CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ว่าด้วยเพลง "ใจทศกรรฐ์"

    หัวใจทศกัณฐ์
    พุ่มพวง ดวงจันทร์

    เมื่อรักกันก็ชื่น  เมื่อรักคืนก็ช้ำ  
    แต่เหตุไฉน ใจยังไม่จำว่ารักทำ ให้เจ็บทุกที
    ปวดเหมือนโดนยาสั่งแต่ฉันยังไม่หนี
    สู้อด สู้ทน รักจน ป่านนี้   เรื่องเจ็บฤดี มีทุกเวลา
    อยากมีรัก ใจเหมือนพระราม สู้ติดตาม หานางสีดา
    ด้วยรักจริง ยิ่งชีวาพระราม งามหน้า พระราม งามใจ
    ที่ฉันจำช้ำหม่น เจ็บเพราะคนหน้าใส
    รูปสุดงามสม สังคมคลั่งไคล้  แต่หน้าเสียดาย ใจ ทศกัณฐ์

    ..........แหะ ๆ สืบเนื่องมาจากกระทู้  “เรามาเล่นต่อเพลงกันเถอะ”  ของคุณลุงชานหมาก  (นอกกระโถนหรือเปล่า  อิอิ)  มีอยู่เพลงนึงที่ป้าแอนนำมาต่อ  นั่นคือ  (ใจทศกัณฐ์)  ป้าแอนนำมาแค่บางท่อน  และบอกว่าจำไม่ได้  สุดท้ายมีสำทับว่าชอบมาก  

    ..........อิอิ  ไอ้ผมช่วงนี้ก็ว่าง ๆ วัน ๆ จิบแต่น้ำดอกคำฝอย  กลัวว่าสมองจะฝ่อ  ก็เลยบังคับให้ตัวเองคันไม้คันมือ  รื้อเพลงใจทศกัณฐ์มาชำแหละ  ตามประสาคนมือบอน

    ..........เพลงนี้ผมได้ฟังเวอร์ชั่นที่คุณพุ่มพวงร้อง  จำไม่ได้ว่าฟังกี่เที่ยว  แต่รับรองได้เลยว่าไม่เกินสามแน่นอน  เดี๋ยวนี้หาฟังยากแล้ว  (ที่ว่าหาฟังยากก็เพราะว่าผมไม่ฟัง  เนื่องจากหาคนที่ร้องได้ไพเราะไม่เท่าพี่ผึ้งพุ่มพวง  อิอิ)  เพราะนักร้องคนไหนก็กินพี่ผึ้งไม่ขาด  ทั้งน้ำเสียง  ลีลาการร้อง  การเอื้อนลูกคอ  

    ..........เนื้อเพลงใจทศกัณฐ์ไม่ยาว  เลยทำให้คนฟังจำเนื้อเพลงได้ง่าย  บอกเล่าถึงตัวละคร  “ฉัน”  ที่  “เมื่อรักกันก็ชื่น  เมื่อรักคืนก็ช้ำ  แต่เหตุไฉน ใจยังไม่จำว่ารักทำ ให้เจ็บทุกที”  แสดงว่าผ่านความรักอันหวานชื่นมาแล้ว  พอต้องเลิกราไป  ความชื่นกลับกลายเป็นช้ำ  
    แต่  “ฉัน”  ก็ไม่เข็ดเรื่องความรักสักที  พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า  “แต่เหตุไฉน ใจยังไม่จำ  ว่ารักทำ ให้เจ็บทุกที”
    เรื่องรักเป็นเรื่องแปลก  คนที่มีรักมักไม่เคยเข็ดหลาบกับพิษร้ายของความรัก  
    ..........ดังวรรณคดีเรื่อง  “มัทนะพาธา”  ว่าไว้
    ..........“ความรักเหมือนโรคา..........บันดาลตาให้มืดมน
    ไม่ยินและไม่ยล..........................อุปสรรคใดใด
    ..........ความรักเหมือนโคถึก..........กำลังคึกผิขังไว้
    ก็แล่นจากคอกไป........................บ่ยอมอยู่  ณ  ที่ขัง
    ..........แม้หากจะขังไว้..................ก็โลดไปด้วยกำลัง
    ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง............................บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย”
    ..........เพลงนี่มีการเปรียบเทียบเรื่องราวในวรรณคดีคือ  “รามเกียรติ์”  โดยนำบุคลิกลักษณะของตัวละครเด่น ๆ ในเรื่องมาวางคู่กัน  นั่นคือพระรามกับทศกัณฐ์
    ..........พระราม  คืออวตารของพระนารายณ์ที่จะมาปราบทศกัณฐ์
    ..........ทศกัณฐ์  คือนนทกที่พระนารายณ์สาปให้มาเกิดเพื่อที่จะถูกฆ่า  (ด้วยน้ำมือของพระรามโดยชอบธรรม  เพราะตอนเป็นนนทกนั่นแกบ่นว่าตายไม่สมศักดิ์ศรี)
    ..........ตัวละครทั้งสองตัวนั้นถ้าจะให้เปรียบในด้านรูปร่าง  พระรามกินขาด  ซึ่งเพลงเขาก็เห็นด้วย  ดูจากวรรคที่ว่า  “พระรามงามหน้า  พระรามงามใจ”  แสดงว่า  นอกจากจะรูปหล่อแล้ว  พระรามยังมีจิตใจงามอีกด้วย  และจิตใจดีงามในที่นี้  ถ้าอ่านระหว่างบรรทัดในเนื้อเพลงก็จะพบว่า  จะกระเดียดไปทางมีความรักที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง

    ..........เรียกว่าครบเครื่องพระเอกว่างั้นเถอะ  อย่างนี้สาว ๆ ที่ไหนจะไม่ถวิลหา  จนถึงกับเพ้อออกมาว่า  “อยากมีรัก ใจเหมือนพระราม สู้ติดตาม หานางสีดา  ด้วยรักจริง ยิ่งชีวา”  ดังนั้นพระราม จึงงามทั้งหน้าและงามทั้งใจ
    แต่  “ฉัน”  ในเพลงถือเป็นคนอาภัพรัก  ก็เลยต้อง  “ปวดเหมือนโดนยาสั่ง”  และไม่เคยเข็ดในเรื่องรัก  ถึงจะเจ็บปวดยังไง  “แต่ฉันยังไม่หนี  สู้อดสู้ทน รักจน ป่านนี้   เรื่องเจ็บฤดี มีทุกเวลา”

    ..........ขนาดยอมรับว่าเรื่องเจ็บฤดีมีทุกเวลา  แต่  “ฉัน”  ก็ยังยอมเจ็บ  ช่างงมงายในรักจริง ๆ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าเป็น  “ผู้งมงายในรัก”  อิอิ  คลาสสิคดีมะ

    ..........แม้จะผิดหวังในเรื่องรัก  แต่  “ฉัน” ก็ยังแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่า  สักวันหนึ่งจะพบกับรักที่มั่นคงและจริงใจ  เพราะที่ผ่าน ๆ มานั้นเจอแต่ประเภทหน้าเนื้อใจเสือ  รักไม่จริง  จ้องจะฟันแล้วทิ้งถ่ายเดียว  

    ..........เหมือนอีกหลาย ๆ เพลงที่กล่าวถึงความอาภัพรักของสาวเหนือนั่นแหละ

    ..........เพลงนี้จึงให้แง่คิดที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังริรักว่า  อย่าคบคนที่หน้าตา  แต่ให้ศึกษาจิตใจของเขาด้วย  เพราะบางทีเราอาจจะ  “เจ็บเพราะคนหน้าใส  รูปสุดงามสม สังคมคลั่งไคล้  แต่หน้าเสียดาย ใจ ทศกัณฐ์”

    ..........ผมเคยอ่านนิยายแปลเล่มนึง  แปลโดยนักแปลสุดโปรด  เทศภักดิ์  นิยมเหตุ  เรื่อง  “ลูกผู้ชาย”  โดยแปลมาจากเรื่อง  เดอะฟิลาเดเฟีย  มีข้อความเกี่ยวกับความรักสรุปแบบรวดรัดว่าว่า
    ........................“ดวงดาวบนฟ้ามีมากมายฉันใด  ความรักมิใช่เกิดแค่ครั้งเดียว”

    ..........ของแถมพก  มีบทกวีที่แต่งเกี่ยวกับความรักมาปิดท้าย  เชิญทุกท่านทัศนาโดยพลัน



    ความรัก

    ความรัก...
    ยากนักจักบานตระการฝัน
    กว่าจะเกิดเป็นเกลียวเกี่ยวสัมพันธ์
    ต้องผ่านคืนผ่านวันอันนานยาว

    ความรัก...
    ยากนักจักหาคำมากล่าว
    ในนิยามแห่งฝันอันพร่างพราว
    เพื่อหนุ่มสาวได้ประทับ  ณ  ดวงใจ

    ความรัก...
    ย่อมจักชักนำซึ่งความหวามไหว
    ให้จิตป่วนปั่นทุกวันไป
    ให้บอดใบ้เมาบ้าล้าความคิด

    ความรัก...
    ยากสลัดแอกมัดเมื่อยึดติด
    ต้องอยู่ใต้บังคับทั้งชีวิต
    ด้วยความรักลิขิตชีวิตแล้ว…

    ..........เรื่องว่าด้วยเพลงหัวใจทศกัณฐ์ก็เอวังด้วยประการฉะนี้แล....เฮย...

    ด้วยจิตคารวะ
    "ปะหล่อง"

    ปล.  ต้องขอบพระคุณครูแอนที่มาเตือนเรื่องชื่อ  ความจริงต้องเป็น  "ทศกัณฐ์"  จริง ๆ ข้าน้อยผิดไปแล้ว  เขกหัวตัวเองสามที  โป้ก ๆ ๆ

    แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 48 12:41:37

    จากคุณ : ปะหล่อง - [ 18 เม.ย. 48 12:06:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป