แรกๆ เวลาชมภาพยนตร์ หรือการแสดง ลองตั้งใจ
และมีอารมณ์ร่วมกับ เพลงบรรเลงประกอบให้ดีสิครับ นานๆ เข้า
เราจะเริ่มจับความไพเราะของ น้ำเสียงและอารมณ์เครื่องดนตรีได้
เช่นเสียงต่ำๆ ให้ภาพลักษณ์ยังไง เสียงเบิกโรง เสียงคลุมย่านอากาศ เสียงครอบบรรยากาศ เสียงสากๆ เสียงแหลมสั้น แหลมยืด แหลมสั่น เสียงแปร๋น เสียงพ้อง เสียงสับ เสียงโอบอุ้ม เสียงล้อ เสียงประชด เสียงโต้ ฯลฯ บุคลิกเสียง ให้ความรู้สึกอย่างไร
ช่วงเริ่ม ตื่นเต้น ถดท้อ จนมุม เร่งรัว เร้า เจรจา สะสาง ขมุกขมัว ต่อเนื่อง ทอดสะพาน แผ่วเบา พริ้วไหว เปิดเผย ช่องโหว่ อ่อนแอ สุญเสีย สูญสลาย ระเบิดอารมณ์ ฯลฯ
ที่สำคัญมีความสำคัญหรือมีนัยแฝงสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องยังไง
ทำไมเขาถึงใช้เพลงนี้ประกอบ จะช่วยบริหารจินตนาการการฟังให้พอกพูนครับ
เพลงคลาสสิก ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อเรื่องเสมอไปนะครับ บางครั้ง
ก็ให้ความรู้สึก abstract เหมือนภาพเชิงนามธรรม
บางครั้งก็แต่งขึ้นเพื่อแสดงความเหนือชั้น
ของทักษะในเชิงการประพันธ์ตามแบบแผนและทฤษฎีดนตรี
ถ้าเป็นเพลง rock ก็ได้แก่พวกกีตาร์ฮีโร่อย่าง อิงวี่ มาล์มสทีน, สตีฟ วาย, โจ สาทรีอานี่ เป็นต้น
สำหรับผม ศิลปะที่ดี จะมอบแรงบันดาลใจ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
สำหรับเพลงแนะนำ อยู่ที่บุคลิกเฉพาะตัว
หรือปรัชญาชีวิตของคุณด้วยครับ ว่าออกไปทางไหน
- ภาพยนตร์ที่มีเพลงประกอบเป็น Classical เช่นเรื่อง Shine (มีเพลง Piano Concerto No. 3 ของ Rachmaninoff (หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Rach 3) แล้วก็ Raindrop Prelude ของ Chopin ที่โดดเด่น), เรื่อง Amadeus เต็มไปด้วยผลงานเด่นของ Mozart
- กำลังใจเพื่อผงาดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ
Beethoven Symphony No. 7
- ความบรรจงละเมียดละไมในวิถีชีวิต ที่มีจังหวะชีวิตขึ้นลง บริโภคเศร้าหมองอาลัยเป็นอาหารชีวิต
Beethoven & Mendelssohn Violin Concerto in D, Op. 61
- เพลงถูกใจคนหัวดื้อ-ตัวแสบ (ประมาณว่า มีอะไรอะป่ะ ku เป็นของ ku อย่างเนี้ยะ!! หลุดโลกไปเลย)
Beethoven Symphony No. 9 (เพลงนี้ผมได้จากหนังเรื่อง A Clockwork Orange)
- ถ้าชอบอารมณ์ขลัง -- ขรึม เทอะทะ หนักแน่น แบบคุณปู่ หรือชอบ แฟรงเก้นสไตน์ หรือ แดร็กคิวลา (มีความขึงขัง น่ากลัว แต่ก็มีรักสุดหัวใจ เป็นอมตะ) ก็ลองฟังงานของ Bach ดูครับ
- ความงดงามหมดจด ลึก... สั่นไหวในอารมณ์ ของความโรแมนติค ที่จะพาให้คุณเคลิบเคล้ม ซาบซึ้ง จนน้ำตาไหล และรำพึงออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน ถึงความรักในหนหลัง และความงามเย้ายวนของเจ้าหล่อน จมูกน้อยๆ ริมฝีปากบอบบาง แก้มที่ขาวนวล ทรวดทรงที่ทำให้เราหลงไหล และที่สำคัญ... หัวใจอันอ่อนไหว เปราะบาง จนไม่อาจปล่อยให้เธอเผชิญโลกที่โหดร้ายเพียงลำพัง...
งานของ Debussy เช่น Clair De Lune (จันทร์เจ้าขา) และ The Sunken Cathedral แบะ Arabesque No.1 และ ฯลฯ
- ถ้าชอบอารมณ์แบบเทพนิยาย สีขาว (หมอก/แดด/หนองน้ำ/หงส์/ผีหลอกกลางวันแสกๆ) และอารมณ์สุนทรีย์ แบบหวานเย็น บางเบา แต่ถวิลหา ลองฟังเพลงของ Tchaikovsky
- ถ้าคุณเคยคิดว่า โลกถึงกลียุคแล้ว และคุณเป็นยอดมนุษย์ผู้เดียวที่จะเยียวยา และผลิกโฉมแผ่นดิน ลองชิม Also sprach Zarathustra (ดั่งพจนา ซาราทุสทรา) ของ Strauss ดูสิ
- อารมณ์ขับเขี้ยว ร่ายรำ ลึกลับ ปริศนา ราตรี ของวิญญาณ ชีวิต และกระแสมโนสำนึก
งานของ TOSCA Tango Orchestra เช่น Soundtrack ของ animation เรื่อง Waking Life
ฯลฯ (ค่อยๆ ฟังไปครับ)
ตามปกติแล้ว CD เพลง Classic จะแบ่งเป็น ชิ้นงาน เบอร์อะไรๆ อำนวยเพลงโดยใคร บรรเลงโดยใคร วงไหน ไป ไม่ค่อยแบ่งเป็นอัลบั้มครับ ยกเว้นจะมีคนรวบรวมขึ้นเฉพาะกิจ
ปล 1. ทุกๆ คน มีพื้นฐานเพลง classic มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว นั่นคือรักใน melody หรือท่วงทำนองที่ไพเราะ จึงไม่ยากเลย ที่ทุกคนจะรักเพลง classic
ปล 1.1. เด็กบางคนมีโอกาสรับรู้ท่วงทำนองไพเราะในแบบอารยธรรมตะวันตกก่อนเด็กคนอื่น เช่นเด็กที่เรียนในโรงเรียนฝรั่ง เป็นต้น
ปล 2. ความรัก ย่อมมีแนวทางเฉพาะตน และก้าวหน้า (ในแบบของตัวเอง)ได้ ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ คนบางคนจึงสามารถพูกพันกับท่วงทำนองพิลึกๆ ที่ไม่น่าฟังเลยสำหรับหลายๆ คน
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 48 05:57:57
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 48 05:54:34
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 48 05:51:53
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 48 05:10:32