ความคิดเห็นที่ 1 เพลงยาว 80 นาที จากคุณ : Doraemyung - [ 21 ก.พ. 48 00:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันแรก ผมว่าเราอาจจะได้เห็นวง Yes เปลี่ยนใจทำอัลบั้ม Tales from Topographic Oceans ในแบบ "ฉบับสมบูรณ์" คือ แทนที่จะมีตั้ง 4 เพลง ก้อรวมทั้งหมดเข้าเป็นมีเพลงเดียวยาวกว่า 70 นาทีซะเลย ไหนๆทำออกมาก็จะถูกด่าอยู่แล้วว่า "เวอร์ไปเปล่า" จากคุณ : Analog Kid - [ 21 ก.พ. 48 00:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 70 นาทีเลยเหรอ.. จะมีพักให้ดื่มน้ำปัสสาวะกลางเพลงไหมเนี่ย จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 21 ก.พ. 48 12:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ 5555 ยาวไปก็หาจุดไคลแมกซ์ไม่เจอ.. นอกจากได้แค่ความแปลกใหม่ จากคุณ : ผีพราย... ใต้แสงจันทร์ - [ 21 ก.พ. 48 14:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่แล้วคุณ Analog เพลงของ Yes คงจะยาวกว่าเดิม  หรือไม่ ชุด Tales from...ก็ทำเป็น CDคู่ มีืั้ทั้งหมด 2 เพลง ซีดีละ 1 เพลง เพลงละ 70 นาที โอ้... แล้วแบบนี้ 2112  ของ Rush คงยาว 70 กว่านาทีด้วยละมั้ง จากคุณ : ธนิต - [ 21 ก.พ. 48 16:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นข้อจำกัดของการทำดนตรี (เพลง) ของศิลปินหรอกนะครับ เว้นเสียแต่ว่า เป็นวิตกจริตของ ตัวศิลปิน หรือ producer เอง... ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ในโลกดนตรีแขนงอื่นๆ เช่น Classical Music ที่มีทั้ง Symphony, Opera, Ballet หรือ Choral- work ยาวๆ ซึ่งเท่าที่กล่าวมา ผู้ฟัง ต่างก็ต้องการ "ความ ต่อเนื่อง" กันทั้งนั้น... Mahler: Symphony No. 3 หรือ 9 ใช้เวลาทั้งหมดมาก กว่า 90 นาที... Bruckner: Sym. No. 8 ใช้เวลามากกว่า 80 นาที Gliere: Sym. No. 3 ใช้เวลามากกว่า 100 นาที ฯลฯ ฯลฯ Wagner: Der Ring ที่ฉบับเต็มมี 4 เรื่อง แต่ละเรื่องใช้ เวลามากกว่า 120 - 150 นาที บางเรื่องยาวถึงเกือบ 300 นาที !!! (Solti/ Decca ใช้ CD ทั้งหมด 14 แผ่น!!) ฯลฯ ฯลฯ Tchaikovsky: Nutcracker/ Sleeping Beauty หรือ Swan Lake ...บัลเลต์ทั้งสามเรื่อง กินเวลามากกว่า 100 นาทีทั้งนั้น... ฯลฯ ฯลฯ So What?? งานที่กล่าวมา หรือมากกว่า 100 งานขึ้นไป บริษัทแผ่น เสียง อัดขายกันแบบไม่ยี่หระ และ คนซื้อก็ซื้อกันอย่าง ไม่กลัวกระเป๋าเงินจะฉีก หรือ ห้องฟังจะพัง มาตั้งแต่ต้น คริสตศตวรรษที่ 50's แล้ว!! โดยนัยนี้...ผมจึงคิดว่า... ศิลปิน progressive (แปลว่าอะไร?) ที่ไม่เคยรู้จัก Brahms หรือแม้กระทั่ง Schoenberg จากสำนักเวียนนาที่สอง อาจจะฝ่อไปเองหรือเปล่าครับ เฮีย Rush ;-p ^__________^ จากคุณ : StarGazer - [ 21 ก.พ. 48 20:12:47 A:203.148.156.34 X:203.148.138.66, 203.148.138.67 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นั่นนะสิครับ แล้วมันจะได้ความต่อเนื่องได้อย่างไร ถ้าหนึ่งหน้าของแผ่นเสียงสามารถเล่นได้ไม่เกิน 30 นาที ผมเข้าใจว่า เมื่อมันเป็นยังงั้น ดนตรีคลาสสิคเลยต้องมีการแบ่งเป็นองค์ใช่มั๊ยครับ ? ผมขอยกตัวอย่างชุด Thusday Afternoon ของ Brian Eno ที่ถือว่าเป็นอัลบั้มแรกๆที่ใช้ประโยชน์ของ CD โดยอัลบั้มนี้มีแค่เพลงเดียว เล่นต่อเนื่อง เป็นเวลาประมาณ 60 นาที ซึ่งเท่าที่จำได้ ตัว Eno เองบอกว่าเค้าแต่งเพลงนี้โดยมีจุดประสงค์จะออกมาเป็น CD เท่านั้นเพื่อความต่อเนื่องนั่นเอง และก็ไม่ได้มีการทำเป็นแผ่นเสียงออกมาเลย ส่วนตัวอย่างของเพลงที่ถูกจำกัดจากความยาวของแผ่นเสียงคือ อัลบั้ม Mekanik Kommandoh ของวง Magma ซึ่งออกในต้นยุค 70 จริงๆแล้วอัลบั้มนี้มีเพลงเดียวยาวกว่า 38 นาที โดยทางวงใช้วิธีค่อยๆลดเสียงลงในท่อนสุดท้ายของหน้าแรก แล้วพอไปเริ่มใหม่ในหน้าสองก็ ค่อยๆขึ้นใหม่ว่างั้นเถอะ ซึ่งแน่นอนมันทำให้ความต่อเนื่องหายไปมาก ถ้าไปฟังแสดงสดของเพลงนี้ที่ออกมาในรูป CD ที่เล่นต่อกันเลยจะรู้ว่า ให้อารมณ์มากกว่าเยอะเลยครับ อ้อ เพลง Karn Evil 9 ของ ELP ก็เช่นกัน เนื่องจากความยาวรวมของเพลงนี้ประมาณ 30 กว่านาที แต่เนื่องจากแผ่นเสียงให้ไม่ได้ ก็เลยแบ่งเป็น 2 ภาค แล้วหาทางจบแบบ fade Out ไป ซึ่ีงในอัลบั้มแสดงสด ทางวงเล่นต่อกันโดยไม่มีหยุดเลย ยังมีอีกหลายอัลบั้ม อย่าง Misplaced Childhood ของ Marillions ซึ่งมันคงจะน่าสนใจมากที่เดียว ถ้าวงไม่ถูกจำกัด และต้องหาทางปิดท่อนสุดท้ายของหน้าแรกแบบจำใจ จากคุณ : Analog Kid - [ 21 ก.พ. 48 21:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพลงคลาสสิกมีการแบ่งเป็นองค์เพราะข้อจำกัดของแผ่นเสียง? ไม่น่าใช่นะครับ เพราะเพลงเหล่านั้นบางเพลงแต่งออกมาก่อนประวัติศาสตร์การบันทึกเสียงด้วยซ้ำไป ตอบคำถามของคุณอนาลอกคิด...ครับ ผมคิดว่าพวกศิลปินโปรเกรสซีพยุคนั้นคงจะต้องลองของกับเวลา 80 นาทีนั้นกันอย่างสนุกมือแน่ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะออกมาดีนะ เวลาที่พอเหมาะสำหรับเพลงพวกนี้น่าจะไม่เกิน 15-20 นาที ถ้ามากกว่านี้ผมว่ามันจะซ้ำซาก หรือว่าถ้าจะใส่อะไรเข้ามาเยอะๆ เพิ่มท่อนใหม่ ธีมใหม่เข้ามาไม่ให้เบื่อ ก็สู้ทำเป็นเพลงใหม่ไปเลยน่าจะดีกว่า.... ผมเลิกฟังเพลงยาวๆมานานแล้วครับ Yoko Ono " A pop song maybe short, but it is very powerful." John Lennon "So is a heartbeat." จากคุณ : winston - [ 22 ก.พ. 48 02:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช่แล้วครับ คุณ Winston ดนตรีคลาสสิคถูกแต่งนานก่อนที่จะมีการคิดการบันทึกเสียงเสียอีก   แต่ การแบ่งเป็นภาคๆ บางครั้งก้อส่งผลดีนะครับ อย่างเพลง Shine On Your Crazy Diamond  ของ Pink Floyd ที่ตอนแรกทางวงจะรวมกันเป็นเพลงเดียว แต่ตอนหลัง โรเจอร์ วอเตอร์ เสนอให้ แบ่งเป็นออกเป็น 2 ภาค ซึ่งผมว่ามันลงตัวกว่านะครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 08:41:17 จากคุณ : Analog Kid - [ 22 ก.พ. 48 08:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาอ่านอย่างเดียว...เพลินเลยครับ...กูรูทั้งหลาย... จากคุณ : noprock - [ 22 ก.พ. 48 09:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยิ่งยาว ยิ่งง่วง นะครับ จากคุณ : โต - [ 22 ก.พ. 48 13:39:25 A:203.150.118.72 X: ]