้าง คลั่ง  บางทีก็กลัวเหมือนกันนะ Feng: กลัวว่ามันจะเกิดเหตุอะไรขึ้น Ken: ใช่  ถ้าพวกเขาบาดเจ็บมันจะเป็นยังไง   พูดตามตรงบางทีก็กลัวต้องออกไปพร้อมกันสี่คน เพราะเรื่องของการรักษาความปลอดภัย Feng: ระหว่างพวกคุณสี่คนมีความทรงจำมากมาย   แต่นอกจากเรื่องความปลอดภัยที่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัว มันต้องมีความทรงจำอย่างอื่นด้วย  มีเรื่องสนุก ๆ อะไรบ้าง  อย่างเมื่อกี้เห็นอู๋เจี้ยนหาวสอนพวกคุณเต้นรำ Ken: พูดถึงเรื่องสนุก ๆ  เรื่องที่จำได้แม่นสุดคือเรื่องที่เพิ่งเกิดเร็ว ๆ นี้  ปกติเมื่อก่อนเวลาออกมาพูด ก็จะพร้อมกันสี่คน   ผมเป็นคนที่สามารถตัวอยู่นี่แต่ใจไปแล้วแบบนั้น   Feng: ยังไง Ken: ก็แค่หันไปแล้วผมก็ไปอยู่ในภวังค์ของผม Feng: โห  มีความสามารถแบบนี้ด้วย Ken: อันนี้ฝึกเอา  ก็อยู่วงการนี้ต้องฝึกให้ได้ยินแต่เหมือนไม่ได้ยิน   สมมติว่าถึงคิวไจ๋พูด ผมก็ไปคิดเรื่องของผม  พักมันพูดใกล้จบก็จะกลับมา  แต่ถ้าต้องพูดคนเดียวมัน ค่อนข้างลำบาก  พูด ๆๆๆ เสร็จ แล้วก็โล่ง....  ขอโทษครับ ถึงไหนแล้ว Feng: เพิ่งรู้สึกละซิ  ว่าข้อเสียของการไม่มีเพื่อนมันเป็นไง Ken: แย่มากเลยล่ะ Feng: เมื่อก่อนนอกจากจะแอบเข้าภวังค์แล้วผมยาวยังปิดหน้าปิดตาอีก  สายตาก็หลบได้ Ken: บางครั้งกลับจากภวังค์แล้วได้มุขขำ ๆ ก็จะแอบกระซิบกะไจ๋ได้  แล้วให้ไจ๋ไปปล่อยต่อ Feng: แต่เวลาที่ทั้งสี่จะได้อยู่ด้วยกัน  ยิ่งมาก็ยิ่งน้อย Ken: ช่วงนี้ยากมาก ๆ Feng: คิดถึงมั้ย  ถึงอยู่กันสี่คนมันจะน่ารำคาญบ้าง Ken: คิดถึงซิ   ช่วงนั้นเป็นเวลาที่พวกเรายังใสซื่อกันอยู่   และไม่คิดมากด้วย จากคุณ : susijang - [ 1 ก.พ. 48 21:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ให้ไวๆๆๆๆ พี่ปาป๋อง แปะต่อๆ...... จากคุณ : Z-rebrum - [ 1 ก.พ. 48 22:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อโหน่ยยยค๊าบบบบ งี๊ดดดดด จากคุณ : K e n S i e S ~ - [ 1 ก.พ. 48 22:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณปาป๋องค้าบบบบบบ มารับผิดชอบด่วนเยยยย เค้าติดลมแย้วอ่ะ จากคุณ : nokalways - [ 1 ก.พ. 48 22:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลืมแซว... ดูรายการนี้แล้วค่อนข้างชอบที่เดียวเพราะเสี้ยวเทียนคุยเรื่องความรักเยอะม๊าก  ดูแล้วอยากได้เป็นแฟนจริง ๆ โฮะโฮะ /// เด๋วนี้เปี่ยนใจมารักอ้วนแย้วเหยอพี่ปาป๋อง หุหุ จากคุณ : Z-rebrum - [ 1 ก.พ. 48 23:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วงนี้ใช้ 56 เค  อนาถาหน่อย  อาจจะหายไปนานหน่อย 55 ********************************************* เสียงประกอบคลิปถึงแม้ต้องรับภาระแรงกดดันจากความดังชั่วข้ามคืนของเอฟ 4  แต่จูเสี้ยวเทียน ก็ยังระลึกถึงช่วงเวลาของการอยู่ร่วมกันของทั้งสี่คน  ตั้งแต่เอฟ4 เปิดตัวเขาก็ทำหน้าที่ฝ่ายประสานงาน ในวง  แต่ที่เราไม่ทราบคือทุกครั้งที่ถ่ายละครจบหนึ่งเรื่องจูเสี้ยวเทียนต้องไปขอขมาผู้กำกับเสมอ ถึงขนาดเคยเกือบมีเรื่องกับผู้กำกับ  เพราะผู้กำกับพูดจาหยาบคาย  ด้วยนิสัยแบบนี้ไม่ว่าจะในหรือนอก ละครก็แทบจะทำให้ตัวเองเป็นบ้าไปแล้ว ChaiZhiPing: เขาเคยบอกฉันว่า  การที่เขาดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  เขารับไม่ค่อยได้  เขาขอที่จะเป็น     คนทำดนตรี  หรือเริ่มต้นจากนักแสดงตัวเล็ก ๆ ค่อย ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ   จากเด็กเสิร์ฟ     ในร้านแค่พริบตาเดียวกลายเป็นคนดัง  เขามักจะมีความรู้สึกเหมือนเรื่องที่เกิดไม่ใช่ความจริง XiaoJu:     ครั้งแรกที่เห็นเสี้ยวเทียน  ผมจำได้ว่าเห็นเขาขี่มอไซค์แบบ 150 คันใหญ่มากที่ผลิตในประเทศ คล้าย ๆ กับฮาเล่ย์ปลอม  ห้อยหยกหรืออะไรสักอย่างแผ่นใหญ่ ๆ  ก็เท่ห์ดี  ผมยาวด้วย Rainie: ความรู้สึกแรกคือไอ้นี่ท่าทางจะเก๋า  ก็ตอนนั้นเขาทั้งอ้วนทั้งดำ  ก็คิดในใจ  ตายแล้ว   ในการ์ตูนเอฟ4ไม่ใช่อย่างนี้นี่  พอเห็นเขาก็รู้สีกเหมือน ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันมีบทพูด  แต่ก็ทำไม่ได้ดีนัก  เขาก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่านี่น้องจะเริ่มใหม่มั้ย ตอนนั้นโกรธมาก  แถมไม่สบายมีไข้ ก็เลยโมโหใหญ่  เลยบอกเขาไปคำว่า  ไปตายซะ เขาเป็นคนราศีมังกรจะเข้มงวดกับตัวเองมาก  ถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ก็จะดูเหมือน ค่อนข้างก้าวร้าว  บางครั้งเมื่อเขาแน่วแน่กับจุดยืนของตน  แต่ไม่สามารถสื่อให้คนรอบข้างเข้าใจ มันก็เลยง่ายที่จะเกิดความขัดแย้ง   แล้วในช่วงที่การขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นเขาจะเลือกทำตัวเงียบ จะไม่ยอมพูดยอมจา  เก็บทุกอย่างไว้คนเดียว Feng: รู้สึกจะมีแต่คนบอกว่าคุณอารมณ์ไม่ค่อยดีนักนะ Ken: นั่นซิ  เมื่อกี้ผมก็พูดนี่นา Feng: วันนี้คุณแย่แล้ว  ใช่มั้ยล่ะ  ตอน Rainie พูดถึงคุณ ท่าเธอ...555 คุณแกล้งแหย่เธอใช่มั้ย Ken: ใช่  ผมจงใจแกล้งเธอ  ก็เขาน่ารักมาก  เลยทนไม่ไหวต้องตามแหย่ ตั้งแต่สมัย MG แล้วที่ชอบแกล้งเธอ  ตอนแรก ๆ เธอไม่สนิทกับผม แล้วก็ยังเล็กมากด้วย  เขาจะรู้สึกว่าผมน่ากลัวมาก  หลัง ๆ เขาก็เห็นผมนอนบนพื้น ไม่ใส่เสื้อผ้าในกองถ่ายหลาย ๆ ครั้งมาก  แบบนอนหลับช่วงถ่าย MG Feng: เร่งถ่ายซินะ Ken: เขาก็เลยรู้ว่าผมเป็นคนทำอะไรตามสบาย   แต่เราก็ดีกันนะ  เธอน่ารักจริง ๆ Feng: พวกเขารวมถึงคนทำงานเบื้องหลังพูดถึงคุณว่า.... Ken: ตอนนั้นเพิ่งเซ็นต์สัญญาก็เลยต้องวิ่งไปออฟฟิศทุกวัน  พวกเขาทุกคนคือปากไม่ได้พูด แล้วก็เพิ่งพูดให้ผมฟังเร็ว ๆ นี้แหละว่า   พวกเราคิดว่านายไม่น่าจะดังนะ ผมก็ช่างมันเถอะ  แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ Feng: ฉันคิดว่าคนที่มาเป็นดาราถ้าเคยผ่านงานเบื้องหลังมา  มักจะเข้มแข็งกว่า เพราะคนที่เป็นเบื้องหลังมักต้องปลอบขวัญคนที่อยู่เบื้องหน้า   บ่อยครั้งที่ต้องพูดคำไม่จริงบ้าง แต่คุณมาจากเบื้องหลังอยู่แล้ว  พวกเขาก็คงไม่ต้องพูดคำปลอบใจปลอม ๆ กับคุณหรอก Ken: ผมก็กลัวพวกคำพูด โอ๋ ๆ เหมือนกันนะ  เพราะมันไม่ใช่วิธีที่จะแก้ไขปัญหา   แต่มันก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ล่ะคนด้วย   สำหรับผมถ้ามีปัญหาอะไรพูดมาตรง ๆ ดีกว่า Feng: นิสัยคุณแบบนี้เวลาถ่ายหนังก็... Ken: ลำบากมาก   ทุกครั้งที่ถ่ายละครจบเรื่องนึงผมต้องไปขอขมาผู้กำกับเสมอ ผู้กำกับครับหลายเดือนที่ผ่านมานี่ผมต้องขอโทษด้วย  ผมรู้ว่าผมยังเด็กมีหลายเรื่องยังจัดการได้ไม่ดีนัก อ้าว.... คุณรู้ตัวเหรอ     ครับ ๆ ผมรู้ตัวครับ Feng: มีอยู่ครั้งนึงฉันเห็นคุณถ่ายละครอยู่ในร้านอาหาร  ตอนนั้นฉันรู้สึกได้เลยว่าหน้าคุณนี่บูดสนิท คุณบอกฉันว่า...  