CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    [รายงานคอนเสิร์ต] โมเดิร์นด็อก: คอนเสิร์ตตาสว่าง WAKE UP AT TEN – สว่าง กระจ่างใจ

    โมเดิร์นด็อก: คอนเสิร์ตตาสว่าง WAKE UP AT TEN – สว่าง กระจ่างใจ
    โดย merveillesxx

    หมายเหตุ - รายงานคอนเสิร์ตนี้ยาวประมาณ 10 หน้า (ก็ตาม 10 ปีโมเดิร์นด็อกไง)

    moderndog - 10th YEARS CONCERT
    “คอนเสิร์ตตาสว่าง WAKE UP AT TEN”
    21st May 2005
    at Indoor Stadium Huamark
    Ticket: 700 / 1000 Baht
    Door Open 6.00 PM
    Show Time 7.00 PM

    เสาร์ 21 พฤษภาคม 2548 เวลาประมาณ ห้าโมงเย็นกว่าๆ ผมบรรจุตัวเองขึ้นไปอยู่บนรถเมล์สาย 122 อีกครั้ง รถสายเดิมที่เคยพาผมไปงานคอนเสิร์ตที่ยาวที่สุดในชีวิตเกือบ 8 ชั่วโมงอย่าง B.Day แม้เวลาจะผ่านไปกว่าครึ่งปี แต่สภาพของรถก็ยังซอมซ่อเหมือนเดิม ประตูรถที่ไม่เคยปิดยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่คงอยู่ แต่ดูเหมือนคนขับจะเหยียบคันเร่งด้วยความเดือดดาลที่ลดน้อยลง และกระเป๋าก็สละเวลามาชำเลืองสายตามองดูคนขึ้นลงบ้าง …เดาได้เลยว่าเป็นเช่นนี้เพราะโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน  

    คราวนี้ผมทำเล่นตัวออกจากบ้านให้ชักช้าหน่อย เพราะไม่อยากไปรอเก้อนั่งเหวอเหมือนทุกคราวที่ผ่านมา คอนเสิร์ตประเทศไทยเคยเริ่มตรงเวลาเสียทีไหน คุณก็น่าจะรู้ดี …ประมาณหกโมงเย็นผมก็ถึงอินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก สถานที่ที่คุ้นเคย อันเต็มไปด้วยความทรงจำที่บ้าคลั่งของพลังช่วงวัยรุ่น (ผมก็เคยเป็นกับเค้าเหมือนกันแหละน่า) และความเจ็บปวดของคนในอดีต …เพลงชาติดังผ่านแล้ว เป็นเวลาตามบัตรที่ประตูควรจะแง้มเปิดต้อนรับผู้คนเข้าไป แต่ตามที่คาดไว้ ประตูเหล็กสีทะมึนยังคงปิดแนบสนิท

    กระบวนการในการฆ่าเวลาก็คงหนีไม่พ้นการเดินชมรอบงานและสังเกตผู้คนที่วนเวียนที่แถวนั้น เท่าที่ดูแล้วคนไม่แน่นหนามากนัก (แต่บัตรขายเกือบหมดนะ) ผู้คนที่อยู่แถวนั้นบางส่วนมารอเต้นแอโรบิก หาใช่มาชมมโหรสพจากวงหมาทันสมัยแต่อย่างใด เสียงเพลงไร้รสนิยมประกอบกิจกรรมเต้นดังสนั่นขึ้น และดาหน้าฆ่าเซลล์เส้นประสาทส่วนรับฟังของผม เพลงนั้นปะทะปะทังกับเพลงของโมเดิร์นด็อกที่ดังมาจากอีกฟาก เป็นการต่อสู้ที่ไร้ความหมาย แต่ดูแล้วสนุกดี

    บูธหน้างานมีประปราย แต่ดูดทรัพย์ได้หนักหน่วงเอาการ ซ้ายสุดเป็นบูธชื่อ “สิ่งที่ไม่เคยบอก” ซึ่งจะมีกระดาษพร้อมปากกาให้เราเขียนข้อความถึงวงโมเดิร์นด็อก พร้อมลงชื่อและอีเมลไว้ (มีของรางวัลแจกหรือไร?) แล้วเขาจะเอาไปรวมเล่มในหนังสือที่มีชื่อเดียวกับบูธ ใบโฆษณาที่หยิบติดมาแจงรายละเอียดไว้ว่า “หนังสือเล่มแรกในรอบ 10 ปีของโมเดิร์นด็อก -สิ่งที่ไม่เคยบอก- จะวางแผนเดือนกันยายน 2548 โดย สนพ.กำลังก่อสร้าง โดยมี ‘วชิรา’ (อดีต บก. a day) เป็นบรรณาธิการและผู้เขียน” …อ้อ ผมเขียนไปว่าอะไรน่ะเหรอ ไม่บอกหรอก รออ่านในหนังสือเค้าแล้วกัน

    ถัดมาทางขวาเป็นบูธขายสายรัดข้อมือ ซึ่งขอผ่านเนื่องจากไม่ใคร่สนใจของแบบนี้นัก พอกระเถิบมากอีกอัน..อันนี้แหละตัวแสบ เป็นขายของที่ระลึกของวง ทั้งหน้ากาก เข็มกลัด และหุ่นโมเดล ซึ่งเป็นรูปการ์ตูนของสมาชิกทั้งสามคน ซ้ำร้าย (เอ๊ะ หรือดีหว่า) ยังมีแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น ทั้งโลกมีแค่ 500 ชุด แพ็กขายหุ่นโมเดล 3 ตัว+เข็มกลัด 3 แบบ พร้อมลายเซ็น ราคาเบ็ดเสร็จก็แค่ 569 บาทเอง…แล้วเราก็บ้าจี้ซื้อมาจนได้ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่กล้าแกะมาเล่นหรอก เฮ้อ! จะมีค่าแท็กซี่กลับบ้านมั้ยวะเนี่ย

    เหลือบมองไปไกลอีกหน่อยก็มีบูธขายเสื้อ มองๆดูแล้วมี 2 สี สีขาวจะเป็นรูปปกชุดแดดส่อง ส่วนสีดำจะเป็นรูปเหมือนบัตรคอนเสิร์ตนี้ แล้วก็มีบูธขายซีดีของโซนี่-เบเกอรี่-บีเอ็มจี (อ้าว เดี๋ยวนี้เค้ารวมกันแล้วนิ) ดูแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไร ส่วนขวาสุดก็บูธของ NOKIA ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้ก็ไม่รู้จะเข้าทำไม ก็เลยไปนั่งรอข้างๆประตู เม้าท์โทรศัพท์กับเพื่อนพลางดูเขาเต้นแอโรบิกไปเรื่อย รู้ตัวอีกที ประมาณ 18.40 เขาก็เปิดประตูให้เข้าแล้ว (เย้!)  

    คราวนี้ดูบัตรนั่งราคา 1000 บาท โซน GG ที่นั่ง F10 อยู่ตรงกลาง เห็นชัดเจนทีเดียว (ซื้อบัตรตั้งแต่วันแรก จำได้ว่าต้องไปต่อคิวรอตั้งนาน เพราะมันดันขายพร้อมบัตรคอนเสิร์ตบอดี้แสลมและทวิภพ! โกลาหลดีแท้) ถ้าเป็นสัก 2-3 ปีก่อนคงลงไปแร่ดยืนเต้นเย้วๆอยู่ข้างล่างกับพวกเด็กๆเค้า แต่ตอนนี้สังขารไม่เอื้อ ขอนั่งเชิดคอแบบคนไฮโซข้างบนดีกว่า

    เข้าไปนั่งแล้ว มองไปบนเวทีก็เห็นป้ายสีดำทะมึนโฆษณาสปอนเซอร์หลักของงาน “NOKIA คอนเน็กติ้ง ปีเปิ้ล” อืม..จริงเหรอ? สงสัยพวกนี้มันไม่เคยดูหนังเรื่อง Kairo ของคิโยชิ คุโรซาว่า น่าจะส่งให้พวกเขาดูบ้างนะ …สองข้างเวทีมีจอโปรเจกเตอร์ขนาดพอประมาณ ซึ่งระหว่างรอมันก็ฉายโฆษณาโทรศัพท์ยี่ห้อที่ว่ากรอกหู-ล้างสมองเราไปประมาณ 4 รอบเห็นจะได้ (รอรุ่นที่มัน ‘ทำเมีย’ ได้ออกมาก่อน แล้วฉันจะยอมควักตังค์ให้พวกแก) …ข้างล่างสำหรับบัตรยืน เขากั้นเป็น 4 คอก เพื่อลดความรุนแรงจากการปะทะกัน ระหว่างรอก็มองดูฝูงชนเดินทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ แบบเอื่อยๆสไตล์ไทยแลนด์แดนสยาม สังเกตคนดังวันนี้ก็เห็น ออดี้ (เอ๋..จำไม่ได้เหรอ ก็นักร้องเคยดังคนนั้นไง), เดวิด-โมโมโกะวง FUTON (อัลบั้มชุดสองจะออกแล้ว เย้ เย้) และวีเจบอส เจ้าของรายการ เดอะ ร็อก โชว์ทาง Channel [V]

    นั่งรอจนลองนับเก้าอี้ในอินดอร์เล่นๆแก้เซ็ง เวลา 19.36 ไฟก็มืดดับสนิท พร้อมกับเพลงสรรเสริญพระบารมี และม่านสีดำทะมึนก็ถูกปลดลง เสียงเพลงโหมโรงเป็นคนพูดซ้ำๆว่า “แดดส่อง..น้ำนอง” พลันนั้นไฟดวงแรกสว่างขึ้นในบันดล ได้เวลา “ตาสว่าง” แล้ว!

    3 หมาทันสมัย เปิดคอนเสิร์ตวันนี้ด้วยเพลง ตาสว่าง เพลงที่ผมยกให้เป็นเพลงแห่งปี 2547 ทันทีที่โน้ตตัวแรกเริ่มเล่น ความบ้าคลั่งของฝูงชนก็ปะทุปะทังขึ้น เหล่าบรรดาคนที่ยืนอยู่ข้างล่าง กระโดดลอยตัวกันพร้อมหมู่ เสียงแหกปากร้องตามดังกึกก้องไปทั่ว
    “ท้องฟ้า ยังอยู่ห่างไกล แล้วตัวเธอก็จากไป สายตาพลันสว่างขึ้นมา
    ฝนโปรยปรายและผ่านไป เห็นความจริงที่ผ่านมา ย้ำเตือนให้ฉันจำเอาไว้ ทุกเวลา”

    …ทุกคนกำลัง ‘ตาสว่าง’ และรอดูสิ่งที่จะปรากฏต่อสายตาในอีกสามชั่วโมงข้างหน้า  

    เพียงแค่เพลงเริ่มแรก ความเก๋ไก๋ได้โล่ของงานก็ปรากฏขึ้น นั่นก็คือฉากหลังของงานนี้ ซึ่งเป็นแผ่นป้ายแบบหมุนได้ (เหมือนในเกมโชว์ทางทีวี) หลายๆอันต่อกันเป็นฉากสี่เหลี่ยม แล้วข้างหลังก็จะมีคนคอยหมุนป้าย (โอ น่าสงสาร คงเมื่อยกันพอดูเชียวล่ะ) รูปแรกของงานก็คือรูปสมาชิกทั้งสามตามแบบเดียวกับบัตรคอนเสิร์ตและโปสเตอร์ ..แต่! เอ๊ะ ทำไมเผลอแป๊บเดียวตรงรูปพี่ป๊อดกลายเป็นหน้าป๋าเทพไปได้หว่า ทันใดนั้นแขกรับเชิญคนแรกของวันนี้ก็ออกมา นั่นก็คือ เทพ โพธิ์งาม ที่ออกมาร้องเพลงตาสว่างร่วมกับพี่ป๊อด ซึ่งก็ …เอ่อ ร้องถูกมั่งผิดมั่งอ่ะนะ เอาน่ะ เอาฮาๆ

    ป๋าเทพมาเปิดงานและเล่นมุกให้พอขำสองสามมุก แล้วก็เดินเข้าหลังเวทีไป จากนั้นก็ต่อกันด้วยเพลงจังหวะมันๆอย่าง แดดส่อง พร้อมกับไฟสีขาวที่สาดแสงไปทั่วฮอลล์และการสลับแผ่นป้ายฉากหลังอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเพลง ผ่าน ที่ใช้ไฟสีเขียวและฟ้าสร้างความรู้สึกที่ดีตามเนื้อหาของเพลง และฉากที่เป็นทิวทัศน์ของต้นไม้ที่ทำให้รู้สึกถึงช่วงเวลาชีวิตที่ถูกชะลอลง
    “สิ่งที่เรายังคงต้องเจอ สิ่งที่เธอไม่เคยต้องการ เรายังคงต้องทรมาน จนถึงวันที่พ้นข้ามผ่าน”