เป็นละครเรื่อง love strom คุณว่ามันกดดันมาก Ken: เยอะซิ  การเป็นนักแสดงเป็นเรื่องลำบากจริง ๆ   การเป็นนักแสดงเหมือนการบีบคั้นตัวเองให้เป็นบ้า ครั้งแล้วครั้งเล่า  ถึงแม้อารมณ์ผมจะขึ้นลงเร็วแต่มันจะแสดงออกอยู่ภายใน   ผมไม่เคยแสดงมันออกมา แต่การแสดงบ่อยครั้งที่ต้องนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ต้อง  ฉันรักคุณรักจนตาย แล้วต้องแสดงมันออกมา Feng: แสดงให้โอเวอร์ Ken: เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก Feng: สำหรับคุณเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว  เพราะคุณเป็นพวกเก็บกด Ken: ยิ่งผมโกรธผมก็จะยิ่งเงียบขรึม Feng: คุณเคยต่อยกับผู้กำกับเพราะอะไร Ken: ไม่ ๆ ผมไม่เคยต่อยกับผู้กำกับ   มีแค่ครั้งเดียวที่ทะเลาะเมื่อนานมาแล้ว  แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของผม เพราะเขาด่าคน  ด่าแบบหยาบคายมาก  คุณก็ทราบผู้กำกับสมัยก่อนก็จะเป็นแบบนี้ Feng: แต่เดี๋ยวนี้ Ken: ถ้าเป็นผู้กำกับสมัยใหม่จะไม่เป็น  พอดีคนนั้นเป็นผู้กำกับรุ่นเก่า  ครั้งนั้นถือว่าค่อนข้างแย่ แต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่  เพราะตากล้องดึงผมไว้  แล้วหลังจากนั้นสามวันก็โดนถอดออกจากละคร Feng: ตอนที่โดนค้นพบที่ร้านอาหารคุณดีใจมั้ย Ken: ไม่  ไม่ได้รู้สึกดีใจเป็นพิเศษ  แค่บอกตัวเองว่ามันคงเป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่ง เพราะว่าก่อนอายุสิบหก  บ้านผมก็ผกผันมาสามรอบแล้ว  ต้องบอกรวยก็รวยมาก จนก็จนมาก พ่อผมเล่าว่าตอนผมเกิดเป็นปี 68(นับปีแบบจีน) พ่อซื้อรถBคู่มาหนึ่งคัน  ผมไม่รู้หรอกว่ามันหน้าตายังไง  แต่เท่าที่รู้ สมัยนั้นรถแทบจะไม่มีให้เห็น  อย่าว่าแต่รุ่น B คู่เลย  หลังจากนั้นผมก็เจอเรื่องแบบนี้อีกหลายครั้ง จนผมชักชินแล้วล่ะ  คนเราไม่มีอะไรยั่งยืนมันเป็นอย่างนี้จริง ๆ Feng: เพราะฉะนั้นคุณจะต้องมีแผนสำรองกับงานทุกชนิดซินะ Ken: กับงานทุกชนิดผมต้องมีทางถอยให้ตัวเองหนึ่งทางเสมอ  ต้องมีทางหนีเสมอ Feng: กับนิสัยอย่างนี้  ตอนที่คุณมีสัญญากับบริษัทแล้วโดนให้ไปทำงานเบื้องหลังตั้ง 5-6 อย่าง คุณก็ไม่ว่าอะไรหรือ Ken: ไม่เป็นไร  ยังไงก็ได้ Feng: ใช่  เพราะคุณเคยมีประสบการณ์พวกนี้มาก่อน  คุณถึงไม่ว่าอะไร  ถ้าไม่เคยเจอเรื่องพวกนั้น คุณอาจคิดว่า คนจะเป็นดาราทำไมต้องมาทำเรื่องพวกนี้  งานเบื้องหลังแบบนี้ Ken: ตอนที่ผมทำงานอยู่ร้านอาหารตอนนั้นผมก็เห็นมาจนเข้าใจหมดแล้ว Feng: ทำไมงั้นล่ะ Ken: คือร้านนั้นจะออกสไตล์กินเหล้าด้วย  พอดึกหน่อยก็จะเห็นพวกชายวัยกลางคน  คนทำงาน คนตกงาน รวมถึงพวกศิลปินทั้งหลายที่มีปัญหาเรื่องความรัก อะไรพวกนี้  พอมอง ๆ ไป ก็จะรู้สึกว่าเป็นดาราก็ไม่ได้ มีความสุขกว่าคนทั่วไป Feng: คุณแอบฟังเขาคุยกันเหรอ Ken: ก็มันได้ยินนะ Feng: เพราะฉะนั้นต้องระวังนะ  เวลาเลิกงานจะไปคุยกัน  เสียงให้มันเบาหน่อย Ken: ผมสามารถไม่ต้องมองแต่ได้ยินว่าอีกฝั่งคุยอะไร Feng: แสดงว่าเป็นคนเซ้นซิทีฟ Ken: ใช่  เซ้นซิทีฟมาก จากคุณ : susijang - [ 1 ก.พ. 48 23:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ....มารอจับผิดอ้วน... จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 1 ก.พ. 48 23:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พี่ปาป๋องสุ้ๆๆๆๆ..... ไจโกะเปนกำลังจายห้ายน้า พี่จำมัย จับผิดอ้วนอาราย หุหุ..... จากคุณ : Z-rebrum - [ 1 ก.พ. 48 23:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไวโหน่ยยยน้องปาป๋อง อ้วนง่วงงงงแย้ววว กร๊ากกกกก ห๊าววววววววววว จากคุณ : S and K - [ 1 ก.พ. 48 23:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เน็ตเต่าไม่เต็มใจเท่าไหร่   **************************************** การที่สามารถเข้าใจความลำบากของการเป็นคนดังตั้งแต่แรกเริ่ม  จูเสี้ยวเทียนจึงมีด้านของความเป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างมาก การแยกทางกันของบิดามารดา  ทำให้เขาต้องอยู่บ้านญาติ ๆ  พออายุ 9 ขวบก็บินไปอยู่สิงคโปร์เพียงลำพัง  ด้วยความที่แปลกถิ่น จึงทำให้โดนรังแกแม้ขณะนอนหลับในตอนกลางดึก  และที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือการล้มละลายอีกครั้งของครอบครัวทำให้เขาถูกบังคับ ให้เลิกเรียนและต้องรับจ้างทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเลี้ยงดูตนเอง   อาจเป็นเพราะล่องลอยไปมาหลายที่โดยที่ไม่เคยได้รับประกาศนียบัตร สักใบ แต่ต่อให้ต้องท้องหิวสักแค่ไหนเขาก็ตัดสินใจที่จะต้องส่งเสียน้องสาวให้เรียนให้ได้  เพื่อให้น้องสำเร็จการศึกษาจากปารีส XiaoJu:     สามารถเห็นถึงความดูแลที่เขามีต่อน้องสาวจริง ๆ  ถ้าน้องชอบอะไรเขาก็จะต้องพาน้องไปหาสิ่งนั้นให้ได้ อย่างสถาบันสอนทำอาหารตะวันออกที่ดีที่สุดในยุโรป  ใช้ส่วนผสมของอาหารที่ดีที่สุด และสิ่งของต่าง ๆ  เพื่อให้น้องสาว ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นเพื่อเรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุดในการทำขนมเค้ก หรืออะไรที่น้องเขาสนใจ Rainie: เขาพูดถึงน้องสาว  แม่  พ่อ  แบบทั้งบ้านบ่อยมาก   แล้วก็รักน้องสาวมาก ๆ  เหมือนน้องเขาจะไปเป็นเชฟที่ฝรั่งเศสมั้ง เขาก็สนับสนุน น้องสาวเต็มที่   การที่เขาขยันหาเงินทั้งหมดก็เพื่อคนทั้งบ้าน     บางครั้งฉันเล่นบทร้องไห้ได้ก็เพราะเขานะ  เขาจะแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวเขา  บางทีก็จะบอกว่าสมัยก่อนต้องอดมื้อกินมื้อ และส่วนใหญ่ของที่ได้กินก็มักจะเย็นชืดหมดแล้ว Feng: เป็นเพราะฐานะทางบ้านขึ้น ๆ ลง ๆ เลยไม่สามารถส่งเสียคุณได้  แต่ว่าคุณเคยอยู่เมืองนอกนี่ Ken: ตอนเริ่มแรก...  เนื่องจากพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ผมยังเด็ก  ตั้งแต่อยู่อนุบาล  ก็อยู่กับญาติตลอดอยางคุณน้าเป็นต้น พอแปดหรือเก้าขวย  ตอนป.สี่  อยู่ ๆ แม่ก็บอกว่าไปอยู่สิงคโปร์นะได้เรียนภาษาอังกฤษด้วย  ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็จะให้ไปก็ไปซิ ไม่คิดเลยพอไปคราวนี้มีผมต้องอยู่คนเดียวตลอด Feng: แล้วอยู่บ้านใครนะ Ken: อยู่โฮมสเตย์  เปลี่ยนไป3-4 บ้าน  โดนรังแกกลางคืนโดนตี Feng: โดนใครตี  เด็กหรือ Ken: คนที่อยู่ด้วยกัน  เพราะมีผมเป็นคนไต้หวันคนเดียว  ที่เหลือจะเป็นคนไทย  คนอินโด Feng: โฮมสเตย์ คือการไปอยู่บ้านคนอื่นไม่ใช่เหรอ Ken: ใช่อยู่บ้านคนอื่น Feng: แล้วทำไมเด็กเยอะล่ะ  ไม่ใช่มีเด็กแค่คนสองคนหรือ Ken: ใช่  ก็โดนคนนั้นแหละรังแก Feng: โดนคนข้าง ๆ คนนั้น รังแก Ken: ตอนหลังเรียนไม่ไหวแล้ว  เงินก็ไม่มีจ่ายค่าเทอมที่บ้านเกิดเรื่องแล้ว  ก็เลยกลับมาเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ ไม่ได้พูดอะไรกับแม่แค่บอกว่าจะกลับไทเป  กลับไปก็ไม่ได้ไปหาพวกเขา  แล้วก็หางานทำเลย Feng: อายุเท่าไหร่ Ken: อายุ 16 ก็เริ่มทำงานแล้ว  พอ 17 ก็ไม่เคยขอเงินทางบ้านอีกเลย  จนถึงตอนนี้ จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 00:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แง๊ว...ไปอาบน้ำกลับมา เทียนยังมาไม่ถึงอีกเหยอฮับ... ..เต่าไล่งับแย๊วฮับเพ่ปาป๋อง... //พี่จำมัย จับผิดอ้วนอาราย หุหุ..... // มานมีรัยให้จับก็จับหมดแหละ จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 00:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Feng: เคยทำงานอะไรบ้าง Ken: เยอะมาก  กลับมาตอนแรกเคยทำอยู่ร้านน้ำชา  เป็นคนเปลี่ยนเพลงในคาราโอเกะ  ร้านอาหารฝรั่ง  คนเดินเอกสาร  กรรมกร  เฝ้าโกดัง เสริมสวยสัตว์เลี้ยง  จนกระทั่งทำงานกับ 12shao Feng: เสริมสวยสัตว์เลี้ยง Ken: ผมทำหมาทำแมวได้นะ (ทำมือประกอบอาบน้ำ) Feng: จริงเหรอ  เป็นเพราะทำได้อยู่แล้ว  หรือเพราะได้งานถึงทำเป็น Ken: รับจ๊อบพาร์ทไทม์ก็ต้องทำไปฝึกไป Feng: คุณนี่ต้องรอบด้านจริง ๆ Ken: เวลาไม่มีเงินกินข้าวก็ต้องทำได้หมด Feng: คุณต้องเก่งด้านคำนวนเงินซินะ Ken: ไม่เลย  ผมคิดเรื่องเงินไม่เป็นเลย   จนตอนนี้มีเงินเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้ Feng: แหม  คิดว่าคุณจะเป็นประเภทคิดสะระตะไปหมด Ken: ผมก็แค่  ไม่แคร์กับคำว่าเงินมากนัก   ไม่มีเงินนะก็ไม่ได้  แต่ไม่ถึงกับต้องกอดมันไปนอนด้วย Feng: เป็นเพราะคุณมั่นใจในตัวเองว่ายังไงก็หางานทำได้ Ken: หลักของผมอยู่ที่ว่ามีหรือไม่มีเงินผมก็อยู่ได้  เดือนนึงผมได้แค่ 20000 ผมก็อยู่ได้อย่างมีความสุข สุขแล้วขอให้มีการ์ตูนดู Feng: กำลังจะถามพอดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข   การ์ตูนหรือ Ken: ไม่ใช่  ตอนนี้สิ่งความสุขของผมคือครอบครัว Feng: เริ่มรับภาระดูแลครอบครัว Ken: เริ่มมาช่วงสามปีหลังนี่แหละ  ส่วนใหญ่จะเป็นผมคอยดูแล  และปีนี้น้องสาวไปเรียนที่ปารีสอีก  แพงมากเลย เมื่อก่อนไปเมืองนอกพอเห็นของเล่นอะไร  เพราะตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยมีของแบบนี้  อยากซื้อจัง จริง ๆ ก็ไม่ได้แพงมากมาย แต่ว่าเพื่อค่าเทอมกับค่ากินอยู่ของน้องอย่าซื้อเลย Feng: จริง ๆ เลยนะ  ที่เห็นนะก็มีแต่ อู๊ย ... พวกเธอหล่อมาก  ตอนนี้เป็นยังไง  แล้วทำอะไร  มีกิจกรรมอีกแล้ว  ไปไหนอีกแล้ว แต่ไม่รู้สิ่งที่อยู่เบื้องหลังเลย Ken: มันก็ไม่เท่าไหร่หรอก  ของมันมีขึ้นมีลง จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 00:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รออ่าน..รออ่าน.. คุงปาป๋อง..สู้ๆๆๆๆๆ เจียโหยว..เจียโหยว.... วี๊ดดดดดด... บึ้มมมมมม จากคุณ : nokalways - [ 2 ก.พ. 48 00:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Feng: ไม่เปิดเผยตัวสักเท่าไหร่  ไม่เสี้ยมเขาควาย Ken: ป่าว  ผมชอบเสี้ยมเขาควาย Feng: จริงอ่ะ Ken: ผมชอบมาก  ทำจนสุดขอบเลย Feng: คุณนี่ท่าจะอยู่ด้วยลำบาก Ken: ใช่  ผมอยู่ด้วยยากมาก  ยากมาก ๆ   ผมราศีมังกร  เลือดกรุ๊ป AB (ใครพอจะรู้มั้ยไอ้เลือดกรุ๊ปนี้มันเป็นไรนักหนา ทำไมชาวบ้านมันกลัวจัง) Feng: โอ๊ย  รำคาญตายเลย Ken: ที่บอกว่าเจ๊ไฉ่มาตามผมไปเซ็นต์สัญญา  จริง ๆ ก่อนหน้านั้นก็มีมาหลายเจ้านะ  แต่Feedback ทุกเจ้าจะเป็นแบบนี้ คุณราศีอะไร   มังกร   ห๊า..   แล้วเลือดกรุ๊ปอะไร  AB  ห๊าาา...   ประมาณแบบขอบคุณแล้วจะติดต่อทีหลัง Feng: ตัวคุณเองคิดว่าเป็นเพราะมีนิสัยที่ควบคุมไม่ได้เหรอ Ken: ไม่ใช่ว่าควบคุมไม่ได้   นิสัยผมมันประหลาดอยู่แล้ว Feng: ดูเหมือนมีความขัดแย้ง Ken: ตัวผมเองก็คือความขัดแย้ง  ผมจะขัดแย้งกับตัวเองทุกวัน  ถ้าไม่มีการขัดแย้งผมอยู่ไม่ได้  เหมือนมันไม่มีคุณค่า ความคิดหลายอย่างของผมเกิดขึ้นเวลาที่ผมขัดแย้งกับตัวเอง Feng: คุณเป็นคนลึกลับนะ Ken: ผมแค่ low profile (นึกคำไม่ออกจริง ๆ  เพราะเทียนไม่ได้หมายความว่าตัวเองติดดิน)  ไม่ได้ลึกลับอะไรหรอก แต่การทำตัว low profile ก็ไม่ได้เจตนานะ  ตอนแรก ๆ เป็นเพราะปัญหาบางอย่าง ผมถามบริษัทว่า  แล้วจะทำยังไง เป็นศิลปินแล้วห้านไปร้านกลางคืนเหรอ  ส่วนตัวผมต้องทำยังไง   บริษัทก็บอกว่างานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นแบบอย่างอย่างหนึ่ง ถ้าคุณคิดอยากจะสร้างผลกระทบ(influence)กับคนแบบไหนคุณก็ต้องตัดสินใจเอาเอง   แล้วบังเอิ๊ญดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ตอนแรกสุดได้ไปออกรายการของเจ๊เถา(รายการทำกับข้าว)  แล้วโดนถามว่าครั้งแรกนะเมื่อไหร่  ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็ตอบไปว่าครั้งแรกอายุ 16 ตอนหลังเข้าไปดูในเน็ตถึงพบว่ามีเด็กผู้หญิงเยอะมากที่บอกว่า จะทำแบบนั้นบ้างตอนอายุเท่านั้น  ตอนนั้นถึงได้รับรู้ว่ามีคนดูเราอยู่ เลียนแบบเราอยู่จริง ๆ นะ  บวกกับว่าตอนนี้ก็เป็นอาคนเหมือนกัน  หลานเด็ก ๆ เวลาดูทีวี  แรกยังแยกผมกับหวังลีหงไม่ออก  เห็นหวังลีหงเรียกจูเสี้ยวเทียน เห็นจูเสี้ยวเทียนเรียกหวังลีหง  พอตอนนี้เริ่มแยกออกแล้วก็จะถามว่า  วันนี้อาไปอยู่ในทีวีไปทำอะไร  พูดอะไร ๆๆ  ผมก็เลยยิ่งระวังตัวเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ก็เลย....  บอกตามตรงผมก็ไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไรในบางด้าน  แล้วก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเองนัก  ถ้าไม่มีงานก็ หนวดเคราไม่โกน ผมไม่หวีออกจากบ้านไปทั้งอย่างนั้น   พอรู้ว่ามันเป็นอย่างงี้ก็เลยคิดว่าอย่าออกจากบ้านดีกว่า   จะได้ไม่มีข่าวเสี้ยวเทียนสูบบุหรี่โดนคนถ่ายได้ ฯลฯ Feng: ต้องผ่านเรื่องบางอย่างคุณถึงจะรู้ใช่มั้ย Ken: อือม์ จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 00:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...หุ หุ ไฮสปีดของพี่ปาป๋องกลับมาเลี้ยว...ห้านาทีต่อคห. แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 00:25:39 จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 00:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การเป็นศิลปินดังต้องทนต่อการติดตามจากสาธารณะ  แต่เสี้ยวเทียนที่พยายามจะทำตัว low profile ก็ไม่อาจหลบพ้นเงื้อมมือของปาปารัชชี่  ถึงกับได้ภาพ ความสัมพันธ์ของเสี้ยวเทียนกับมาอิ  และสำหรับเสี้ยวเทียนเมื่อหลายปีก่อนเพราะมีปัญหาทางการเงินถึงกับทำลายแผนหนีตามกันไปของเขาและแฟนสาว และเสี้ยวเทียนถึงกับบอกว่าผู้หญิงที่สามารถทนคบกับเขาได้เกินสามเดือน  เขารู้สึกนับถือจริง ๆ ChaiZhiPing:อย่างพวกเขาทำงานทุกวัน  แรงกดดันก็เยอะ  ลำบากมากจริง ๆ  การมีอีกคนมาช่วยเติมเต็ม แบ่งเบาก็ดี   ถ้าผู้หญิงคนนั้นสามารถพูดคำพูด ที่ทำให้เขาตื้นตัน  ซึ้งใจได้  ฉันว่าเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้แล้ว 12ShaoOwner:  ในเรื่องความรักเขาเป็นคนที่เรียกร้องสิ่งที่สมบูรณ์แบบในความรัก  ถ้าเขามีความรักก็คงจะตกอยู่ในหลุมนะแหละ  และดีกับผู้หญิงคนนั้น เขาชอบผู้หญิงแบบอ่อนโยนอ่อนหวาน  ตัวเล็ก ๆ หน่อย (แถวนี้หมดสิทธิ์เป็นแถว) Rainie: ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดานะ  เพราะฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนกับฉันด้วยทั้งสวยและน่ารัก และอ่อนโยนมาก  ถ้าพวกเขามีโอกาสอยู่ด้วยกันจริง ๆ ฉันว่าต้องดีมาก ๆ ที่ตลกคือผู้ชายแก่ ๆ คนนี้ ทำไมพอเจอเรื่องความรักถึงผิดไปหมด   ไม่เป็นตัวของตัวเองหาทิศทางให้ตัวเองไม่ได้  ขาดความมั่นใจ   เขาเป็นคนที่  จะไม่พูดถึงเรื่องอยู่ด้วยกันชั่วชีวิตอะไรแบบนั้น  แต่เขาจะให้ความสำคัญกับprocess ระหว่างนั้นมากกว่า  เขาเป็นคนที่เอ็นจอยกับ process และเป็นคนที่ซื่อสัตย์พอที่จะบอกฝ่ายหญิงว่า  ถ้าผมอยากจะปักหลักกับคุณ  ผมจะบอกคุณเอง  แต่ถ้าคุณอยากจะปักหลักกับผม  แล้วผมคิดว่า มันคงเป็นไปไม่ได้  มันก็คือเป็นไปไม่ได้ Feng: ทำไมไม่เป็นชอบ Rainie ซะล่ะ  เขาน่ารักออก Ken: เขาเด็กกว่าผมห้าปี Feng: แล้วไง Ken: เขาเพิ่งยี่สิบเอง  ตอนพบกันครั้งแรกเธอเพิ่ง 16 เอง   Feng: 16 นี่ไม่ได้นะ  ยังไม่บรรลุนิติภาวะ Ken: ก็เห็นเป็นน้องมาตลอด  ก็ไม่เคยมีความคิดจะชอบ Feng: เขาก็เห็นคุณเป็นพี่เหมือนกัน  ดูตอนพูดเรื่องคุณซิ  แล้วตอนมีแฟนเค้าคอยออกความเห็นอยู่ข้าง ๆ รึเปล่า Ken: มีครับ จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 00:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วรักเฮียเพิ่มขึ้นเป็นกองเลยอะ น่าสงสารมากเลยเทียนเอ๋ย น้ำตาไหลพราก อยากเกิดเป็นน้องสาวเฮียจริงๆอะ มีพี่ชายดีขนาดนี้ รักตายเลย ขอบคุณมากคะพี่แปลเป็นภาษาไทยมาให้อ่าน จากคุณ : หยินจู - [ 2 ก.พ. 48 00:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 (ใครพอจะรู้มั้ยไอ้เลือดกรุ๊ปนี้มันเป็นไรนักหนา ทำไมชาวบ้านมันกลัวจัง) เดาเอาว่า น้อยคนที่จะมีเลือดกรุ๊ปนี้อ่ะ.... แล้วส่วนใหญ่เลือดกรุ๊ปนี้คงเป็นคนแปลกมั๊ง... ของที่มีน้อยมักแปลก...ป่าวหว่า....มั่วๆ อย่าเชือมาก 555 จำมัย มาป่วน ดีละๆ กดดันให้ปาป๋องแปะไปเรื่อยๆ หุหุ น้องซี มานหนีไปเล่นเกมส์แล้วแน่เลย... ยะฮิ้ววววว จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 00:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตรงเสี้ยมเขาควายมันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่  เหมือนอุปมาอุปไมยว่าชอบไปอยู่กลางความขัดแย้งมากกว่า  ไม่ใช่เสี้ยมมันจะกลายเป็นยุยงให้เขาแตกกัน ไปนอนแล้ว  พรุ่งนี้มาต่อเน้อ....   เด๋วลุกไม่ไหว  ฝันดีนะ ปล.  กดดัน  ก็ไม่กัว  เขาจะไปนอนเฟ้ย แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 00:38:34 จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 00:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 . . จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 00:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ้าววว ปิดวิก สะแล้นนน ฝันดีค้าบบบ จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 00:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านไป  ทำใจไป ไม่รู้จะเศร้า หรือซึ้งกับมานดี แต่ทำให้ได้เห็นตัวตนของเสี้ยวจริงๆ แบบไม่ต้องคาดเดา ขอบคุณ susijang ค้าบบบบบบบบบบบบบบ แล้วก็เข้ามุม รออ่านต่อปายยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : ดีดีที - [ 2 ก.พ. 48 00:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ..อ้าว หนีซะงั้น... เราจะอยู่มัยล่ะนั่น ปี้เอสไปกันเหอะ หรือจาอยู่... จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 00:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่จำมัย.... จับไรเหยอ พี่ปาป๋อง... อ้าว ไปซะแหล่ว พี่เอส.... เล่นจบแย้วเกมหงะ ใช้เวลาเล่นสามวัน แหะแหะ ซาหนุก แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 00:43:27 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 00:42:45 จากคุณ : Z-rebrum - [ 2 ก.พ. 48 00:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 //...เขาชอบผู้หญิงแบบอ่อนโยนอ่อนหวาน  ตัวเล็ก ๆ หน่อย... ...เพราะฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนกับฉันด้วยทั้งสวยและน่ารัก และอ่อนโยนมาก  ถ้าพวกเขามีโอกาสอยู่ด้วยกันจริง ๆ ฉันว่าต้องดีมาก ๆ.../// หึ  ~ หมดคำถาม หมดทุกคำ สิ่งที่ทำมันฟ้องเรื่องราว ~ //พี่จำมัย.... จับไรเหยอ// คิดเอาเอง จับไร ...จับด้วยกันป่าว กร๊ากกก.... แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 00:53:29 จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 00:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แวะมาอ่าน... ขอบคุณ..คนแปล..ขยัน น่ารักจิงๆ... รออ่านต่อ..อีก... อยากรู้อยากเห็นว่าใต้พรม มีอะไร...หุหุ จากคุณ : หมูขาว (white pig) - [ 2 ก.พ. 48 00:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ว้าววววววว ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ เรนนี่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทั้งเข้าใจเสี้ยว เป็นน้องสาวใช่มะ เข้าใจเกินเป็นแฟนมะได้ หุหุ......ว่าแต่เพื่อนเรนนี่....ไม่อยากนึกถึง แล้วจะมาตามอ่านต่อครับบบ พี่ชะพรู+จูนัน+พี่ปาจู (ปาจิงโกะ) แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 01:14:30 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 01:03:58 จากคุณ : จูนัน - [ 2 ก.พ. 48 00:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 //ไม่ใส่เสื้อผ้าในกองถ่ายหลาย ๆ ครั้งมาก  แบบนอนหลับช่วงถ่าย MG// เอ่อ. ค้าวม่ายส่าย เสื้อ หรือ เสื้อผ้า เอาให้แน่นะน้อง.. คิดเลยเถิดไปไหนต่อไหน.. ในกองถ่าย.. ต่อหน้าประชาชีเนี่ยนะ.. อะจึ๊ย!! คูหาที่ 26 จำมัยละเน่ อีกแย้ว.. เทียบรุ่น จริงนะน้อง. มาต่อไวไวเน้อ.. 3 คนกดดัน.. ไม่กลัว เดี๋ยวป้าไปช่วย อีกคน.. เป็น 4 ดีมะ.. จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 2 ก.พ. 48 01:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ยางอยู่...แต่กาลังจาไป...หัวปักแย้ววว บุ๋ยๆ เจอกันใหม่....คืนต่อไป...เป็นคืนแรกที่ได้อ่าน(เหมือนจา)สด ขณะแปะ... (แทงกิ้วที่ทาอ๊วดแปะลิงให้ อุอุ) จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 01:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ...ขอบคุงค๊าบปาป๋อง เหอะเพิ่งรู้ว่าคลิปนี้มีเรนนี่ล่วย เดี๋ยวกลับไปดูอีกที ไม่มีคุงปาป๋องก็ยังดูม่ายรู้เรื่องแน่เลย... จากคุณ : rainie_zhu - [ 2 ก.พ. 48 01:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น่านๆๆ หึ  ~ หมดคำถาม หมดทุกคำ สิ่งที่ทำมันฟ้องเรื่องราว ~ ป้าจำมัย....รุ่นเดียวก่าป้าเน่ แหงมๆ กร๊ากกกก รุ่นพี่ก้อง....ฮ่าๆๆ จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 01:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 // ป้าจำมัย....รุ่นเดียวก่าป้าเน่ แหงมๆ กร๊ากกกก รุ่นพี่ก้อง....ฮ่าๆๆ // บร้าเหยอปี้เอสก็...เค้ารุ่นเดียวกะตี๋น๊า แค่ชอบอนุรักษ์ของโบราณเท่านั้น 555 จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 01:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทำรายกาน..... ยังมะยอมนอน มัวแต่นั่งนอยยยยยยยยยยยยยย หุหุ จากคุณ : Z-rebrum - [ 2 ก.พ. 48 02:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไฮ  ซูซี่.. จำพี่ได้บ่.....แล้วมาแปลให้พี่อ่านอีกเน้อ.. บายจ้า จากคุณ : tempopo - [ 2 ก.พ. 48 06:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านแล้วมันคัน ฮึ..ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ ทั้งอ่อนโยนอ่อนหวาน จริงเหรอ??? ..รักเธอเสมอ นานเท่าไหร่ยังรักเธอ เหมือนแต่ก่อนเป็นมาเสมอ แม้ว่าเธอจากฉันไป.. จากคุณ : luvammie - [ 2 ก.พ. 48 12:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พี่เทม  ช่วงนี้ไม่ได้แวะไปดู gege เลย มุดอยู่ในรูแถวนี้นะ ***************************************************** Feng: มีใช่มั้ยล่ะ Ken: ครับ  แต่ไม่ค่อยกล้าบอกเขาสักเท่าไหร่ Feng: ไม่กล้าบอกเธอ Ken: กลัวมันจะไปกระทบเขา  เพราะแนวคิดเรื่องความรักของผมมันเป็นอย่างนี้แล้ว  ตอนนี้เป็นช่วงที่เขากำลังเรียน รู้ซึมซับ Feng: คุณกลัวมันไปมีอิทธิพลกับเธอ Ken: ใช่  กลัวมันจะไปมีอิทธิพล Feng: สำหรับคุณ สมมติกับผู้หญิงแบบนี้  เป็นแบบที่คุณจะมีความรักให้  แต่ถ้าonce ที่ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นแฟน คุณจริง ๆ  คุณจะต้องทรมานเธอก่อน Ken: ใช่  เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  ตอนนั้นไปทำงานในจีน  ก็มีผู้ร่วมงานไปด้วยสามคนเป็นผู้หญิงหมด  พวกเขาต้อง ตามกองตลอด  และคนจีนก็มีทัศนคติค่อนข้างกดขี่ผู้หญิง  บางทีจะใช้คำไม่สุภาพ  จริง ๆ คนพวกนั้นเขาก็ไม่ได้ตั้งใจแต่มัน เป็นเพราะวัฒนธรรมที่เพราะเขาเรียนรู้มา   ผมก็เลยไป...  จริง ๆ ทำแบบนี้มันทำให้ผิดใจกันแต่ผมเห็นแล้วทนไม่ได้   ผมก็เลยไปจับตัวหัวหน้ามาแล้วบอกเขาว่า  อย่าทำแบบนี้  ลองคิดดูซิคุณเองก็มีแม่ มีพี่สาวน้องสาว  ถ้าพวกเขาออกไปทำงาน แล้วเจอแบบนี้  คุณจะโอเคเหรอ  หลังจากนั้นสภาพการทำงานก็ดีขึ้น  ผู้หญิงพวกนั้นซึ้งใจผมมาก  จำได้เขาพูดกับผมว่า แฟนเขายังไม่ดีกับเขาขนาดนั้นเลย  ผมก็ตอบกลับ  ถ้าผมเป็นแฟนคุณจริง ๆ ผมจะบอกคุณว่า  ทน ๆ เอาหน่อยล่ะกัน  มันก็ แค่งาน  ก็เพราะว่าผมไม่ใช่แฟนคุณผมถึงช่วยคุณ Feng: ทำไมคุณต้องทำตัวโหดร้ายอย่างนั้น  บอกเขาทำไม Ken: ไม่ใช่ Feng: คุณก็ให้เขารู้สึกถ้าได้เป็นแฟนคุณก็จะทำสิ่งนั้นให้เขา   ทำไมต้องพูดแบบนั้น Ken: ก็มันเป็นความจริงนี่นา  ถ้าเขาเป็นแฟนผมจริง ๆ ผมก็จะบอกเขาว่าทนหน่อย  มันก็แค่งาน Feng: ผู้ชายอย่างพวกนี้นี่เข้าใจยากจริง ๆ   ถึงคุณจะได้พบผู้หญิงที่ดีกับคุณจริง ๆ แต่คุณก็จะต้องทรมานเธอก็ Ken: ผมจะบอกให้  ถ้าผู้หญิงคนไหนคบกับผมได้เกินสามเดือน  ผมยอมรับนับถือเธอเลย Feng: ใช่มะ  ต้องทรมานกันก่อน Ken: ใช่   Feng: แทบต้องทำทุกวิถีทางด้วยนะ Ken: ใช่  มีหลายครั้งที่ผมพูดตรง ๆ กับผู้หญิงว่า  ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบคุณ  ผมเข้าใจคุณและอยากคบกับคุณด้วย แต่คุณจะน่าสงสารมาก   Feng: นี่มันอะไรเนี่ย Ken: เธอจะน่าสงสารมาก  แต่ที่แปลกคือ  ยิ่งคุณพูดแบบนี้มากเท่าไหร่ กลับกลายเป็นว่า.......ผู้หญิงยิ่งรักคุณ Feng: ยิ่งรักมากขึ้น   คุณนี่  แย่จริง ๆ Ken: ผมพูดความจริงนี่นา  ตัวเองยังรู้เลยว่าอยู่ด้วยยาก Feng: คุณทรมานผู้หญิงที่ชอบได้ยังไง Ken: ผมไม่ได้ตั้งใจนี่ Feng: คุณตั้งใจ Ken: ไม่ได้ตั้งใจ  ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ Feng: ตั้งใจ  ต้องตั้งใจแน่ ๆ Ken: ไม่ใช่จริง  ๆ    จะบอกให้ Feng: ทำไมฉันถึงพูดแบบนี้  เพราะคนราศีมังกรก็อย่างนี้แหละ Ken: แต่มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ  ถ้ามีใครคนหนึ่งสามารถพูดอะไรออกมาแล้ว แทงใจดำ  ยากที่จะเจอ   แต่ก็เคย โดนเต็ม ๆ  ทุกคำที่เธอพูดมันอยู่ข้างในใจนี้  ตอนนั้นคนที่ซวยก็ผมนี่แหละ Feng: เพราะคุณเก็บคำพวกนั้นไว้ในใจ Ken: ไม่ใช่เก็บไว้ในใจ  แต่ผมนะโดนเขารังแกแล้ว   วันไหนผมรักใครสักคน  วันนั้นคือวันที่ผมโดนรังแกแน่นอน (คนแปลจะตาย  อยากรังแกอิเทียนเฟ้ย) จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 12:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จบยังคะเนี่ยะ.....ถ้ายังก้อช่วยต่อด่วน !!! เห็นใจคนแปลและแปะนะ.... แต่รักเสี้ยวน่ะ  อยากอ่าน อยากรู้.....ยิ่งรู้จักก้อยิ่งรักผู้ชายคนนี้จริงๆ เฮ้อ..ตอนเด็กๆ  เสี้ยวเจออะไรมาบ้างน๊อ ...ใจถึงได้กลายเป็นน้ำแข็งขั้วโลกแบบนี้ !! จากคุณ : fly-girl (fly-girl) - [ 2 ก.พ. 48 12:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณที่มาแปลตามคำขอน้าค้า  ดีจายที่สุดเลย  รออ่านด้วยความใจจรดใจจ่อ กิ๊ง  เอา พี่ หลี่ซื่อ ปายทิ้งไว้ที่ไหน  55555555555555 กิ๊งบายดีไม๊  คิดถึงนะค้า  ฝากความคิดถึงน้องน้องในกลุ่มด้วยอุ พี่จิ๋วเองจ้า จากคุณ : sumarut - [ 2 ก.พ. 48 14:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 //Ken: ไม่ใช่เก็บไว้ในใจ  แต่ผมนะโดนเขารังแกแล้ว   วันไหนผมรักใครสักคน  วันนั้นคือวันที่ผมโดนรังแกแน่นอน // ตกลง พ่อคุณจะมีแฟน หรือ หา ศัตรู กันเนี๊ยะ.. จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 2 ก.พ. 48 14:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 Feng: มิน่าล่ะตอนคุณมีความรักแล้วฐานะไม่ดี  พอผู้หญิงจะหนีตามคุณไป  คุณถึงได้ไปบอกแม่เขาว่าลูกสาวคุณจะหนีไป กับผม  เคยเกิดเรื่องแบบนี้ใช่มั้ย Ken: ไม่ใช่ ๆ   แต่จะพูดอย่างนั้นก็ได้ Feng: คุณรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะอยู่กับเขาได้ Ken: ใช่  และไม่รู้จะปฏิเสธเธอยังไง Feng: ก็เลยเล่นบทโหดกับเธอ  ไปบอกให้แม่ผู้หญิงฟัง Ken: ผมยอมให้เขาแค้นผมดีกว่า  ผมไม่เป็นไรหรอก Feng: โอ๊ย  ตายแน่  ผู้หญิงต้องรักคุณตายเลย Ken: พอเวลาผ่านไปมันก็จะหายเอง Feng: ผู้หญิงที่คุณรักมีนิสัยยังไง  เคยมีรักมากที่สุดมั้ย Ken: มี  มีซิ Feng: เธอนิสัยยังไง  ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนถึงจะทำให้คุณรักสุด ๆ Ken: นั่นเป็นเพราะผมอยากปักหลัก  และยังตามหาคนที่จะทำให้ผมปักหลักได้อยู่  เคยเจอคนนึงที่คิดว่าชาตินี้คงเป็น คนนี้แหละ  แต่ฟ้ากลับเล่นตลกกับผมซะนี่เป็น   แบบนี้บ่อย ๆ Feng: แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น Ken: ก็ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้น  เพียงแต่ว่าคนเราไม่ใช่แค่คิดว่าอยากได้อยากเป็นมันจะสมดังปรารถนาทุกเรื่อง อีกอย่างก็เหมือนที่บอกมันเป็นวงจร  ถ้าไม่ใช่ผมทำร้ายเขา  ก็เป็นผมโดนทำร้าย  เหมือนที่ว่าถ้าคุณรัก มากกว่าคุณก็จะเจ็บมากกว่า  แต่ถ้าอีกฝ่ายรักคุณมากกว่าก็กลายเป็นว่าคุณไปทำร้ายเขา  ปกติมันมักเป็นแบบนี้ Feng: ประโยคหลังฉันไม่เห็นด้วย  แต่ประโยคแรกฉันเห็นด้วย Ken: สำหรับผมที่เจอมาวงจรเป็นอย่างนี้ตลอด  หลังจากคนนั้นแล้ว  ทำให้ผมคิดได้คือ  ไปหาคนที่รักคุณมากกว่า แล้วคุณทำตัวดีกับเขามากขึ้น  มันน่าจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดี Feng: แหมคุณพูดแบบนี้  อีกหน่อยผู้หญิงคนไหนที่คุณคบได้ยินสัมภาษณ์นี้เข้า  ก็จะรู้ว่าคุณเป็นคนที่จะไม่ทุ่มเทให้ กับความรัก Ken: แต่ว่าผมซื่อสัตย์พอ Feng: แต่ผู้หญิงก็ชอบการแข่งขันเหมือนกัน Ken: ใช่   Feng: จำได้มั้ยว่าเรื่องที่ทำร้ายผู้หญิงมากที่สุดคือเรื่องไหน  นอกจากเรื่องที่ไปบอกแม่ผู้หญิง ว่าลูกสาวจะหนีตามแต่ ผมไม่เอา Ken: ถ้าจะแบ่งระดับว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องที่ตั้งใจ  กับเรื่องที่ไม่ตั้งใจละก้อ   เรื่องที่ตั้งใจก็คือครั้งนั้นแหละที่แย่ที่สุด Feng: เรื่องไปบอกแม่ผู้หญิง Ken: แล้วเรื่องที่ตั้งใจก็ก่อให้เกิดเรื่องที่ไม่ตั้งใจขึ้นอีกเรื่อง  หลังจากเลิกไปนานแล้ว  ช่วงสองปีนั้นจิตใจผมก็ไม่ดีเลย วันนึงผมโทรหาเธอและบอกว่า  ความจริงผมก็เสียใจมากเพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาเหมือนชีวิตผมขาดส่วน หนึ่งไปด้วย  เธอก็พูดกลับมาว่า  คุณรู้มั้ย  คุณเคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตฉัน  นี่คือสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจแต่มันเกิดขึ้น  สำหรับ ผมแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปมันก็เจ็บปวดขนาดนี้แล้ว Feng: พอได้ฟังคำนี้คงปวดใจมาก  ใจคุณสลายเลยซินะ Ken: ใช่  ผมคิดว่าผมสมควรตายจริง ๆ Feng: ตอนแรกคิดว่าวิธีนี้มันคงดีต่อเธอ Ken: ผมคาดไว้อยู่แล้วว่าจิตใจเธอต้องโดนทำร้ายแน่นอน  แต่อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องลำบาก  ตอนนั้นมันถึงขั้นที่ ว่า  ถ้าคุณเปิดปากฉันก็จะไปกับคุณ Feng: ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ Ken: 19 Feng: ไม่ได้นะ Ken: ช่วงนั้นอย่างมากก็แค่เดือนล่ะสองหมื่น  มีมอไซค์คันเดียว Feng: แล้วฝ่ายนั้นทำอะไร Ken: เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ Feng: แต่มันก็มีแต่ช่วงนั้นแหละที่คนเราจะทุ่มเทให้กับความรัก  ใช่มั้ย Ken: สุด ๆ ไปเลย 555 Feng: แล้วผู้หญิงที่ทำร้ายคุณมันเป็นเรื่องแบบไหน Ken: โกหก Feng: เหยียบเรือสองแคม  มีมั้ย Ken: เหยียบเรือสองแคม   โกหก Feng: โกหกมันก็มีระดับนะ   Ken: โกหกเลยผมไม่ว่า  แต่อย่า white lie กับผม Feng: ห๊ะ อะไรนะ  โกหกไม่เป็นไร มันเป็นยังไง Ken: ก็แบบ  คุณไม่มีเงิน คุณจน ....   แต่ถ้าเขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังพูดดี  ผมว่านี่ทำร้ายผมมากกว่า Feng: คือไม่พูดตามตรง Ken: ใช่  ถ้าคุณคิดว่าผมไม่ดีตรงไหนแล้วไม่พูดมาตรง ๆ   ผมว่าอันนี้ทำร้ายนะ  พูดมาเลยดีกว่า Feng: คุณนี่มันแม๊นแมน ก่อนจะสัมภาษณ์คุณเราได้คุยกับเพื่อนสนิทของคุณ Elephane ที่เป็นช่างแต่งหน้า  ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาล เธอบอกว่าให้มาถามเรื่องในหนังสือพิมพ์ที่โดนแอบถ่ายว่ามันเป็นยังไงกันแน่  ตอนที่เห็นนสพ.แล้วยังไม่ได้คุย กับคุณ   นี่ ๆ ..ไม่ต้องตื่นเต้น  ฉันไม่ถามคุณหรอกว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง  แค่จะถามว่า.... เอาล่ะนิสัยคุณก็เป็นแบบนี้ คือจะพูดเรื่องไม่น่าฟังให้ฟังก่อนทีหลังมันจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที Ken: ใช่ Feng: พูดกันตามความเป็นจริงความรักสำหรับคุณมันเป็นสิ่งที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ซินะ Ken: ลองคิดดูซิ  ถึงคุณจะอยากได้มั้นมากแค่ไหน  มันก็อาจไม่มานะ   พอช่วงไหนไม่อยากได้มันก็อาจโผล่ออกมา อยู่ตรงหน้า  มันยากจริง ๆ...  ตอนนี้ผมยกให้เขาจัดการหมดแล้ว (ชี้นิ้วไปบนฟ้า)   รู้มั้ยตอนที่รู้ว่าโดนแอบถ่ายวันนั้นทั้งวันซึมไปหมด  ผมบอก... Feng: เดี๋ยว ๆ  ไหนว่าเป็นเพื่อนน้องไม่ใช่เหรอ  น้องคุณอยู่ฝรั่งเศสนี่ Ken: ตอนนั้นน้องอยู่ไต้หวัน  เดือนนี้ถึงเพิ่งกลับไป Feng: โชคยังดีนะ  หัวไวคิดถึงน้องสาวได้ Ken: เฮ้ย...อะไร  ก็น้องผมอยู่จริง ๆ นี่นา  อย่าอย่างงี้ซิ 555 Feng: ก็คิดอยู่ ไหนว่าอยู่ฝรั่งเศสไง Ken: วันนั้นเลยไปคุยกับหลิงจิ้งเหอกับเพื่อนกลุ่มนั้น  ผมบอกว่าสงสัยผมท่าจะอยู่ด้วยยากจริง ๆ หลิงจิ้งเหอก็ตอบกลับมาคำ  แล้วนายว่าในกลุ่มเรามีใครอยู่ด้วยง่ายบ้างล่ะ   ผมสนิทกับพวกเขาเอามาก ๆ พอคิด ๆ ไป  มันก็ถูกของเขานะ  เพื่อนผมก็นประมาณเนี้ยะ Feng: เป็นเพื่อนกับคุณได้แสดงว่าต้องเข้าใจคุณ  ตรงนี้คุณไม่ต้องกังวล  แต่ที่ฉันกังวลก็คือเรื่องการทรมานคนที่รัก คุณ  การทรมานเขาแต่ล่ะครั้งก็เมื่อการทำร้ายเขาเพิ่มขึ้น  ตรงนี้คุณต้องลดให้มันน้อยลง  เอาไว้สุดวิสัยอาจเอามาใช้ได้ Ken: สุดวิสัย Feng: สุดวิสัยคือ  อย่างว่าชีวิตคนเรามีเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้น  อย่าทรมานคนเขาด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ   เอาไว้เรื่อง ใหญ่ค่อยทดสอบดู Ken: ผมจะบอกให้  คือมันกลายเป็นสันดานไปแล้ว Feng: แหม  เกลียดที่สุดเลย คุณนี่พูดไม่ฟังเลยนะ   ขอบคุณเสี้ยวเทียน Ken: ขอบคุณ  พี่ฟั่งฟั่ง Feng: อย่าตื่นเต้นซิ Ken: 555  ผมกลัวแทบตาย ********************************************************** จบแล้วจ้า   ฮู้หยินจูทั้งหลายคงตายเป็นเบือเลยล่ะซิ สองท่อนสุดท้ายอยากจะไปโอ๋ม้านจริง ๆ  น่าสงสารที่ซู๊ด แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 14:32:23 จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 14:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ฮั่นแน่ มีแอบมาแปะล่วย กัวโดนกดดันอ่ะจิ อิอิ... จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 14:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 43 .. เค้าแปะก็แซว.. เค้าไม่แปะก็ "กดดัน".. เอาใจยากจิงวุ้ย.. .. ขอบคุงค๊าบ น้องปาป๋อง.. แถมให้ สองจุ๊บ.. ปู้จายยังหามาให้ไม่ได้เหมือนกัน.. ท่าทาง คิดมากแบบนี้..คงล่อลวงมาให้ยาก.. อิ อิ จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 2 ก.พ. 48 14:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอามาตอนมันเลิกคิดแล้วได้ป่าว  เค้ากั๋วโดนมันทรมานทรกรรม   อยากจะเห็นสภาพม้านตอนสยบแทบเท้าจริง ๆ  มันจะเป็นยังไงก็ไม่รุ  ใครเอาไปจิ้นเป็นฟิคทีดิ 555 จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 14:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พี่ปาป๋อง หมายว่าไง ตกลงรักอ้วนไปแย้วเหรอ..... ถึงบอกว่ามะอยากโดนมันทรมาน แสดงว่าคิดอยุ่อ่าสิ อุอุ รักอ้วนเหมือนเดิม อุอุ แต่มีพี่หลี่ซือในใจเพิ่มขึ้น 555 ดีค๊าบพี่จิ๋ว..... เปี่ยนล๊อกอินซะจำมะได้เยยน้า แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 14:54:43 จากคุณ : Z-rebrum - [ 2 ก.พ. 48 14:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 //.. เค้าแปะก็แซว.. เค้าไม่แปะก็ "กดดัน".. เอาใจยากจิงวุ้ย..//   มะต้องมาเอาใจนู๋ ไปเอาใจลุงข้างบนนั่นเถอะ ป้าขอบคุณ นู๋ขอบคุณด้วย เทียบรุ่นๆ อุ อุ ... พี่ปาป๋องขอคลิปต่อปาย... คลิปต่อปาย ...เลยนะค๊าบ งานการมะต้องทำ แปลคลิปด่วน  555 จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 14:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ปูเหลียวอาทิตนี้หรือมะก้ออาทิตหน้าจัดงานรายงานเสด แย้วจามาทำซับให้เน่อ..... ช่วงนี้ตัวเปนเกลียวหัวเปนนอต..... อยากปายห้องกงอ่า จาไปหาพี่หลี่ซือ.... ตัดโผมมมมมมม (ตรูยังบร้ามะเลิก) จากคุณ : Z-rebrum - [ 2 ก.พ. 48 15:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 48 //มะต้องมาเอาใจนู๋ ไปเอาใจลุงข้างบนนั่นเถอะ// เห็นจะไม่..  ถ้าบ่นเรื่องงานให้แฟนฟัง .. แล้วมานสวนกลับ มาว่า "ทน ทน เอาเหอะ".. เป้าหมายจะเปลี่ยนจากงาน มาเป็น มาน..ทันที..   ( เหตุการณ์จำลอง) ..." อ๋อ ..นี่ให้กำลังใจกันแบบนี้เหรอ.. ลองไปทำเองซิ พูดมาด๊าย.. ทน ๆ เอาหน่อยล่ะกัน  มันก็แค่งาน   ทน ทน ไปเองแล้วกัน..น๊อยย พูดจาไม่เข้ารูหู.. ไม่พูด ไม่มีใครว่าใบ้หรอก.. เงียไปเลยไป.. " ( จบเห่ ) โหมด อินจัด.. จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 2 ก.พ. 48 15:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ^ ^ ^ ^ กร๊ากกกกกกกกกก มานคงโดนรังแกก็ตอนนี้ล่ะม๊าง ==================== ปล. กดดันน้องซีต่อ ซับ ซับ ซับ.... จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 15:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 Ze-brum ค้า   พี่ใช้ล๊อกอินมาแต่ดั้งเดิม  แต่ม่ายค่อยได้ โพส์เท่าไหร่ค้า  ได้แต่อ่าน กับ มาเป็งกำลังจายให้น้อง น้อง ที่แปล กัลล์  แต่ คลิปนี้อยากอ่านมากเพราะชอบพิธีกร เพราะเธอเจาะลึกดีอะค้า   ยังม่ายได้อ่านจริงจัง  งานยุ่งหัวฟู คงจะกลับปายอ่านคืนนี้อะ ค้า หลี่ซือน่าร๊ากเนอะ  เห็นด้วย  ค้า  555 พี่จิ๋ว จากคุณ : sumarut - [ 2 ก.พ. 48 15:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 .....อุ๋น..อุ๋น... .....อุ๋น..อุ๋น... .....อุ๋น..อุ๋น... ฮืออออออ............. จากคุณ : Len@ - [ 2 ก.พ. 48 16:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 52 .. แมวน้ำมาร้องทำไร.... จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 2 ก.พ. 48 16:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุนค้าบบบบบบบบบ อ่านแล้ว......ซาบซึ้ง.......ตื้นตัน....... อึ้ง......ทึ่ง.... เฮ้อ......................ถอนหายใจ ....ชีวิตคนเราน๊า.... พ่อดาราหย่ายยยยยยยเอ๊ยยยยยยยยยย... จากคุณ : หมูกระปุก - [ 2 ก.พ. 48 17:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คลิปต่อไปอารายน๊า....5555 (ไม่เคยช่วย ตามมากดดันตลอด หุหุ) เมื่อไหร่จาถึงนักบินอ่า.... ปล.... เมื่อวานดูอีกคลิป..ก็แอบอยากรู้คำแปล (ไมต้องแอบไม่รู้..ที่พรืดๆเรื่องจาไปโตบปู้ยิ๋งอ่ะ เอาแบบคร่าวๆ ได้ม๊ะ เหมือนคลิปที่ฮ่องกง.. แล้วมาให้สัมพาดด้านหลัง) (เดา) เหมือนเค้าจะถามเรื่องข่าวตบตี มานบอกว่ามันไม่เคยตีปู้ยิ๋งป่าวอ่ะ... ช่ายป่าวหว่า... แล้วก็มีรายการ channel V ที่ HK ใส่เสื้อดำคอย้วย ดูอารมณ์ดี๊ดี... ก็อยากรู้ 555555 ปี้เอสสะ แปลงร่างเป็น จำมัย กร๊ากกกก จากคุณ : S and K - [ 2 ก.พ. 48 18:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ คลิปที่มีพูดเกี่ยวกะหญิงๆอ่ะ มะเอาแล้วได้ป่าว มันจี๊ดใจ พรืดแทบทุกคลิปพอๆกะพรืดไทยเลย เอาหมาๆแมวมาย้อมใจมั่งจิฮับ... (ม่ายล่ายช่วยเหมียลกัน กดดันอย่างเดียว อาคุ อาคุ ) จากคุณ : จำมัยล่ะฮับ - [ 2 ก.พ. 48 20:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุงพี่ปาป๋องมั่กม๊ากกก น่ารักจิงจังน่ารักมากมาย ทำให้เราได้รู้จักอ้วนจิงๆ ขอบคุณค๊าบ _/ll\_ Ken: ผมยอมให้เขาแค้นผมดีกว่า  ผมไม่เป็นไรหรอก T^T ฮือ..... จากคุณ : ^RyOkO^ - [ 2 ก.พ. 48 20:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 57 " วันไหนผมรักใครสักคน  วันนั้นคือวันที่ผมโดนรังแกแน่นอน " ชอบมากเลยยยไม่ไหวแล้ววววว ขอบคุณ พี่susijang  มากๆๆๆๆๆค่ะน่ารักมากมายอุตส่าห์แปลคลิปมาให้ได้อ่านกัน ได้รู้จักเสี้ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย จากคุณ : จูนัน - [ 2 ก.พ. 48 20:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ทู้ต่อไปจะเป็นหมาแมวก่อนเป็นักบินนาปี้เอสสะนา... ปรึกษาหน่อยคลิปนักบินจะให้แปลหมดทุกคำพูดป่าว  คือมันมีตอนเสี่ยวจูกับพิธีกรหญิงเล่นกะแอร์โฮสเตสโดยไม่มีเสี้ยวเทียนนะ   ถ้าอยากได้หมดก็บอกไม่งั้นคนแปลจะลดราคาแล้วนะ จากคุณ : susijang - [ 2 ก.พ. 48 21:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณค๊า พี่ปาป๋อง ยิ่งอ่านยิ่งรักเสี้ยวอ่า... งืดดดดดด เสี้ยวจ๋า ยังไงเราก้อรับเสี้ยวได้เสมอน๊า.. รักๆๆๆๆ เรื่องเลือดกรุ๊ป AB จะบอกไงดีล่ะ นู๋ก้อกรุ๊ปเดียวกานกะเสี้ยวเลย เด๋วลองอ่านนิสัยคนกรุ๊ป AB ดูละกานนะคะ เลือดกรุ๊ปเอบี อุปนิสัยของคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มักจะเป็นคนที่จิตใจเยือกเย็นและมีเหตุผลกับทุก ๆ เรื่องเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นคนที่ฉลาดเฉลียว มีความคิดกว้างไกลกว่าคนในกรุ๊ปเลือดอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่มีความจริงใจ และเป็นมิตรกับทุกคน ชอบช่วยเหลือเอื้อเฟื้อแก่คนที่ตกทุกข์ได้ยาก แต่ถ้าถูกหลอกลวง คนกรุ๊ปเอบีจะโกรธและจดจำมาก นอกจากนี้คนกรุ๊ปเอบียังเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จะไม่ชอบให้ใครมาก่าวก่ายชีวิตของตนเอง นู๋ว่าตรงที่เค้าตกใจที่เสี้ยวกรุ๊ปนี้ คงจะเกี่ยวกับอารมณ์มั้งค่ะ โกรธรุนแรง มีอารายชอบเก็บไว้คนเดียว แล้วก้อไม่ค่อยยุ่งกะคราย น่าจะประมาณนี้นะ นู๋ก้อม่ะแน่จาย แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 21:54:24 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 48 21:54:11 จากคุณ : [Y]o[U]_k[N]ow13 - [ 2 ก.พ. 48 21:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คนราศีมังกรก้อประมาณเดียวกานค่า....มั่นใจในตัวเองสูงลิ่ววววว  ดันทุรัง  รักแรง  โกรธแรง....แต่ถ้าเก่ง ก้อเก่งสุดยอดเลย อ้อ...เป็นคนกรุ๊ป AB เหมือนกาน   แต่ราศีพิจิกค่า ....แรงกว่ามังกรอีก !!! จากคุณ : fly-girl (fly-girl) - [ 2 ก.พ. 48 22:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ปรึกษาหน่อยคลิปนักบินจะให้แปลหมดทุกคำพูดป่าว  คือมันมีตอนเสี่ยวจูกับพิธีกรหญิงเล่นกะแอร์โฮสเตสโดยไม่มีเสี้ยวเทียนนะ   ถ้าอยากได้หมดก็บอกไม่งั้นคนแปลจะลดราคาแล้วนะ /// เอางี้พี่ปาป่อง ถ้าช่วงนั้นมันสนุก ก้อแปลมาด้วยล้ากันน้า ถ้ามะมีไรให้น่าตื่นเต้นก้อมะต้องแปลก้อล่าย ประหยัดเวลา เพราะต้องไปแปลคลิปอื่นอีก 555 ว่าแล้ว คิวน้องแมว นักบิน แล้วมีคิวต่ออีกป่าว ถ้าหมดแย้วเด๋วหามาต่อห้าย หุหุ พี่จำมัย... กดดันไปไร้ผลฮับ เพราะยังมะว่างทำจิงๆ อุอุ พี่จิ๋ว..... เข้าใจแหล่ว จากคุณ : Z-rebrum - [ 2 ก.พ. 48 22:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขโมยไปแปะ Blog เค้าแย้วนะ งุงิ งุงิ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jewelchan&group=3&month=02-2005&date=02&blog=2 พี่ปาป๋อง... อารายเอ่ย ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน... มะได้ทวงน๊า แค่มาพูดลอยๆ ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน... ปล. ละคร Mr. Fighting นำแสดง(เป็นตัวประกอบ)โดยเอ็ดเวิร์ดและเคนนี่ แห่ง Machi ฉายแล้วทุกวันอาทิตย์ช่อง TTV ที่ไต้หวัน สนุกนะจะบอกให้ (โผล่จากรูมาขายตรง 555) ย้ำอีกที ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน ตี๋เส้าหลิน... อิอิ... แถมรูปประกอบคำบรรยายหนึ่งรูป เผื่อใครขี้เกียจเปิดคลิป //Ken: นี่เป็นรูปแรก ๆ ที่ถ่ายตอนเข้าบริษัท  น่าจะเป็นรูปถ่ายครั้งที่สองสำหรับประชาสัมพันธ์ Feng: เข้าวงการมาก็ผมทรงนี้ Ken: ใช่ครับ Feng: ไม่ได้เปลี่ยนเลยซินะ Ken: ใช่  ความยาวก็อยู่ประมาณนี้นี่แหละ// จากคุณ : JewelChanInLove - [ 3 ก.พ. 48 05:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เอิ๊กๆๆ.... อ่านแล้วนึกถึงแดงไบเล่ย์จัง "เปงเมียเพ่ต้องอดทน" ขอบคุงค๊าบพี่ปาป๋อง.....เข้ามาตามอ่านดีจายวันนี้พิมพ์ได้.....น้องคอมม่ายมีปังหา.... อันนี้ต้องดีจายพี่ปาป๋องมาม่ะมาร๊ากเสี้ยว.... 5 5 5 กู่ม่ายกลับแย๊ววววว คนเลือดกรุ๊ปเอบีเน้อ.... เปงคนแข็งอ่า..ใจแข็ง ปากแข็งด้วย แสดงออกไม่ค่อยเปง ปะมานขี้สงสาร ชอบช่วยคนแต่สิ่งที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นจะเหมือนเปงคนเห็นแก่ตัวอ่ะ(แบบไม่แสดงออก เหมือนเปงพวกชอบอยู่เบื้องหลังความสำเร็จอ่า) เปงพวกหยิ่งในศักศรีอ่ะ แล้วก้อโทษเถอะ เปงประเภทยอมหักไม่ยอมงออ่ะ คำขอโทษเนี่ยยากมากถ้าจาให้คนเลือดกรุ๊ปนี้พูดอ่า... ถ้าผิดพี่แกก้อจาเปลี่ยนเรื่องเยย แล้วจาพยายามหาทางทำดีลบล้างความผิดแต่จาไม่ยอมขอโทษอ่า.... อีกอย่างเปงพวกเจ็บแล้วไม่จำ.... ปากพูดว่าจำ แต่ไม่จำ(ปากแข็งไง)โดนคนเอาเปรียบประจำ เพราะชอบทำท่าเหมือนไม่ยอมแต่สุดท้ายก้อยอม แถมยังปากหนักอ่ะ อันนี้คัดมาแต่ข้อเสียของกรุ๊ปเอบีเน้อ แรงไปหน่อย แต่ว่าข้อดีของคนเลือดกรุ๊ปนี้ก้อมีเยอะน๊า แต่ไม่บรรยาย เด๋วไปเพ้อกันใหญ่ จากคุณ : @lovelyken@ - [ 3 ก.พ. 48 09:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตี๋เส้าหลิน....ลืมไปเย้ว  ลืมไปเย้ว   ถึงว่ามัยคิวสั้นลงที่แท้ลืมตะรี๋ของเจเวลนี่เอง   คอยกระทุ้งบ่อย ๆ นะเดี๋ยวลืมอีก จากคุณ : susijang - [ 3 ก.พ. 48 09:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จึ๊ยยยย ลืมตี๋เส้าหลิน... โดนทวดงับหัวแน่เลย หุหุ (ลากทวดมาร่วมกดดัน) 555555 ปล..แว่วว่ากลับก่อนงานเอ็มเลิก แหมๆๆ ไม่ต้องรีบกลับมาแปลขนาดน้านก็ได้ พี่รอได้อยู่แล้นนนนนน อิอิ จากคุณ : S and K - [ 4 ก.พ. 48 00:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 66 พี่ปาป๋อง .... เจี๋ยหลุนๆๆ กะแพ็ตตี้ เจี๋ยหลุนกะแพ็ตตี้ ..ๆๆๆๆ แป่วๆๆๆๆ มาผิดที่ป่าวว้า  เด๋วโดนบาทา งุงิๆ ไปล่ะ มาป่วน อ่อ ขอบคณสำหรับคำแปลนะฮับ จุ๊บๆๆๆๆ จากคุณ : ~** r ~[U]~ rEaDy **~ - [ 11 ก.พ. 48 16:30:32 ]