    โมเดิร์นด็อกยังคงเลือกหยิบเพลงจากชุดล่าสุดมาเล่นต่อ อย่างเพลง เธอให้มา ซิงเกิ้ลเปิดตัวของอัลบั้มชุดแดดส่อง ตามด้วยเพลง บนฟ้า (ก่อนจะเล่นจริงได้ มีล่มไปรอบหนึ่ง อิอิ) เพลงที่ว่าด้วยการตามหาใครสักคนที่อยู่แสนไกล เขาคนนั้นอาจจะอยู่บนฟ้าก็เป็นได้ ฉากหลังในเพลงนี้ ตอนแรกจะเป็นรูปนกที่บินในแบบต่างๆ และตบท้ายด้วยกราฟฟิกนกกระพือปีก ดูแล้วอยากติดปีกไปตามหาใครบนนั้นบ้าง…
    “สุดสายตาแสนไกล ไม่ต้องการอื่นใด ฉันเพียงแค่อยากเจอ ฉันเพียงแต่อยากเจอ…เธอเท่านั้น”
    จบเพลงนี้แล้ว ทางวงก็เล่นเพลง กันและกัน ต่อ ดั่งจะบอกว่าแม้คนเราจะไม่มีปีกบินไปสู่ฟ้าได้ แต่เราก็ยังคงอยู่ร่วมกัน เรายังมีกันและกัน

    ย้อนอดีตไปที่เพลงแจ้งเกิดพี่ป๊อดในฐานะนักร้องกันบ้าง ทันทีที่อินโทรคุ้นเคยเริ่มถูกร้อยเรียงผ่านหูไปเรื่อยๆ ก็เป็นทันใดที่สมองสั่งให้ปากร้องกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับคนทั้งฮอลล์ …ใช่แล้ว! เพลง ลมหายใจ นั่นเอง แต่วันนี้พ่อมดเพลงแดนซ์อย่าง Mr.Z ไม่ได้มาช่วยเสกมนต์ให้เพลงเป็นจังหวะเต้นตูมตาม ทางวงก็เลยเรียบเรียงในแบบของตัวเอง ฟังแล้วนึกถึงเพลงของวง U2 (วงที่จะไม่มีวันมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเรา--ฮา)

    กลับมาที่เพลงของวงโมเดิร์นด็อก ด้วยเพลง เธอเท่านั้น เพลงที่วนเวียนอยู่ในอันดับหนึ่งของชาร์ตแฟตเรดิโอมานานหลายสัปดาห์เหลือเกิน เพลงนี้เป็นโปรดของผมในอัลบั้มชุดแดดส่อง ฉากท้องฟ้าสีฟ้าและแดงที่ตัดกันอย่างผิดเพี้ยนทำให้ผมรู้สึกประหลาด แต่เสียงฮาร์โมนิก้าในเพลงจะทำให้ผมขาดใจตายเสียทุกครั้ง และวันนี้ก็เช่นกัน
    “เธอเท่านั้น อยู่ในใจ โลกจะเป็นอย่างไร
    เธอเท่านั้น ตลอดไป แม้ว่าไม่มีทาง...เหมือนเดิม”


    ดูเหมือนทางวงจะตั้งใจปิดฉากเช็ตแรกของการแสดงวันนี้ด้วยเพลงสุดท้ายจากอัลบั้มแดดส่อง นั่นก็คือ เพลง คลาย เพลงที่ฟังแล้วนึกถึงภาพท้องฟ้ามืดครึ้มที่จางสีเทาหม่นของมันออกไปจนกลายเป็นสีครามในที่สุด ในเพลงนี้ทางวงได้ใส่เสียงโปรแกรมมิ่งเข้าไปในช่วงแรกๆ จะค่อยๆกลืนหายไปในที่สุด พร้อมกับฉากหลังที่แปรจากสีขาวเป็นสีดำทีละช่อง ทีละช่อง จนดำสนิท

     
     

    จากคุณ : merveillesxx - [ วันวิสาขบูชา 04:50:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป